วิเคราะห์บอล / วิเคราะห์บอลวันนี้

      อิมานอล อัลกูยาซิล เฮ้ดโค้ชของ เรอัล โซเซียดาด จะไร้เงาของ การ์ลอส มาร์ติเนซ, อาริตซ์ เอลัสตอนโด้ (18 นัด / 3 ประตู) และ ชาบี ปรีเอโต้ (24 นัด / 3 ประตู) ที่โดนไข้เดี้ยงเข้าครอบงำ ส่วนในรายของ รูเบน ปาร์โด (5 นัด) จะติดโทษห้ามแข่ง แต่ดาวยิงตัวเทพอย่าง วิลเลี่ยน โชเซ่ (31 นัด / 14 ประตู) พร้อมล่าตาข่ายแน่นอน

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
เรอัล โซเซียดาด (4-2-3-1) : มิเกล โมย่า - อัลบาโร่ โอดริโอโซล่า, ราอูล นาบาส, เอ็คเตอร์ โมเรโน่, อัลเบร์โต้ เดอ ลา เบย่า - อาเซียร์ อียาร์ราเมนดี้, ดาบิด ซูรูตูซ่า - อัดนาน ยานาซาย, มิเกล โอยาร์ซาบัล, เซร์คิโอ กานาเลส - วิลเลี่ยน โชเซ่

      ฆัวกิน กาปาร์รอส เทรนเนอร์คนใหม่ของ เซบีย่า ต้องรอเช็คความฟิตของ ซิมง เคียร์ (19 นัด / 1 ประตู) กองหลังชาวเดนมาร์กอีกครั้งว่าไหวพร้อมลุยได้หรือไม่ แต่ข่าวดีที่มีเข้ามาก่อนเกมคือ วิสซัม เบน เยแดร์ (22 นัด / 6 ประตู) แนวรุกตัวเก่งพ้นโทษแบนกลับมาช่วยทีมได้เเล้ว แต่อาจจะต้องนั่งรอโอกาสบนม้านั่งสำรองไปก่อน

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
เซบีย่า (4-2-3-1) : ดาบิด โซริอา - เฆซุส นาบาส, เกลม็องต์ ลองเกล้ต์, กาเบรียล เมร์กาโด้, เซร์คิโอ เอสคูเดโร่ - โรเก้ เมซ่า, สเตเว่น เอ็นซองซี่ - มิเกล ลายุน, เอแวร์ บาเนก้า, ปาโบล ซาราเบีย - ซานโดร

      มาร์เซโล่ กาญาร์โด้ ผู้จัดการทีมของ ริเวอร์เพลท ไม่มีรายงานความเสียหายเรื่องลูกทีมใดๆ เข้ามาเลย นั่นหมายความว่า กาญาร์โด้ จะเลือกจัดทัพได้ตามใจ ซึ่งคงไม่น่าจะต่างไปจากนัดที่เปิดบ้านชนะ เอเมเล็ค 2-1 เมื่อสัปดาห์ก่อน โดยจะมี โรดริโก้ โมร่า (10 นัด / 1 ประตู) กับ ลูคัส พรัตโต้ (10 นัด / 3 ประตู) ยืนหน้าคู่กัน

      เกรโกริโอ้ เปเรซ เฮ้ดโค้ชของ ซานตา เฟ่ จะไร้เงาของ ฮาเวียร์ โลเปซ (10 นัด) แนวรับตัวเก่งที่โดนไข้เดี้ยงเล่นงาน ส่วนในรายของ เยสัน กอร์ดิโญ่ (14 นัด) มิดฟิลด์คนสำคัญจะติดโทษห้ามแข่ง นั่นทำให้ เปเรซ ต้องแก้เกมเป็นการด่วน แต่สำหรับ วิลสัน โมเรโล่ (12 นัด / 6 ประตู) หัวหอกวัย 30 ปี พร้อมลงล่าตาข่าย

      โรเเจร์ มาชาโด้ เทรนเนอร์ของ พัลไมรัส ก็ไม่มีเรื่องนักเตะเดี้ยงหรือติดโทษแบนรบกวนเช่นกัน สามารถจัดชุดที่ดีที่สุดลงบู๊ได้ คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง น่าจะก็อปปี้มาจากเกมที่บุกชนะ โบคา จูเนียร์ส 2-0 นำทีมมาโดย เอดู ดราเชน่า (1 นัด), ลูคัส ลิม่า (3 นัด) และ มิเกล บอร์ฆา (2 นัด) พาเหรดกันลงสนามนัดนี้

      ปาโบล เบนโกเอเคีย กุนซือของ อลิอันซ่า ลิม่า น่าจะวางหมากในระบบ 4-3-3 ตามถนัดเหมือนเดิม เเละก็คงไม่น่าจะเปลี่ยนแปลง 11 ขุนพลแต่อย่างใด โดยจะมี อาเลฆานโดร ออห์เบิร์ก (13 นัด / 4 ประตู), ฆานิโอ โปซิโต้ (12 นัด / 4 ประตู) และ เควิน เกเบโด้ (9 นัด / 1 ประตู) ยืนเป็น "สามประสาน" แดนบน

      กิลเยร์โม่ โอยอส นายใหญ่ของ ยูนิเบร์ซิดัด เด ชิลี จะไม่มีชื่อของ เยเฟอร์สัน เซเตลโด (9 นัด / 1 ประตู) ที่มีอาการเจ็บรบกวน ส่วนในรายของ คริสเตียน บิลเชส (8 นัด / 1 ประตู) กับ โรดริโก้ เอเชเบร์เรีย (8 นัด) กอดคอกันติดโทษแบนทั้งคู่ นั่นทำให้ โอยอส ต้องปรับหมากแก้ปัญหาเป็นการด่วนในการสู้ศึก

      เอดูอาร์โด้ คูเดต เทรนเนอร์ของ ราซิ่ง คลับ เตรียมขนชุดที่ดีที่สุดลงสนามได้เลย เพราะไม่มีรายงานความเสียหายเรื่องสภาพทีมใดๆ เข้ามา คาดว่าเกมนี้ คูเดต จะวางหมากมาในระบบ 4-1-3-2 โดยจะมี ลิซานโดร โลเปซ (18 นัด / 6 ประตู) ยืนกองหน้าคู่กับ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ (18 นัด / 11 ประตู) เหมือนเก่า

      รูดี้ การ์เซีย นายใหญ่ของ มาร์กเซย มีรายงานตัวเจ็บเข้ามา 3 ราย ได้แก่ สตีฟ ม็องด็องด้า (28 นัด), คอสตาส มิโตรกลู (18 นัด / 8 ประตู) และ ฮิโรกิ ซากาอิ (31 นัด) ทำให้ การ์เซีย ต้องปรับหมากกันอีกครั้ง เชื่อว่าเกมนี้ วาเลเร่ แชร์แม็ง (32 นัด / 7 ประตู) จะโดนดันขึ้นไปยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า แทนที่ มิโตรกลู

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
มาร์กเซย (4-2-3-1) : โยอัน เปเล่ - บูน่า ซาร์, อาดิล รามี่, โรลันโด้, ฌอร์ด็อง อามาวี่ - ลุยซ์ กุสตาโว่, มอร์ก็อง ซ็องซง - ฟลอริย็อง โตแว็ง, ดิมิทรี ปาเยต์, ลูคัส โอคัมปอส - วาเลเร่ แชร์แม็ง

