วิเคราะห์บอล / วิเคราะห์บอลวันนี้

      ดีเตอร์ เฮ็กคิงก์ นายใหญ่ของ กลัดบัค จะไร้เงาของ มามาดู ดูคูเร่, โทนี่ ยานช์เก้ (3 นัด), พาทริค เฮอร์มันน์ (11 นัด), ฟาเบียน จอห์นสัน (9 นัด / 1 ประตู), โยนาส ฮอฟมันน์ (7 นัด), อิบราฮิม่า ตราโอเร่ (3 นัด), ลาซโล่ เบนส์ (1 นัด), อิบราอิม่า ตราโอเร่ (3 นัด) และ โทเบียส สโตรเบิ้ล ที่เดี้ยงกันยกเซ็ต ส่วนในรายของ นิโก้ เอลเวดี้ (15 นัด / 1 ประตู) จะติดโทษแบน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
กลัดบัค (4-2-2-2) : ยาน ซอมเมอร์ - อ็อกซ์ฟอร์ด, มัทธีอัส กินเตอร์, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, ออสการ์ เวนด์ - คริสโตฟห์ เครเมอร์, เดนิส ซากาเรีย - ธอร์แกน อาซาร์, วินเชนโซ่ กริโฟ่ - ลาร์ส สไตน์เดิ้ล, ราฟฟาเอล

      คริสเตียน สไตรช์ กุนซือของ ไฟร์บวร์ก มีรายงานความเสียหายเรื่องนักเตะเจ็บเข้ามา 5 ราย ได้แก่ มานูเอล กัลด์, มาร์ก เคมพ์ (4 นัด), ไมค์ ฟร๊านซ์ (11 นัด), ฟิลิปป์ ไลน์ฮาร์ต (10 นัด) และ ฟลอเรียน นีแดร์เลชเนอร์ (10 นัด / 2 ประตู) แต่สำหรับ นีล พีเตอร์เซ่น (13 นัด / 5 ประตู) หัวหอกทีมชาติเยอรมันวัย 29 ปี "แฮททริคฮีโร่" จากเกมนัดก่อน ฟิตสมบูรณ์ดี 100%

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไฟร์บวร์ก (4-5-1) : อเล็กซานเดอร์ ชโวลอฟ - ปาสกาล สเตนเซิ่ล, คักลาร์ โซยุนกู, โรบิน ค็อก, คริสเตียน กุนเตอร์ - โยริก ราเว่ต์, นิโคลัส ฮอฟเลอร์, ทิม ไคลน์เดียนส์, ยานิค ฮาเบเรอร์, มาร์โก แตร์รัซซิโน่ - นีล พีเตอร์เซ่น

      ราล์ฟ ฮาเซ่นฮุตเทิ่ล ผู้จัดการทีมของ ไลป์ซิก จะเหลือเพียงแค่ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ (11 นัด / 2 ประตู) ห้องเครื่องชาวออสเตรีย ที่ต้องใช้บริการของโรงพยาบาลอยู่ เชื่อว่าเกมนี้ ฮาเซ่นฮุตเทิ่ล จะจัดชุดใหญ่ลงบู๊แน่นอน โดยจะมี ยุสซุฟ โพลเซ่น (13 นัด / 3 ประตู) กับ ติโม แวร์เนอร์ (13 นัด / 8 ประตู) ยืนหน้าคู่กัน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไลป์ซิก (4-2-2-2) : ปีเตอร์ กาลัคซี่ - ลูคัส โคลสเตอร์มันน์, วิลลี่ ออร์แบน, ดาโย่ต์ อูปาเมกาโน่, มาร์เซล ฮัลส์เท่นแบร์ก - นาบี เกอิต้า, ดิเอโก้ เดมม์ - เควิน คัมเพิ่ล, บรูม่า - ยุสซุฟ โพลเซ่น, ติโม แวร์เนอร์

      มาร์ติน ชมิดท์ เทรนเนอร์ของ โวล์ฟสบวร์ก ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน อิ๊กนาซิโอ กามาโช่ (9 นัด) กับ ยาคุบ บลาสซีคอฟสกี้ (7 นัด / 1 ประตู) ที่เป็นเเข้งเดี้ยงค้างสต็อก แต่ขุมกำลังที่เหลือพร้อมรับใช้ต้นสังกัดกันทั้งหมด คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง น่าจะเป็นชุดเดิมต่อไป นำทีมมาโดย มาริโอ โกเมซ (10 นัด / 1 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โวล์ฟสบวร์ก (4-2-3-1) : โกเยนส์ กัสตีลส์ - พอล เวอร์ฮาจ, เฟลิกซ์ อูดูโอไค, จอห์น บรู้คส์, วิลเลี่ยม - โจฌัว กีลาโว้ก, มักซิมิเลี่ยน อาร์โนลด์ - ดิว๊อค โอริกี, ดาเนี่ยล ดิดาวี, ยูนุส มัลลี่ - มาริโอ โกเมซ

      สเตฟาน ไลเทิ่ล เฮ้ดโค้ชของ อินกอลสตัดท์ จะไร้เงาของ โรแม็ง เบรเกรี่ (5 นัด) แนวรับชาวฝรั่งเศส ที่มีอาการเจ็บกล้ามเนื้อ ส่วนในรายของ อัลม็อก โคเฮน (15 นัด) มิดฟิลด์ตัวสำคัญจะติดโทษแบน คาดว่า ไลเทิ่ล จะไว้วางใจในตัวของ มักซ์ คริสเตียนเซ่น (8 นัด) กองกลางดาวรุ่งวัย 21 ปี ให้ลงขับเคลื่อนแดนกลางแทน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
อินกอลสตัดท์ (4-3-3) : ออร์ยาน นีลันด์ - โทเบียส เลเวิ่ลส์, มาร์วิน มาทิป, เฮาเก้ วอห์ล, มาร์เซล เก๊าส์ - มักซ์ คริสเตียนเซ่น, คริสเตียน แทรช, อัลเฟรโด้ โมราเลส - โธมัส เพลเดิ้ล, ดาริโอ เลซกาโน่, ซอนนี่ คิตเทิ่ล

      เจฟ สตราสเซอร์ ผู้จัดการทีมของ ไกเซอร์ฯ จะไม่มีชื่อของ ยูเลียโน่ โมดิก้า (5 นัด), แม็ดส์ อัลบัค (4 นัด), ดาเนี่ยล ฮาลฟาร์ (9 นัด / 1 ประตู), โอซายาเมน โอซาเว่ (10 นัด) และ แค็กเปอร์ เพอร์ซีบิลโก้ (1 นัด) ส่วนในรายของ ดาวิด โทมิช กับ ลูคัส สปัลวิส (10 นัด / 2 ประตู) จะติดโทษห้ามแข่ง อดมีส่วนร่วมในเกมนี้

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไกเซอร์ฯ (4-2-2-2) : มาริอุส มุลเลอร์ - เบนจามิน เคสเซิ่ล, สติเป วูกูร์, มาเซล คอร์เรอา, อาบู ฮันน่า - นิลส์ ซูแฟร์ต, คริสโตฟห์ มอริตซ์ - ฟิลิปป์ เวเน่, โอเซ ควัดโว่ - แบรนดอน บอร์เรลโล่, เซบาสเตียน อันเดอร์สสันผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสน

