วิเคราะห์บอล / วิเคราะห์บอลวันนี้

      อันเต้ มิลิซิช เทรนเนอร์ของ ออสเตรเลีย ยู-23 เตรียมจัดหนักจัดเต็มด้วยชุดที่ดีที่สุด เพราะไม่มีรายงานความเสียหายใดๆ เรื่องนักเตะเข้ามาเลยสักราย คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง คงไม่เหมือนนัดที่เเพ้ เวียดนาม ยู-23 0-1 โดยจะมี จอร์จ แบล็ควู้ด ยืนเป็นศูนย์หน้าตัวจริง

      คิม บง กิล เฮ้ดโค้ชของ เกาหลีใต้ ยู-23 จะหมดสิทธิ์ใช้งาน คิม มุน ฮวาง ปีกขวาตัวเก่งของทีม เพราะจะติดโทษแบน เนื่องจากโดนไล่ออกมาจากเกมที่เสมอ ซีเรีย ยู-23 0-0 นั่นคงเป็นแค่จุดเดียวที่ บง กิล ต้องแก้ไข แต่ในตำแหน่งอื่นๆ ที่เหลือ น่าจะยึดชุดเก่าที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบันได้ต่อไป

      เรชินัลด์ เรย์ กุนซือของ วาล็องเซียนน์ ปวดหัวไม่น้อยในการจัดทัพ เพราะมีลิสต์ลูกทีมเดี้ยงในมือถึง 5 ราย ได้แก่ ซิคู เนียคาเต้ (13 นัด), ซาลิอู กิสส์ (1 นัด), เชริฟ เกนัม (1 นัด), อาห์เหม็ด คานตารี่ และ ซิชามารี่ ดิอาร์ร่า (13 นัด) แถมยังต้องมาเสีย ลอสเซมี่ คาราบูเอ้ (12 นัด / 1 ประตู) ไปกับโทษแบนอีก

      ปาสกาล กัสติย็อง ผู้จัดการทีมของ แกลร์มงต์ ฟุต เหลือตัวเจ็บเพียงแค่กองกลาง 2 คน คือ โตมาส กูร์แบร์ และ อ็องโตนี่ กิเว่ต์ (1 นัด) เท่านั้น ทำให้ทางเลือกในการจัดตัวของ กัสติย็อง มีค่อนข้างหลากหลาย และข่าวดีที่มีเข้ามาคือ ลูโดวิช อาฌอร์เก้ (19 นัด / 7 ประตู) ฟิตเต็มสูบ พร้อมลงผลิตสกอร์

      มิคคาเอล ล็องดรู นายใหญ่ของ ลอริย็องต์ จะไร้เงาของ เฟลิเป้ ซาอัด (7 นัด), มัตเตโอ กูเอนดูซี่ (10 นัด) และ โมอาเหม็ด มาร่า (6 นัด / 2 ประตู) เพราะโดนอาการเจ็บเล่นงาน นั่นทำให้ ล็องดรู ต้องปรับทัพกันอีกครั้ง เชื่อว่า ตัวฟอร์มฮ็อตอย่าง ปิแอร์ อาเมล (12 นัด / 4 ประตู) จะได้ลงเดินเกมรุก

      ฌอง วาสเซอูร์ เทรนเนอร์ของ ชาโตรูซ์ มีรายงานเรื่องลูกทีมเดี้ยงเข้ามา 5 ราย ได้แก่ มูเอซ ฮาสซ็อง (17 นัด), หลุยส์ ซูโชด์, เซริกเน่ เนียง (8 นัด), เมห์ดี้ แมร์เชมห์ (15 นัด) และ มาซิเม่ บาร์เธลเม่ (14 นัด / 3 ประตู) แต่ในรายของ อูมาเร่ ตวนการ่า (16 นัด / 2 ประตู) พร้อมลุยเพื่อทีมแน่นอน

      มานูเอล ดา กอสต้า เฮ้ดโค้ชของ เกวิลลี่ ไม่ต้องคิดอะไรให้มากมายซับซ้อน เเค่ก็อปปี้ 11 ขุนพลจากเกมที่บุกชนะ โซโชซ์ 1-0 ในเกมลีกนัดล่าสุด มาใช้บริการต่อก็พอ เนื่องจากลูกทีมทำผลงานกันได้เข้าตาอยู่เเล้ว โดยจะมี มาร์แว็ง ชัคปา (18 นัด / 6 ประตู) ผู้ซัดประตูชัย ลงเล่นทางริมเส้นฝั่งซ้าย

      เอร์เว่ เดญ่า มักชิโอเร่ กุนซือของ บูร์ก แปร็องนาส์ ไม่มีปัญหาใดในการจัดทัพ เนื่องจากไม่มีรายงานนักเตะบาดเจ็บหรือติดโทษห้ามแข่งเข้ามาเลยสักคน แต่เชื่อว่า เดญ่า มักชิโอเร่ น่าจะมีการปรับ 11 ตัวจริงในบางตำแหน่งแน่ แต่สำหรับ อดาม่า ซาร์ (17 นัด / 3 ประตู) น่าจะได้โอกาสล่าตาข่ายต่อ

      เดนิส เรโนด์ เทรนเนอร์ของ นิออร์ ไม่มีรายงานความเสียหายในเรื่องสภาพทีมเช่นกัน สามารถจัดชุดที่ดีที่สุดลงสู้ศึกได้แน่ เชื่อว่า เรโนด์ จะวางหมากมาในระบบ 4-3-3 และจะส่ง อันเด โดนา เอ็นโดห์ (20 นัด / 6 ประตู), ธิโบต์ วิยง (10 นัด) และ ดิดิเย่ร์ ลามเคล เซ (20 นัด / 6 ประตู) ยืนเป็น "สามประสาน"

      ปาโบล กอร์เรอา กุนซือของ โอแซร์ สบายใจก่อนเกมได้เลย เพราะลูกทีมทุกคนฟิตกันเต็มสูบ พร้อมรับใช้ต้นสังกัดกันได้ทั้งหมด คาดว่า กอร์เรอา น่าจะยังมั่นใจใน 11 ตัวจริงจากเกมที่เปิดบ้านเสมอ เลอ อาฟร์ 1-1 เมื่อสามวันก่อน โดยจะมี โมฮาเหม็ด ยัตตาร่า (10 นัด / 5 ประตู) ยืนค้ำเป็นศูนย์หน้าตัวเป้า

