วิเคราะห์บอล / วิเคราะห์บอลวันนี้

      คิม โด ฮุน กุนซือของ อุลซาน ฮุนได ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน อี จอง โฮ แนวรุกวัย 26 ปี ที่ยังสลัดคราบเดี้ยงไม่ได้ แต่ขุมกำลังที่เหลือฟิตเต็มสูบ พร้อมรับใช้ต้นสังกัดกันทั้งหมด เชื่อว่า ตัวต่างชาติขั้นเทพอย่าง มิสลาฟ ออร์ซิช (13 นัด / 3 ประตู) จะลงป่วนทางริมเส้นฝั่งซ้ายอย่างแน่นอน

      โซ จุง วอน เทรนเนอร์ของ ซูวอน บลูวิงส์ เตรียมลุยต่อในระบบ 3-4-3 เนื่องจากไม่มีปัญหาอะไรในการจัดทัพ เเละน่าจะใช้ 11 ขุนพลชุดเดิมลงบู๊ โดยเกมนี้ จุง วอน คงจะเรียกใช้บริการของ เดยัน ดัมยาโนวิช (10 นัด / 2 ประตู) หัวหอกตัวเก๋าชาวมอนเตเนโกร ยืนเป็นหน้าเป้าเหมือนเก่า

      อาเมียร์ กาห์เลโนเอ กุนซือของ ซ็อบ อาฮาน จะหมดสิทธิ์ใช้งาน โมฮัมเหม็ด เนยาดมาห์ดี้ (28 นัด / 1 ประตู) กองหลังตัวเเกร่งที่จะติดโทษห้ามแข่ง เนื่องจากโดนเหลือง-แดงมาจากนัดก่อน แต่ยังดีที่ในแดนหน้าจะมี คิรอส (21 นัด / 9 ประตู) หน้าเป้าชาวบราซิล วัย 29 ปี คอยผลิตสกอร์เหมือนเดิม

      วินเฟร็ด เชเฟอร์ เทรนเนอร์ของ เอสเตกัล คงไม่คิดเปลี่ยนแปลง 11 ขุนพลแต่อย่างใด เพราะลูกทีมเล่นกันได้ดีอยู่เเล้วในเกมเลกแรก เชื่อว่า เชเฟอร์ จะเรียกใช้บริการของ มายิด ฮอสไซนี่ (22 นัด), เซอร์เวอร์ เฌปารอฟ (27 นัด / 4 ประตู) และ ฟาร์ชิด เอสมาอิลลี่ (23 นัด / 5 ประตู) พาเหรดกันลงสนาม

      โซรัน มามิช เทรนเนอร์ของ อัล ไอน์ จะไร้เงาของ ไคโอ้ (19 นัด / 5 ประตู) แนวรุกตัวเทพชาวบราซิล เนื่องจากโดนไล่ออกในเกมก่อน จึงติดโทษเเบนตามระเบียบ แต่จะมีข่าวดีตรงที่ มาร์คุส เบิร์ก (21 นัด / 25 ประตู) กองหน้าทีมชาติสวีเดนฟิตเต็มสูบ พร้อมลงล่าตาข่ายให้กับทีม

      ฌาเมล เบลมาดี้ นายใหญ่ของ อัล ดูฮาอิล ไม่มีรายงานเรื่องนักเตะเจ็บและติดโทษแบนเข้ามา ทำให้เกมนี้ เบลมาดี้ สามารถก็อปปี้ทีมชุดที่บุกชนะมาได้ก่อน 4-2 ในเลกแรกมาใช้ต่อได้เลย นำทีมมาโดย นัม แต ฮี (21 นัด / 12 ประตู) ห้องเครื่องชาวเกาหลีใต้ รับบทบาทเป็น "จอมทัพ"

      เปาโล ซูซ่า ผู้จัดการทีมของ เทียนจิน ควานเจี้ยน ไม่มีปัญหาใดในการจัดทัพเช่นกัน นั่นหมายความว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในเกมนี้ ไม่น่าจะต่างไปจากเกมก่อนมากนัก นำทีมมาโดย อย่าง "สองต่างชาติ" อั๊กเซล วิตเซิ่ล (8 นัด / 1 ประตู) และ อเล็กซานเดร ปาโต้ (9 นัด / 1 ประตู)

      ฟาบิโอ คันนาวาโร่ นายใหญ่ของ กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ เตรียมขน 11 ขุนพลชุดที่ดีที่สุดลงบู๊ เพราะไม่มีรายงานความเสียหายใดเข้ามา คาดว่า คันนาวาโร่ จะวางหมากมาในระบบ 4-2-3-1 โดยจะมี อลัน (4 นัด / 6 ประตู) กับ ริคาร์โด้ กูลาร์ต (7 นัด / 6 ประตู) เป็นตัวความหวัง

      โบซิดาร์ บันโดวิช เฮ้ดโค้ชของ บุรีรัมย์ฯ ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน รัตนากร ใหม่คามิ (10 นัด / 1 ประตู) กับ นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม (8 นัด) ที่ยังสลัดคราบเดี้ยงกลับมาไมได้ ส่วนในรายของ อันเดรส ตูเญซ (11 นัด / 2 ประตู) ปราการหลังตัวแกร่ง ต้องรอทดสอบความฟิตกันอีกครั้ง

      ชอย คัง ฮี ผู้จัดการทีมของ ชุนบุค ฮุนได เตรียมขนผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามเต็มอัตราศึก หลังจากที่ไม่ได้พกตัวหลักบางคนไปเมืองไทยด้วย เชื่อกันว่า อี ดอง กุ๊ก (12 นัด / 5 ประตู) กับ ติอาโก้ อัลเวส (10 นัด / 1 ประตู) จะได้กลับมาประจำการในตำแหน่งตัวจริงในเกมนัดนี้เเน่นอน

      เดนนิส อมาโต้ กุนซือของ ชัยนาท ฮอร์นบิล ต้องรอเช็คความฟิตของ อนุวัติ น้อยชื่นพันธ์ (13 นัด / 2 ประตู) ก่อนลงสนามอีกครั้ง ว่าไหวหรือไม่ ส่วน "3 ต่างชาติ" อย่าง ฟลอร็องต์ ซินาม่า-ปงโกลล์ (10 นัด / 4 ประตู), ดิยุฟ บิรัม (14 นัด / 6 ประตู) และ เบอร์นาร์ด ดุมเบีย (12 นัด / 7 ประตู) พร้อมลุยชัวร์

