วิเคราะห์บอล / วิเคราะห์บอลวันนี้

      เซนอล กูเนส ผู้จัดการทีมของ เบซิคตัส ยังไม่มีชื่อของ อิตินช์ นูคาน กับ โกคาห์น โตเร่ ที่เจ็บยาวอยู่ก่อนหน้านี้ แต่กำลังรบที่เหลือพร้อมลุยอยู่นานแล้ว เชื่อว่า กูเนส น่าจะยังจัดชุดที่ดีที่สุดลงบู๊เพื่อแสดงสปิริต นำทีมมาโดย เปเป้ (12 นัด / 1 ประตู), ริคาร์โด้ กวาเรสม่า (13 นัด / 1 ประตู) และ เซงค์ โตซุน (13 นัด / 6 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เบซิคตัส (4-2-3-1) : ฟาบรี้ - โกคาห์น โกนุล, เปเป้, ดุสก้า โทซิช, อาเดรียโน่ - อติบา ฮัตชินสัน, แกรี่ เมเดล - ริคาร์โด้ กวาเรสม่า, แอนเดอร์สัน ทาลิสก้า, ไรอัน บาเบล - เซงค์ โตซุน

      ราล์ฟ ฮาเซ่นฮุตเทิ่ล เทรนเนอร์ของ ไลป์ซิก จะหมดสิทธิ์ใช้งาน มาร์เซล ซาบิตเซอร์ (11 นัด / 2 ประตู) กองกลางตัวสำคัญที่โดนไข้เดี้ยงเล่นงาน ส่วนในรายของ วิลลี่ ออร์แบน (10 นัด / 1 ประตู) ปราการหลังคีย์แมนอีกคน ต้องรอเช็คความฟิตก่อนลงสนามอีกครั้ง แต่สำหรับ ติโม แวร์เนอร์ (12 นัด / 7 ประตู) พร้อมลุยแน่นอน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไลป์ซิก (4-4-2) : ปีเตอร์ กาลัคซี่ - ลูคัส โคลสเตอร์มันน์, อูปาเมกาโน่, อิบราอิมา โคนาเต้, มาร์เซล ฮัลส์เท่นแบร์ก - นาบี เกอิต้า, ดิเอโก้ เดมม์, เอมิล ฟอร์สเบิร์ก, บรูม่า - ยุสซุฟ โพลเซ่น, ติโม แวร์เนอร์

      เลโอนาร์โด้ ยาร์ดิม นายใหญ่ของ โมนาโก มีลูกทีมเจ็บมากมายถึง 8 ราย ไล่มาตั้งแต่ อันเดรีย ราจจี้ (5 นัด), ซูอาลิโอ เมอิเต้ (2 นัด), ยูรี่ เตเลม็องส์ (12 นัด), โตมัส เลอมาร์ (10 นัด / 1 ประตู), กาเบรียล บอสชิเลีย (3 นัด), อดาม่า ตราโอเร่ (3 นัด / 3 ประตู), ฆอร์ดี้ เอ็มบูล่า และ สเตฟาน โยเวติช (6 นัด / 2 ประตู) ทำให้การจัดทีมเป็นไปได้ยากยิ่ง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โมนาโก (4-2-3-1) : ดาเนียล ซูบาซิช - อัลมามี่ ตูเร่, คามิล กลิค, เชเมอร์สัน, ชอร์เก้ - ฟาบินโญ่, เกแว็ง เอ็นโดรัม - โรนี่ โลเปซ, เจา มูตินโญ่, เกอิต้า บัลเด้ - กุยโด้ คาร์ริโญ่

      แซร์โจ้ คอนไซเซา กุนซือของ ปอร์โต้ จะไร้เงาของ เเซร์โจ้ โอลิเวียร่า (3 นัด) ห้องเครื่องวัย 25 ปี ที่ติดโทษแบน แต่ขุมกำลังคนอื่นๆ ยังอยู่กันครบ คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในเกมนี้ จะประกอบไปด้วย เฟลิเป้ (13 นัด / 1 ประตู), ดานิโล่ เปไรร่า (12 นัด / 1 ประตู), ยาซีน บราฮิมี่ (13 นัด / 4 ประตู) และ แว็งซองต์ อาบูบาการ์ (13 นัด / 9 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ปอร์โต้ (4-3-3) : โชเซ่ ซา - ริคาร์โด้ เปไรร่า, อิวาน มาร์กาโน่, เฟลิเป้, อเล็กซ์ เทลเลส - เอคตอร์ เอร์เรร่า, ดานิโล่ เปไรร่า, โอตาวินโญ่ - มุสซ่า มาเรก้า, ยาซีน บราฮิมี่, แว็งซองต์ อาบูบาการ์

