วิเคราะห์บอล / วิเคราะห์บอลวันนี้

      ฮานเนส ดรูว์ส เทรนเนอร์ของ เออร์ซเกเบียร์เก้ เอา ไม่มีปัญหาในเรื่องการจัดทัพ เพราะสภาพความพร้อมของลูกทีมทุกคนสมบูรณ์ 100% แต่เชื่อว่า ดรูว์ส คงต้องปรับ 11 ตัวจริงกันพอสมควรแน่ เนื่องจากผลงานย่ำแย่เหลือเกิน แต่สำหรับ ปาสกาล ค็อปเค่ (20 นัด / 4 ประตู) คงได้รับความไว้วางใจให้ลงสนามต่อ

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เออร์ซเกเบียร์เก้ เอา (3-4-3) : มาร์ติน มานเนิ่ล - ฟาเบียน คาลิก, โดมินิค วีดร้า, นิโคไล รัปป์ - คริสเตียน ทิฟเฟิร์ต, พาทริค สเตร๊าส์, เดนนิส เคมเป้, เคลเมนส์ ฟานดริช - เซบิโอ ซูคู, ริดเก้ มุนซี่, ปาสกาล ค็อปเค่

      มิชาเอล โคลเนอร์ กุนซือของ เนิร์นแบร์ก จะหมดสิทธิ์ใช้งาน เดนนิส ลิพแพร์ต, จอร์จ มาร์เกรอิตเตอร์, เซบาสเตียน แคร์ก (3 นัด), เอ็ดการ์ ซัลลี่ และ อดัม ซเร็ค (2 นัด) เพราะยังมีอาการเจ็บติดตัวกันอยู่ คาดว่า โคลเนอร์ จะวางหมากมาในระบบ 3-5-2 โดยจะมี มิคาเอล อิชัค (16 นัด / 1 ประตู) ยืนค้ำในแดนหน้า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เนิร์นแบร์ก (3-5-2) : ฟาเบียน เบร็ดโลว์ - ลูคัส มูห์ล, เอเเวร์ตัน, เอดูอาร์ด โลเว่น - เอ็นริโก้ วาเลนตินี่, ทิม ไลโบลด์, พาทริค เออร์ราส, เควิน โมห์วัลด์, ฮันโน่ เบห์เรนส์ - ปาลาซิออส มาร์ติเนซ, มิคาเอล อิชัค

      เคนาน โคซัค เฮ้ดโค้ชของ ซานด์เฮาเซ่น มีรายชื่อลูกทีมเดี้ยงมากถึง 6 ราย ไล่มาตั้งแต่ เคน กิปสัน (3 นัด), ดาเนี่ยล โรสบัค (1 นัด), มีร์โก้ บอร์น, สเตฟาน คูโลวิตส์ (5 นัด), คอร์บิเนียน โฟลล์มันน์ และ แอนดรูว์ วูเท่น (1 นัด / 1 ประตู) ทำให้ โคซัค คงปรับทีมได้ไม่มากนัก น่าจะเป็นชุดเดิมลงเล่นต่อ

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ซานด์เฮาเซ่น (5-4-1) : มาร์เซล ชูเฮน - ฟิลิปป์ คลิ้งมันน์, ทิม คิสเตอร์, มาร์คุส คาร์ล, ทิม คิปปิ้ง, เลยาร์ต ปาการาด้า - ฟิลิปป์ ฟอร์สเตอร์, เดนิส ลินส์เมเยอร์, เอโรลล์ เซจ์นูลลาฮู, เนย์เมดดิน ดั๊กห์ฟุส - ริชาร์ด ซูคูต้า-ปาซู

      ฟรีดเฮล์ม ฟุงเคิ่ล นายใหญ่ของ ดุสเซลดอร์ฟ ยังไร้เงาของ 3 ตัวเจ็บเซ็ตเดิม คือ มิคาเอล เรนซิ่ง (3 นัด), ทิม ไวส์เนอร์ (1 นัด) และ โกคาห์น กัล แต่ขุมกำลังที่เหลือพร้อมลุยกันทั้งหมด เชื่อว่าชั่วโมงนี้ ฟุงเคิ่ล คงไม่คิดเปลี่ยนแปลงอะไรแน่ๆ เพราะลูกทีมทุกคนกำลังทำผลงานกันได้อย่างยอดเยี่ยม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ดุสเซลดอร์ฟ (4-2-3-1) : ราฟาเอล โวล์ฟ - ฌอน ซิมเมอร์, คาน อายฮาน, อดัม บ็อดเซ็ค, นิโก้ กีเซลมันน์ - มาร์เซล โซบ็อตก้า, ฟลอเรียน นอยฮุส - เบนิโต้ รามาน, โอลิเวอร์ ฟิงค์, เก็งกิ ฮารากูชิ - รูเวน เฮนนิ่งส์

      ปีเตอร์ สโตเกอร์ เทรนเนอร์ของ ดอร์ทมุนด์ มีลิสต์ลูกทีมบาดเจ็บในมือ 6 คน คือ เอริค ดวร์ม, มาร์เซล ชเมลเซอร์ (9 นัด), มาร์โก ร๊อยส์, เซบาสเตียน โร้ด, อันเดร ยาร์โมเลนโก้ (16 นัด / 3 ประตู) และ มาซิมิเลี่ยน ฟิลิปป์ (11 นัด / 6 ประตู) คาดว่า มานูเอล อาคานยี่ กับ มิชี่ บาตชัวยี่ จะได้ลงสนามประเดิมเกมแรก

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ดอร์ทมุนด์ (4-3-3) : โรมัน บูร์กี - ลูคัส พิสเซค, โซเครติส, มานูเอล อาคานยี่, ราฟาเอล เกร์เรโร่ - ชินจิ คากาวะ, จูเลี่ยน ไวเกิ้ล, มาริโอ เกิทเซ่ - คริสเตียน พูลิซิช, มิชี่ บาตชัวยี่, จาดอน ซานโช่

