วิเคราะห์บอล / วิเคราะห์บอลวันนี้

      อาคิม เบเยอร์ลอร์เซอร์ กุนซือของ ยาห์น เรเก้นส์บวร์ก จะหมดสิทธิ์ใช้งาน เบเนดิคต์ กิมเเบร์ (22 นัด / 1 ประตู) เพราะติดโทษแบนในนัดนี้ ส่วนในรายของ เซบาสเตียน ฟรายส์ (5 นัด) ยังต้องใช้บริการของโรงพยาบาลอยู่เหมือนเก่า แต่สำหรับ มาร์โก กรัตเนอร์ (28 นัด / 11 ประตู) กลับมาช่วยทีมได้เเล้ว

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ยาห์น เรเก้นส์บวร์ก (4-2-2-2) : ฟิลิปป์ เพนท์เก้ - เบเนดิคท์ ซอลเลอร์, อาสเกอร์ โซเรนเซ่น, มาร์วิน โนล, อเล็กซานเดอร์ นานด์ซิค - อันเดรียส ไกเพิ่ล, มาร์ค ไลส์ - ยานน์ จอร์จ, เซบาสเตียน สตอลเซ่ - ซาร์กิส อดัมยาน, มาร์โก กรัตเนอร์

      ดามีร์ บูริช เทรนเนอร์ของ กรอยเธอร์ เฟือร์ธ มีตัวเดี้ยงรายงานเข้ามา 3 คน คือ มาร์โก กาลิกูรี่ (28 นัด / 3 ประตู), มาธิส โบลลี่ และ เคย์เลน ไฮนด์ส นั่นหมายความว่า จุดที่ บูริช ต้องรีบแก้ไขคือ กองหลัง ภาระหน้าที่จึงไปตกอยู่ที่ ริชาร์ด แม็กยาร์ (16 นัด / 2 ประตู) แนวรับสัญชาติสวีดิช ที่จะลงเล่นแทน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
กรอยเธอร์ เฟือร์ธ (4-2-3-1) : ซัสชา บูร์เชิร์ต - โรแบร์โต้ ฮิลเบิร์ต, มาริโอ มาโลก้า, ริชาร์ด แม็กยาร์, มักซิมิเลี่ยน วิตเท็ค - ลูคัส กักกานิก, เลเวนต์ อายซิเซ็ค - คาห์เล็ด นาเรย์, จูเลี่ยน กรีน, เซบาสเตียน แอร์นส์ - ฟาเบียน รีส

      มานูเอล บอย์ม เฮ้ดโค้ชของ เอ๊าก์สบวร์ก จะไร้เงาของ เควิน ดานโซ่ (14 นัด / 2 ประตู), ราฟาเอล ฟรัมแบร์เกอร์ (9 นัด) และ คิเลี่ยน จาค็อบ (1 นัด) เนื่องจากกอดคอกันเดี้ยงทั้งหมด ส่วนในรายของ ดาเนี่ยล โอปาเร่ (17 นัด) แนวรับชาวกาน่าจะติดโทษห้ามแข่ง แต่สำหรับตัวหลักที่เหลือพร้อมลุยอยู่เเล้ว

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เอ๊าก์สบวร์ก (3-4-1-2) : มาร์วิน ฮิตซ์ - เจฟฟรี่ โกเวลูว์, รานี่ เคดิร่า, มาร์ติน ฮินเตเร็กเกอร์ - คู จา ชอล, โจนาต็อง ชมิด, ฟิลิปป์ มักซ์, ดาเนี่ยล เบเยอร์ - มิเชล เกรกอริช - เซร์กิโอ กอร์โดบา, คูบี้

      บรูโน่ ลาบบาเดีย นายใหญ่ของ โวล์ฟสบวร์ก มีลิสต์ลูกทีมเจ็บเหลืออยู่ 4 ราย ได้แก่ เจฟฟรี่ บรูม่า (10 นัด), ยานนิค แกร์ฮาร์ด (16 นัด / 1 ประตู), จิอันลูก้า อิตเตอร์ (5 นัด) และ อั๊ดเมียร์ เมห์เมดี้ (5 นัด / 1 ประตู) นั่นทำให้ ลาบบาเดีย มีทางเลือกในการจัดทัพมากขึ้น และคงจัดชุดใหญ่ลงบู๊แน่นอน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โวล์ฟสบวร์ก (4-3-3) : โกเยนส์ กัสตีลส์ - พอล เวอร์ฮาจ, ปอล เชคเกิ้ล, โรบิน น็อคเก้, วิลเลี่ยม - ดาเนี่ยล ดิดาวี่, อิ๊กนาซิโอ กามาโช่, มักซิมิเลี่ยน อาร์โนลด์ - โจซิป เบรคาโล่, นานี ดิมาต้า, ยูนุส มัลลี่

      ราล์ฟ ฮาเซ่นฮุตเทิ่ล เทรนเนอร์ของ ไลป์ซิก จะไร้เงาของ มาร์เซล ฮัลส์เท่นแบร์ก (15 นัด / 2 ประตู) กับ คอนราด เลเมอร์ (20 นัด) ที่โดนโรคเดี้ยงเล่นงาน ส่วนในรายของ ติโม แวร์เนอร์ (27 นัด / 11 ประตู) ต้องรอเช็คความฟิตก่อนลงสนามอีกครั้ง แต่ที่วืดอีกคนคือ อาเดโมล่า ลุคแมน (6 นัด / 1 ประตู) เพราะติดคัพ-ไทด์

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไลป์ซิก (4-2-2-2) : ปีเตอร์ กูลัคซี่ - ลูคัส คลอสเตอร์มันน์, อูปาเมกาโน่, อิบราอิมา โคนาเต้, แบร์นาร์โด้ - ดีเอโก้ เดมม์, นาบี เกอิต้า - เอมิล ฟอร์สเบิร์ก, บรูม่า - ฌอน ออกุสแต็ง, ติโม แวร์เนอร์

      รูดี้ การ์เซีย ผู้จัดการทีมของ มาร์กเซย มีรายชื่อนักเตะเจ็บ 3 คน คือ สตีฟ ม็องด็องด้า (28 นัด), อาดิล รามี (30 นัด / 1 ประตู) และ โรลันโด้ (27 นัด / 1 ประตู) ทำให้ปัญหาใหญ่ในเกมนี้คือ แนวรับ ซึ่ง การ์เซีย ต้องปรับแก้ด้วยการวางหมากมาในระบบ 3-4-3 โดย คอสตาส มิโตรกลู (15 นัด / 5 ประตู) จะยืนค้ำในแดนบน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
มาร์กเซย (3-4-3) : โยอัน เปเล่ - ฮิโรกิ ซาคาอิ, ลุยซ์ กุสตาโว่, บูบาการ์ กามาร่า - บูน่า ซาร์, ซัมโบ อังกูอิสซ่า, มอร์ก็อง ซ็องซง, ฌอร์ด็อง อามาวี่ - ดิมิทรี ปาเยต์, คอสตาส มิโตรกลู, ลูคัส โอคัมปอส

