วิเคราะห์บอล / วิเคราะห์บอลวันนี้

      พอล คุ๊ก เทรนเนอร์ของ วีแกน จะหมดสิทธิ์ใช้งาน แซม มอร์ซี่ (31 นัด / 2 ประตู) มิดฟิลด์กัปตันทีมที่ติดภารกิจรับใช้ทีมชาติอียิปต์ แต่เชื่อว่าในตำแหน่งอื่นๆ ที่เหลือ คุ๊ก น่าจะยังวางใจทีมจากชุดที่บุกชนะ วอลซอลล์ 3-0 เพราะลูกทีมทำหน้าที่กันได้อย่างยอดเยี่ยมอยู่เเล้ว โดยเฉพาะ เชเยนเน่ ดั๊งลี่ย์ (32 นัด / 5 ประตู)

      ไรอัน โลว์ นายใหญ่ของ บิวรี่ ต้องรอเช็คความฟิตของ เซลี่ อิสมอิล (10 นัด) ห้องเครื่องวัย 24 ปี ก่อนเกมเริ่มอีกครั้ง ว่าพร้อมลุยหรือไม่ ส่วนในรายของ นีล แดนส์ (16 นัด / 3 ประตู) เตรียมเป็นตัวจริงแน่นอน เพราะสลัดคราบเดี้ยงได้แล้ว อีกคนที่จะลงเป็นร่มโพธิ์ร่มไทร คือ เจอร์เมน เบ็คฟอร์ด (15 นัด / 8 ประตู)

      สตีฟ ลอฟเวลล์ กุนซือของ จิลลิ่งแฮม เหลือตัวเดี้ยงค้างสต็อกเพียงแค่ บิลลี่ บิงแฮม (9 นัด) ที่ข้อเท้าหักคนเดียวเท่านั้น ส่วนในรายของ จอช พาร์คเกอร์ (36 นัด / 9 ประตู) ถูกเรียกติดธงรับใช้ทีมชาติแอนติกัว แอนด์ บาร์บิวด้า ภาระหน้าที่ในการผลิตสกอร์ของนัดนี้จึงเอียงมาอยู่ที่ ทอม อีฟส์ (32 นัด / 13 ประตู)

      ไซม่อน เกรย์สัน เทรนเนอร์ของ แบร็ดฟอร์ด จะไร้เงาของ ไรอัน แม็คโกแวน (3 นัด) กับ แมตตี้ ลุนด์ (4 นัด) ที่ควงเเขนกันเข้าโรงพยาบาลอยู่ ส่วนในรายของ โคลิน ดอยล์ (25 นัด) นายทวารจอมเก๋า ติดภารกิจรับใช้ทีมชาติไอร์แลนด์ นั่นทำให้ ลูคัส รีดเดอร์ (1 นัด) ผู้รักษาประตูชาวเยอรมัน ต้องลงเฝ้าเสาเเทน

      ชิน แท ยัง ผู้จัดการทีมของ เกาหลีใต้ เตรียมขน 11 ตัวจริงชุดหลักเพื่อทดสอบทีมสำหรับฟุตบอลโลกกลางปีนี้ โดยทีมชุดนี้แทบไม่มีอะไรต่างไปจากชุดก่อนที่เล่นในรอบคัดเลือกโซนเอเชียมา เพราะตัวหลักๆ ยังอยู่กันครบ ไล่มาตั้งแต่ คี ซุง-ยอง, ลี ชุง-ยอง รวมไปถึง "ตัวเทพ" ระดับพระกาฬ อย่าง ซอน ฮวง มิน

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
เกาหลีใต้ (4-4-2) : คิม ซึง กยู - โค โย-ฮัน, คิม มิน แจ, ชอง ซึง-ฮยอน, ยุน ยอง ซัน - อี แจ-ซอง, จุง วู-ยอง, ซอน จุน-โฮ, ซอน ฮวง มิน - คิม ชิน-วุค, อี ควน-โฮ

      ไมเคิ่ล โอนีล นายใหญ่ของ ไอร์แลนด์เหนือ จะไม่มีชื่อของ สตีเว่น เดวิส, ไคล์ ลาฟเฟอร์ตี้, สจวต ดัลลัส และ ไนออลล์ แม็คกินน์ ที่โดนอาการเจ็บเล่นงานอยู่ ทำให้ต้องดึงดาวรุ่งขึ้นมาร่วมทัพตัวอย่างเช่น เชน ลาเวรี่ กับ พอล สมิธ แต่ยังมีข่าวดีอยู่บ้าง เมื่อ คอเนอร์ วอชิงตัน ฟิตเต็มสูบ ลงล่าตาข่ายได้แน่นอน

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
ไอร์แลนด์เหนือ (4-5-1) : ไมเคิ่ล แม็คโกเวิร์น - แอรอน ฮิวจ์ส, แกเรธ แม็คออลี่ย์, จอนนี่ อีแวนส์, คริส บรันท์ - เจมี วอร์ด, โอลิเวอร์ นอร์วู้ด, จอร์จ ซาวิลล์, คอร์รี่ อีแวนส์, พอล สมิธ - คอเนอร์ วอชิงตัน

      โรเบิร์ต โปรซิเน็กกี้ ผู้จัดการทีมของ บอสเนียฯ ตัดสินใจเรียก ฮาริส เมดุนยานิน กลับมาติดทีมอีกครั้ง เพื่อจะมาสร้างความเเข็งแกร่งมากขึ้นให้กับทีม ส่วนพวก "ตัวเทพ" อย่าง มิราเลม ปานิช, เอดิน วิสก้า รวมไปถึง เอดิน เซโก้ พาเหรดกันมาร่วมทัพเหมือนเก่าอยู่เเล้ว นั่นทำให้ โปรซิเน็กกี้ ไม่หนักใจมากนักในการวางหมาก

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
บอสเนียฯ (4-3-3) : อิบราฮิม เซฮิช - เออร์มิน บิซัคซิช, อ็อกเยน วรันเยส, เออร์วิน ซูคาโนวิช, เซยาด โคลาซินัค - มิราเลม ปานิช, กอจโก้ ชิมิโร่ต์, ฮาริส เมดุนยานิน - เอดิน วิสก้า, เอดิน เซโก้, เคนาน ค็อดโร่