      ดิดิเย่ร์ โอลเล-นิโกลล์ เทรนเนอร์ของ ออร์เลอองส์ จะไร้เงาของ โกติเยร์ ปิโนด์ (16 นัด) และ มาติเยอ เชมิน (7 นัด) สองกองหลังตัวเก๋าที่ยังควงเเขนกันเดี้ยงอยู่ แต่กำลังรบที่เหลือพร้อมลุยอยู่นานเเล้ว เชื่อว่า โอลเล-นิโกลล์ จะวาง อาร์เธอร์ โกมิส (16 นัด / 3 ประตู) ลงผลิตสกอร์ให้กับทีม

      โอลิวิเย่ร์ ป็องตาโลนี่ นายใหญ่ของ อฌักซิโอ้ เตรียมขน 11 ขุนพลชุดเดิมลงบู๊ต่อ เพราะไม่มีรายงานเรื่องนักเตะบาดเจ็บเข้ามาแต่อย่างใด แถมลูกทีมทุกคนก็กำลังทำผลงานกันได้ยอดเยี่ยมอยู่เเล้ว คาดว่าเกมนี้จะมี รย๊าด นูรี่ (18 นัด / 8 ประตู) ลงเดินเครื่องทางกราบขวาเหมือนเก่า 

      อายแมน ซานดูคา เฮ้ดโค้ชของ ปาเลสไตน์ ยู-23 ไม่มีปัญหาใดในการจัดทัพ เพราะสภาพความพร้อมของลูกทีมทุกคนสมบูรณ์ 100% นั่นหมายความว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในนัดนี้ ไม่น่าจะต่างไปจากชุดที่ใช้งานใน 2 เกมแรก นำทีมมาโดย โอเดย์ ดับบาค, มามุด ยูเซฟ รวมไปถึง เชฮับ คุมบอร์

      โซรัน ยานโควิช เทรนเนอร์ของ ไทย ยู-23 ต้องรอเช็คความฟิตของ วันชัย จารุนงคราญ แบ็คซ้ายประจำทีม ว่าพร้อมลงเล่นหรือไม่ หลังจากที่ได้รับบาดเจ็บมาจากเกมที่แพ้ ญี่ปุ่น ยู-23 ส่วนกำลังรบที่เหลือพร้อมลุยกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น นนท์ ม่วงงาม, จักรกฤษณ์ เวชภิรมย์ และ สุภโชค สารชาติ

      มิเกล คาร์โดโซ่ กุนซือของ ริโอ อาฟ มีลิสต์ลูกทีมเจ็บในมืออยู่ 4 ราย ได้แก่ น้าดยัค, คาสซิโอ (15 นัด), ซิลแวริโอ้ และ ยาซัลเด้ (2 นัด) นั่นทำให้ คาร์โดโซ่ ต้องปรับ 11 ตัวจริงเล็กน้อย แต่ตัวสำคัญอย่าง เชา โนวาอิส (12 นัด / 7 ประตู) กับ กูเอเดส (15 นัด / 5 ประตู) พร้อมลงผลิตสกอร์ได้แน่

      โดมิงกอส ปาซิเอนเซีย เทรนเนอร์ของ เบเลเนนเซส จะไม่มีชื่อของ แมร์แล็ง ตานด์ยิโกร่า (8 นัด / 1 ประตู), เชา ดิโอโก้ และ มูเรียล (15 นัด) ที่ยังเป็นเเข้งเดี้ยงค้างสต็อกอยู่ ทำให้ ฟิลิเป้ เมนเดส (3 นัด) ต้องรับหน้าที่ป้องกันประตูต่อ ส่วนในแดนหน้าความหวังอยู่ที่ ดิโอโก้ เวียน่า (15 นัด)

      วิตอร์ โอลิเวียร่า เฮ้ดโค้ชของ ปอร์ติโมเนนเซ่ ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน ช๊าดสัน, ริคาร์โด้ เปสซัว (8 นัด), ชิเดร่า เอเซห์ (2 นัด) และ เปโดร ซา (14 นัด / 1 ประตู) ที่ควงเเขนกันเดี้ยงอยู่ทั้งหมด ส่วนในรายของ บรูโน่ ตาบาต้า (8 นัด / 1 ประตู) จะติดโทษห้ามแข่ง เพราะโดนไล่ออกมาจากเกมนัดก่อน

      ชอร์เก้ ซิเมา กุนซือของ เบาวิสต้า มีรายงานความเสียหายเรื่องนักเตะเจ็บเข้ามา 4 คน คือ เรนาโต้ ซานโต๊ส (11 นัด / 2 ประตู), ยูซูฟา เอ็นยี่ (4 นัด), อีบาน บูลอส (6 นัด) และ เอดู มาชาโด้ (5 นัด) แต่ข่าวดีที่เข้ามาคือ โรชินญ่า (16 นัด / 2 ประตู) ฟิตเต็มสูบ พร้อมลงเป็น 11 ตัวจริงแน่นอน

      นูโน่ ซานโต๊ส กุนซือของ ไฟเรนเซ่ จะขาดหายไปเพียงแค่ คริส (12 นัด) กองกลางประสบการณ์สูง คนเดียวเท่านั้น เนื่องจากโดนไข้เดี้ยงเข้าครอบงำ ส่วนในรายของ บาบันโก้ (15 นัด), ติอาโก้ โกเมส (8 นัด) และ โชเซ่ วาเลนเซีย (10 นัด) ต้องรอเช็คฟิตกันอีกครั้ง ทำให้ ซานโต๊ส ต้องขบคิดในการวางหมาก

      เปป้า เทรนเนอร์ของ ตอนเดล่า จะไร้เงาของ นิโคลาส อันเซลล์ (8 นัด), ทอม เตมเเบ็ง และ โคล้ด กอนชัลเวส (14 นัด) ที่มีอาการเจ็บรบกวนอยู่ แต่ขุมกำลังที่เหลือพร้อมให้เรียกใช้งานได้ทั้งหมด คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงไม่น่าจะต่างไปจากเดิมมากนัก ซึ่งจะนำทีมมาโดย โตมาเน่ (16 นัด / 5 ประตู)