      เจฟ ไซบีน กุนซือของ บีเลเฟลด์ สังเวย ฟลอเรียน ดิ๊ค (9 นัด / 1 ประตู) แบ็คขวาตัวเก่ง ไปกับอาการเจ็บอีกคน โดยจะไปรวมกับตัวที่เดี้ยงค้างสต็อกอย่าง คีนู สเต๊าด์ (14 นัด / 2 ประตู), นิลส์ ควอชเนอร์ (4 นัด) และ อันดรา สปอราร์ (9 นัด / 2 ประตู) ทำให้ ไซบีน ต้องส่ง พาทริค ไวห์เร๊าช์ (16 นัด / 1 ประตู) ลงไปยืนประจำการเเทน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
บีเลเฟลด์ (4-2-2-2) : สเตฟาน ออร์เตก้า - พาทริค ไวห์เร๊าช์, จูเลี่ยน บอร์เนอร์, สเตฟาน ซัลเกอร์, ฟลอเรียน ฮาร์แธร์ซ - ทอม ชู๊ทซ์, มานูเอล เพรเทิ่ล - เลอันโดร ปูตาโร่, คอนสแตนติน เคิร์ชเบาเมอร์ - อันเดรียส โฟเกิ้ลซามเมอร์, ฟาเบียน โคลส

      เคนาน โคซัค เทรนเนอร์ของ ซานด์เฮาเซ่น มีลิสต์นักเตะเดี้ยงเพิ่มเป็น 7 รายแล้ว ไล่มาตั้งแต่ ริค วัลเล่, มีร์โก บอร์น, โรเบิร์ต เเฮร์มันน์ (1 นัด), มาร์คุส คาร์ล (13 นัด), สเตฟาน คูโลวิตส์ (5 นัด), แอนดรูว์ วูเท่น (1 นัด / 1 ประตู) และ คอร์บิเนี่ยน โฟลมันน์ (2 นัด) เชื่อว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงไม่น่าจะต่างไปจากนัดก่อนเป็นแน่

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ซานด์เฮาเซ่น (4-2-2-2) : มาร์เซล ชูเฮน - ฟิลิปป์ คลิ้งมันน์, ทิม คิสเตอร์, ทิม คิปปิ้ง, เลยาร์ต ปาการาด้า - เดนิส ลินส์เมเยอร์, มักซิมิเลี่ยน แยนเซ่น - เนย์เมดดิน ดั๊กห์ฟุส, มานูเอล สตีฟเลอร์ - ลูกัส โฮเลอร์, ริชาร์ด ซูกูต้า-ปาซู

      อิเลีย กรูเยฟ ผู้จัดการทีมของ ดุ๊ยส์บวร์ก จะไม่มีชื่อของ อันเดรียส ไวเกิ้ล (6 นัด), ซลัตโก้ ยานยิช และ มอริตซ์ สต๊อปเพิ่ลคัมป์ (16 นัด / 6 ประตู) ที่ต้องพักรักษาตัวอยู่ คาดว่า กรูเยฟ น่าจะเรียกตัว อาห์เหม็ด เอนกิ้น (11 นัด) มาเสียบในที่ว่างตรงกองกลาง โดยจะลงประสานงานกับ โอลิเวียร่า ซูซ่า (16 นัด / 5 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ดุ๊ยส์บวร์ก (4-2-2-2) : มาร์ค เฟล็คเก้น - เอนิส ฮายรี่, ดัสติน บอมฮอยเออร์, เกอร์ริต นูแบร์, เควิน โวลซ์ - ลูคัส โฟรเด้, ฟาเบียน ชเนลฮาร์ด - โอลิเวียร่า ซูซ่า, อาห์เหม็ด เอนกิ้น - บอริช ทาชชี่, สตานิสลาฟ ยุทเชนโก้

      โอลาฟ ยานส์เซ่น เทรนเนอร์ของ ซังต์ เพาลี จะไร้เงาของ มาร์ค ฮอร์นชูห์ (6 นัด), เคลเมนส์ ช็อพเพนฮอยเออร์ (1 นัด), ฟิลิปป์ ซีไรส์, คริสโตเฟอร์ บุชท์มันน์ (12 นัด / 4 ประตู), โมลเลอร์ แดห์ลี่ (12 นัด) และ เรียว มิยาอิชิ ที่นัดกันเข้าโรงพยาบาลอยู่ นั่นทำให้ ยานส์เซ่น แทบจะไม่มีขุมกำลังสำรองให้สับเปลี่ยน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ซังต์ เพาลี (4-2-3-1) : โรบิน ฮิมเมิ่ลมันน์ - ลูก้า ซานเดอร์, ลาส โซบีช, คริสโตเฟอร์ อาวีเวอร์, ดาเนี่ยล บูบัลล่า - แบร์นด์ เนห์ริก, โจฮันเนส ฟลุม - วัลเดมาร์ โซโบต้า, เชงค์ ซาฮิน, เมาริซ ลิตก้า - อาซิซ บูฮัดดูซ

      พาล ดาร์ได นายใหญ่ของ แฮร์ธ่าฯ มีรายงานตัวเจ็บเข้ามา 4 คน คือ โธมัส คราฟท์, วลาดิเมียร์ ดาริด้า (7 นัด), วาเลนติน สต๊อคเกอร์ (3 นัด) และ ซาโลมง กาลู (11 นัด / 3 ประตู) นั่นทำให้ ดาร์ได ต้องปรับทัพ 11 ตัวจริงกันอีกครั้ง โดยนัดนี้คงจะส่ง ดาวี เซลเก้ (7 นัด / 2 ประตู) ยืนค้ำเป็นกองหน้าเดี่ยวแดนบน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แฮร์ธ่าฯ (4-2-3-1) : รูเน่ ยาร์สไตน์ - มิตเชล ไวเซอร์, เซบาสเตียน ลังคัมป์, คาริม เรกิ๊ก, มาร์วิน แพล็ตเท่นฮาร์ด - นิคลาส สตาร์ค, เพอร์ สเคลเบร็ด - แมทธิว เล็กกี้, มักซิมิเลี่ยน มิตเทิ่ลสตัดท์, วาเลนติโน่ ลาซาโร่ - ดาวี เซลเก้

      มานูเอล บอย์ม เฮ้ดโค้ชของ เอ๊าก์สบวร์ก จะหมดสิทธิ์ใช้งาน รานี เคดิร่า (11 นัด), เอริค ธอมมี่ (6 นัด) และ กอจโก้ คาชาร์ (1 นัด) ที่ควงแขนกันเดี้ยงอยู่ทั้งหมด ส่วนในรายของ ดาเนี่ยล โอปาเร่ (12 นัด) กองหลังตัวแกร่งติดโทษแบน อดบู๊เช่นกัน แต่สำหรับ อัลเฟร็ด ฟินโบกาสัน (13 นัด / 8 ประตู) พร้อมลุยแน่นอน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เอ๊าก์สบวร์ก (4-2-3-1) : มาร์วิน ฮิตซ์ - ราฟาเอล ฟรัมแบร์เกอร์, มาร์ติน ฮินเตเร็กเกอร์, เจฟฟรี่ กูเวลูว์, ฟิลิปป์ มักซ์ - ดาเนี่ยล เบเยอร์, คู จา ชอล - มาร์เซล เฮลเลอร์, มิเชล เกรกอริช, คูบี้ - อัลเฟร็ด ฟินโบกาสัน

      จูเลี่ยน นาเกิ้ลมันน์ เทรนเนอร์ของ ฮอฟเฟ่นไฮม์ จะไร้เงาของ จัสติน ฮู้กม่า, ฟลอเรียน กริลลิช (7 นัด), เฟลิกซ์ พาสลัค (2 นัด), ว้ากเนอร์ (11 นัด / 4 ประตู) และ โรบิน ฮัค (1 นัด / 1 ประตู) ที่ยังเดี้ยงกันทั้งเซ็ต แต่จะมีข่าวดีตรงที่ เควิน โฟ้กท์ (12 นัด) แนวรับตัวสำคัญ กลับมาลงสนามได้แล้ว หลังชดใช้โทษแบนเรียบร้อย