      สเตฟาน รูเธนเบค ผู้จัดการทีมของ โคโลญจน์ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน ทิม ฮานด์แวร์เคอร์ (9 นัด), เลออน บิตเท่นคอร์ต (12 นัด), นิโคลัส นาร์เตย์ (1 นัด) และ มาร์เซล ริสเซ่ (4 นัด) ที่ยังควงเเขนกันเดี้ยงอยู่ทั้งหมด ส่วนในรายของ ลูคัส คลุนเตอร์ (18 นัด / 1 ประตู) แนวรับดาวรุ่งประจำทีม จะติดโทษห้ามแข่ง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โคโลญจน์ (4-2-2-2) : ติโม ฮอร์น - เฟรเดริค โซเรนเซ่น, ฆอร์เก้ เมเร่, โดมินิค ไฮนซ์, โยนาส เอคเตอร์ - มาร์โก โฮเกอร์, ซาลีห์ ออซคาน - คริสเตียน เกลเมนส์, มิลอส โยยิช - ไซม่อน โซลเลอร์, ไซม่อน เทร็อด

      อเล็กซิส เมนโดซ่า เทรนเนอร์ของ ฆูเนียร์ จะไร้เงาของ โฆนาตาน อัลเวซ แนวรุกชาวอุรุกวัยที่ติดโทษแบน แต่ขุมกำลังที่เหลือพร้อมลุยกันอยู่นานเเล้ว คาดว่าเกมนี้ โฉมหน้าของ 11 ขุนพล จะนำทีมมาโดย เซบาสเตียน บิเอร่า, ราฟาเอล เปเรซ, ฆาร์ลัน บาร์เรเร่า รวมไปถึง ตีโอฟิโล กูเตียร์เรซ

      ดาเนี่ยล การ์เนโร่ ผู้จัดการทีมของ โอลิมเปีย ยิ้มสบายใจได้ก่อนเกมเลย เพราะสามารถก็อปปี้ 11 ตัวจริงชุดเดิมจากรอบก่อนมาใช้งานได้แบบยกเซ็ต นั่นหมายความว่าจะได้เห็น การ์เนโร่ วางหมากมาในระบบ 4-2-3-1 อีกครั้ง โดยจะมี โรเก้ ซานตา ครูซ หัวหอกตัวเก๋าวัย 36 ปี ลงเป็นหน้าตัวเป้า

      อัลบาโร่ เปญ่า ผู้จัดการทีมของ วิลสเตร์มันน์ ไม่มีปัญหาใดในการจัดทัพ เพราะสภาพความพร้อมของทีมสมบูรณ์ 100% สามารถเลือกตัวนักเตะลงสนามได้ตามใจ คาดว่า เปญ่า น่าจะยังยึด 11 ตัวจริงที่เล่นในเกมลีกมาใช้งานต่อ โดยจะมี กิลเบิร์ต อัลบาเรซ (1 นัด / 1 ประตู) เป็นตัวทีเด็ดในแดนหน้า

      เนสตอร์ เคลาเซ่น นายใหญ่ของ โอเรียนเต้ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน เปาโล โรซาเลส จอมทัพตัวสำคัญของทีม เนื่องจากติดโทษห้ามแข่ง เพราะโดนไล่ออกมาจากเกมที่บุกแพ้ อูนิเวร์ซิตาริโอ้ 1-3 นั่นเป็นโจทย์ที่ เคลาเซ่น ต้องแก้ไขทันที แต่สำหรับ ฆอร์เก้ ปาเรเดส ผู้ยิงประตูตีไข่แตก พร้อมลุยเเน่นอน

      เกรโกริโอ้ เปเรซ เทรนเนอร์ของ ซานตา เฟ่ ก็สามารถเลือกจัดนักเตะชุดที่ดีที่สุดลงสู่สนามได้เช่นกัน เนื่องจากลูกทีมทุกคนอยู่ในสภาพพร้อมรบ 100% คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในเกมนี้ น่าจะนำทีมมาโดย บิคตอร์ กิรัลโด้, ไยสัน กอร์ดิโญ่, อันเดร์สัน ปลาต้า และ ฆอร์น ปาฆอย

      ฟรานเกโซ่ สติฟาโน่ กุนซือของ เดปอร์ติโบ ตาชิร่า เตรียมขน 11 ขุนพลที่ตะลุยผ่านรอบแรกลงสนามกันแบบนันสต็อป เพราะไม่มีรายงานความเสียหายใดๆ เข้ามา เชื่อว่า สติฟาโน่ จะวางหมากมาในระบบ 4-2-3-1 โดยจะมี เซร์กิโอ้ อัลเมร่อน หัวหอกตัวเก๋าวัย 32 ปี ยืนค้ำเป็นกองหน้าตัวเป้า

      อีวาน เลโก้ เทรนเนอร์ของ คลับ บรูซ หมดสิทธิ์ใช้งาน 2 กองหลังตัวหลักอย่าง เบนัวต์ ปูแล็ง (11 นัด / 1 ประตู) และ โซโล เดการ์ลี่ (10 นัด / 1 ประตู) นั่นบังคับให้ เลโก้ ต้องแก้ไขปัญหาในเเนวรับ แต่ในแนวรุกจะได้เห็น อับดูลาย ดิอาบี้ (22 นัด / 10 ประตู) ที่พักไว้เป็นสำรองในเกมก่อน กลับมาออกสตาร์ทเป็นตัวจริง

      ซา ปินโต้ กุนซือของ สตองดาร์ ลีแอช จะไม่มีชื่อของ เมร์วิลเล่ โบคาดี้ (8 นัด) เพราะโดนอาการเจ็บรบกวนอยู่ ส่วนในรายของ เซบาสติยง โปค็อกโนลี่ (20 นัด / 1 ประตู) ต้องรอเช็คฟิตกันอีกครั้ง แต่ที่อดบู๊แน่นอนคือ ดิวเมร์ซี่ เอ็นด็องกาล่า (15 นัด) กับ ออร์ลันโด้ ซา (20 นัด / 9 ประตู) เนื่องจากติดโทษเเบน

      เปโดร มาร์ตินส์ ผู้จัดการทีมของ วิตอเรีย กิมาไรส์ จะขาดหายไปเพียงแค่ กิลเยร์โม่ เกลิส (12 นัด) กองกลางทีมชาติโคลอมเบียคนเดียวเท่านั้น ที่โดนไข้เดี้ยงเล่นงาน นั่นหมายความว่า มาร์ตินส์ ไม่ต้องคิดเปลี่ยนแปลง 11 ตัวจริงจากเกมที่เปิดบ้านชนะ เอสโตริล 3-1 ในเกมลีกนัดที่ผ่านมา เพราะลูกทีมทุกคนทำหน้าที่ของตัวเอง