      มาร์โก โรเซ่ ผู้จัดการทีมของ ซัลซ์บวร์ก ไม่มีปัญหาใดในการจัดทัพในนัดนี้ เพราะสภาพความพร้อมของลูกทีมทุกคนสมบูรณ์ดี 100% นั่นหมายความว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง ไม่น่าจะต่างไปจากนัดก่อนมากนัก เนื่องจากเป็นชุดที่เเข็งแกร่งสุดแล้ว นำทีมมาโดย มูนาส ดับบูร์ (28 นัด / 19 ประตู) หัวหอกตัวเก่ง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ซัลซ์บวร์ก (4-3-1-2) : อเล็กซานเดอร์ วัลเก้ - สเตฟาน ไลเนอร์, อันเดร รามัลโญ่, ดูเย่ กาเลต้า คาร์, อันเดรียส อัลเมอร์ - อมาดู ไฮดาร่า, ดิอาดี้ ซามาสเซคู, วาลอน เบริช่า - ฮานเนส โวล์ฟ - มูนาส ดับบูร์, ชาน ควาง เฮ

      อาเรียล โฮลัน เทรนเนอร์ของ อินเดเพนเดียนเต้ ขาดหายไปเพียงแค่ โยนาส กูเตียร์เรซ (20 นัด) ปีกประสบการณ์สูงอดีตนักเตะนิวคาสเซิ่ล ที่โดนโรคเดี้ยงเล่นงาน ส่วนขุมกำลังที่เหลือพร้อมลุยกันอยู่นานแล้ว นำทีมมาโดยตัวหลักอย่าง มาร์ติน เบนิเตซ (18 นัด / 5 ประตู) และ เอมมานูเอล กิยอตติ (20 นัด / 4 ประตู)

      ฟาบิโอ การิเย่ เฮ้ดโค้ชของ โครินเธียนส์ มีรายชื่อนักเตะเจ็บอยู่ 3 ราย ได้แก่ ฟ้ากเนอร์ (3 นัด), ราล์ฟ (1 นัด) และ เรเน่ จูเนียร์ (2 นัด) นั่นเป็นปัญหาที่ การิเย่ ต้องเร่งแก้ไขเลย คาดกว่าเกมนี้จะวางหมากมาในระบบ 3-5-2 โดยจะมี อังเกล โรเมโร่ (3 นัด) กับ เคลย์สัน (3 นัด / 1 ประตู) ยืนเป็นคู่หน้าคอยผลิตสกอร์

      เอ็คตอร์ ตาเปีย นายใหญ่ของ โคโล โคโล สบายใจได้หน่อยในการวางหมาก เพราะไม่มีตัวเจ็บหรือติดโทษให้ต้องกังวล จึงสามารถจัดชุดใหญ่เต็มสูบลงบู๊ได้เลย เชื่อว่า ตาเปีย จะฝากความหวังในการพังประตูไว้กับ อ็อคตาบิโอ ริเบโร่ (9 นัด / 3 ประตู) กับ อีบัน โมราเลส (3 นัด) คู่หน้าต่างวัยที่ยึดตัวจริงได้ในช่วงหลัง

      ฟาเบียน บุสโตส เทรนเนอร์ของ เดลฟิน จะไร้เงาของ โรเบร์โต้ ออร์โดเญซ (4 นัด) แนวรุกประสบการณ์สูงวัย 32 ปี ที่มีอาการเจ็บเข่ารบกวน แต่ก็เป็นเพียงรายเดียวที่ขาดหายไป เพราะกำลังรบที่เหลือพร้อมลุยอยู่นานเเล้ว คาดว่า หลุยส์ กอนโก้ (6 นัด / 1 ประตู) จะได้รับมอบหมายให้ยืนกองหน้าตัวเป้าต่อไปอีกนัด

      กิลเยร์โม่ เชล็อตโต้ ผู้จัดการทีมของ โบคา จูเนียร์ส ยังไม่มีชื่อของ ดาริโอ เบเนเด็ตโต้ (9 นัด / 9 ประตู) แนวรุกตัวเก่งของทีมที่มีอาการเจ็บเอ็นเข่า แต่กำลังสำคัญอื่นๆ ยังอยู่กันครบ ไม่ว่าจะเป็น ลิซานโดร มากาญาน (24 นัด), เซบาสเตียน เปเรซ (3 นัด) รวมไปถึง คาร์ลอส เตเวซ (8 นัด / 3 ประตู) ดาวเตะตัวเก๋า

      เฟร์เนล ดิอ๊าซ นายใหญ่ของ ฆูเนียร์ เตรียมขน 11 ขุนพลชุดเดิมที่เปิดบ้านชนะ อาลิอันซ่า ลิม่า 1-0 ลงลุยกันต่อ เพราะไม่มีรายงานความเสียหายเรื่องนักเตะบาดเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามา คาดว่า ดิอ๊าซ จะวางหมากมาในระบบ 4-2-3-1 โดยจะมี เซบาสเตียน เอร์นานเดซ (14 นัด) ยืนเป็นจอมทัพคอยทำเกมรุก

      เลโอนาร์โด้ รามอส กุนซือของ เปญารอล จะไร้เงาของ วอลเตอร์ การ์กาโน่ (6 นัด / 1 ประตู) กับ ลูคัส วิอาตรี้ ที่มีอาการเจ็บรบกวนอยู่ ทำให้ รามอส ต้องปรับหมากกันเล็กน้อย แต่เชื่อว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง ไม่น่าจะต่างไปจากชุดปัจจุบันมากนัก โดยจะมี มักซี่ โรดริเกซ (12 นัด / 4 ประตู) มิดฟิลด์ตัวเก๋าเล่นเป็นจอมทัพเหมือนเก่า

      ริคาร์โด้ ไซลินสกี้ นายใหญ่ของ แอต.ตูคูมัน ไม่มีปัญหาใดในการจัดทัพ เนื่องจากสภาพความพร้อมของลูกทีมทุกคนสมบูรณ์ดี 100% นั่นหมายความว่า ไซลินสกี้ จะเลือกจัดชุดที่ดีที่สุดลงบู๊ได้เลย โดยชื่ออย่าง ราฟาเอล การ์เซีย (21 นัด), หลุยส์ โรดริเกซ (20 นัด / 6 ประตู) และ เลอันโดร ดิอ๊าซ (5 นัด) น่าจะพาเหรดกันลงสนาม

      อาคิม เบเยอร์ลอร์เซอร์ เฮ้ดโค้ชของ ยาห์น เรเก้นส์บวร์ก มีลิสต์ลูกทีมเดี้ยงในมือ 4 คน คือ ฟิลิปป์ เพนท์เก้ (28 นัด), เซบาสเตียน นาชไรเนอร์ (27 นัด), เควิน ฮอฟมันน์ และ ฮมาดี้ อัล กัดห์ดิอุย (5 นัด) นั่นหมายความว่า เบเยอร์ลอร์เซอร์ ต้องเรียกตัว อังเดร ไวส์ (3 นัด) ผู้รักษาประตูวัย 28 ปี มาเฝ้าเสาแทน เพนท์เก้

