วิเคราะห์บอล / วิเคราะห์บอลวันนี้

      ปาเกโต้ ออร์ติซ เทรนเนอร์ของ ลาส พัลมาส ไม่มีรายงานความเสียหายใดเรื่องสภาพทีมเข้ามา นั่นทำให้ ออร์ติซ สามารถเลือกจัดทีมได้ตามใจเลย คาดว่า ออร์ติซ น่าจะก็อปปี้ 11 ขุนพลมาจากเกมที่เปิดบ้านชนะ มาลาก้า 1-0 โดยจะมี โฆนาธาน กาเยรี (22 นัด / 5 ประตู) ยืนล่าตาข่าย 

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ลาส พัลมาส (4-3-3) : เลียนโดร ชิชิโซล่า - มิเกล มาเกโด้, อเลฆานโดร กัลเบซ, ชิโม่ นาบาร์โร่, มาทิอัส อกีร์เรการาย - โอเกเนกาโร่, กาเบรียล, โฆนาธาน บิเอร่า - เอร์นาน โตเลโด้, โฆนาธาน กาเยรี, นาโช่ กิล

      โฆเซ่ อังเคล ซิกานด้า ผู้จัดการทีมของ แอธฯ บิลเบา ยังไม่มีชื่อของ มิเกล บาเลนซิอาก้า (12 นัด) กับ อิเกร์ มูเนียอิน (6 นัด / 1 ประตู) สองกำลังหลักที่มีอาการเจ็บรบกวนอยู่เหมือนเก่า แต่โชคยังดีที่ เกป้า (14 นัด) นายด่านมือหนึ่งวัย 23 ปี ฟิตทันลงสนามเป็น 11 ตัวจริงได้ในเกมนี้พอดี

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
แอธฯ บิลเบา (3-5-2) : เกป้า - อินญิโก้ มาร์ติเนซ, อูนาอิ นูนเยซ, เยราย อัลบาเรซ - ออสการ์ เดอ มาร์กอส, ราอูล การ์เซีย, มิเกล ริโก้, อันเดร์ อิตูร์รัสเป้, มิเกล ริโก้, อินญิโก้ เลกูเอ้ - อินญากี้ วิลเลี่ยมส์, อาริตซ์ อาดูริตซ์

      มานูเอล บอย์ม เทรนเนอร์ของ เอ๊าก์สบวร์ก มีรายงานตัวเจ็บเข้ามา 4 ราย ได้แก่ เจฟฟรี่ โกเวลูว์ (20 นัด), ดาเนี่ยล โอปาเร่ (17 นัด), อัลเฟร็ด ฟินโบกาสัน (18 นัด / 11 ประตู) และ มาร์โก ริชเตอร์ (2 นัด / 1 ประตู) แต่ยังพอมีข่าวดีเข้ามาบ้าง เมื่อ รานี เคดิร่า (17 นัด) กลับมาจากโทษแบนแล้ว

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เอ๊าก์สบวร์ก (3-5-2) : มาร์วิน ฮิตซ์ - เควิน ดานโซ่, รานี เคดิร่า, มาร์ติน ฮินเตเร็กเกอร์, เควิน ดานโซ่ - ราฟาเอล ฟรามแบร์เกอร์, แยน โมราเวค, คู จา ชอล, ดาเนี่ยล เบเยอร์, ฟิลิปป์ มักซ์ - มิเชล เกรกอริช, คูบี้

      ราล์ฟ ฮาเซ่นฮุตเทิ่ล เฮ้ดโค้ชของ ไลป์ซิก ยังคงไร้เงาของ มาร์เซล ฮัลส์เท่นแบร์ก (15 นัด / 2 ประตู) เพียงคนเดียวเหมือนเก่า เพราะยังสลัดคราบเดี้ยงกลับมาไม่ได้ คาดว่าเกมนี้ ฮาเซ่นฮุตเทิ่ล จะปรับหมากมาใช้ระบบ 4-1-4-1 โดยจะทิ้ง ติโม แวร์เนอร์ (19 นัด / 10 ประตู) ยืนเป็นหน้าเป้า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไลป์ซิก (4-1-4-1) : ปีเตอร์ กาลัคซี่ - คอนราด เลเมอร์, วิลลี่ ออร์แบน, อูปาเมกาโน่, ลูคัส โคลสเตอร์มันน์ - ดีเอโก้ เดมม์ - มาร์เซล ซาบิตเซอร์, เควิน คัมเพิ่ล, นาบี เกอิต้า, บรูม่า - ติโม แวร์เนอร์

      ดาเนี่ยล การ์เนโร่ เทรนเนอร์ของ โอลิมเปีย ไม่มีปัญหาอะไรมารบกวนจิตใจในการสู้ศึกคืนนี้ เพราะลูกทีมทุกคนพร้อมสแตนด์บายรับใช้ต้นสังกัดกันทั้งหมด เชื่อว่า การ์เนโร่ ไม่น่าจะคิดเปลี่ยนแปลง 11 ขุนพลจากเกมก่อน โดยจะมี โรเก้ ซานตา ครูซ ผู้ซัดประตูชัยในนัดนั้น ลงผลิตสกอร์ให้กับทีมเหมือนเดิม

      อเล็กซิส เมนโดซ่า ผู้จัดการทีมของ ฆูเนียร์ ยังไม่มีชื่อของ โฆนาตาน อัลเวซ แนวรุกชาวอุรุกวัยที่ยังติดโทษห้ามแข่งอยู่เหมือนเก่า แต่ก็เป็นเพียงรายเดียวที่หายหน้าไป คาดว่า เมนโดซ่า น่าจะมีการปรับทัพในบางจุด แต่สำหรับ เซบาสเตียน บิเอร่า ผู้รักษาประตูประสบการณ์สูง จะได้รับโอกาสเฝ้าเสาต่อเนื่อง

      เนสตอร์ เคลาเซ่น กุนซือของ โอเรียนเต้ มีเรื่องให้ปวดหัวหนักกว่าอีก เพราะจะไม่สามารถส่งชื่อนักเตะตัวหลักได้ถึง 2 คน คือ ฆอร์เก้ ปาเรเดส (1 นัด) กับ ยาสมานี่ ดุค (1 นัด) เพราะจะติดโทษห้ามแข่ง แต่ก็ยังพอมีข่าวดีอยู่บ้าง เมื่อ โฆเซ่ เมซ่า (1 นัด / 1 ประตู) พร้อมลงเล่นเป็น "จอมทัพ" ให้กับทีม

      อัลบาโร่ เปญ่า เทรนเนอร์ของ วิลสเตร์มันน์ งานเข้าซะเเล้ว เมื่อจะหมดสิทธิ์ใช้งาน เอ็ดวาร์ด เซนเตโน่ (1 นัด) ปราการหลังกัปตันทีม เนื่องจากโดนไล่ออกมาในเกมนัดแรก ทำให้ เปญ่า ต้องแก้ปัญหาในทันที แต่ในแนวรุกยังมี กิลเบิร์ต อัลบาเรซ (2 นัด / 2 ประตู) ยืนค้ำเป็นศูนย์หน้าตัวเป้าได้ต่อไป

