วิเคราะห์บอล / วิเคราะห์บอลวันนี้

      ซานโดร ชวาร์ซ นายใหญ่ของ ไมนซ์ จะไม่มีชื่อของ นิโก้ บุนแกร์ต เพราะโดนอาการเจ็บเล่นงาน ส่วนในรายของ โยชิโนริ มุโตะ (23 นัด / 7 ประตู), แดนนี่ ลัตซ่า (26 นัด / 2 ประตู), อับดู ดิยัลโล่ (23 นัด / 2 ประตู), โรบิน ไคสัน (20 นัด / 4 ประตู) และ สเตฟาน เบล (22 นัด / 1 ประตู) ต้องรอเช็คอาการกันก่อน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไมนซ์ (4-3-2-1) : เรเน่ อ๊าดเลอร์ - จูลิโอ โดนาติ, สเตฟาน เบล, อเล็กซานเดอร์ ฮัค, ดาเนี่ยล โบรซินสกี้ - ซูอัต แซร์ดาร์, ฌอง กีบาแมง, แดนนี่ ลัตซ่า - เลวีน ออซตูนาลี่, ปาโบล เดอ บลาซิส - เอมิล เบิร์กกรีน

      สเตฟาน รูเธนเบค เฮ้ดโค้ชของ โคโลญจน์ ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน เซห์รู กีราสซี่ (15 นัด / 4 ประตู) ที่ยังสลัดคราบเดี้ยงกลับมาไม่ได้ ส่วนในรายของ โยนาส เอคเตอร์ (14 นัด) และ มาร์เซล ริสเซ่ (11 นัด) ต้องรอเช็คความฟิตก่อนลงสนามอีกครั้ง แต่ที่วืดแน่ๆ คือ โดมินิค มาโร่ห์ (8 นัด) เพราะติดโทษห้ามเเข่ง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โคโลญจน์ (3-4-3) : ติโม ฮอร์น - ฆอร์เก้ เมเร่, เฟรเดอริก โซเรนเซ่น, โดมินิค ไฮนซ์ - มาร์เซล ริสเซ่, แว็งซ็องต์ โกซิเอลโล่, มาร์โก โฮเกอร์, โยนาส เอคเตอร์ - ยูยะ โอซาโกะ, ไซม่อน เทร็อด, เคลาดิโอ ปิซาร์โร่

      มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี กุนซือของ ยูเวนตุส จะไม่มีชื่อของ ฟิลิปโป้ แบร์นาร์เดสคี่ (15 นัด) กับ มาริโอ มานด์ซูคิช (26 นัด / 4 ประตู) สองกำลังสำคัญที่ยังต้องใช้บริการของโรงพยาบาลอยู่ เชื่อว่าเกมนี้ อัลเลกรี จะเลือกโรเตชั่นนักเตะแน่ๆ เพราะเพิ่งมีเกมกลางสัปดาห์ในศึกยูฟ่า เเชมเปี้ยนส์ ลีก

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ยูเวนตุส (4-3-2-1) : จานลุยจิ บุฟฟ่อน - สเตฟาน ลิชสไตเนอร์, เมห์ดิ เบนาเตีย, จอร์โจ้ คิเอลลินี่, ควัดโว่ อซาโมอาห์ - ซามี่ เคดิร่า, แบลส มาตุยดี้, มิราเลม ปานิช - เปาโล ดีบาล่า, ดั๊กลาส คอสต้า - กอนซาโล่ อิกวาอิน

      โรแบร์โต้ เด แซร์บี้ เฮ้ดโค้ชของ เบเนเวนโต้ จะไร้เงาของ บาการี่ ซาญ่า (5 นัด) กับ ลูก้า อันเต (8 นัด) ที่กอดคอกันเดี้ยงไม่หาย ส่วนในรายของ คริสเตียน ปุยโยนี่ (7 นัด) และ ฟาบิโอ ลูซิโอนี่ (8 นัด) ก็ดันมาติดโทษห้ามแข่งอีก นั่นทำให้ เด แซร์บี้ ต้องคิดหนักไม่น้อยในการวางหมากปรับเกม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เบเนเวนโต้ (4-3-3) : อัลแบร์โต้ บริ๊กโนลี่ - ลอเรนโซ่ เวนูติ, เบรัต ฌิมซิติ, อันเดรีย คอสต้า, อาลิน ตอสก้า - ดานิโล่ กาตัลดี้, ซานโดร, ฟิลิป ฌูริซิช - กีเยร์เม่, ปิเอโตร เยมเมลโล่, เอ็นริโก้ บริโญล่า

      โฆเซ่ กอนซาเลซ นายใหญ่ของ มาลาก้า จะหมดสิทธิ์ใช้งาน ฆวน การ์ลอส (10 นัด), ฆวนปี้ (16 นัด) และ อดัลเบร์โต้ เปนารันด้า (13 นัด) เพราะยังเจ็บไม่หาย คาดว่าเกมนี้ โฆเซ่ กอนซาเลซ จะฝากความหวังในการเดินเกมรุกไว้ที่ กอนซาโล่ กาสโตร (22 นัด / 4 ประตู) ปีกตัวเก่งชาวอุรุกวัยเจ้าเก่าเจ้าเดิม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
มาลาก้า (4-4-2) : โรเบร์โต้ ฆิเมเนซ - โรเบร์โต้ โรซาเลส, ลุยส์ เอร์นันเดซ, อิกนาซี่ มิเกล, มิเกล ตอร์เรส - อิสซัก ซักซีสส์, เมห์ดี้ ลาเซ่น, มานูเอล อิตูร์ร่า, กอนซาโล่ กาสโตร - ยูสเซฟ เอน-เนซีรี่, ดีเอโก้ โรลัน

      คลาเรนซ์ ซีดอร์ฟ เฮ้ดโค้ชของ ลา กอรุนญ่า จะไร้เงาของ เอเนโก้ โบเบด้า (8 นัด) และ เฟเด การ์ตาเบีย (19 นัด / 2 นัด) ที่ยังสลัดคราบเดี้ยงกลับมาไม่ได้ ส่วนในรายของ ลูซินโญ่ (23 นัด / 1 นัด) แนวรับตัวเก๋าจะติดโทษเเบน แต่สำหรับในแนวรุกยังมี อาเดรียน โลเปซ (23 นัด / 5 นัด) คอยล่าตาข่าย

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ลา กอรุนญ่า (4-3-1-2) : รูเบน มาร์ติเนซ - ฆวนฟราน, ซิดเน่, ราอูล อัลเบนโตซ่า, เฟร์นานโด นาบาร์โร่ - ซัลลี่ย์ มุนตารี่, เปโดร มอสเกร่า, กีเยร์เม่ - เอ็มเร่ โคลัก - ลูกัส เปเรซ, อาเดรียน โลเปซ

      ดามีร์ บูริช กุนซือของ กรอยเธอร์ เฟือร์ธ ยังไม่มีชื่อของ มาธิส โบลลี่ ดาวเตะไอเวอรี่โคสต์ ที่เดี้ยงยาวอยู่ก่อนหน้าคนเดียวเท่านั้น ส่วนกำลังรบที่เหลือไม่มีปัญหาใดในการรับใช้ต้นสังกัด คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง ไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เนื่องจากทีมกำลังลงตัวดีอยู่เเล้วในทุกจุด