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮอฟเฟ่นไฮม์ (3-4-3) : โอลิเวอร์ เบามันน์ - เควิน อัคโปกูม่า, เควิน โฟ้กท์, เบนจามิน ฮุบเนอร์ - พาเวล คาเดราเบค, เคเรม เดเมียร์เบย์, เดนนิส ไกเกอร์, นิโก้ ชูลซ์ - นาเดียม อามิรี่, มาร์ก อูธ, แซร์ก จีนาบรี

      อันเดร ไบรเท่นไรเตอร์ นายใหญ่ของ ฮันโนเวอร์ ยังเหลือนักเตะเจ็บอีก 5 ราย ได้แก่ เฟลิเป้ (4 นัด), อิห์ลัส เบบู (11 นัด / 3 ประตู), โจนาธาส (7 นัด / 3 ประตู), อุฟเฟ่ เบ็ค และ เอ็ดการ์ พริบ ส่วนในรายของ วัลเดมาร์ แอนตัน (13 นัด) ปราการหลังดาวรุ่ง ต้องรอเช็คฟิตก่อนลงสนามอีกครั้ง แต่เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮันโนเวอร์ (3-4-3) : ฟิลิปป์ ชอเนอร์ - โอลิเวอร์ ซอร์ก, ซาลิฟ ซาเน่, วัลเดมาร์ แอนตัน - จูเลี่ยน คอร์บ, เพอร์มิน ชเว็กเลอร์, มาร์วิน บาคาลอร์ซ, มัทธีอัส ออสเตอร์โซเลค - มาร์ติน ฮาร์นิค, เฟลิกซ์ เคล๊าส์, นิคลาส ฟัลครู้ก

      คริสเตียน สไตรช์ นายใหญ่ของ ไฟร์บวร์ก เหลือตัวเจ็บอีก 3 คน คือ มาร์ก เคมพ์ (4 นัด), ไมค์ ฟร๊านซ์ (11 นัด) และ ฟลอเรียน นีแดร์เลชเนอร์ (10 นัด / 2 ประตู) นั่นหมายความว่า สไตรซ์ สามารถยก 11 ขุนพลเซ็ตเก่ามาใช้งานกันได้อย่างต่อเนื่อง โดยเกมนี้ นีล พีเตอร์เซ่น (12 นัด / 2 ประตู) จะรับบทบาทเป็นเพชรฆาตในแดนหน้าให้กับทีม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไฟร์บวร์ก (3-4-3) : อเล็กซานเดอร์ ชโวลอฟ - คักลาร์ โซยุนกู, โรบิน ค็อก, จูเลี่ยน ชุสเตอร์ - ปาสกาล สเตนเซิ่ล, ยานิค ฮาเบเรอร์, นิโคลัส ฮอฟเลอร์, คริสเตียน กุนเตอร์ - โยริก ราเว่ต์, มาร์โก แตร์รัซซิโน่ - นีล พีเตอร์เซ่น

      สเตฟาน รูเธนเบค เฮ้ดโค้ชคนใหม่ของ โคโลญจน์ มีรายชื่อลูกทีมเดี้ยงอย่าง โดมินิค ไฮนซ์ (11 นัด / 1 ประตู), โดมินิค มาโรห์ (6 นัด), โจนาส เอคเตอร์ (3 นัด), มาร์โก โฮเกอร์ (5 นัด), มาร์เซล ริสเซ่ (4 นัด), ไซม่อน โซลเลอร์ (9 นัด) และ จอห์น กอร์โดบา (8 นัด) ส่วนในรายของ ยูยะ โอซาโกะ (13 นัด / 1 ประตู) ดันมาติดโทษแบนอีก

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โคโลญจน์ (4-2-2-2) : ติโม ฮอร์น - ลูคัส คลุนเตอร์, เฟรเดริค โซเรนเซ่น, ยานส์ ฮอร์น, คอนสแตนติน เร๊าส์ - มัทธีอัส เลห์มันน์, ซาลีห์ ออซคาน - มิลอส โยยิช, เลออน บิตเท่นคอร์ต - เคลาดิโอ ปิซาร์โร่, เซห์รู กีรัสซี่

      โดเมนิโก้ เทเดสโก้ เทรนเนอร์ของ ชาลเก้ จะไร้เงาของ ปาโบล อินซัว, เลออน โกเร็ตส์ก้า (11 นัด / 4 ประตู), นาบิล เบนตาเลบ (6 นัด / 3 ประตู) และ อเลสซานโดร ช็อป (3 นัด) เพราะโดนอาการเจ็บเล่นงาน คาดว่า เทเดสโก้ จะเรียกตัว เวสตัน แม็คเคนนี่ (10 นัด) กับ มักซ์ เมเยอร์ (12 นัด) มาช่วยกันแก้ปัญหาในแดนกลาง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ชาลเก้ (3-4-3) : ราล์ฟ ฟาห์รมันน์ - เบนจามิน สตอมบูลี่, นัลโด้, มาติย่า นาสตาซิช - ดาเนี่ยล คาลิกูรี่, เวสตัน แม็คเคนนี่, มักซ์ เมเยอร์, บาสเตียน อ๊อกซิปก้า - อามีน ฮาริต, กีโด บวร์กสตัลเลอร์, เยฟเกนี โคโนพิลยานก้า

      ดีเตอร์ เฮ็กคิงก์ กุนซือของ กลัดบัค มีรายงานความเสียหายเรื่องลูกทีมเดี้ยงเข้ามาเป็น 7 คน คือ โทนี่ ยานช์เก้ (3 นัด), พาทริค เฮอร์มันน์ (11 นัด), ฟาเบียน จอห์นสัน (9 นัด / 1 ประตู), โยนาส ฮอฟมันน์ (7 นัด), อิบราฮิม่า ตราโอเร่ (3 นัด), ลาซโล่ เบนส์ (1 นัด) และ โทเบียส สโตรเบิ้ล นั่นทำให้ เฮ็กคิงก์ แทบไม่มีสิทธิ์ปรับทีม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
กลัดบัค (4-4-2) : ยาน ซอมเมอร์ - นิโก้ เอลเวดี้, มัทธีอัส กินเตอร์, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, ออสการ์ เวนด์ - ธอร์แกน อาซาร์, คริสโตฟห์ เครเมอร์, เดนิส ซากาเรีย, วินเชนโซ่ กริโฟ่ - ลาร์ส สไตน์เดิ้ล, ราฟฟาเอล

      มาร์ติน ชมิดท์ ผู้จัดการทีมของ โวล์ฟสบวร์ก ยังไม่มีชื่อของ อิ๊กนาซิโอ กามาโช่ (9 นัด) กับ ยาคุบ บลาสซีคอฟสกี้ (7 นัด / 1 ประตู) ที่ยังเดี้ยงเหมือนเก่า ส่วนในรายของ มักซิมิเลี่ยน อาร์โนลด์ (12 นัด / 1 ประตู) ห้องเครื่องตัวเก่ง กลับมาลงเล่นได้อีกครั้ง หลังจากชดใช้โทษห้ามแข่งไปแล้วเรียบร้อย และน่าจะได้ลงเล่นเป็น 11 ตัวจริงทันที

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โวล์ฟสบวร์ก (4-2-3-1) : โกเยนส์ กัสตีลส์ - พอล เวอร์ฮาจ, เฟลิกซ์ อูดูโอไค, จอห์น บรู้คส์, มาร์เซล ทิสเซอรันด์ - โจฌัว กีลาโว้ก, มักซิมิเลี่ยน อาร์โนลด์ - ดิว๊อค โอริกี, ดาเนี่ยล ดิดาวี, ยูนุส มัลลี่ - มาริโอ โกเมซ