      เฮน ฟานแฮเซบรู้ค ผู้จัดการทีมของ อันเดอร์เลชท์ มีรายชื่อลูกทีมเดี้ยงในมือ 3 คน คือ แอนดี้ นาฆาร์ (1 นัด), นิโคเล สแตนซิอู (10 นัด / 1 ประตู) และ เอ็มมานูเอล โซวาห์ (1 นัด) ส่วนในรายของ อเล็กซานดรู ชิปซิอู (10 นัด) มิดฟิลด์ประจำทีม จะอดบู๊เช่นกัน เนื่องจากเหตุผลส่วนตัว แต่ตัวหลักคนอื่นอยู่กันครบ

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
อันเดอร์เลชท์ (4-5-1) : ฟร้องค์ โบเอ็คซ์ - เดนนิส อัปเปียห์, โจซัว ซา, เลอันแดร์ เดนดองเก้ร์, โอลิวิเย่ร์ เดส์ชัคท์ - โซฟิยาน ฮานนี่, อาเดรียน เตรอแบล, สเวน คุมส์, ปีเตอร์ แกร์เคนส์, เฮนรี่ ออนเยกูรู - ลูคัส ตีโอดอร์เซียค

      เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เทรนเนอร์ของ เซลติก จะหมดสิทธิ์ใช้งาน แอนโธนี่ ราลสตัน (3 นัด) กับ พาทริค โรเบิร์ตส์ (6 นัด) ที่ควงเเขนกันเจ็บอยู่ แต่ขุมกำลังที่เหลือพร้อมลุยกันอยู่นานเเล้ว คาดว่า "บีร็อดจ์" น่าจะยังจัดชุดใหญ่ลงสู้ศึก เพราะผลของเกมนี้ยังตัดสินทีมที่จะได้เป็นเล่นยูโรป้า ลีก อยู่ จึงยังประมาทไม่ได้

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
เซลติก (4-2-3-1) : เคร็ก กอร์ดอน - มิคาเอล ลุสติก, เนอร์ บิตตัน, เดดริค โบยาต้า, คีแรน เทียร์นี่ย์ - สก็อต บราวน์, โอลิวิเย่ร์ เอ็นต์ชาม - เจมส์ ฟอร์เรสต์, คัลลัม แม็คเกรเกอร์, สก็อต ซินแคลร์ - เลจ กริฟฟิธส์

      อูไน เอเมรี่ เทรนเนอร์ของ เปแอสเช จะไร้เงาของ ธิอาโก้ ม็อตต้า (8 นัด / 1 ประตู), โลเรนโซ่ กาเญการี่ และ เรมี่ เดชองส์ ที่โดนไข้เดี้ยงเข้าครอบงำ แต่คงไม่ส่งผลอะไรกับทีม เพราะ เอเมรี่ ยังมีตัวเลือกระดับพระกาฬอีกเพียบ คาดว่า เนย์มาร์ (12 นัด / 9 ประตู) ซูเปอร์สตาร์ชาวเเซมบ้า จะเดินนำเพื่อนๆ ลงสู่สนามเหมือนเก่า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เปแอสเช (4-3-3) : อัลโฟนเซ อเรโอลา - ดาเนี่ยล อัลเวส, ธิอาโก้ ซิลวา, มาร์ควินญอส, เลย์แว็ง คูร์ซาว่า - อาเดรียน ราบิโอต์, มาร์โก แวร์รัตติ, จูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์ - เนย์มาร์, เอดินสัน คาวานี่, คีเลียน เอ็มบัปเป้