      ปีต้าร์ ฮุบเชฟ เฮ้ดโค้ชของ บัลแกเรีย จะไม่มี อันเดรย์ กาลาบินอฟ, อเล็กซานเดอร์ โตเนฟ และ สเวโตสลาฟ ยาคอฟ เพราะไม่ได้เรียกติดทีมชุดนี้มาด้วย แต่จะมีหน้าใหม่ๆ เข้ามาร่วมทัพหลายรายเหมือนกัน โดยเฉพาะพวกผู้เล่นในประเทศ ส่วนแกนหลักอย่าง สตานิสลาฟ มาโนเลฟ กับ จอร์จี้ มิลานอฟ พร้อมลุยเเน่นอน

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
บัลแกเรีย (4-4-2) : ปลาเมน อิลิเยฟ - สตราฮิล โปปอฟ, โบซิดาร์ ชอร์บัดซิสกี้, นิโคลาย โบดูรอฟ, เปตาร์ ซาเนฟ - สตานิสลาฟ มาโนเลฟ, อิวายโล่ ชอเชฟ, จอร์จี้ คอสตาดินอฟ, จอร์จี้ มิลานอฟ - อิเวลิน โปปอฟ, สปาส เดเลฟ

      มาร์ติน โอนีล กุนซือของ ไอร์แลนด์ มีข่าวดีเข้ามาก่อนเกมเลย เมื่อ ซีมัส โคลแมน ปราการหลังกัปตันทีมกลับมาร่วมทัพได้แล้ว หลังจากที่ขาหักพักไปนานเกือบปี ส่วนในรายของ ร็อบ เอลเลียต กับ คีเรน เวสต์วู้ด ไม่มีชื่อติดมา เพราะโดนอาการเจ็บเล่นงาน แต่สำหรับ เชน ลอง พร้อมยืนค้ำเป็นกองหน้าตัวเป้าให้กับทีมเหมือนเก่า

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
ไอร์แลนด์ (4-4-2) : โคลิน ดอยล์ - ซีมัส โคลแมน, คีแรน คลาร์ค, เชน ดัฟฟี่, เดอร์ริค วิลเลี่ยมส์ - เดวิด เมย์เลอร์, คอเนอร์ ฮูริเฮน, เจฟ เฮนดริค, เจมส์ แม็คคลีน - เชน ลอง, สก็อต โฮแกน

      มีร์เชีย ลูเชสคู นายใหญ่ของ ตุรกี ยังเรียกตัวหลักๆ กลับมาใช้งาน อาทิเช่น ฮาคาน ชัลฮาโนกลู, เซลซุค อินาน และ เซงค์ โตซุน แต่จะเน้นไปที่สายเลือดใหม่มากกว่า เพราะให้โอกาสบรรดาดาวรุ่งเข้ามามากมาย ไม่ว่าจะเป็น คักล่าร์ โซยุนกู, ยูนุส มัลลี่, เซนกิซ อุนเดอร์ รวมถึง เอเนส อูนัล ที่ขึ้นมาเป็นตัวแกนของสโมสรได้เเล้ว

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
ตุรกี (4-2-3-1) : โวลคาน บาบากาน - โกคาน โกนัล, โอเมอร์ โทพรัค, คักล่าร์ โซยุนกู, ฮาซาน คัลดิริม - เมเหม็ด โทปัล, เซลซุค อินาน - ฮาคาน ชัลฮาโนกลู, ยูนุส มัลลี่, เซนกิซ อุนเดอร์ - เซงค์ โตซุน

      เบิร์ต ฟาน มาร์ไวจ์ค เทรนเนอร์ของ ออสเตรเลีย เลือกตัดตัว เจมี่ แม็คลาเรน, อเล็กซ์ เกอร์สบัค และ มิตช์ ลังเกรัค ออกจากทีมในนาทีสุดท้าย ก่อนส่งรายชื่อให้ฟีฟ่า แต่กำลังรบที่เก็บไว้ใช้งานก็ไม่ธรรมดาอยู่ มีทั้ง อเล็กซานเดอร์ ซัสช่าร์, ดิมิทรี เปตราตอส, แอนดรูว์ นับบูต์, ไมล์ เยดินัค, ทอม โรกิช และ อารอน มอย พาเหรดกันเลย

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
ออสเตรเลีย (3-5-2) : แมต ไรอัน - มิลอส เดเกเนค, แมทธิว ยูร์มัน, ไบลี่ย์ ไรท์ - มาร์ค มิลลิแกน, อารอน มอย, ไมล์ เยดินัก, ทอม โรกิช, เจมส์ ทรอยซี่ - แมทธิว เล็กกี้, โทมี่ ยูริช

      ลาร์ส ลาเกอร์บัค กุนซือของ นอร์เวย์ เรียกตัวพวกที่โชว์ผลงานได้ดีกับต้นสังกัดมาติดทีมครั้งนี้หลายราย ได้แก่ คริสตอฟเฟอร์ อาเชอร์, ซิเกิร์ด รอสเตด, อิเวอร์ ฟอสซัม, เฟรดริค มิดส์โช่ รวมไปถึง มาร์ติน โอเดการ์ด เด็กเทพในตำนาน ที่กลับมาเล่นได้เยี่ยมอีกครั้งกับ ฮีเรนวีน ส่วนกัปตันทีมอย่าง สตีเฟ่น โยฮันเซ่น ต้องมาอยู่เเล้ว

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
นอร์เวย์ (4-4-2) : เออร์ยาน นีลันด์ - โอมาร์ อีลับเดลลาอุย, ทอเร่ เรกินุสเซ่น, ฮาเวิร์ด นอร์ดเวต, โยนาส สเวนส์สัน - โมฮาเหม็ด เอลยูนูสซี่, อิเวอร์ ฟอสซัม, สเตฟาน โยฮันเซ่น, มัทส์ เดห์ลี่ - ทาริค เอลยูนุสซี่, เฟรดริค กัลบรันด์เซ่น

      โมอาเหม็ด มาชาสซูบา นายใหญ่ของ มาลี ไม่มีปัญหาในการจัดทัพมากนัก เพราะตัวสำคัญๆ ยังอยู่กันครบ ไม่ได้บาดเจ็บหรือติดโทษแบน เชื่อว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในใจของ มาชาสซูบา จะประกอบไปด้วยพวกที่ค้าเเข้งในแผ่นดินยุโรป ไม่ว่าจะเป็น นูอา ดิกโก้, มอลล่า วาเก้, อีฟส์ บิสซูม่า รวมไปถึง ลาสซานา คูลิบาลี