      มาร์คุส กิสดอล เฮ้ดโค้ชของ ฮัมบูร์ก เหลืออยู่เพียงแค่ นิโคไล มุลเลอร์ (1 นัด / 1 ประตู) กองกลางวัย 30 ปีคนเดียวเท่านั้น ที่ไม่พร้อมใช้บริการ ส่วนกำลังรบคนอื่นๆ พร้อมลุยอยู่นานแล้ว คาดว่า กิสดอล น่าจะก็อปปี้ 11 ขุนพลชุดเก่ามาใช้งานต่อ เพราะทุกคนเล่นกันได้สุดยอดมากๆ โดยเฉพาะ ยาน อาร์ป (6 นัด / 2 ประตู) ศูนย์หน้าดาวรุ่งของทีม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮัมบูร์ก (4-3-3) : มาเธเนีย - เดนนิส เดี๊ยคเมเยอร์, คิเรียกอส ปาปาโดปูลอส, แมร์กิม มาฟราย, ดั๊กลาส ซานโต๊ส - อารอน ฮันท์, กีเดียน จุง, โกโตคุ ซากาอิ - ทัตสึยะ อิโตะ, ยาน อาร์ป, ฟิลิป คอสติช

      จุ๊ป ไฮย์เกส เทรนเนอร์ของ บาเยิร์น ยังไม่มีชื่อของ มานูเอล นอยเออร์ (3 นัด), ธิอาโก้ อัลกานตาร่า (9 นัด / 1 ประตู) และ อาร์เยน ร๊อบเบน (11 นัด / 3 ประตู) ที่ยังเจ็บไม่หายสักที เชื่อว่านัดนี้ ไฮย์เกส จะโรเตชั่นนักเตะแน่ๆ หลังจากที่มีบางคนได้พักในบอลยุโรป โดย โธมัส มุลเลอร์ (10 นัด / 1 ประตู) เตรียมออกสตาร์ทตั้งแต่ต้นเกม

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
บาเยิร์น (4-2-3-1) : สเวน อุลไรช์ - โจฌัว กิมมิค, เจอโรม บัวเต็ง, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, ดาวิด อลาบา - อาร์ตูโร่ วิดัล, ฆาบี มาร์ติเนซ - โธมัส มุลเลอร์, ฮาเมส โรดริเกวซ, คิงส์ลี่ย์ โกม็อง - โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

      นิโก้ โควัค ผู้จัดการทีมของ แฟร้งค์เฟิร์ต ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน โจนาธาน เดอ กุซมัน (8 นัด), มาสกาเรล, มาร์โก ฟาเบียน และ อเล็กซานเดอร์ เมเยอร์ ที่ควงแขนกันพักรักษาตัวอยู่ แต่เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะโฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในเกมนี้ น่าจะเป็นชุดเดียวกับทีมชุดที่บุกไปเอาชนะ แฮร์ธ่าฯ 2-1 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แฟร้งค์เฟิร์ต (3-4-3) : ลูคัส ฮราเด็กกี้ - การ์ลอส ซัลเซโด้, ดาบิด อับราฮัม, ไซม่อน ฟาแลต - มาริอุส โวล์ฟ, เควิน พริ๊นซ์ บัวเต็ง, มาโกโตะ ฮาเซเบะ, เจโทร วิลเลมส์ - มิยัต กาซิโนวิช, เซบาสเตียน ฮัลเลอร์ - อันเต เรบิช

      ซานโดร ชวาร์ซ กุนซือของ ไมนซ์ เหลือชื่อลูกทีมบาดเจ็บในลิสต์อีก 2 ราย ได้แก่ เรเน่ อ๊าดเลอร์ (9 นัด) และ คาริม โอนิซิโว่ (2 นัด) ส่วนในรายของ สเตฟาน เบล (14 นัด / 1 ประตู) จะติดโทษห้ามแข่ง แต่ข่าวดีแบบสุดๆ ก็ คือ ดาเนี่ยล โบรซิสกี้ (13 นัด / 1 ประตู) กับ โยชิโนริ มุโตะ (12 นัด / 3 ประตู) ฟิตสมบูรณ์เเล้ว

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไมนซ์ (4-1-4-1) : โรบิน เซนต์เนอร์ - จูลิโอ โดนาติ, อเล็กซานเดอร์ ฮัค, อับดู ดิยัลโล่, ดาเนี่ยล โบรซินสกี้ - ฌอง กีบาแมง - เลวีน ออซตูนาลี่, อเล็กซานดรู มักซิม, แดนนี่ ลัตซ่า, ปาโบล เด บลาซิส - โยชิโนริ มุโตะ

      ราล์ฟ ฮาเซ่นฮุตเทิ่ล นายใหญ่ของ ไลป์ซิก ยังไร้เงาของ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ (11 นัด / 2 ประตู) มิดฟิลด์ชาวออสเตรีย ที่ยังสลัดคราบเดี้ยงไม่ได้ ส่วนในรายของ เอมิล ฟอร์สเบิร์ก (12 นัด / 1 ประตู) กับ ดาโย่ต์ อูปาเมกาโน่ (12 นัด) สองกำลังหลักของทีม ต้องรอเช็คความฟิตก่อนลงสนามกันอีกครั้ง ว่ามีใครลงเล่นไหวบ้าง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไลป์ซิก (4-2-2-2) : ปีเตอร์ กาลัคซี่ - แบร์นาร์โด้, อิบราฮิม่า โกนาเต้, วิลลี่ ออร์แบน, มาร์เซล ฮัลส์เท่นแบร์ก - นาบี เกอิต้า, คอนราด ไลเมอร์ - เควิน คัมเพิ่ล, บรูม่า - ยุสซุฟ โพลเซ่น, ติโม แวร์เนอร์

      ฟลอเรียน โคห์เฟลด์ เฮ้ดโค้ชของ เบรเมน จะไม่มีชื่อของ ลูก้า กัลดิโรล่า (1 นัด), อารอน โยฮันส์สัน (2 นัด), มิชาเอล เซตเตเรอร์, อูลิเซส การ์เซีย (1 นัด) และ จาง ยู่หนิง ที่ต้องพักรักษาตัวอยู่ทั้งหมด เชื่อว่า โคห์เฟลด์ จะเรียกใช้บริการของ 11 ขุนพลชุดเดิม เนื่องจากผลงานยอดเยี่ยมอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เบรเมน (4-3-3) : ยีรี พาฟเลนก้า - เกเบร เซลาสซี่, นิโคลัส มอยซานเดอร์, มิลอส เวลโกวิช, ลุดวิก ออกุสตินส์สัน - มักซิมิเลี่ยน เอ็กเก้สไตน์, ฟิลิปป์ บาร์กเฟรเด้, โธมัส เดอลานี่ย์ - ฟิน บาร์เทิ่ลส์, มักซ์ ครูเซ่, ซลัตโก้ ยูนูโซวิช

      ปีเตอร์ บอสซ์ เทรนเนอร์ของ ดอร์ทมุนด์ มีลิสต์ลูกทีมบาดเจ็บในทือ 7 ราย ได้แก่ ลูคัส พิสเซค (7 นัด), เอริค ดอร์ม, กอนซาโล่ กาสโตร (12 นัด), มาริโอ เกิทเซ่ (10 นัด / 1 ประตู), เซบาสเตียน โรด, มักซิมิเลี่ยน ฟิลิปป์ (11 นัด / 6 ประตู) และ มาร์โก รอยส์ แต่มีข่าวดีที่ ปิแอร์ ออบาเมย็อง (12 นัด / 11 ประตู) กลับมาสู่ทีมได้แล้ว