      จุ๊ป ไฮย์เกส นายใหญ่ของ บาเยิร์น ยังไม่มีชื่อของ มานูเอล นอยเออร์ (3 นัด), ฆวน เบร์นาต (2 นัด), ธิอาโก้ อัลกานตาร่า (9 นัด / 1 ประตู) และ อาร์เยน ร๊อบเบน (11 นัด / 3 ประตู) ส่วนในรายของ คิงส์ลี่ย์ โกม็อง (12 นัด / 2 ประตู) ต้องรอเช็คฟิตก่อนลงสนามอีกครั้ง แต่ที่สมบูรณ์แน่นอน คือ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (14 นัด / 14 ประตู)

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
บาเยิร์น (4-3-3) : สเวน อุลไรช์ - โจฌัว กิมมิค, นิคลาส ซูเล่, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, ดาวิด อลาบา - อาร์ตูโร่ วิดัล, ฆาบี มาร์ติเนซ, โกร็องแต็ง โตลิสโซ่ - คิงส์ลี่ย์ โกม็อง, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, ฮาเมส โรดริเกวซ

      ดีเตอร์ เฮ็กคิงก์ ผู้จัดการทีมของ กลัดบัค มีรายงานความเสียหายเรื่องนักเตะเจ็บเข้ามา 5 ราย ได้แก่ โทนี่ ยานช์เก้ (3 นัด), โยนาส ฮอฟมันน์ (7 นัด), อิบราฮิม่า ตราโอเร่ (3 นัด), ลาซโล่ เบนส์ (1 นัด) และ โทเบียส สโตรเบิ้ล แต่คงไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร เฮ็กคิงก์ เตรียมยึด 11 ขุนพลจากชุดปัจจุบันลงลุยต่ออยู่แล้ว

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
กลัดบัค (4-4-2) : ยาน ซอมเมอร์ - นิโก้ เอลเวดี้, มัทธีอัส กินเตอร์, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, ออสการ์ เวนด์ - ธอร์แกน อาซาร์, เดนิส ซากาเรีย, คริสโตฟห์ เครเมอร์, วินเชนโช่ กริโฟ่ - ลาร์ส สไตน์เดิ้ล, ราฟฟาเอล

      มาร์ติน ชมิดท์ เทรนเนอร์ของ โวล์ฟสบวร์ก จะหมดสิทธิ์ใช้งาน "สามเดี้ยง" แก๊งเดิม คือ เซบาสเตียน จุง, อิ๊กนาซิโอ กามาโช่ (9 นัด) เเละ ยาคุบ บลาสซีคอฟสกี้ (7 นัด / 1 ประตู) ส่วนในรายของ มักซิมิเลี่ยน อาร์โนลด์ (12 นัด / 1 ประตู) จะติดโทษห้ามแข่ง เพราะโดนไล่ออกมาจากเกมที่บุกแพ้ เอ๊าก์สบวร์ก 1-2

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โวล์ฟสบวร์ก (4-3-3) : โกเยนส์ กัสตีลส์ - พอล เวอร์ฮาจ, โรบิน น๊อคเก้, จอห์น บรู้คส์, มาร์เซล ทิสเซอรันด์ - โจฌัว กีลาโว้ก, ดาเนี่ยล ดิดาวี, ยานนิค แกร์ฮาร์ด - ดิว๊อค โอริกี, มาริโอ โกเมซ, ยูนุส มัลลี่

      นิโก้ โควัค เฮ้ดโค้ชของ แฟร้งค์เฟิร์ต จะหมดสิทธิ์ใช้บริการของ ทิโมธี แชนด์เลอร์ (9 นัด), โจนาธาน เดอ กุซมัน (8 นัด), มาสกาเรล, มาร์โก ฟาเบียน และ อเล็กซานเดอร์ เมเยอร์ ที่ยังเดี้ยงอยู่ คาดว่า โควัค จะวางหมากมาในระบบ 3-4-2-1 โดยจะวางใจให้ เซบาสติยง ฮัลเเลร์ (13 นัด / 5 ประตู) ยืนค้ำคอยพักบอลให้กับเพื่อนร่วมทีม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แฟร้งค์เฟิร์ต (3-4-2-1) : ลูคัส ฮราเด็กกี้ - การ์ลอส ซัลเซโด้, ดาบิด อับราฮัม, ไซม่อน ฟาแลต - มาริอุส โวล์ฟ, เควิน พริ๊นซ์ บัวเต็ง, มิยัต กาซิโนวิช, เจโทร วิลเลมส์ - มาร์ก สเตนเดร่า, อันเต เรบิช - เซบาสติยง ฮัลเเลร์

