วิเคราะห์บอล / วิเคราะห์บอลวันนี้

      โฆเซ่ เมนดิลิบาร์ นายใหญ่ของ เออิบาร์ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน ฟาเบียน ออเรญาน่า (9 นัด / 3 ประตู), ฟราน ริโก้ และ เซร์จี้ เอ็นริช (19 นัด / 3 ประตู) ที่กอดคอกันเดี้ยงอยู่ แต่คงไม่น่ากังวลใจอะไรมากนัก เพราะ กีเก้ การ์เซีย (26 นัด / 5 ประตู) กับ ชาร์เลส (25 นัด / 6 ประตู) พร้อมลงล่าตาข่ายทั้งคู่

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
เออิบาร์ (4-4-2) : มาร์โก้ ดมิโตรวิช - อังเดร์ กาป้า, อิบัน รามิส, อานาอิตซ์ อาร์บิย่า, โฆเซ่ อังเคล - เปโดร เลออน, ปาเป้ ดิย็อป, ดานี่ การ์เซีย, ทาคาชิ อินูอิ - กีเก้ การ์เซีย, ชาร์เลส

      ปาโก้ โลเปซ กุนซือของ เลบานเต้ มีลิสต์ตัวเจ็บถึง 6 ราย ได้แก่ ราอูล เฟร์นานเดซ (11 นัด), อีบัน โลเปซ (3 นัด), เซร์คิโอ ปอสติโก้ (23 นัด / 1 ประตู), โตนโญ่ (12 นัด), ชีค ดูกูเร่ (19 นัด / 1 ประตู) และ อเล็กซ์ อาเลเกรีย (9 นัด) แถมต้องมาเสีย โคเก้ นายด่านวัย 22 ปี ให้กับโทษแบนซะอีก

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
เลบานเต้ (4-4-2) : ออยเอร์ โอลาซาบัล - โกเก้, อีริค กาบาโก้, เชมา โรดริเกซ, อันโตนิโอ ลูน่า - เฆซอน, กัมปันญ่า, เจฟเฟอร์สัน เลอร์มา, อีบี้ - โรเกร์ มาตรี, โฆเซ่ หลุยส์ โมราเลส

      ตายฟุน คอร์คุต เทรนเนอร์ของ สตุ๊ตการ์ต ยังไร้เงาของ มัทธิอัส ซิมเมอร์มันน์ (2 นัด) กับ การ์ลอส มาเน่ ที่ยังเดี้ยงอยู่เหมือนเก่า นั่นหมายความว่า คอร์คุต ไม่ต้องคิดอะไรให้มากมาย นอกจากเลือกใช้ 11 ตัวจริงชุดเดิมลงบู๊ต่อ นำทีมมาโดย มาริโอ โกเมซ (8 นัด / 4 ประตู) หัวหอกตัวเก๋าประจำทีม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
สตุ๊ตการ์ต (4-2-2-2) : รอน โรเบิร์ต ซีเลอร์ - อันเดรียส เบ็ค, ติโม บอย์มการ์ตเทิ่ล, เบนจามิน ปาวาร์, เอมิเลียโน่ อินซัว - โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์, ซานติอาโก้ อัสกากิบาร์ - คริสเตียน เกนท์เนอร์, อีริค ธอมมี่ - มาริโอ โกเมซ, ดาเนี่ยล กินเซค

      คริสเตียน สไตรช์ นายใหญ่ของ ไฟร์บวร์ก มีรายงานตัวเจ็บเข้ามา 5 ราย ได้แก่ อามีร์ อาบราชี่ (12 นัด), ไมค์ ฟร้านซ์ (11 นัด), โยริก ราเว่ต์ (10 นัด), คาเล็บ สแตนโก้ (6 นัด) และ ฟลอเรียน นีแดร์เลชเนอร์ (10 นัด / 2 ประตู) นั่นทำให้เกมนี้ สไตรช์ ต้องปรับการวางหมากกันอีกครั้งเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไฟร์บวร์ก (4-2-2-2) : อเล็กซานเดอร์ ชโวลอฟ - ปาสกาล สเตนเซิ่ล, มานูเอล กัลด์, คักลาร์ โซยุนกู, คริสเตียน กุนเตอร์ - นิโคลัส ฮอฟเลอร์, โรบิน ค็อก - ลูคัส โฮเลอร์, ยานิค ฮาเบเรอร์ - นีล พีเตอร์เซ่น, ทิม ไคลน์เดี้ยนส์

      อเล็กซานเดอร์ เมดิน่า เทรนเนอร์ของ นาซิอองนาล มีรายงานตัวเดี้ยงเขามา 4 ราย ได้แก่ อัลบาโร่ กอนซาเลซ (3 นัด), เลอันโดร โอตอร์มิน, ฟากุนโด้ วาเญร์ และ กาเบรียล เนเบส (4 นัด) ส่วนในรายของ ฆอร์เก้ ฟูกิเล่ (1 นัด) ปราการหลังประสบการณ์สูงจะติดโทษแบน ทำให้ เมดิน่า ต้องแก้ปัญหา

      แฮร์ เวนตูร่า เฮ้ดโค้ชของ ซานโต๊ส จะไม่มีชื่อของ บรูโน่ เฮนริเก้ (1 นัด) กับ ยูริ ที่มีอาการเจ็บรบกวนอยู่ แต่กำลังสำคัญคนอื่นๆ ฟิตเต็มสูบกันทั้งหมด คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง จะนำทีมมาโดย ลูคัส เวริสซิโม่ แนวรับวัย 23 ปี, เรนาโต้ ห้องเครื่องตัวเก๋า และ กาเบรียล บาร์โบซ่า หัวหอกดาวดัง

      ชอร์เก้ เชซุส นายใหญ่ของ สปอร์ติ้ง ลิสบอน มีตัวเจ็บยาวเป็นหางว่าว ไล่มาตั้งแต่ ดาเนียล โพเดนซ์ (12 นัด), เซย์ดู ดุมเบีย (13 นัด), คริสเตียโน่ ปิชชินี่ (20 นัด), บรูโน เซซาร์ (18 นัด), อังเดร ปินโต้ (6 นัด) และ ราฟาเอล เลเอา (3 นัด / 1 ประตู) แถม เซบาสเตียน โกอาเตส (26 นัด / 2 ประตู) กับ วิลเลียม คาร์วัลโญ่ (21 นัด / 1 ประตู) ดันติดแบนอีก

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
สปอร์ติ้ง ลิสบอน (4-4-2) : รุย ปาตริซิโอ - โรดริโก บัตตาเกลีย, สเตฟาน ริสตอฟสกี้, เฌเรมี่ มาติเยอ, ลูเมอร์ อั๊กเบนเยนู - เกลสัน มาร์ตินส์, โบรูโน่ เฟอร์นานเดส, ไบรอัน รุยซ์, มาร์กอส อคุนญ่า - เฟรดี้ มอนเตโร่, บาส โดสท์