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ชัยนาท ฮอร์นบิล (3-4-3) : ธีรัตม์ นาคชำนาญ - พรเทพ จันทร์ไข่, ชัชชน ใจรังสี, ณัฐพล เทพอุทัย - สันติภาพ ราษฎร์นิยม, ฉัตรชัย คุ้มพญา, รัชนาท อรัญญะไพโรจน์, เกียรติศักดิ์ เจียมอุดม - ฟลอร็องต์ ซินาม่า-ปงโกลล์, ดิยุฟ บิรัม, เบอร์นาร์ด ดุมเบีย

      ราโดวาน เคอร์ซิช เฮ้ดโค้ชของ เมืองทองฯ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน เซลิโอ ซานโตส (2 นัด), อดิศักดิ์ ไกรษร (3 นัด) และ แจ็คสัน โคเอลโญ่ (6 นัด / 3 ประตู) ที่โดนอาการเจ็บเล่นงาน แต่ตัว "คีย์แมน" ในเกมรับของทีมอย่าง นาโออากิ อาโอยามะ (14 นัด) และ สารัช อยู่เย็น (13 นัด) พร้อมลุยอย่างแน่นอน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เมืองทองฯ (4-2-2-2) : ประสิทธิ์ ผดุงโชค - ทริสตอง โด, อดิศร พรหมรักษ์, นาโออากิ อาโอยามะ, พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา - สารัช อยู่เย็น, วัฒนา พลายนุ่ม - ชาริล ชัปปุยส์, ทศวรรษ ลิ้มวรรณเสถียร - สิโรจน์ ฉัตรทอง, เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดซ

      มาโน่ โพลกิ้ง ผู้จัดการทีมของ แบงค็อกฯ ขาดหายไปเพียงแค่ ปกเกล้า อนันต์ (7 นัด / 1 ประตู) กองกลางทีมชาติไทยรายเดียวเท่านั้น เเต่ "อาวุธหนัก" ที่เหลือสแตนบายด์กันอยู่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น วานเดอร์ หลุยส์ (12 นัด / 4 ประตู) หรือแม้แต่ ร็อบสัน เฟร์นานเดซ (13 นัด / 7 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แบงค็อกฯ (4-3-3) : ไมเคิล ฟาลเคสการ์ด - มิก้า ชูนวลศรี, มานูเอล ทอม เบียห์, เอเวอร์ตัน กอนซาเวส, พุทธินันท์ วรรณศรี - สุมัญญา ปุริสาย, แอนโธนี อำไพพิทักษ์วงศ์, สรรวัชญ์ เดชมิตร - วานเดอร์ หลุยส์, ธีรเทพ วิโนทัย, ร็อบสัน เฟร์นานเดซ

      ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก เทรนเนอร์ของ สุโขทัย จะไม่มีชื่อของ เอกสิทธิ์ ฉาวบุตร (12 นัด) และ บวร ตาปลา (13 นัด) ที่ควงเเขนกันติดโทษห้ามเเข่ง ส่วนขุมกำลังที่เหลือพร้อมลุยกันอยู่นานเเล้ว คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง จะนำทีมมาโดย จอห์น บาจโจ้ (11 นัด / 2 ประตู) เป็นตัวจี๊ดจ๊าด

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
สุโขทัย (4-2-3-1) : ไพโรจน์ เอี่ยมมาก - ศักดรินทร์ มิ่งสมร, นวพล ตันตระเสนีย์, ปรัชญ์ สมัคราษฎร์, ชมพู แสงโพธิ์ - ก้องนทีชัย บุญมา, จอง มยอง โอ, สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ - จอห์น บาจโจ้, จอห์น บาจโจ้, เอ็นจีว่า ราโคโตฮาริมาลาล่า

      มิลอส โจคซิช เทรนเนอร์ของ นครราชสีมา จะไม่มีชื่อของ นฤพล อารมณ์สวะ (5 นัด) มิดฟิลด์วัย 29 ปี ที่มีอาการเจ็บรบกวน ส่วนในรายของ อันโตนิโอ พีน่า (13 นัด / 2 ประตู) จะติดโทษห้ามแข่ง แต่สำหรับ โดมินิค อาดิเยียห์ (7 นัด / 1 ประตู) ดาวยิงชาวกาน่า ยกเลิกสัญญาไปแล้ว

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
นครราชสีมา (4-2-3-1) : แซมมวล ป.คันนิงแฮม - เอกณัฏฐ์ คงเกตุ, อี วอน แจ, เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว, เดชา สร้างดี - กฤษฎา เหมวิพัฒน์, ชนัตพล สิกขะมณฑล - นิพนธ์ คำทอง, อรรถพงศ์ หนูพรหม, ศราวุฒิ มาสุข - เปาโล รานเกล

      ธวัชชัย ดำรงค์อ่องตระกูล กุนซือของ ประจวบฯ ยังไร้เงาของ จิตปัญญา ทิสุด (11 นัด / 3 ประตู) กองกลางตัวสำคัญเพียงคนเดียวเหมือนเดิม นั่นหมายความว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง ไม่น่าจะต่างไปจากชุดปัจจุบัน นำทีมมาโดย โจนาธาน รีส (14 นัด / 11 ประตู) หัวหอกตัวเทพ

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ประจวบฯ (4-3-3) : สมพร ยศ - อดุลย์ หมื่นสมาน, ควอน แต ฮี, อัดนาน โอราโฮวัช, ซีเกต หมาดปูเต๊ะ - วันเฉลิม ยิ่งยง , กฤษณนน ศรีสุวรรณ, ภานุวัฒน์ จินตะ - อมร ธรรมนาม, ลอนซาน่า ดูมบูญ่า, โจนาธาน รีส

      อิกอร์ ทูดอร์ เทรนเนอร์ของ อูดิเนเซ่ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน กาบริเอลเล่ อันเจลล่า (12 นัด) แนวรับวัย 29 ปี ที่ต้องใช้บริการของโรงพยาบาลอยู่ ส่วนในรายของ เซโก้ โฟฟาน่า (26 นัด / 2 ประตู) ห้องเครื่องทีมชาติไอเวอรี่ โคสต์ จะติดโทษห้ามแข่ง นี่คือปัญหาใหญ่ที่ ทูดอร์ ต้องรีบแก้ไขในนัดนี้

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
อูดิเนเซ่ (3-5-2) : อัลบาโน่ บิซซาร์รี่ - แยน ลาร์เซ่น, ดานิโล่, บรัม นุยติ๊งค์ - ซิลวาน วิดเมอร์, อันโตนิโอ บารัค, วาลอน เบห์รามี่, ยาคุบ ยังค์โต้, อาลี อั๊ดนาน - เควิน ลาซานญ่า, โรดริโก้ เด ปอล