      มาร์ติน ชมิดท์ ผู้จัดการทีมของ โวล์ฟสบวร์ก จะไร้เงาของ จอห์น บรู้คส์ (7 นัด), อิ๊กนาซิโอ กามาโช่ (9 นัด) และ ยาคุบ บลาสซีคอฟสกี้ (7 นัด / 1 ประตู) ที่โดนโรคเดี้ยงเล่นงาน คาดว่าเกมนี้ ชมิดท์ เตรียมวาง ดิว๊อค โอริกี (15 นัด / 4 ประตู) ลงเป็นศูนย์หน้าตัวเป้าแทนที่ มาริโอ โกเมซ ที่ย้ายออกไปแล้ว

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โวล์ฟสบวร์ก (4-2-3-1) : โกเยนส์ กัสตีลส์ - พอล เวอร์ฮาจ, เฟลิกซ์ อูดูโอไค, บรูม่า, มาร์เซล ทิสเซอรันด์ - โจฌัว กีลาโว้ก, มักซิมิเลี่ยน อาร์โนลด์ - โจซิป เบรคาโล่, ดาเนี่ยล ดิดาวี, ยูนุส มัลลี่ - ดิว๊อค โอริกี

      ปีเตอร์ สโตเกอร์ เฮ้ดโค้ชของ ดอร์ทมุนด์ มีลิสต์ลูกทีมบาดเจ็บในมืออีกเพียบ นับได้ถึง 8 คน ส่วนในรายของ ราฟาเอล เกร์เรโร่ (7 นัด / 1 ประตู) กับ คริสเตียน พูลิซิช (16 นัด / 3 ประตู) ต้องรอเช็คความฟิตก่อนลงสนามกันอีกครั้ง โดยรายแรกอาจจะต้องพักต่อ แต่รายหลังน่าจะลงเป็น 11 ตัวจริงได้ทัน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ดอร์ทมุนด์ (4-3-3) : โรมัน บูร์กี - ลูคัส พิสเซค, โซเครติส, มาร์ก บาร์ตรา, เยเรมี โตลยาน - มาริโอ เกิทเซ่, จูเลี่ยน ไวเกิ้ล, มามุด ดาฮุด - อันเดร ยาร์โมเลนโก้, ปิแอร์ ออบาเมย็อง, คริสเตียน พูลิซิช

      ดีเตอร์ เฮ็กคิงก์ นายใหญ่ของ กลัดบัค มีรายงานความเสียหายเรื่องลูกทีมเดี้ยงเข้ามา 6 ราย ไล่มาตั้งแต่ ฟาเบียน จอห์นสัน (9 นัด / 1 ประตู), อิบราฮิม่า ตราโอเร่ (3 นัด), ลาซโล่ เบนส์ (1 นัด), มามาดู ดูกูเร่, โทเบียส สโตรเบิ้ล และ ราอูล โบบาดีย่า (7 นัด) ทำให้ เฮ็กคิงก์ ต้องคิดหนักในการจัดทีม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
กลัดบัค (4-2-3-1) : ยาน ซอมเมอร์ - นิโก้ เอลเวดี้, มัทธีอัส กินเตอร์, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, ออสการ์ เวนด์ - เดนิส ซากาเรีย, คริสโตฟห์ เครเมอร์ - พาทริค เฮอร์มันน์, ลาร์ส สไตน์เดิ้ล, ธอร์แกน อาซาร์ - ราฟฟาเอล

      สเตฟาน รูเธนเบค เทรนเนอร์ของ โคโลญจน์ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน โดมินิค มาโรห์ (6 นัด), เลออน บิตเท่นคอร์ต (12 นัด) และ จอห์น กอร์โดบา (8 นัด) เพราะยังมีอาการเจ็บรบกวน ส่วนในรายของ คริสเตียน เกลเมนส์ (5 นัด / 1 ประตู) กับ ยูยะ โอซาโกะ (13 นัด / 1 ประตู) ต้องรอเช็คความฟิตกันอีกครั้ง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โคโลญจน์ (4-2-3-1) : ติโม ฮอร์น - ลูคัส คลุนเตอร์, เฟรเดริค โซเรนเซ่น, โดมินิค ไฮนซ์, โยนาส เอคเตอร์ - มัทธีอัส เลห์มันน์, มาร์โก โฮเกอร์ - ไซม่อน โซลเลอร์, มิลอส โยยิช, คอนสแตนติน เร๊าส์ - ไซม่อน เทร็อด

      โดเมนิโก้ เทเดสโก้ นายใหญ่ของ ชาลเก้ เหลือแค่ ปาโบล อินซัว กับ เลออน โกเร็ตส์ก้า (11 นัด / 4 ประตู) เท่านั้น ที่ควงแขนกันเจ็บอยู่เหมือนเก่า ส่วนกำลังรบคนอื่นๆ พร้อมลุยอยู่นานแล้ว เชื่อว่า โฉมหน้าของ 11 ขุนพล จะเป็นหน้าเดิมทั้งหมด โดยจะมี กีโด บวร์กสตัลเลอร์ (16 นัด / 7 ประตู) ลงล่าตาข่ายตามปกติ

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ชาลเก้ (3-4-1-2) : ราล์ฟ ฟาห์รมันน์ - ธิโล่ เคห์เรอร์, นัลโด้, มาติย่า นาสตาซิช - ดาเนี่ยล คาลิกูรี่, มักซ์ เมเยอร์, เวสตัน แม็คเคนนี่, บาสเตียน อ๊อกซิปก้า - อามีน ฮาริต - กีโด บวร์กสตัลเลอร์, บรีล เอ็มโบโล่

      ราล์ฟ ฮาเซ่นฮุตเทิ่ล เฮ้ดโค้ชของ ไลป์ซิก ยังไม่มีชื่อของ มาร์เซล ฮัลส์เท่นแบร์ก (15 นัด / 2 ประตู) กับ เอมิล ฟอร์สเบิร์ก (12 นัด / 1 ประตู) ที่โดนไข้เดี้ยงเล่นงาน คาดว่า ฮาเซ่นฮุตเทิ่ล จะปรับหมากด้วยการส่ง แบร์นาร์โด้ (9 นัด / 1 ประตู) และ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ (11 นัด / 2 ประตู) ลงเสียบในตำแหน่งที่ว่างอยู่