      พาเวล เวอร์บา ผู้จัดการทีมของ วิคตอเรีย เพลเซ่น จะหมดสิทธิ์ใช้งาน เดวิด ลิมเบอร์สกี้ (13 นัด / 1 ประตู) แบ็คซ้ายตัวเก๋าประจำทีม ที่ติดโทษห้ามแข่งในนัดนี้พอดี คาดว่า เวอร์บา จะแก้ปัญหาด้วยการส่ง โตมาช ฮาเย็ค (14 นัด / 1 ประตู) ลงมาประจำการแทน ส่วนในตำแหน่งอื่นๆ ไม่น่าจะต่างไปจากชุดเดิม เนื่องจากเป็นชุดที่ดีที่สุดในเวลานี้เเล้ว

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
วิคตอเรีย เพลเซ่น (4-2-3-1) : อเลส ฮรูสก้า - ราดิม เรซนิค, ลูคัส เฮย์ด้า, โรมัน ฮุบนิค, โตมาช ฮาเย็ค - ปาทริค ฮโรซอฟสกี้, โทมัส โฮราว่า - มิลาน ปีเตอร์เซล่า, ดาเนี่ยล โคลาร์, มาร์ติน เซมาน - มิชาล เคอร์เมนซิค

      ปีเตอร์ สโตเกอร์ ผู้จัดการทีมของ ดอร์ทมุนด์ มีลิสต์ตัวเดี้ยงในมืออยู่ 4 คน คือ เยเรมี โตลยาน (14 นัด / 1 ประตู), เอริค ดอร์ม, อันเดร ยาร์โมเลนโก้ (16 นัด / 3 ประตู) และ ชินจิ คากาวะ (18 นัด / 5 ประตู) ส่วนในรายของ มานูเอล อาคานยี่ (5 นัด) แนวรับชาวสวิตเซอร์แลนด์จะลงเล่นในรายการนี้ไม่ได้

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ดอร์ทมุนด์ (4-2-3-1) : โรมัน บูร์กี - ลูคัส พิสเซค, โซเครติส, โอเมอร์ โทพรัค, มาร์เซล ชเมลเซอร์ - จูเลี่ยน ไวเกิ้ล, นูรี ซาฮิน - คริสเตียน พูลิซิช, มาร์โก รอยส์, อันเดร ชูร์เล่ - มิชี่ บัตชัวยี่

      มาร์โก โรเซ่ กุนซือของ ซัลซ์บวร์ก ยอมพักตัวหลักๆ ไว้ ไม่ใช้งานในเกมลีกนัดล่าสุด เพื่อเอามาดวลกับ ดอร์ทมุนด์ ในวันนี้ นั่นหมายความว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง คงจะไม่ต่างจากเลกแรกมากนัก อาจจะมีเพียงเเค่ ทาคุมิ มินามิโนะ (19 นัด / 4 ประตู) ลงเสียบแทน ซาเวอร์ ชลาเกอร์ (17 นัด / 1 ประตู) เท่านั้น

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ซัลซ์บวร์ก (4-3-1-2) : อเล็กซานเดอร์ วัลเก้ - สเตฟาน ไลเนอร์, อันเดร รามัลโญ่, ดูเย่ กาเลต้า คาร์, อันเดรียส อัลเมอร์ - อมาดู ไฮดาร่า, ดิยาดี้ ซามาสเซกู, วาลอน เบริช่า - ทาคุมิ มินามิโนะ - มูนาส ดับบูร์, ชาน ควาง เฮ

      ราล์ฟ ฮาเซ่นฮุตเทิ่ล เทรนเนอร์ของ ไลป์ซิก มีรายงานตัวเจ็บเข้ามา 3 ราย ได้แก่ มาร์เซล ฮัลส์เท่นแบร์ก (15 นัด / 2 ประตู), อเดโมล่า ลุคมัน (5 นัด / 1 ประตู) และ เควิน คัมเพิ่ล (20 นัด / 1 ประตู) แต่ข่าวดีคือ ติโม แวร์เนอร์ (24 นัด / 10 ประตู) ดาวยิงตัวเทพพร้อมถล่มสกอร์แน่นอน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไลป์ซิก (4-4-2) : ปีเตอร์ กูลัคซี่ - แบร์นาร์โด้, วิลลี่ ออร์แบน, อูปาเมกาโน่, ลูคัส โคลสเตอร์มันน์ - เอมิล ฟอร์สเบิร์ก, ดีเอโก้ เดม, นาบี เกอิต้า, บรูม่า - ติโม แวร์เนอร์, ยุสซุฟ โพลเซ่น

      โรแบร์โต้ มันชินี่ นายใหญ่ของ เซนิตฯ จะไร้เงาของ เอมานูเอล มัมมาน่า (16 นัด) กับ ดาเลอร์ คุซยาเยฟ (20 นัด / 4 ประตู) ที่โดนไข้เดี้ยงเล่นงาน ทำให้ "มันโช่" ต้องแก้ปัญหาในเเนวรับด้วยการถอย เลอันโดร ปาเรเดส (20 นัด / 3 ประตู) ที่ปกติเป็นมิดฟิลด์ มายืนขัดตาทัพในนัดนี้

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เซนิตฯ (4-3-3) : อังเดร ลูเนซ - บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, มิฮา เมฟย่า, เลอันโดร ปาเรเดส, โดเมนิโก้ คริสชิโต้ - อเล็กซานเดอร์ อีโรกิ้น, มาติอัส คราเนวิตเตร์, ยูริ เซอร์คอฟ - เอมิเลียโน่ ริโกนี่, อเล็กซานเดอร์ โคโคริน, แอนตัน ซาโบล็อตนี่

      ชอย คัง ฮี เฮ้ดโค้ชของ ชุนบุค ฮุนได จะไร้เงาของ ริคาร์โด้ โลเปส (2 นัด) ตัวรุกบราซิเลี่ยน ซึ่งโดนอาการเจ็บเล่นงาน แต่ก็จะได้ จอง โฮ ฮอง (2 นัด) กลับมาใช้บริการได้อีกครั้ง หลังจากชดใช้โทษแบนเรียบร้อย ส่วน คิม ชิน วุ๊ค (2 นัด / 1 ประตู) ที่ระเบิดแฮททริคในเกมก่อน พร้อมลุยอยู่เเล้ว

      เปาโล ซูซ่า นายใหญ่ของ เทียนจิน ควานเจี้ยน จัดทัพได้อย่างสบายใจไม่น้อย เนื่องจากสภาพความพร้อมของลูกทีมสมบูรณ์ 100% นั่นหมายความว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง ไม่น่าจะผิดแปลกแตกต่างไปจากเดิม โดยจะมี อเล็กซานเดร ปาโต้ (1 นัด / 1 ประตู) เล่นเป็นจอมทัพ