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
มาลี (4-1-4-1) : ฌิกี ดิอาร์ร่า - ฟาลาเย่ ซัคโก, มอลล่า วาเก้, มามาดู โฟฟาน่า, อามารี่ ตราโอเร่ - เดียดี้ ซามาสเซคู - มุสซ่า ดุมเบีย, อดาม่า ตราโอเร่, อีฟส์ บิสซูม่า, ลาสซานา คูลิบาลี - นูอา ดิกโก้

      วาฮิด ฮาลิฮ็อดซิช เฮ้ดโค้ชของ ญี่ปุ่น จะไม่มีชื่อของ วาตารุ เอ็นโดะ กับ ฮิโรกิ ซากาอิ ที่ถอนตัวออกจากทีมไปแล้ว แต่ขุมกำลังคนอื่นๆ พร้อมลงรับใช้ชาติกันทั้งหมด คาดว่า ฮาลิฮ็อดซิช จะวางหมากมาในระบบ 4-4-2 โดยจะมี เคซุเกะ ฮอนดะ ดาวยิงจากสโมสรปาชูก้า ยืนคู่กันกับ ยูยะ โอซาโกะ ในฐานะเพชรฆาตล่าประตู

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
ญี่ปุ่น (4-4-2) : อิจิ คาวาชิม่า - นาโอมิจิ อุเอดะ, โทโมอากิ มาคิโนะ, มาซาโตะ โมริชิเงะ, ยูโตะ นากาโตโมะ - มาโกโตะ ฮาซาเบะ, โฮตารุ ยามากูจิ, กาคุ ชิบาซากิ, เรียวตะ โมริโอกะ - เคซุเกะ ฮอนดะ, ยูยะ โอซาโกะ

      ติเต้ ผู้จัดการทีมของ บราซิล มี "อาวุธหนัก" ให้ใช้งานแทบครบมือ ขาดไปเพียงแค่ เนย์มาร์ ดาวดังกัปตันทีมเท่านั้นที่ต้องพักรักษาตัวอยู่ ส่วนที่เหลืออย่าง ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, เปาลินโญ่, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และ กาเบรียล เฮซุส ยังอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา โดยเฉพาะในรายของ "คูตี้" น่าจะลงเป็นตัวจริง

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
บราซิล (4-3-3) : อาลิสสัน - ดานี่ อัลเวส, มิรานด้า, ธิอาโก้ ซิลวา, มาร์เชโล่ - วิลเลี่ยน, กาเซมิโร่, แฟร์นันดินโญ่ - ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, ดั๊กลาส คอสต้า

      สตานิสลาฟ เชอร์เชซอฟ นายใหญ่ของ รัสเซีย จะไร้เงาของ อเล็คซานเดอร์ โกโกริน และ อาร์เตม ซูบา สองกองหน้าตัวหลักที่โดนอาการเจ็บเล่นงาน ทำให้นัดนี้ เชอร์เชซอฟ ต้องเรียกตัว โฟดอร์ สโมลอฟ มาลงล่าตาข่ายเเทน แต่สำหรับ อลัน ซาโกเยฟ จอมทัพประจำทีมพร้อมลุยอย่างเเน่นอน

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
รัสเซีย (5-3-2) : อิกอร์ อาคินเฟเยฟ - อิกอร์ สโมลนิคอฟ, โฟเดอร์ คูเดอร์ยาชอฟ, อันเดร เซเมนอฟ, วลาดิเมียร์ กรานัต, ดมิทรี กอมบารอฟ - เดนิส กลูชาคอฟ, อลัน ซาโกเยฟ, อเล็กซานเดอร์ ซาเมดอฟ - โฟดอร์ สโมลอฟ, อเล็คเซ มิรานชุค

      สเตฟาโน่ ปิโอลี่ นายใหญ่ของ ฟิออเรนติน่า เตรียมขน 11 ขุนพลจากเกมที่เปิดบ้านชนะ เบเนเวนโต้ 1-0 ในเกมลีกนัดก่อน มาลงสนามบู๊กันต่อเนื่อง เพราะไม่มีรายงานความเสียหายใดเข้ามาแม้เเต่น้อย นั่นหมายความว่า เฟเดริโก้ เคียซ่า (26 นัด / 5 ประตู) หัวหอกดาวรุ่งวัย 20 ปี จะรับบทบาทเป็นหน้าเป้า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฟิออเรนติน่า (4-3-2-1) : มาร์โก สปอร์ติเยลโล่ - แว็งซ็องต์ ลอรินี่, เกร์มัน เปซเซย่า, วิตอร์ ฮูโก้, คริสเตียโน่ บิรากี้ - มาร์โก เบนัสซี่, มิลาน บาเดลย์, จอร์แดน แวเรอตูต์ - ซีริล เธอโร่, โจวานนี่ ซิเมโอเน่ - เฟเดริโก้ เคียซ่า

      วอลเตอร์ มาซซาร์รี่ ผู้จัดการทีมของ โตริโน่ มีรายชื่อตัวเจ็บในมืออยู่ 3 ราย ได้แก่ คริสเตียน โมลินาโร่ (17 นัด), ไลอันโก้ (4 นัด) และ เควิน โบนิฟาซี่ แต่ข่าวดีที่มีเข้ามาคือ นิโกลัส บูร์ดิสโซ่ (15 นัด) แนวรับตัวเก๋าประสบการณ์สูงวัย 36 ปี กลับมาจากชดใช้โทษห้ามแข่งเเล้ว พร้อมลงรับใช้ต้นสังกัดในทันที

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โตริโน่ (4-3-3) : ซัลวาตอเร่ ซิริกู - ลอเรนโซ่ เด ซิลเวสตรี้, นิโกลัส บูร์ดิสโซ่, นิโกล่าส์ เอ็นกูลู, คริสเตียน อันซัลดี้ - อาฟริยี่ อั๊กคว่าห์ , โทมัส รินคอน, ดานิเอเล่ บาเซลลี่ - ยาโก้ ฟัลเก้, อันเดรีย เบล็อตติ, อเล็กซ์ เบเรนกูเย่ร์