      ฟรานเกโซ่ สติฟาโน่ เทรนเนอร์ของ เดปอร์ติโบ ตาชิร่า ก็เตรียมขน 11 ขุนพลชุดที่ดีที่สุดลงบู๊เช่นกัน เนื่องจากไม่มีรายงานความเสียหายใดเรื่องสภาพทีมเข้ามา คาดว่า สติฟาโน่ จะวางหมากมาในระบบ 4-4-2 เหมือนนัดก่อน โดยจะฝากความหวังในการพังประตูไว้ที่ เซร์กิโอ้ อัลเมร่อน (1 นัด) เจ้าเก่าเจ้าเดิม

      เกรโกริโอ้ เปเรซ นายใหญ่ของ ซานตา เฟ่ ไม่ต้องคิดอะไรให้เยอะแยะ เพราะตอนนี้ลูกทีมกำลังเล่นกันได้ดีอยู่เเล้ว เพียงแค่ก็อปปี้ 11 ตัวจริงในเกมก่อนที่บุกชนะ 3-2 มาลงสนามต่อเนื่องก็พอ นั่นหมายความว่า ไยสัน กอร์ดิโญ่ (1 นัด), วิลสัน โมเรโล่ (1 นัด) และ ฆอร์น ปาฆอย จะพาเหรดกันลงเล่น

      ซา ปินโต้ นายใหญ่ของ สตองดาร์ ลีแอช ยังคงไร้เงาของ เมร์วิลเล่ โบคาดี้ (8 นัด) กองกลางชาวสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ที่ยังสลัดคราบเดี้ยงกลับมาไม่ได้ แต่กำลังรบที่เหลือพร้อมลุยอยู่นานเเล้ว คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง จะนำทีมมาโดย ออร์ลันโด้ ซา (21 นัด / 9 ประตู)

      อีวาน เลโก้ เฮ้ดโค้ชของ คลับ บรูซ มีรายชื่อนักเตะบาดเจ็บอยู่ 4 ราย ได้แก่ อีธาน โฮร์วาธ (12 นัด), ลิออร์ เรฟาเอลอฟ (8 นัด), เบนัวต์ ปูแล็ง (11 นัด / 1 ประตู) และ โซโล เดการ์ลี่ (10 นัด / 1 ประตู) ทำให้ เลโก้ ต้องเรียกใช้บริการของ วลาดิมีร์ กาบูลอฟ (4 นัด) นายด่านตัวเก๋าลงเฝ้าเสาต่อ

      ชอร์เก้ เชซุส ผู้จัดการทีมของ สปอร์ติ้ง ลิสบอน จะไร้เงาของ บาส โดสต์ (20 นัด / 19 ประตู), ดาเนี่ยล โพเดนซ์ (12 นัด) และ เกลสัน มาร์ตินส์ (19 นัด / 5 ประตู) เพราะยังเข้าออกโรงพยาบาลอยู่ทั้งหมด ทำให้ เชซุส ต้องหันมาพึ่งพา บรูโน่ แฟร์น็องเดส (21 นัด / 8 ประตู) ห้องเครื่องตัวเทพ ในการสร้างสรรค์เกมรุกให้กับทีม

      แซร์โจ้ คอนไซเซา นายใหญ่ของ ปอร์โต้ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน ดานิโล่ เปไรร่า (18 นัด / 1 ประตู) เนื่องจากยังเดี้ยงอยู่ ส่วนในรายของ อีบัน มาร์กาโน่ (18 นัด / 2 ประตู) กับ อันเดร อันเดร (10 นัด) ต้องรอเช็คฟิตอีกครั้ง ว่าพร้อมลงช่วยทีมทันหรือไม่ แต่ในเเนวรุกยังมี วินเซนต์ อาบูบาการ์ (21 นัด / 15 ประตู) ล่าตาข่ายเหมือนเก่า

      มาร์ติน ชมิดท์ กุนซือของ โวล์ฟสบวร์ก จะไร้เงาของ เฟลิกซ์ อูดูโอไค (16 นัด / 1 ประตู), จอห์น บรู้คส์ (7 นัด), อิ๊กนาซิโอ กามาโช่ (9 นัด) และ ยาคุบ บลาสซีคอฟสกี้ (7 นัด / 1 ประตู) ที่ยังเดี้ยงอยู่ทั้งหมด คาดว่าเกมนี้ ชมิดท์ จะวางหมากมาในระบบ 4-2-3-1 โดยจะมี ดิว๊อค โอริกี (18 นัด / 5 ประตู) ยืนเป็นหน้าเป้า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โวล์ฟสบวร์ก (4-2-3-1) : โกเยนส์ กัสตีลส์ - พอล เวอร์ฮาจ, บรูม่า, โรบิน น็อคเก้, มาร์เซล ทิสเซอรันด์ - มักซิมิเลี่ยน อาร์โนลด์, โจฌัว กีลาโว้ก - เรนาโต้ สเตฟเฟ่น, ยูนุส มัลลี่, อั๊ดเมียร์ เมห์เมดี้ - ดิว๊อค โอริกี

      โดเมนิโก้ เทเดสโก้ เทรนเนอร์ของ ชาลเก้ มีรายชื่อตัวเจ็บ 4 คน คือ อเลสซานโดร ช็อป (7 นัด), อับดุล บาบา , ปาโบล อินซัว และ เวสตัน แม็คเคนนี่ (14 นัด) เชื่อว่าเกมนี้ เทเดสโก้ จะส่ง มาติย่า นาสตาซิช (17 นัด) ปราการหลังทีมชาติเซอร์เบีย ลงเป็นตัวจริงแน่ๆ เพราะเขาจะถูกแบนในเกมบุนเดสลีก้าสุดสัปดาห์นี้

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ชาลเก้ (3-1-4-2) : ราล์ฟ ฟาห์รมันน์ - ธิโล่ เคห์เรอร์, นัลโด้, มาติย่า นาสตาซิช - มักซ์ เมเยอร์ - ดาเนี่ยล คาลิกูรี่, อามีน ฮาริต, เลออน โกเร็ตส์ก้า, บาสเตียน อ๊อกซิปก้า - กีโด บวร์กสตัลเลอร์, ฟรังโก้ ดิ ซานโต้

      ซานโดร ชวาร์ซ เฮ้ดโค้ชของ ไมนซ์ เหลือตัวเจ็บเพียงแค่ นิโก้ บุนแกร์ต แนวรับตัวเก่าคนเดียวเท่านั้น นั่นทำให้ ชวาร์ซ มีทางเลือกในการจัดทีมได้หลากหลาย คาดว่า คู่กองหน้าในเกมนี้ จะเปลี่ยนมาเป็น โรบิน ไคสัน (13 นัด / 2 ประตู) ลงยืนกับ แอนโธนี่ อูย่าห์ (2 นัด) ในระบบ 3-5-2 เหมือนเก่าเหมือนเดิม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไมนซ์ (3-5-2) : โรบิน เซนต์เนอร์ - อับดู ดิยัลโล่, อเล็กซานเดอร์ ฮัค, ฌอง กีบาแมง - จูลิโอ โดนาติ, ซูอัต แซร์ดาร์, ไนเจล เดอ ยอง, แดนนี่ ลัตซ่า, ดาเนี่ยล โบรซินสกี้ - โรบิน ไคสัน, แอนโธนี่ อูย่าห์