      ทาคาฮิโระ ชิโมตาอิระ เทรนเนอร์ของ คาชิว่า เรย์โซล ขาดหายไปเพียงแค่ โคเฮ เทซึกะ ห้องเครื่องดาวรุ่งที่ยังเข่าเดี้ยงไม่หาย ส่วนกำลังรบที่เหลือพร้อมลุยอยู่นานเเล้ว เชื่อว่า ชิโมตาอิระ เอง ก็น่าจะยึดตัวหลักชุดเก่าต่อเนื่อง แต่จะให้ คริสเตียโน่ (3 นัด / 1 ประตู) กลับมาเป็นตัวจริง

      ชู ฉี หว่อง ผู้จัดการทีมของ คิตฉี ไม่มีปัญหาใดในการวางหมากเหมือนเดิม เพราะมีนักเตะในมือให้ใช้งานได้ครบครัน คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง ไม่น่าจะต่างไปจากนัดที่ผ่านมามากนัก โดยจะมี ดีเอโก้ ฟอร์ลัน (5 นัด / 5 ประตู) กับ แฟร์นานโด (14 นัด / 4 ประตู) เป็นตัวชูโรง

      โบซิดาร์ บันโดวิช ผู้จัดการทีมของ บุรีรัมย์ฯ ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน สุเชาว์ นุชนุ่ม (2 นัด) ที่มียังเจ็บอยู่เหมือนเก่า ส่วนในรายของ จักรพันธ์ แก้วพรม (5 นัด / 1 ประตู) จะติดโทษแบน แต่ยังพอมีข่าวดีตรงที่ ดิโอโก หลุยส์ ซานโต (5 นัด / 5 ประตู) กลับมาลงเล่นได้แล้ว

      ยูน จุง ฮวาน นายใหญ่ของ เซเรโซ โอซาก้า จะไร้เงาของ ฮิโรชิ คิโยตาเกะ เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่งที่ยังสลัดคราบเดี้ยงไม่ได้ แต่เกมนี้ยืนยันมาเเล้วว่า จะใช้นักเตะตัวหลักเต็มสูบแน่นอนเพื่อคว้าชัยชนะ โดยจะมี โฮตารุ ยามางุจิ มิดฟิลด์กัปตันทีม เป็นตัวคุมเกมในแดนกลาง

      ฟาบิโอ คันนาวาโร่ เฮ้ดโค้ชของ กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ จะไม่มีชื่อของ หวัง ฉางหยวน ที่จะติดโทษห้ามแข่ง เนื่องจากสะสมใบเหลืองครบโควต้าเเล้ว แต่ข่าวดีที่มีเข้ามาคือ เหลียว ลี่เฉิง จะเดินสวนทางกลับมาแทน ที่สำคัญกว่านั้น ริคาร์โด้ กูลาร์ท (2 นัด / 3 ประตู) พร้อมลุยแน่นอน

      โช ซุง ฮวาน กุนซือของ เจจู ยูไนเต็ด เตรียมส่ง 11 ขุนพลชุดเดิมที่ฉะกันในนัดก่อนลงแก้ตัวกันอีกครั้ง เพราะไม่มีรายงานความเสียหายใดเข้ามาให้กังวลใจ นั่นหมายความว่า "สามประสาน" ตัวบน จะยังคงเป็น มักโน่ ครูซ (1 นัด), จิน ซัง วุ๊ค (1 นัด) และ ริว ซุง วู (1 นัด) ลงรวมพลังกันต่อ

      จุ๊ป ไฮย์เกส เฮ้ดโค้ชของ บาเยิร์น จะไม่มีชื่อของ มานูเอล นอยเออร์ (3 นัด), คิงส์ลี่ย์ โกม็อง (21 นัด / 3 ประตู) และ โกร็องแต็ง โตลิสโซ่ (21 นัด / 3 ประตู) ที่ควงเเขนกันเดี้ยงแบบยกเซ็ต แต่คงไม่ใช่สาระสำคัญเท่าไหร่ เนื่องจากเกมนี้ ไฮย์เกส น่าจะโรเตชั่นตัวหลักไปพักหลายคนแน่นอน เพื่อให้สำรองลงโชว์บ้าง

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
บาเยิร์น (4-2-3-1) : สเวน อูลไรช์ - โจฌัว กิมมิค, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, นิคลาส ซูเล่, ดาวิด อลาบา - ธิอาโก้ อัลกานตาร่า, อาร์ตูโล่ วิดัล - โธมัส มุลเลอร์, ฮาเมส โรดริเกวซ, ฟร้องค์ ริเบรี่ - ว้ากเนอร์

      เซนอล กูเนส เทรนเนอร์ของ เบซิคตัส จะไร้เงาของ เปเป้ (19 นัด / 2 ประตู) และ ดุสโก้ โทซิช (18 นัด / 3 ประตู) สองปราการหลังตัวสำคัญที่มีอาการเจ็บ ส่วนในรายของ โดมากอย วิด้า (6 นัด / 1 ประตู) แนวรับเลือดโครเอเชีย ก็ดันมาติดโทษห้ามแข่งอีก ทำให้ปัญหาใหญ่ที่ กูเนส ต้องแก้คือ แนวรับของทีม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เบซิคตัส (4-2-3-1) : ฟาบรี - โกคาน โกนัล, การี่ เมเดล, เนซิป, อาเดรียโน่ - อติบา ฮัตชินสัน, โตลกาย อาร์สลัน - ริคาร์โด้ กวาเรสม่า, อันแดร์สัน ตาลิสก้า, ไรอัน บาเบล - อัลบาโร่ เนเกรโด้

      โซ จุง วอน เฮ้ดโค้ชของ ซูวอน บลูวิงส์ ก็ไม่มีอะไรให้กังวลใจในการจัดทีมเช่นกัน เนื่องจากนักเตะทุกคนฟิตกันเต็มสูบทั้งหมด และไม่มีใครติดโทษห้ามแข่งเลยสักคน เชื่อว่า จุง วอน น่าจะวางหมากมาในระบบเดิมที่ถนัดคือ 4-1-4-1 โดยจะให้ เดยัน ดัมยาโนวิช (1 นัด) ยืนค้ำเป็นศูนย์หน้าตัวเป้าเหมือนนัดก่อนๆ

      วู จินกุย เทรนเนอร์ของ เซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว คงไม่คิดเปลี่ยนแปลง 11 ตัวจริงมากนัก เพราะลูกทีมทำหน้าที่กันได้ดีอยู่เเล้ว อีกอย่างก็ไม่มีรายงานนักเตะเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามาเลย แต่อาจจะมีแค่ส่ง โจวานนี่ โมเรโน่ (2 นัด) ออกสตาร์ทตั้งแต่เริ่มเกม หลังจากที่นัดก่อนลงมาเป็นสำรองแล้วทำประตูได้ด้วย

      วิคเตอร์ เปไรร่า เฮ้ดโค้ชของ เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี ไม่มีปัญหาใดในการจัดทัพ เนื่องจากสภาพความพร้อมของลูกทีมทุกคนสมบูรณ์ดี 100% เชื่อว่า เปไรร่า คงวางหมากมาแบบเน้นๆ ในระบบ 4-2-3-1 ซึ่งตัวจอมทัพน่าจะเป็น ออสการ์ (2 นัด / 3 ประตู) ที่ฟอร์มกำลังมาในเวลานี้ เพราะกดคนเดียว 2 ตุงในเกมก่อน