      จักรพันธ์ ปั่นปี เทรนเนอร์ของ ชลบุรี ยังไม่มีชื่อของ สุทธินันท์ พุกหอม ที่ยังเจ็บอยู่เหมือนเก่า ส่วนในรายของ อลงกรณ์ ประทุมวงศ์ (7 นัด) แบ็คซ้ายที่เจ็บจนถูกเปลี่ยนตัวออกในนัดก่อน น่าจะฟิตทันเวลา แต่สำหรับเเนวรุกยังอยู่กันครบครัน ทั้ง ซีโร่ อัลเวส (8 นัด / 1 ประตู) และ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ (9 นัด / 3 ประตู) ปีกจรวดทั้งสองฝั่ง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ชลบุรี (4-3-3) : ชนินทร์ แซ่เอียะ - ภานุพงศ์ พลซา, คิม คยอง-มิน, นัสตพล มาลาพันธ์, อลงกรณ์ ประทุมวงศ์ - สหรัฐ สนธิสวัสดิ์, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ, ธีระพงศ์ ดีหามแห - ซีโร่ อัลเวส, มาร์เคล ซานโตส, เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์

      สุรพงษ์ คงเทพ เฮ้ดโค้ชของ พัทยาฯ จะไร้เงาของ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี (4 นัด / 1 ประตู) กับ ศุภนันท์ บุรีรัตน์ (6 นัด) สองตัวเก่งที่โดนไข้เดี้ยงเล่นงาน ส่วนในรายของ ชญาวัต ศรีนาวงษ์ (9 นัด / 3 ประตู) และ ลูเคี่ยน (9 นัด / 7 ประตู) ต้องรอเช็คความฟิตก่อนลงสนามอีกครั้ง แต่ที่อดบู๊แน่นอนคือ อี วอน ยัง (9 นัด) เนื่องจากติดโทษแบน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
พัทยาฯ (3-4-1-2) : ปฏิวัติ คำไหม - อดิศักดิ์ แหวนหล่อ, สราวุธ กัลยาณบัณฑิต, นพรัตน์ สกุลอ๊อด - สุประวีณ์ มีประทัง, วรนาถ ทองเครือ, คิม แท-ยอน, จักรพันธ์ ไพรสุวรรณ - พิชา อุทรา - ราฟินญ่า, ฮิคารุ มิเนกิชิ

      มิซู ปาเตไลเน่น เฮ้ดโค้ชของ อุบล ยูเอ็มที ยังต้องรอเช็คความฟิตของ วุฒิชัย ทาทอง (6 นัด / 1 ประตู) ดาวยิงตัวเก๋าประจำทีมอีกครั้ง ว่าสุดท้ายเเล้วจะฟิตทันหรือเปล่า แต่เชื่อว่า ปาเตไลเน่น คงมั่นใจในกองหน้าตัวต่างชาติมากกว่า ซึ่งจะเป็นหน้าที่ของ มาร์ค ฮาร์ทมันน์ (9 นัด / 3 ประตู) กับ เมนเดส โรดริโก้ โดมิงเกซ (5 นัด)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
อุบล ยูเอ็มที (4-4-2) : สิทธิกร กล่ำใส - ปิยะชาติ ถามะพันธ์, บรินเนอร์ ซานโตส, สุรีย์ สุขะ, ยศวรรธน์ มนทา - วัชระ เกรียรัมย์, ธัญพิสิษฐ์ คุขะละโม, เคนตะ มายาซากิ, วุฒิชัย ทาทอง - มาร์ค ฮาร์ทมันน์, เมนเดส โรดริโก้ โดมิงเกซ

      รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค ผู้จัดการทีมขัดตาทัพของ โปลิศ เทโร ต้องรอลุ้นความฟิตของ อ่อง ธู (8 นัด / 4 ประตู) หัวหอกทีมชาติพม่าอีกครั้ง ว่าพร้อมลุยหรือไม่ ส่วนขุมกำลังคนอื่นๆ พร้อมรับใช้ต้นสังกัดกันทั้งหมด คาดว่า คู่ศูนย์หน้าในเกมนี้จะเป็น มิชาแอล เอ็นดรี้ (8 นัด / 5 ประตู) ยืนเคียงข้างกับ มาร์กอส วินิซิอุส (7 นัด / 1 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โปลิศ เทโร (4-4-2) : นนท์ ม่วงงาม - นิคม สมหวัง, ทิตาวีร์ อักษรศรี, อี จอง กึน, กฤษณ์พรหม บุญสาร - มงคล ทศไกร, นพพล พลคำ, ธีระพล เยาะเย้ย, ดักลาส ดา ซิลวา - มิชาแอล เอ็นดรี้, มาร์กอส วินิซิอุส

      อำนาจ แก้วเขียว เฮ้ดโค้ชของ บางกอกกล๊าส จะไร้เงาของ ชาตรี ฉิมทะเล (6 นัด) หัวหอกประสบการณ์สูงคนเดียวเท่านั้น ที่ยังเจ็บค้างสต็อก ส่วนกำลังรบที่เหลือพร้อมลุยกันอยู่นานเเล้ว คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง จะนำทีมมาโดย ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ (9 นัด / 1 ประตู) กับ มาริโอ ยูรอฟสกี้ (9 นัด / 4 ประตู) สองกองกลางตัวเมพ

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
บางกอกกล๊าส (4-3-3) : นริศ ทวีกุล - สหรัฐ ปองสุวรรณ, แมทธิว สมิธ, ปิยะชนก ดาฤทธิ์, พิชิต เกสโร - ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์, ดาเนียล โตตี - มาริโอ ยูรอฟสกี้, เฟรเดริก เมนดี, สุรชาติ สารีพิมพ์

      ไพโรจน์ บวรวัฒนดิลก กุนซือของ สุโขทัย เตรียมขนชุดที่ดีที่สุดลงบู๊เลย เนื่องจากลูกทีมฟิตเต็มสูบกันทั้งหมด เชื่อว่า "โค้ชเบ๊" จะวางหมากมาในระบบ 4-3-3 โดยจะมี "สามต่างชาติ" แดนเกมรุกแดนบน ได้แก่ เนลสัน โบนีญ่า (9 นัด / 8 ประตู), จอห์น บาจโจ้ (9 นัด / 2 ประตู) และ เอ็นจีว่า ราโคโตฮาริมาลาล่า (8 นัด / 5 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
สุโขทัย (4-3-3) : ไพโรจน์ เอี่ยมมาก - เอกสิทธิ์ ฉาวบุตร, ยุทธพงษ์ ศรีละคร, นรงฤทธิ์ บุญสุข, ปิยะราษฎร์ ลาจังหรีด - คัพฟ้า บุญมาตุ่น, จอง มยอง โอ, สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ - เนลสัน โบนีญ่า, จอห์น บาจโจ้, เอ็นจีว่า ราโคโตฮาริมาลาล่า