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ยาห์น เรเก้นส์บวร์ก (4-2-2-2) : อังเดร ไวส์ - เบเนดิคท์ ซอลเลอร์, มาร์คุส พาลิโอนิส, อาสเกอร์ โซเรนเซ่น, อเล็กซานเดอร์ นานด์ซิค - อันเดรียส ไกเพิ่ล, มาร์ค ไลส์ - ยานน์ จอร์จ, โจชัว มีส์ - ซาร์กิส อดัมยาน, มาร์โก กรัตเนอร์

      อิเลีย กรูเยฟ นายใหญ่ของ ดุ๊ยส์บวร์ก ยังไม่มีชื่อของ ทิม อัลบูตัท (13 นัด) ที่เจ็บยาวอยู่ก่อนหน้านี้เพียงคนเดียวเหมือนเก่า ทำให้ กรูเยฟ ไม่ต้องคิดมากอะไรนอกจากเรียกใช้งาน 11 ขุนพลจากนัดที่บุกชนะ เออร์ซเกเบียร์เก้ เอา 3-1 แบบต่อเนื่องกันเลย โดยจะมี สตานิสลาฟ ยุทเชนโก้ (28 นัด / 6 ประตู) คอยผลิตสกอร์

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ดุ๊ยส์บวร์ก (4-2-2-2) : มาร์ค เฟล็คเก้น - อันเดรียส ไวเกิ้ล, ดัสติน บอมฮอยเออร์, เกอร์ริต นูแบร์, เควิน โวลซ์ - ลูคัส โฟรเด้, ฟาเบียน ชเนลฮาร์ด - โอลิเวียร่า ซูซ่า, มอริตซ์ สต๊อปเพิ่ลคัมป์ - บอริส ทาชชี่, สตานิสลาฟ ยุทเชนโก้

      เคนาน โคซัค เฮ้ดโค้ชของ ซานด์เฮาเซ่น จะหมดสิทธิ์ใช้งาน เคน กิปสัน (3 นัด) กับ ทิม คิสเตอร์ (20 นัด) ที่ควงเเขนกันเข้าออกโรงพยาบาลอยู่ แต่ขุมกำลังรายอื่นๆ ฟิตเต็มสูบกันทั้งหมด คาดว่าเกมนี้ โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง จะนำทีมมาโดย เดนิส ลินส์เมเยอร์ (26 นัด / 1 ประตู) และ ริชาร์ด ซูคูต้า-ปาซู (24 นัด / 6 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ซานด์เฮาเซ่น (4-2-3-1) : มาร์เซล ชูเฮน - รูริค กิสลาสัน, ทิม คิปปิ้ง, มาร์คุส คาร์ล, เลยาร์ต ปาการาด้า - เดนิส ลินส์เมเยอร์, สเตฟาน คูโลวิตส์ - เนย์เมดดิน ดั๊กห์ฟุส, ฟิลิปป์ ฟอร์สเตอร์, จูเลี่ยน เดอร์สตรอฟฟ์ - ริชาร์ด ซูคูต้า-ปาซู

      แฟร้งค์ ชมิดท์ นายใหญ่ของ ไฮเด้นไฮม์ จะไร้เงาของ มาร์ก ชนัตเตอเรอร์ (31 นัด / 8 ประตู) มิดฟิลด์ตัวสำคัญที่โดนอาการเจ็บเล่นงาน ทำให้ ชมิดท์ ต้องปรับทัพกันอีกครั้ง แต่ตัวหลักคนอื่นๆ ยังอยู่กันครบ ไม่ว่าจะเป็น นอร์มัน ธอยเออร์เคาฟ์ (23 นัด) รวมไปถึง จอห์น เวอร์ฮ็อค (24 นัด / 9 ประตู) หัวหอกตัวเทพ

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไฮเด้นไฮม์ (4-2-3-1) : เควิน มุลเลอร์ - โรเบิร์ต สเตร๊าส์, นอร์มัน ธอยเออร์เคาฟ์, เควิน เคร๊าส์, อาร์เน่ ฟีค - เซบาสเตียน กรีสเบ็ค, มาธิอัส วิตเทค - มักซิมิเลี่ยน ธีล, นิโกล่า โดเวดาน, เควิน แล็งฟอร์ด - จอห์น เวอร์ฮ็อค

      มาร์คุส อันแฟง เทรนเนอร์ของ โฮลสไตน์ เคียล ก็เหลือเพียงแค่ อามาร่า คอนเด้ (6 นัด) คนเดียวที่ขึ้นบัญชีเจ็บค้างสต็อกอยู่ นั่นหมายความว่า อันแฟง สามารถเลือกจัดทีมได้ตามใจชอบเลย และคงส่ง ราฟาเอล ซีโชส (28 นัด / 2 ประตู), เดวิด คินซอมบี้ (29 นัด / 4 ประตู) และ มาร์วิน ดุ๊คช์ (31 นัด / 16 ประตู) ลงเล่นแน่

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โฮลสไตน์ เคียล (4-1-4-1) : เคนเนธ ครอนโฮล์ม - พาทริค เฮอร์มันน์, โดมินิค ชมิดท์, ราฟาเอล ซีโชส, คริสโตเฟอร์ เลนซ์ - เดวิด คินซอมบี้ - คิงส์ลี่ย์ ชินด์เลอร์, อเล็กซานเดอร์ มูห์ลิ่ง, โดมินิค เดร็กซ์เลอร์, อารอน เซย์เดล - มาร์วิน ดุ๊คช์

      สเตฟาน ไลเทิ่ล ผู้จัดการทีมของ อินกอลสตัดท์ ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน เปาโล โอตาวิโอ้ (8 นัด) เจ้าเก่าเจ้าเดิม ที่ยังเดี้ยงไม่หาย แต่กำลังรบที่เหลือพร้อมลุยอยู่นานเเล้ว คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง ไม่น่าต่างไปจากเดิมมากนัก เพราะเป็นชุดที่ดีที่สุดอยู่เเล้ว โดยจะมี ดาริโอ เลซกาโน่ (24 นัด / 6 ประตู) ยืนค้ำแดนบน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
อินกอลสตัดท์ (4-2-3-1) : ออร์ยาน นีลันด์ - โทเบียส เลเวิ่ลส์, โทเบียส ชร็อค, มาร์วิน มาทิป, มาร์เซล เก๊าส์ - คริสเตียน แทรช, อัลม็อก โคเฮน - โธมัส เพลเดิ้ล, ซอนนี่ คิตเทิ่ล, โรเบิร์ต ไลเพิร์ตซ์ - ดาริโอ เลซกาโน่

      ปีเตอร์ สโตเกอร์ ผู้จัดการทีมของ ดอร์ทมุนด์ จะไม่มีชื่อของ ดาน ซากาดู (11 นัด / 1 ประตู), ราฟาเอล เกร์ไรโร่ (8 นัด / 1 ประตู), มิชี่ บัตชัวยี่ (10 นัด / 7 ประตู), อันเดร ชูร์เล่ (15 นัด / 1 ประตู) และ เซบาสเตียน โร้ด ที่กอดคอกันเดี้ยงแบบยกแผง แต่คงไม่มีปัญหา เพราะ สโตเกอร์ ออกมาประกาศแล้วว่าจะใช้ตัวจริงชุดเดิม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ดอร์ทมุนด์ (4-2-3-1) : โรมัน บูร์กี - ลูคัส พิสเซค, โซเครติส, โอเมอร์ โทพรัค, มานูเอล อคานยี่ - จูเลี่ยน ไวเกิ้ล, มาริโอ เกิทเซ่ - คริสเตียน พูลิซิช, มาร์โก รอยส์, จอร์ดอน ซานโช่ - มักซิมิเลี่ยน ฟิลิปป์