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
กรอยเธอร์ เฟือร์ธ (4-2-3-1) : ซัสชา บูร์เชิร์ต - โรแบร์โต้ ฮิลเบิร์ต, มาริโอ มาโลก้า, มาร์โก กาลิกูรี่, มักซิมิเลี่ยน วิตเท็ค - ลูคัส กักกานิก, เจอร์เก้น กาจ์ซูล่า - คาห์เล็ด นาเรย์, จูเลี่ยน กรีน, เซบาสเตียน แอร์นส์ - ฟาเบียน รีส

      เคนาน โคซัค นายใหญ่ของ ซานด์เฮาเซ่น เหลือตัวเจ็บค้างสต็อกอีก 3 ราย ได้แก่ เคน กิปสัน (3 นัด), ทิม คิสเตอร์ (20 นัด) และ ฟิลิปป์ คลิ้งมันน์ (19 นัด / 2 ประตู) ส่วนในรายของ เดนิส ลินส์เมเยอร์ (26 นัด / 1 ประตู) ห้องเครื่องตัวสำคัญจะติดโทษแบน นั่นเป็นจุดที่ โคซัค ต้องรีบแก้ไข

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ซานด์เฮาเซ่น (4-2-3-1) : มาร์เซล ชูเฮน - มานูเอล สไตฟ์เลอร์, ทิม คิปปิ้ง, มาร์คุส คาร์ล, เลยาร์ต ปาการาด้า - สเตฟาน คูโลวิตส์, มักซ์ ยานเซ่น - เนย์เมดดิน ดั๊กห์ฟุส, ฟิลิปป์ ฟอร์สเตอร์, จูเลี่ยน เดอร์สตรอฟฟ์ - รูริค กิสลาสัน

      ฟลอเรียน โคห์เฟลด์ เฮ้ดโค้ชของ เบรเมน จะไม่มีชื่อของ มิคาเอล เซ็ตเตเรอร์, ลุดวิก ออกุสตินสัน (27 นัด / 1 ประตู), โอเล เคาเปอร์ (1 นัด), อารอน โยฮันส์สัน (11 นัด / 1 ประตู) และ ฟิน บาร์เทิ่ลส์ (14 นัด / 2 ประตู) ส่วนในรายของ นิโคลัส มอยซานเดอร์ (23 นัด / 1 ประตู) จะติดโทษห้ามเเข่ง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เบรเมน (4-3-3) : ยีรี พาฟเลนก้า - เกเบร เซลาสซี่, มิลอส เวลโกวิช, เซบาสเตียน ลังคัมป์, มาร์โก ฟรีเดิ้ล - มักซิมิเลี่ยน เอ็กเก้สไตน์, ฟิลิปป์ บาร์กเฟรเด้, โธมัส เดอลานี่ย์ - อิชัค เบลโฟดิล, มักซ์ ครูเซ่, ซลัตโก้ ยูนูโซวิช

      อันเดร ไบรเท่นไรเตอร์ เทรนเนอร์ของ ฮันโนเวอร์ มีรายงานตัวเจ็บเข้ามา 5 คน คือ เฟลิเป้ (6 นัด), ฟลอเรียน ฮุบเนอร์ (9 นัด), วัลเดเมียร์ แอนตัน (26 นัด / 1 ประตู), โจนาธาส (12 นัด / 3 ประตู) และ เอ็ดการ์ พริบ นั่นทำให้ ไบรเท่นไรเตอร์ ต้องปรับหมากกันใหม่อีกครั้งเพื่อแก้ปัญหา

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮันโนเวอร์ (3-4-3) : ฟิลิปป์ ชอเนอร์ - โอลิเวอร์ ซอร์ก, ซาลิฟ ซาเน่, โยซิป อีเลซ - จูเลี่ยน คอร์บ, เพอร์มิน ชเว็กเลอร์, มาร์วิน บาคาลอร์ซ, มัทธีอัส ออสเตอร์โซเลค - เฟลิกซ์ เคล้าส์, นิคลาส ฟัลครู้ก, อิห์ลัส เบบู

      แชร์ เวนตูร่า เฮ้ดโค้ชของ ซานโต๊ส จะหมดสิทธิ์ใช้บริการของ กาเบรียล บาร์โบซ่า หัวหอกตัวเก่งประจำทีม เพราะติดโทษแบน เนื่องจากโดนใบแดงมาในนัดก่อน ส่วนในรายของ ดาวิด บราซ ปราการหลังวัย 30 ปี ต้องเช็คฟิตก่อนเริ่มเกมกันก่อน ว่าพร้อมลุยหรือไม่ แต่ในตำแหน่งอื่นๆ ไม่น่ามีปัญหาอะไรเพิ่มเติม

      ลูคัส เบร์นาดี้ นายใหญ่ของ เอสตูเดียนเตส จะไม่มีชื่อของ โรดริโก้ บราญ่า (11 นัด) กองกลางตัวเก๋าประสบการณ์สูง เนื่องจากมีอาการปวดท้อง ส่วนในรายของ มาร์โก้ บอร์ญิโน่ (8 นัด) แนวรุกวัย 20 ปี ต้องรอเช็คความฟิตก่อนลงสนามกันอีกครั้ง แต่สำหรับ ฆวน โอเตโร่ (14 นัด / 7 ประตู) พร้อมล่าตาข่าย

     ฆอร์เก้ อัลมิรอน กุนซือของ แอต.นาซิอองนาล จะไร้เงาของ การ์ลอส กูเอสต้า (5 นัด) แนวรับดาวรุ่งวัย 19 ปี ที่โดนโรคเดี้ยงเข้าครอบงำ แต่กำลังสำคัญคนอื่นๆ ยังอยู่กันครบ ไม่ว่าจะเป็น กอนซาโล่ คาสเตญานี่ (10 นัด), ไรนัลโด้ เลนิส (5 นัด / 1 ประตู), อันเดรส เรนเตเรีย (11 นัด / 3 ประตู)

      วินิซิอุส ยูโตรปิโอ เทรนเนอร์ของ โบลิวาร์ ไม่มีเรื่องหนักใจอะไรในการจัดทัพมากนัก เมื่อสภาพความพร้อมของลูกทีมทุกคนสมบูรณ์ดี 100% คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ขุนพล ไม่น่าจะหนีห่างไปจากเกมนัดก่อนๆ นำทีมมาโดย "ดาวยิงฟอร์มแรง" อย่าง มาร์กอส ริเกลเม (7 นัด / 6 ประตู)

      รูดี้ การ์เซีย เทรนเนอร์ของ มาร์กเซย มีลิสต์ตัวเจ็บอยู่ในมือ 3 ราย ได้แก่ สตีฟ ม็องด็องด้า (28 นัด), อาดิล รามี (30 นัด / 1 ประตู) และ ฟลอริย็อง โตแว็ง (29 นัด / 16 ประตู) นั่นทำให้ การ์เซีย ต้องปรับทัพกันเป็นการด่วน โดยหน้าเป้าจะตกเป็นของ คอสตาส มิโตรกลู (14 นัด / 5 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
มาร์กเซย (4-2-3-1) : โยอัน เปเล่ - บูน่า ซาร์, โรลันโด้, เกรกอรี่ เเซร์ติช, ฌอร์ด็อง อามาวี่ - ลุยซ์ กุสตาโว่, ซัมโบ อังกูอิสซ่า - ลูคัส โอคัมปอส, มอร์ก็อง ซ็องซง, ดิมิทรี ปาเยต์ - คอสตาส มิโตรกลู