      ชำนาญ แพรขุนทด เทรนเนอร์ของ ราชนาวี จะหมดสิทธิ์ใช้งาน โรดริโก้ แวร์จิลิโอ (6 นัด / 1 ประตู) กับ นรากร คณา (2 นัด) ที่ควงเเขนกันเดี้ยงเหมือนเก่า ส่วนในรายของ ชลิตพงษ์ จันทกล (5 นัด) แนวรับตัวแกร่งจะติดโทษห้ามแข่ง ยังดีที่ตัวหลักคนอื่นๆ พร้อมลุยกันได้ โดยจะมี ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ (9 นัด) ลงประคองน้องๆ ในเเนวรับ

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ราชนาวี (4-3-3) : อินทรัตน์ อภิญญากุล - มารุต ดอกมะลิป่า, ภานุวัฒน์ ไฟไหล, ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์, ชณธวัฒน์ ศรีสุข - เกรียงไกร พิมพ์รัตน์, พัง ซึง ฮวาน, อมาดู อูยัตตาร่า - วิคเตอร์ จูเนียร์, กาเบรียล คว็อก, ชุษณะ นัมคณิสร

      เดนนิส อมาโต้ นายใหญ่ของ ชัยนาท ฮอร์นบิล จะไม่มีชื่อของ ปริญญา อู่ตะเภา (5 นัด) ปราการหลังตัวสำคัญที่โดนอาการเจ็บเล่นงาน คาดว่า อมาโต้ น่าจะปรับ 11 ขุนพลจากเกมที่แพ้ ชลบุรี 0-2 หลายตำแหน่ง โดยชื่อของ พรเทพ จันทร์ไข่ (7 นัด) กับ ลักษณะ คำรื่น (5 นัด) สองตัวเก๋าของทีมน่าจะออกสตาร์ทเป็น 11 ตัวจริง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ชัยนาท ฮอร์นบิล (3-4-3) : ธีรัตม์ นาคชำนาญ - พรเทพ จันทร์ไข่, ชัชชน ใจรังสี, ณัฐพล เทพอุทัย - เกียรติศักดิ์ เจียมอุดม, อนุวัติ น้อยชื่นพันธ์, สันติภาพ ราษฎร์นิยม, ลักษณะ คำรื่น - ฉัตรชัย คุ้มพญา, ดิยุฟ บิรัม, ธานัท จันทะยา

      จเด็จ มีลาภ นายใหญ่ของ การท่าเรือ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน เซร์คิโอ ซัวเรซ (8 นัด / 5 ประตู) เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่งที่เดี้ยงอยู่ ส่วนในรายของ คิม ซุง ฮวาน (7 นัด) กองกลางตัวหลักอีกคนดันมาติดโทษแบนอีก นั่นคือปัญหาที่ "เซอร์เด็จ" ต้องแก้ไขในทันที แต่ตัวจบสกอร์ขั้นเทพอย่าง ดราแกน บอสโควิช (9 นัด / 3 ประตู) พร้อมล่าตาข่ายเเน่นอน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
การท่าเรือ (4-3-3) : วรวุฒิ ศรีสุภา - นิติพงษ์ เสลานนท์, อธิบดี เอติรัตน์, ดาบิด โรเชล่า, เควิน ดีรมรัมย์ - ศิวกร จักขุประสาท, อดิศร แดงเรือง, บดินทร์ ผาลา - ปกรณ์ เปรมภักดิ์, ดราแกน บอสโควิช, นูรูล ศรียานเก็ม

      โบซิดาร์ บันโดวิช เฮ้ดโค้ชของ บุรีรัมย์ฯ เตรียมโรเตชั่นนักเตะในนัดนี้ เพราะมีคิวหวดชี้ชะตาในศึกเอเอฟซี เเชมเปี้ยนส์ ลีก รออยู่ในสัปดาห์หน้า โดยคนที่น่าจะได้พักชัวร์ๆ คือ ดิโอโก หลุยส์ ซานโต (9 นัด / 11 ประตู) ดาวยิงตัวเก่งประจำทีม ซึ่งตัวตายตัวแทนจะเป็น ศุภชัย ใจเด็ด (8 นัด) ที่จะลงคู่กับ เอ็ดการ์ บรูโน่ (8 นัด / 2 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
บุรีรัมย์ฯ (3-4-1-2) : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน - ประวีณวัช บุญยงค์, พรรษา เหมวิบูลย์ ยู จุน ซู - เอกลักษณ์ ทองกริต, อานนท์ อมรเลิศศักดิ์, สุเชาว์ นุชนุ่ม, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม - สุภโชค สารชาติ - ศุภชัย ใจเด็ด, เอ็ดการ์ บรูโน่

      ธวัชชัย ดำรงค์อ่องตระกูล ผู้จัดการทีมของ ประจวบฯ ไม่มีปัญหาใดในการจัดทัพ เพราะสภาพความพร้อมของทีมสมบูรณ์ดี 100% นั่นหมายความว่า "โค้ชวัง" สามารถก็อปปี้ 11 ตัวจริงจากนัดก่อนๆ มาใช้งานต่อได้เลย โดยจะมี โจนาธาน รีส (9 นัด / 6 ประตู) หัวหอกชาวบราซิล ยืนผลิตสกอร์ในแดนหน้าเหมือนเก่าเหมือนเดิม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ประจวบฯ (4-3-3) : ขวัญชัย สุขล้อม - อดุลย์ หมื่นสมาน, ควอน แต ฮี, อัดนาน โอราโฮวัช, ซีเกต หมาดปูเต๊ะ - วันเฉลิม ยิ่งยง, จิตปัญญา ทิสุด, กฤษณนน ศรีสุวรรณ - อมร ธรรมนาม, ลอนซาน่า ดูมบูญ่า, โจนาธาน รีส

      สมชาย ไม้วิลัย กุนซือของ ราชบุรีฯ จะไร้เงาของ รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก (3 นัด) กับ กิตติพงษ์ ภูแถวเชือก (4 นัด) ที่เจ็บยาวอยู่ก่อนหน้านี้ ส่วนในรายของ ปฐมชัย เสือสกุล (9 นัด / 2 ประตู) ห้องเครื่องตัวเก่งจะติดโทษห้ามแข่งในเกมนี้ แต่กำลังหลักยังอยู่กันครบ ไม่ว่าจะเป็น อภิวัฒน์ งั่วลำหิน (9 นัด) และ ชุติพนธ์ ทองแท้ (8 นัด / 2 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ราชบุรีฯ (4-4-2) : อุกฤษ วงศ์มีมา - ศิลา ศรีกำปัง, โจเอล ซามี่, อภิวัฒน์ งั่วลำหิน, ฟิลิป โรลเลอร์ - เฟลิเป้ เมเนเซส, จอนาตา แวร์ซูรา, คัง ซู อิล, ชุติพนธ์ ทองแท้ - โรซิมาร์ อมานซิโอ, มนตรี พรหมสวัสดิ์

      จอห์น เชอริดาน เทรนเนอร์ของ ฟลีทวู้ด ไม่มีปัญหาใดในการจัดทัพ เพราะสภาพความพร้อมของลูกทีมทุกคนสมบูรณ์ดี 100% นั่นหมายความว่า เชอริดาน จะสามารถก็อปปี้ 11 ขุนพลจากนัดก่อนๆ มาใช้งานได้ต่อเนื่อง โดยจะมี ฮิวูล่า มายิฟีล่า (38 นัด / 8 ประตู) และ แพ็ดดี้ เม่ดเด้น (15 นัด / 5 ประตู) ลงล่าตาข่ายคู่กัน