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ดอร์ทมุนด์ (3-4-3) : โรมัน บูร์กี - โซเครติส, เนเว่น ซูโบติช, มาร์เซล ชเมลเซอร์ - คริสเตียน พูลิซิช, จูเลี่ยน ไวเกิ้ล, นูรี ซาฮิน, ราฟาเอล เกร์ไรโร่ - อันเดร ยาร์โมเลนโก้, ปิแอร์ ออบาเมย็อง, อันเดร ชูร์เล่

      โคล้ด ปูแอล เฮ้ดโค้ชของ เลสเตอร์ จะไม่มีชื่อของ โรเบิร์ต ฮูธ กับ แม็ตธิว เจมส์ (4 นัด) ที่มีอาการเจ็บรบกวน แต่คงไม่ส่งผลอะไรอีกแล้ว เพราะ ปูแอล น่าจะก็อปปี้ 11 ตัวจริงมาจากนัดก่อนๆ เนื่องจากลูกทีมกำลังโชว์ฟอร์มเด็ดกันทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เจมี่ วาร์ดี้ (15 นัด / 7 ประตู) หัวหอกตัวความหวังของสโมสร

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เลสเตอร์ (4-4-1-1) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล - แดนนี่ ซิมป์สัน, เวส มอร์แกน, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, คริสเตียน ฟุ๊คส์ - ริย๊าด มาห์เรซ, วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้, บิเซนเต้ อิบอร์ร่า, มาร์ก อัลไบรจ์ตัน - เดมาไร เกรย์ - เจมี่ วาร์ดี้

      ราฟาเอล เบนิเตซ เทรนเนอร์ของ นิวคาสเซิ่ล จะเหลือเพียงแค่ พอล ดัมเม็ตต์ (1 นัด) แนวรับวัย 26 ปี คนเดียวเท่านั้น ที่เป็นเเข้งเดี้ยงค้างสต็อก ส่วนขุมกำลังที่เหลือพร้อมลุยกันทั้งหมด คาดว่า "เอล ราฟา" น่าจะมีการปรับทัพกันใหม่อีกครั้ง โดยเกมนี้จะวาง ดไวจ์ท เกย์ล (12 นัด / 2 ประตู) ยืนค้ำเป็นกองหน้าตัวเป้า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
นิวคาสเซิ่ล (4-2-3-1) : คาร์ล ดาร์โลว์ - เดอันเดร เยดลิน, จามัล ลาสเซลเลส, แชนเซล เอ็มเบ็มบา, ฆาบี มานกีโญ่ - ไอแซ็ก เฮย์เด้น, มิเกล เมริโน่ - แม็ตต์ ริตชี่, อาโยเซ่ เปเรซ, คริสเตียน อัตซู - ดไวจ์ท เกย์ล

      ทอร์สเท่น ฟริ๊งส์ เฮ้ดโค้ชของ ดาร์มสตัดท์ ยังไม่มีชื่อของ ปีเตอร์ นีเมเยอร์ (1 นัด) และ ซิห์ลาส เซห์นเดอร์ ที่ยังสลัดคราบเดี้ยงไม่ได้ แต่กำลังรบที่เหลือพร้อมลุยอยู่นานแล้ว คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ขุนพลน่าจะมีการปรับเปลี่ยนบ้าง เพราะผลงานไม่กระเตื้องขึ้นเลย แต่ในรายของ เทอร์เรนซ์ บอยด์ (10 นัด / 3 ประตู) คงได้รับความไว้วางใจอยู่

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ดาร์มสตัดท์ (4-2-3-1) : ดาเนี่ยล ฮอยเออร์ - มาร์คุส สไตน์โฮเฟอร์, อายทัก ซูลู, พาทริค แบงการ์ด, ฟาเบียน ฮอลลันด์ - วิลสัน คามาวูอาก้า, ฮามิต อัลตินท็อป - โทเบียส เคมเป้, จูเลี่ยน ฟาน ฮัคเค่, มาร์วิน เมห์เลม - เทอร์เรนซ์ บอยด์

      ฮานเนส ดรูว์ส นายใหญ่ของ เออร์ซเกเบียร์เก้ เอา ยังหมดสิทธิ์ใช้บริการของ นิคกี้ อาดเลอร์ มิดฟิลด์ประสบการณ์สูง ที่อยู่ในช่วงรีดฟิตเหมือนเดิม ส่วนในรายของ นิโคไล แร็ปป์ (16 นัด) วิงแบ็คซ้ายตัวแกร่ง จะอดบู๊เกมนี้เช่นกัน เพราะติดโทษห้ามแข่ง ทำให้ ดรูว์ส ต้องปรับทัพด้วยการส่ง เซบาสเตียน เฮิร์ทเนอร์ (13 นัด) จะลงประจำการแทน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เออร์ซเกเบียร์เก้ เอา (3-4-3) : มาร์ติน มานเนิ่ล - ฟาเบียน คาลิก, โดมินิค วีดร้า, เดนนิส เคมเป้ - คาโลเกโร่ ริซซูโต้, คริสเตียน ทิฟเฟิร์ต, เคลเมนส์ ฟานดริช, เซบาสเตียน เฮิร์ทเนอร์ - โซเรน เบิร์ทรัม, ปาสกาล ค็อปเค่, ดิม่า นาซารอฟ

      มาร์คุส อันแฟง ผู้จัดการทีมของ โฮลสไตน์ เคียล เหลือลูกทีมเจ็บค้างสต็อกอีก 2 คน คือ คริสโตเฟอร์ เลนซ์ (4 นัด) กับ มานูเอล ยานเซอร์ (4 นัด / 1 ประตู) แต่ชั่วโมงนี้คงไม่ส่งผลในการจัดทีมอีกแล้ว เพราะ อันแฟง คงไม่คิดเปลี่ยนแปลง 11 ตัวจริงแต่อย่างใด เนื่องจากทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองกันได้อย่างยอดเยี่ยมอยู่แล้วนั่นเอง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โฮลสไตน์ เคียล (4-1-4-1) : เคนเนธ ครอนโฮล์ม - พาทริค เฮอร์มันน์, โดมินิค ชมิดท์, ราฟาเอล ซีโชส, โยฮันส์ ฟาน เดน เบิร์ก - เดวิด คินซอมบี้ - คิงส์ลี่ย์ ชินด์เลอร์, อเล็กซานเดอร์ มูห์ลิ่ง, โดมินิค เดร็กซ์เลอร์, อารอน เซย์เดล - มาร์วิน ดุ๊คช์

      ทอร์สเท่น ลีเบิร์คเน็ชท์ เฮ้ดโค้ชของ บราวน์ชไวก์ จะไม่มีชื่อของ โยเซฟ บัฟโฟ่ (11 นัด / 3 ประตู), เมียร์โก โบลันด์ (8 นัด / 2 ประตู), คริสตอฟเฟอร์ นีมัน (9 นัด / 3 ประตู) และ โดมินิค คุมเบล่า (6 นัด / 1 ประตู) เพราะโรคเดี้ยงเข้าครอบงำ ส่วนในรายของ เคน ไรเชิ่ล (16 นัด / 1 ประตู) จะงดลงสนาม เนื่องจากติดโทษแบน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
บราวน์ชไวก์ (4-1-4-1) : ยัสมิน เฟย์ซิช - โรบิน เบ็คเคอร์, กุสตัฟ วัลสวิค, สตีฟ เบรทคร๊อยซ์, นิโค คิยิวสกี้ - หลุยส์ แซมซั่น - เฮนดริค ซุค, ยาน ฮอชไชด์, โอเนล เฮอร์นานเดซ, ซาลิม เคลิฟี่ - ซูเลมาน อับดุลลาไฮ