      ราล์ฟ ฮาเซ่นฮุตเทิ่ล นายใหญ่ของ ไลป์ซิก จะหมดสิทธิ์ใช้งาน มาร์เซล ฮัลส์เท่นแบร์ก (21 นัด / 2 ประตู) กับ สเตฟาน อิลซานเกอร์ (16 นัด) สองห้องเครื่องชาวออสเตรียที่มีอาการเจ็บเข่ารบกวน ส่วนในรายของ วิลลี่ ออร์แบน (22 นัด / 3 ประตู) ปราการหลังตัวหลักจะติดโทษห้ามแข่ง 

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไลป์ซิก (4-2-2-2) : ปีเตอร์ กูลัคซี่ - คอนราด เลเมอร์, อูปาเมกาโน่, อิบราอิมา โคนาเต้, แบร์นาร์โด้ - มาร์เซล ซาบิตเซอร์, นาบี เกอิต้า - เอมิล ฟอร์สเบิร์ก, บรูม่า - ฌอน ออกุสแต็ง, ติโม แวร์เนอร์

      โทรุ โอนิกิ ผู้จัดการทีมของ คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ก็ไม่มีเรื่องนักเตะบาดเจ็บหรือติดโทษห้ามแข่งมารบกวนจิตใจเช่นกัน สามารถเลือกสรรชุดที่ดีที่สุดลงบู๊ได้เลย คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง จะประกอบไปด้วย ยู โคบายาชิ (5 นัด / 1 ประตู) และ เอลซินโญ่ (5 นัด) สองกำลังหลัก

      วิคเตอร์ เปไรร่า กุนซือของ เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี เตรียมจัด 11 ขุนพลชุดที่ดีที่สุดลงสู่สนามได้เลย เพราะไม่มีรายงานความเสียหายใดๆ เข้ามา นั่นหมายความว่า เปไรร่า จะเรียกใช้บริการของ ออสการ์ (4 นัด / 3 ประตู), ฮัลค์ (4 นัด / 3 ประตู) และ เอลเคสัน แบบครบทุกคนเต็มอัตราศึก

      เปาโล ซูซ่า เฮ้ดโค้ชของ เทียนจิน ควานเจี้ยน จะขาดหายไปเพียงแค่ ซุน เค (3 นัด / 1 ประตู) แนวรุกตัวหลักที่พลาดโดนใบเหลืองช่วงท้ายเกม ทำให้โดนแบนในนัดนี้ เเต่คงไม่น่าจะส่งผลอะไร เพราะตัวหลักคนอื่นๆ ยังอยู่กันครบ โดยเฉพาะ อเล็กซานเดร ปาโต้ (2 นัด / 2 ประตู)

      ชู ฉี หว่อง เทรนเนอร์ของ คิตฉี จะหมดสิทธิ์ใช้งาน กอนชัลเวส เฮลิโอ้ (8 นัด) แนวรับตัวเก๋าวัย 32 ปี ที่มีอาการเจ็บรบกวน ส่วนกำลังรบที่เหลือพร้อมลุยเพื่อต้นสังกัดกันทั้งหมด คาดว่า ชู ฉี หว่อง ไม่น่าคิดเปลี่ยนแปลงผู้เล่น 11 ตัวจริงจากเกมที่ชนะ คาชิว่า เรย์โซล 1-0 อย่างแน่นอน

      ชอย คัง ฮี ผู้จัดการทีมของ ชุนบุค ฮุนได ไม่มีปัญหาใดๆ ในการจัดทีมลงเตะ เพราะบรรดาตัวหลักๆ ตบเท้ากันฟิตเต็มร้อยกันทั้งหมด คาดว่า คัง ฮี จะจัดหนักจัดเต็มเหมือนเดิม โดยจะให้ "สองสตาร์บราซิล" อย่าง ติอาโก้ อัลเวส (4 นัด) กับ อาเดรียโน่ (4 นัด / 3 ประตู) ลงเป็น 11 ตัวจริง

      ทาคาฮิโระ ชิโมตาอิระ นายใหญ่ของ คาชิว่า เรย์โซล จะไม่มีชื่อของ จิโร่ คามาตะ (2 นัด) ปราการหลังประสบการณ์สูงที่โดนไข้เดี้ยงเล่นงาน ส่วนในรายของ มาซาชิ คาเมคาวะ (2 นัด) แบ็คขวาตัวเก่งจะติดโทษแบน เนื่องจากโดนใบแดงไล่ออกมาจากเกมที่บุกเเพ้ คิตฉี 0-1 ในนัดล่าสุด

      เควิน มุสแคท นายใหญ่ของ เมลเบิร์น วิคตอรี่ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน รีห์ส วิลเลี่ยมส์ (23 นัด / 1 ประตู) แนวรับตัวสำคัญ เนื่องจากติดโทษแบน เพราะสะสมใบเหลืองครบโควต้าเเล้ว เเต่ยังดีที่ในแนวรุกไม่มีปัญหาอะไรรบกวน โดยเฉพาะ "ตัวเทพ" อย่าง คอสต้า บาร์บารูเซส (21 นัด / 8 ประตู)

      คิม โด ฮุน เฮ้ดโค้ชของ อุลซาน ฮุนได จะไร้เงาของ จุง เเจ ยอง (2 นัด) ห้องเครื่องวัย 27 ปี ที่จะติดโทษห้ามแข่งนัดนี้ แต่ขุมกำลังที่เหลือพร้อมลุยกันอยู่ตั้งนานเเล้ว คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง ไม่น่าจะต่างไปจากเดิม โดยจะมี มิสลาฟ ออร์ซิช (4 นัด) ลงลากเลื้อยทางกราบซ้าย

      เซซาร์ ฟาริอาส เฮ้ดโค้ชของ เดอะ สตรองเกสต์ ก็สามารถจัดชุดที่ดีที่สุดลงสู้ได้เช่นกัน เพราะสภาพความพร้อมของทีมไม่มีใครขาดหายไปเลย คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง ไน่าจะต่างไปจากปัจจุบันมากนัก โดยจะมี เอดิส อิบาร์กูเอน (9 นัด / 1 ประตู) เป็นตัวความหวังในแดนหน้า

      อัลโด โบบาดิญ่า เทรนเนอร์ของ ลิเบร์ตัด เตรียมก็อปปี้ 11 ขุนพลจากนัดที่บุกชนะ แอต.ตูคูมัน 2-0 ลงเล่นกันแบบนันสต็อป เพราะไม่มีรายงานความเสียหายใดเรื่องนักเตะเข้ามาเลยสักราย นั่นหมายความว่า ซานติอาโก้ ซัลเซโด้ (7 นัด / 2 ประตู) หัวหอกตัวเก๋าวัย 36 ปี จะยืนหน้าเป้าต่อ