      ฟลอเรียน โคห์เฟลด์ นายใหญ่ของ เบรเมน เหลือลูกทีมเจ็บอยู่ 3 ราย ได้แก่ มิคาเอล เซ็ตเตเรอร์, ลูก้า กัลดิโรล่า (1 นัด) และ ฟิน บาร์เทิ่ลส์ (14 นัด / 2 ประตู) ส่วนในรายของ ฟลอเรี่ยน ไคนซ์ (28 นัด / 2 ประตู) กับ ฟิลิปป์ บาร์กเฟรเด้ (25 นัด / 1 ประตู) สองกำลังสำคัญประจำทีม จะติดโทษห้ามแข่งในนัดนี้พอดี

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เบรเมน (4-3-3) : ยีรี พาฟเลนก้า - เกเบร เซลาสซี่, มิลอส เวลโกวิช, นิโคลัส มอยซานเดอร์, ลุดวิก ออกุสตินสัน - มักซิมิเลี่ยน เอ็กเก้สไตน์, โธมัส เดอลานี่ย์, ซลัตโก้ ยูนูโซวิช - มิลอต ราชิก้า, มักซ์ ครูเซ่, อิชัค เบลโฟดิล

      ราล์ฟ ฮาเซ่นฮุตเทิ่ล กุนซือของ ไลป์ซิก จะไม่มีชื่อของ มาร์เซล ฮัลส์เท่นแบร์ก (15 นัด / 2 ประตู), มาร์เซล ซาบิตเซอร์ (22 นัด / 3 ประตู) และ คอนราด เลเมอร์ (20 นัด) เพราะยังเดี้ยงอยู่ ส่วนในรายของ นาบี เกอิต้า (25 นัด / 6 ประตู) ต้องรอเช็คฟิต แต่ที่อดบู๊คือ เอมิล ฟอร์สเบิร์ก (21 นัด / 2 ประตู) เนื่องจากติดโทษห้ามเเข่ง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไลป์ซิก (4-4-2) : ปีเตอร์ กูลัคซี่ - ลูคัส โคลสเตอร์มันน์, วิลลี่ ออร์แบน, อูปาเมกาโน่, แบร์นาร์โด้ - เควิน คัมเพิ่ล, นาบี เกอิต้า, ดีเอโก้ เดมม์, บรูม่า - ยุสซุฟ โพลเซ่น, ติโม แวร์เนอร์

      ซานโดร ชวาร์ซ เฮ้ดโค้ชของ ไมนซ์ มีรายงานตัวเจ็บเข้ามาถึง 5 ราย ได้แก่ สเตฟาน เบล (22 นัด / 1 ประตู), เลออน บาโลกัน (14 นัด), นิโก้ บุนแกร์ต, ซูอัต เซอร์ดาร์ (25 นัด / 2 ประตู) และ เอมิล เบิร์กกรีน (14 นัด / 4 ประตู) นั่นบังคับให้ ชวาร์ซ ต้องปรับทัพกันวุ่นวายเลย โดยเกมนี้ ฌอง กีบาแมง (27 นัด) จะขึ้นไปยืนมิดฟิลด์

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไมนซ์ (4-3-3) : เรเน่ อ๊าดเลอร์ - จูลิโอ โดนาติ, อเล็กซานเดอร์ ฮัค, อับดู ดิยัลโล่, ดาเนี่ยล โบรซินสกี้ - ไนเจล เดอ ยอง, ฌอง กีบาแมง, แดนนี่ ลัตซ่า - เลวีน ออซตูนาลี่, โรบิน ไคสัน, ปาโบล เดอ บลาซิส

      เกรแฮม เมอร์ตี้ นายใหญ่ของ เรนเจอร์ส ต้องรอเช็คความฟิตของ บรูโน่ อัลเวส (19 นัด) กับ เวส โฟเดอริงแฮม (33 นัด) ก่อนลงสนามอีกครั้งว่าไหวหรือไม่ ส่วนในรายของ เคนนี่ มิลเลอร์ (18 นัด / 3 ประตู) และ ลี วอลเลซ (5 นัด) หมดสิทธิ์แน่นอน เพราะติดโทษแบน ทำให้ เมอร์ตี้ ต้องคิดแก้ปัญหาเป็นการด่วน

      เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เทรนเนอร์ของ เซลติก มีข่าวดีเข้ามาก่อนเกมเลย เมื่อ มุสซ่า เด็มเบเล่ (23 นัด / 8 ประตู) ศูนย์หน้าตัวเก่งของทีมฟิตกลับมาพร้อมลงช่วยทีมได้เเล้ว และน่าจะได้รับโอกาสลงเล่นทันที โดยเกมนี้ "บีร็อดจ์" น่าจะวางหมากมาในระบบ 4-2-3-1 ตามถนัด ซึ่งจะมี ทอม โรกิช (19 นัด / 4 ประตู) เป็นจอมทัพ

      ตายฟุน คอร์คุต กุนซือของ สตุ๊ตการ์ต ยังไม่มีชื่อของ อันเดรียส เบ็ค (23 นัด / 1 ประตู) และ การ์ลอส มาเน่ ที่ยังเดี้ยงไม่หาย คาดว่า คอร์คุต จะแก้ปัญหาตรงเเบ็คขวา ด้วยการถอย ติโม บอย์มการ์ตเทิ่ล (26 นัด) ลงมายืนแทน แต่สำหรับคู่หน้าคงจะเป็น มาริโอ โกเมซ (14 นัด / 6 ประตู) กับ ดาเนี่ยล กินเซค (20 นัด / 5 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
สตุ๊ตการ์ต (4-4-2) : รอน โรเบิร์ต ซีเลอร์ - ติโม บอย์มการ์ตเทิ่ล, เบนจามิน ปาวาร์, โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์, เอมิเลียโน่ อินซัว - อีริค ธอมมี่, คริสเตียน เกนท์เนอร์, ซานติอาโก้ อัสกากิบาร์, เดนนิส อาโอโก้ - มาริโอ โกเมซ, ดาเนี่ยล กินเซค

      ไฮโค แฮร์ลิช เทรนเนอร์ของ เลเวอร์คูเซ่น จะไม่มีชื่อของ โจนาธาน ตาห์ (27 นัด) กับ โยเอล พอห์ยานพาโล (7 นัด / 1 ประตู) ที่ควงเเขนกันเจ็บอยู่ นั่นทำให้ แฮร์ลิช ต้องแก้ไขเกมรับโดยด่วน และคาดว่าน่าจะเป็น "สองพี่น้อง" เบนเดอร์ ลงเล่นพร้อมกัน ส่วนในแนวรุกนำทีมมาโดย จูเลี่ยน บรันด์ (31 นัด / 8 ประตู) ดาวรุ่งตัวเก่ง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เลเวอร์คูเซ่น (4-3-3) : แบร์นด์ เลโน่ - ลาร์ส เบนเดอร์, สเวน เบนเดอร์, พานาจิโอติส เพตซอส, เบนจามิน เฮนริชส์ - ชาร์ลส์ อรานกุซ, จูเลี่ยน บอย์มการ์ตลิงเกอร์, ไค ฮาแวร์ซ - จูเลี่ยน บรันด์, ลูกัส เอลาริโอ, เควิน โฟลลันด์