      ฟาบิโอ เปคเคีย นายใหญ่ของ เวโรน่า จะไม่มีชื่อของ มัตเตโอ เบียงเช็ตติ (2 นัด), มัตเตีย วาลอติ (26 นัด / 3 ประตู), ซิโมเน่ คัลวาโน่ (15 นัด) และ บรูโน่ เพตโกวิช (15 นัด) ที่กอดคอกันเดี้ยงเเบบยกเซ็ต ทำให้ เปคเคีย ต้องเเก้ปัญหาด้วยการส่ง อันเดรีย ดานซี่ (3 นัด) นักเตะดาวรุ่งลงเล่น

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เวโรน่า (4-3-3) : นิโคลัส - อเล็กซ์ แฟร์รารี่, อันโตนิโอ คารัชโชโล่, ยากอส วูโควิช, โมฮัมเหม็ด ฟาเรส - โรมูโล่, อันเดรีย ดานซี่, ฟรานโก้ ซูคูลินี่ - ริเดอร์ มาโต๊ส, อเลสซิโอ แซร์ชี่, ดานิเอเล่ แวร์เด้

      เลโอนาร์โด้ เซมปลิชี่ นายใหญ่ของ สปัล มีลิสต์ลูกทีมเดี้ยงอยู่ 5 ราย ได้แก่ อเล็กซ์ เมเรต (13 นัด), เฟเดริโก้ มัตติเอลโล่ (9 นัด), มานูเอล ลาซซารี่ (35 นัด / 2 ประตู), เฟเดริโก้ วิเวียนี่ (28 นัด / 3 ประตู) และ มาร์โก บอร์ริเอลโล่ (15 นัด / 1 ประตู) ส่วนในรายของ ฟรานเชสโก้ วิคารี่ (33 นัด) จะติดเเบน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
สปัล (3-5-2) : อัลเฟร็ด โกมิส - เฟลิเป้, โลเรนโก้ ซิมิค, ติอาโก้ ซิโอเน็ค - เอรอส สเคียวอน, ยัสมิน เคอร์ติช, อัลแบร์โต้ กรัสซี่, เอเวอร์ตัน ลุยซ์, ฟิลิปโป้ คอสต้า - อัลแบร์โต้ ปาลอสคี่, เมียร์โก้ อันเตนุชชี่

      วอลเตอร์ มาซซาร์รี่ ผู้จัดการทีมของ โตริโน่ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน เควิน โบนิฟาซี่ (5 นัด), ยานโก้ (4 นัด) และ โจเอล โอบี (22 นัด / 5 ประตู) ที่มีอาการเจ็บรบกวน คาดว่าเกมนี้ มาซซาร์รี่ จะกลับมาใช้บริการของ อันเดรีย เบล็อตติ (30 นัด / 9 ประตู) หัวหอกตัวเก่งอีกครั้ง หลังจากที่ได้พักมาในเกมนัดก่อน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โตริโน่ (3-4-2-1) : ซัลวาตอเร่ ซิริกู - นิโกล่าส์ เอ็นกูลู, นิโกลัส บูร์ดิสโซ่, เอมิเลียโน่ โมเร็ตติ - ลอเรนโซ่ เด ซิลเวสตรี้, โทมัส รินคอน, ดานิเอเล่ บาเซลลี่, คริสเตียน อัลซัลดี้ - ยาโก้ ฟัลเก้, อาเดม ลายิช - อันเดรีย เบล็อตติ

      ซิโมเน่ อินซากี้ เทรนเนอร์ของ ลาซิโอ จะไม่มีชื่อของ มาร์โก ปาโรโล่ (30 นัด / 4 ประตู), ชิโร่ อิมโมบิเล่ (32 นัด / 29 ประตู) และ ลุยส์ อัลแบร์โต้ (32 นัด / 11 ประตู) ที่โดนไข้เดี้ยงเข้าครอบงำ ส่วนในรายของ หลุยส์ เฟลิเป้ (17 นัด) จะติดโทษห้ามแข่ง อดบู๊ไปอีกหนึ่งราย

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ลาซิโอ (3-5-1-1) : โธมัส สตราโคช่า - มาร์ติน กาเซเรส, สเตฟาน เด ฟราย, สเตฟาน ราดู - อดัม มารูซิช, เซอร์เก มิลินโกวิช ซาวิช, ลูคัส เลว่า, อเลสซานโดร มูร์จา, เซนาด ลูลิช - เฟลิเป้ อันแดร์สัน, เฟลิเป้ ไซเซโด้

      วอลเตอร์ เซงก้า กุนซือของ โครโตเน่ ไม่มีปัญหาใดในการจัดทัพ เพราะลูกทีมทุกคนฟิตกันเต็มสูบทั้งหมด นั่นหมายความว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง ไม่น่าจะต่างไปจากเดิมมากนัก โดยจะมี โรลันโด้ มันดราโกร่า (34 นัด / 2 ประตู) มิดฟิลด์ดาวรุ่ง ยืนเป็นตัวคุมเกมตรงกลางสนาม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โครโตเน่ (4-3-3) : อเล็กซ์ คอร์ดาซ - ดาวิเด้ ฟาราโอนี่, เฟเดริโก้ เชคเครินี่, มาร์โก คาปัวอาโน่, บรูโน่ มาร์เตลล่า - อันเดรีย บาร์เบริส, โรลันโด้ มันดราโกร่าม อาเดรียน สโตยาน - มาร์เชลโล่ ทร็อตต้า, ซิโมน เอ็นวานโก้, อันเดรีย นาลินี่

      ลอเรนโซ่ ดานน่า กุนซือของ คิเอโว่ จะไร้เงาของ ฟาบริซิโอ จัคคาตอเร่ (33 นัด / 2 ประตู) ปราการหลังตัวสำคัญที่ต้องพักรักษาตัวอยู่ ส่วนในรายของ มัตเตีย บานี่ (16 นัด) และ อิวาน ราโดวาโนวิช (34 นัด / 1 ประตู) ดันมาติดโทษแบนในนัดนี้พอดี นั่นทำให้ ดานน่า ต้องคิดหนักเลย

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
คิเอโว่ (4-4-2) : สเตฟาโน่ ซอร์เรนติโน่ - ฟาบิโอ เดเปาลี่, ดาริโอ ดายเนลลี่, มัตเตีย บานี่, มัสซิโม่ ก็อบบี้ - เพอร์พาริม เฮเตมาย, ซามูเอล บาสเตียง, นิโกล่า ริโกนี่, วอลเตอร์ เบียร์ซ่า - โรแบร์โต้ อิงเกลเซ่, มานูเอเล่ จัคเครินี่