      นิโก้ โควัค กุนซือของ แฟร้งค์เฟิร์ต จะไม่มีชื่อของ ดาบิด อับราฮัม (16 นัด), โจนาธาน เดอ กุซมัน (8 นัด) และ อเล็กซานเดอร์ เมเยอร์ ที่เป็นเเข้งเดี้ยงค้างสต็อกอยู่ ส่วนในรายของ อันเต เรบิช (17 นัด / 4 ประตู) จะกลับมาช่วยทีมได้แล้ว หลังจากชดใช้โทษห้ามแข่งเรียบร้อย และน่าจะลงเป็น 11 ตัวจริงเลย

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แฟร้งค์เฟิร์ต (3-5-2) : ลูคัส ฮราเด็กกี้ - การ์ลอส ซัลเซโด้, มาโกโตะ ฮาเซเบะ, ไซม่อน ฟาแลต - มาริอุส โวล์ฟ, มาสกาเรล, มาร์โก ฟาเบียน, เควิน พริ๊นซ์ บัวเต็ง, ทิโมธี แชนด์เลอร์ - เซบาสเตียง ฮัลแลร์, อันเต เรบิช

      เมติน ดิยาดิน กุนซือของ กิเรซุนสปอร์ สบายใจได้ก่อนเลยในการจัดทัพ เมื่อสภาพความพร้อมของทีมสมบูรณ์ดี 100% นั่นหมายความว่า ชักลาร์ บิรินชี่ (14 นัด / 1 ประตู), บูบาการ์ ดิอาลิบา (18 นัด / 2 ประตู), โฮเนส คาริโอก้า (13 นัด) และ ดิมิทรี คอร์คิชโก้ (14 นัด / 4 ประตู) จะพาเหรดกันลงสนาม

      อายคุต โคชามาน เทรนเนอร์ของ เฟเนร์บาห์เช่ ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน มาร์ติน สเคอร์เทล (11 นัด / 2 ประตู) กับ วินเซนต์ ยานส์เซ่น (11 นัด / 2 ประตู) สองตัวหลักของทีม ที่ต้องพักรักษาตัวต่อ นั่นทำให้ความหวังในการพาทีมไปสู่ชัยชนะจะตกไปอยู่ที่ มาติเยอ วัลบูเอน่า (19 นัด / 5 ประตู) กองกลางชาวฝรั่งเศส

      โอคาน บุรุค กุนซือของ อัคฮีซาร์ เบเลดิเยสปอร์ จะขาดหายไปเพียงแค่ คาดีร์ เคเลส (8 นัด / 1 ประตู) ปราการหลังวัย 30 ปี ที่มีอาการเจ็บรบกวนอยู่ ส่วนขุมกำลังคนอื่นๆ ไม่มีปัญหาใดในการเรียกใช้งาน คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง จะนำทีมมาโดย เปาโล เฮนริเก้ (17 นัด / 6 ประตู) หัวหอกชาวบราซิล

      มาริอุส ซูมูดิก้า เทรนเนอร์ของ คายเซริสปอร์ ต้องรอเช็คความฟิตของ ติอาโก้ โลเปส (17 นัด) กับ เดนิซ ตูรุค (18 นัด / 2 ประตู) สองกำลังหลักของทีม ว่าพร้อมลงสนามได้หรือไม่ แต่กำลังรบที่เหลือพร้อมลุยอยู่นานแล้ว โดยจะมี อูมุต บูลุต (20 นัด / 10 ประตู) ลงเป็นเพชรฆาตล่าตาข่ายในแดนหน้า

      จุ๊ป ไฮย์เกส เทรนเนอร์ของ บาเยิร์น จะไม่มีชื่อของ เจอโรม บัวเต็ง (13 นัด / 1 ประตู) ที่มีอาการเจ็บรบกวน ส่วนในรายของ ฆาบี มาร์ติเนซ (13 นัด / 1 ประตู) ต้องรอเช็คฟิตก่อนลงสนามอีกครั้ง แต่ที่แน่ๆ คือ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (20 นัด / 18 ประตู) หัวหอกตัว "มหาเทพ" จะกลับมาทวงตัวจริงคืน

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
บาเยิร์น (4-1-4-1) : สเวน อูลไรช์ - โจฌัว กิมมิค, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, นิคลาส ซูเล่, ดาวิด อลาบา - เซบาสเตียน รูดี้ - โธมัส มุลเลอร์, ฮาเมส โรดริเกวซ, อาร์เยน ร๊อบเบน, คิงส์ลี่ย์ โกม็อง - โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

      สเตฟเฟ่น บอมการ์ต เฮ้ดโค้ชของ พาเดอร์บอร์น ต้องรอเช็คความฟิตของ เลียวโพลด์ ซิงแกร์เล่ (23 นัด) นายด่านหมายเลขหนึ่ง และ ลูคัส โบเดอร์ (21 นัด) แบ็คขวาตัวหลัก ว่าพร้อมลุยในเกมนี้หรือไม่ แต่ถ้าไม่ไหวก็มีตัวลงเเทนอยู่เเล้ว คาดว่า บอมการ์ต จะจัดชุดที่ดีที่สุดลงสู้ศึกสำคัญนัดนี้เเน่นอน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
พาเดอร์บอร์น (4-1-3-2) : ราตาซัค - วูซิโนวิช, ชอนเลา, สโตห์เดี๊ยค, เฮอร์เซนบรูค - เคร๊าส์ - โซลินสกี้, ริตเตอร์, อั๊ดเช่ย์ - ทิเอตซ์, มิเชล

      ฟลอเรียน โคห์เฟลด์ ผู้จัดการทีมของ เบรเมน ต้องรอเช็คความฟิตของ ฟิลิปป์ บาร์กเฟรเด้ (16 นัด / 1 ประตู) กองกลางตัวเก่ง ก่อนเริ่มเกมอีกครั้ง แต่คาดว่าไม่น่าจะลงตัวจริงไหว เชื่อว่า โคห์เฟลด์ จะน่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง 11 ตัวจริงมากนัก และจะได้เห็น โธมัส เดอลานี่ย์ (20 นัด / 1 ประตู) ลงบัญชาการแดนกลางให้กับทีม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เบรเมน (3-4-2-1) : ยีรี พาฟเลนก้า - มิลอส เวลโกวิช, เซบาสเตียน ลังคัมป์, นิโคลัส มอยซานเดอร์ - เกเบร เซลาสซี่, มักซิมิเลี่ยน เอ็กเก้สไตน์, โธมัส เดอลานี่ย์, ลุดวิก ออกุสตินส์สัน - เจอโรม กอนดอร์ฟ, ซลัตโก้ ยูนูโซวิช - มักซ์ ครูเซ่