      คาร์ล โรบินสัน กุนซือของ อ็อกซ์ฟอร์ด จะหมดสิทธิ์ใช้งาน จอร์ช รูฟเฟิ่ลส์ (33 นัด / 5 ประตู) กับ ไอแซค บั๊คลี่ย์-ริคเก็ตส์ (10 นัด) ที่ควงเเขนกันเดี้ยงอยู่ แต่กำลังรบคนอื่นๆ พร้อมลุยเพื่อต้นสังกัดกันทั้งหมด คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง จะนำทีมมาโดย เวสลี่ย์ โทมัส (33 นัด / 10 ประตู) ดาวยิงตัวเก๋าประสบการณ์สูง

      ดีน ออสติน เฮ้ดโค้ชของ นอร์ทแฮมป์ตัน จะไร้เงาของ อารอน ฟิลลิปส์ (2 นัด) มิดฟิลด์วัย 24 ปี ที่โดนไข้เดี้ยงเล่นงาน ส่วนในรายของ อารอน ปิแอร์ (19 นัด / 1 ประตู) แนวรับตัวเก่งต้องรอเช็คฟิตกันอีกครั้ง แต่ที่วืดแน่ๆ ในนัดนี้คือ แอชตัน เทย์เลอร์ (41 นัด / 3 ประตู) ปราการหลังตัวหลัก เนื่องจากจะติดโทษห้ามแข่ง

      แกรี่ โบว์เยอร์ ผู้จัดการทีมของ แบล็คพูล จะขาดหายไปเพียงเเค่ เคลวิน เมลเลอร์ (26 นัด / 5 ประตู) ห้องเครื่องตัวสำคัญที่เจ็บอยู่ ส่วนในรายของ ไคลด์ วาสเซลล์ (27 นัด / 10 ประตู) กับ จิม แม็คอาลิสเตอร์ ต้องรอเช็คความฟิตก่อนลงสนามกันอีกครั้ง คาดว่า โบว์เยอร์ น่าจะเรียกใช้ตัวหลักๆ ที่เหลือเป็นชุดเดิมต่อไปอีกนัด

      ลี โบว์เยอร์ นายใหญ่ของ ชาร์ลตัน สามารถเรียกตัว อาเหม็ด คาชี่ (31 นัด / 2 ประตู) กองกลางตัวสำคัญ มาใช้งานในนัดนี้ได้ เพราะหายเจ็บหลังเรียบร้อย นั่นหมายความว่า โบว์เยอร์ ไม่น่าคิดเปลี่ยนแปลง 11 ขุนพลในตำแหน่งอื่นๆ อีก โดยจะมี โจ แอร์โบ (22 นัด / 5 ประตู) และ เจค แคสคีย์ (35 นัด / 5 ประตู) พาเหรดกันลงสู่สนาม

      นีล อาร์ดลี่ย์ กุนซือของ วิมเบิลดัน มีข่าวดีเข้ามาก่อนเกมเมื่อ โจ พิก็อตต์ (12 นัด / 2 ประตู) แนวรุกวัย 24 ปี สลัดคราบเดี้ยงกลับมาช่วยทีมได้ทันเวลา แต่กำลังหลักคนอื่นๆ อย่าง ไลย์ เทเลอร์ (40 นัด / 12 ประตู), โคดี้ แม็คโดนัลด์ (32 นัด / 5 ประตู) และ แอนดรูว บาร์ชแฮม (39 นัด / 4 ประตู) พร้อมลงเล่นเป็น 11 ตัวจริง ตั้งนานแล้ว

      พอล คุ๊ก นายใหญ่ของ วีแกน ยังไม่มีชื่อของ เคร็ก มอร์แกน ปราการหลังตัวเก๋าประจำทีมที่โดนโรคเดี้ยงเล่นงาน ส่วนในรายของ ฌอน แม็คโดนัลด์ กองกลางชาวเวลส์ ก็ต้องรอเช็คความฟิตก่อนลงสนามอีกครั้ง แต่ไม่น่าจะส่งผลอะไรในการจัดทัพของ คุ๊ก เพราะเตรียมตัวขน 11 ขุนพลชุดปัจจุบันลงเล่นกันอย่างต่อเนื่องอยู่เเล้วนั่นเอง

      คีธ ฮิลล์ ผู้จัดการทีมของ โรชเดล มีรายงานตัวเจ็บเข้ามา 3 ราย ได้แก่ แอนดี้ แคนนอน (21 นัด / 2 ประตู), ไนอัล คานาวาน (3 นัด) และ คีธ คีน (3 นัด) แต่กำลังรบที่เหลือพร้อมลุยอยู่นานเเล้ว คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง จะประกอบไปด้วย จิม แม็คนัลตี้ (34 นัด / 1 ประตู) และ คัลวิน แอนดรูว์ (24 นัด / 3 ประตู) เป็นตัวชูโรง

      โทนี่ โมว์เบรย์ เฮ้ดโค้ชของ แบล็คเบิร์น ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน ไรอัน นอมเบ (28 นัด) แนวรับวัย 20 ปี ที่มีอาการเจ็บรบกวน ส่วนในรายของ ดาร์ราฟ เลนิฮาน (8 นัด), เบน กลัดวิน (5 นัด) และ แฮร์รี่ แชปแมน (12 นัด / 1 ประตู) ต้องรอเช็คความฟิตก่อนลงสนามอีกครั้ง แต่สำหรับ แดนนี่ เกรแฮม (36 นัด / 13 ประตู) ไม่มีปัญหาอะไรในการล่าตาข่าย

      สตีฟ โลเวลล์ นายใหญ่ของ จิลลิ่งแฮม จะไร้เงาของ บิลลี่ บิงแฮม (9 นัด) กับ อารอน มอร์ริส ที่ยังเดี้ยงอยู่ ส่วนในรายของ จอร์ช ปาร์คเกอร์ (36 นัด / 9 ประตู), คัลลัม ไรล์ลี่ (9 นัด), แบร็ดลี่ย์ การ์มสตอน (15 นัด / 1 ประตู), คอนนอร์ โอกิลวี่ (35 นัด / 1 ประตู) ต้องเช็คฟิตกันก่อน แต่ที่วืดแน่ๆ คือ ลี มาร์ติน (32 นัด / 6 ประตู) จะติดโทษแบน

      เจฟ ไซบีน เทรนเนอร์ของ บีเลเฟลด์ จะไม่มีชื่อของ ไบรอัน เบห์เรนด์ (19 นัด / 1 ประตู) กับ นิลส์ ควอชเนอร์ (4 นัด) ที่ยังต้องใช้บริการของโรงพยาบาลต่อ ส่วนในรายของ จูเลี่ยน บอร์เนอร์ (26 นัด / 4 ประตู) และ คอนสแตนติน เคิร์ชเบาเมอร์ (26 นัด / 8 ประตู) สองกำลังสำคัญของทีมต้องมาติดโทษห้ามแข่งพอดีเลย