      คริสเตียน ติตซ์ เฮ้ดโค้ชของ ฮัมบูร์ก เหลืออยู่เพียงแค่ แมร์กิม มาฟราย (17 นัด) กับ วาเลซ (18 นัด / 1 ประตู) เท่านั้น ที่จะไม่ใช้งาน เพราะยังโดนกาชื่ออยู่เหมือนเก่า ส่วนกำลังรบที่เหลือพร้อมลุยอยู่นานเเล้ว คาดว่า ติตซ์ จะวางหมากมาในระบบ 4-1-4-1 โดยจะมี บ๊อบบี้ วู้ด (21 นัด / 1 ประตู) ยืนค้ำในแดนหน้า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮัมบูร์ก (4-1-4-1) : จูเลี่ยน โพลแลร์เบ็ค - โกโตคุ ซากาอิ, กีเดียน จุง, คิเรียกอส ปาปาโดปูลอส, ดั๊กลาส ซานโต๊ส - มัตตี้ สไตน์มันน์ - ฟิลิป คอสติช, ลูอิส โฮลท์บี้, จานลูก้า วัลด์ชมิดท์, ทัตสึยะ อิโตะ - บ๊อบบี้ วู้ด

      บรูโน่ ลาบบาเดีย กุนซือของ โวล์ฟสบวร์ก จะไร้เงาของ อิ๊กนาซิโอ กามาโช่ (11 นัด), จิอันลูก้า อิตเตอร์ (5 นัด) และ อั๊ดเมียร์ เมห์เมดี้ (5 นัด / 1 ประตู) ที่ยังเจ็บอยู่ ส่วนในรายของ ดาเนี่ยล ดิดาวี่ (29 นัด / 8 ประตู) ต้องรอเช็คฟิตกันก่อน แต่ที่แน่ๆ คือ เฟลิกซ์ อูดูโอไค (16 นัด / 1 ประตู) กลับจากโทษแบนเเล้ว

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โวล์ฟสบวร์ก (4-3-3) : โกเยนส์ กัสตีลส์ - พอล เวอร์ฮาจ, บรูม่า, จอห์น บรู้คส์, วิลเลี่ยม - โจฌัว กีลาโว้ก, รีเชดลี่ บาซัวร์, มักซิมิเลี่ยน อาร์โนลด์ - โจซิป เบรคาโล่, ดิว๊อค โอริกี, ยูนุส มัลลี่

      ดีเตอร์ เฮ็กคิงก์ เทรนเนอร์ของ กลัดบัค เหลือตัวเจ็บค้างสต็อกอีก 2 คน คือ พาทริค เฮอร์มันน์ (22 นัด) กับ มามาดู ดูกูเร่ แต่ไม่น่าจะส่งผลอะไรในการจัดทัพ เพราะ เฮ็กคิงก์ น่าจะก็อปปี้ 11 ขุนพลจากนัดที่เปิดบ้านชนะ โวล์ฟสบวร์ก 3-0 มาใช้งานกันต่อเนื่อง เพราะลูกทีมทุกคนทำหน้าที่กันได้อย่างสมบูรณ์แบบอยู่เเล้วนั่นเอง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
กลัดบัค (4-4-2) : ยาน ซอมเมอร์ - นิโก้ เอลเวดี้, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, มัทธีอัส กินเตอร์, ออสการ์ เวนด์ - โยนาส ฮอฟมันน์, คริสโตฟห์ เครเมอร์, เดนิส ซากาเรีย, ธอร์แกน อาซาร์ - ราฟฟาเอล, ลาร์ส สไตน์เดิ้ล

      โดเมนิโก้ เทเดสโก้ นายใหญ่ของ ชาลเก้ จะไร้เงาของ มาติย่า นาสตาซิช (24 นัด) เเละ บรีล เอ็มโบโล่ (20 นัด / 2 ประตู) ที่โดนโรคเดี้ยงเล่นงาน ส่วนในรายของ มักซ์ เมเยอร์ (24 นัด) ต้องรอเช็คความฟิตก่อนลงสนามกันอีกครั้ง คาดว่า กีโด้ บวร์กสตัลเลอร์ (29 นัด / 10 ประตู) จะออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเพื่อผลิตสกอร์

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ชาลเก้ (3-4-1-2) : ราล์ฟ ฟาห์รมันน์ - เบนจามิน สตอมบูลี่, นัลโด้, ธิโล่ เคห์เรอร์ - ดาเนี่ยล คาลิกูรี่, เวสตัน แม็คเคนนี่, เลออน โกเร็ตส์ก้า, บาสเตียน อ๊อกซิปก้า - อามีน ฮาริต - กีโด้ บวร์กสตัลเลอร์, ฟรังโก้ ดิ ซานโต้

      สเตฟาน รูเธนเบค ผู้จัดการทีมของ โคโลญจน์ จะไร้เงาของ มัทธิอัส เลห์มันน์ (20 นัด) กับ เซย์รู กีรัสซี่ (15 นัด / 4 ประตู) เพราะโดนอาการเจ็บเล่นงาน ส่วนในรายของ โดมินิค ไฮนซ์ (28 นัด / 1 ประตู) และ เลออน บิตเท่นคอร์ต (20 นัด / 3 ประตู) สองกำลังสำคัญของทีม ต้องรอเช็คความฟิตก่อนลงสนามกันอีกครั้ง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โคโลญจน์ (4-4-2) : ติโม ฮอร์น - ลูคัส คลุนเตอร์, ฆอร์เก้ เมเร่, โดมินิค ไฮนซ์, โยนาส เอคเตอร์ - มาร์เซล ริสเซ่, มาร์โก โฮเกอร์, แว็งซ็องต์ โกซิเอลโล่, เลออน บิตเท่นคอร์ต - ไซม่อน เทร็อด, จอห์น กอร์โดบา

      คริสเตียน สไตรช์ เฮ้ดโค้ชของ ไฟร์บวร์ก จะหมดสิทธิ์ใช้งาน อามีร์ อาบราชี่ (12 นัด), โยริก ราเว่ต์ (10 นัด), คาเล็บ สแตนโก้ (6 นัด) และ ฟลอเรียน นีแดร์เลชเนอร์ (10 นัด / 2 ประตู) ที่ยังต้องรักษาในโรงพยาบาลอยู่ ส่วนในรายของ คักล่าร์ โซยุนกู (25 นัด / 1 ประตู) ปราการหลังคนสำคัญ จะติดโทษห้ามแข่งในนัดนี้

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไฟร์บวร์ก (4-4-2) : อเล็กซานเดอร์ ชโวลอฟ - ลูคัส คุบเลอร์, ฟิลิปป์ ไลน์ฮาร์ท, มานูเอล กัลด์, คริสเตียน กุนเตอร์ - ปาสกาล สเตนเซิ่ล, โรบิน ค็อก, นิโคลัส ฮอฟเลอร์, ลูคัส โฮเลอร์ - ยานิค ฮาเบเรอร์, นีล พีเตอร์เซ่น