      โรแบร์โต้ โดนาโดนี่ เฮ้ดโค้ชของ โบโลญญ่า มีรายงานตัวเจ็บเข้ามา 3 ราย ได้แก่ จานคาร์โล กอนซาเลซ (22 นัด), อีริก พัลการ์ (31 นัด / 3 ประตู) และ ริกการ์โด้ ออซูลินี่ (7 นัด) คาดว่า โดนาโดนี่ จะเรียกตัว ฟิลิปป์ เฮลันเดอร์ (28 นัด) และ ลอเรนโซ่ คริเซติก (7 นัด) ลงแทนในเเนวรับ

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โบโลญญ่า (4-3-3) : อันโตนิโอ มิรานเต้ - อิบราฮิม เอ็มบายี่, เซบาสเตียง เดอ มาโย่, ฟิลิปป์ เฮลันเดอร์, อดัม มาซิน่า - อันเดรีย โปลี, ลอเรนโซ่ คริเซติก, เบลริม เฌมายลี่ - มัตเตีย เดสโตร, โรดริโก้ ปาลาซิโอ, ซิโมเน่ แวร์ดี้

      ดีเอโก้ โลเปซ นายใหญ่ของ กายารี่ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน เลอันโดร คาสตัน (14 นัด) แนวรับชาวบราซิล เนื่องจากโดนโรคเดี้ยงเล่นงาน ส่วนรายของ ลูก้า ซิการินี่ (25 นัด / 2 ประตู) จะติดโทษห้ามแข่งต่อ แต่สำหรับ ดีเอโก้ ฟาริอัส (26 นัด / 1 ประตู) พร้อมลงเป็น "จอมทัพ" ให้กับทีม 

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
กายารี่ (4-3-1-2) : อเลซิโอ้ คราโญ่ - ปานกราซิโอ ฟาราโก้, มาร์โก อันเดรโอลลี่, ลูก้า เซปปิเตลลี่, ฟาบิโอ ปิซากาเน่ - อาเธอร์ โยนิต้า, นิโคโล่ บาเรลล่า, ซิโมเน่ ปาโดอิน - ดีเอโก้ ฟาริอัส - มาร์โก้ ซาอู, เลโอนาร์โด้ ปาโวเล็ตติ

      สเตฟาโน่ ปิโยลี่ กุนซือของ ฟิออเรนติน่า จะไร้เงาของ วิเตอร์ ฮูโก้ (18 นัด / 1 ประตู) กับ ซิโมเน่ โล ฟาโซ่ (2 นัด) ที่โดนอาการเจ็บเล่นงาน แต่จะมีข่าวดีตรงที่ แว็งซ็องต์ ลอรินี่ (28 นัด) แบ็คขวาตัวเก่ง กลับมาช่วยทีมได้เเล้ว เพราะชดใช้โทษแบนเรียบร้อย และน่าจะออกสตาร์ทเป็นตัวจริง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฟิออเรนติน่า (4-4-1-1) : มาร์โก สปอร์ติเยลโล่ - แว็งซ็องต์ ลอรินี่, นิโกล่า มิเลนโควิช, เกร์มัน เปซเซย่า, คริสเตียโน่ บิรากี้ - เฟเดริโก้ เคียซ่า, มาร์โก เบนัสซี่, มิลาน บาเดลย์, จอร์แดน แวเรอตูต์ - ริคคาร์โด้ ซาโปนาร่า - โจวานนี่ ซิเมโอเน่

       สุรพงษ์ คงเทพ ผู้จัดการทีมของ พัทยาฯ ยังไร้เงาของ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี (4 นัด / 1 ประตู) กับ ศุภนันท์ บุรีรัตน์ (6 นัด) ที่ยังต้องพักรักษาตัวอยู่ ส่วนในรายของ ราฟินญา (8 นัด / 1 ประตู) มิดฟิลด์ชาวเเซมบ้าจะติดโทษห้ามเเข่ง แต่ในแนวรับจะมี อี วอน ยัง (12 นัด / 2 ประตู) ลงคุม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
พัทยาฯ (3-4-1-2) : ปฏิวัติ คำไหม - สราวุธ กัลยาณบัณฑิต, นพรัตน์ สกุลอ๊อด, อี วอน ยัง - จักรพันธ์ ไพรสุวรรณ, คิม แต ยอน, อนุวัฒน์ อินยิน, สุประวีณ์ มีประทัง - พิชา อุทรา - ลูเคี่ยน, ชัยวัฒน์ ศรีนาวงษ์

      สมชาย ไม้วิลัย เฮ้ดโค้ชของ ราชบุรีฯ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน โจเอล ซามี่ (14 นัด / 1 ประตู) แนวรับร่างโย่งของทีม เนื่องจากติดโทษเเบน แต่กำลังรบที่เหลือไม่มีปัญหาใดให้เรียกใช้บริการ คาดว่า "โค้ชเจี๊ยบ" จะให้โอกาสกับ ประทุม ชูทอง (6 นัด) ลงอุดรูรั่วในแดนหลัง แทนที่ของ ซามี่

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ราชบุรีฯ (4-4-2) : อุกฤษ วงศ์มีมา - ศิลา ศรีกำปัง, ประทุม ชูทอง, อภิวัฒน์ งั่วลำหิน, ฟิลิป โรลเลอร์ - เฟลิเป้ เมเนเซส, จอนาตา แวร์ซูรา, คัง ซู อิล, ชุติพนธ์ ทองแท้ - โรซิมาร์ อมานซิโอ, มนตรี พรหมสวัสดิ์

      โบซิดาร์ บันโดวิช เฮ้ดโค้ชของ บุรีรัมย์ฯ ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน รัตนากร ใหม่คามิ (10 นัด / 1 ประตู) กับ นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม (8 นัด) ที่ยังสลัดคราบเดี้ยงไม่ได้ ส่วนในรายของ จักรพันธ์ แก้วพรม (14 นัด / 1 ประตู) จอมทัพตัวเทพต้องรอเช็คฟิตกันอีกครั้ง อาจจะต้องนั่งสำรองไปก่อน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
บุรีรัมย์ฯ (3-5-2) : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน - พรรษา เหมวิบูลย์, อันเดรส ตูนเญซ, ยู จุน ซู - ศศลักษณ์ ไหประโคน, สุเชาว์ นุชนุ่ม, ศุภชัย ใจเด็ด, ประวีณวัช บุญยงค์, กรกช วิริยอุดมศิริ - ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต, เอ็ดการ์ บรูโน่

      รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค กุนซือของ โปลิศ เทโร จะขาดหายไปเพียงแค่ นพพล พลคำ (13 นัด) ห้องเครื่องดาวรุ่งของทีมคนเดียวเท่านั้น เพราะติดโทษห้ามแข่ง ส่วนขุมกำลังที่เหลือฟิตเต็มสูบกันทั้งหมด คาดว่า อ่อง ธู (13 นัด / 8 ประตู) ดาวยิงทีมชาติพม่าที่กำลังร้อนแรง จะลงล่าตาข่ายแน่นอน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โปลิศ เทโร (4-2-3-1) : นนท์ ม่วงงาม - สันติภาพ จันทร์หง่อม, ชุมพล บัวงาม, นิรันดร์ ฮานส์สัน, วรวัฒน์ แสงชัย - ธีระพล เยาะเย้ย, อี จอง กึน - มงคล ทศไกร, อ่อง ธู, มาร์เกา - มิชาแอล เอ็นดรี้

      อเล็กซานเดร กาม่า เทรนเนอร์ของ เชียงรายฯ ต้องรอเช็คความฟิตของ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ กับ จอ โค โค (7 นัด) ที่เริ่มกลับมาซ้อมได้เเล้ว ว่าพร้อมลุยแค่ไหน ส่วนในรายของ ธนะศักดิ์ ศรีใส (9 นัด) ปราการหลังตัวเเกร่งจะติดโทษห้ามแข่งต่อ แต่ เคลตัน ซิลวา (14 นัด / 4 ประตู) พร้อมลงผลิตสกอร์ให้กับทีม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เชียงรายฯ (3-4-3) : ฉัตรชัย บุตรพรหม - สุริยา สิงห์มุ้ย, ชินภัทร์ ลีเอาะ, วิกเตอร์ คาร์โดโซ่ - ชัยวัฒน์ บุราณ, พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล, อี ยอง แร, ปิยพล ผานิชกุล - เนบิญ่า บายรัม, คลีตัน ซิลวา, ศิวกรณ์ เตียตระกูล

      นาวาเอก รัฐธีร์ วชิรสิริสันต์ ผจก.ทีม ที่ควบตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่ของ ราชนาวี โดยจะมี ''โค้ชมะ'' วิริยะ เผ่าพันธุ์ รับบทมือขวา มีข่าวดีก่อนเกมเลย เมื่อ เกรียงไกร พิมพ์รัตน์ (13 นัด) กับ โรดริโก้ แวร์จิลิโอ (8 นัด / 2 ประตู) พร้อมกลับสู่ทีม โดยรายแรกมาจากโทษแบน ส่วนรายหลังฟิตทันพอดี

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ราชนาวี (4-4-2) : อินทรัตน์ อภิญญากุล - ชณธวัฒน์ ศรีสุข, ภานุวัฒน์ ไฟไหล, ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์, มารุต ดอกมะลิป่า - วิตอร์ จูเนียร์, พัง ซึง ฮวาน, เกรียงไกร พิมพ์รัตน์, อมาดู อูยัตตาร่า - ชุษณะ นัมคณิสร, โรดริโก้ แวร์จิลิโอ

      อันเดร ไบรเท่นไรเตอร์ กุนซือของ ฮันโนเวอร์ มีรายงานตัวเดี้ยงเข้ามา 5 คน คือ เฟลิกซ์ เคล๊าส์ (28 นัด / 4 ประตู), โอลิเวอร์ ซอร์ก (22 นัด), โจนาธาส (12 นัด / 3 ประตู), ซาเรนเรน บาเซ่ (7 นัด) และ เอ็ดการ์ พริบ คาดว่า ไบรเท่นไรเตอร์ จะเรียก 11 ตัวจริงชุดที่เปิดบ้านชนะ แฮร์ธ่าฯ 3-1 มาใช้ต่อ

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮันโนเวอร์ (4-4-2) : มิชาเอล เอสแซร์ - จูเลี่ยน คอร์บ, ติโม ฮูเบอร์ส, ซาลิฟ ซาเน่, มีโก้ อัลบอร์นอซ - อิห์ลัส เบบู, เพอร์มิน ชเว็กเลอร์, มาร์วิน บาคาลอร์ซ, เคนาน การามัน - มาร์ติน ฮาร์นิค, นิคลาส ฟัลครู้ก

      ไฮโค แฮร์ลิช นายใหญ่ของ เลเวอร์คูเซ่น จะไร้เงาของ โจนาธาน ตาห์ (27 นัด) ปราการหลังตัวเก่ง เพราะโดนไข้เดี้ยงเล่นงาน ส่วนในรายของ เควิน โฟลลันด์ (31 นัด / 14 ประตู) หัวหอกตัวสำคัญดันมาติดโทษแบนอีก แต่ยังดีที่ จูเลี่ยน บรันด์ (33 นัด / 8 ประตู) พร้อมลุยอย่างแน่นอน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เลเวอร์คูเซ่น (4-3-3) : แบร์นด์ เลโน่ - ลาร์ส เบนเดอร์, พานาจิโอติส เพตซอส, สเวน เบนเดอร์, เวนเดล - จูเลี่ยน บอย์มการ์ตลิงเกอร์, ชาร์ลส์ อรานกุซ - จูเลี่ยน บรันด์, ไค ฮาแวร์ซ, เลออน ไบญี่ - ลูกัส เอลาริโอ

      นิโก้ โควัค เทรนเนอร์ของ แฟร้งค์เฟิร์ต ขาดหายไปเพียงเเค่ มาโกโตะ ฮาเซเบะ (24 นัด) ดาวเตะชาวญี่ปุ่นคนเดียวเท่านั้น เนื่องจากติดโทษห้ามแข่ง แต่กำลังรบที่เหลือพร้อมลุยกันอยู่นานเเล้ว คาดว่า โควัค จะส่ง การ์ลอส ซัลเซโด้ (19 นัด) ลงเล่นเป็นตัวจริง ก่อนที่จะอำลาทีมออกไป

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แฟร้งค์เฟิร์ต (3-4-2-1) : ลูคัส ฮราเด็กกี้ - การ์ลอส ซัลเซโด้, ดาบิด อับราฮัม, ไซม่อน ฟาแลต - แดนนี่ ดา คอสต้า, มาสกาเรล, เกลสัน แฟร์น็องเดส, วิลเลมส์ - เควิน พริ๊นซ์ บัวเต็ง, มิยัต กาซิโนวิช - เซบาสเตียง ฮัลแลร์

      โดเมนิโก้ เทเดสโก้ ผู้จัดการทีมของ ชาลเก้ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน บาสเตียน อ๊อกซิปก้า (28 นัด), มาติย่า นาสตาซิช (24 นัด) เเละ บรีล เอ็มโบโล่ (20 นัด / 2 ประตู) ที่มีอาการเจ็บรบกวน ส่วนในรายของ นาบิล เบนทาเลบ (16 นัด / 4 ประตู) มิดฟิล์ทีมชาติแอลจีเรียจะติดโทษแบนพอดีในเกมนี้