      โก โออิวะ ผู้จัดการทีมของ คาชิม่า แอนท์เลอร์ส ก็ไม่ต้องคิดมากมายเรื่องการจัดตัวเช่นกัน เนื่องจากลูกทีมตัวหลักๆ ฟิตเต็มสูบกันทั้งหมด เชื่อว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในวันนี้ จะนำทีมมาโดย เกน โชจิ (5 นัด), เลโอ ซิลวา (3 นัด), เรียวตะ นางาคิ (3 นัด) รวมไปถึง มู คานาซากิ (5 นัด / 2 ประตู) ตัวทีเด็ดประจำทีม

      วู จินกุย นายใหญ่ของ เซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว เตรียมส่ง 11 ขุนพลชุดที่ดีที่สุดของสโมสรลงสนามแน่นอน เพราะสภาพความพร้อมของทีมในวันนี้สมบูรณ์ดี 100% คาดว่า ตัวต่างชาติขั้นเทพอย่าง โจวานนี่ โมเรโน่ (4 นัด / 1 ประตู), เฟรดี้ กัวริน (4 นัด / 1 ประตู) และ โอบาเฟมี่ มาร์ตินส์ (1 นัด / 3 ประตู) จะลงกันครบครัน

      เกรแฮม อาร์โนลด์ เฮ้ดโค้ชของ ซิดนี่ย์ เอฟซี จะไร้เงาของ แม็ตต์ ซิมอน (19 นัด / 1 ประตู) หัวหอกตัวเก๋าวัย 32 ปี เพราะติดโทษห้ามแข่ง เนื่องจากสะสมใบเหลืองครบโควต้าเเล้ว แต่สำหรับ อเล็กซ์ บรอสเก้ (24 นัด / 4 ประตู) น่าจะได้ลงเล่นประคองน้องๆ ในฐานะ "จอมทัพ" 

      โซ จุง วอน เทรนเนอร์ของ ซูวอน บลูวิงส์ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน คิม อึน ซุน (3 นัด) กับ ลี จอง ซุง (5 นัด) สองกองกลางที่จะติดโทษแบนในนัดนี้ นั่นบังคับให้ จุง วอน ต้องปรับทัพกันขนานใหญ่ในแผงมิดฟิลด์ แต่ในแดนหน้ายังมี เดยัน ดัมยาโนวิช (3 นัด / 1 ประตู) ยืนเป็นหน้าเป้าเหมือนเดิม

      ฟาบิโอ คันนาวาโร่ กุนซือของ กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ มีเรื่องให้ขบคิดแล้ว เมื่อ เนมันย่า กูเดลจ์ (3 นัด / 1 ประตู) และ หลิน เกา (4 นัด) สองกำลังสำคัญของทีม จะติดโทษห้ามแข่งในนัดนี้ เนื่องจากสะสมใบเหลืองครบโควต้าเเล้ว ทำให้ คันนาวาโร่ ต้องปรับทัพกันเป็นการใหญ่เลย

      โบซิดาร์ บันโดวิช เฮ้ดโค้ชของ บุรีรัมย์ฯ ไม่มีปัญหาใดให้กังวลนัก เนื่องจากลูกทีมทุกคนฟิตกันเต็มสูบ เชื่อว่า บันโดวิช จะวางหมากมาในระบบ 3-5-2 ตามถนัด โดยจะส่ง "คู่หูบราซิล" อย่าง ดิโอโก หลุยส์ ซานโต (8 นัด / 11 ประตู) กับ เอ็ดการ์ ซิลวา (7 นัด / 1 ประตู) ลงผลิตสกอร์

      โช ซุง ฮวาน นายใหญ่ของ เจจู ยูไนเต็ด มีเรื่องให้ต้องกังวลเเค่จุดเดียวคือ การโดนเเบนของ คิม วอน อิล (4 นัด) ปราการหลังตัวเก๋า ที่โดนใบแดงในนัดก่อน แต่กำลังรบที่เหลือพร้อมลุยอยู่นานเเล้ว เชื่อว่าเกมนี้ จะนำทีมมาโดย มักโน่ ครูซ (4 นัด) เพลย์เมกเกอร์ชาวบราซิลเจ้าเก่าเจ้าเดิม

      ยูน จุง ฮวาน ผู้จัดการทีมของ เซเรโซ โอซาก้า เตรียมจัดหนักจัดเต็มด้วยสภาพทีมชุดใหญ่ได้เลย เพราะไม่มีรายงานความเสียหายใดๆ เข้ามา คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงคงไม่ต่างไปจากชุดปัจจุบันที่ใช้งานอยู่ โดยจะมี เคนยู ซูงิโมโตะ (5 นัด / 2 ประตู) ยืนเป็นกองหน้าคอยล่าตาข่าย

      ฮานเนส ดรูว์ส เทรนเนอร์ของ เออร์ซเกเบียร์เก้ เอา ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน นิโคไล รัปป์ (19 นัด) กับ โซเรน เบอร์ทรัม (19 นัด / 4 ประตู) ที่กอดคอกันเข้าออกโรงพยาบาลอยู่เหมือนเก่า คาดว่า ดรูว์ส จะเลือกใช้ระบบ 3-4-3 ตามถนัด โดยจะมี ปาสกาล ค็อปเค่ (27 นัด / 7 ประตู) หัวหอกวัย 22 ปี เป็นตัวความหวังในแดนหน้า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เออร์ซเกเบียร์เก้ เอา (3-4-3) : มาร์ติน มานเนิ่ล - ฟาเบียน คาลิก, คริสเตียน ทิฟเฟิร์ต, มัลคอล์ม คาคูตาลัว - เคลเมนส์ ฟานดริช, คาโลเกโร่ ริซซูโต้, เดนนิส เคมเป้, โดมินิค วีดร้า - ปาสกาล ค็อปเค่, ดิมิทรี่ นาซารอฟ, ริดเก้ มุนซี่

      อาคิม เบเยอร์ลอร์เซอร์ นายใหญ่ของ ยาห์น เรเก้นส์บวร์ก จะไม่มีชื่อของ เซบาสเตียน นัชไรเนอร์ (26 นัด) แนวรับตัวหลักประจำทีม เพราะโดนอาการเจ็บเล่นงาน ทำให้ เบเยอร์ลอร์เซอร์ ต้องแก้ปัญหาด้วยการส่ง เบเนดิคท์ กิมเเบร์ (20 นัด / 1 ประตู) ลงมาประจำการแทน ส่วนอีก 10 ตำแหน่งที่เหลือ ไม่น่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ยาห์น เรเก้นส์บวร์ก (4-2-2-2) : ฟิลิปป์ เพนท์เก้ - เบเนดิคท์ ซอลเลอร์, เบเนดิคท์ กิมเเบร์, มาร์วิน โนล, อเล็กซานเดอร์ นานด์ซิค - อันเดรียส ไกเพิ่ล, มาร์ค ไลส์ - ยานน์ จอร์จ, โจชัว มีส์ - ซาร์กิส อดัมยาน, มาร์โก กรุตเนอร์