      คิม โด ฮุน กุนซือของ อุลซาน ฮุนได ยังไม่มีชื่อของ ลี จอง โอ แนวรุกวัย 26 ปี ที่ยังเจ็บอยู่เหมือนเก่า แต่ขุมกำลังคนอื่นๆ พร้อมลุยเพื่อต้นสังกัดกันทั้งหมด คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง ไม่น่าจะต่างไปจากนัดที่บุกเสมอ เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี 2-2 มากนัก แต่จะมี มิสลาฟ ออร์ซิช (2 นัด) ลงป่วนคู่เเข่งตั้งแต่แรก

      เกรแฮม อาร์โนลด์ เทรนเนอร์ของ ซิดนี่ย์ เอฟซี จะไม่มีชื่อของ โบโบ้ (22 นัด / 22 ประตู), มิลอส นินโควิช (19 นัด / 4 ประตู) และ มิคาเอล ซูลโล (17 นัด / 1 ประตู) ที่มีอาการเดี้ยงรบกวน ส่วนในรายของ แบรนดอน โอนีลล์ (21 นัด / 2 ประตู) กองกลางตัวเก่งจะติดโทษห้ามแข่ง ทำให้ อาร์โนลด์ ต้องแก้ปัญหา

      โก โออิวะ กุนซือของ คาชิม่า แอนท์เลอร์ส ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน ยาซุชิ เอ็นโดะ (2 นัด) และ ไดโกะ นิชิ ที่มีปัญหาเจ็บอยู่ก่อนหน้า แต่ตัวหลักคนอื่นๆ ไม่มีรายงานความเสียหายใดๆ เข้ามา คาดว่า โออิวะ น่าจะยังยึด 11 ตัวจริงจากเกมก่อนลงสนามบู๊อย่างต่อเนื่อง โดยจะมี ยูมะ ซูซูกิ (3 นัด) ลงยืนเป็นกองหน้า

      โทรุ โอนิกิ เฮ้ดโค้ชของ คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ยังไม่มีชื่อของ มานาบุ ไซโตะ ปีกตัวจี๊ด ที่ยังต้องพักรักษาตัวเหมือนเก่า นั่นหมายความว่า โอนิกิ ไม่มีปัญหาใดในการจัดทีมแน่นอน สามารถเลือกจัด 11 ขุนพลชุดที่ดีที่สุดลงบู๊ได้ตามใจ โดยจะมี ยู โคบายาชิ (3 นัด / 1 ประตู) กับ เอลซินโญ่ (3 นัด) เป็นตัวทีเด็ด

      เควิน มุสแคท ผู้จัดการทีมของ เมลเบิร์น วิคตอรี่ จะไร้เงาของ คาร์ล วาเลรี่ (20 นัด) ปราการหลังจอมเก๋าวัย 33 ปี ที่มีอาการเจ็บรบกวนอยู่ แต่กำลังรบที่เหลือพร้อมลุยอยู่นานแล้ว คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง จะนำทีมมาโดย เจมส์ ทรอยซี่ (18 นัด / 3 ประตู) ห้องเครื่องทีมชาติออสเตรเลีย เจ้าเก่าเจ้าเดิม

      เคนาน โคซัค กุนซือของ ซานด์เฮาเซ่น มีรายงานตัวเดี้ยงเข้ามา 6 คน คือ เคน กิปสัน (3 นัด), ทิม คิสเตอร์ (20 นัด), ฟิลิปป์ คลิ้งมันน์ (19 นัด / 2 ประตู), ดาเนี่ยล โรสบัค (1 นัด), เอโรลล์ เซจ์นูลลาฮู (12 นัด) และ แอนดรูว์ วูเท่น (1 นัด / 1 ประตู) นั่นบังคับให้ โคซัค ไม่มีทางเลือกอะไรในการจัด 11 ตัวจริงมากเท่าไหร่นัก

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ซานด์เฮาเซ่น (4-2-3-1) : มาร์เซล ชูเฮน - รูริค กิสลาสัน, ทิม คิปปิ้ง, มาร์คุส คาร์ล, เลยาร์ต ปาการาด้า - เดนิส ลินส์เมเยอร์, สเตฟาน คูโลวิตส์ - เนย์เมดดิน ดั๊กห์ฟุส, ฟิลิปป์ ฟอร์สเตอร์, คอร์บิเนียน โฟลล์มันน์ - ริชาร์ด ซูคูต้า-ปาซู

      อาคิม เบเยอร์ลอร์เซอร์ เฮ้ดโค้ชของ ยาห์น เรเก้นส์บวร์ก ยังไร้เงาของ เควิน ฮอฟฟ์มันน์ มิดฟิลด์ดาวรุ่งที่เจ็บค้างสต็อกอยู่นานเเล้ว ส่วนขุมกำลังที่เหลือพร้อมลุยเพื่อต้นสังกัดกันทั้งหมด คาดว่า เบเยอร์ลอร์เซอร์ คงไม่คิดอะไรมากมาย น่าจะส่งชุดปัจจุบันลงบู๊ต่อเนื่อง โดยจะมี มาร์โก กรุตเนอร์ (25 นัด / 10 ประตู) เป็นตัวทีเด็ด

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ยาห์น เรเก้นส์บวร์ก (4-2-2-2) : ฟิลิปป์ เพนท์เก้ - เบเนดิคท์ ซอลเลอร์, เซบาสเตียน นัชไรเนอร์, มาร์วิน โนล, อเล็กซานเดอร์ นานด์ซิค - อันเดรียส ไกเพิ่ล, มาร์ค ไลส์ - เซบาสเตียน สตอลเซ่, ซาร์กิส อดัมยาน - มาร์โก กรุตเนอร์, โยนาส เนต์เฟลด์

      ฟรีดเฮล์ม ฟุงเคิ่ล กุนซือของ ดุสเซลดอร์ฟ เหลือตัวเจ็บอีกแค่ 2 ราย ได้แก่ มิคาเอล เรนซิ่ง (3 นัด) กับ โกคาห์น กัล นั่นทำให้ ฟุงเคิ่ล มีนักเตะให้เลือกใช้มากขึ้นอีกเยอะ คาดว่าเกมนี้จะวางหมากมาในระบบ 4-2-3-1 เหมือนเก่า โดยจะมี เกงกิ ฮารากูชิ (4 นัด / 1 ประตู) และ ทาคาชิ อูซามิ (19 นัด / 5 ประตู) เป็นตัวจริง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ดุสเซลดอร์ฟ (4-2-3-1) : ราฟาเอล โวล์ฟ - จูเลี่ยน เชาเออร์เต้, คาน อายฮาน, อังเดร ฮอฟฟ์มันน์, นิโก้ กีเซลมันน์ - มาร์เซล โซบ็อตก้า, ฟลอเรียน นอยฮุส - ทาคาชิ อูซามิ, โอลิเวอร์ ฟิงค์, เกงกิ ฮารากูชิ - รูเวน เฮนนิ่งส์