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ชาลเก้ (3-4-1-2) : ราล์ฟ ฟาห์รมันน์ - เบนจามิน สตอมบูลี่, นัลโด้, ธิโล่ เคห์เรอร์ - ดาเนี่ยล คาลิกูรี่, เวสตัน แม็คเคนนี่, เลออน โกเร็ตส์ก้า, อเล็กซานโดร ช็อป - เยฟเกนี่ โคน็อปพลิยานก้า - กีโด้ บวร์กสตัลเลอร์, ฟรังโก้ ดิ ซานโต้

      มานูเอล บอย์ม เฮ้ดโค้ชของ เอ๊าก์สบวร์ก จะหมดสิทธิ์ใช้งาน ราฟาเอล ฟรัมแบร์เกอร์ (9 นัด), คิลเลี่ยน ยาค็อบ (1 นัด) และ คู จา ชอล (28 นัด / 2 ประตู) ที่โดนอาการเจ็บเล่นงาน ส่วนในรายของ ฟิลิปป์ มักซ์ (33 นัด / 2 ประตู) และ มาร์เซล เฮลเลอร์ (24 นัด) จะควงเเขนกันติดโทษแบน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เอ๊าก์สบวร์ก (4-2-3-1) : มาร์วิน ฮิตซ์ - เควิน ดานโซ่, เจฟฟรี่ โกเวลูว์, มาร์ติน ฮินเตเร็กเกอร์, โจนาต็อง ชมิด - รานี่ เคดิร่า, ดาเนี่ยล เบเยอร์ - มาร์โก ริชเตอร์, มิเชล เกรกอริช, คูบี้ - อัลเฟร็ด ฟินโบกาสัน

      คริสเตียน สไตรช์ กุนซือของ ไฟร์บวร์ก จะไม่มีชื่อของ 4 ตัวเดี้ยงเซ็ตเก่า คือ อามีร์ อาบราชี่ (12 นัด), โยริก ราเว่ต์ (10 นัด), คาเล็บ สแตนโก้ (6 นัด) และ ฟลอเรียน นีแดร์เลชเนอร์ (10 นัด / 2 ประตู) ส่วนในรายของ คักล่าร์ โซยุนกู (25 นัด / 1 ประตู) แนวรับชาวตุรกีต้องรอเช็คฟิตกันก่อน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไฟร์บวร์ก (4-4-2) : อเล็กซานเดอร์ ชโวลอฟ - ลูคัส คุบเลอร์, มานูเอล กัลด์, มาร์ก เคมพ์, คริสเตียน กุนเตอร์ - ปาสกาล สเตนเซิ่ล, ไมค์ ฟร๊านซ์, นิโคลัส ฮอฟเลอร์, มาร์โก แตร์รัซซิโน่ - นีล พีเตอร์เซ่น, ทิม ไคลน์เดี้ยนท์

      ราล์ฟ ฮาเซ่นฮุตเทิ่ล เทรนเนอร์ของ ไลป์ซิก จะไร้เงาของ มาร์เซล ฮัลส์เท่นแบร์ก (15 นัด / 2 ประตู) กับ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ (22 นัด / 3 ประตู) ที่ยังเข้าออกโรงพยาบาลอยู่ ส่วนในรายของ เอมิล ฟอร์สเบิร์ก (21 นัด / 2 ประตู) ยังติดโทษห้ามแข่งต่อ แต่สำหรับ นาบี เกอิต้า (26 นัด / 6 ประตู) ลงเล่นได้เเล้ว

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไลป์ซิก (4-4-2) : ปีเตอร์ กูลัคซี่ - ลูคัส โคลสเตอร์มันน์, วิลลี่ ออร์แบน, อูปาเมกาโน่, แบร์นาร์โด้ - เควิน คัมเพิ่ล, ดีเอโก้ เดมม์, นาบี เกอิต้า, อเดโมล่า ลุคแมน - ฌอง ออกุสแต็ง, ติโม แวร์เนอร์

      พาล ดาร์ได กุนซือของ แฮร์ธ่าฯ เหลือลูกทีมเดี้ยงในมืออยู่ 2 คน คือ โจนาธาน คลิ้นส์มันน์ และ อาร์เน่ เมเยอร์ (17 นัด) แต่ข่าวดีที่เข้ามาคือ นิคลาส สตาร์ค (26 นัด / 1 ประตู) แนวรับตัวเก่งหายเจ็บกลับมาช่วยทีมได้เเล้ว ส่งผลให้ ฟาเบียน ลุสเตนแบร์เกอร์ (22 นัด) จะได้กลับขึ้นไปเป็นมิดฟิลด์ตามที่ถนัด

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แฮร์ธ่าฯ (4-2-3-1) : รูเน่ ยาร์สไตน์ - ปีเตอร์ เปคาริค, นิคลาส สตาร์ค, คาริม เรกิ๊ก, มาร์วิน แพลตเท่นฮาร์ด - วลาดิเมียร์ ดาริด้า, ฟาเบียน ลุสเตนแบร์เกอร์ - แมทธิว เล็กกี้, วาเลนติโน่ ลาซาโร่, ซาโลมง กาลู - ดาวี เซลเก้

      ปีเตอร์ สโตเกอร์ เทรนเนอร์ของ ดอร์ทมุนด์ จะไม่มีชื่อของ โอเมอร์ โทพรัค (26 นัด), เซบาสเตียน โร้ด และ มิชี่ บัตชัวยี่ (10 นัด / 7 ประตู) ที่กอดคอกันเจ็บอยู่ทั้งหมด ส่วนในรายของ โซเครติส (30 นัด / 2 ประตู) จะติดโทษแบน งานจึงไปเข้า สโตเกอร์ ที่ต้องเรียกใช้เซ็นเตอร์แบ็คจำเป็นลงสู้ 

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ดอร์ทมุนด์ (4-3-3) : โรมัน บูร์กี - เยเรมี่ โตลยาน, ลูคัส พิสเซค, มานูเอล อคานยี่, มาร์เซล ชเมลเซอร์ - มาริโอ เกิทเซ่, จูเลี่ยน ไวเกิ้ล, มาร์โก รอยส์ - อันเดร ชูร์เล่, มักซิมิเลี่ยน ฟิลิปป์, จอร์ดอน ซานโช่

      จูเลี่ยน นาเกิ้ลมันน์ เฮ้ดโค้ชของ ฮอฟเฟ่นไฮม์ มีลิสต์ลูกทีมเดี้ยงอยู่ 5 ราย ไล่มาตั้งแต่ สเตฟาน พอช (9 นัด), ลูกัส รัปป์ (21 นัด / 3 ประตู), เคเรม เดเมียร์บาย (19 นัด / 2 ประตู), เดนนิส ไกเกอร์ (21 นัด / 2 ประตู) และ แซร์ก จีนาบรี้ (22 นัด / 10 ประตู) นั่นทำให้ นาเกิ้ลมันน์ ต้องคิดหนักไม่น้อย