      ไฮโค แฮร์ลิช นายใหญ่ของ เลเวอร์คูเซ่น มีข่าวดีก่อนเกมเลย เมื่อ จูเลี่ยน บอย์มการ์ตลิงเกอร์ (11 นัด / 1 ประตู) ห้องเครื่องชาวออสเตรีย หายไข้กลับมาเป็นทางเลือกให้กับทีมได้อีกครั้ง คาดว่า แฮร์ลิช จะโรเตชั่นนักเตะตัวหลักให้ได้พักบ้าง โดยจะให้ จูเลี่ยน บรันด์ (21 นัด / 4 ประตู) กับ ไค ฮาแวร์ซ (17 นัด / 1 ประตู) ลงเล่น

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เลเวอร์คูเซ่น (4-2-3-1) : แบร์นด์ เลโน่ - ลาร์ส เบนเดอร์, โจนาธาน ตาห์, สเวน เบนเดอร์, เวนเดล - ชาร์ลส์ อรานกุซ, โดมินิค คอห์ร - จูเลี่ยน บรันด์, ไค ฮาแวร์ซ, เลออน ไบยี่ - เควิน โฟลลันด์

      ชอร์เก้ ซิเมา เทรนเนอร์ของ เบาวิสต้า ยังไม่มีชื่อของ เรนาโต้ ซานโต๊ส (11 นัด / 2 ประตู) กับ อีบาน บูลอส (6 นัด) ที่ควงเเขนกันเดี้ยงอยู่เหมือนเก่า ส่วนในรายของ ดาวิด ซิเมา (16 นัด) กองกลางตัวหลัก จะติดโทษห้ามแข่งในเกมนี้พอดี แต่สำหรับ มาเตอุส (18 นัด / 5 ประตู) น่าจะได้ลงผลิตสกอร์ต่อเนื่อง

      โชเซ่ โมต้า กุนซือของ อาเวส ไม่มีปัญหาใดในการวางหมาก เพราะว่าสภาพทีมพร้อมรบสมบูรณ์ 100% สามารถเลือกนักเตะได้ตามสบาย คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ขุนพล อาจจะเปลี่ยนจากเกมก่อนตรงที่ เปาโล มาชาโด้ (15 นัด / 2 ประตู) จะกลับมาลงเล่นตัวจริงอีกครั้ง หลังจากเป็นแค่ตัวสำรองในนัดที่ผ่านมา

      กล็อง เดอ โบ๊ค เทรนเนอร์ของ คอร์ไทรจ์ค จะไร้เงาของ เอโลอิม โรลล็องด์ (3 นัด) กับ อ็องโตนี่ ฟาน ลู (7 นัด) ที่ขึ้นบัญชีเป็นแข้งเดี้ยงค้างสต็อกอยู่ แต่ก็ไม่น่าส่งผลอะไรในการจัดทัพ เพราะตัวหลักๆ ที่ใช้งานในปัจจุบันยังอยู่กันครบ นำทีมมาโดย เฌเรมี่ แปร์เบต์ (18 นัด / 6 ประตู) หัวหอกตัวเก่งประจำทีม

      ฟิลิปเป้ เกลม็องต์ กุนซือของ เกงค์ มีรายงานตัวเจ็บเข้ามา 5 ราย ได้แก่ ไบรอัน เฮย์เน่น (10 นัด), เลอันโดร ทรอสซาร์ (5 นัด / 1 ประตู), รูบิน ซีเกอร์ส, ซานเดอร์ เบอร์เก้ (12 นัด) และ รุสลัน มาลินอฟสกี้ (22 นัด / 3 ประตู) นั่นทำให้ เกลม็องต์ ต้องมีการปรับหมากพอสมควร เพื่อหมุนเวียนนักเตะให้พักบ้าง

      เยนส์ ราซิเยฟสกี้ กุนซือของ โบคุ่ม ยังเหลือเพียงแค่ ดานิโล่ ซัวเรส (17 นัด) กับ ติโม เพอร์เธิ่ล ที่ขึ้นบัญชีเดี้ยงค้างสต็อกอยู่ แต่คงไม่เป็นปัญหาในการจัดทัพสักเท่าไหร่ เพราะ ราซิเยฟสกี้ น่าจะเลือกใช้ 11 ตัวจริงชุดเดิมต่อเนื่อง โดยจะมี โยฮานเนส วูร์ตซ์ (17 นัด) หัวหอกวัย 25 ปี ยืนค้ำเป็นกองหน้าตัวเป้าคอยพักบอล

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โบคุ่ม (4-2-3-1) : เฟลิกซ์ ดอร์นบุช - แยน กียาเมร่าห์, ทิม ฮู้กลันด์, พาทริค ฟาเบียน, มาซิม ลิตช์ - อองโตนี่ โลซิญ่า, วิตาลี่ ยาเนลต์ - ฟิลิปป์ ออชส์, เควิน สโตเกอร์, ร็อบบี้ ครูส - โยฮานเนส วูร์ตซ์

      อูเว่ นอยฮุส เฮ้ดโค้ชของ ไดนาโม เดรสเดน มีรายชื่อนักเตะเจ็บในมือ 4 คนเหมือนเดิม คือ มาร์วิน ชว้าบ (18 นัด), โซเรน กอนเธอร์ (4 นัด), มาร์โก ฮาร์ทมันน์ (13 นัด / 2 ประตู) และ ปาสกาล เทสโทร้ต (1 นัด) ส่วนในรายของ ฟลอเรียน บัลลัส (19 นัด / 1 ประตู) กับ ฮาริส ดุลเยวิช (17 นัด / 1 ประตู) จะติดโทษแบน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไดนาโม เดรสเดน (4-1-3-2) : มาร์คุส ชูเบิร์ต - ปอล เซกุน, มาร์เซล ฟรานเค่, ยานนิค มุลเลอร์, ฟิลิป ไฮส์ - มานูเอล คอนราด - ซาสชา โฮร์วาธ, นิคลาส เฮาป์มันน์, ริโก้ เบนาเตลลี่ - เปเนี่ยล เอ็มปาล่า, ลูคัส โรเซอร์

      มิคาเอล ฟรอนท์เซ็ค กุนซือของ ไกเซอร์ฯ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน มาร์เซล คอร์ไรอา (6 นัด), ยูเลียโน่ โมดิก้า (5 นัด), แม็ดส์ อัลบัค (4 นัด), ดาเนี่ยล ฮาลฟาร์ (9 นัด / 1 ประตู) และ แค็กเปอร์ เพอร์ซีบิลโก้ (1 นัด) ที่ยังกอดคอกันเดี้ยงแบบยกเซ็ต ส่วนในรายของ มาริอุส มุลเลอร์ (19 นัด) นายด่านมือหนึ่งจะติดโทษแบน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไกเซอร์ฯ (4-2-2-2) : มาริอุส มุลเลอร์ - เบนจามิน เคสเซิ่ล, สติเป วูกูร์, มาเซล คอร์เรอา, อาบู ฮันน่า - นิลส์ ซูแฟร์ต, คริสโตฟห์ มอริตซ์ - ฟิลิปป์ เวเน่, โอเซ ควัดโว่ - แบรนดอน บอร์เรลโล่, เซบาสเตียน อันเดอร์สสัน