      โรลันโด้ มารัน กุนซือของ คิเอโว่ จะไร้เงาของ อเลสซานโดร กัมเบรินี่ (20 นัด) และ ริคคาร์โด้ เม็กโกรินี่ (14 นัด) เพราะมีอาการเจ็บรบกวนอยู่ คาดว่าเกมนี้ โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงน่าจะประกอบไปด้วย มัสซิโม่ ก็อบบี้ (18 นัด), วอลเตอร์ เบียร์ซ่า (26 นัด / 2 ประตู) และ โรแบร์โต้ อิงเกลเซ่ (21 นัด / 7 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
คิเอโว่ (4-3-1-2) : สเตฟาโน่ ซอร์เรนติโน่ - ฟาบริซิโอ จัคคาตอเร่, มัตเตีย บานี่, เนห์นาด โตโมวิค, มัสซิโม่ ก็อบบี้ - ลูกัส กาสโตร, อิวาน ราโดวาโนวิช, เพอร์พาริม เฮเตมาย - วอลเตอร์ เบียร์ซ่า - ริคคาร์โด้ เม็กโกรินี่, โรแบร์โต้ อิงเกลเซ่

      เจนนาโร่ กัตตูโซ่ เทรนเนอร์ของ มิลาน จะไม่มีชื่อของ อิ๊กนาซิโอ อบาเต้ (13 นัด) กับ อันเดรีย คอนติ (2 นัด) ที่โดนโรคเดี้ยงเล่นงาน แต่เชื่อว่า "กัตจัง" มีเเผนที่จะเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นในใจอยู่เเล้ว เพราะเพิ่งเตะเเมตช์กลางสัปดาห์มา โดยจะได้เห็น ดาวิเด้ คาลาเบรีย (15 นัด) ลงประจำตำแหน่งเเบ็คขวา

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
มิลาน (4-3-3) : จานลุยจิ ดอนนารุมม่า - ดาวิเด้ คาลาเบรีย, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, อเลสซิโอ โรมาโญลี่, ริการ์โด้ โรดริเกวซ - จาโคโม่ โบนาเวนตูร่า, ลูกัส บีญ่า, ฟร้องค์ เคสซี่ - ซูโซ่, นิโกล่า คาลินิช, ฮาคาน ชัลฮาโนกลู

      เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เทรนเนอร์ของ เซลติก หมดสิทธิ์ใช้งานตัวเดี้ยงเซ็ตเดิม คือ แอนโธนี่ ราลส์ตัน (3 นัด), จอนนี่ ฮาเยส (15 นัด / 1 ประตู), เคร็ก กอร์ดอน (23 นัด) และ ลีจห์ กริฟฟิธส์ (19 นัด / 8 ประตู) ส่วนในรายของ แพทริค โรเบิร์ตส์ (6 นัด) ปีกตัวเก่งของทีม ต้องรอเช็คฟิตกันก่อนเริ่มเกมอีกครั้ง

      สตีเฟ่น โรบินสัน นายใหญ่ของ มาเธอร์เวลล์ ขาดหายไปเพียงแค่ ปีเตอร์ ฮาร์ทลี่ย์ (14 นัด / 2 ประตู) แนวรับแดนผู้ดีที่มีอาการเจ็บรบกวนอยู่ ส่วนขุมกำลังที่เหลือพร้อมลุยอยู่นานเเล้ว คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง ไม่น่าจะต่างไปจากเดิมมากนัก นำทีมมาโดย ไรอัน โบว์เเมน (24 นัด / 5 ประตู) หัวหอกประจำทีม

      จุ๊ป ไฮย์เกส กุนซือของ บาเยิร์น มีลิสต์ลูกทีมเดี้ยงอยู่ 5 ราย ได้แก่ มานูเอล นอยเออร์ (3 นัด), คิงส์ลี่ย์ โกม็อง (21 นัด / 3 ประตู), โกร็องแต็ง โตลิสโซ่ (21 นัด / 3 ประตู), อาร์เยน ร็อบเบน (18 นัด / 4 ประตู) และ ธิอาโก้ อัลกานตาร่า (13 นัด / 1 ประตู) แต่คงไม่หนักใจอะไร เพราะมีตัวสแตนบายด์รออยู่อีกเพียบ

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
บาเยิร์น (4-2-3-1) : สเวน อูลไรช์ - โจฌัว กิมมิค, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, เจอโรม บัวเต็ง, ดาวิด อลาบา - ฆาบี มาร์ติเนซ, อาร์ตูโล่ วิดัล - โธมัส มุลเลอร์, ฮาเมส โรดริเกวซ, ฟร้องค์ ริเบรี่ - โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

      ราล์ฟ ฮาเซ่นฮุตเทิ่ล เฮ้ดโค้ชของ ไลป์ซิก ยังไม่มีชื่อของ มาร์เซล ฮัลส์เท่นแบร์ก (15 นัด / 2 ประตู) เหมือนเก่า เพราะยังเจ็บค้างสต็อกอยู่ เชื่อว่า ฮาเซ่นฮุตเทิ่ล จะมีการปรับโฉม 11 ตัวจริงใหม่เเน่ เนื่องจากลูกทีมกรำศึกหนักจริงๆ ในช่วงนี้ แต่สำหรับ ติโม แวร์เนอร์ (24 นัด / 10 ประตู) คงลงเป็นตัวทีเด็ดตามเดิม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไลป์ซิก (4-2-2-2) : ปีเตอร์ กูลัคซี่ - แบร์นาร์โด้, วิลลี่ ออร์แบน, อูปาเมกาโน่, ลูคัส โคลสเตอร์มันน์ - เควิน คัมเพิ่ล, นาบี เกอิต้า - มาร์เซล ซาบิตเซอร์, เอมิล ฟอร์สเบิร์ก - ติโม แวร์เนอร์, ยุสซุฟ โพลเซ่น

      ไฮโค แฮร์ลิช ผู้จัดการทีมของ เลเวอร์คูเซ่น ยังไม่มีชื่อของ ติน เชดวาย (3 นัด) คนเดียวเหมือนเดิม เพราะยังสลัดอาการเดี้ยงกลับมาไม่ได้ แต่ขุมกำลังที่เหลือฟิตเต็มสูบกันทั้งหมด คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในนัดนี้ น่าจะมีชื่อของ จูเลี่ยน บรันด์ (26 นัด / 6 ประตู) แน่นอน เพราะฟอร์มกำลังมาเหลือเกิน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เลเวอร์คูเซ่น (4-2-3-1) : แบร์นด์ เลโน่ - พานาจิโอติส เรตซอส, สเวน เบนเดอร์, โจนาธาน ตาห์, เวนเดล - โดมินิค คอห์ร, ชาร์ลส์ อรานกุซ - จูเลี่ยน บรันด์, ไค ฮาแวร์ซ, เลออน ไบญี่ - เควิน โฟลลันด์