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮอฟเฟ่นไฮม์ (3-5-2) : โอลิเวอร์ เบามันน์ - เควิน อัคโปกูม่า, เควิน โฟ้กท์, เบนจามิน ฮุบเนอร์ - พาเวล คาเดราเบค, ฟลอเรียน กริลลิช, ฮาเวิร์ด นอร์ดเวต, นาเดียม อามิรี่, นิโก้ ชูลซ์ - อันเดร ครามาริช, มาร์ก อูธ

      ตายฟุน คอร์คุต ผู้จัดการทีมของ สตุ๊ตการ์ต ยังไร้เงาของ อันเดรียส เบ็ค (23 นัด / 1 ประตู) และ การ์ลอส มาเน่ ที่ต้องพักรักษาตัวอยู่เหมือนเดิม ส่วนในรายของ เดนนิส อาโอโก้ (29 นัด) กับ ซานติอาโก้ อัสกากิบาร์ (29 นัด) จะติดโทษห้ามแข่ง ทำให้ คอร์คุต ต้องแก้เกมในทันที

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
สตุ๊ตการ์ต (4-4-2) : รอน โรเบิร์ต ซีเลอร์ - ติโม บอย์มการ์ตเทิ่ล, เบนจามิน ปาวาร์, มาร์ซิน กามินสกี้, เอมิเลียโน่ อินซัว - คริสเตียน เกนท์เนอร์, โอแรล ม็องกาล่า, โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์, อีริค ธอมมี่ - มาริโอ โกเมซ, ดาเนี่ยล กินเซค

      จุ๊ป ไฮย์เกส นายใหญ่ของ บาเยิร์น เหลือตัวเจ็บค้างสต็อกอีก 4 คน คือ มานูเอล นอยเออร์ (3 นัด), เจอโรม บัวเต็ง (19 นัด / 1 ประตู), อาร์ตูโร่ วิดัล (22 นัด / 6 ประตู) และ คิงส์ลี่ย์ โกม็อง (21 นัด / 3 ประตู) คาดว่าเกมนี้ ไฮย์เกส จะส่งตัวจริงลงเล่นเพื่อซ้อมใหญ่ก่อนชิงถ้วยเดเอฟเบ โพคาล

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
บาเยิร์น (4-3-3) : สเวน อูลไรช์ - โจฌัว กิมมิค, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, นิคลาส ซูเล่, ราฟินญ่า - โกร็องแต็ง โตลิสโซ่, ฆาบี มาร์ติเนซ, ฮาเมส โรดริเกวซ - โธมัส มุลเลอร์, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, ฟร้องค์ ริเบรี่

      อาเซียร์ การิตาโน่ กุนซือของ เลกาเนส มีรายงานตัวเจ็บเข้ามา 4 ราย ได้แก่ โฆเซบา ซัลดูอา (29 นัด / 1 ประตู), อเล็กซานเดอร์ ซีมานอฟสกี้ (13 นัด / 2 ประตู), กาเบรียล ปีเรส (29 นัด / 5 ประตู) และ นอร์ดิน อัมนาบัต (29 นัด / 1 ประตู) นั่นทำให้ การิตาโน่ ต้องปรับทัพกันพอสมควร

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เลกาเนส (4-2-3-1) : เนเรโอ ชามปาญเน่ - อูไน บูตินซ่า, มาร์ติน มอนโตวานี่, ดิมิทริออส ซิโอวาส, ราฮุล การ์เซีย - ดาร์โก้ บราซานัช, เคราร์ด กัมบูอา - นาบิล เอล ซาร์, โอมาร์ รามอส, ฆาเบียร์ เอราโซ่ - มิเกล กูเอร์โร่

      อิมานอล อัลกูยาซิล เทรนเนอร์ของ เรอัล โซเซียดัด จะหมดสิทธิ์ใช้งาน อีกอร์ ซูเบลดิอา (25 นัด / 1 ประตู), อัดนาน ยานาซาย (27 นัด / 3 ประตู) และ อิมาญอล อากีร์เร็ทเช่ (11 นัด) ที่โดนโรคเดี้ยงเล่นงาน ส่วนในรายของ รูเบน ปาร์โด (5 นัด) กลับมาจากโทษแบนเล้ว แต่ต้องนั่งไปก่อน

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
เรอัล โซเซียดัด (4-3-3) : มิเกล โมย่า - อาริตซ์ เอลอสตอนโด้, ราอูล นาบาส, เอ็คเตอร์ โมเรโน่, อัลเบร์โต้ เดอ ลา เบย่า - เซร์คิโอ การ์นาเลส, อาเซียร์ อียาร์ราเมนดี้, ดาบิด ซูรูตูซ่า - มิเกล โอยาร์ซาบัล, วิลเลี่ยน โชเซ่, ฆวนมี่

      จอห์น คอลฟิลด์ กุนซือของ คอร์ก ซิตี้ ไม่มีปัญหาใดในการจัดทัพ เพราะไม่มีรายงานความเสียหายใดๆ เข้ามาเลย เชื่อว่า คอลฟิลด์ น่าจะเรีกใช้บริการของ 11 ขุนพล จากเกมที่เปิดบ้านชนะ ลิเมอริค 2-1 โดยจะมี เกรแฮม คัมมินส์ (14 นัด / 7 ประตู) ดาวยิงสูงสุดของสโมสรลงประจำการ

      เคนนี่ ชิลส์ นายใหญ่ของ เดอร์รี่ ซิตี้ จะไร้เงาของ เกวิน เพียร์ส (6 นัด) ปราการหลังตัวเก๋าวัย 32 ปี ที่ติดโทษห้ามแข่ง แต่ยังดีที่ขุมกำลังที่เหลือฟิตเต็มสูบกันทั้งหมด คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง จะประกอบไปด้วย โรแนน เฮล (11 นัด / 5 ประตู) และ โรรี่ แพตเตอร์สัน (13 นัด / 4 ประตู)

      อลัน เรย์โนลด์ส เทรนเนอร์ของ โบฮีเมี่ยนส์ มีรายงานนักเตะเดี้ยงอยู่ 6 รายเท่ากัน ได้แก่ ไรอัน สวอน, คริสเตียน มาเกรูซาน, เดเร็ค เพนเดอร์ (7 นัด), คาร์ล มัวร์ (10 นัด), ดาร์ราจห์ เลียไฮ (16 นัด / 1 ประตู) และ โคลิน แม็คเคบ ส่วนในรายของ แดน เคซี่ย์ (13 นัด / 2 ประตู) ต้องรอเช็คฟิต