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไลป์ซิก (4-2-2-2) : ปีเตอร์ กาลัคซี่ - ลูคัส โคลสเตอร์มันน์, วิลลี่ ออร์แบน, อูปาเมกาโน่, แบร์นาร์โด้ - นาบี เกอิต้า, สเตฟาน อิลซังเกอร์ - มาร์เซล ซาบิตเซอร์, เควิน คัมเพิ่ล - ยุสซุฟ โพลเซ่น, ติโม แวร์เนอร์

      พาล ดาร์ได เทรนเนอร์ของ แฮร์ธ่าฯ ยังไร้เงาของ คาริม เรกิ๊ก (16 นัด / 2 ประตู) แนวรับตัวสำคัญที่ยังสลัดคราบเดี้ยงกลับมาช่วยทีมไม่ได้ ส่วนในรายของ จอร์แดน โตรูนาริก้า (5 นัด / 1 ประตู) ปราการหลังดาวรุ่ง จะติดโทษแบน ทำให้ ดาร์ได ต้องปรับมาใช้ระบบ 4-5-1 เน้นเกมแดนกลางให้รัดกุมมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แฮร์ธ่าฯ (4-5-1) : รูเน่ ยาร์สไตน์ - ปีเตอร์ เปคาริค, นิคลาส สตาร์ค, ฟาเบียน ลุสเตนแบร์เกอร์, มาร์วิน แพล็ตเท่นฮาร์ด - แมทธิว เล็กกี้, เพอร์ สเคลเบร็ด, อาร์เน่ เมเยอร์, วาเลนติโน่ ลาซาโร่, ซาโลมง กาลู - ดาวี เซลเก้

      ฮันเนส โวล์ฟ กุนซือของ สตุ๊ตการ์ต จะมีเพียงแค่ มัทธิอัส ซิมเมอร์มันน์ (2 นัด) คนเดียวเท่านั้น ที่ยังไม่พร้อมใช้งาน แต่ขุมกำลังที่เหลือพร้อมลุยกันทั้งหมด คาดว่า โวล์ฟ จะให้โอกาสกับ มาริโอ โกเมซ ยืนเป็นหน้าเป้าทันทีในเกมนี้ เพราะ ไซม่อน เทร็อด หัวหอกตัวเก่ง ย้ายไปอยู่กับ โคโลญจน์ เรียบร้อยแล้ว

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
สตุ๊ตการ์ต (3-4-3) : รอน โรเบิร์ต ซีเลอร์ - เบนจามิน ปาวาร์, ติโม บอย์มการ์ตเทิ่ล, มาร์ซิน กามินสกี้ - อันเดรียส เบ็ค, ซานติอาโก้ อัสกากิบาร์, คริสเตียน เกนท์เนอร์, เอมิเลียโน่ อินซัว - ชาดรัก อาโคโล่, มาริโอ โกเมซ, เบอร์คาย ออซคาน

      ซานโดร ชวาร์ซ ผู้จัดการทีมของ ไมนซ์ ยังไม่มีชื่อของ เรเน่ อ๊าดเลอร์ (9 นัด) นายทวารตัวสำคัญที่กำลังฟื้นฟูร่างกาย ส่วนในรายของ แดนนี่ ลัตซ่า (16 นัด / 2 ประตู) ห้องเครื่องประจำทีม จะติดโทษห้ามแข่งในนัดนี้ คาดว่า ชวาร์ซ จะส่ง ไนเจล เดอ ยอง ลงประเดิมสนามทันที หลังจากที่เพิ่งคว้าตัวมา

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไมนซ์ (4-3-3) : โรบิน เซนต์เนอร์ - จูลิโอ โดนาติ, สเตฟาน เบล, อับดู ดิยัลโล่, ดาเนี่ยล โบรซินสกี้ - ไนเจล เดอ ยอง, ฌอง กีบาแมง, ซูอัต แซร์ดาร์ - เลวีน ออซตูนาลี่, โยชิโนริ มุโตะ, ปาโบล เด บลาซิส

      อันเดร ไบรเท่นไรเตอร์ เทรนเนอร์ของ ฮันโนเวอร์ เหลือเพียงแค่ เฟลิเป้ (4 นัด), โจนาธาส (7 นัด / 3 ประตู) และ เอ็ดการ์ พริบ ที่เป็นแข้งเดี้ยงค้างสต็อกอยู่ แต่เชื่อว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในวันนี้ จะเหมือนกับเกมที่เปิดบ้านเสมอ เลเวอร์คูเซ่น 4-4 แน่นอน เพราะทุกคนทำหน้าที่กันได้อย่างยอดเยี่ยม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮันโนเวอร์ (4-2-4) : ฟิลิปป์ ชอเนอร์ - จูเลี่ยน คอร์บ, ซาลิฟ ซาเน่, แอนตัน, มัทธีอัส ออสเตอร์โซเลค - เพอร์มิน ชเว็กเลอร์, มาร์วิน บาคาลอร์ซ - เฟลิกซ์ เคล๊าส์, อิห์ลัส เบบู, มาร์ติน ฮาร์นิค, นิคลาส ฟัลครู้ก

      มาร์คุส กิสดอล กุนซือของ ฮัมบูร์ก จะหมดสิทธิ์ใช้งาน วาเลซ (11 นัด / 1 ประตู), อัลบิน เอคดัล (11 นัด), ลูอิส โฮลท์บี้ (7 นัด / 1 ประตู) และ นิโคไล มุลเลอร์ (1 นัด / 1 ประตู) เพราะยังใช้บริการของโรงพบาบาลอยู่ นั่นหมายความว่า โกโตคุ ซากาอิ (13 นัด) จะต้องรับบาทเป็นมิดฟิลด์ให้กับทีมต่อไปอีกนัด

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮัมบูร์ก (4-2-3-1) : มาเธเนีย - เดนนิส เดี๊ยคเมเยอร์, คิเรียกอส ปาปาโดปูลอส, แมร์กิม มาฟราย, ดั๊กลาส ซานโต๊ส - โกโตคุ ซากาอิ, กีเดียน จุง - อันเดร ฮาห์น, อารอน ฮันท์, ฟิลิป คอสติช - ยาน อาร์ป