      สเตฟาน รูเธนเบค นายใหญ่ของ โคโลญจน์ มีรายงานความเสียหายเรื่องลูกทีมเจ็บเข้ามา 5 ราย ได้แก่ เฟรเดอริก โซเรนเซ่น (25 นัด / 2 ประตู), เบิร์ค ริซ่า (2 นัด), มิโล่ โยยิช (23 นัด / 2 ประตู), นิโคลัส นาร์เตย์ (1 นัด) และ เซห์รู กีราสซี่ (15 นัด / 4 ประตู) นั่นทำให้ต้องปรับทัพกันวุ่นวายมากพอดูเลย

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โคโลญจน์ (4-4-2) : ติโม ฮอร์น - ลูคัส คลุนเตอร์, ฆอร์เก้ เมเร่, โดมินิค ไฮนซ์, โยนาส เอคเตอร์ - มาร์เซล ริสเซ่, แว็งซ็องต์ โกซิเอลโล่, มาร์โก โฮเกอร์, เลออน บิตเท่นคอร์ต - ยูยะ โอซาโกะ, ไซม่อน เทร็อด

      อันเดร ไบรเท่นไรเตอร์ กุนซือของ ฮันโนเวอร์ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน ซาเรนเรน บาเซ่ (2 นัด) กับ เอ็ดการ์ พริบ เนื่องจากยังต้องเข้าออกโรงพยาบาลอยู่ ส่วนในรายของ อิห์ลัส เบบู (23 นัด / 5 ประตู) แนวรุกตัวเก่งจะติดโทษห้ามแข่ง เพราะสะสมใบเหลืองครบโควต้าเเล้ว ทำให้ จูเลี่ยน คอร์บ (23 นัด / 1 ประตู) ต้องลงแทน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮันโนเวอร์ (3-4-1-2) : ฟิลิปป์ ชอเนอร์ - วัลเดเมียร์ แอนตัน, ซาลิฟ ซาเน่, เฟลิเป้ - จูเลี่ยน คอร์บ, เพอร์มิน ชเว็กเลอร์, อิเวอร์ ฟอสซัม, มัทธีอัส ออสเตอร์โซเลค - เฟลิกซ์ เคล้าส์ - มาร์ติน ฮาร์นิค, นิคลาส ฟัลครู้ก

      ปีเตอร์ สโตเกอร์ เทรนเนอร์ของ ดอร์ทมุนด์ จะไร้เงาของ เซบาสเตียน โร้ด, มาร์โก รอยส์ (5 นัด / 3 ประตู) และ อันเดร ยาร์โมเลนโก้ (16 นัด / 3 ประตู) ที่โดนไข้เดี้ยงเข้าครอบงำ คาดว่าเกมนี้ สโตเกอร์ จะทำการโรเตชั่นนักเตะแน่ๆ เพราะเพิ่งบู๊ในนัดกลางสัปดาห์มา โดย คริสเตียน พูลิซิช (24 นัด / 3 ประตู) จะเป็นตัวจริง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ดอร์ทมุนด์ (4-2-3-1) : โรมัน บูร์กี - ลูคัส พิสเซค, มานูเอล อาคานยี่, โอเมอร์ โทพรัค, มาร์เซล ชเมลเซอร์ - จูเลี่ยน ไวเกิ้ล, มามุด ดาฮุด - คริสเตียน พูลิซิช, มาริโอ เกิทเซ่, อันเดร ชูร์เล่ - มิชี่ บัตชัวยี่

      โดเมนิโก้ เทเดสโก้ กุนซือของ ชาลเก้ ต้องรอเช็คความฟิตของ เวสตัน แม็คเคนนี่ (16 นัด) มิดฟิลด์ชาวอเมริกัน ที่มีปัญหาเจ็บกล้ามเนื้อจากนัดที่ผ่านมา แต่ขุมกำลังคนอื่นๆ ฟิตเต็มสูบกันทั้งหมด คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง คงไม่มีอะไรเปลี่ยนไป โดยจะมี ฟรังโก้ ดิ ซานโต้ (23 นัด / 3 ประตู) กับ กีโด้ บวร์กสตัลเลอร์ (24 นัด / 8 ประตู) ยืนเป็นกองหน้าคู่กัน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ชาลเก้ (3-4-1-2) : ราล์ฟ ฟาห์รมันน์ - ธิโล่ เคห์เรอร์, นัลโด้, มาติย่า นาสตาซิช - ดาเนี่ยล คาลิกูรี่, มักซ์ เมเยอร์, เลออน โกเร็ตส์ก้า, บาสเตียน อ๊อกซิปก้า - อามีน ฮาริต - กีโด้ บวร์กสตัลเลอร์, ฟรังโก้ ดิ ซานโต้

      บรูโน่ ลาบบาเดีย เฮ้ดโค้ชของ โวล์ฟสบวร์ก มีรายชื่อตัวเจ็บอยู่ 7 คน คือ ยานนิค แกร์ฮาร์ด (16 นัด / 1 ประตู), มาร์เซล ทิสเซอรันด์ (14 นัด), จอห์น บรู้คส์ (7 นัด), เซบาสเตียน จุง (2 นัด), อิ๊กนาซิโอ กามาโช่ (9 นัด), ยาคุบ บลาสซีคอฟสกี้ (7 นัด / 1 ประตู) และ อั๊ดเมียร์ เมห์เมดี้ (5 นัด / 1 ประตู) ส่วนในรายของ ดิว๊อค โอริกี (23 นัด / 5 ประตู) ต้องรอเช็คฟิตก่อน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โวล์ฟสบวร์ก (4-2-3-1) : โกเยนส์ กัสตีลส์ - พอล เวอร์ฮาจ, บรูม่า, โรบิน น็อคเก้, วิลเลี่ยม - โจฌัว กีลาโว้ก, มักซิมิเลี่ยน อาร์โนลด์ - เรนาโต้ สเตฟเฟ่น, ดาเนี่ยล ดิดาวี่, ยูนุส มัลลี่ - ดิว๊อค โอริกี