      พาล ดาร์ได กุนซือของ แฮร์ธ่าฯ จะไม่มีชื่อของ เซบาสเตียน ลังคัมป์ (9 นัด), วลาดิเมียร์ ดาริด้า (7 นัด) และ วาเลนติน สต๊อคเกอร์ (3 นัด) ที่มีอาการเจ็บรบกวน เชื่อว่า ช่องโหว่ในแนวรับที่เกิดขึ้น จะถูกเติมเต็มโดย นิคลาส สตาร์ค (9 นัด / 1 ประตู) ส่วนในแนวรุกจะมี ดาวี เซลเก้ (6 นัด / 1 ประตู) จับคู่กับ เวดัด อิบิเซวิช (11 นัด / 4 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แฮร์ธ่าฯ (4-2-2-2) : รูเน่ ยาร์สไตน์ - มิตเชล ไวเซอร์, นิคลาส สตาร์ค, คาริม เรกิ๊ก, มาร์วิน แพล็ตเท่นฮาร์ด - อาร์เน่ เมเยอร์, เพอร์ สเคลเบร็ด - แมทธิว เล็กกี้, ซาโลมง กาลู - เวดัด อิบิเซวิช, ดาวี เซลเก้

      เยนส์ เคลเลอร์ เฮ้ดโค้ชของ ยูนิโอน เบอร์ลิน มีรายชื่อ 3 ตัวเจ็บเซ็ตเก่า คือ มิชาเอล พาเรนเซ่น (3 นัด), ฟาเบียน โชนไฮม์ (10 นัด) และ เคนนี่ เรดอนโด้ (2 นัด) นั่นหมายความว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง ไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไร โดยจะมี เซบาสเตียน โพลเตอร์ (15 นัด / 9 ประตู) ยืนค้ำอยู่ด้านบน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ยูนิโอน เบอร์ลิน (4-2-3-1) : ยาค็อบ บุสค์ - คริสโตเฟอร์ ทริมเมิ่ล, โทนี่ ไลส์เนอร์, ตอร์เรฆอน, คริสเตียน พีเดอร์เซ่น - กริสชา โพรเมล, เดนนิส เด๊าบ์ - ไซม่อน เฮดลุนด์, มาร์เซล ฮาร์เทล, อาคาคิ กอก้า - เซบาสเตียน โพลเตอร์

      เยนส์ ราซิเยฟสกี้ ผู้จัดการทีมของ โบคุ่ม จะไม่มีชื่อของ มานูเอล รีมันน์ (12 นัด), อองโตนี่ โลซิลล่า (14 นัด) และ ติโม เพอร์เธิ่ล ที่โดนไข้เดี้ยงเข้าครอบงำ คาดว่า ราซิเยฟสกี้ จะปรับหมากเพิ่มแนวรุกมากขึ้นด้วยการใช้ระบบ 4-3-3 โดยจะวาง ร็อบบี้ ครูส (12 นัด / 3 ประตู) ให้เป็นตัวความหวังในการผลิตสกอร์

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โบคุ่ม (4-3-3) : มานูเอล รีมันน์ - แยน กียาเมร่าห์, ทิม ฮู้กลันด์, เฟลิกซ์ บาสเตียนส์, ดานิโล่ ซัวเรส - สเตฟาโน่ เชลอซซี่, โรเบิร์ต เทสเช่, วิตาลี่ ยาเนลท์ - ร็อบบี้ ครูส, ลูคัส ฮินเตอร์เซียร์, เควิน สโตเกอร์