      อิเลีย กรูเยฟ นายใหญ่ของ ดุ๊ยส์บวร์ก ยังไม่มีชื่อของ อันเดรียส ไวเกิ้ล (6 นัด) กับ โอลิเวียร่า ซูซ่า (20 นัด / 5 ประตู) ที่ยังต้องใช้บริการของโรงพยาบาลอยู่ แต่กำลังรบที่เหลือพร้อมลุยอยู่นานเเล้ว เชื่อว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง น่าจะเป็นชุดใหญ่ชุดเดิมที่ใช้งานอยู่ นำทีมมาโดย บอริส ทาชชี่ (23 นัด / 8 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ดุ๊ยส์บวร์ก (4-2-2-2) : มาร์ค เฟล็คเก้น - เอนิส ฮายรี่, โธมัส บลอมเมเยอร์, เกอร์ริต นูแบร์, เควิน โวลซ์ - ลูคัส โฟรเด้, ฟาเบียน ชเนลฮาร์ด - อาห์เหม็ด เอ็นกิ้น, มอริตซ์ สต๊อปเพิ่ลคัมป์ - บอริส ทาชชี่, สตานิสลาฟ ยุทเชนโก้

      ฮานเนส ดรูว์ส เทรนเนอร์ของ เออร์ซเกเบียร์เก้ เอา จะไม่มีชื่อของ นิโคไล รัปป์ (19 นัด) กับ โซเรน เบอร์ทรัม (19 นัด / 4 ประตู) ที่โดนอาการเจ็บเล่นงาน ส่วนในรายของ เคลเมนส์ ฟานดริช (22 นัด / 1 ประตู) กองกลางตัวเทพจะติดโทษห้ามแข่ง แต่แดนหน้าจะมี ปาสกาล ค็อปเค่ (25 นัด / 6 ประตู) ล่าตาข่ายเเน่นอน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เออร์ซเกเบียร์เก้ เอา (3-4-3) : มาร์ติน มานเนิ่ล - ฟาเบียน คาลิก, โดมินิค วีดร้า, มัลคอล์ม คาคูตาลัว - คริสเตียน ทิฟเฟิร์ต, คาโลเกโร่ ริซซูโต้, เดนนิส เคมเป้, มาริโอ คเวซิช - ปาสกาล ค็อปเค่, ดิมิทรี่ นาซารอฟ, ริดเก้ มุนซี่

      อังเดร ฮอฟชไนเดอร์ กุนซือของ ยูนิโอน เบอร์ลิน มีรายชื่อลูกทีมเดี้ยง 3 ราย ได้แก่ ฟาเบียน โชนไฮม์ (10 นัด), มิคาเอล พาเรนเซ่น (8 นัด) และ เซบาสเตียน โพลเตอร์ (24 นัด / 12 ประตู) นั่นทำให้ ฮอฟชไนเดอร์ ต้องปรับทัพกันอีกครั้งมาเป็นระบบ 4-2-2-2 โดยจะมี สตีเว่น สเคอร์ซิบสกี้ (22 นัด / 13 ประตู) เป็นตัวความหวัง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ยูนิโอน เบอร์ลิน (4-2-2-2) : เมเซนโฮเลอร์ - คริสโตเฟอร์ ทริมเมล, มาร์วิน ฟรีดริช, ตอร์เรฆอน, มิคาเอล ปาเรนเซ่น - เฟลิกซ์ โครส, กริสชา โพรเมล - อาคาคิ โกก้า, มาร์เซล ฮาร์เทล - สตีเว่น สเคอร์ซิบสกี้, ฟิลิปป์ โฮซิเนอร์

      ราล์ฟ ฮาเซ่นฮุตเทิ่ล เทรนเนอร์ของ ไลป์ซิก ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน มาร์เซล ฮัลส์เท่นแบร์ก (15 นัด / 2 ประตู) เจ้าเก่าเจ้าเดิม เพราะยังต้องพักรักษาตัวอยู่ คาดว่า ฮาเซ่นฮุตเทิ่ล จะเลือกที่จะโรเตชั่นนักเตะบ้าง เนื่องจากเพิ่งฟาดเเข้งในบอลยุโรปเมื่อกลางสัปดาห์ แต่สำหรับ ติโม แวร์เนอร์ (23 นัด / 10 ประตู) น่าจะลงเล่นต่อ

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไลป์ซิก (4-2-2-2) : ปีเตอร์ กูลัคซี่ - คอนราด เลเมอร์, วิลลี่ ออร์แบน, อูปาเมกาโน่, ลูคัส โคลสเตอร์มันน์ - นาบี เกอิต้า, สเตฟาน อิลซังเกอร์ - เอมิล ฟอร์สเบิร์ก, มาร์เซล ซาบิตเซอร์ - ฌอง ออกุสแต็ง, ติโม แวร์เนอร์

      ตายฟุน คอร์คุต นายใหญ่ของ สตุ๊ตการ์ต ยังไม่มีชื่อของ มัทธิอัส ซิมเมอร์มันน์ (2 นัด) และ การ์ลอส มาเน่ ที่ยังเจ็บไม่หาย แต่เชื่อเหลือเกินว่า คอร์คุต คงไม่คิดจะเปลี่ยนแปลง 11 ตัวจริง เพราะลูกทีมกำลังทำผลงานกันได้ดีแบบสุดๆ อยู่เเล้ว โดยจะมี มาริโอ โกเมซ (8 นัด / 4 ประตู) ยืนเป็นตัวความหวังในแดนหน้า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
สตุ๊ตการ์ต (3-4-1-2) : รอน โรเบิร์ต ซีเลอร์ - ติโม บอย์มการ์ตเทิ่ล, เบนจามิน ปาวาร์, โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์ - อันเดรียส เบ็ค, ซานติอาโก้ อัสกากิบาร์, คริสเตียน เกนท์เนอร์, เอมิเลียโน่ อินซัว - อีริค ธอมมี่ - มาริโอ โกเมซ, ดาเนี่ยล กินเซค

      นิโก้ โควัค เฮ้ดโค้ชของ แฟร้งค์เฟิร์ต ต้องรอเช็คความฟิตของ โอมาร์ มาสกาเรล (5 นัด) ก่อนเกมเริ่มอีกครั้ง ว่าไหวหรือไม่ แต่คงไม่ส่งผลอะไรในการจัดทัพเพราะ โควัค น่าจะยึด 11 ตัวจริงจากเกมที่ชนะ ฮันโนเวอร์ 1-0 ลงเล่นกันต่อ โดยจะมี เซบาสเตียง ฮัลแลร์ (24 นัด / 8 ประตู) ลงประจำการ