      ชอร์เก้ เชซุส เฮ้ดโค้ชของ สปอร์ติ้ง ลิสบอน จะหมดสิทธิ์ใช้งาน เกลสัน มาร์ตินส์ (19 นัด / 5 ประตู), ดาเนี่ยล โพเดนซ์ (12 นัด) และ โจนาธาน ซิลวา (6 นัด) ที่ยังเจ็บอยู่ ส่วนในรายของ เฌเรมี่ มาธิเยอ (17 นัด / 1 ประตู), ฟาบิโอ โคเอนเทรา (15 นัด / 1 ประตู) และ บรูโน่ แฟร์นานเดส (19 นัด / 8 ประตู) ต้องรอเช็คฟิตก่อน

      โชเซ่ คูไซโร่ กุนซือของ วิตอเรีย เซตูบัล เหลือตัวเจ็บอีก 2 คน คือ เนเน่ โบนิลญ่า (10 นัด) กับ ยานนิค ฌาโล ส่วนในรายของ อังเดร เปโดรซ่า (16 นัด) ห้องเครื่องกำลังสำคัญ จะติดโทษห้ามแข้ง นั่นทำให้ คูไซโร่ ต้องปรับทัพกันอีกครั้ง แต่สำหรับ กอนชาโล่ ปาซิเอนเซีย (18 นัด / 5 ประตู) น่าจะได้ลงเล่นต่อ

      หลุยส์ คาสโตร เทรนเนอร์ของ ชาเวส ยังไม่มีชื่อของ ติอาโก้ กัลเวา (8 นัด) และ วิลมาร์ กิล (2 นัด) ที่ยังควงเเขนกันเดี้ยงต่อ แต่กำลังรบที่เหลือพร้อมลุยอยู่นานเเล้ว คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในนัดนี้ ไม่น่าจะต่างไปจากชุดปัจจุบันมากนัก นำทีมมาโดย พลาตินี่ (10 นัด / 3 ประตู) ดาวยิงประจำทีม

      ดาเนี่ยล รามอส เฮ้ดโค้ชของ มาริติโม่ มีลิสต์รายชื่อ 7 ขุนพลที่ต้องพักรักษาตัวอยู่ ไม่ว่าจะเป็น ปาโบล (8 นัด), ฟาบิโอ ไชน่า (11 นัด), โคโรนาส, เกวอร์ก กาห์ซาร์ยาน (3 นัด), เอลเเบร์ (12 นัด / 1 ประตู), เอ็ดการ์ คอสต้า (16 นัด / 2 ประตู) และ โรดริโก้ ปินโญ่ (18 นัด / 3 ประตู) ทำให้ลำบากในการจัดทีมไม่น้อย

      ชอร์เก้ ซิเมา นายใหญ่ของ เบาวิสต้า จะไร้เงาของ เรนาโต้ ซานโต๊ส (11 นัด / 2 ประตู) กับ อีบาน บูลอส (6 นัด) ที่มีอาการเจ็บรบกวน ส่วนในรายของ เอดู มาชาโด้ (5 นัด) และ อิดริสซ่า ม็องดิอ็อง (15 นัด) ต้องรอเช็คความฟิตก่อนลงสนามอีกครั้ง แต่ที่วืดแน่ๆ คือ ฟาบิโอ เอสปินโญ่ (19 นัด / 3 ประตู) เพราะโดนเเบน

      เปป้า กุนซือของ ตอนเดล่า ไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไร จากนัดที่บุกแพ้ ปอร์โต้ 0-1 เมื่อสิบวันก่อน เพราะลูกทีมเล่นกันได้ดีอยู่เเล้ว เชื่อว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง จะนำทีมมาโดย ริคาร์โด้ คอสต้า (18 นัด / 1 ประตู), เอลแดร์ ตาบาเรส (19 นัด / 2 ประตู) รวมไปถึง โตมาเน่ (16 นัด / 5 ประตู)

      ฟิลิเป้ เปโดร ผู้จัดการทีมของ เอสโตริล ต้องปรับทัพอย่างน้อย 1 ตำแหน่งในแบ็คซ้าย เพราะ อับเนอร์ เฟลิเป้ โดนไล่ออกมาจากเกมที่เเพ้ วิตอเรีย กีมาไรส์ 1-3 แต่ในตำแหน่งอื่นๆ น่าจะไม่มีปัญหาอะไร คาดว่า เปโดร จะใช้ระบบ 4-2-3-1 โดยจะมี บรูโน่ โกเมซ (7 นัด) ยืนเป็นหน้าเป้า

      โชเซ่ โมต้า เฮ้ดโค้ชของ อาเวส จะหมดสิทธิ์ใช้งาน โรโดรโก้ เดเฟนดี้ (9 นัด / 1 ประตู) กับ นิลโด้ เปโตรลิน่า (10 นัด) ที่ต้องพักรักษาตัวต่อ ส่วนในรายของ กอนชาโล่ (3 นัด) ออกจากสโมสรไปแล้ว คงไม่มีชื่อลงเล่นอีกต่อไป เชื่อว่า เปาโล มาชาโด้ (15 นัด / 2 ประตู) จะได้ลงปั้นเกมให้กับทีมต่อ

      อาเบล แฟร์ไรร่า เทรนเนอร์ของ สปอร์ติ้ง บราก้า ยังไม่มีชื่อของ ฟรานแซร์จิโอ้ (12 นัด) กับ เซกูเอร่า (5 นัด) ที่เจ็บยาวอยู่ก่อนหน้านี้ ส่วนในรายของ นิโกล่า วุคเซวิช (18 นัด) กองกลางทีมชาติมอนเตเนโกร จะติดโทษห้ามแข่ง แต่สำหรับ เปาลินโญ่ (16 นัด / 6 ประตู) คงได้ลงเป็นตัวจริงเหมือนเดิม

      เคร็ก เลเวน เฮ้ดโค้ชของ ฮาร์ทส์ มีลิสต์ตัวเจ็บ 3 ราย ได้แก่ มาลัวรี่ มาร์แต็ง (1 นัด), แอชลี่ย์ สมิธ-บราวน์ (2 นัด) กับ โรรี่ เคอร์รี่ (1 นัด) ส่วนในรายของ ปริ๊นซ์ บูอาเบน (14 นัด) กองกลางชาวกาน่า ต้องรอเช็คฟิตก่อนอีกครั้ง แต่ที่ไม่ได้ลงเล่นแน่ๆ อีก คือ อีสมาเอล กอนคาลเวส (20 นัด / 6 ประตู) เพราะย้ายไปแล้ว

      เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เทรนเนอร์ของ เซลติก จะไร้เงาของ เคร็ก กอร์ดอน (23 นัด), มาร์วิน คอมพ์เพอร์, ทอม โรกิช (12 นัด / 2 ประตู), สจ๊วร์ต อาร์มสตรอง (20 นัด / 2 ประตู), ไมเคิ่ล จอห์นสตัน (3 นัด) และ ลีจห์ กริฟฟิธส์ (19 นัด / 8 ประตู) นั่นหมายความว่า โดรุส เดอ ฟรี่ส์ (2 นัด) จะได้รับโอกาสลงเฝ้าเสาต่อ

      อเล็กซานเดร กาม่า เทรนเนอร์ของ เชียงรายฯ ต้องรอเช็คความฟิตของ ศิวกรณ์ เตียตระกูล กลางรุกตัวเก่งของทีมก่อนอีกครั้ง เพราะมีอาการเจ็บติดตัวอยู่เล็กน้อย ส่วนขุมกำลังคนอื่นๆ พร้อมลงสนามกันทุกคน ไล่มาตั้งแต่ เคลตัน ซิลวา, กิลแบร์โต มาเชนา, อี ยอง แร และ วิคเตอร์ การ์โดโซ

      วิคเตอร์ เปเรยร่า กุนซือของ เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี ประกาศออกมาเเล้วว่าจะลุยด้วยนักเตะชุดที่ดีที่สุดเพื่อความไม่ประมาท นั่นหมายความว่า บรรดาดาวดังชาวต่างชาติจะได้ลงเล่นกันครบเซ็ต ไม่ว่าจะเป็น ออสการ์ (22 นัด / 3 ประตู), ฮัลค์ (27 นัด / 17 ประตู) รวมไปถึง เอลเคสัน (17 นัด / 11 ประตู)

      ธชตวัน ศรีปาน เฮ้ดโค้ชของ เมืองทองฯ จะได้ใช้งาน ธีรศิลป์ เเดงดา และ ธีราทร บุญมาทัน เป็นนัดสุดท้าย ก่อนที่จะปล่อยตัวให้ยืมตัวไปค้าเเข้งกับทีมอื่น ส่วนในรายของ เซลิโอ ซานโตส ปราการหลังร่างโย่ง ต้องรอเช็คความฟิตกันอีกครั้ง แต่สำหรับ เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดส พร้อมลุยอย่างแน่นอน

      ทาคาฮิโระ ชิโมตาอิระ ผู้จัดการทีมของ คาชิว่า เรย์โซล เตรียมขนขุนพลชุดที่ดีที่สุดลงสนาม เพราะบรรดาดาวดังของทีมฟิตเต็มสูบพร้อมลุยกันทั้งหมด คาดว่าตัวต่างชาติตัวใหม่อย่าง ปาร์ค จอง ซู น่าจะได้รับโอกาสลงเล่นทันที ส่วนกองหน้าตัวเก่งอย่าง คริสเตียโน่ ก็ไม่มีปัญหาในการลงล่าตาข่าย

      มาร์ติน ชมิดท์ เฮ้ดโค้ชของ โวล์ฟสบวร์ก มีรายชื่อลูกทีมเดี้ยงในมือ 4 ราย ได้แก่ จอห์น บรู้คส์ (7 นัด), อิ๊กนาซิโอ กามาโช่ (9 นัด), ยาคุบ บลาสซีคอฟสกี้ (7 นัด / 1 ประตู) และ เคย์เลน ฮินด์ (1 นัด) ส่วนในรายของ โจฌัว กีลาโว้ก (18 นัด / 2 ประตู) กับ นานี่ ดิมาต้า (11 นัด) จะติดโทษแบน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โวล์ฟสบวร์ก (4-3-3) : โกเยนส์ กัสตีลส์ - พอล เวอร์ฮาจ, บรูม่า, โรบิน น็อคเก้, มาร์เซล ทิสเซอรันด์ - มักซิมิเลี่ยน อาร์โนลด์, ยูนุส มัลลี่, ยานนิค แกร์ฮาร์ดท์ - เรนาโต้ สเตฟเฟ่น, ดิว๊อค โอริกี, โจซิป เบรคาโล่

      อันเดร ไบรเท่นไรเตอร์ เทรนเนอร์ของ ฮันโนเวอร์ ยังคงไร้เงาของ โจนาธาส (7 นัด / 3 ประตู) กับ เอ็ดการ์ พริบ ที่ยังเจ็บอยู่เหมือนเก่า ส่วนในรายของ จูเลี่ยน คอร์บ (18 นัด / 1 ประตู) แนวรับตัวสำคัญจะติดโทษแบน เชื่อว่า ไบรเท่นไรเตอร์ จะแก้ปัญหาด้วยการส่ง โจซิป อีเลซ ลงเล่นแทน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮันโนเวอร์ (3-4-2-1) : ฟิลิปป์ ชอเนอร์ - โจซิป อีเลซ, ซาลิฟ ซาเน่, แอนตัน - โอลิเวอร์ ซอร์ก, เพอร์มิน ชเว็กเลอร์, อิเวอร์ ฟอสซัม, มัทธีอัส ออสเตอร์โซเลค - เฟลิกซ์ เคล๊าส์, อิห์ลัส เบบู - นิคลาส ฟัลครู้ก

      ซานโดร ชวาร์ซ ผู้จัดการทีมของ ไมนซ์ เหลือเพียงแค่ เรเน่ อ๊าดเลอร์ (9 นัด) กับ คาริม โอนิซิโว่ (2 นัด) ที่ยังต้องใช้บริการโรงหมออยู่ ส่วนข่าวดีที่มีเข้ามาก็คือ สเตฟาน เบล (16 นัด / 1 ประตู) ปราการหลังคนเก่ง กลับมาช่วยเกมรับได้เเล้ว นั่นทำให้ ฌอง กีบาแมง (15 นัด) จะขยับไปเป็นมิดฟิลด์ตามเดิม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไมนซ์ (3-5-2) : โรบิน เซนต์เนอร์ - อับดู ดิยัลโล่, สเตฟาน เบล, อเล็กซานเดอร์ ฮัค - ดาเนี่ยล โบรซินสกี้, ฌอง กีบาแมง, ไนเจล เดอ ยอง, แดนนี่ ลัตซ่า, เกอร์ริต โฮลท์มันน์ - โยชิโนริ มุโตะ, โรบิน ไคสัน