      อายคุต โคชามัน เทรนเนอร์ของ เฟเนร์บาห์เช่ จะไร้เงาของ เมห์เหม็ด เอคิชี่ (4 นัด), อัลเปอร์ โปตุค (10 นัด / 2 ประตู), แฟร์นานเดา (1 นัด) และ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ (2 นัด) ที่ยังใช้บริการของโรงพยาบาลอยู่ทั้งหมด ส่วนในรายของ โรเบร์โต้ โซลดาโด้ (10 นัด / 3 ประตู) กองหน้าชาวสเปน ต้องรอเช็คความฟิตก่อนเกมเริ่มอีกครั้ง

      ปอล เลอ กูเอน ผู้จัดการทีมของ บูร์ซาสปอร์ ปวดตับในการจัดทัพแน่ เพราะมีรายชื่อลูกทีมบาดเจ็บมากถึง 8 คน แถมเป็นตัวสำคัญอย่าง มิเกล อากู (11 นัด / 2 ประตู) รวมอยู่ด้วย เท่านั้นไม่พอ ยังต้องรอเช็คฟิตของ ปาโบล บาตาญ่า (13 นัด / 4 ประตู) กับ วิลเลี่ยม ตรูสต์-เอคอง (13 นัด / 2 ประตู) สองตัวหลักของทีมอีกต่างหาก

      แซร์จิโอ้ วิเอร่า นายใหญ่ของ โมไรเรนเซ่ มีรายงานความเสียหายเรื่องนักเตะเจ็บเข้ามา 5 ราย ได้แก่ ปิแอร์ ซาญ่า (9 นัด), บรูโน่ ซิลวา, บรูโน่ รามิเรส (10 นัด), เออร์เนสต์ โอเอเม็ง (4 นัด) และ อุสมาเน่ ดราเม่ ส่วนในรายของ ฮิชัม เบลคาร์อุย (4 นัด) ปราการหลังชาวแอลจีเรีย จะติดโทษห้ามแข่ง หมดสิทธิ์ลงสนาม

      มิเกล คาร์โดโซ่ กุนซือของ ริโอ อาฟ จะขาดหายไปเพียงแค่ ซิลเวริโอ้ แนวรับดาวรุ่งวัย 21 ปีเท่านั้นที่เป็นแข้งเดี้ยงค้างสต็อกอยู่ ส่วนในรายของ ตารานตินี่ (13 นัด) กองกลางกัปตันทีมจะติดโทษแบน อดบู๊เช่นกัน แต่สำหรับหัวหอกตัวความหวังอย่าง กูเอเดส (12 นัด / 4 ประตู) พร้อมลงผลิตสกอร์ให้กับต้นสังกัดได้แน่

      เดเร็ค แม็คอินเนส เทรนเนอร์ของ อเบอร์ดีน ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน เกร็ก แทนซีย์ (9 นัด) กับ แกรี่ แม็คเคย์-สตีเว่น (11 นัด / 1 ประตู) สองมิดฟิลด์คนสำคัญที่ยังสลัดคราบเดี้ยงกลับมาไม่ได้ แต่สำหรับ ไรอัน คริสตี้ (14 นัด / 2 ประตู) กลับมาลงสนามได้แล้ว หลังจากรับโทษพักแข้งไปแล้ว โดยน่าจะได้ลงเป็น 11 ตัวจริงทันทีในนัดนี้

      นีล แม็คคาน นายใหญ่ของ ดันดี จะไร้เงาของ เจมส์ แม็คเพค, เคร็ก วิจตัน และ ลิวอิส สเพนเซ่ (9 นัด) ที่ยังต้องใช้บริการของโรงพยาบาลอยู่ แต่ขุมกำลงคนอื่นๆ ฟิตเต็มสูบพร้อมลุยกันทั้งหมด คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงไม่น่าจะต่างไปจากนัดที่ผ่านๆ มา ซึ่งจะนำทีมมาโดย ฟายส์ซาล เอล บัคห์ตาอุย (14 นัด / 3 ประตู)

      ไฮโค แฮร์ลิช เฮ้ดโค้ชของ เลเวอร์คูเซ่น จะไม่มีชื่อของ ชาร์ล อรานกุซ (12 นัด / 1 ประตู) กับ วลาเดน ยูร์เชนโก้ ที่ต้องพักรักษาตัวอยู่ ส่วนในรายของ เวนเดล (12 นัด / 1 ประตู) แบ็คซ้ายตัวเก่ง ก็ดันติดโทษแบนอีก แต่จะมีข่าวดีสุดๆ ตรงที่ โดมินิค คอห์ร (12 นัด / 1 ประตู) ห้องเครื่องคนสำคัญ เดินสวนทางกลับมาช่วยทีมได้แล้ว

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เลเวอร์คูเซ่น (3-4-3) : แบร์นด์ เลโน่ - สเวน เบนเดอร์, โจนาธาน ตาห์, พานาจิโอติส เรตซอส - เบนจามิน เฮนริชส์, โดมินิค คอห์ร, ลาร์ส เบนเดอร์, เลออน ไบลี่ย์ - ไค ฮาเวิร์ทซ์, เควิน โฟลลันด์, จูเลี่ยน บรันด์

      ฮันเนส โวล์ฟ เทรนเนอร์ของ สตุ๊ตการ์ต จะหมดสิทธิ์ใช้บริการของ เดนิส บูร์นิช (4 นัด), ดาเนี่ยล กินเซค (6 นัด / 2 ประตู), อเล็กซานเดอร์ เมเยอร์, มัทธิอัส ซิมเมอร์มันน์ (2 นัด) และ คาร์ลอส มาเน่ ที่โดนอาการเจ็บเล่นงาน คาดว่า โวล์ฟ จะปรับแนวรุกใหม่ทั้งหมด โดย ไซมอน เทร็อดด์ (13 นัด / 2 ประตู) จะกลับมาเป็นหน้าเป้า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
สตุ๊ตการ์ต (3-4-2-1) : รอน โรเบิร์ต ซีเลอร์ - ติโม บอย์มการ์ตเทิ่ล, โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์, มาร์ซิน คามินสกี้ - เบนจามิน ปาวาร์, คริสเตียน เกนท์เนอร์, ซานติอาโก้ อัสกากิบาร์, เอมิเลียโน่ อินซัว - ชัดรัค อาโคโล่, อานาสตาซิออส โดนิส - ไซมอน เทร็อดด์

      เมห์เหม็ด ออซดิเล็ค กุนซือของ คอนยาสปอร์ จะไม่มีชื่อของ เลโบกัง มานยาม่า (5 นัด), อับดุล ราซัค ตราโอเร่ (1 นัด), เยนส์ ยอนส์สัน (7 นัด) และ โวลคาน ฟินดิคลี่ (1 นัด) ที่ยังสลัดอาการบาดเจ็บไม่หลุด ส่วนในรายของ เอเรน อัลบายรัค (5 นัด) แนวรับวัย 26 ปี ต้องรอเช็คความฟิตก่อนลงสนามอีกครั้ง ว่าฟิตทันลงเล่นหรือไม่