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แฟร้งค์เฟิร์ต (3-5-2) : ลูคัส ฮราเด็กกี้ - ดาบิด อับราฮัม, มาโกโตะ ฮาเซเบะ, ไซม่อน ฟาแลต - แดนนี่ ดา คอสต้า, มิยัต กาซิโนวิช, มาริอุส โวล์ฟ, เควิน พริ๊นซ์ บัวเต็ง, ทิโมธี แชนด์เลอร์ - เซบาสเตียง ฮัลแลร์, อันเต เรบิช

      ปีเตอร์ สโตเกอร์ ผู้จัดการทีมของ ดอร์ทมุนด์ เหลือเพียงแค่ เซบาสเตียน โร้ด กับ อันเดร ยาร์โมเลนโก้ (16 นัด / 3 ประตู) เท่านั้น ที่ขึ้นทะเบียนเป็นเเข้งเดี้ยงค้างสต็อก ส่วนในรายของ ลูคัส พิสเซค (15 นัด) แบ็คขวาตัวเก่ง ต้องรอเช็คความฟิตกันอีกครั้ง แต่คาดว่าน่าจะลงช่วยทีมไหวแน่นอน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ดอร์ทมุนด์ (4-2-3-1) : โรมัน บูร์กี - ลูคัส พิสเซค, โซเครติส, โอเมอร์ โทพรัค, มาร์เซล ชเมลเซอร์ - จูเลี่ยน ไวเกิ้ล, มามุด ดาฮุด - มาริโอ เกิทเซ่, มาร์โก รอยส์, อันเดร ชูร์เล่ - มิชี่ บัตชัวยี่

      เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือของ เซลติก มีรายงานลูกทีมเดี้ยงเข้ามา 4 ราย ได้แก่ แอนโธนี่ ราลส์ตัน (3 นัด), จอนนี่ ฮาเยส (15 นัด / 1 ประตู), เคร็ก กอร์ดอน (23 นัด) และ ลีจห์ กริฟฟิธส์ (19 นัด / 8 ประตู) ส่วนในรายของ แพทริค โรเบิร์ตส์ (6 นัด) ต้องรอเช็คความฟิตกันอีกครั้งก่อนเกมจะเริ่มต้นขึ้น

      แกรม เมอร์ตี้ เทรนเนอร์ของ เรนเจอร์ส จะไร้เงาของ แกรม ดอร์แรนส์ (10 นัด / 5 ประตู) ที่เจ็บยาวอยู่ก่อนหน้านี้ ส่วนในรายของ ลี วัลเลซ (5 นัด) ต้องรอเช็คฟิตกันอีกครั้ง ว่าพร้อมช่วยทีมหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ คือ อัลเฟรโด้ โมเรลอส (27 นัด / 13 ประตู) พร้อมผลิตสกอร์อย่างแน่นอน

      ดีเตอร์ เฮ็กคิงก์ นายใหญ่ของ กลัดบัค มีรายชื่อนักเตะเจ็บเหลืออีกพอสมควร ไล่มาตั้งแต่ ออสการ์ เวนด์ (20 นัด / 1 ประตู), ฟาเบียน จอห์นสัน (9 นัด / 1 ประตู), อิบราฮิม่า ตราโอเร่ (3 นัด), ลาซโล่ เบนส์ (1 นัด), โทเบียส สโตรเบิ้ล และ มามาดู ดูกูเร่ ทำให้จำขัดจำเขี่ยเหลือเกินในการวางหมาก

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
กลัดบัค (4-4-2) : ยาน ซอมเมอร์ - รีซ อ็อกซ์ฟอร์ด, มัทธีอัส กินเตอร์, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, นิโก้ เอลเวดี้ - โยนาส ฮอฟมันน์, คริสโตฟห์ เครเมอร์, เดนิส ซากาเรีย, ธอร์แกน อาซาร์ - ลาร์ส สไตน์เดิ้ล, ราอูล โบบาดีย่า

      ไฮโค แฮร์ลิช เทรนเนอร์ของ เลเวอร์คูเซ่น เหลืออยู่เพียงแค่ ติน เชดวาย (3 นัด) คนเดียวเท่านั้นที่เดี้ยงค้างสต็อกอยู่ ส่วนในรายของ พานาจิโอติส เพตซอส (17 นัด) กับ โดมินิค คอห์ร (21 นัด / 1 ประตู) กลับคืนทัพได้แล้ว หลังชดใช้โทษแบนเรียบร้อย คาดว่า แฮร์ลิช จะใช้งานในทันที

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เลเวอร์คูเซ่น (4-3-3) : แบร์นด์ เลโน่ - ลาร์ส เบนเดอร์, โจนาธาน ตาห์, พานาจิโอติส เพตซอส, เวนเดล - โดมินิค คอห์ร, ไค ฮาแวร์ซ, จูเลี่ยน บอย์มการ์ตลิงเกอร์ - จูเลี่ยน บรันด์, เควิน โฟลลันด์, เลออน ไบญี่

      มานูเอล บอย์ม เทรนเนอร์ของ เอ๊าก์สบวร์ก มีรายชื่อนักเตะเจ็บ 4 คน คือ เจฟฟรี่ โกเวลูว์ (20 นัด), เควิน ดานโซ่ (14 นัด / 2 ประตู), ราฟาเอล ฟรัมแบร์เกอร์ (9 นัด) และ อัลเฟร็ด ฟินโบกาสัน (18 นัด / 11 ประตู) ทำให้ บอย์ม ต้องปรับแนวรับด้วยการส่ง รานี่ เคดิร่า (21 นัด) มาประจำการ

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เอ๊าก์สบวร์ก (3-4-2-1) : มาร์วิน ฮิตซ์ - ชอว์น พาร์คเกอร์, รานี่ เคดิร่า, มาร์ติน ฮินเตเร็กเกอร์ - โจนาต็อง ชมิด, คู จา ชอล, ดาเนี่ยล เบเยอร์, ฟิลิปป์ มักซ์ - คูบี้, มาร์เซล เฮลเลอร์ - มิเชล เกรกอริช

      อันเดร ไบรเท่นไรเตอร์ นายใหญ่ของ ฮันโนเวอร์ ยังไร้เงาของ เอ็ดการ์ พริบ เพราะยังต้องพักรักษาตัวอยู่ แต่ข่าวดีที่มีเข้ามาคือ ซาลิฟ ซาเน่ (23 นัด / 1 ประตู) กองหลังตัวสำคัญกลับมาประจำการได้แล้ว น่าจะลงประสานงานกับ เฟลิเป้ (5 นัด) และ วัลเดเมียร์ แอนตัน (23 นัด / 1 ประตู) ในแนวรับ

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮันโนเวอร์ (3-4-3) : ฟิลิปป์ ชอเนอร์ - วัลเดเมียร์ แอนตัน, ซาลิฟ ซาเน่, เฟลิเป้ - จูเลี่ยน คอร์บ, เพอร์มิน ชเว็กเลอร์, อิเวอร์ ฟอสซัม, มัทธีอัส ออสเตอร์โซเลค - อิห์ลัส เบบู, นิคลาส ฟัลครู้ก, มาร์ติน ฮาร์นิค