      พาล ดาร์ได ผู้จัดการทีมของ แฮร์ธ่าฯ ก็ไม่มีชื่อแค่ พัลโก้ ดาร์ได แนวรุกดาวรุ่งที่เจ็บยาวอยู่คนเดียวเช่นกัน ส่วนกำลังรบที่เหลือพร้อมลุยเพื่อต้นสังกัดกันทั้งหมด คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในใจของ ดาร์ได ไม่น่าจะต่างไปจากเดิมแน่นอน โดยจะมี ฟาเบียน ลุสเตนแบร์เกอร์ (17 นัด) ยืนคุมจังหวะเกมในแดนกลาง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แฮร์ธ่าฯ (4-2-3-1) : รูเน่ ยาร์สไตน์ - ปีเตอร์ เปคาริค, นิคลาส สตาร์ค, คาริม เรกิ๊ก, มาร์วิน แพล็ตเท่นฮาร์ด - อาร์เน่ เมเยอร์, ฟาเบียน ลุสเตนแบร์เกอร์ - มัตเชล ไวเซอร์, วาเลนติโน่ ลาซาโร่, ซาโลมง กาลู - ดาวี เซลเก้

      คริสเตียน ติตซ์ นายใหญ่ขัดตาทัพของ ฮัมบูร์ก ขาดหายไปเพียงแค่ นิโคไล มุลเลอร์ (1 นัด / 1 ประตู) ห้องเครื่องตัวเก๋าวัย 30 ปี ที่เดี้ยงอยู่ก่อนหน้าคนเดียวเท่านั้น นั่นหมายความว่า ติตซ์ มีตัวให้เลือกใช้งานเพียบ สามารถจัดสรรได้ตามใจเลย คาดว่าเกมนี้จะส่ง ยาน อาร์ป (15 นัด / 2 ประตู) เป็นเพชรฆาตล่าตาข่าย

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮัมบูร์ก (4-1-4-1) : มาเธเนีย - โกโตคุ ซากาอิ, ริค ฟาน ดรองเกเล่น, คิเรียกอส ปาปาโดปูลอส, ดั๊กลาส - กีเดี้ยน จุง - ทัตสึยะ อิโตะ, วาเลซ, อารอน ฮันท์, ฟิลิป คอสติช - ยาน อาร์ป

      ฟลอเรียน โคห์เฟลด์ เฮ้ดโค้ชของ เบรเมน จะไม่มีชื่อของ มิคาเอล เซ็ตเตเรอร์, เจอโรม กอนดอร์ฟ (16 นัด / 1 ประตู) และ ฟิน บาร์เทิ่ลส์ (14 นัด / 2 ประตู) ที่โดนอาการเจ็บเล่นงาน ส่วนในรายของ ฟิลิปป์ บาร์กเฟรเด้ (20 นัด / 1 ประตู) กับ อารอน โยฮันส์สัน (9 นัด / 1 ประตู) ต้องรอเช็คความฟิตก่อนลงสนามว่าไหวหรือไม่

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เบรเมน (4-1-3-2) : ยีรี พาฟเลนก้า - เกเบร เซลาสซี่, มิลอส เวลโกวิช, นิโคลัส มอยซานเดอร์, ลุดวิก ออกุสตินสัน - โธมัส เดอลานี่ย์ - มักซิมิเลี่ยน เอ็กเก้สไตน์, ซลัตโก้ ยูนูโซวิช, ฟลอเรี่ยน ไคนซ์ - อารอน โยฮันส์สัน, มักซ์ ครูเซ่

      มานูเอล บอย์ม กุนซือของ เอ๊าก์สบวร์ก มีลิสต์ลูกทีมเดี้ยงในมือ 5 ราย ได้แก่ ฟาเบียน กีเฟอร์, เจฟฟรี่ โกเวลูว์ (20 นัด), เควิน ดานโซ่ (14 นัด / 2 ประตู), ราฟาเอล ฟรัมแบร์เกอร์ (9 นัด) และ อัลเฟร็ด ฟินโบกาสัน (18 นัด / 11 ประตู) แต่เชื่อว่า บอย์ม คงก็อปปี้ 11 ขุนพลจากเกมที่บุกชนะ ฮันโนเวอร์ 3-1 มาใช้งานต่อเนื่อง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เอ๊าก์สบวร์ก (4-2-3-1) : มาร์วิน ฮิตซ์ - โจนาต็อง ชมิด, กอจโก้ คาชาร์, มาร์ติน ฮินเตเร็กเกอร์, ฟิลิปป์ มักซ์ - รานี่ เคดิร่า, ดาเนี่ยล เบเยอร์ - มาร์เซล เฮลเลอร์, คู จา ชอล, คูบี้ - มิเชล เกรกอริช

      ซานโดร ชวาร์ซ เทรนเนอร์ของ ไมนซ์ จะไร้เงาของ โรบิน เซนท์เนอร์ (15 นัด) กับ นิโก้ บุนแกร์ต ที่ต้องใช้บริการของโรงพยาบาลเหมือนเก่า แต่ยังพอมีข่าวดีอยู่บ้าง เมื่อ เลออน บาโลกัน (11 นัด) กลับมาจากชดใช้โทษแบนเเล้ว เตรียมลุยเป็นตัวจริงทันที อีกคนที่น่าจะได้ออกสตาร์ทเช่นกันคือ โยชิโนริ มุโตะ (22 นัด / 7 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไมนซ์ (3-1-4-2) : ฟาเบียน มุลเลอร์ - เลออน บาโลกัน, สเตฟาน เบล, อับดู ดิยัลโล่ - ฌอง กีบาแมง - ดาเนี่ยล โบรซินสกี้, ซูอัต แซร์ดาร์, แดนนี่ ลัตซ่า, เกอร์ริต โฮลท์มันน์ - โรบิน ไคสัน, โยชิโนริ มุโตะ

      นิโก้ โควัค เฮ้ดโค้ชของ แฟร้งค์เฟิร์ต ยังไม่มีชื่อของ มาสกาเรล (5 นัด) กับ มาร์โก ฟาเบียน (2 นัด) สองกองกลางตัวเก่งที่ต้องพักรักษาตัวอยู่ แต่เชื่อว่า โควัค น่าจะพอใจในผลงานของลูกทีมจากเกมก่อน และจะเรียกใช้งานต่อ โดยจะวาง เซบาสเตียง ฮัลแลร์ (25 นัด / 8 ประตู) และ อันเต เรบิช (22 นัด / 5 ประตู) ช่วยกันล่าตาข่าย