     ทอร์สเท่น ลีเบิร์คเน็ชท์ นายใหญ่ของ บราวน์ชไวก์ มีรายชื่อลูกทีมเจ็บในมือเหลืออยู่ 3 ราย ได้แก่ โยเซฟ บัฟโฟ่ (11 นัด / 3 ประตู), เมียร์โก โบลันด์ (8 นัด / 2 ประตู) และ จูเลียส ไบอาด้า (7 นัด) คาดว่า ตัวหลักในการผลิตสกอร์ของทีมคงจะเป็น ซูเลมาน อับดุลลาไฮ (17 นัด / 5 ประตู) ที่กำลังฮ็อต เจ้าเก่าเจ้าเดิม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
บราวน์ชไวก์ (3-4-3) : ยัสมิน เฟย์ซิช - สเตฟเฟน เอ็นคานซาห์, กุสตัฟ วัลสวิค, สตีฟ เบรทคร๊อยซ์ - จอร์จ ไตเกิ้ล, พาทริค ชอนเฟลด์, ยาน ฮอชไชด์, เคน ไรเชิ่ล - โดมินิค คุมบาล่า, ฟิลิปป์ ฮอฟมันน์, ซูเลมาน อับดุลลาไฮ

      อิเลีย กรูเยฟ ผู้จัดการทีมของ ดุ๊ยส์บวร์ก ยังไร้เงาของ อันเดรียส ไวเกิ้ล (6 นัด) เพราะอยู่ในช่วงฟื้นตัวจากการผ่าเข่า ส่วนในรายของ ฟาเบียน ชเนลฮาร์ด (18 นัด) ห้องเครื่องตัวหลักของทีมจะติดโทษห้ามแข่ง ทำให้ กรูเยฟ ต้องเรียกตัว คริสเตียน การ์ตเนอร์ (1 นัด) มาอุดช่องโหว่ในแดนกลางที่ว่างอยู่

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ดุ๊ยส์บวร์ก (4-2-2-2) : มาร์ค เฟล็คเก้น - เอนิส ฮายรี่, ดัสติน บอมฮอยเออร์, เกอร์ริต นูแบร์, เควิน โวลซ์ - ลูคัส โฟรเด้, คริสเตียน การ์ตเนอร์ - อาห์เหม็ด เอนกิ้น, มอริตซ์ สต๊อปเพิ่ลคัมป์ - บอริส ทาชชี่, สตานิสลาฟ ยุทเชนโก้

      เดิร์ค ชุสเตอร์ เทรนเนอร์ของ ดาร์มสตัดท์ จะไม่มีชื่อของ แม็คคินเซ่ ไกเนส (2 นัด) กับ ยาน โรเซนธาล (6 นัด) ที่ยังต้องใช้บริการของโรงพยาบาลอยู่ แต่เชื่อว่า ชุสเตอร์ น่าจะก็อปปี้ 11 ตัวจริง จากเกมที่บุกชนะ ซังต์ เพาลี 1-0 มาใช้งานต่อ เพราะทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองได้สมบูรณ์แบบกันอยู่เเล้ว

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ดาร์มสตัดท์ (4-2-2-2) : ดาเนี่ยล ฮอยเออร์ - เควิน กรอสส์คร๊อยท์, โรแม็ง เบรเกรี่, อายทัก ซูลู, ฟาเบียน ฮอลลันด์ - ปีเตอร์ ไนเมเยอร์, สโลโบดาน เมโดเยวิช - โทเบียส เคมเป้, โจวิน โจนส์ - จี ดอง วอน, เฟลิกซ์ แพล็ตเต้

      อันเดร ไบรเท่นไรเตอร์ เฮ้ดโค้ชของ ฮันโนเวอร์ ก็ยังคงหมดสิทธิ์ใช้บริการของ โจนาธาส (7 นัด / 3 ประตู) กับ เอ็ดการ์ พริบ ที่ยังต้องพักรักษาตัวอยู่เหมือนเดิม แต่ข่าวดีที่มีเข้ามาคือ จูเลี่ยน คอร์บ (18 นัด / 1 ประตู) แนวรับตัวเก่งกลับมาจากโทษห้ามแข่งแล้ว และจะลงประจำการเป็น 11 ตัวจริงตามแผนการเก่า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮันโนเวอร์ (3-4-2-1) : ฟิลิปป์ ชอเนอร์ - จูเลี่ยน คอร์บ, ซาลิฟ ซาเน่, แอนตัน - โอลิเวอร์ ซอร์ก, เพอร์มิน ชเว็กเลอร์, อิเวอร์ ฟอสซัม, มัทธีอัส ออสเตอร์โซเลค - เฟลิกซ์ เคล๊าส์, มาร์ติน ฮาร์นิค - นิคลาส ฟัลครู้ก

      แบร์นด์ โฮลแลร์ กุนซือของ ฮัมบูร์ก ยังไม่มีชื่อของ อัลบิน เอคดัล (11 นัด) กับ นิโคไล มุลเลอร์ (1 นัด / 1 ประตู) เพราะยังสลัดคราบเดี้ยงไม่ได้ คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง ไม่น่าจะเปลี่ยนไปจากเดิมมากนัก โดยจะมี บ๊อบบี้ วู้ด (15 นัด / 1 ประตู) และ ฟิลิป คอสติช (16 นัด / 3 ประตู) เป็นตัวทีเด็ดในแนวรุก

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮัมบูร์ก (3-4-3) : มาเธเนีย - กีเดียน จุง, คิเรียกอส ปาปาโดปูลอส, ริค ฟาน ดรองเกเล่น - เดนนิส เดี๊ยคเมเยอร์, โกโตคุ ซากาอิ, วาเลซ, ดั๊กลาส - อารอน ฮันท์, บ๊อบบี้ วู้ด, ฟิลิป คอสติช

      นิโก้ โควัค เฮ้ดโค้ชของ แฟร้งค์เฟิร์ต ยังมีลิสต์รายชื่อตัวเดี้ยงอย่าง ดาบิด อับราฮัม (16 นัด), โจนาธาน เดอ กุซมัน (8 นัด) และ อเล็กซานเดอร์ เมเยอร์ ส่วนในรายของ อันเต เรบิช (17 นัด / 4 ประตู) ต้องติดโทษแบน ทางแก้ก็คือ ดัน เควิน พริ๊นซ์ บัวเต็ง (20 นัด / 4 ประตู) ขึ้นไปล่าตาข่ายในแดนหน้า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แฟร้งค์เฟิร์ต (3-5-2) : ลูคัส ฮราเด็กกี้ - การ์ลอส ซัลเซโด้, ไซม่อน ฟาแลต, มาโกโตะ ฮาเซเบะ - มาริอุส โวล์ฟ, อายเมน บาร์ค็อก, มาสกาเรล, มิยัต กาซิโนวิช, ทิโมธี แชนด์เลอร์ - เควิน พริ๊นซ์ บัวเต็ง, เซบาสเตียง ฮัลแลร์