      ไฮโค แฮร์ลิช นายใหญ่ของ เลเวอร์คูเซ่น เตรียมขน 11 ตัวจริงจากนัดที่บุกชนะ ฮอฟเฟ่นไฮม์ 4-1ลงสนามเล่นกันแบบต่อเนื่อง เพราะลูกทีมทุกคนทำผลงานกันได้อย่างยอดเยี่ยมอยู่เเล้ว คาดว่าคู่ขาในแนวรุกจะเป็น เควิน โฟลลันด์ (12 นัด / 10 ประตู) ลงจับคู่กับ ลูกัส เอลาริโอ (11 นัด / 5 ประตู) คอยกระซวกไส้คู่เเข่ง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เลเวอร์คูเซ่น (4-3-1-2) : แบร์นด์ เลโน่ - ลาร์ส เบนเดอร์, โจนาธาน ตาห์, สเวน เบนเดอร์, เวนเดล - ชาร์ลส์ อรานกุซ, จูเลี่ยน บอย์มการ์ตลิงเกอร์, เลออน ไบยี่ - จูเลี่ยน บรันด์ - เควิน โฟลลันด์, ลูกัส เอลาริโอ

      ทอร์สเท่น ลีเบิร์คเน็ชท์ เฮ้ดโค้ชของ บราวน์ชไวก์ จะไม่มีชื่อของ โยเซฟ บัฟโฟ่ (11 นัด / 3 ประตู), เมียร์โก โบลันด์ (8 นัด / 2 ประตู) ออซคาน ยิลดิริม (10 นัด / 1 ประตู) และ จูเลียส ไบอาด้า (7 นัด) ที่มีอาการเจ็บรบกวน ส่วนในรายของ เฮนดริค ซุค (12 นัด / 1 ประตู) จะติดโทษห้ามแข่งในนัดนี้พอดี

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
บราวน์ชไวก์ (3-4-3) : ยัสมิน เฟย์ซิช - สเตฟเฟน เอ็นคานซาห์, กุสตัฟ วัลสวิค, สตีฟ เบรทคร๊อยซ์ - จอร์จ ไตเกิ้ล, พาทริค ชอนเฟลด์, ยาน ฮอชไชด์, เคน ไรเชิ่ล - คริสตอฟเฟอร์ นีมัน, ซูเลมาน อับดุลลาไฮ, ซาลิม เคห์ลิฟี่

      ฮานเนส ดรูว์ส เทรนเนอร์ของ เออร์ซเกเบียร์เก้ เอา ยังไร้เงาของ นิคกี้ อาร์ดเลอร์ กองกลางจอมเก๋าของทีม ที่ยังสลัดคราบเดี้ยงกลับมาไม่ได้ แต่ขุมกำลังที่เหลือฟิตเต็มสูบกันทั้งหมด คาดว่า ดรูว์ส น่าจะใช้ 11 ตัวจริงชุดปัจจุบันต่อ โดยจะมี ปาสกาล ค็อปเค่ (19 นัด / 3 ประตู) เป็นตัวความหวังในแดนหน้า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เออร์ซเกเบียร์เก้ เอา (5-2-3) : มาร์ติน มานเนิ่ล - จอห์น สเตร๊าส์, ฟาเบียน คาลิก, นิโคไล รัปป์, มัลคอล์ม คาคูตาลูอา, เซบาสเตียน เฮิร์ทเนอร์ - คริสเตียน ทิฟเฟิร์ต, เคลเมนส์ ฟานดริช - เซบิโอ ซูคู, ดิมิทรี่ย์ นาซารอฟ, ปาสกาล ค็อปเค่

      ลูชาโน่ สปัลเลตติ กุนซือของ อินเตอร์ จะมีเพียงแค่ ซินโญ่ ฟานฮุสเด้น แนวรับวัย 18 ปีคนเดียวเท่านั้น ที่เป็นเเข้งเดี้ยงค้างสต็อกอยู่ เชื่อว่า สปัลเลตติ เตรียมขน "อาวุธหนัก" ลงสนามแบบครบครัน ไม่ว่าจะเป็น อันโตนิโอ คานเดรว่า (21 นัด), อีวาน เพริซิช (21 นัด / 7 ประตู) และ เมาโร อิคาร์ดี้ (21 นัด / 18 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
อินเตอร์ (4-2-3-1) : ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช - เจา กานเชโล่, มิลาน สคริเนียร์, เจา มิรานด้า, ดานิโล่ ดัมโบรซิโอ - มาติอัส เวซิโน่, บอร์ฆา บาเลโร่ - อันโตนิโอ คานเดรว่า, มาร์เชโล่ โบรโซวิช, อีวาน เพริซิช - เมาโร อิคาร์ดี้

      เลโอนาร์โด้ เซมปลิซี่ เฮ้ดโค้ชของ สปัล ยังมีนักเตะเจ็บเซ็ตเดิม คือ บาร์ตอซ ซาลามอน (16 นัด), ปา โกนาเต้ และ มาร์โก บอร์ริเอลโล่ (15 นัด / 1 ประตู) นั่นหมายความว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในเกมนี้ ไม่น่าจะต่างไปจากเดิมมากนัก โดยจะมี เมียร์โก้ อันเตนุชชี่ (16 นัด / 6 ประตู) ลงผลิตสกอร์เหมือนเดิม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
สปัล (3-5-2) : อัลเฟร็ด โกมิส - ธิอาโก้ ซิโอเนค, ฟรานเชสโก้ วิคารี่, เฟลิเป้ - มานูเอล ลาซซารี่, จัสมิน เคอร์ติช, เฟเดริโก้ วิเวียนี่, อัลแบร์โต้ กรัสซี่, เฟเดริโก้ มันเตียเอลโล่ - แซร์โจ้ ฟล็อคคารี่, เมียร์โก้ อันเตนุชชี่

      อูเว่ นอยฮุส เฮ้ดโค้ชของ ไดนาโม เดรสเดน ยังไร้เงาของนักเตะเจ็บชุดเดิม ไล่มาตั้งแต่ มาร์วิน ชว้าบ (18 นัด), โซเรน กอนเธอร์ (4 นัด), มาร์โก ฮาร์ทมันน์ (13 นัด / 2 ประตู) และ ปาสกาล เทสโทร้ต (1 นัด) เชื่อว่านัดนี้ นอยฮุส จะปรับหมากมาใช้ระบบ 4-1-4-1 เพื่อเน้นแดนกลางให้รัดกุม 