      มานูเอล บอย์ม นายใหญ่ของ เอ๊าก์สบวร์ก จะไม่มีชื่อของ เอริค ธอมมี่ (6 นัด), ชี ดอง วอน (3 นัด), มอริตซ์ ไลท์เนอร์ และ อัลเฟร็ด ฟินน์โบกาสัน (16 นัด / 11 ประตู) เนื่องจากโดนอาการเจ็บเล่นงาน นั่นทำให้ บอย์ม ต้องปรับเปลี่ยนแนวรุกกันใหม่ ด้วยการดัน คูบี้ (17 นัด / 4 ประตู) ขึ้นไปยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เอ๊าก์สบวร์ก (4-2-3-1) : มาร์วิน ฮิตซ์ - ดาเนี่ยล โอปาเร่, มาร์ติน ฮินเตเร็กเกอร์, เจฟฟรี่ กูเวลูว์, ฟิลิปป์ มักซ์ - ดาเนี่ยล เบเยอร์, รานี่ เคดิร่า - มาร์เซล เฮลเลอร์, มิเชล เกรกอริช, โจนาต็อง ชมิด - คูบี้

      คริสเตียน สไตรช์ เทรนเนอร์ของ ไฟร์บวร์ก มีปัญหาเรื่องนักเตะเดี้ยง 5 คนเท่ากัน คือ ฟิลิปป์ ไลน์ฮาร์ท (10 นัด), ลูกัส คุบเลอร์ (3 นัด), ไมค์ ฟร๊านซ์ (11 นัด), ยอริก ราเว่ต์ (8 นัด) และ ฟลอเรียน นีแดร์เลชเนอร์ (10 นัด / 2 ประตู) แต่จะมีข่าวดีเข้ามา เมื่อ มาร์ก เคมพ์ (4 นัด) ฟิตเต็มสูบแล้ว พร้อมลุยในนัดนี้

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไฟร์บวร์ก (3-4-3) : อเล็กซานเดอร์ ชโวลอฟ - โรบิน ค็อก, มาร์ก เคมพ์, คักลาร์ โซยุนกู - ปาสกาล สเตนเซิ่ล, จูเลี่ยน ชุสเตอร์, นิโกลัส ฮอฟเลอร์, คริสเตียน กุนเตอร์ - ยานิค ฮาเบเรอร์, นีล พีเตอร์เซ่น, มาร์โก แตร์รัซซิโน่

      นิโก้ โควัค เฮ้ดโค้ชของ แฟร้งค์เฟิร์ต มีลิสต์ลูกทีมเจ๊บในมือ 5 ราย ได้แก่ ดาบิด อับราฮัม (16 นัด), ทาเลบ ทาวาธา (11 นัด), โจนาธาน เดอ กุซมัน (8 นัด), มาริอุส โวล์ฟ (12 นัด / 3 ประตู) และ อเล็กซานเดอร์ เมเยอร์ ส่วนในรายของ ไซม่อน ฟาแลต (15 นัด) แนวรับชางฝรั่งเศส จะติดโทษห้ามแข่ง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แฟร้งค์เฟิร์ต (3-4-3) : ลูคัส ฮราเด็กกี้ - มาร์โก รุส, มาโกโตะ ฮาเซเบะ, การ์ลอส ซัลเซโด้ - ทิโมธี แชนด์เลอร์, เควิน พริ๊นซ์ บัวเต็ง, มาร์ก สเตนเดร่า, เจโทร วิลเลมส์ - มิยัต กาซิโนวิช, เซบาสเตียง ฮัลแลร์, อันเต เรบิช

      จูเลี่ยน นาเกิ้ลมันน์ กุนซือของ ฮอฟเฟ่นไฮม์ จะไม่มีชื่อของ นาเดียม อามิรี่ (14 นัด / 2 ประตู) กับ เคเรม เดเมียร์เบย์ (14 นัด / 2 ประตู) สองกำลังสำคัญ ที่ดันมีอาการเจ็บรบกวน คาดว่าเกมนี้ นาเกิ้ลมันน์ จะวาง มาร์ก อูธ (16 นัด / 9 ประตู) ยืนเป็นย์หน้าตัวเป้าแทนที่ ซานโดร ว้ากเนอร์ ซึ่งย้ายไป บาเยิร์น

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮอฟเฟ่นไฮม์ (3-4-3) : โอลิเวอร์ เบามันน์ - สเตฟาน พอช, เควิน โฟ้กท์, เบนจามิน ฮุบเนอร์ - พาเวล คาเดราเบค, ฟลอเรียน กริลลิช, เดนนิส ไกเกอร์, สตีเว่น ซูเบอร์ - แซร์ก จีนาบรี, มาร์ก อูธ, อันเดร ครามาริช

      ฟลอเรียน โคห์เฟลด์ นายใหญ่ของ เบรเมน จะไร้เงาของ โธมัส เดอลานี่ย์ (17 นัด / 1 ประตู), ฟิน บาร์เทิ่ลส์ (14 นัด / 2 ประตู), อิชัค เบลโฟดิล (13 นัด / 1 ประตู) และ อารอน โยฮันส์สัน (2 นัด) ที่โดนไข้เดี้ยงเล่นงาน ทำให้ โคห์เฟลด์ ต้องปรับแดนกลางมาเป็น 4 คน ในระบบ 3-4-3 แทนที่ 4-3-3 เคยใช้ในเกมก่อน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เบรเมน (3-4-3) : ยีรี พาฟเลนก้า - โรเบิร์ต บอยเออร์, นิโคลัส มอยซานเดอร์, มิลอส เวลโกวิช - เกเบร เซลาสซี่, มักซิมิเลี่ยน เอ็กเก้สไตน์, ฟิลิปป์ บาร์กเฟรเด้, ลุดวิก ออกุสตินส์สัน - ฟลอเรียน ไคนซ์, มักซ์ ครูเซ่, ซลัตโก้ ยูนูโซวิช