      มานูเอล บอย์ม นายใหญ่ของ เอ๊าก์สบวร์ก จะไร้เงาของ ราฟาเอล ฟรัมแบร์เกอร์ (9 นัด), คิลเลี่ยน ยาค็อบ (1 นัด) และ คู จา ชอล (28 นัด / 2 ประตู) ที่กอดคอกันเดี้ยงแบบยกเซ็ต คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง ไม่น่าจะต่างไปจากเกมที่เปิดบ้านชนะ ไมนซ์ 2-0 จะมีเพียงแค่ ดาเนี่ยล เบเยอร์ (27 นัด) ที่ลงเล่นเเทน คู จา ชอล

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เอ๊าก์สบวร์ก (3-4-2-1) : มาร์วิน ฮิตซ์ - เจฟฟรี่ โกเวลูว์, รานี่ เคดิร่า, มาร์ติน ฮินเตเร็กเกอร์ - โจนาต็อง ชมิด, ดาเนี่ยล เบเยอร์, คูบี้, ฟิลิปป์ มักซ์ - มิเชล เกรกอริช, มาร์โก ริชเตอร์ - อัลเฟร็ด ฟินโบกาสัน

      พาล ดาร์ได เทรนเนอร์ของ แฮร์ธ่าฯ มีรายงานความเสียหายเรื่องลูกทีมเจ็บเข้ามา 5 ราย ได้แก่ โจนาธาน คลิ้นส์มันน์, มักซิมิเลี่ยน มิตเทิ่ลสตัดท์ (9 นัด), เพอร์ สเคลเบร็ด (25 นัด), มิตเชล ไวเซอร์ (24 นัด / 1 ประตู) และ อาร์เน่ เมเยอร์ (17 นัด) ส่วนในรายของ ดาวี เซลเก้ (24 นัด / 8 ประตู) ต้องรอลุ้นความฟิตกันอีกครั้ง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แฮร์ธ่าฯ (4-2-3-1) : รูเน่ ยาร์สไตน์ - ปีเตอร์ เปคาริค, นิคลาส สตาร์ค, คาริม เรกิ๊ก, มาร์วิน แพลตเท่นฮาร์ด - วลาดิเมียร์ ดาริด้า, ฟาเบียน ลุสเตนแบร์เกอร์ - แมทธิว เล็กกี้, วาเลนติโน่ ลาซาโร่, ซาโลมง กาลู - เวดัด อิบิเซวิช

      นิโก้ โควัค เฮ้ดโค้ชของ แฟร้งค์เฟิร์ต จะไม่มีชื่อของ การ์ลอส ซัลเซโด้ (18 นัด), โจนาธาน เดอ กุซมัน (15 นัด) และ อันเต เรบิช (24 นัด / 6 ประตู) ที่ยังเจ็บอยู่ ส่วนในรายของ มาโกโตะ ฮาเซเบะ (24 นัด) จะติดโทษห้ามแข่ง แต่ข่าวดีคือ จะได้ตัว ไซม่อน ฟาแลต (26 นัด / 1 ประตู) แนวรับตัวเก่งชาวฝรั่งเศส สวนทางกลับมาใช้งานแทน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แฟร้งค์เฟิร์ต (3-4-2-1) : ลูคัส ฮราเด็กกี้ - มาร์โก รุส, ดาบิด อับราฮัม, ไซม่อน ฟาแลต - แดนนี่ ดา คอสต้า, มิยัต กาซิโนวิช, มาสกาเรล, ทิโมธี แชนด์เลอร์ - มาริอุส โวล์ฟ, มาร์โก ฟาเบียน - ลูก้า โยวิช

      จุ๊ป ไฮย์เกส กุนซือของ บาเยิร์น มีลิสต์ลูกทีมเดี้ยงไม่น้อยเลย ไล่มาตั้งแต่ มานูเอล นอยเออร์ (3 นัด), ดาวิด อลาบา (23 นัด / 2 ประตู), เจอโรม บัวเต็ง (19 นัด / 1 ประตู), อาร์ตูโร่ วิดัล (22 นัด / 6 ประตู), อาร์เยน ร๊อบเบน (21 นัด / 5 ประตู) และ คิงส์ลี่ย์ โกม็อง (21 นัด / 3 ประตู) แต่ไม่น่าใช่เรื่องใหญ่ เพราะ ไฮย์เกส น่าจะขนสำรองลงเพียบ

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
บาเยิร์น (4-3-3) : สเวน อูลไรช์ - ราฟินญ่า, ลาร์ส ไม, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, เบร์นาต - เซบาสเตียน รูดี้, นิคลาส ซูเล่, ธิอาโก้ อัลกานตาร่า - โกร็องแต็ง โตลิสโซ่, ว้ากเนอร์, ฮาเมส โรดริเกวซ

      ฮานเนส ดรูว์ส เฮ้ดโค้ชของ เออร์ซเกเบียร์เก้ เอา จะหมดสิทธิ์ใช้งาน เดนนิส เคมเป้ (24 นัด / 1 ประตู), นิโคไล รัปป์ (19 นัด) และ เซบิโอ ซูลู (14 นัด / 4 ประตู) เพราะปัญหาอาการเจ็บรบกวน ส่วนในรายของ ฟิลิปป์ รีเซ่ (18 นัด) กับ คาโลเกโร่ ริซซูโต้ (26 นัด) จะติดโทษห้ามแข่ง ทำให้ ดรูว์ส ต้องปวดหัวหนักในการวางหมาก

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เออร์ซเกเบียร์เก้ เอา (3-4-3) : มาร์ติน มานเนิ่ล - ฟาเบียน คาลิก, คริสเตียน ทิฟเฟิร์ต, โดมินิค วีดร้า - มาริโอ คเวซิช, พาทริค สเตร๊าส์, เซบาสเตียน เฮิร์ทเนอร์, เคลเมนส์ ฟานดริช - โซเรน เบอร์ทรัม, ปาสกาล ค็อปเค่, ดิมิทรี่ นาซารอฟ

      โรบิน ดุตต์ กุนซือของ โบคุ่ม ยังไร้เงาของ "สามเดี้ยง" เซ็ตเก่า อย่าง สเตฟาโน่ เชลอซซี่ (25 นัด), มักซิม ลิตช์ (10 นัด) และ ติโม เพอร์เธิ่ล แต่กำลังรบที่เหลือพร้อมลุยอยู่นานเเล้ว คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง ไม่น่าจะต่างไปจากเดิม นำทีมมาโดย ลูคัส ฮินเตอร์เซียร์ (28 นัด / 13 ประตู) หัวหอกตัวเก่งประจำทีม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โบคุ่ม (4-2-3-1) : มานูเอล ไรมันน์ - ยาน กียาเมราห์, พาทริค ฟาเบียน, ทิม ฮู้กลันด์, ดานิโล - โรเบิร์ต เทสเช, อองโตนี่ โลซิญ่า - ซิดนี่ย์ แซม, เควิน สโตเกอร์, ร็อบบี้ ครูส - ลูคัส ฮินเตอร์เซียร์