      ทอร์สเท่น ลีเบิร์คเน็ชท์ นายใหญ่ของ บราวน์ชไวก์ มีลิสต์นักเตะเจ็บอยู่ในมือ 4 ราย ได้แก่ โยเซฟ บัฟโฟ่ (11 นัด / 3 ประตู), สตีฟ เบรทคร๊อยซ์ (15 นัด), จูเลียส ไบอาด้า (7 นัด) และ คริสตอฟเฟอร์ นีมัน (18 นัด / 5 ประตู) คาดว่า ลีเบิร์คเน็ชท์ จะวางหมากมาในระบบ 4-2-2-2 โดยจะมี ซูเลมาน อับดุลลาไฮ (23 นัด / 7 ประตู) เป็นตัวทีเด็ด

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
บราวน์ชไวก์ (4-2-2-2) : ยัสมิน เฟย์ซิช - มักซิมิเลี่ยน ซอยเออร์, เฟรเดริค ตินกาเกอร์, กุสตัฟ วัลสวิค, เคน ไรเชิ่ล - ยาน ฮอชไชด์, มีร์โก โบลันด์ - จอร์จ ไตเกิ้ล, โอนูร์ บุลุต - ซูเลมาน อับดุลลาไฮ, โดมินิค คุมบาล่า

      โรบิน ดุตต์ เทรนเนอร์ของ โบคุ่ม จะไร้เงาของ มักซิม ลิตช์ (10 นัด) และ ติโม เพอร์เธิ่ล ที่โดนไข้เดี้ยงเข้าครอบงำ แต่ไม่น่าส่งผลอะไรในการจัดทีมของ ดุตต์ เพราะกำลังหลักของทีมยังอยู่กันพร้อมเพรียง ไม่ว่าจะเป็น ทิม ฮู้กลันด์ (20 นัด), อองโตนี่ โลซิญ่า (24 นัด), ซิดนี่ย์ แซม (16 นัด) รวมไปถึง ลูคัส ฮินเตอร์เซียร์ (24 นัด / 9 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โบคุ่ม (4-2-3-1) : มานูเอล ไรมันน์ - สเตฟาโน่ เชลอซซี่, ทิม ฮู้กลันด์, พาทริค ฟาเบียน, ดานิโล่ - โรเบิร์ต เทสเช, อองโตนี่ โลซิญ่า - ซิดนี่ย์ แซม, เควิน สโตเกอร์, ร็อบบี้ ครูส - ลูคัส ฮินเตอร์เซียร์

      มาร์คุส อันแฟง กุนซือของ โฮลสไตน์ เคียล ก็มีแข้งหน้าเดิมที่เดี้ยงค้างสต็อกอย่าง อามาร่า คอนเด้ (6 นัด) รายเดียวเช่นกัน นั่นหมายความว่า อันแฟง สามารถจัดหนักจัดเต็มได้เลย ซึ่งน่าจะเป็น 11 ขุนพลชุดเดิม นำทีมมาโดย ราฟาเอล ซีโชส (25 นัด / 2 ประตู), เดวิด คินซอมบี้ (25 นัด / 4 ประตู) และ มาร์วิน ดุ๊คช์ (27 นัด / 14 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โฮลสไตน์ เคียล (4-1-4-1) : เคนเนธ ครอนโฮล์ม - พาทริค เฮอร์มันน์, นิคลาส โฮเฮเนเดอร์, ราฟาเอล ซีโชส, โยฮันส์ ฟาน เดน เบิร์ก - โดมินิค เพทซ์ - คิงส์ลี่ย์ ชินด์เลอร์, เดวิด คินซอมบี้, โดมินิค เดร็กซ์เลอร์, ทอม ไวลันด์ - มาร์วิน ดุ๊คช์

      เจฟ ไซบีน นายใหญ่ของ บีเลเฟลด์ ยังไร้เงาของ นิลส์ ควอชเนอร์ (4 นัด) เจ้าเก่าเจ้าเดิมที่ต้องพักรักษาตัวต่อไป แต่กำลังรบคนอื่นๆ ฟิตเต็มสูบ พร้อมรับใช้ต้นสังกัดกันทั้งหมด คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง ไม่น่าจะต่างไปจากชุดปัจจุบันที่ลงสนามอยู่ โดยจะมี อันเดรียส โฟเกิ้ลซามเมอร์ (27 นัด / 10 ประตู) ยืนค้ำเป็นกองหน้าตัวเป้า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
บีเลเฟลด์ (4-1-4-1) : สเตฟาน ออร์เตก้า - ฟลอเรียน ดิ๊ค, ไบรอัน เบห์เรนด์, จูเลี่ยน บอร์เนอร์, ฟลอเรียน ฮาร์แธร์ซ - ทอม ชู๊ทซ์ - เลอันโดร พูตาโร่, มานูเอล เพรเทิ่ล, คอนสแตนติน เคิร์ชเบาเมอร์, คีนู สเต๊าด์ - อันเดรียส โฟเกิ้ลซามเมอร์

      อังเดร ฮอฟชไนเดอร์ ผู้จัดการทีมของ ยูนิโอน เบอร์ลิน มีรายงานลูกทีมบาดเจ็บเข้ามา 4 ราย ได้แก่ ฟาเบียน ชอนไฮม์ (10 นัด), อกากี กอก้า (19 นัด / 2 ประตู), มิชาเอล พาเรนเซ่น (8 นัด) และ เซบาสเตียน โพลเตอร์ (24 นัด / 12 ประตู) นั่นทำให้ปัญหาใหญ่ในการวางตัวครั้งนี้ไปตกอยู่ที่แนวรุก เนื่องจากดาวยิงตัวเก่งเดี้ยง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ยูนิโอน เบอร์ลิน (4-2-3-1) : เมเซนโฮเลอร์ - คริสโตเฟอร์ ทริมเมล, มาร์วิน ฟรีดริช, โทนี่ ไลส์เนอร์, มิคาเอล ปาเรนเซ่น - เฟลิกซ์ โครส, กริสชา โพรเมล - สตีเว่น สเคอร์ซิบสกี้, เดนนิส เด๊าบ์, ไซม่อน เฮดลุนด์ - ฟิลิปป์ โฮซิเนอร์

      ดามีร์ บูริช นายใหญ่ของ กรอยเธอร์ เฟือร์ธ เหลืออยู่เพียงแค่ มาธิส โบลลี่ แนวรุกสัญชาติไอเวอรี่โคสต์เท่านั้น ที่ยังขึ้นบัญชีเดี้ยงอยู่ แต่ขุมกำลังที่เหลือพร้อมลุยอยู่นานเเล้ว เชื่อว่า บูริช จะจัดทีมแบบเต็มสูบที่สุด นำทีมมาโดย มาริโอ มาโลก้า (24 นัด / 2 ประตู), จูเลี่ยน กรีน (18 นัด / 2 ประตู) และ ฟาเบียน รีส (8 นัด)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
กรอยเธอร์ เฟือร์ธ (4-2-3-1) : ซัสชา บูร์เชิร์ต - โรแบร์โต้ ฮิลเบิร์ต, มาริโอ มาโลก้า, มาร์โก กาลิกูรี่, มักซิมิเลี่ยน วิตเท็ค - ลูคัส กักกานิก, เจอร์เก้น กาจ์ซูล่า - คาห์เล็ด นาเรย์, จูเลี่ยน กรีน, เซบาสเตียน แอร์นส์ - ฟาเบียน รีส