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แฟร้งค์เฟิร์ต (3-1-4-2) : ลูคัส ฮราเด็กกี้ - มาร์โก รุส, ดาบิด อับราฮัม, การ์ลอส ซัลเซโด้ - มาโกโตะ ฮาเซเบะ - มาริอุส โวล์ฟ, เควิน พริ๊นซ์ บัวเต็ง, มิยัต กาซิโนวิช, ทิโมธี แชนด์เลอร์ - เซบาสเตียง ฮัลแลร์, อันเต เรบิช

      จูเลี่ยน นาเกิ้ลมันน์ นายใหญ่ของ ฮอฟเฟ่นไฮม์ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน สเตฟาน พอช (9 นัด), เดนนิส ไกเกอร์ (21 นัด / 2 ประตู), เคเรม เดเมียร์เบย์ (15 นัด / 2 ประตู) และ มาร์ก อูธ (24 นัด / 10 ประตู) ที่กอดคอกันเดี้ยงอยู่ นั่นทำให้ นาเกิ้ลมันน์ ต้ิองมอบหน้าที่ให้กับ นาเดียม อามิรี่ (21 นัด / 2 ประตู) ลงมายืนคุมเกมแทน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮอฟเฟ่นไฮม์ (3-4-2-1) : โอลิเวอร์ เบามันน์ - เควิน อัคโปกูม่า, เควิน โฟ้กท์, เบนจามิน ฮุบเนอร์ - ฟลอเรียน กริลลิช - พาเวล คาเดราเบค, นาเดียม อามิรี่, ลูคัส รัปป์, นิโก้ ชูลซ์ - แซร์ก จีนาบรี้, อันเดร ครามาริช

      ดีเตอร์ เฮ็กคิงก์ ผู้จัดการทีมของ กลัดบัค จะจัดทีมกันอย่างไร ในเมื่อมีรายชื่อลูกทีมบาดเจ็บในมือถึง 10 คน แถมเป็นตัวสำคัญๆ อย่างเช่น ยานนิค เวสเตอร์การ์ด (26 นัด / 3 ประตู), เดนิส ซากาเรีย (25 นัด / 2 ประตู) และ ราฟฟาเอล (19 นัด / 7 ประตู) รวมอยู่ด้วย จึงทำได้แค่เพียงวางหมากไปตามสภาพเท่าที่มีแค่นั้น

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
กลัดบัค (4-4-2) : ยาน ซอมเมอร์ - โทนี่ ยานช์เก้, นิโก้ เอลเวดี้, มัทธีอัส กินเตอร์, ออสการ์ เวนด์ - พาทริค เฮอร์มันน์, มิกกาแอล กุสซ็อง, คริสโตฟห์ เครเมอร์, ธอร์แกน อาซาร์ - ลาร์ส สไตน์เดิ้ล, ราอูล โบบาดีย่า

      มิซู ปาเตไลเน่น เทรนเนอร์ของ อุบล ยูเอ็มที มีทางเลือกในการวางหมากมากขึ้น เมื่อ วุฒิชัย ทาทอง (2 นัด / 1 ประตู) กับ ยศวรรธน์ มนทา (4 นัด) กลับมาช่วยทีมได้เเล้ว ส่วนกำลังรบที่เหลือก็พร้อมลุยกันอยู่นานเเล้ว คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง น่าจะนำทีมมาโดย อกีนัลโด (5 นัด / 1 ประตู) หัวหอกชาวแองโกล่า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
อุบล ยูเอ็มที (3-5-1-1) : สิทธิกร กล่ำใส - สุรีย์ สุขะ, บรินเนอร์, ณภัทร จารุภัทรภักดี - เคนตะ ยามาซากิ, วัชระ เกรียรัมย์, วุฒิชัย ทาทอง, ทวีคูณ ทองอ่อน, ปิยะชาติ ถามะพันธ์ - ฮาร์ทมันน์, อกีนัลโด

      สันติ ไชยเผือก กุนซือขัดตาทัพของ เมืองทองฯ ยังไร้เงาของ อดิศร พรหมรักษ์ (3 นัด), อดิศักดิ์ ไกรษร, วัฒนา พลายนุ่ม (1 นัด), เจนรบ สำเภาดี (2 นัด / 3 ประตู) และ เซลิโอ ซานโตส ที่ยังโดนไข้เดี้ยงเล่นงาน แต่ข่าวดีคือ ชาริล ชัปปุยส์ (5 นัด) ฟิตเต็มสูบ สามารถลงเล่นเป็นตัวจริงได้ หลังถูกเปลี่ยนตัวออกในนัดก่อน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เมืองทองฯ (4-3-3) : กัมพล ปฐมอรรฆย์กุล - ทริสตอง โด, นุกูลกิจ ครุฑใหญ่, นาโออากิ อาโอยามะ, พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา - สารัช อยู่เย็น, ทศวรรษ ลิ้มวรรณเสถียร, ชาริล ชัปปุยส์ - สิโรจน์ ฉัตรทอง, ชาช่า โคเอลโญ่, เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดซ

      แฟร้งค์ ชมิดท์ เทรนเนอร์ของ ไฮเด้นไฮม์ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน ติโม เบียร์มันน์ (19 นัด / 1 ประตู), มาร์นอน บุช (8 นัด / 1 ประตู) และ โอลิเวอร์ สตอยเรอร์ (4 นัด) เพราะยังมีปัญหาอาการเจ็บ ส่วนในรายของ มาธิอัส วิตเทค (20 นัด / 2 ประตู) ลูกทีมตัวเก่งจะติดโทษแบน ทำให้ ชมิดท์ ต้องคิดแก้ปัญหาเป็นการด่วน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไฮเด้นไฮม์ (4-2-2-2) : เควิน มุลเลอร์ - โรเบิร์ต สเตร๊าส์, เควิน เคร๊าส์, นอร์มัน ธอยเออร์เคาฟ์, อาร์เน่ ฟีค - เซบาสเตียน กรีสเบ็ค, มาร์เซล ติตช์-ริเวโร่ - มาร์ก ชนัตเตอเรอร์, มักซิมิเลี่ยน ธีล - จอห์น เวอร์ฮ็อค, นิโกล่า โดเวดาน