      เปโดร มาร์ตินส์ นายใหญ่ของ วิตอเรีย กิมาไรส์ มีลิสต์ลูกทีมเดี้ยงเพิ่มเป็น 5 คน ไล่มาตั้งแต่ มาร์คอส วาเลนเต้ (6 นัด), กิห์สเลน โคนาน (7 นัด), อัลฮัสซัน วาคาโซ่ (7 นัด), ดาวิด เตเซร่า (2 นัด) และ ฌูเนียร์ ตาโญ่ (6 นัด) นั่นบังคับให้ มาร์ตินส์ ต้องปรับทัพเป็นการด่วน แต่โชคดีที่ ราฟาเอล (13 นัด / 8 ประตู) พร้อมลงผลิตสกอร์

      มาร์โก โรเซ่ เฮ้ดโค้ชของ ซัลซ์บวร์ก ต้องรอเช็คความฟิตของ ฮันเนส โวล์ฟ (14 นัด / 4 ประตู) กองกลางตัวสำคัญเพียงคนเดียวเท่านั้น ส่วนขุมกำลังที่เหลือพร้อมลุยกันทั้งหมด โดยจะมี มาริน ปอนกราซิช (7 นัด), ทาคุมิ มินามิโนะ (12 นัด / 4 ประตู) และ มูนาส ดับบูร์ (16 นัด / 12 ประตู) พาเหรดกันลงเป็น 11 ตัวจริง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ซัลซ์บวร์ก (4-4-2) : อเล็กซานเดอร์ วัลเค่ - สเตฟาน ไลเนอร์, มาริน ปอนกราซิช, ดูเย่ คาเลต้า-คาร์, อันเดรียส อุลเมอร์ - อามาดู ไอดาร่า, ซาเวอร์ ชลาเกอร์, ทาคุมิ มินามิโนะ, วาลอน เบริช่า - มูนาส ดับบูร์, เฟรดริค กุลบรานด์เซ่น

      รูดี้ การ์เซีย ผู้จัดการทีมของ มาร์กเซย จะไม่มีชื่อของ เกรกอรี่ เเซร์ติช (4 นัด), บูบาการ์ กามาร่า (1 นัด) และ ฟลอริย็อง โตเเว็ง (16 นัด / 8 ประตู) ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวน ส่วนในรายของ ฌอด็อง อามาวี่ (12 นัด) แบ็คซ้ายตัวเก่ง จะติดโทษห้ามแข่ง เชื่อว่า วาเลอรี่ แชร์กแมง (14 นัด) จะได้รับโอกาสยืนเป็นหน้าเป้าต่อ

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
มาร์กเซย (4-2-3-1) : สตีฟ ม็องด็องด้า - ฮิโรกิ ซาคาอิ, โรลันโด้, อาดิล รามี่, อายเมน อับเดนนูร์ - ลุยซ์ กุสตาโว่, ฟร้อง ซัมโบ อังกูอิสซ่า - ลูคัส โอคัมโปส, มอร์แกน แซนซง, มักซิเม่ โลเปซ - วาเลอรี่ แชร์กแมง

      อาเบล แฟร์ไรร่า ผู้จัดการทีมของ สปอร์ติ้ง บราก้า จะหมดสิทธิ์ใช้บริการของ ราอูล ซิลวา (8 นัด / 1 ประตู), ลาซาร์ โรซิช (6 นัด), ฟรานแซร์จิโอ้ (12 นัด) และ เมาโร เนื่องจากโดนไข้เดี้ยงเข้าครอบงำ แต่จะมีข่าวดีตรงที่ เปาลินโญ่ (12 นัด / 3 ประตู) แนวรุกตัวเก่งวัย 25 ปี ฟิตเต็มสูบ พร้อมลงปั้นเกมรุกให้กับทีมเหมือนเก่าเหมือนเดิม

      อับดุลลาห์ อัฟชี่ เทรนเนอร์ของ อิสตันบูล บาซัคเซฮีร์ มีรายชื่อลูกทีมเจ็บในมืออยู่ 4 คน คือ โกคาห์น อินแลร์ (8 นัด), เอเกเมน คอร์คมาซ, เอลเยโร่ เอเลีย (12 นัด / 1 ประตู) และ ออเรลิย็อง เชดฌู นั่นบังคับให้ อัฟชี่ ต้องปรับผัง 11 ตัวจริงกันอีกครั้ง แต่ตัวความหวังอย่าง สเตฟาโน่ นาโปเลออนนี่ (7 นัด / 1 ประตู) จะลงล่าตาข่ายแน่นอน

      ดิมิตาร์ ดิมิตรอฟ กุนซือของ ลูโดโกเร็ตส์ จะขาดหายไปเพียงแค่ วลาดิสลาฟ สโตยานอฟ นายด่านประสบการณ์สูง คนเดียวเหมือนเดิมที่ยังเดี้ยงค้างสต็อกอยู่ คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในเกมนี้ น่าจะเป็นชุดที่ดีที่สุด นำทีมมาโดย เวอร์กิล มิซิดยาน (13 นัด / 7 ประตู) ดาวยิงตัวความหวังสัญชาติเนเธอร์แลนด์

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ลูโดโกเร็ตส์ (4-2-3-1) : เรนาน - ซิซินโญ่, อิกอร์ ปลาสตุน, คอสมิน โมติ, นาตานาเอล ปิเมียนต้า - อานิเซ็ต, ยาเซ็ค โกรัลสกี้ - โยดี้ ลูโคคิ, มาร์เซลินโญ่, วานเดอร์สัน - เวอร์กิล มิซิดยาน

      จูเลี่ยน นาเกิ้ลมันน์ นายใหญ่ของ ฮอฟเฟ่นไฮม์ จะไร้เงาของ เควิน โฟ้กท์ (12 นัด) กับ ซานโดร ว้ากเนอร์ (11 นัด / 4 ประตู) ที่ต้องพักรักษาตัวอยู่ ส่วนในรายของ เคเรม เดเมียร์เบย์ (12 นัด / 2 ประตู) และ อดัม ซาลาย (2 นัด) จะติดโทษแบน เชื่อว่า นาเกิ้ลมันน์ จะโรเตชั่นนักเตะหลายคนเพื่อลงเล่นเกมนี้เเน่นอน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮอฟเฟ่นไฮม์ (3-4-1-2) : โอลิเวอร์ เบามันน์ - สเตฟาน พอช, เออร์มิน บิคัคซิช, ฮาวาร์ด นอร์ดต์ไวต์ - เฟลิกซ์ พาสส์ลัค, ยูเกน โปลันสกี้, ลูคัส รุปป์, นิโก้ ชูลซ์ - เดนนิส ไกเกอร์ - มาร์ก อูธ, อันเดร ครามาริช

      อิลีร์ ดาย่า ผู้จัดการทีมของ สเคนเดอร์บู มีลิสต์ลูกทีมเดี้ยงในมือ 3 ราย ได้แก่ อาลี โซว์ (11 นัด / 4 ประตู), มาร์ติน เนสปอร์ (3 นัด) และ บรูโน่ ดิต้า (7 นัด / 1 ประตู) ส่วนในรายของ มาร์โก ราดาส (10 นัด / 1 ประตู) ปราการหลังตัวแกร่ง ต้องรอเช็คฟิตก่อนเริ่มเกมกันอีกครั้ง โดยเกมนี้ 11 ขุนพลน่าจะเป็นชุดผสมที่ลงเล่น

      อาดิ ฮัตเตอร์ กุนซือของ ยัง บอยส์ จะไม่มีชื่อของ ลอริส เบนิโต้ (5 นัด / 2 ประตู) กองกลางวัย 23 ปี ที่โดนอาการเจ็บเล่นงาน ส่วนในรายของ เซคู ซาโนโก้ (13 นัด) ห้องเครื่องชาวไอเวอรี่ โคสต์ ต้องรอเช็คความฟิตก่อนลงสนามอีกครั้ง แต่สำหรับ ฌอง เอ็นซาเม่ (16 นัด / 9 ประตู) หัวหอกตัวเก่งพร้อมลุยอยู่นานแล้ว