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
บีเลเฟลด์ (4-4-2) : สเตฟาน ออร์เตก้า - ฟลอเรียน ดิ๊ค, เฮนรี่ ไวเกลท์, สเตฟาน ซัลเกอร์, ฟลอเรียน ฮาร์แธร์ซ - พาทริค ไวห์เร๊าช์, มานูเอล เพรเทิ่ล, ทอม ชู๊ทซ์, คีนู สเต๊าด์ - อันเดรียส โฟเกิ้ลซามเมอร์, ฟาเบียน โคลส

      สเตฟาน ไลเทิ่ล ผู้จัดการทีมของ อินกอลสตัดท์ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน ดาริโอ เลซกาโน่ (21 นัด / 6 ประตู) หัวหอกชาวปารากวัยที่โดนไข้เดี้ยงเข้าครอบงำ ส่วนในรายของ คริสเตียน แทรช (21 นัด / 1 ประตู) ห้องเครื่องตัวเก่งจะติดโทษแบน เนื่องจากสะสมใบเหลืองครบโควต้าเเล้ว นั่นเป็นโจทย์ที่ ไลเทิ่ล ต้องแก้ไขในเกมนัดนี้

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
อินกอลสตัดท์ (4-2-3-1) : ออร์ยาน นีลันด์ - โทเบียส เลเวิ่ลส์, โทเบียส ชร็อค, มาร์วิน มาทิป, มาร์เซล เก๊าส์ - อัลม็อก โคเฮน, อัลเฟรโด้ โมราเลส - โธมัส เพลเดิ้ล, ซอนนี่ คิตเทิ่ล, โรเบิร์ต ไลเพิร์ตซ์ - มอริตซ์ ฮาร์ทมันน์

      อาคิม เบเยอร์ลอร์เซอร์ ผู้จัดการทีมของ ยาห์น เรเก้นส์บวร์ก จะไม่มีชื่อของ เซบาสเตียน นัชไรเนอร์ (26 นัด) ปราการหลังตัวหลัก เนื่องจากต้องพักรักษาตัว ส่วนในรายของ มาร์โก กรัตเนอร์ (28 นัด / 11 ประตู) ดาวยิงหมายเลขหนึ่งดันมาติดโทษห้ามแข่งอีก ทำให้ เบเยอร์ลอร์เซอร์ ต้องปรับทัพกันใหม่ เพื่ออุดรูรั่วที่เกิดขึ้นมา

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ยาห์น เรเก้นส์บวร์ก (4-2-3-1) : ฟิลิปป์ เพนท์เก้ - เบเนดิคท์ ซอลเลอร์, มาร์วิน โนล, อเล็กซานเดอร์ นานด์ซิค - อันเดรียส ไกเพิ่ล, มาร์ค ไลส์ - โจชัว มีส์, เซบาสเตียน สตอลเซ่, ซาร์กิส อดัมยาน - โยนาส เนต์เฟลด์

      มิคาเอล ฟรอนท์เซ็ค กุนซือของ ไกเซอร์ฯ มีรายงานตัวเจ็บแก๊งเดิม คือ ยูเลียโน่ โมดิก้า (5 นัด), แม็ดส์ อัลบัค (4 นัด), ดาเนี่ยล ฮาลฟาร์ (9 นัด / 1 ประตู) และ แค็กเปอร์ เพอร์ซีบิลโก้ (1 นัด) ส่วนในรายของ แบรนดอน บอร์เรลโล่ (18 นัด / 8 ประตู) จะติดโทษแบน ทำให้ รูเบน เยนส์เซ่น (8 นัด) ต้องลงรับสัมปทานเเทน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไกเซอร์ฯ (4-2-2-2) : มาริอุส มุลเลอร์ - เบนจามิน เคสเซล, ยาน คาลล์เซ่น-แบร็คเกอร์, สติเป วูกูร์, เลออน กูวาร่า - คริสตอฟ โมริตซ์, นิลส์ ซูแฟร์ต - ฟิลิปป์ เวเน่, รูเบน เยนส์เซ่น - ลูคัส สปาลวิส, โอซายาเมน โอซาเว่

      อูเว่ นอยฮุส นายใหญ่ของ ไดนาโม เดรสเดน เหลือเพียงแค่ โซเรน กอนเธอร์ (4 นัด) แนวรับประสบการณ์สูงเท่านั้นที่ยังเดี้ยงยาวอยู่ ส่วนขุมกำลังที่เหลือพร้อมให้เรียกใช้งานได้ทั้งหมด คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง จะนำทีมมาโดย ซาสชา โฮร์วาธ (14 นัด / 1 ประตู), มุสซ่า โคเน่ (8 นัด / 6 ประตู) และ ฮาริส ดุลเยวิช (22 นัด / 1 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไดนาโม เดรสเดน (4-3-3) : มาร์วิน ชว้าบ - นิคลาส คร๊อยเซอร์, ฟลอเรียน บัลลัส, มาร์เซล ฟรานเค่, ฟิลิป ไฮส์ - นิคลาส เฮาป์มันน์, มาร์โก ฮาร์ทมันน์, ริโก้ เบนาเลลี่ - ซาสชา โฮร์วาธ, มุสซ่า โคเน่, ฮาริส ดุลเยวิช

      ทอร์สเท่น ลีเบิร์คเน็ชท์ เทรนเนอร์ของ บราวน์ชไวก์ จะไร้เงาของ สตีฟ ไบรต์ครอยซ์ (15 นัด), โยเซฟ บัฟโฟ่ (11 นัด / 3 ประตู) และ จูเลียส ไบอาด้า (7 นัด) ที่โดนอาการเจ็บเล่นงาน แต่คงไม่มีปัญหาอะไรในการจัดทีม เนื่องจาก ลีเบิร์คเน็ชท์ เตรียมก็อปปี้ 11 ตัวจริงชุดเดิมมาใช้งานต่อ นำทีมมาโดย ซูเลมาน อับดุลลาไฮ (24 นัด / 7 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
บราวน์ชไวก์ (4-2-2-2) : ยัสมิน เฟย์ซิช - มักซิมิเลี่ยน ซอยเออร์, เฟรเดริค ตินกาเกอร์, กุสตัฟ วัลสวิค, เคน ไรเชิ่ล - ยาน ฮอชไชด์, มีร์โก โบลันด์ - จอร์จ ไตเกิ้ล, โอนูร์ บุลุต - ซูเลมาน อับดุลลาไฮ, โดมินิค คุมบาล่า