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไดนาโม เดรสเดน (4-1-4-1) : มาร์คุส ชูเบิร์ต - ปอล เซกุน, มาร์เซล ฟรานเค่, ฟลอเรียน บัลลัส, ฟิลิป ไฮส์ - มานูเอล คอนราด - ซาสช่า ฮอร์วาธ, อันเดรียส แลมเบิร์ตซ์, ริโก้ เบนาเตลลี่, ฮาริส ดุลเยวิช - เปเนียล เอ็มลาป้า

      เคนาน โคซัค กุนซือของ ซานด์เฮาเซ่น จะหมดสิทธิ์ใช้งาน เคน กิปสัน (3 นัด), ดาเนี่ยล โรสบัค (1 นัด), สเตฟาน คูโลวิตส์ (5 นัด) และ แอนดรูว์ วูเท่น (1 นัด / 1 ประตู) ที่โดนไข้เดี้ยงเล่นงาน ส่วนในรายของ ทิม คิสเตอร์ (15 นัด) กลับมาช่วยทีมได้อีกครั้ง หลังจากที่ชดใช้โทษห้ามแข่งเสร็จเเล้ว

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ซานด์เฮาเซ่น (4-2-3-1) : มาร์เซล ชูเฮน - ฟิลิปป์ คลิ้งมันน์, ทิม คิปปิ้ง, ทิม คิสเตอร์, เลยาร์ต ปาการาด้า - เดนิส ลินส์เมเยอร์, ฟิลิปป์ ฟอร์สเตอร์ - เนย์เมดดิน ดั๊กห์ฟุส, เอโรลล์ เซจ์นูลลาฮู, จูเลี่ยน เดอร์สตรอฟฟ์ - โฆเซ่ วุนกุยดิก้า

      เดิร์ค ชุสเตอร์ ผู้จัดการทีมของ ดาร์มสตัดท์ ไม่มีเรื่องใดให้ต้องกังวลในการจัดทัพ เพราะสภาพความพร้อมของลูกทีมทุกคนสมบูรณ์แบบ 100% เชื่อว่าเกมนี้ ชุสเตอร์ จะน่าจะเลือกวางหมากมาในระบบ 4-2-2-2 โดยจะส่ง ยาน โรเซนธาล (6 นัด) กับ เฟลิกซ์ แพล็ตเต้ (10 นัด / 2 ประตู) ยืนล่าตาข่ายคู่กันในแดนหน้า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ดาร์มสตัดท์ (4-2-2-2) : ดาเนี่ยล ฮอยเออร์ - เควิน กรอสส์คร๊อยท์, โรแม็ง เบรเกรี่, อายทัก ซูลู, ฟาเบียน ฮอลลันด์ - ปีเตอร์ ไนเมเยอร์, สโลโบดาน เมโดเยวิช - โทเบียส เคมเป้, โจวิน โจนส์ - ยาน โรเซนธาล, เฟลิกซ์ แพล็ตเต้

      มาร์คุส เคาซินสกี้ นายใหญ่ของ ซังต์ เพาลี มีรายงานเรื่องนักเตะเจ็บเข้ามา 6 ราย ได้แก่ มาร์ค ฮอร์นชูห์ (6 นัด), ฟิลิปป์ ซีไรส์, คริสโตเฟอร์ บุชท์มันน์ (12 นัด / 4 ประตู), เรียว มิยาอิชิ, โมลเลอร์ แดห์ลี่ (12 นัด) และ ธิบัวด์ แฟร์แล็งด็อง คาดว่า เคาซินสกี้ คงจะยึด 11 ตัวจริงมาจากเกมที่บุกชนะ ไดนาโม เดรสเดน 3-1

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ซังต์ เพาลี (4-2-2-2) : โรบิน ฮิมเมิ่ลมันน์ - ลูก้า ซานเดอร์, ลาส โซบีช, คริสโตเฟอร์ อาวีเวอร์, ดาเนี่ยล บูบัลล่า - แบรนด์ เนห์ริก, โจฮันเนส ฟลุม - เชงค์ ซาฮิน, วัลเดมาร์ โซโบต้า - ซามี่ อัลลากุย, อาซิซ บูฮัดดูซ

      พาล ดาร์ได นายใหญ่ของ แฮร์ธ่าฯ จะไร้เงาของ รูเน่ ยาร์สไตน์ (18 นัด) และ คาริม เรกิ๊ก (16 นัด / 2 ประตู) สองตัวสำคัญของทีม เนื่องจากโดนอาการเจ็บเล่นงาน นั่นทำให้ ดาร์ได ต้องปรับด้วยการส่ง โธมัส คราฟท์ (1 นัด) ลงเฝ้าเสา และถอย ฟาเบียน ลุสเตนแบร์เกอร์ (11 นัด) มาเป็นกองหลังชั่วคราว

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แฮร์ธ่าฯ (4-2-3-1) : โธมัส คราฟต์ - มิตเชล ไวเซอร์, นิคลาส สตาร์ค, ฟาเบียน ลุสเตนแบร์เกอร์, มาร์วิน แพล็ตเท่นฮาร์ด - เพอร์ สเคลเบร็ด, อาร์เน่ เมเยอร์ - วาเลนติโน่ ลาซาโร่, อองเดร ดูด้า, ซาโลมง กาลู - ดาวี เซลเก้

      ฟลอเรียน โคห์เฟลด์ กุนซือของ เบรเมน ยังไม่มีชื่อของ ฟิน บาร์เทิ่ลส์ (14 นัด / 2 ประตู) กองหน้าประจำทีมที่ยังเดี้ยงไม่หาย ส่วนในรายของ เจอโรม กอนดอร์ฟ (10 นัด / 1 ประตู) ต้องรอเช็คความฟิตก่อนอีกครั้ง แต่เชื่อว่าน่าจะไหว คาดว่า โคห์เฟลด์ น่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรในแผง 11 ตัวจริง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เบรเมน (4-3-2-1) : ยีรี พาฟเลนก้า - เกเบร เซลาสซี่, มิลอส เวลโกวิช, นิโคลัส มอยซานเดอร์, ลุดวิก ออกุสตินส์สัน - มักซิมิเลี่ยน เอ็กเก้สไตน์, ฟิลิปป์ บาร์กเฟรเด้, โธมัส เดอลานี่ย์ - ซลัตโก้ ยูนูโซวิช, เจอโรม กอนดอร์ฟ - มักซ์ ครูเซ่