      มานูเอล บอย์ม ผู้จัดการทีมของ เอ๊าก์สบวร์ก ปวดตับไม่น้อยเลย เมื่อตัวหลักอย่าง เจฟฟรี่ โกเวลูว์ (20 นัด) กับ อัลเฟร็ด ฟินโบกาสัน (18 นัด / 11 ประตู) ดันโดนอาการเจ็บเล่นงาน แถมต้องมาเสีย รานี เคดิร่า (17 นัด) มิดฟิลด์ตัวสำคัญอีกคนไปกับโทษห้ามแข่งอีก ทำให้ต้องปรับทัพกันวุ่นวายเลย

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เอ๊าก์สบวร์ก (4-3-3) : มาร์วิน ฮิตซ์ - ดาเนี่ยล โอปาเร่, มาร์ติน ฮินเตเร็กเกอร์, เควิน ดานโซ่, ฟิลิปป์ มักซ์ - แยน โมราเวค, มิเชล เกรกอริช, ดาเนี่ยล เบเยอร์ - คู จา ชอล, เซร์กิโอ กอร์โดบา, คูบี้

      เอ็นริเก้ มาร์ติน เฮ้ดโค้ชของ อัลบาเซเต้ ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน เปลาโย่ (2 นัด) กองกลางวัย 27 ปี ที่เจ็บค้างสต็อกอยู่ ส่วนในรายของ ชุส เอร์เรโร่ (16 นัด) ปราการหลังตัวสำคัญ ต้องรอเช็คความฟิตกันอีกครั้ง แต่ที่อดบู๊แน่นอนคือ อัลบาโร่ อาร์โรโย่ (20 นัด) กองหลังตัวหลักอีกคนที่ติดโทษแบนในนัดนี้พอดี

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
อัลบาเซเต้ (3-5-2) : โตเมอู นาดาล - ชุส เอร์เรโร่, เอสเตบาน ซาเวลยิช, การ์ลอส เดลกาโด้ - มิคคาเอล กัฟฟูร์, เนสตอร์ ซูซาเอต้า, ฆอน เอริเซ่, ดานี่ โรดริเกวซ, มาเรียโน่ บิตโตโล่ - โรมัน โซซุลย่า, เฌเรมี่ เบล่า

      ฟรานกิสโก้ นายใหญ่ของ ลูโก้ จะไร้เงาของ เอดู กัมปาบาดาล (16 นัด), เซร์กิโอ กิล (3 นัด), อาเดรีย การ์โมน่า, ฟรานกิสโก้ ไฟดริสซิวสกี้ (14 นัด / 1 ประตู) และ เซร์กิโอ ดิอาซ (8 นัด) เนื่องจากโดนโรคเดี้ยงเล่นงาน แต่ไม่น่าจะส่งผลในการจัดทีมมากนัก เพราะ ฟรานกิสโก้ ยังมั่นใจใน 11 ตัวจริงชุดปัจจุบัน

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
ลูโก้ (4-2-3-1) : ฆวน การ์ลอส - เเซร์จ เลอูโก้, หลุยส์ มูญอส, โฆเซเต้, วาซิล คราเว็ตส์ - อาซีซ, เซโออาเน่ - อิริโอเม่, เฟเด บิโก้, ไฆเม่ โรเมโร่ - มาริโอ บาร์โก้

      ราล์ฟ ฮาเซ่นฮุตเทิ่ล เทรนเนอร์ของ ไลป์ซิก ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน มาร์เซล ฮัลส์เท่นแบร์ก (15 นัด / 2 ประตู) แนวรับวัย 26 ปี ที่มีอาการเจ็บรบกวนอยู่ แต่ข่าวดีแบบสุดๆ ที่มีเข้ามาคือ นาบี เกอิต้า (15 นัด / 3 ประตู) กับ เอมิล ฟอร์สเบิร์ก (12 นัด / 1 ประตู) สองกำลังสำคัญฟิตเต็มสูบ พร้อมลงสนามเป็น 11 ตัวจริง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไลป์ซิก (4-4-2) : ปีเตอร์ กาลัคซี่ - คอนราด เลเมอร์, วิลลี่ ออร์แบน, อูปาเมกาโน่, ลูคัส โคลสเตอร์มันน์ - เควิน คัมเพิ่ล, ดีเอโก้ เดมม์, นาบี เกอิต้า, เอมิล ฟอร์สเบิร์ก - ยุสซุฟ โพลเซ่น, ติโม แวร์เนอร์

      ดีเตอร์ เฮ็กคิงก์ กุนซือของ กลัดบัค มีรายชื่อลูกทีมเจ็บยาวเป็นหางว่าวเหมือนเดิม คือ ออสการ์ เวนด์ (20 นัด / 1 ประตู), ฟาเบียน จอห์นสัน (9 นัด / 1 ประตู), ลาซโล่ เบนส์ (1 นัด), มามาดู ดูกูเร่, โทเบียส สโตรเบิ้ล และ ราอูล โบบาดีย่า (7 นัด) นั่นทำให้เชื่อได้ว่า 11 ตัวจริงในเกมนี้ ไม่น่าจะต่างไปจากปัจจุบันแน่ๆ

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
กลัดบัค (4-4-2) : โทเบียส ซิปเพิ่ล - นิโก้ เอลเวดี้, มัทธีอัส กินเตอร์, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, โทนี่ ยานช์เก้ - โยนาส ฮอฟมันน์, คริสโตฟห์ เครเมอร์, เดนิส ซากาเรีย, ธอร์แกน อาซาร์ - ลาร์ส สไตน์เดิ้ล, ราฟฟาเอล

      ตายฟุน คอร์คุต เฮ้ดโค้ชของ สตุ๊ตการ์ต มีลิสต์ 4 ตัวเดี้ยงแก๊งเดิม คือ โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์ (14 นัด / 2 ประตู), โอแรล ม็องกาล่า (10 นัด), มัทธิอัส ซิมเมอร์มันน์ (2 นัด) และ การ์ลอส มาเน่ คาดว่า คอร์คุต น่าจะยังเลือกใช้ 11 ขุนพลชุดปัจจุบันต่อไป เนื่องจากยังไม่อยากเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลันในเวลานี้

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
สตุ๊ตการ์ต (3-5-2) : รอน โรเบิร์ต ซีเลอร์ - เบนจามิน ปาวาร์, ติโม บอย์มการ์ตเทิ่ล, มาร์ซิน กามินสกี้ - อันเดรียส เบ็ค, ซานติอาโก้ อัสกากิบาร์, คริสเตียน เกนท์เนอร์, เบอร์คา ออซคาน, เดนนิส อาโอโก้ - มาริโอ โกเมซ, ชาดรัก อาโกโล่

      มาร์ติน ชมิดท์ นายใหญ่ของ โวล์ฟสบวร์ก จะไม่มีชื่อของ จอห์น บรู้คส์ (7 นัด), อิ๊กนาซิโอ กามาโช่ (9 นัด) และ ยาคุบ บลาสซีคอฟสกี้ (7 นัด / 1 ประตู) ที่ควงเเขนกันเข้าโรงพยาบาลอยู่ แต่เชื่อว่าไม่น่าจะใช่ปัญหาอะไร เพราะ ชมิดท์ คงเลือกใช้ทีมชุดที่บุกชนะ ฮันโนเวอร์ 1-0 ลงสนามเล่นกันต่ออยู่เเล้ว