      เดนนิส อมาโต้ เฮ้ดโค้ชของ ชัยนาท ฮอร์นบิล ต้องรอเช็คความฟิตของ ปริญญา อู่ตะเภา (5 นัด) ปราการหลังตัวสำคัญอีกครั้ง หลังจากได้รับบาดเจ็บมาจากเกมลีกนัดก่อน เชื่อว่าเกมนี้ อมาโต้ น่าจะเลือกใช้ ฟลอร็องต์ ซินาม่า ปงโกลล์ (4 นัด) ยืนเป็นตัวคุมเกมกับ อนุวัติ น้อยชื่นพันธ์ (8 นัด / 1 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ชัยนาท ฮอร์นบิล (3-4-3) : อนุศิษฏ์ เติมมี - พรเทพ จันทร์ไข่, ชัชชน ใจรังสี, ณัฐพล เทพอุทัย - เกียรติศักดิ์ เจียมอุดม, อนุวัติ น้อยชื่นพันธ์, ฟลอร็องต์ ซินาม่า ปงโกลล์, สันติภาพ ราษฎร์นิยม - ฉัตรชัย คุ้มพญา, ดิยุฟ บิรัม, เบอร์นาร์ด ดูมเบีย

      จักรพันธ์ ปั่นปี กุนซือคนใหม่ของ ชลบุรี จะขาดหายไปเพียงแค่ สุทธินันท์ พุกหอม แนวรับตัวแกร่งที่เจ็บยาวอยู่ก่อนหน้านี้เท่านั้น ส่วนขุมกำลังที่เหลือฟิตเต็มสูบกันทั้งหมด คาดว่า จักรพันธ์ น่าจะยังยึด 11 ตัวจริงชุดเก่าที่ลงบู๊อยู่เป็นหลัก โดยจะมี มาร์เคลย์ ซานโต๊ส (6 นัด / 1 ประตู) ลงผลิตสกอร์

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ชลบุรี (4-2-3-1) : ชนินทร์ แซ่เอียะ - นพนนท์ คชพลายุกต์, ชลทิตย์ จันทคาม, คิม คยอง มิน, อลงกรณ์ ประทุมวงศ์ - วัฒนศัพท์ เจริญศรี, สหรัฐ สนธิสวัสดิ์ - ชิโร่ อัลเวส, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ, เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ - มาร์เคลย์ ซานโต๊ส

      ชำนาญ แพรขุนทด นายใหญ่ของ ราชนาวี จะไร้เงาของ โรดริโก้ แวร์จิลิโอ (6 นัด / 1 ประตู) กับ นรากร คณา (2 นัด) เนื่องจากมีอาการเจ็บรบกวน ส่วนกำลังรบที่เหลือพร้อมลุยเพื่อต้นสังกัดกันทั้งหมด ไล่มาตั้งแต่ ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ (8 นัด), เกรียงไกร พิมพ์รัตน์ (8 นัด) และ ชุษณะ นัมคณิสร (7 นัด / 2 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ราชนาวี (4-3-3) : อินทรัตน์ อภิญญากุล - มารุต ดอกมะลิป่า, ภานุวัฒน์ ไฟไหล, ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์, ชณธวัฒน์ ศรีสุข - เกรียงไกร พิมพ์รัตน์, พัง ซึง ฮวาน, อมาดู อูยัตตาร่า - วิคเตอร์ จูเนียร์, กาเบรียล คว็อก, ชุษณะ นัมคณิสร

      สันติ ไชยเผือก เฮ้ดโค้ชของ เมืองทองฯ จะไม่มีชื่อของ ชาช่า โคเอลโญ่ (6 นัด / 3 ประตู) หัวหอกตัวเก่งที่โดนไข้เดี้ยงเล่นงาน ส่วนในรายของ ชาริล ชัปปุยส์ (8 นัด) กองกลางหน้าหล่อจะติดโทษแบน เพราะโดนไล่ออกมาในเกมก่อน แต่ก็จะได้ สารัช อยู่เย็น (7 นัด) สวนทางกลับมาคุมจังหวะเกมกลางสนาม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เมืองทองฯ (4-3-3) : ประสิทธิ์ ผดุงโชค - ทริสตอง โด, เซลิโอ ซานโต๊ส, นาโออากิ อาโอยามะ, พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา - สารัช อยู่เย็น, ทศวรรษ ลิ้มวรรณเสถียร, รัชพล นาวันโน - สิโรจน์ ฉัตรทอง, เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดซ, เจนรบ สำเภาดี

      เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เฮ้ดโค้ชของ เซลติก ไม่มีปัญหาเรื่องสภาพความพร้อมของทีม เพราะได้ตัว เลจ กริฟฟิธส์ (21 นัด / 8 ประตู) และ แพทริค โรเบิร์ตส์ (8 นัด) ฟิตกลับมาร่วมทัพได้อีกครั้ง เหลือเเต่เพียงว่า "บีร็อดจ์" จะเลือกใช้งานใครก็เท่านั้นเอง แต่เชื่อว่า มุสซ่า เดมเบเล่ (22 นัด / 8 ประตู) น่าจะได้ลงล่าตาข่ายต่อ

      มาร์ติน แคนนิ่ง นายใหญ่ของ แฮมิลตัน จะหมดสิทธิ์ใช้งาน อเล็กซ์ โกกิช (18 นัด / 1 ประตู) และ ดาร์เรน เจมีสัน (2 นัด) ที่มีอาการเจ็บรบกวนอยู่ แต่ขุมกำลังที่เหลือพร้อมลุยอยู่นานเเล้ว คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง จะนำทีมมาโดย ดูกี้ อิมรี่ (29 นัด / 6 ประตู) กับ เดวิด เทมเปลตัน (23 นัด / 6 ประตู)

      จูเลี่ยน นาเกิ้ลมันน์ เทรนเนอร์ของ ฮอฟเฟ่นไฮม์ จะไร้เงาของ เออร์มิน บิซัคซิช (7 นัด) กับ เดนนิส ไกเกอร์ (21 นัด / 2 ประตู) ที่กอดคอกันเจ็บอยู่ แต่เชื่อว่าคงไม่มีปัญหาอะไรในชั่วโมงนี้ เพราะ นาเกิ้ลมันน์ น่าจะเลือกใช้ 11 ขุนพลชุดเดิมลุยงานต่อ เนื่องจากลูกทีมทุกคนทำหน้าที่กันได้ยอดเยี่ยมอยู่เเล้ว

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮอฟเฟ่นไฮม์ (3-4-3) : โอลิเวอร์ เบามันน์ - เควิน อัคโปกูม่า, เควิน โฟ้กท์, เบนจามิน ฮุบเนอร์ - พาเวล คาเดราเบค, ลูคัส รัปป์, ฟลอเรียน กริลลิช, นิโก้ ชูลซ์ - อันเดร ครามาริช, มาร์ก อูธ, แซร์ก จีนาบรี้

      นิโก้ โควัค นายใหญ่ของ แฟร้งค์เฟิร์ต จะไม่มีชื่อของ "สามเดี้ยง" เซ็ตเดิม ได้แก่ การ์ลอส ซัลเซโด้ (18 นัด), มาสกาเรล (5 นัด) และ อเล็กซานเดอร์ เมเยอร์ นั่นหมายความว่า โควัค แทบจะไม่ต้องปรับทัพอะไรมากมาย แถมข่าวดีที่มีเข้ามาในวันนี้คือ มาร์โก ฟาเบียน (3 นัด) พร้อมลงปั้นเกมให้กับทีมด้วย