      มาร์คุส อันแฟง ผู้จัดการทีมของ โฮลสไตน์ เคียล ยังเหลือแข้งเดี้ยง 2 คนเดิมคือ อามาร่า คอนเด้ (6 นัด) กับ มานูเอล ยานเซอร์ (4 นัด / 1 ประตู) นั่นหมายความว่า อันแฟง ไม่ต้องมีเรื่องให้หนักใจอะไรมากนัก แค่จัดตัวหลักชุดปัจจุบันลงบู๊ต่อก็พอ นำทีมมาโดย มาร์วิน ดุ๊คช์ (26 นัด / 14 ประตู) หัวหอกตัวเก่ง วัย 24 ปี

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โฮลสไตน์ เคียล (4-1-4-1) : เคนเนธ ครอนโฮล์ม - พาทริค เฮอร์มันน์, โดมินิค ชมิดท์, ราฟาเอล ซีโชส, โยฮันส์ ฟาน เดน เบิร์ก - โดมินิค เพทซ์ - คิงส์ลี่ย์ ชินด์เลอร์, เดวิด คินซอมบี้, โดมินิค เดร็กซ์เลอร์, ทอม ไวลันด์ - มาร์วิน ดุ๊คช์

      ออสวัลด์ ต็องโชต์ กุนซือของ เลอ อาฟร์ จะขาดหายไปเพียงแค่ โยอัน ตูราม (19 นัด) นายทวารหมายเลขหนึ่งคนเดียวเท่านั้น ที่โดนไข้เดี้ยงเข้าครอบงำ นั่นเป็นปัญหาหลักที่ ต็องโชต์ ต้องตัดสินใจ ส่วนในแนวรุกยังมี ฌอง มาเตต้า (26 นัด / 11 ประตู) ยืนเด่นเป็นสง่า คอยล่าตาข่ายให้กับต้นสังกัดเหมือนเดิม

      ฌอง วาสเซอูร์ นายใหญ่ของ ชาโตรูซ์ จะไร้เงาของ ราซัค บูการี่ (18 นัด / 1 ประตู) กับ ยานน์ มาเบญ่า (9 นัด / 2 ประตู) ที่ยังต้องใช้บริการของโรงพยาบาลอยู่ แต่กำลังรบที่เหลือพร้อมลุยอยู่นานเเล้ว คาดว่า วาสเซอูร์ น่าจะยังวางใจในตัวของ อูมาเร่ ตวนการ่า (24 นัด / 4 ประตู) ให้ช่วยผลิตสกอร์ให้กับทีมต่อไป

      ฌอง โฟเร่ นายใหญ่ของ นิออร์ ปวดตับไม่แพ้กัน เมื่อจะไม่มีชื่อของ ซาตูริน อัลลากี (18 นัด), ดิดิเยร์ ลัมเกลเซ่ (23 นัด / 6 ประตู), อัลลิยู เดมเบเล่ (26 นัด) และ อองตวน บาติสเซ่ (15 นัด) ที่กอดคอกันเดี้ยงอยู่ทั้งหมด คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ขุนพลในเกมนี้ ไม่น่าจะมีอะไรเปลี่ยน โดยจะมี อันเด โดนา เอ็นโดห์ (29 นัด / 10 ประตู) นำทัพ

      เอร์เว่ เดญ่า มักชิโอเร่ เฮ้ดโค้ชของ บูร์ก แปร็องนาส์ มีรายงานลูกทีมเจ็บถึง 6 คน คือ แกต็อง เดนิวเว (20 นัด), ฟลอล็องต์ เเปร์ราแด็ง (12 นัด / 2 ประตู), วิตัล เอ็นซิมบ้า (19 นัด / 1 ประตู), เซบาสติยง เชเร่ (10 นัด), อองโตนี่ ปอนรอย (11 นัด) และ วิลเฟร็ด ลุยซี่-ดาเนี่ยล จึงทำให้ไม่มีอะไหล่มาเปลี่ยนแปลง 11 ตัวจริงได้เลย

      เจฟ ไซบีน นายใหญ่ของ บีเลเฟลด์ ยังไม่มีชื่อของ นิลส์ ควอชเนอร์ (4 นัด) ที่ยังสลัดคราบเดี้ยงกลับมาไม่ได้ แต่หาใช่ปัญหาแต่อย่างใด เพราะ ไซบีน เตรียมขน 11 ขุนพลชุดปัจจุบันลงสู้ศึกต่อเนื่อง โดยจะมี อันเดรียส โฟเกิ้ลซามเมอร์ (26 นัด / 10 ประตู) ยืนเป็นเป็นตัวความหวังในแดนหน้าเหมือนเก่า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
บีเลเฟลด์ (4-1-4-1) : สเตฟาน ออร์เตก้า - ฟลอเรียน ดิ๊ค, ไบรอัน เบห์เรนด์, จูเลี่ยน บอร์เนอร์, ฟลอเรียน ฮาร์แธร์ซ - ทอม ชู๊ทซ์ - พาทริค ไวห์เร๊าช์, มานูเอล เพรเทิ่ล, คอนสแตนติน เคิร์ชเบาเมอร์, คีนู สเต๊าด์ - อันเดรียส โฟเกิ้ลซามเมอร์

      ฟรีดเฮล์ม ฟุงเคิ่ล เทรนเนอร์ของ ดุสเซลดอร์ฟ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน มิคาเอล เรนซิ่ง (3 นัด), โกคาห์น กัล, อังเดร ฮอฟฟ์มันน์ (20 นัด / 2 ประตู) และ ลูคัส ชมิตซ์ (12 นัด / 1 ประตู) ที่มีอาการเจ็บรบกวน ทำให้ ฟุงเคิ่ล ต้องปรับทัพกันนิดหน่อย จากระบบ 4-2-3-1 มาเป็น 4-1-4-1 เพื่อสมดุลเกมในแดนกลาง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ดุสเซลดอร์ฟ (4-1-4-1) : ราฟาเอล โวล์ฟ - จูเลี่ยน เชาเออร์เต้, คาน อายฮาน, อดัม บ็อดเซ็ค, นิโก้ กีเซลมันน์ - มาร์เซล โซบ็อตก้า - ทาคาชิ อูซามิ, โอลิเวอร์ ฟิงค์, ฟลอเรียน นอยฮุส, เกงกิ ฮารากูชิ - รูเวน เฮนนิ่งส์