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โวล์ฟสบวร์ก (4-3-2-1) : โกเยนส์ กัสตีลส์ - พอล เวอร์ฮาจ, บรูม่า, โรบิน น็อคเก้, มาร์เซล ทิสเซอรันด์ - มักซิมิเลี่ยน อาร์โนลด์, ยูนุส มัลลี่, โจฌัว กีลาโว้ก - เรนาโต้ สเตฟเฟ่น, ดาเนี่ยล ดิดาวี่ - ดิว๊อค โอริกี

       จุ๊ป ไฮย์เกส กุนซือของ บาเยิร์น ยังหมดสิทธิใช้งาน มานูเอล นอยเออร์ (3 นัด) และ ธิอาโก้ อัลกานตาร่า (9 นัด / 1 ประตู) ที่พักมาอยู่ก่อนหน้านี้เเล้ว แต่ยังมี "ตัวเทพ" ให้เลือกใช้บริการอีกเพียบ เชื่อว่าเกมนี้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (19 นัด / 18 ประตู) จะเป็นตัวความหวังในการพังประตูเหมือนเดิม

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
บาเยิร์น (4-2-3-1) : สเวน อูลไรช์ - โจฌัว กิมมิค, เจอโรม บัวเต็ง, นิคลาส ซูเล่, ดาวิด อลาบา - ฆาบี มาร์ติเนซ, อาร์ตูโร่ วิดัล - โธมัส มุลเลอร์, ฮาเมส โรดริเกวซ, ฟร้องค์ ริเบรี่ - โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

      ซานโดร ชวาร์ซ เทรนเนอร์ของ ไมนซ์ มีรายงานตัวเจ็บเข้ามา 3 ราย ได้แก่ เรเน่ อ๊าดเลอร์ (9 นัด), นิโก้ บุนแกร์ต และ คาริม โอนิซิโว่ (2 นัด) คาดว่านัดนี้ ชวาร์ซ จะวางหมากมาในระบบ 3-5-2 เพื่อเน้นเกมแดนกลางให้แน่น โดยจะมี ไนเจล เดอ ยอง (3 นัด) กองกลางตัวเก๋ายืนคุมจังหวะให้กับทีม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไมนซ์ (3-5-2) : โรบิน เซนต์เนอร์ - อับดู ดิยัลโล่, ฌอง กีบาแมง, อเล็กซานเดอร์ ฮัค - จูลิโอ โดนาติ, ซูอัต แซร์ดาร์, ไนเจล เดอ ยอง, แดนนี่ ลัตซ่า, ดาเนี่ยล โบรซินสกี้ - โยชิโนริ มุโตะ, โรบิน ไคสัน

      ฟลอเรียน โคห์เฟลด์ เฮ้ดโค้ชของ เบรเมน เหลือแค่เพียง ฟิน บาร์เทิ่ลส์ (14 นัด / 2 ประตู) คนเดียวที่เดี้ยงค้างสต็อกอยู่ จึงไม่น่าจะเเปลกใจอะไรหาก โคห์เฟลด์ จะเรียกใช้งานนักเตะชุดเก่าลงบู๊กันต่อ ซึ่งจะมี นิโคลัส มอยซานเดอร์ (15 นัด / 1 ประตู) และ โธมัส เดอลานี่ย์ (19 นัด / 1 ประตู) เป็นตัวหลัก

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เบรเมน (3-4-2-1) : ยีรี พาฟเลนก้า - มิลอส เวลโกวิช, ฟิลิปป์ บาร์กเฟรเด้, นิโคลัส มอยซานเดอร์ - เกเบร เซลาสซี่, มักซิมิเลี่ยน เอ็กเก้สไตน์, โธมัส เดอลานี่ย์, ลุดวิก ออกุสตินส์สัน - ซลัตโก้ ยูนูโซวิช, เจอโรม กอนดอร์ฟ - มักซ์ ครูเซ่

      โดเมนิโก้ เทเดสโก้ นายใหญ่ของ ชาลเก้ ยังไร้เงาของ ปาโบล อินซัว กับ เวสตัน แม็คเคนนี่ (14 นัด) ที่ยังเจ็บเหมือนเก่า แต่กำลังรบที่เหลือพร้อมลุยอยู่นานเเล้ว คาดว่า เทเดสโก้ จะปรับ 11 ตัวจริงเล็กน้อยด้วยการส่ง กีโด บวร์กสตัลเลอร์ (19 นัด / 7 ประตู) กลับมาประจำการที่เดิมในฐานะกองหน้าตัวเป้า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ชาลเก้ (3-4-3) : ราล์ฟ ฟาห์รมันน์ - ธิโล่ เคห์เรอร์, นัลโด้, มาติย่า นาสตาซิช - ดาเนี่ยล คาลิกูรี่, มักซ์ เมเยอร์, เลออน โกเร็ตส์ก้า, บาสเตียน อ๊อกซิปก้า - อามีน ฮาริต, กีโด บวร์กสตัลเลอร์, เยฟเกนี่ โคโนพิลยานก้า

      ไฮโค แฮร์ลิช เทรนเนอร์ของ เลเวอร์คูเซ่น จัดทัพได้แบบสบายใจเลย เมื่อไม่มีนักเตะคนใดเดี้ยงค้างสต็อกหรือติดโทษแบน นั่นหมายความว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในนัดนี้ จะเป็นชุดใหญ่เต็มสูบแน่นอน โดยจะมี "อาวุธหนัก" อย่าง เควิน โฟลลันด์ (19 นัด / 10 ประตู) กับ ลูกัส เอลาริโอ (12 นัด / 5 ประตู) ลงเล่น

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เลเวอร์คูเซ่น (4-2-2-2) : แบร์นด์ เลโน่ - ลาร์ส เบนเดอร์, โจนาธาน ตาห์, สเวน เบนเดอร์, เวนเดล - ชาร์ลส์ อรานกุซ, จูเลี่ยน บอย์มการ์ตลิงเกอร์ - เลออน ไบยี่, จูเลี่ยน บรันด์ - เควิน โฟลลันด์, ลูกัส เอลาริโอ

      คริสเตียน สไตรช์ กุนซือของ ไฟร์บวร์ก มีรายงานนักเตะเจ็บชุดเดิม ได้แก่ ฟิลิปป์ ไลน์ฮาร์ท (10 นัด), นิโคลัส ฮอฟเลอร์ (16 นัด), ไมค์ ฟร๊านซ์ (11 นัด), ยอริก ราเว่ต์ (8 นัด) และ ฟลอเรียน นีแดร์เลชเนอร์ (10 นัด / 2 ประตู) แต่จะมีข่าวดีตรงที่ อเล็กซานเดอร์ ชโวลอฟ (19 นัด) กลับมาเฝ้าเสาได้เเล้ว

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไฟร์บวร์ก (3-4-2-1) : อเล็กซานเดอร์ ชโวลอฟ - คักลาร์ โซยุนกู, มานูเอล กัลด์, มาร์ก เคมพ์ - ลูคัส คุบเลอร์, โรบิน ค็อก, อาเมียร์ อับราชี่, คริสเตียน กุนเตอร์ - ยานิค ฮาเบเรอร์, ลูคัส โฮเลอร์ - นีล พีเตอร์เซ่น