      ปาโบล กอร์เรอา เทรนเนอร์ของ โอแซร์ อาการหนักพอกันเลย เพราะมีนักเตะเดี้ยงอยู่ถึง 7 คน คือ โรแม็ง ฟิลิปโปเตอ็อกซ์ (35 นัด / 11 ประตู), เคนยี่ ฟาน โบโต้ (6 นัด), อับดุล บา (26 นัด / 1 ประตู), อับดุลลาย ซิสซาโก้ (3 นัด), โมฮาเหม็ด ยัตตาร่า (24 นัด / 10 ประตู), ยาย่า ซาเน่ (12 นัด / 1 ประตู) และ ลูโดวิช โอบราเนียก (16 นัด)

      ฌอง วาสเซอูร์ เฮ้ดโค้ชของ ชาโตรูซ์ มีรายงานตัวเจ็บเข้ามาถึง 6 ราย ไล่มาตั้งแต่ เกแว็ง ดาส เนเวส (8 นัด), ยานน์ มาเบลล่า (9 นัด / 2 ประตู), ชาเคอร์ อัลฮัดฮูร์ (31 นัด / 2 ประตู), เกอร์ซิโน่ เอ็นยามซี่ (10 นัด / 1 ประตู), ฟัลลู เนียง (8 นัด) และ ซานา อัลตาม่า นั่นบังคับให้ วาสเซอูร์ แทบจะเปลี่ยนแปลงผู้เล่นตัวจริงอะไรไม่ได้เลย

      มิคาเอล ฟรอนท์เซ็ค กุนซือของ ไกเซอร์ฯ จะไร้เงาของ ยูเลียโน่ โมดิก้า (5 นัด), ดาเนี่ยล ฮาลฟาร์ (9 นัด / 1 ประตู) และ แบรนดอน บอร์เรลโล่ (19 นัด / 3 ประตู) ที่กอดคอกันพักรักษาตัวอยู่ ส่วนในรายของ เลออน กูวาร่า (23 นัด) แบ็คซ้ายตัวหลักจะติดโทษห้ามแข่ง คาดว่า ฟิลิปป์ เวเน่ (29 นัด / 2 ประตู) จะโยกมายืนแทน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไกเซอร์ฯ (4-2-2-2) : มาริอุส มุลเลอร์ - เบนจามิน เคสเซล, ยาน คาลล์เซ่น-แบร็คเกอร์, สติเป วูกูร์, ฟิลิปป์ เวเน่ - คริสตอฟ โมริตซ์, นิลส์ ซูแฟร์ต - รูเบน เยนส์เซ่น, โอซายาเมน โอซาเว่ - ฮาลิล อัลตินท็อป, ลูคัส สปัลวิส

      เจฟ ไซบีน ผู้จัดการทีมของ บีเลเฟลด์ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน ไบรอัน เบห์เรนด์ (19 นัด / 1 ประตู), จูเลี่ยน บอร์เนอร์ (27 นัด / 4 ประตู) และ นิลส์ ควอชเนอร์ (4 นัด) ที่โดนอาการเจ็บเข้าครอบงำ ส่วนในรายของ ฟลอเรียน ดิ๊ค (22 นัด / 1 ประตู) แบ็คขวาตัวเก่งดันมาติดโทษแบนอีก ทำให้ปัญหาใหญ่ในเกมนี้คือเรื่องเเนวรับ

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
บีเลเฟลด์ (4-4-2) : สเตฟาน ออร์เตก้า - ชาน ออซคาน, เฮนรี่ ไวเกลต์, สเตฟาน ซัลเกอร์, ฟลอเรียน ฮาร์แธร์ซ - โรแบร์โต้ มัสซิโม่, มานูเอล เพรเทิ่ล, ทอม ชู๊ทซ์, คอนสแตนติน เคิร์ชเบาเมอร์ - ฟาเบียน โคลส, อันเดรียส โฟเกิ้ลซามเมอร์

      ฌอง ฟูร์ล็อง เทรนเนอร์ของ แบรสต์ จะไม่มีชื่อของ แกต็อง เบโลด์ (29 นัด / 1 ประตู) กับ เจสซี่ ปิ (31 นัด / 5 ประตู) ที่โดนอาการเจ็บรบกวน แต่ก็มีข่าวดีเข้ามาตรงที่ แกต็อง ชาร์กบงนิเย่ร์ (22 นัด / 5 ประตู) แนวรุกตัวเก่งพ้นโทษแบนกลับมาช่วยทีมได้พอดี พร้อมรวมพลังกับ มูอามาดู ดิอาโญ่ (30 นัด / 9 ประตู) ในแดนหน้า

      เอร์เว่ เดญ่า มักชิโอเร่ นายใหญ่ของ บูร์ก แปร็องนาส์ ไม่มีปัญหาใดในการวางหมากสู้ศึกนัดนี้ เพราะสภาพความพร้อมของลูกทีมทุกคนสมบูรณ์ดี 100% คาดว่าเกมนี้ เดญ่า มักชิโอเร่ จะปรับทีมด้วยการส่ง ยานิส เมอร์ดิจ (32 นัด / 8 ประตู) และ ชูเลียง เบกู (29 นัด / 6 ประตู) ออกสตาร์ทเป็น 11 ตัวจริงดูบ้าง เพื่อเพิ่มความเเข็งแกร่ง

      อันเดร ไบรเท่นไรเตอร์ ผู้จัดการทีมของ ฮันโนเวอร์ มีลิสต์ตัวเจ็บในมือ 5 ราย ได้แก่ เฟลิกซ์ เคล๊าส์ (28 นัด / 4 ประตู), วัลเดเมียร์ แอนตัน (26 นัด / 1 ประตู), โจนาธาส (12 นัด / 3 ประตู), ชาร์ลิสัน เบนช็อป (7 นัด / 1 ประตู) และ เอ็ดการ์ พริบ คาดว่า ไบรเท่นไรเตอร์ จะเรียกตัว มัทธิอัส ออสเตอร์โซเลค (26 นัด) มาเป็นตัวจริง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮันโนเวอร์ (4-4-2) : ฟิลิปป์ ชอเนอร์ - โอลิเวอร์ ซอร์ก, ซาลิฟ ซาเน่, โจซิป อีเลซ, มีโก้ อัลบอร์นอซ - อิห์ลัส เบบู, เพอร์มิน ชเว็กเลอร์, มาร์วิน บาคาลอร์ซ, มัทธิอัส ออสเตอร์โซเลค - มาร์ติน ฮาร์นิค, นิคลาส ฟัลครู้ก

      จูเลี่ยน นาเกิ้ลมันน์ นายใหญ่ของ ฮอฟเฟ่นไฮม์ จะไร้เงาของ เบนจามิน ฮุบเนอร์ (27 นัด / 3 ประตู), สเตฟาน พอช (9 นัด) และ เดนนิส ไกเกอร์ (21 นัด / 2 ประตู) ที่ต้องใช้บริการของโรงพยาบาลอยู่ ส่วนในรายของ ฟลอเรี่ยน กริลลิช (23 นัด / 1 ประตู) ห้องเครื่องชาวออสเตรียจะติดโทษเเบน ทำให้ นาเกิ้ลมันน์ ต้องแก้ไขทันที

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮอฟเฟ่นไฮม์ (3-4-3) : โอลิเวอร์ เบามันน์ - เควิน อัคโปกูม่า, เควิน โฟ้กท์, เออร์มิน บิซัคซิช - พาเวล คาเดราเบค, นาเดียม อามิรี่, เคเรม เดเมียร์บาย, นิโก้ ชูลซ์ - อันเดร ครามาริช, มาร์ก อูธ, แซร์ก จีนาบรี้

