ตั้งแต่ ทูเคิ่ล นั่งเฮดโค้ช ‘สิงห์บลูส์’ ทีมแพ้แค่ 1 จาก 17 นัดทุกรายการ จนมีลุ้นโควตาชปล.จากอันดับตารางลีก, สถานการณ์ดีรายการ ชปล.เมื่อชนะ เอฟซี ปอร์โต้ ในรอบก่อนรองฯ นัดแรก 2-0 หรือเข้าถึงรอบรองฯ เอฟเอ คัพ รอดวล แมนฯ ซิตี้ 

      เมื่อบวกระยะเวลาที่ได้เรียนรู้แท็คติคบอสดอยช์มากขึ้น, ขุมกำลังสมบูรณ์ ก็ทำให้กองกลางวัย 22 ปี มองถึงความเป็นไปได้กับดับเบิ้ลแชมป์ พ่วงอันดับท็อป 4

      “เป้าหมายสำคัญคือการจบ 4 อันดับแรกของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เพื่อคว้าตั๋วไปเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีกปีหน้า บวกกับการที่พวกเรายังอยู่ในชปล.ของฤดูกาลนี้ และมีเกมเอฟเอ คัพ รอบรองชนะเลิศในสุดสัปดาห์นี้อีก นี่คือ 2 รายการสำคัญสำหรับพวกเรา และเราก็อยากผลักดันไปทั้งคู่” เมาท์ กล่าวกับหนังสือโปรแกรมก่อนเกมเลกสอง คืนนี้ (13 เม.ย.) 

      “เรายังมีโอกาสที่จะคว้าแชมป์อะไรสักอย่าง แน่นอนว่ามันเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับทีม เรามีช่วงเวลาสำคัญในโค้งสุดท้ายของฤดูกาล ไม่สามารถถอนคันเร่งการแข่งขันนัดไหน หรือติดประมาทก่อนแข่ง ต้องเตรียมตัวให้พร้อมที่จะเอาชนะและต่อสู้ทุกแมตช์”

      ส่วนการปิดจ๊อบใส่ยอดทีมโปรตุกีสทาง เมสัน ยังไม่ประมาทเพราะมองว่าภารกิจเพิ่งผ่านไปครึ่งทาง อีกอย่างคู่แข่งก็เขี้ยวลากดิน

      “การผ่านเข้ารอบรองฯ ชปล. มันคงเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นที่สุดสำหรับนักฟุตบอล และการได้มีส่วนร่วมกับโมงยามนี้ก็น่าตื่นเต้น เราสามารถทำบางอย่างที่พิเศษ  สามารถบรรลุสิ่งสำคัญ และตอนนี้ต้องรักษาสมาธิ  ทำงานหนัก และพยายามคว้าชัยชนะในทุกๆ นัดที่ลงแข่งขัน หวังว่าจะสามารถทำได้”

      หนสุดท้ายที่ เชลซี ถึงรอบรองฯ ชปล.คือ 2013-14 มี โชเซ่ มูรินโญ่ นั่งผจก.ทีม และดาวซัลโวทีมคือ เอแด็น อาซาร์