      เกรแฮม เคลลี่ ผู้จัดการทีมของ เบรย์ วันเดอเรอร์ส มีตัวเจ็บมากมายไล่ได้ถึง 6 คน คือ อารอน ดิลลอน (13 นัด), จอห์น ซุลลิแวน (9 นัด), อารอน กรีน (11 นัด), เจค เคลลี่ (7 นัด), ดาร์ราจห์ นูน (8 นัด) เเละ ฮิวกี้ ดักลาส (14 นัด) ส่วนในรายของ เชน ฟลินน์ ออกจากสโมสรไปแล้ว

      อลัน เรย์โนลด์ส เทรนเนอร์ของ วอเตอร์ฟอร์ด จะไร้เงาของ ดาวิด เว็บสเตอร์ (14 นัด) แนวรับวัย 28 ปี ที่จะติดโทษแบนในนัดนี้ แต่ตัวหลักๆ ไม่ว่าจะเป็น คอร์ทนี่ย์ ดัฟฟัส (11 นัด / 6 ประตู), อิสมาฮิล อคินาเด้ (12 นัด / 2 ประตู) และ กาแวน โฮลาฮาน (13 นัด / 2 ประตู) พร้อมลุย

      สตีเฟ่น เเบร็ดลี่ย์ นายใหญ่ของ แชมร็อค โรเวอร์ส จะหมดสิทธิ์ใช้งาน โจอี้ โอ'ไบรอัน (4 นัด) ปราการหลังประสบการณ์สูงที่จะติดโทษห้ามแข่ง ส่วนในรายของ เควิน ฮอร์แกน (13 นัด) นายด่านดาวรุ่งมือหนึ่ง ต้องรอเช็คความฟิตก่อนลงสนามอีกครั้ง แต่เชื่อว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร

      เกราร์ด ลิทเทิ่ล กุนซือของ สลิโก้ โรเวอร์ส จะขาดหายไปเพียงแค่ ไมเคิ่ล ชลินเกอร์มันน์ ผู้รักษาประตูวัย 26 ปี คนเดียวเท่านั้น ที่ต้องพักรักษาตัวอยู่ แต่ขุมกำลังคนอื่นๆ พร้อมลุยเพื่อต้นสังกัดกันทั้งหมด เชื่อว่า ลิทเทิ่ล จะมั่นใจใน อดัม มอร์แกน (12 นัด / 4 ประตู) ให้ลงเล่นต่อ

      สตีเฟ่น เคนนี่ เทรนเนอร์ของ ดันดอล์ค จะไม่มีชื่อของ คาโรลิส ชเวดูคัส (4 นัด / 1 ประตู), แซม ไบร์น (2 นัด) และ สตีเฟ่น โอ ดอนเนลล์ (9 นัด) ที่ควงเเขนกันเดี้ยงเเบบยกเซ็ต ส่วนในรายของ จอห์น เม้าท์นี่ย์ (9 นัด / 2 ประตู) มิดฟิลด์ตัวเก่ง ต้องรอเช็คความฟิตก่อนลงสนามกันอีกครั้ง

      เลียม บัคลี่ย์ นายใหญ่ของ เซนต์ พาทริคส์ ต้องรอเช็คความฟิตของ โอเว่น การ์แวน (10 นัด) ห้องเครื่องตัวเก๋าเพียงคนเดียวเท่านั้น ส่วนกำลังรบที่เหลือพร้อมลุยกันอยู่นานเเล้ว คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในเกมนี้ จะนำทีมมาโดย เจค คีแกน (15 นัด / 4 ประตู) ดาวยิงชาวสหรัฐอเมริกา  

      ทอมมี่ บาร์เร็ตต์ เฮ้ดโค้ชของ ลิเมอริค จะไร้เงาของ คอนอร์ เอลลิส (11 นัด) แนวรุกดาวรุ่งที่มีอาการเจ็บรบกวน ส่วนในรายของ ดาเนี่ยล เคิร์นส์ (6 นัด / 1 ประตู) กองกลางชาวไอร์แลนด์เหนือต้องรอเช็คความฟิตกันอีกครั้ง แต่สำหรับ แดนนี่ มอร์ริสเซย์ (11 นัด / 3 ประตู) พร้อมลงล่าตาข่ายเเน่นอน

      อับดุลลาห์ อาฟชี่ ผู้จัดการทีมของ อิสตันบูล บาซัคเซฮีร์ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน มาร์ซิโอ มอสโซโร (25 นัด / 4 ประตู), อีร์ฟาน คาห์เวชี่ (24 นัด / 1 ประตู) และ อาร์ดา ตูราน (11 นัด / 2 ประตู) ที่ควงเเขนกันติดโทษห้ามแข่งกันทั้งหมด นั่นเป็นปัญหาที่ อาฟชี่ ต้องรีบแก้ไขโดยด่วนในการสู้ศึกนัดนี้

      ฮัมซ่า ฮัมซาโอกลู นายใหญ่ของ อันตาลยาสปอร์ มีรายงานตัวเจ็บเข้ามา 3 ราย ได้แก่ ซาคิบ อายทัค (29 นัด), ซาลิห์ ดูร์ซุน (4 นัด) และ เซคิ ยิลดิริม (5 นัด) ส่วนในรายของ ฮาคาน ออซเมิร์ต (11 นัด) ต้องรอเช็คฟิตก่อน แต่ที่วืดแน่ๆ คือ ชาร์ลส์ เฟร์นานโด (30 นัด / 1 ประตู) เพราะติดโทษแบน

      เลอันโดร เบนิเตซ กุนซือของ เอสตูเดียนเตส มีรายงานนักเตะเจ็บในมือ 3 รายเท่ากัน ได้แก่ กาสตัน เฟร์นานเดซ (12 นัด / 1 ประตู), มาเตียส ลาบา และ มาร์โก้ บอร์ญิโน่ (8 นัด) เชื่อว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในใจของ เบนิเตซ น่าจะมีชื่อของ ฆวน โอเตโร่ (17 นัด / 7 ประตู) ชัวร์ๆ

      มาร์เซโล่ กาญาร์โด้ นายใหญ่ของ ริเวอร์เพลท มีลิสต์ลูกทีมเดี้ยงในมืออยู่ 3 คน คือ ฆอร์เก้ โมไรร่า (4 นัด), นิโคลัส เด ลา ครูซ (14 นัด) และ มาร์เชโล่ ลาร์รอนโด้ คาดว่า กาญาร์โด้ จะวางหมากมาในระบบ 4-1-4-1 โดยจะมี ลูคัส พรัตโต้ (11 นัด / 3 ประตู) เป็นตัวทีเด็ดในแนวรุก