      ดีเตอร์ เฮ็กคิงก์ เฮ้ดโค้ชของ กลัดบัค ยังมีลิสต์ลูกทีมเดี้ยงมากถึง 7 คน คือ ยานนิค เวสเตอร์การ์ด (26 นัด / 3 ประตู), รีซ อ็อกซ์ฟอร์ด (3 นัด), เดนิส ซากาเรีย (25 นัด / 2 ประตู), วินเชนโซ่ กริโฟ่ (15 นัด), อิบราฮิม่า ตราโอเร่ (3 นัด), มามาดู ดูกูเร่ และ ราอูล โบบาดีย่า (13 นัด) ยังดีที่ ราฟฟาเอล (20 นัด / 7 ประตู) ลงเล่นได้

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
กลัดบัค (4-4-2) : ยาน ซอมเมอร์ - โทนี่ ยานช์เก้, นิโก้ เอลเวดี้, มัทธีอัส กินเตอร์, ออสการ์ เวนด์ - โยนาส ฮอฟมันน์, มิกกาแอล กุสซ็อง, คริสโตฟห์ เครเมอร์, ธอร์แกน อาซาร์ - ลาร์ส สไตน์เดิ้ล, ราฟฟาเอล

      ซานโดร ชวาร์ซ ผู้จัดการทีมของ ไมนซ์ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน โรบิน เซนท์เนอร์ (15 นัด), อับดู ดิยัลโล่ (23 นัด / 2 ประตู) และ เอมิล เบิร์กกรีน (12 นัด / 4 ประตู) ที่มีอาการเจ็บรบกวนอยู่ คาดว่าเกมนี้ ชวาร์ซ คงต้องส่ง นิโก้ บุนแกร์ต ลงเล่นประเดิมนัดแรกของฤดูกาล ส่วนตัวหลักคนอื่นๆ น่าจะยังอยู่กันแบบพร้อมหน้าพร้อมตา

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไมนซ์ (3-4-3) : ฟาเบียน มุลเลอร์ - เลออน บาโลกัน, สเตฟาน เบล, นิโก้ บุนแกร์ต - จูลิโอ โดนาติ, ฌอง กีบาแมง, แดนนี่ ลัตซ่า, ดาเนี่ยล โบรซินสกี้ - ซูอัต แซร์ดาร์, โยชิโนริ มุโตะ, โรบิน ไคสัน

      นิโก้ โควัค นายใหญ่ของ แฟร้งค์เฟิร์ต จะไร้เงาของ การ์ลอส ซัลเซโด้ (18 นัด), มาสกาเรล (5 นัด) และ อเล็กซานเดอร์ เมเยอร์ ที่ควงเเขนกันเข้าโรงพยาบาลอยู่ นั่นทำให้ โควัค ต้องปรับทัพกันใหม่จากระบบ 3-5-2 มาเป็น 4-3-3 โดยให้ มาร์โก รุส (13 นัด / 1 ประตู) ลงทำหน้าที่แทน ซัลเซโด้ ที่เจ็บยาวไปแล้ว

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แฟร้งค์เฟิร์ต (3-4-3) : ลูคัส ฮราเด็กกี้ - มาร์โก รุส, ดาบิด อับราฮัม, มาโกโตะ ฮาเซเบะ - มาริอุส โวล์ฟ, โจนาธาน เดอ กุซมัน, เควิน พริ๊นซ์ บัวเต็ง, ทิโมธี แชนด์เลอร์ - อันเต เรบิช, เซบาสเตียง ฮัลแลร์, ลูก้า โยวิช

      ฟลอเรียน โคห์เฟลด์ เทรนเนอร์ของ เบรเมน มีตัวเดี้ยงอยู่ 3 คนเซ็ตเดิม คือ มิคาเอล เซ็ตเตเรอร์, เจอโรม กอนดอร์ฟ (16 นัด / 1 ประตู) และ ฟิน บาร์เทิ่ลส์ (14 นัด / 2 ประตู) ส่วนในรายของ ลุดวิก ออกุสตินสัน (26 นัด / 1 ประตู) แบ็คซ้ายตัวเก่งที่มีอาการเจ็บมาจากรับใช้ชาตินั้น หายทันพอดี พร้อมลงสนามแน่นอน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เบรเมน (4-3-3) : ยีรี พาฟเลนก้า - เกเบร เซลาสซี่, มิลอส เวลโกวิช, นิโคลัส มอยซานเดอร์, ลุดวิก ออกุสตินสัน - มักซิมิเลี่ยน เอ็กเก้สไตน์, ฟิลิปป์ บาร์กเฟรเด้, โธมัส เดอลานี่ย์ - อิชัค เบลโฟดิล, มักซ์ ครูเซ่, ซลัตโก้ ยูนูโซวิช

      มิลอส โจคซิช ผู้จัดการทีมของ นครราชสีมา ขนทัพมาลุยครั้งนี้แบบฟูลทีม เพราะไม่มีนักเตะบาดเจ็บหรือติดโทษห้ามแข่งเลยสักคน เชื่อว่าเกมนี้ โจคซิช จะวางหมากมาในระบบ 4-3-3 โดยจะมี "สามประสาน" ในแดนหน้า นำทีมมาโดย โดมินิค อาดิเยียห์ (7 นัด / 1 ประตู), เปาโล รังเกล (7 นัด / 2 ประตู) และ ศราวุฒิ มาสุข (6 นัด)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
นครราชสีมา (4-3-3) : แซมมวล ป.คันนิงแฮม - กันตภณ สมพิทยานุรักษ์, เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว, อี วอน-แจ, เดชา สร้างดี - ชนัตพล สิกขะมณฑล, อันโตนิโอ พีน่า, อรรถพงศ์ หนูพรหม - โดมินิค อาดิเยียห์, เปาโล รังเกล, ศราวุฒิ มาสุข

      เดนนิส อมาโต้ เทรนเนอร์ของ ชัยนาท ฮอร์นบิล ไม่มีรายงานความเสียหายใดเพิ่มเติมเข้ามาจากนัดที่บุกเอาชนะ เชียงรายฯ 2-1 จึงไม่จำเป็นต้องปรับโฉม 11 ตัวจริงแต่อย่างใด คาดว่า ตัวหลักๆ จะพาเหรดกันลงสู่สนามแน่นอน ไม่ว่าจะเป็น อนุวัติ น้อยชื่นพันธ์ (7 นัด / 1 ประตู), ฉัตรชัย คุ้มพญา (6 นัด) และ ดิยุฟ บิรัม (5 นัด / 4 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ชัยนาท ฮอร์นบิล (3-4-3) : อนุศิษฏ์ เติมมี - พรเทพ จันทร์ไข่, ชัชชน ใจรังสี, ณัฐพล เทพอุทัย - เกียรติศักดิ์ เจียมอุดม, อนุวัติ น้อยชื่นพันธ์, ฉัตรชัย คุ้มพญา, เดลฟิน ปินไฮโล่ - สันติภาพ ราษฎร์นิยม, ดิยุฟ บิรัม, เบอร์นาร์ด ดูมเบีย