      เฟลิกซ์ ซานเชซ ผู้จัดการทีมของ กาตาร์ ยู-23 เตรียมลุยกันต่อกับ 11 ขุนพลชุดที่เอาชนะ อุซเบกิสถาน ยู-23 1-0 ในเกมนัดก่อน เนื่องจากไม่มีผู้เล่นบาดเจ็บหรือติดโทษห้ามแข่งเลยสักคน โดยจะมี ตามีม อัล มูฮาซ่า, อับดุลลาห์ อับดุลซาลาม, ฮาชิม อาลี รวมไปถึง อัคราม อาฟิฟ พาเหรดกันลงสู่สนาม

      ฮาหมัด อัล อาซานี่ กุนซือของ โอมาน ยู-23 ไม่มีรายงานความเสียใดเรื่องสภาพความพร้อมของลูกทีมเข้ามา นั่นหมายความว่า สามารถเลือกจัดทีมชุดที่ดีที่สุดได้เลย โดยโฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในเกมนี้ ไม่น่าจะต่างจากเกมนัดเปิดสนามสักเท่าไหร่ นำทีมมาโดย มูห์เซน อัล กาสห์ซานี่ หัวหอกตัวความหวัง

      มัสซิมิเลียโน่ มัดดาโลนี่ เฮ้ดโค้ชของ จีน ยู-23 ไม่มีความจำเป็นอะไรในการปรับเปลี่ยน 11 ตัวจริง จากเกมที่เอาชนะ โอมาน ยู-23 3-0 จะมีก็เพียงแค่เช็คอาการของ เว่ย ชีเหา ที่มีอาการเจ็บจนถูกเปลี่ยนตัวออกในนัดนั้น ส่วนกำลังรบที่เหลือพร้อมลุยอยู่นานแล้ว โดยเฉพาะ หยาง ลี่หยู ที่ยิงประตูแรกในรายการนี้ได้

      ราฟชาน คายดารอฟ เทรนเนอร์ของ อุซเบกิสถาน ยู-23 ต้องรอเช็คฟิตของ อัครามยอน โคมิลอฟ แนวรับตัวเก่งของทีมอีกครั้ง ว่าฟิตทันในเกมนี้หรือไม่ แต่ขุมกำลังคนอื่นๆ พร้อมให้เรียกใช้งานได้ทั้งหมด คาดว่า คายดารอฟ น่าจะยังวางใจในตัวของ ซาบิคฮิลโล่ อูรินโบเยฟ ให้ลงผลิตสกอร์ต่อไปอีกหนึ่งนัด

      จอห์น อลอยซี่ เฮ้ดโค้ชของ บริสเบน โรอาร์ งานยังเข้าอยู่เหมือนเดิม เพราะปัญหาลูกทีมเจ็บยังเหลืออีกถึง 6 คน ส่วนในรายของ เอริค โบเธอัค (9 นัด / 1 ประตู) กับ โคเรย์ กาไมโร่ (6 นัด) ต้องรอเช็คความฟิตก่อนเริ่มเกมกันอีกครั้ง แต่ยังพอมีข่าวดีเข้ามาบ้าง เมื่อสองตัวหลักที่ติดโทษแบนในนัดก่อน กลับมาลงเล่นได้แล้ว

      เออร์นี่ เมอร์ริค ผู้จัดการทีมของ นิวคาสเซิ่ล เจ็ตส์ ยังไร้เงาของ โรนัลด์ วาร์กาส (3 นัด) กับ รอย โอโดโนแวน (7 นัด / 7 ประตู) ที่ยังสลัดคราบเดี้ยงไม่ได้ ส่วนในรายของ นิโคลัส คาวเบิร์น (5 นัด) และ โจเซปห์ เเชมป์เนสส์ (15 นัด / 3 ประตู) ติดภารกิจในการรับใช้ชาติ ทำให้ เมอร์ริค ต้องปรับ 11 ขุนพลใหม่อีกครั้ง

      มิเชล เทรนเนอร์ของ มาลาก้า จะไม่มีชื่อของ ฆวน การ์ลอส (10 นัด), บอร์ฆา บาสตอน (14 นัด / 2 ประตู) และ ดีเอโก้ โรลัน (11 นัด / 3 ประตู) ที่ต้องใช้บริการของโรงพยาบาลอยู่ คาดว่า มิเชล จะวาง "สามประสาน" ในแดนหน้าเป็น เกโก้ (12 นัด), เบร์โต้ เปนารันด้า (12 นัด) และ กอนซาโล่ กาสโตร (11 นัด / 3 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
มาลาก้า (4-3-3) : โรเบร์โต้ ฆิเมเนซ - โรเบร์โต้ โรซาเลส, ลุยส์ เอร์นันเดซ, มิเกล, ดีเอโก้ กอนซาเลซ - เรซิโอ, มานูเอล อิตูร์ร่า, อาเดรียน - เกโก้, เบร์โต้ เปนารันด้า, กอนซาโล่ กาสโตร

      โฆเซ่ บอร์ดาลาส กุนซือของ เกตาเฟ่ ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน มาร์เกล เบร์การ่า (15 นัด / 4 ประตู) มิดฟิลด์ตัวเก๋าประจำทีม เนื่องจากต้องพักรักษาตัวต่อ ส่วนในรายของ ดิเยเน่ ดาโกนัม (18 นัด) ปราการหลังทีมชาติโตโก จะติดโทษห้ามแข่ง ทำให้ บรูโน่ กอนซาเลซ (4 นัด) ต้องลงรับสัมปทานแทนในตำแหน่งกองหลังตัวกลาง

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
เกตาเฟ่ (4-4-2) : บิเซนเต้ กูไอต้า - ดาเมี่ยน ซัวเรซ, บรูโน่ กอนซาเลซ, ฆวน กาล่า, วิคตอเรียโน่ อันตูเนส - ฟรานซิสโก้ ปอร์ติโญ่, เซร์กิโอ้ โมร่า, เมาโร อารัมบาร์รี่, อามัธ เอ็นดิอาย - อังเกล, ฆอร์เก้ โมลิน่า