      โดเมนิโก้ เทเดสโก้ เฮ้ดโค้ชของ ชาลเก้ จะไม่มีชื่อของ ปาโบล อินซัว, ดาเนี่ยล คาลิกูรี่ (18 นัด / 3 ประตู) และ เวสตัน แม็คเคนนี่ (14 นัด) ที่ยังควงเเขนกันเดี้ยงอยู่ คาดว่า เทเดสโก้ จะจัดเต็มทั้ง เลออน โกเร็ตส์ก้า (12 นัด / 4 ประตู) และ กีโด บวร์กสตัลเลอร์ (18 นัด / 7 ประตู) เพื่อช่วยกันผลิตสกอร์ให้กับทีม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ชาลเก้ (3-4-2-1) : ราล์ฟ ฟาห์รมันน์ - ธิโล่ เคห์เรอร์, นัลโด้, มาติย่า นาสตาซิช - อเลสซานโดร ช็อป, มักซ์ เมเยอร์, นาบิล เบนตาเลบ, บาสเตียน อ๊อกซิปก้า - เลออน โกเร็ตส์ก้า, อามีน ฮาริต - กีโด บวร์กสตัลเลอร์

      ฮันเนส โวล์ฟ นายใหญ่ของ สตุ๊ตการ์ต มีรายชื่อลูกทีมเจ็บในมือ 4 คน คือ โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์ (14 นัด / 2 ประตู), โอแรล ม็องกาล่า (10 นัด), มัทธิอัส ซิมเมอร์มันน์ (2 นัด) และ การ์ลอส มาเน่ นั่นทำให้ โวล์ฟ ต้องปรับเเนวรับด้วยการเรียกตัว มาร์ซิน กามินสกี้ (12 นัด) มารับสัมปทานแทน บาดสตูเบอร์

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
สตุ๊ตการ์ต (3-5-2) : รอน โรเบิร์ต ซีเลอร์ - เบนจามิน ปาวาร์, ติโม บอย์มการ์ตเทิ่ล, มาร์ซิน กามินสกี้ - อันเดรียส เบ็ค, ซานติอาโก้ อัสกากิบาร์, คริสเตียน เกนท์เนอร์, เบอร์คาย ออซคาน, เอมิเลียโน่ อินซัว - มาริโอ โกเมซ, ดาเนี่ยล กินเซค

      มานูเอล บอย์ม เฮ้ดโค้ชของ เอ๊าก์สบวร์ก จะขาดหายไปเพียงแค่ มอริตซ์ ไลท์เนอร์ คนเดียวเท่านั้นที่้เดี้ยงยาวค้างสต็อกอยู่ นั่นหมายความว่า บอย์ม สามารถเลือกจัดชุดที่ดีที่สุดได้เลย โดยจะวางหมากมาในระบบ 4-3-2-1 และปล่อยให้ อัลเฟร็ด ฟินน์โบกาสัน (17 นัด / 11 ประตู) ยืนค้ำเป็นกองหน้าตัวเป้า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เอ๊าก์สบวร์ก (4-3-2-1) : มาร์วิน ฮิตซ์ - ดาเนี่ยล โอปาเร่, มาร์ติน ฮินเตเร็กเกอร์, เจฟฟรี่ กูเวลูว์, ฟิลิปป์ มักซ์ - ดาเนี่ยล เบเยอร์, รานี่ เคดิร่า, คู จา ชอล - มิเชล เกรกอริช, คูบี้ - อัลเฟร็ด ฟินน์โบกาสัน

      สเตฟาน รูเธนเบค เทรนเนอร์ของ โคโลญจน์ จะไร้เงาของ เลออน บิตเท่นคอร์ต (12 นัด) กับ มาร์เซล ริสเซ่ (4 นัด) สองกองกลางที่มีอาการเจ็บรบกวน แต่ขุมกำลังที่เหลือพร้อมลุยกันทั้งหมด คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง ไม่น่าจะต่างจากเกมที่ผ่านๆ มามากนัก เพราะลูกทีมเล่นกันได้ดีอยู่เเล้ว

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โคโลญจน์ (4-5-1) : ติโม ฮอร์น - เฟรเดริค โซเรนเซ่น, ฆอร์เก้ เมเร่, โดมินิค ไฮนซ์, โยนาส เอคเตอร์ - คริสเตียน เกลเมนส์, มาร์โก โฮเกอร์, แว็งซ็องต์ โกซิเอลโล่, ซาลีห์ ออซคาน, มิลอส โยยิช - ไซม่อน เทร็อด

      แบร์นด์ โฮลแลร์ เทรนเนอร์คนใหม่ของ ฮัมบูร์ก จะหมดสิทธิ์ใช้งาน อัลบิน เอคดัล (11 นัด) และ นิโคไล มุลเลอร์ (1 นัด / 1 ประตู) ที่ต้องใช้บริการของโรงพยาบาลต่อ ส่วนในรายของ ยาน อาร์ป (9 นัด / 2 ประตู) ที่เพิ่งหายไข้ น่าจะออกสตาร์ทเป็นแค่ตัวสำรอง โดยจะมี บ๊อบบี้ วู้ด (14 นัด / 1 ประตู) ลงเป็นหน้าเป้าแทน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮัมบูร์ก (4-2-3-1) : โพลแลร์เบค - เดนนิส เดี๊ยคเมเยอร์, คิเรียกอส ปาปาโดปูลอส, แมร์กิม มาฟราย, ริค ฟาน ดรองเกเล่น - ลูอิส โฮลท์บี้, วาเลซ - อันเดร ฮาห์น, อารอน ฮันท์, ฟิลิป คอสติช - บ๊อบบี้ วู้ด

      ราล์ฟ ฮาเซ่นฮุตเทิ่ล ผู้จัดการทีมของ ไลป์ซิก ยังไร้เงาของ มาร์เซล ฮัลส์เท่นแบร์ก (15 นัด / 2 ประตู) กับ เอมิล ฟอร์สเบิร์ก (12 นัด / 1 ประตู) สองกำลังสำคัญของทีมที่ยังเจ็บอยู่เหมือนเก่า ส่วนในรายของ นาบี เกอิต้า (14 นัด / 3 ประตู) จะได้รับโอกาสลงสนามทันที หลังชดใช้โทษห้ามแข่งเเล้วเรียบร้อย