      โกรัน บาร์ยัคทาเรวิช นายใหญ่ของ ชลบุรี จะหมดสิทธิ์ใช้งาน นัสตพล มาลาพันธ์ (4 นัด) ปราการหลังวัย 24 ปี ที่ติดกฎห้ามเจอทีมแม่ แต่จะมีข่าวดีเข้ามาคือ ชนินทร์ แซ่เอียะ (5 นัด) นายด่านหมายเลขหนึ่ง พร้อมลงเฝ้าเสาได้อีกครั้ง หลังชดใช้โทษแบนเรียบร้อย และในแดนหน้าจะวาง มาร์เคลย์ ซานโต๊ส (5 นัด / 1 ประตู) ลงเล่น

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ชลบุรี (4-2-3-1) : ชนินทร์ แซ่เอียะ - นพนนท์ คชพลายุกต์, ชลทิตย์ จันทคาม, คิม คยอง มิน, อลงกรณ์ ประทุมวงศ์ - วัฒนศัพท์ เจริญศรี, สหรัฐ สนธิสวัสดิ์ - ชิโร่ อัลเวส, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ, เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ - มาร์เคลย์ ซานโต๊ส

      โบซิดาร์ บันโดวิช กุนซือของ บุรีรัมย์ฯ ไม่มีปัญหาใดในการจัดทัพ เพราะสภาพความพร้อมของลูกทีมทุกคนสมบูรณ์ดี 100% ทำให้สามารถเลือกสรรทีมชุดที่ดีที่สุดได้สบาย คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง จะประกอบไปด้วย อันเดรส ตูเญซ (5 นัด), จักรพันธ์ แก้วพรม (5 นัด / 1 ประตู) และ ดิโอโก หลุยส์ ซานโต (7 นัด / 10 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
บุรีรัมย์ฯ (3-4-1-2) : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน - ประวีณวัช บุญยงค์, อันเดรส ตูเญซ, พรรษา เหมวิบูลย์ - กรกช วิริยอุดมศิริ, รัตนากร ใหม่คามิ, จักรพันธ์ แก้วพรม, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม - สุภโชค สารชาติ - ดีโอโก้ หลุยส์ ซานโต, เอ็ดการ์ บรูโน่

      บรูโน่ ลาบบาเดีย กุนซือของ โวล์ฟสบวร์ก มีรายงานตัวเจ็บเข้ามา 5 ราย ได้แก่ ยานนิค แกร์ฮาร์ด (16 นัด / 1 ประตู), มาร์เซล ทิสเซอรันด์ (14 นัด), จอห์น บรู้คส์ (7 นัด), ยาคุบ บลาสซีคอฟสกี้ (7 นัด / 1 ประตู) และ อั๊ดเมียร์ เมห์เมดี้ (5 นัด / 1 ประตู) ส่วนในรายของ ดิว๊อค โอริกี (24 นัด / 5 ประตู) น่าจะได้ออกสตาร์ท

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โวล์ฟสบวร์ก (4-3-3) : โกเยนส์ กัสตีลส์ - พอล เวอร์ฮาจ, บรูม่า, โรบิน น็อคเก้, วิลเลี่ยม - โจฌัว กีลาโว้ก, รีเชดลี่ บาซัวร์, มักซิมิเลี่ยน อาร์โนลด์ - ดาเนี่ยล ดิดาวี่, ดิว๊อค โอริกี, โจซิป เบรคาโล่

      พาล ดาร์ได เทรนเนอร์ของ แฮร์ธ่าฯ จะไร้เงาของ มาร์วิน แพลตเท่นฮาร์ด (27 นัด) แบ็คขวาทีมชาติเยอรมันที่ดันติดโทษห้ามแข่งในนัดนี้พอดี ทำให้ มักซิมิเลี่ยน มิตเทิ่ลสตัดท์ (8 นัด) ต้องลงรับไม้ต่อ คาดว่าเกมนี้ "สองตัวเก๋า" อย่าง ซาโลมง กาลู (24 นัด / 10 ประตู) และ เพอร์ สเคลเบร็ด (23 นัด) จะทวงตัวจริงคืน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แฮร์ธ่าฯ (4-3-3) : รูเน่ ยาร์สไตน์ - มิตเชล ไวเซอร์, นิคลาส สตาร์ค, คาริม เรกิ๊ก, มักซิมิเลี่ยน มิตเทิ่ลสตัดท์ - เพอร์ สเคลเบร็ด, ฟาเบียน ลุสเตนแบร์เกอร์, วลาดิเมียร์ ดาริด้า - วาเลนติโน่ ลาซาโร่, เวดัด อิบิเซวิช, ซาโลมง กาลู

      คริสเตียน ติตซ์ เฮ้ดโค้ชของ ฮัมบูร์ก ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน นิโคไล มุลเลอร์ (1 นัด / 1 ประตู) ที่เจ็บอยู่ก่อนหน้า แถมยังโชว์ลงโทษทางวินัยกับ 3 ตัวลักอย่าง คิเรียกอส ปาปาโดปูลอส (24 นัด / 1 ประตู), แมร์กิม มาฟราย (17 นัด) และ วาเลซ (18 นัด / 1 ประตู) ในข้อหาไม่ทุ่มเทอีก ทำให้ทางเลือกในการจัดตัวมีน้อยจริงๆ

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮัมบูร์ก (4-3-3) : จูเลี่ยน โพลแลร์เบ็ค - โกโตคุ ซากาอิ, ริค ฟาน ดรองเกเล่น, กีเดี้ยน จุง, ดั๊กลาส - อารอน ฮันท์, มัตตี้ สไตน์มันน์, ลูอิส โฮลท์บี้ - ฟิลิป คอสติช, ยาน อาร์ป, ทัตสึยะ อิโตะ

      ตายฟุน คอร์คุต กุนซือของ สตุ๊ตการ์ต จะไม่มีชื่อ เดนิส เบอร์นิช (6 นัด), มัทธิอัส ซิมเมอร์มันน์ (2 นัด) และ การ์ลอส มาเน่ ที่โดนไข้เดี้ยงเข้าครอบงำ ส่วนในรายของ อันเดรียส เบ็ค (21 นัด / 1 ประตู) จะติดโทษแบน ทำให้ เบนจามิน ปาวาร์ (27 นัด / 1 ประตู) ต้องขยับออกไปรักษาตำแหน่งแบ็คขวาเเทนที่

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
สตุ๊ตการ์ต (4-3-3) : รอน โรเบิร์ต ซีเลอร์ - เบนจามิน ปาวาร์, โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์, ติโม บอย์มการ์ตเทิ่ล, เอมิเลียโน่ อินซัว - ซานติอาโก้ อัสกากิบาร์, คริสเตียน เกนท์เนอร์, เดนนิส อาโอโก้ - อีริค ธอมมี่, มาริโอ โกเมซ, ดาเนี่ยล กินเซค