      จุ๊ป ไฮย์เกส นายใหญ่ของ บาเยิร์น จะไร้เงาของ มานูเอล นอยเออร์ (3 นัด), มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ (15 นัด / 1 ประตู), ธิอาโก้ อัลกานตาร่า (9 นัด / 1 ประตู) และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (17 นัด / 15 ประตู) ที่โดนอาการเจ็บเล่นงาน ทำให้ ไฮย์เกส ต้องเปลี่ยน 11 ตัวจริงในหลายตำแหน่ง แต่ ฆาบี มาร์ติเนซ (11 นัด) น่าจะได้ลงคุมเกมต่อ

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
บาเยิร์น (4-3-3) : สเวน อุลไรช์ - โจฌัว กิมมิค, เจอโรม บัวเต็ง, นิคลาส ซูเล่, ดาวิด อลาบา - โธมัส มุลเลอร์, ฆาบี มาร์ติเนซ, อาร์ตูโร่ วิดัล - อาร์เยน ร็อบเบน, ซานโดร ว้ากเนอร์, ฟร้องค์ ริเบรี่

      ไฮโค แฮร์ลิช เฮ้ดโค้ชของ เลเวอร์คูเซ่น ยังเหลือแค่ วลาเดน ยูร์เชนโก้ ห้องเครื่องชาวยูเครนคนเดียวเท่านั้น ที่ยังเดี้ยงอยู่เหมือนเก่า ส่วนขุมกำลังที่เหลือพร้อมรับใช้ต้นสังกัดกันทั้งหมด คาดว่า แฮร์ลิช จะปรับหมากมาใช้ระบบ 5-4-1 เพื่อเน้นความเเน่นอนในเกมรับ โดยจะมี เควิน โฟลลันด์ (16 นัด / 9 ประตู) ยืนเป็นหน้าเป้า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เลเวอร์คูเซ่น (5-4-1) : แบร์นด์ เลโน่ - ลาร์ส เบนเดอร์, โจนาธาน ตาห์, สเวน เบนเดอร์, พานาจิโอติส เร็ตซอส, เวนเดล - ไค ฮาแวร์ซ, โดมินิค คอห์ร, ชาร์ลส์ อรานกูอิซ, เลออน ไบลี่ย์ - เควิน โฟลลันด์

      ปาร์ค ฮัง โซ เฮ้ดโค้ชของ เวียดนาม ยู-23 ยิ้มสบายใจได้ก่อนเกมเช่นกัน เนื่องจากลูกทีมทุกคนสมบูรณ์เต็มที่ พร้อมให้เรียกใช้บริการกันทั้งหมด คาดว่า ฮัง โซ น่าจะยังยึด 11 ตัวจริงชุดที่ลงเล่นในรอบคัดเลือก มาใช้งานแบบต่อเนื่องในนัดนี้ ซึ่งจะนำทีมมาโดย "เมสซี่เวียดนาม" เหงียน คง เฟือง ดาวดังประจำชาติ

      คิม บง กิล เทรนเนอร์ของ เกาหลีใต้ ยู-23 เตรียมพร้อมเก็บตัวกันมาร่วม 1 เดือนสำหรับทัวร์นาเม้นต์นี้ สำหรับสภาพความพร้อมในเกมนี้ ไม่มีรายงานความเสียหายใดๆ เข้ามาให้ต้องกังวล สามารถเลือกจัดชุดใหญ่ได้เต็มสูบ โดยจะมี ปาร์ค อิน ฮย็อค ลงเล่นเป็นตัวความหวังในแดนหน้าเพื่อผลิตสกอร์ให้กับทีม

      ฮุสเซน อาฟาช ผู้จัดการทีมของ ซีเรีย ยู-23 ไม่มีปัญหาใดในการจัดทัพ เพราะสภาพความพร้อมของลูกทีมทุกคนสมบูรณ์ 100% สามารถเลือกจัดชุดที่ดีที่สุดลงบู๊ได้ตามใจชอบ เชื่อว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง ไม่น่าจะเปลี่ยนจากชุดที่เล่นในรอบคัดเลือกมากนัก นำทีมมาโดย ชาดี้ อัล ฮัมมาวี่ หัวหอกจาก อัล จาซีร่า

      อันเต้ มิลิซิช นายใหญ่ของ ออสเตรเลีย ยู-23 จะหมดสิทธิ์ใช้งาน โจชัว โซติริโอ้ แนวรุกตัวเก่ง เนื่องจากโดนอาการเจ็บเล่นงานและถูกส่งตัวกลับไปรักษาที่ ออสเตรเลีย แล้ว คาดว่า มิลิซิช จะเรียกตัว โจเซปห์ แชมป์เนสส์ จากสโมสรนิวคาสเซิ่ล เจ็ตส์ มารับสัมปทานเเทน โดยตัวทีเด็ดในชุดนี้คือ ดาเนี่ยล เด ซิลวา

      บาบิส เตนเนส กุนซือของ ลาเมีย จะขาดหายไปเพียงแค่ อาร์มี่ส์ ออร์เตก้า กองกลางหน้าใหม่ที่เพิ่งย้ายมาร่วมทีมเท่านั้น ที่มีอาการเจ็บรบกวนอยู่ ส่วนกำลังรบที่เหลือพร้อมลุยอยู่นานแล้ว คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง ไม่น่าจะต่างชุดใหญ่ที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบันมากนัก นำทีมมาโดย ปีตี้ (16 นัด / 3 ประตู) หัวหอกจอมเก๋า

      มารินอส อูซูนิดิส นายใหญ่ของ พานาธิไนกอส มีรายงานความเสียหายเรื่องนักเตะเจ็บเข้ามาถึง 6 ราย ได้แก่ ดิมิตริออส โคโวเว็ตซิออส (15 นัด), โรบิน ล็อด (16 นัด), โรดริโก้ โมเลโด้ (8 นัด / 1 ประตู), นูโน่ เรส (4 นัด), นิคลาส ฮุลต์ (12 นัด) และ จอร์จอส คูตรุมบิส (10 นัด) ทำให้ อูซูนิดิส คงปรับทีมอะไรมากไม่ได้