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไลป์ซิก (4-2-2-2) : ปีเตอร์ กาลัคซี่ - ลูคัส โคลสเตอร์มันน์, วิลลี่ ออร์แบน, อูปาเมกาโน่, แบร์นาร์โด้ - ดีเอโก้ เดมม์, นาบี เกอิต้า - มาร์เซล ซาบิตเซอร์, ฌอง ออกุสแต็ง - ยุสซุฟ โพลเซ่น, ติโม แวร์เนอร์

      คริสเตียน สไตรช์ นายใหญ่ของ ไฟร์บวร์ก มีลิสต์นักเตะเดี้ยงมากพอกันเลย ไล่มาตั้งแต่ อเล็กซานเดอร์ ชโวลอฟ (19 นัด), ฟิลิปป์ ไลน์ฮาร์ท (10 นัด), นิโคลัส ฮอฟเลอร์ (16 นัด), ไมค์ ฟร๊านซ์ (11 นัด), ยอริก ราเว่ต์ (8 นัด) และ ฟลอเรียน นีแดร์เลชเนอร์ (10 นัด / 2 ประตู) ดังนั้น 11 ตัวจริงก็น่าจะยังเป็นชุดเดิม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไฟร์บวร์ก (3-4-2-1) : ราฟาล กีคีวิซ - คักลาร์ โซยุนกู, มานูเอล กัลด์, มาร์ก เคมพ์ - ปาสกาล สเตนเซิ่ล, โรบิน ค็อก, อาเมียร์ อับราชี่, คริสเตียน กุนเตอร์ - ยานิค ฮาเบเรอร์, ลูคัส โฮเลอร์ - นีล พีเตอร์เซ่น

      ปีเตอร์ สโตเกอร์ กุนซือของ ดอร์ทมุนด์ มีรายงานเรื่องลูกทีมเจ็บเข้ามา 6 ราย ได้แก่ ราฟาเอล เกร์เรโร่ (7 นัด / 1 ประตู), มาร์เซล ชเมลเซอร์ (9 นัด), มาร์โก ร๊อยส์, เซบาสเตียน โร้ด, ยาค็อบ ลาร์เซ่น (1 นัด) และ มาซิมิเลี่ยน ฟิลิปป์ (11 นัด / 6 ประตู) นั่นทำให้ สโตเกอร์ คงปรับแต่งทีมได้ไม่มากสักเท่าไหร่

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ดอร์ทมุนด์ (4-3-3) : โรมัน บูร์กี - ลูคัส พิสเซค, โซเครติส, โอเมอร์ โทพรัค, เยเรมี โตลยาน - ชินจิ คากาวะ, จูเลี่ยน ไวเกิ้ล, มาริโอ เกิทเซ่ - คริสเตียน พูลิซิช, อันเดร ยาร์โมเลนโก้, จาดอน ซานโช่

      จูเลี่ยน นาเกิ้ลมันน์ ผู้จัดการทีมของ ฮอฟเฟ่นไฮม์ จะไม่มีชื่อของ เควิน อัคโปกูม่า (8 นัด) กับ เคเรม เดเมียร์เบย์ (14 นัด / 2 ประตู) เพราะยังเจ็บไม่หาย ส่วนในรายของ นาเดียม อามิรี่ (14 นัด / 2 ประตู) ห้องเครื่องตัวสำคัญ สลัดคราบเดี้ยงกลับมาช่วยทีมได้แล้ว และน่าจะลงเป็น 11 ตัวจริงในเกมนี้ทันที

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮอฟเฟ่นไฮม์ (3-4-2-1) : โอลิเวอร์ เบามันน์ - สเตฟาน พอช, เควิน โฟ้กท์, เบนจามิน ฮุบเนอร์ - พาเวล คาเดราเบค, ลูคัส รัปป์, เดนนิส ไกเกอร์, สตีเว่น ซูเบอร์ - แซร์ก จีนาบรี, นาเดียม อามิรี่ - มาร์ก อูธ

      จุ๊ป ไฮย์เกส เฮ้ดโค้ชของ บาเยิร์น จะเหลือแค่ มานูเอล นอยเออร์ (3 นัด) และ ธิอาโก้ อัลกานตาร่า (9 นัด / 1 ประตู) เท่านั้น ที่เป็นแข้งเดี้ยงค้างสต็อกอยู่ ส่วนในรายของ มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ (15 นัด / 1 ประตู) ต้องรอเช็คความฟิตกันอีกครั้ง แต่ที่ลงได้แน่ๆ คือ ดาวิด อลาบา (13 นัด / 1 ประตู) แบ็คซ้ายประจำทีม

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
บาเยิร์น (4-2-3-1) : สเวน อูลไรช์ - โจฌัว กิมมิค, เจอโรม บัวเต็ง, นิคลาส ซูเล่, ดาวิด อลาบา - ฆาบี มาร์ติเนซ, อาร์ตูโร่ วิดัล - โธมัส มุลเลอร์, ฮาเมส โรดริเกวซ, อาร์เยน ร๊อบเบน - โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

      ปีเตอร์ ไซด์เลอร์ นายใหญ่ของ โซโชซ์ จะขาดหายไปแค่ เฟเนว่า อันเดรียทซิม่า (12 นัด / 2 ประตู) แนวรุกตัวเก๋าที่ยังต้องพักรักษาตัวต่อ ส่วนขุมกำลังที่เหลือพร้อมลุยกันอยู่แล้ว คาดว่า ฟลอแร็ง เบร็องกูเอร์ (13 นัด / 2 ประตู) กับ ฟลอริย็อง ทาร์ดิเยอ (20 นัด / 1 ประตู) จะเดินนำเพื่อนร่วมทีมลงสู่สนาม

      ฌอง วาสเซอูร์ เทรนเนอร์ของ ชาโตรูซ์ ยังมีปัญหาเรื่องลูกทีมเดี้ยงอยู่ 5 รายเท่าเดิม คือ มูเอซ ฮาสซ็อง (17 นัด), หลุยส์ ซูโชด์, เซริกเน่ เนียง (8 นัด), เมห์ดี้ แมร์เชมห์ (15 นัด) และ ซิดี้ ซาร์ (18 นัด / 6 ประตู) นั่นทำให้ วาสเซอูร์ ต้องฝากความหวังในการพังประตูไว้ที่ อูมาเร่ ตวนการ่า (18 นัด / 2 ประตู)