      ฮานเนส ดรูว์ส เทรนเนอร์ของ เออร์ซเกเบียร์เก้ เอา ยังไม่มีชื่อของ นิคกี้ อาดเลอร์ มิดฟิลด์ประสบการณ์สูง ที่ยังไม่พร้อมใช้บริการ ส่วนในรายของ เดนนิส เคมเป้ (10 นัด / 1 ประตู) กลับมาประจำการเป็นตัวจริงได้แล้ว เพราะชดใช้โทษแบนเรียบร้อย และสำหรับ ดิม่า นาซารอฟ (12 นัด / 2 ประตู) พร้อมลงล่าตาข่ายแน่นอน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เออร์ซเกเบียร์เก้ เอา (3-5-2) : มาร์ติน มานเนิ่ล - ฟาเบียน คาลิก, โดมินิค วีดร้า, นิโคไล แร็ปป์ - คาโลเกโร่ ริซซูโต้, คริสเตียน ทิฟเฟิร์ต, เคลเมนส์ ฟานดริช, ฟิลิปป์ รีเซ่, เดนนิส เคมเป้ - ปาสกาล ค็อปเค่, ดิม่า นาซารอฟ

      อูเว่ นอยฮุส นายใหญ่ของ ไดนาโม เดรสเดน จะหมดสิทธิ์ใช้งาน โซเรน กอนเธอร์ (4 นัด), นิคลาส ครอยเซอร์ (12 นัด / 1 ประตู) และ ปาสกาล เทสโทร้ต (1 นัด) ที่ยังเดี้ยงอยู่ แต่ก็คงไม่มีปัญหาอะไรในการจัดทัพคืนนี้ เพราะ นอยฮุส เตรียมจะก็อปปี้ 11 ขุนพลชุดที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน มาลงเล่นกันอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไดนาโม เดรสเดน (4-3-3) : มาร์วิน ชว้าบ - ปอล เซกุน, ยานนิค มุลเลอร์, ฟลอเรียน บัลลัส, ฟิลิป ไฮส์ - ริโก้ เบนาเทลลี่, มาร์โก้ ฮาร์ทมันน์, นิคลาส เฮาป์มันน์ - เอริช เบอร์โก้, ลูคัส โรเซอร์, ฮาริส ดุลเยวิช

      อาคิม เบเยอร์ลอร์เซอร์ นายใหญ่ของ ยาห์น เรเก้นส์บวร์ก เหลือเพียงแค่ โอลิเวอร์ ไฮน์ กับ สเวน ค็อป เท่านั้น ที่ไม่พร้อมใช้งาน แต่กำลังรบที่เหลือพร้อมลุยอยู่นานแล้ว เชื่อว่า เบเยอร์ลอร์เซอร์ น่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง 11 ตัวจริงแต่อย่างใด เพราะลูกทีมเล่นกันได้อย่างดีเยี่ยมอยู่แล้ว โดยเฉพาะ มาร์โก กรุตเนอร์ (15 นัด / 4 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ยาห์น เรเก้นส์บวร์ก (4-2-2-2) : ฟิลิปป์ เพนท์เก้ - เบเนดิคท์ ซอลเลอร์, เซบาสเตียน นัชไรเนอร์, มาร์วิน โนล, อเล็กซานเดอร์ นานด์ซิค - มาร์ก ไลส์, อันเดรียส ไกเพิ่ล - ซาร์กิส อดัมยาน, เซยาสเตียน สโตลเซ่ - โจนาส ไนท์เฟลด์, มาร์โก กรุตเนอร์

      ทอร์สเท่น ฟริ๊งส์ เทรนเนอร์ของ ดาร์มสตัดท์ มีลิสต์แข้งเดี้ยงในมืออยู่ 3 คน คือ ปีเตอร์ นีเมเยอร์ (1 นัด), ซิห์ลาส เซห์นเดอร์ และ เฟลิกซ์ พลัตเต (6 นัด / 2 ประตู) คาดว่า ฟริ๊งส์ น่าจะยังมั่นใจใน 11 ขุนพลชุดที่บุกเสมอ ยูนิโอน เบอร์ลิน 3-3 ในเกมลีกนัดล่าสุด โดยจะวาง เทอร์เรนซ์ บอยด์ (9 นัด / 3 ประตู) ยืนเป็นหน้าเป้าเหมือนเดิม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ดาร์มสตัดท์ (4-2-3-1) : โยเอล มอล - เควิน โกร๊สครอยซ์, อายทัก ซูลู, พาทริค แบงการ์ด, ฟาเบียน ฮอลลันด์ - วิลสัน คามาวูอาก้า, ฮามิต อัลตินท็อป - โทเบียส เคมเป้, จาน โรเซนธาล, มาร์วิน เมห์เลม - เทอร์เรนซ์ บอยด์