      วินเชนโซ่ มอนเตลล่า นายใหญ่ของ เซบีย่า จะไร้เงาของ สเตเว่น เอ็นซองซี่ (23 นัด / 1 ประตู) ห้องเครื่องร่างโย่งที่โดนโรคเดี้ยงเล่นงาน ส่วนในรายของ วิสซัม เบน เยแดร์ (22 นัด / 6 ประตู) แนวรุกตัวสำคัญจะติดโทษแบน คาดว่า มอนเตลล่า จะให้โอกาสกับ การ์ลอส เฟร์นานเดซ (1 นัด) หัวหอกวัย 21 ปี ยืนค้ำเป็นหน้าเป้า

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
เซบีย่า (4-2-3-1) : ดาบิด โซริอา - เฆซุส นาบาส, เกลม็องต์ ลองเกล้ต์, กาเบรียล เมร์กาโด้, เซร์คิโอ เอสคูเดโร่ - โจนาธาน กีส, เอแวร์ บาเนก้า - ปาโบล ซาราเบีย, ฟรานโก้ บาซเกซ, โนลิโต้ - การ์ลอส เฟร์นานเดซ

      ปาโก้ โลเปซ เทรนเนอร์ของ เลบานเต้ มีรายงานตัวเจ็บเข้ามา 4 คน คือ ราอูล เฟร์นานเดซ (11 นัด), อีบัน โลเปซ (3 นัด), โตนโญ่ (12 นัด) และ ชีค ดูกูเร่ (19 นัด / 1 ประตู) ส่วนในรายของ เจฟเฟอร์สัน เลอร์มา (24 นัด) กับ รูเบน โรชิน่า (2 นัด) ต้องติดโทษห้ามแข่งในนัดนี้ นั่นทำให้ โลเปซ ต้องปรับหมากสู้ศึกกันพอสมควร

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
เลบานเต้ (4-4-2) : ออยเอร์ โอลาซาบัล - โกเก้, เซร์คิโอ ปอสตีโก้, โรเบร์ ปิเอร์, อันโตนิโอ ลูน่า - โฆเซ่ หลุยส์ โมราเลส, ซาซ่า ลูคิช, โฆเซ่ กัมปันญ่า, บาร์ดี้ - เอ็มมานูเอล บัวเต็ง, โรเกร์ มาตรี

      เอดูอาร์โด้ คูเดต กุนซือของ ราซิ่ง คลับ มีข่าวดีเข้ามาก่อนเกมเลย เมื่อ ดิเอโก้ กอนซาเลซ (15 นัด / 1 ประตู) กับ เนรี่ การ์โดโซ่ (10 นัด) สองกำลังสำคัญของทีมพร้อมเป็นตัวเลือก โดยรายแรกกลับมาจากโทษแบน ส่วนรายหลังหายจากอาการเจ็บ แต่สำหรับ ลิซานโดร โลเปซ (18 นัด / 6 ประตู) พร้อมล่าตาข่ายเเน่นอน

     เซ ริคาร์โด้ นายใหญ่ของ วาสโก ดา กาม่า จะไม่มีชื่อของ เบรโน่ กับ เปาลินโญ่ ที่ควงเเขนกันบาดเจ็บอยู่ แต่ก็ไม่น่าจะส่งผลอะไรในการจัดทัพมากนักในช่วงนี้ เพราะไม่ได้ใช้งานอยู่เเล้ว เชื่อว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง คงไม่ต่างไปจากชุดปัจจุบันมากนัก โดยจะมี อันเดรส ริออส (2 นัด / 1 ประตู) เป็นตัวความหวังในแดนหน้า

      ปาโบล เบนโกเอเคีย ผู้จัดการทีมของ อลิอันซ่า ลิม่า ก็เตรียมขน 11 ขุนพลชุดใหญ่ลงสู้ศึกเช่นกัน เพราะสภาพความพร้อมของทีมสมบูรณ์ดี 100% เชื่อว่า เบนโกเอเคีย น่าจะยังมั่นใจในตัวลูกทีมชุดเก่าต่อไป โดยจะวางหมากมาในระบบ 4-1-4-1 ซึงจะมี กาเบรียล เลเยส (7 นัด) ศูนย์หน้าชาวอุรุกวัย ยืนค้ำคอยผลิตสกอร์ให้กับทีม

      เฟร์เนล ดิอ๊าซ เฮ้ดโค้ชของ ฆูเนียร์ ไม่มีปัญหาหนักใจอะไรในเรื่องนักเตะบาดเจ็บหรือติดโทษห้ามแข่งเลยสักคน นั่นหมายความว่า ดิอ๊าซ สามารถเลือกจัด 11 ตัวจริงที่ดีที่สุดได้แน่ ซึ่งจะนำทีมมาโดย เซบาสเตียน บิเอร่า (10 นัด), ฆอร์เก้ อาริอาส (7 นัด / 1 ประตู), เซบาสเตียน เอร์นานเดซ (14 นัด) และ ยิมมี่ ชาร่า (7 นัด / 2 ประตู)

      มาร์โก โรเซ่ นายใหญ่ของ ซัลซ์บวร์ก ต้องรอเช็คฟิตของ อมาดู ไฮดาร่า (27 นัด / 2 ประตู) กับ คริสตอฟ ไลต์เกบ (9 นัด) ว่าพร้อมลงช่วยทีมได้ทันหรือไม่ แต่จุดอื่นๆ พร้อมลุยเพื่อต้นสังกัดกันทั้งหมด คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง จะประกอบไปด้วย มูนาส ดับบูร์ (28 นัด / 19 ประตู) และ ชาน ควาง เฮ (18 นัด / 4 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ซัลซ์บวร์ก (4-3-1-2) : อเล็กซานเดอร์ วัลเก้ - สเตฟาน ไลเนอร์, อันเดร รามัลโญ่, ดูเย่ กาเลต้า คาร์, อันเดรียส อัลเมอร์ - อมาดู ไฮดาร่า, ซาเวอร์ ชลาเกอร์, วาลอน เบริช่า - ทาคุมิ มินามิโนะ - มูนาส ดับบูร์, ชาน ควาง เฮ

      รูดี้ การ์เซีย เทรนเนอร์ของ มาร์กเซย มีปัญหาใหญ่ในแนวรับ เมื่อไร้เงาของ สตีฟ ม็องด็องด้า (28 นัด), บูบาการ์ กามาร่า (3 นัด) และ ฮิโรกิ ซากาอิ (31 นัด) ที่โดนอาการเจ็บเล่นงาน ส่วนในรายของ โรลันโด้ (28 นัด / 1 ประตู) ปราการหลังชาวโปรตุเกสต้องรอเช็คความฟิตก่อนลงสนามอีกครั้ง แต่คาดว่าคงเล่นไหว

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
มาร์กเซย (3-4-3) : โยอัน เปเล่ - อาดิล รามี่, ลุยซ์ กุสตาโว่, โรลันโด้ - บูน่า ซาร์, ซัมโบ อังกูอิสซ่า, มอร์ก็อง ซ็องซง, ฌอร์ด็อง อามาวี่ - ดิมิทรี ปาเยต์, คอสตาส มิโตรกลู, ลูคัส โอคัมปอส