      มิโรสลาฟ ดูคิช เฮ้ดโค้ชของ ปาร์ติซาน เบลเกรด ยังไร้เงาของ โมฮัมเหม็ด มูนีร์ (2 นัด), เนโบย่า โคโซวิช (4 นัด / 1 ประตู) และ ดอร์เด้ โยวาโนวิช (6 นัด / 2 ประตู) ที่ต้องใช้บริการของโรงพยาบาลอยู่เหมือนเก่า คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงไม่น่าจะต่างจากชุดปัจจุบันที่ใช้งานอยู่ นำทีมมาโดย อก์นเย่น โอเซโกวิช (13 นัด / 4 ประตู)

      อเล็กซานเดอร์ คัตห์สเควิช เทรนเนอร์ของ ดินาโม เคียฟ ยังหมดสิทธิ์ใช้งานนักเตะเดี้ยงเซ็ตเดิมคือ มีคีต้า บูร์ด้า, นิคิต้า คอร์ซุน (8 นัด), เซอร์เฮย์ ซีดอร์ชุค (9 นัด) และ อาร์เต็ม คราเวตส์ (9 นัด / 3 ประตู) แต่คงไม่มีปัญหาอะไรในการจัดทัพเกมนี้ เพราะ คัตห์สเควิช น่าจะจัดสำรองลงเล่นเป็นส่วนใหญ่เพื่อให้โอกาสลงสนามปล่อยของบ้าง

      เรนัลโด้ รูเอด้า กุนซือของ ฟลาเมงโก้ ยังไร้เงาของ เอแดร์สัน และ ออร์ลันโด้ เบร์ริโอ ที่เป็นแข้งเดี้ยงค้างสต็อก ส่วนในรายของ เปาโล เกร์เรโร่ ก็ยังติดโทษห้ามแข่งอยู่เหมือนเก่า เพราะตรวจสารกระตุ้นไม่ผ่าน เชื่อว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในเกมนี้ ไม่น่าจะต่างจากชุดที่ลุยรอบรองชนะเลิศที่ผ่านมา เนื่องจากทุกคนเล่นดีกันอยู่แล้ว

      อาเรียล โฮลัน ผู้จัดการทีมของ อินเดเพนเดียนเต้ เตรียมขน 11 ขุนพลชุดที่เปิดบ้านเอาชนะ คลับ ลิเบร์ตัด 3-1 ลงบู๊กันแบบต่อเนื่อง เพราะลูกทีมทุกคนทำหน้าที่กันได้เยี่ยมอยู่แล้ว นำทีมมาโดย อลัน ฟรังโก้ (8 นัด), มักซิมิเลียโน่ เมซ่า (9 นัด / 2 ประตู), เอเซเกล บราโค (8 นัด / 1 ประตู) และ เอ็มมานูเอล จิ๊กลิอ็อตติ (6 นัด)

      เซนอล กูเนส ผู้จัดการทีมของ เบซิคตัส ยังไม่มีชื่อของ อิตินช์ นูคาน กับ โกคาห์น โตเร่ ที่เจ็บยาวอยู่ก่อนหน้านี้ แต่กำลังรบที่เหลือพร้อมลุยอยู่นานแล้ว เชื่อว่า กูเนส น่าจะยังจัดชุดที่ดีที่สุดลงบู๊เพื่อแสดงสปิริต นำทีมมาโดย เปเป้ (12 นัด / 1 ประตู), ริคาร์โด้ กวาเรสม่า (13 นัด / 1 ประตู) และ เซงค์ โตซุน (13 นัด / 6 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เบซิคตัส (4-2-3-1) : ฟาบรี้ - โกคาห์น โกนุล, เปเป้, ดุสก้า โทซิช, อาเดรียโน่ - อติบา ฮัตชินสัน, แกรี่ เมเดล - ริคาร์โด้ กวาเรสม่า, แอนเดอร์สัน ทาลิสก้า, ไรอัน บาเบล - เซงค์ โตซุน

      ราล์ฟ ฮาเซ่นฮุตเทิ่ล เทรนเนอร์ของ ไลป์ซิก จะหมดสิทธิ์ใช้งาน มาร์เซล ซาบิตเซอร์ (11 นัด / 2 ประตู) กองกลางตัวสำคัญที่โดนไข้เดี้ยงเล่นงาน ส่วนในรายของ วิลลี่ ออร์แบน (10 นัด / 1 ประตู) ปราการหลังคีย์แมนอีกคน ต้องรอเช็คความฟิตก่อนลงสนามอีกครั้ง แต่สำหรับ ติโม แวร์เนอร์ (12 นัด / 7 ประตู) พร้อมลุยแน่นอน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไลป์ซิก (4-4-2) : ปีเตอร์ กาลัคซี่ - ลูคัส โคลสเตอร์มันน์, อูปาเมกาโน่, อิบราอิมา โคนาเต้, มาร์เซล ฮัลส์เท่นแบร์ก - นาบี เกอิต้า, ดิเอโก้ เดมม์, เอมิล ฟอร์สเบิร์ก, บรูม่า - ยุสซุฟ โพลเซ่น, ติโม แวร์เนอร์

      เลโอนาร์โด้ ยาร์ดิม นายใหญ่ของ โมนาโก มีลูกทีมเจ็บมากมายถึง 8 ราย ไล่มาตั้งแต่ อันเดรีย ราจจี้ (5 นัด), ซูอาลิโอ เมอิเต้ (2 นัด), ยูรี่ เตเลม็องส์ (12 นัด), โตมัส เลอมาร์ (10 นัด / 1 ประตู), กาเบรียล บอสชิเลีย (3 นัด), อดาม่า ตราโอเร่ (3 นัด / 3 ประตู), ฆอร์ดี้ เอ็มบูล่า และ สเตฟาน โยเวติช (6 นัด / 2 ประตู) ทำให้การจัดทีมเป็นไปได้ยากยิ่ง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โมนาโก (4-2-3-1) : ดาเนียล ซูบาซิช - อัลมามี่ ตูเร่, คามิล กลิค, เชเมอร์สัน, ชอร์เก้ - ฟาบินโญ่, เกแว็ง เอ็นโดรัม - โรนี่ โลเปซ, เจา มูตินโญ่, เกอิต้า บัลเด้ - กุยโด้ คาร์ริโญ่

      แซร์โจ้ คอนไซเซา กุนซือของ ปอร์โต้ จะไร้เงาของ เเซร์โจ้ โอลิเวียร่า (3 นัด) ห้องเครื่องวัย 25 ปี ที่ติดโทษแบน แต่ขุมกำลังคนอื่นๆ ยังอยู่กันครบ คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในเกมนี้ จะประกอบไปด้วย เฟลิเป้ (13 นัด / 1 ประตู), ดานิโล่ เปไรร่า (12 นัด / 1 ประตู), ยาซีน บราฮิมี่ (13 นัด / 4 ประตู) และ แว็งซองต์ อาบูบาการ์ (13 นัด / 9 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ปอร์โต้ (4-3-3) : โชเซ่ ซา - ริคาร์โด้ เปไรร่า, อิวาน มาร์กาโน่, เฟลิเป้, อเล็กซ์ เทลเลส - เอคตอร์ เอร์เรร่า, ดานิโล่ เปไรร่า, โอตาวินโญ่ - มุสซ่า มาเรก้า, ยาซีน บราฮิมี่, แว็งซองต์ อาบูบาการ์