      คริสเตียน สไตรช์ ผู้จัดการทีมของ ไฟร์บวร์ก ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน ฟลอเรียน นีแดร์เลชเนอร์ (10 นัด / 2 ประตู) เจ้าเก่าเจ้าเดิมที่เจ็บยาวอยู่ นั่นหมายความว่า สไตรช์ คงไม่มีความกังวลใจอะไรมากนักในการจัดทัพ โดยจะวาง ลูคัส โฮเลอร์ (8 นัด) กับ นีล พีเตอร์เซ่น (23 นัด / 12 ประตู) ยืนหน้าคู่กัน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไฟร์บวร์ก (4-3-1-2) : อเล็กซานเดอร์ ชโวลอฟ - ปาสกาล สเตนเซิ่ล, ฟิลิปป์ ลีนฮาร์ท, คักลาร์ โซยุนกู, คริสเตียน กุนเตอร์ - โยริก ราเว่ต์, นิโคลัส ฮอฟเลอร์, โรบิน ค็อก - ยานิค ฮาเบเรอร์ - ลูคัส โฮเลอร์, นีล พีเตอร์เซ่น

      พาล ดาร์ได กุนซือของ แฮร์ธ่าฯ จะไม่มีชื่อของ จูเลี่ยน ชีเบอร์ กับ พัลโก้ ดาร์ได ที่โดนไข้เดี้ยงครอบงำ ส่วนขุมกำลังที่เหลือพร้อมลุยอยู่นานเเล้ว คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในนัดนี้ ไม่น่าจต่างไปจากเกมก่อนๆ มากนัก นำทีมมาโดย แมทธิว เล็กกี้ (20 นัด / 4 ประตู) ปีกทีมชาติออสเตรเลีย

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แฮร์ธ่าฯ (4-2-3-1) : รูเน่ ยาร์สไตน์ - ปีเตอร์ เปคาริค, นิคลาส สตาร์ค, คาริม เรกิ๊ก, มาร์วิน แพล็ตเท่นฮาร์ด - อาร์เน่ เมเยอร์, ฟาเบียน ลุสเตนแบร์เกอร์ - แมทธิว เล็กกี้, วาเลนติโน่ ลาซาโร่, ซาโลมง กาลู - ดาวี เซลเก้

      บรูโน่ ลาบบาเดีย เทรนเนอร์ของ โวล์ฟสบวร์ก มีลิสต์ลูกทีมเจ็บยาวเป็นหางว่าว ไล่มาตั้งแต่ ยานนิค แกร์ฮาร์ด (16 นัด / 1 ประตู), มาร์เซล ทิสเซอรันด์ (14 นัด), จอห์น บรู้คส์ (7 นัด), เซบาสเตียน จุง (2 นัด), อิ๊กนาซิโอ กามาโช่ (9 นัด) และ ยาคุบ บลาสซีคอฟสกี้ (7 นัด / 1 ประตู) คงต้องใช้ชุดเก่าลุยต่อ

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โวล์ฟสบวร์ก (4-2-3-1) : โกเยนส์ กัสตีลส์ - พอล เวอร์ฮาจ, บรูม่า, โรบิน น็อคเก้, จานลูก้า อิตเตอร์ - โจฌัว กีลาโว้ก, มักซิมิเลี่ยน อาร์โนลด์ - โจซิป เบรคาโล่, อั๊ดเมียร์ เมห์เมดี้, ดาเนี่ยล ดิดาวี่ - ดิว๊อค โอริกี

      จูเลี่ยน นาเกิ้ลมันน์ ผู้จัดการทีมของ ฮอฟเฟ่นไฮม์ ยังไร้เงาของ สเตฟาน พอช (9 นัด) กับ เคเรม เดเมียร์เบย์ (15 นัด / 2 ประตู) ที่ควงเเขนกันเดี้ยงเหมือนเดิม ส่วนในรายของ อันเดร ครามาริช (25 นัด / 8 ประตู) ดาวยิงตัวเก่งประจำทีม ต้องรอลุ้นความฟิตกันอีกครั้ง แต่คาดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮอฟเฟ่นไฮม์ (3-4-2-1) : โอลิเวอร์ เบามันน์ - เควิน อัคโปกูม่า, เควิน โฟ้กท์, เบนจามิน ฮุบเนอร์ - พาเวล คาเดราเบค, เดนนิส ไกเกอร์, ฟลอเรียน กริลลิช, นิโก้ ชูลซ์ - ลูคัส รัปป์, อันเดร ครามาริช - แซร์ก จีนาบรี้

      แบร์นด์ โฮลแลร์บัค เฮ้ดโค้ชของ ฮัมบูร์ก เหลือตัวเดี้ยงอยู่ 2 คน คือ อัลบิน เอคดัล (13 นัด) กับ นิโคไล มุลเลอร์ (1 นัด / 1 ประตู) จึงไม่ต้องแปลกใจหาก โฮลแลร์บัค จะจัด 11 ขุนพลชุดเก่าชุดเดิมลงสู้ศึกต่อเนื่อง นำทีมมาโดย อารอน ฮันท์ (20 นัด / 1 ประตู) และ กีเดียน จุง (22 นัด / 1 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮัมบูร์ก (3-5-2) : มาเธเนีย - ริค ฟาน ดรองเกเล่น, คิเรียกอส ปาปาโดปูลอส, แมร์กิม มาฟราย - โกโตคุ ซากาอิ, อารอน ฮันท์, กีเดี้ยน จุง, วาเลซ, ดั๊กลาส ซานโต๊ส - บาการี่ ยัตต้า, ฟิลิป คอสติช

      จุ๊ป ไฮย์เกส นายใหญ่ของ บาเยิร์น ยังไร้เงาของ มานูเอล นอยเออร์ (3 นัด) และ คิงส์ลี่ย์ โกม็อง (21 นัด / 3 ประตู) ที่ต้องพักรักษาตัวอยู่เหมือนเก่า แต่ข่าวดีทีมีเข้ามาคือ ฟร้องค์ ริเบรี่ (15 นัด / 2 ประตู) กลับมาฟิตเต็มสูบอีกครั้ง ส่วน โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (23 นัด / 20 ประตู) พร้อมลุยนานแล้ว

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
บาเยิร์น (4-1-4-1) : สเวน อูลไรช์ - โจฌัว กิมมิค, เจอโรม บัวเต็ง, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, ดาวิด อลาบา - ฆาบี มาร์ติเนซ - โธมัส มุลเลอร์, ธิอาโก้ อัลกานตาร่า, อาร์ตูโร่ วิดัล, ฟร้องค์ ริเบรี่ - โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