      ราล์ฟ ฮาเซ่นฮุตเทิ่ล กุนซือของ ไลป์ซิก จะไร้เงาของ มาร์เซล ฮัลส์เท่นแบร์ก (15 นัด / 2 ประตู) กับ นาบี เกอิต้า (21 นัด / 5 ประตู) ที่มีอาการเจ็บรบกวน ส่วนในรายของ สเตฟาน อิลซังเกอร์ (16 นัด) มิดฟิลด์ทีมชาติออสเตรีย ต้องรอเช็คฟิตก่อนลงสนามอีกครั้ง คาดว่า ยุสซุฟ โพลเซ่น (24 นัด / 3 ประตู) จะได้สิทธิ์ลงล่าตาข่าย

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไลป์ซิก (4-2-2-2) : ปีเตอร์ กูลัคซี่ - คอนราด เลเมอร์, วิลลี่ ออร์แบน, อูปาเมกาโน่, ลูคัส โคลสเตอร์มันน์ - เควิน คัมเพิ่ล, ดีเอโก้ เดมเม่ - มาร์เซล ซาบิตเซอร์, เอมิล ฟอร์สเบิร์ก - ฌอน ออกุสแต็ง, ยุสซุฟ โพลเซ่น

      อันเดร ไบรเท่นไรเตอร์ เฮ้ดโค้ชของ ฮันโนเวอร์ มีลิสต์ตัวเจ็บในมืออยู่ 4 ราย ได้แก่ เฟลิเป้ (6 นัด), โจซิป อีเลซ (5 นัด), เซบาสเตียน เมเยอร์ (7 นัด) และ เอ็ดการ์ พริบ ส่วนในรายของ อิห์ลัส เบบู (23 นัด / 5 ประตู) แนวรุกตัวเก่งกลับมาช่วยทีมได้แล้ว หลังชดใช้โทษห้ามแข่งเรียบร้อย เตรียมลงเป็น 11 ตัวจริงอย่างแน่นอน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮันโนเวอร์ (3-4-3) : ฟิลิปป์ ชอเนอร์ - โอลิเวอร์ ซอร์ก, ซาลิฟ ซาเน่, วัลเดเมียร์ แอนตัน - จูเลี่ยน คอร์บ, เพอร์มิน ชเว็กเลอร์, อิเวอร์ ฟอสซัม, มัทธีอัส ออสเตอร์โซเลค - เฟลิกซ์ เคล้าส์, โจนาธาส, อิห์ลัส เบบู

      มานูเอล บอย์ม เฮ้ดโค้ชของ เอ๊าก์สบวร์ก มีรายชื่อลูกทีมบาดเจ็บในมือ 4 คน คือ เควิน ดานโซ่ (14 นัด / 2 ประตู), ราฟาเอล ฟรัมแบร์เกอร์ (9 นัด), มาร์โก ริชเตอร์ (5 นัด / 1 ประตู) และ อัลเฟร็ด ฟินโบกาสัน (18 นัด / 11 ประตู) เชื่อว่า บอย์ม จะวางหมากนัดนี้ด้วยระบบ 3-4-3 ซึ่งจะถอย รานี่ เคดิร่า (23 นัด / 1 ประตู) ไปเป็นเซ็นเตอร์

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เอ๊าก์สบวร์ก (3-4-3) : มาร์วิน ฮิตซ์ - รานี่ เคดิร่า, เจฟฟรี่ โกเวลูว์, มาร์ติน ฮินเตเร็กเกอร์ - โจนาต็อง ชมิด, ดาเนี่ยล เบเยอร์, คู จา ชอล, ฟิลิปป์ มักซ์ - มาร์เซล เฮลเลอร์, มิเชล เกรกอริช, คูบี้

      ไฮโค แฮร์ลิช นายใหญ่ของ เลเวอร์คูเซ่น จะหมดสิทธิ์ใช้งาน ลูกัส เอลาริโอ (19 นัด / 7 ประตู) เพราะติดโทษแบน เนื่องจากโดนไล่ออกมาในแมตช์ก่อน คาดว่าเกมนี้ แฮร์ลิช จะเรียกตัว เควิน โฟลลันด์ (25 นัด / 10 ประตู) กลับมาประจำการเหมือนเดิม โดยจะมี จูเลี่ยน บรันด์ (27 นัด / 6 ประตู) จอมทัพตัวเทพประจำทีมปั้นเกมอยู่ข้างหลัง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เลเวอร์คูเซ่น (4-2-3-1) : แบร์นด์ เลโน่ - ลาร์ส เบนเดอร์, สเวน เบนเดอร์, โจนาธาน ตาห์, เวนเดล - จูเลี่ยน บอย์มการ์ตลิงเกอร์, ชาร์ลส์ อรานกุซ - คาริม เบลลาราบี, จูเลี่ยน บรันด์, เลออน ไบญี่ - เควิน โฟลลันด์

      คริสเตียน สไตรช์ ผู้จัดการทีมของ ไฟร์บวร์ก มีลิสต์ลูกทีมเจ็บในมืออยู่ 4 คน คือ อามีร์ อาบราชี่ (12 นัด), โยริก ราเว่ต์ (10 นัด), คาเล็บ สแตนโก้ (6 นัด) และ ฟลอเรียน นีแดร์เลชเนอร์ (10 นัด / 2 ประตู) เชื่อว่า สไตรช์ จะเลือกวางหมากในระบบ 4-3-3 โดยจะมี นีล พีเตอร์เซ่น (25 นัด / 13 ประตู) ลงผลิตสกอร์เหมือนเก่า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไฟร์บวร์ก (4-3-3) : อเล็กซานเดอร์ ชโวลอฟ - ปาสกาล สเตนเซิ่ล, คักลาร์ โซยุนกู, มานูเอล กัลด์, คริสเตียน กุนเตอร์ - โรบิน ค็อก, นิโคลัส ฮอฟเลอร์, ไมค์ ฟร๊านซ์ - ลูคัส โฮเลอร์, นีล พีเตอร์เซ่น, ยานิค ฮาเบเรอร์

      โดเมนิโก้ เทเดสโก้ เฮ้ดโค้ชของ ชาลเก้ มีเรื่องให้ลุ้นแค่ความฟิตของบรรดาดาวเตะที่เพิ่งไปรับใช้ชาติมาอย่าง นาบิล เบนตาเลบ (11 นัด / 4 ประตู), เวสตัน แม็คเคนนี่ (16 นัด) และ มาร์โก เปียก้า (6 นัด / 2 ประตู) แต่ขุมกำลังที่เหลือฟิตเต็มสูบกันทั้งหมด คาดว่า เทเดสโก้ คงเลือกใช้งานตัวหลักชุดเดิม เพราะฟอร์มดีอยู่เเล้ว

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ชาลเก้ (3-4-2-1) : ราล์ฟ ฟาห์รมันน์ - ธิโล่ เคห์เรอร์, นัลโด้, มาติย่า นาสตาซิช - ดาเนี่ยล คาลิกูรี่, มักซ์ เมเยอร์, เลออน โกเร็ตส์ก้า, บาสเตียน อ๊อกซิปก้า - ฟรังโก้ ดิ ซานโต้, บรีล เอ็มโบโล่ - กีโด้ บวร์กสตัลเลอร์