      จูเลี่ยน นาเกิ้ลมันน์ นายใหญ่ของ ฮอฟเฟ่นไฮม์ ไม่มีปัญหาในการจัดทัพใดๆ เพราะลูกทีมทุกคนฟิตเต็มสูบกันทั้งหมด เชื่อว่าเกมนี้ นาเกิ้ลมันน์ จะวางหมากมาในระบบ 3-4-2-1 ตามที่ถนัดเหมือนเก่า นำทีมมาโดย เควิน โฟ้กท์ (18 นัด), เคเรม เดเมียร์เบย์ (14 นัด / 2 ประตู) และ มาร์ก อูธ (19 นัด / 10 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮอฟเฟ่นไฮม์ (3-4-2-1) : โอลิเวอร์ เบามันน์ - เออร์มิน บิซัคซิช, เควิน โฟ้กท์, เบนจามิน ฮุบเนอร์ - พาเวล คาเดราเบค, เคเรม เดเมียร์เบย์, เดนนิส ไกเกอร์, สตีเว่น ซูเบอร์ - ฟลอเรี่ยน กริลลิช, แซร์ก จีนาบรี - มาร์ก อูธ

      พาล ดาร์ได ผู้จัดการทีมของ แฮร์ธ่าฯ จะไม่มีชื่อของ มิตเชล ไวเซอร์ (18 นัด / 1 ประตู) กับ อองเดร ดูด้า (9 นัด / 1 ประตู) ที่มีอาการเจ็บรบกวนอยู่ ส่วนในรายของ รูเน่ ยาร์สไตน์ (18 นัด) ผู้รักษาประตูมือหนึ่ง ต้องรอเช็คความฟิตก่อนลงสนามอีกครั้ง แต่สำหรับหน้าเป้ายังเป็น ดาวี เซลเก้ (13 นัด / 5 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แฮร์ธ่าฯ (4-2-3-1) : โธมัส คราฟต์ - ปีเตอร์ เปคาริค, นิคลาส สตาร์ค, ฟาเบียน ลุสเตนแบร์เกอร์, มาร์วิน แพล็ตเท่นฮาร์ด - เพอร์ สเคลเบร็ด, อาร์เน่ เมเยอร์ - วาเลนติโน่ ลาซาโร่, แมทธิว เล็กกี้, ซาโลมง กาลู - ดาวี เซลเก้

      ปาสกาล กัสติย็อง เทรนเนอร์ของ แกลร์มงต์ ฟุต เหลือตัวเจ็บค้างสต็อกอยู่ 3 ราย ได้แก่ โฟเด้ โดเร่ (15 นัด / 2 ประตู), โตมาส กูร์แบร์ และ อ็องโตนี่ กิเว่ต์ (1 นัด) นั่นทำให้การจัดทัพของ กัสติย็อง ไม่น่าจะลำบากอะไรมาก เพราะไม่มีตัวเดี้ยงเพิ่ม คาดว่า ลูโดวิช อาฌอร์เก้ (22 นัด / 7 ประตู) จะลงผลิตสกอร์ต่อแน่นอน

      เอร์เว่ เดญ่า มักชิโอเร่ ผู้จัดการทีมของ บูร์ก แปร็องนาส์ ไม่มีเหตุผลใดๆ ที่จะต้องเปลี่ยนแปลง 11 ขุนพลจากชุดที่บุกชนะ กาเซเลค อฌักซิโอ้ 2-1 ในเกมลีกนัดที่ผ่านมา เพราะทุกคนทำหน้าที่ได้ดีอยู่เเล้ว นั่นหมายความว่า เกแว็ง คูเบมบ้า (1 นัด / 1 ประตู) ผู้ซัดประตูเเรกให้ทีม จะลงป่วนทางกราบขวาต่อไปอีกหนึ่งนัด

      เดนิส เรโนด์ ผู้จัดการทีมของ นิออร์ สบายใจได้ก่อนเกมเลย เพราะสภาพความพร้อมของทีมสมบูรณ์แบบ ไม่มีรายงานความเสียหายอะไรเข้ามา คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในเกมนี้ ไม่น่าจะต่างไปจากเดิมมากนัก นำทีมมาโดย อันเด โดนา เอ็นโดห์ (23 นัด / 7 ประตู) เพชรฆาตดาวยิงวัย 31 ปี

      ฟาบิยง เเมร์กาดัล เฮ้ดโค้ชของ ปารีส จะไม่มีชื่อของ เฟรเดริค บ็อง (21 นัด / 1 ประตู) ปราการหลังชาวแคเมอรูน เพราะจะติดโทษแบน เนื่องจากโดนไล่ออกมาจากเกมที่บุกเสมอ โอแซร์ 1-1 ในเกมลีกนัดก่อน แต่ในเเดนหน้าจะมี มาลิก ทูคูนเต้ (22 นัด / 7 ประตู) ลงล่าตาข่ายให้กับทีมเหมือนเดิม

      กาอิซก้า การิตาโน่ กุนซือของ ลา กอรุนญ่า จะหมดสิทธิ์ใช้งาน ซิดเน่ (16 นัด / 1 ประตู) กับ เปโดร มอสเกร่า (11 นัด) สองตัวหลักของทีม เนื่องจากโดนไข้เดี้ยงเล่นงาน ส่วนในรายของ เซลโซ่ บอร์เกส (20 นัด / 3 ประตู) และ ฟลอริน อันโดเน่ (17 นัด / 6 ประตู) ก็ดันควงเเขนกันติดโทษแบนซะอีกในนัดนี้

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ลา กอรุนญ่า (4-2-3-1) : รูเบน มาร์ติเนซ - ฆวนฟราน, ซิดเน่, ราอูล อัลเบนโตซ่า, ลูซินโญ่ - กีเยร์เม่, ไมเคิ่ล ครอห์น-เดห์ลี - เฟเด การ์ตาเบีย, การ์เลส กิล, อาเดรียน โลเปซ - ลูกัส เปเรซ

      เอวเซบิโอ ซากริสตาน นายใหญ่ของ เรอัล โซเซียดัด ยังไร้เงาของ การ์ลอส มาร์ติเนซ ปราการหลังตัวเก๋าวัย 31 ปี เพราะยังเจ็บไม่หาย แต่กำลังรบที่เหลือพร้อมลุยอยู่นานแล้ว คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงไม่น่าจะต่างไปจากนัดก่อนๆ โดยจะมี วิลเลี่ยน โฮเซ่ (21 นัด / 10 ประตู) เป็นตัวทีเด็ดในเเนวรุก

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เรอัล โซเซียดัด (4-3-3) : เคโรนีโม่ รูยี่ - อัลบาโร่ โอดริโอโซล่า, ดีเอโก้ ยอเรนเต้, อินญิโก้ มาร์ติเนซ, เคบิน โรดริเกซ - ชาบี ปรีเอโต้, อาเซียร์ อียาร์ราเมนดี้, ดาบิด ซูรูตูซ่า - เซร์คิโอ การ์นาเลส, วิลเลี่ยน โฆเซ่, มิเกล โอยาร์ซาบัล