      อาร์ราซาเต้ เทรนเนอร์ของ นูมานเซีย มีลิสต์ลูกทีมบาดเจ็บเพิ่มเป็น 5 คน คือ ริป้า (15 นัด), หลุยส์ บัลการ์เก้ (5 นัด), อัลบาเรซ และ ปาโบล บัลการ์เก้ (17 นัด / 2 ประตู) และ มานู เดล โมราล (18 นัด / 5 ประตู) ส่วนในรายของ ปาเป้ เดียม็องก้า (13 นัด / 1 ประตู) กองกลางตัวหลักของทีม จะติดโทษแบนในนัดนี้ อดบู๊แน่นอน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
นูมานเซีย (4-2-3-1) : มูนีร์ - อูไน เมดิน่า, ดานี่ กาลโบ, การ์ลอส กูเตียร์เรซ, มาร์ค มาเตอู - ปาโบล ลาร์เรอา, อิญิโก้ เปเรซ - เปเร มิญ่า, เกรโก้ เซียร์ร่า, ดานี่ เนโต้ - อิกินิโอ มาริน

      ซีเนดีน ซีดาน กุนซือของ เรอัล มาดริด ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน เซร์กิโอ้ รามอส (13 นัด), ราฟาเอล วาราน (11 นัด), ลูก้า โมดริช (13 นัด) และ คาริม เบนเซม่า (12 นัด / 2 ประตู) ที่กอดคอกันเดี้ยงอยู่ เชื่อว่า ซีดาน เตรียมพักตัวสำคัญในเกมนี้ เพราะสกอร์จากนัดแรกค่อนข้างขาดลอยเเล้ว จึงน่าจะได้เห็นดาวรุ่งลงสนามหลายคน

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
เรอัล มาดริด (4-2-3-1) : กีโก้ กาซิญ่า - ดาเนี่ยล การ์บาฆาล, เฆซุส บาเญโฆ่, นาโช่ เฟร์นานเดซ, ธีโอ แฟร์น็องเดซ - มาร์กอส ญอเรนเต้, ดานี่ เกบาญอส - ลูคัส บาซเกซ, มาร์โก อาเซนซิโอ้, เเกเร็ธ เบล - บอร์ฆา มาโยราล

      อาเซียร์ การิตาโน่ เฮ้ดโค้ชของ เลกาเนส เตรียมขน 11 ขุนพลจากเกมเลกแรกที่เอาชนะไปได้ก่อน 1-0 ลงสนามเล่นกันแบบต่อเนื่อง แต่อาจจะมีการปรับนิดหน่อยตรงที่ นอร์ดิน อัมราบัต (12 นัด) จะกลับมายืนเป็นกองหน้าตัวเป้า หลังจากพ้นโทษแบนแล้ว ส่วนตรงกลางสนามจะมี รูเบน เปเรซ (14 นัด) คุมจังหวะเหมือนเก่า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เลกาเนส (4-2-3-1) : เนเรโอ ชามปาเย่ - ตีโต้, อูไน บุสตินซ่า, ดิมิตริออส ซิโอวาส, ราอูล การ์เซีย - รูเบน เปเรซ, เกราร์ด กัมบู - นาบิล เอล ซาร์, กาเบรียล ปิเรส, โฆเซ่ นารานโฆ่ - นอร์ดิน อัมราบัต

      ฆาบี กาเยย่า เทรนเนอร์ของ บียาร์เรอัล ต้องเน้นชุดที่ดีที่สุดลงสนาม เพราะต้องการเก็บชัยชนะเพื่อพลิกเข้ารอบต่อไปให้ได้ โดยจะมีข่าวดีเข้ามาก่อนเกมตรงที่ มานู ตริกูเอรอส (16 นัด / 1 ประตู) กลับมาช่วยทีมได้ทันพอดี หลังจากชดใช้โทษห้ามแข่งเรียบร้อย และจะลงผนึกกำลังกับ รามิโร่ กูเอร์ร่า (3 นัด) ในแดนกลาง

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
บียาร์เรอัล (4-4-2) : มาเรียโน่ บาร์โบซ่า - อันโตนิโอ รูคาวิน่า, ดานิเอเล่ โบเนร่า, บิคตอร์ รุยซ์, อาเดรียน มาริน - ราบา, รามิโร่ กูเอร์ร่า, มานู ตริกูเอรอส, เดนิส เชริเชฟ - เอเนส อูนัล, คาร์ลอส บักก้า

      ติโต้ การ์เซีย ผู้จัดการทีมของ ฟอร์เมนเตร่า จะขาดหายไปเพียงแค่ เมเฆร่า (11 นัด) ปราการหลังตัวสำคัญ ที่เจ็บอยู่ก่อนหน้านี้ ส่วนขุมกำลังที่เหลือฟิตเต็มสูบกันทั้งหมด เชื่อว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง ไม่น่าจะต่างไปจากเกมแรกมากนัก อาจจะเปลี่ยนแปลงแค่ อันเดรย์ คอทนิก ที่จะได้โอกาสยืนค้ำเป็นหน้าตัวเป้า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฟอร์เมนเตร่า (4-2-3-1) : เชชู - ซามูเอล, โบนิญ่า, กิโก้, อัลบาโร่ มูนิซ - อเล็กซ์ ปวยร์ตาส, อากุส โอเยด้า - เครสโป, กาบรี, อาเดรียน รีเอร่า - อันเดรย์ คอทนิก

      อาเบลาร์โด้ นายใหญ่ของ อลาเบส ยังไม่มีชื่อของ การ์ลอส บิการาย (12 นัด), ลิตรี้ (1 นัด) และ บูร์กี้ (13 นัด / 1 ประตู) ที่ยังสลัดคราบเดี้ยงไม่ได้ คาดว่าเกมนี้ อาเบลาร์โด้ น่าจะพักตัวหลักไว้ข้างสนามหลายราย เพราะสถานการณ์ค่อนข้างได้เปรียบอยู่เยอะ โดย ซิเบร่า นายด่านดาวรุ่ง จะได้ลงเฝ้าเสาเป็นตัวจริงบ้าง

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
อลาเบส (4-4-2) : ซิเบร่า - บิคตอร์ โลเปซ, อเล็กซิส รูอาโน่, บิคตอร์ ลากูอาร์ดิอา, อาเดรียน ดีเอกูเอซ - ดานี่ ตอร์เรส, โทมัส ปิน่า, มูบารัก วากาโซ่, อัลบาโร่ เมดราน - โซบริโน่, เออร์เมดิน เดมิโตรวิช