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แฟร้งค์เฟิร์ต (3-4-1-2) : ลูคัส ฮราเด็กกี้ - มาร์โก รุส, ดาบิด อับราฮัม, มาโกโตะ ฮาเซเบะ - แดนนี่ ดา คอสต้า, โจนาธาน เดอ กุซมัน, เควิน พริ๊นซ์ บัวเต็ง, ทิโมธี แชนด์เลอร์ - มาริอุส โวล์ฟ - มาร์โก ฟาเบียน, ลูก้า โยวิช

      ตายฟุน คอร์คุต กุนซือของ สตุ๊ตการ์ต จะหมดสิทธิ์ใช้งาน ติโม บอย์มการ์เทิ่ล (24 นัด) และ การ์ลอส มาเน่ ที่ยังต้องใช้บริการของโรงพยาบาลอยู่ ส่วนในรายของ อันเดรียส เบ็ค (21 นัด / 1 ประตู) กลับมาแล้ว หลังชดใช้โทษแบนเรียบร้อย ทำให้ เบนจามิน ปาวาร์ (27 นัด / 1 ประตู) จะกลับไปยืนที่เดิม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
สตุ๊ตการ์ต (4-4-2) : รอน โรเบิร์ต ซีเลอร์ - อันเดรียส เบ็ค, เบนจามิน ปาวาร์, โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์, เอมิเลียโน่ อินซัว - คริสเตียน เกนท์เนอร์, ซานติอาโก้ อัสกากิบาร์, เดนนิส อาโอโก้, อีริค ธอมมี่ - มาริโอ โกเมซ, ดาเนี่ยล กินเซค

      ปีเตอร์ สโตเกอร์ นายใหญ่ของ ดอร์ทมุนด์ จะไร้เงาของ ดาน ซากาดู (11 นัด / 1 ประตู), ราฟาเอล เกร์ไรโร่ (8 นัด / 1 ประตู), เอริค ดอย์ม, ชินจิ คากาวะ (18 นัด / 5 ประตู) และ เซบาสเตียน โร้ด เนื่องจากยังเจ็บไม่หาย คาดว่า โอเมอร์ โทพรัค (21 นัด) ที่สลัดคราบเดี้ยงได้เเล้ว จะถูกส่งลงทันทีในแนวรับ

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ดอร์ทมุนด์ (4-3-3) : โรมัน บูร์กี - ลูคัส พิสเซค, มานูเอล อาคานยี่, โอเมอร์ โทพรัค, มาร์เซล ชเมลเซอร์ - มามุด ดาฮุด, นูรี ซาฮิน, จูเลี่ยน ไวเกิ้ล - คริสเตียน พูลิซิช, มิชี่ บัตชัวยี่, มักซิมิเลี่ยน ฟิลิปป์

      โบซิดาร์ บันโดวิช เทรนเนอร์ของ บุรีรัมย์ฯ ได้ตัว อันเดรส ตูเญซ กองหลังตัวแกร่งกลับมาเป็นทางเลือกให้กับทีมได้อีกครั้ง หลังจากฟิตเต็มสูบเรียบร้อย ส่วนกำลังรบคนอื่นๆ ก็ไม่มีปัญหาใดในการเรียกใช้งาน คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงคงเป็นเซ็ตเดิม นำทีมมาโดย ดิโอโก หลุยส์ ซานโต (8 นัด / 11 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
บุรีรัมย์ฯ (3-4-1-2) : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน - ประวีณวัช บุญยงค์, อันเดรส ตูเญซ, พรรษา เหมวิบูลย์ - กรกช วิริยอุดมศิริ, รัตนากร ใหม่คามิ, จักรพันธ์ แก้วพรม, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม - สุภโชค สารชาติ - ดีโอโก้ หลุยส์ ซานโต, เอ็ดการ์ บรูโน่

      อเดบาโย่ กาเดโบ้ นายใหญ่ของ สุพรรณบุรี ยังไร้เงาของ อดุล หละโสะ (6 นัด) ห้องเครื่องตัวเก๋าที่อาการเดี้ยงยังไม่ดีขึ้น ส่วนในรายของ โรมูโล คาบราล (7 นัด / 2 ประตู) แนวรุกบราซิเลี่ยน กลับมาประจำการได้อีกครั้ง หลังชดใช้โทษเรียบร้อย แต่สำหรับ นฤพน พุฒซ้อน (8 นัด) พร้อมลุยเหมือนเดิม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
สุพรรณบุรี (3-4-3) : สินทวีชัย หทัยรัตนกุล - ทินกร อสุรินทร์, อันแดร์สัน โดส ซานโตส, สุพรรณ ทองสงค์ - ณัฐพงษ์ สมณะ, ทาคาฟูมิ อากาโฮชิ, นฤพน พุฒซ้อน, วสันต์ ฮมแสน - ธนาสิทธิ์ ศิริผลา, ซิลวาโน กอมฟาลิอุส, โรมูโล่ คาบราล

      โดเมนิโก้ เทเดสโก้ ผู้จัดการทีมของ ชาลเก้ เหลือตัวเจ็บค้างสต็อกแค่คนเดียวคือ อับดู บาบา แนวรับชาวกานา ส่วนขุมกำลังที่เหลือพร้อมลุยกันอยู่นานเเล้ว คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง ไม่น่าจะต่างไปจากเดิม เพราะทุกคนทำหน้าที่กันได้ดีอยู่เเล้ว โดยจะมี กีโด้ บวร์กสตัลเลอร์ (26 นัด / 9 ประตู) เป็นหน้าเป้า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ชาลเก้ (3-4-3) : ราล์ฟ ฟาห์รมันน์ - เบนจามิน สตอมบูลี่, นัลโด้, มาติย่า นาสตาซิช - ดาเนี่ยล คาลิกูรี่, นาบิล เบนตาเลบ, เลออน โกเร็ตส์ก้า, บาสเตียน อ๊อกซิปก้า - ฟรังโก้ ดิ ซานโต้, กีโด้ บวร์กสตัลเลอร์, บรีล เอ็มโบโล่

      คริสเตียน ติตซ์ กุนซือของ ฮัมบูร์ก จะไม่มีชื่อของ นิโคไล มุลเลอร์ (1 นัด / 1 ประตู) ที่ยังเดี้ยงเหมือนเก่า ส่วนในรายของ แมร์กิม มาฟราย (17 นัด) และ วาเลซ (18 นัด / 1 ประตู) ยังถูกลงโทษทางวินัยอยู่ อีกคนที่อดบู๊ในเกมนี้คือ กีเดียน จุง (25 นัด / 1 ประตู) กองกลางตัวเก่ง เพราะจะติดโทษห้ามแข่ง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮัมบูร์ก (4-5-1) : จูเลี่ยน โพลแลร์เบ็ค - โกโตคุ ซากาอิ, คิเรียกอส ปาปาโดปูลอส, สเตฟาน อัมโบรซิอุส, ดั๊กลาส - ฟิลิป คอสติช, อารอน ฮันท์, มัตตี้ สไตน์มันน์, ลูอิส โฮลท์บี้, ทัตสึยะ อิโตะ - จานลูก้า วัลด์ชมิดท์