      คาร์ลอส คาร์วัลญัล เทรนเนอร์ของ สวอนซี จะไม่มีชื่อของ อังเกล รังเกล (3 นัด), เรนาโต้ ซานเชส (12 นัด), เลรอย เฟอร์ (20 นัด / 1 ประตู) และ วิลฟรีด โบนี่ (15 นัด / 2 ประตู) เนื่องจากเจ็บอยู่ยกเซ็ต แต่ "สองพี่น้องอายิว" อันเดร อายิว (3 นัด) และ จอร์แดน อายิว (29 นัด / 6 ประตู) ยังพร้อมลงป่วน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
สวอนซี (3-5-2) : ลูคัส ฟาเบียนสกี้ - ไมค์ ฟาน เดอร์ ฮูร์น, เฟเดริโก้ เฟร์นานเดซ, อัลฟี่ มอว์สัน - ไคล์ นอฟตัน, แอนดี้ คิง, คี ซุง ยอง, แซม คลูคัส, มาร์ติน โอลส์สัน - อันเดร อายิว, จอร์แดน อายิว

      ดาวิด แว๊กเนอร์ เฮ้ดโค้ชของ ฮัดเดอร์สฟิลด์ มีรายชื่อนักเตะเจ็บในมืออยู่ 5 ราย ได้แก่ ยอน สแตนโควิช, มิชาเอล เฮเฟล (2 นัด), เทอเรนซ์ ค็องโกโล่ (6 นัด), ฌอน สแกนเนลล์ และ เอเลียส คาชุงก้า (17 นัด / 1 ประตู) นั่นทำให้ แว๊กเนอร์ คงไม่ต้องติดอะไรมากมาย นอกจากใช้ 11 ตัวจริงชุดเดิมต่อ

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮัดเดอร์สฟิลด์ (4-2-3-1) : โยนาส ลอสเซิ่ล - ฟลอร็องต์ ฮาแดร์โฌนาจ, มาธิอัส ยอร์เกนเซ่น, คริสโตเฟอร์ ชินด์เลอร์, คริส เลิฟ - โจนาธาน ฮ็อกก์, อารอน มัว - คอลลิน กวาเนอร์, อเล็กซ์ พริตชาร์ด, รายิฟ ฟาน ลา พาร์ร่า - สตีฟ มูนี่

      ฌอง ฟูร์ล็อง ผู้จัดการทีมของ แบรสต์ น่าจะเตรียมขน 11 ขุนพลชุดเดิมลงสู้ศึกกันต่อ เนื่องจากสภาพความพร้อมของผู้เล่นสมบูรณ์ดี 100% แค่อาจจะปรับหมากจาก 4-4-1-1 มาเป็น 4-2-3-1 โดยจะเพิ่มตัวรุกเพื่อมาสนับสนุนตัวเป้าอย่าง มูฮามาดู ดิอาโญ่ (23 นัด / 6 ประตู) หัวหอกวัย 22 ปี

      ปาโบล กอร์เรอา เทรนเนอร์ของ โอแซร์ จะไร้เงาของ การ์ล็องส์ อาร์กุส (20 นัด) แบ็คขวาตัวเก่งของทีม เพราะจะติดโทษห้ามแข่ง นั่นเป็นจุดแรกที่ กอร์เรอา ต้องแก้ไขโดยด่วน ส่วนในแนวรุกยังมี ฮัมซ่า ซาคีห์ (26 นัด / 3 ประตู) และ อิบราอิม ซ็องกาเร่ (14 นัด / 1 ประตู) ลงเล่นตามปกติ

      มานูเอล ดา คอสต้า กุนซือของ เกวิญี่ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน เจฟฟ์ หลุยส์ ปีกขวาทีมชาติเฮติ เนื่องจากถูกไล่ออกมาจากเกมที่เปิดบ้านแพ้ นิออร์ 1-2 ในเกมลีกนัดที่ผ่านมา แต่สำหรับตัวหลักอื่นๆ อย่าง ราฟิค บูเฌดร้า (17 นัด) กับ ลามีน เอ็นเดา (6 นัด / 3 ประตู) พร้อมลุยเพื่อสโมสรอย่างแน่นอน

      โอลิวิเย่ร์ ป็องตาโลนี่ ผู้จัดการทีมของ อฌักซิโอ้ เตรียมเรียกใช้งาน 11 ตัวจริงชุดเก่าลงบู๊ต่ออีกครั้ง หลังจากไม่มีรายงานความเสียหายใดๆ เพิ่มเข้ามา คาดว่า ป็องตาโลนี่ จะวางให้ ริยาด นูรี่ (26 นัด / 12 ประตู), โยฮัน คาวัลลี่ (26 นัด / 5 ประตู) และ มุสซ่า มาซู (5 นัด) ลงทำเกมรุกให้กับทีม

      มิชาเอล โคลเนอร์ นายใหญ่ของ เนิร์นแบร์ก มีตัวเจ็บค้างสต็อกอยู่ 4 คน คือ เดนนิส ลิพแพร์ต, เอนิส อาลูชี่, เซบาสเตียน แคร์ก (3 นัด) และ มิคาเอล อิชัค (22 นัด / 12 ประตู) นั่นคงไม่ต้องแปลกใจว่า โคลเนอร์ จะจัดทัพแบบไหน เพราะคงไม่หนีไปจากเดิมแน่ๆ ซึ่งจะมี เควิน โมห์วัลด์ (22 นัด / 6 ประตู) เป็นจอมทัพ

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เนิร์นแบร์ก (3-5-2) : ฟาเบียน เบร็ดโลว์ - จอร์จ มาร์เกรอิตเตอร์, เอเเวร์ตัน, เอดูอาร์ด โลเว่น - เอ็นริโก้ วาเลนตินี่, ฮันโน่ เบห์เรนส์, พาทริค เออร์ราส, เควิน โมห์วัลด์, ทิม ไลโบลด์ - ปาลาซิออส มาร์ติเนซ, อดัม ซเรลัค

      เจฟ ไซบีน ผู้จัดการทีมของ บีเลเฟลด์ จะไร้เงาของ ชาน ออซคาน และ นิลส์ ควอชเนอร์ (4 นัด) ที่โดนไข้เดี้ยงเล่นงานอยู่ ส่วนขุมกำลังรายอื่นๆ พร้อมลุยกันอยู่นานแล้ว คาดว่า ไซบีน จะปรับหมากในนัดนี้มาใช้ระบบ 4-1-4-1 โดยจะทิ้งให้ อันเดรียส โฟเกิ้ลซามเมอร์ (25 นัด / 10 ประตู) ยืนเป็นศูนย์หน้าตัวเป้า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
บีเลเฟลด์ (4-1-4-1) : สเตฟาน ออร์เตก้า - ฟลอเรียน ดิ๊ค, ไบรอัน เบห์เรนด์, จูเลี่ยน บอร์เนอร์, ฟลอเรียน ฮาร์แธร์ซ - ทอม ชู๊ทซ์ - พาทริค ไวห์เร๊าช์, มานูเอล เพรเทิ่ล, คอนสแตนติน เคิร์ชเบาเมอร์, คีนู สเต๊าด์ - อันเดรียส โฟเกิ้ลซามเมอร์