      จุ๊ป ไฮย์เกส กุนซือของ บาเยิร์น จะไม่มีชื่อของ มานูเอล นอยเออร์ (3 นัด), ดาวิด อลาบา (22 นัด / 1 ประตู), คิงส์ลี่ย์ โกม็อง (21 นัด / 3 ประตู) และ อาร์ตูโร่ วิดัล (22 นัด / 6 ประตู) ที่โดนอาการเจ็บรบกวน คาดว่า ไฮย์เกส จะมีการสลับสับเปลี่ยนขุมกำลังหลายราย เพราะเพิ่งดวลเดือดกับ เซบีญ่า มาหมาดๆ

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
บาเยิร์น (4-2-3-1) : สเวน อูลไรช์ - โจฌัว กิมมิค, นิคลาส ซูเล่, เจอโรม บัวเต็ง, ราฟินญ่า - โกร็องแต็ง โตลิสโซ่, เซบาสเตียน รูดี้ - อาร์เยน ร็อบเบน, ฮาเมส โรดริเกวซ, ฟร้องค์ ริเบรี่ - โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

      มานูเอล บอย์ม นายใหญ่ของ เอ๊าก์สบวร์ก จะหมดสิทธิ์ใช้งาน เควิน ดานโซ่ (14 นัด / 2 ประตู) กับ ราฟาเอล ฟรัมแบร์เกอร์ (9 นัด) เนื่องจากยังเดี้ยงอยู่ ส่วนในรายของ ดาเนี่ยล เบเยอร์ (26 นัด) ห้องเครื่องตัวเก๋าของทีม ต้องรอเช็คความฟิตก่อนลงสนามอีกครั้ง แต่ที่แน่ๆ คือ คูบี้ (27 นัด / 5 ประตู) จะลงป่วนชัวร์ๆ

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เอ๊าก์สบวร์ก (3-4-3) : มาร์วิน ฮิตซ์ - รานี่ เคดิร่า, เจฟฟรี่ โกเวลูว์, มาร์ติน ฮินเตเร็กเกอร์ - โจนาต็อง ชมิด, แยน โมราเวค, ดาเนี่ยล เบเยอร์, ฟิลิปป์ มักซ์ - คู จา ชอล, คูบี้, มิเชล เกรกอริช

      พาล ดาร์ได นายใหญ่ของ แฮร์ธ่าฯ ต้องรอลุ้นเรื่องเดียวคือ ความฟิตของ นิคลาส สตาร์ค (23 นัด / 1 ประตู) และ วาเลนติโน่ ลาซาโร่ (21 นัด / 2 ประตู) ว่าจะทันมีส่วนร่วมหรือไม่ ส่วนในราย มาร์วิน แพลตเท่นฮาร์ด (27 นัด) แนวรับตัวแกร่ง กลับมาสู่ทีมได้ทันที หลังจากชดใช้โทษห้ามแข่งเรียบร้อยแล้ว

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แฮร์ธ่าฯ (4-3-3) : รูเน่ ยาร์สไตน์ - มิตเชล ไวเซอร์, นิคลาส สตาร์ค, คาริม เรกิ๊ก, มาร์วิน แพลตเท่นฮาร์ด - อาร์เน่ เมเยอร์, ฟาเบียน ลุสเตนแบร์เกอร์, วลาดิเมียร์ ดาริด้า - แมทธิว เล็กกี้, เวดัด อิบิเซวิช, ซาโลมง กาลู

      ดีเตอร์ เฮ็กคิงก์ กุนซือของ กลัดบัค เหลือลูกทีมเดี้ยงค้างสต็อกอีก 5 ราย ได้แก่ รีซ อ็อกซ์ฟอร์ด (3 นัด), เดนิส ซากาเรีย (25 นัด / 2 ประตู), อิบราฮิม่า ตราโอเร่ (3 นัด), มามาดู ดูกูเร่ และ ราอูล โบบาดีย่า (13 นัด) คาดว่า คู่กองหน้าจะเป็น ลาร์ส สไตน์เดิ้ล (28 นัด / 5 ประตู) กับ ราฟฟาเอล (21 นัด / 7 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
กลัดบัค (4-4-2) : ยาน ซอมเมอร์ - นิโก้ เอลเวดี้, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, มัทธีอัส กินเตอร์, ออสการ์ เวนด์ - พาทริค เฮอร์มันน์, มิกกาแอล กุสซ็อง, คริสโตฟห์ เครเมอร์, ธอร์แกน อาซาร์ - ลาร์ส สไตน์เดิ้ล, ราฟฟาเอล

      บรูโน่ ลาบบาเดีย เฮ้ดโค้ชของ โวล์ฟสบวร์ก มีนักเตะเจ็บในมือถึง 7 คน ไล่มาตั้งแต่ ยานนิค แกร์ฮาร์ด (16 นัด / 1 ประตู), เฟลิกซ์ อูดูโอไค (16 นัด / 1 ประตู), มาร์เซล ทิสเซอรันด์ (14 นัด), เจฟฟรี่ บรูม่า (10 นัด), จอห์น บรู้คส์ (7 นัด), ยาคุบ บลาสซีคอฟสกี้ (7 นัด / 1 ประตู) และ อั๊ดเมียร์ เมห์เมดี้ (5 นัด / 1 ประตู) ส่วนในรายของ โจฌัว กีลาโว้ก (26 นัด / 2 ประตู) จะโดนเเบน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โวล์ฟสบวร์ก (4-3-3) : โกเยนส์ กัสตีลส์ - พอล เวอร์ฮาจ, ปอล เชคเกิ้ล, โรบิน น็อคเก้, วิลเลี่ยม - เรนาโต้ สเตฟเฟ่น, อิ๊กนาซิโอ กามาโช่, มักซิมิเลี่ยน อาร์โนลด์ - ดาเนี่ยล ดิดาวี่, นานี ดิมาต้า, โจซิป เบรคาโล่

      คริสเตียน สไตรช์ เทรนเนอร์ของ ไฟร์บวร์ก มีรายชื่อตัวเดี้ยงอยู่ 5 ราย ได้แก่ อามีร์ อาบราชี่ (12 นัด), ไมค์ ฟร๊านซ์ (11 นัด), โยริก ราเว่ต์ (10 นัด), คาเล็บ สแตนโก้ (6 นัด) และ ฟลอเรียน นีแดร์เลชเนอร์ (10 นัด / 2 ประตู) ส่วนในรายของ นีล พีเตอร์เซ่น (26 นัด / 13 ประตู) หัวหอกตัวเทพประจำทีม อุทธรณ์ใบเหลืองแรกได้สำเร็จ จึงมีสิทธิ์ที่จะลงสนามล่าตาข่าย 

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไฟร์บวร์ก (3-4-3) : อเล็กซานเดอร์ ชโวลอฟ - โรบิน ค็อก, คักลาร์ โซยุนกู, มานูเอล กัลด์ - ปาสกาล สเตนเซิ่ล, แว็งซ็องต์ เซียร์โร่, นิโคลัส ฮอฟเลอร์, คริสเตียน กุนเตอร์ - ยานิค ฮาเบเรอร์, นีล พีเตอร์เซ่น, ฟลอเรียน คาธ