      แกรม เมอร์ตี้ เฮ้ดโค้ชของ เรนเจอร์ส ยังไม่มีชื่อของ ลี วัลเลซ (5 นัด), เกรแฮม ดอร์แรนส์ (10 นัด / 5 ประตู) และ จอร์แดน รอสซิเตอร์ (1 นัด) ที่ต้องใช้บริการของโรงหมออยู่ ส่วนในรายของ อัลเฟรโด้ โมเรลอส (14 นัด / 6 ประตู) ดาวยิงตัวเก่งประจำทีม ต้องรอเช็คความฟิตก่อนลงสนามอีกครั้ง แต่คาดว่าน่าจะลงเล่นไหว

      เดเร็ค แม็คอินเนส กุนซือของ อเบอร์ดีน จะไร้เงาของ เกร็ก แทนซีย์ (9 นัด) กับ แกรี่ แม็คเคย์-สตีเว่น (11 นัด / 1 ประตู) สองกองกลางตัวหลักที่โดนอาการเจ็บเล่นงาน ส่วนในรายของ ไรอัน คริสตี้ (14 นัด / 2 ประตู) ห้องเครื่องคนสำคัญอีกคน ก็ดันติดโทษห้ามแข่งอีก นั่นบังคับให้ แม็คอินเนส ต้องแก้ปัญหาในแดนกลางทันที

      ปีเตอร์ สโตเกอร์ เทรนเนอร์ของ โคโลญจน์ ยังเหลือ "7 เดี้ยง" เซ็ตเดิม ไล่มาตั้งแต่ โดมินิค ไฮนซ์ (11 นัด / 1 ประตู), โดมินิค มาโรห์ (6 นัด), เลออน บิตเท่นคอร์ต (12 นัด), โจนาส เอคเตอร์ (3 นัด), มาร์โก โฮเกอร์ (5 นัด), มาร์เซล ริสเซ่ (4 นัด) และ จอห์น กอร์โดบา (8 นัด) แต่ได้ตัว เฟรเดริค โซเรนเซ่น (12 นัด / 1 ประตู) กลับมาแล้ว

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โคโลญจน์ (4-2-3-1) : ติโม ฮอร์น - ลูคัส คลุนเตอร์, เฟรเดริค โซเรนเซ่น, ฆอร์เก้ เมเร่, คอนสแตนติน เร๊าส์ - มิลอส โยยิช, ซาลีห์ ออซคาน - คริสเตียน เกลเมนส์, ยูยะ โอซาโกะ, ทิม ฮันด์แวร์เกอร์ - เซห์รู กีรัสซี่

      โดเมนิโก้ เทเดสโก้ ผู้จัดการทีมของ ชาลเก้ มีรายชื่อลูกทีมบาดเจ็บอยู่ 3 ราย ได้แก่ ธีโล่ เคห์เรอร์ (13 นัด), ปาโบล อินซัว และ ดาเนี่ยล คาลิกูรี่ (13 นัด / 2 ประตู) คาดว่านันี้ มาติย่า นาสตาซิช (9 นัด) จะกลับมาคุมเกมรับตามเดิม และในเกมรุกจะมี เลออน โกเร็ตส์ก้า (10 นัด / 4 ประตู) กับ อามีน ฮาริต (12 นัด / 1 ประตู) ลงช่วยทีมเช่นกัน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ชาลเก้ (3-4-2-1) : ราล์ฟ ฟาห์รมันน์ - เบนจามิน สตอมบูลี่, นัลโด้, มาติย่า นาสตาซิช - อเลสซานโดร ชอป, มักซ์ เมเยอร์, เลออน โกเร็ตซ์ก้า, บาสเตียน อ๊อกซิปก้า - อามีน ฮาริต, เยฟเกนี โคโนพิลยานก้า - กีโด บวร์กสตัลเลอร์

      มานูเอล บอย์ม กุนซือของ เอ๊าก์สบวร์ก มีเพียงแค่ รานี เคดิร่า (11 นัด) มิดฟิลด์วัย 23 ปีคนเดียวเท่านั้น ที่โดนไข้เดี้ยงเข้าครอบงำ ส่วนกำลังรบที่เหลือพร้อมลุยอยู่นานแล้ว ซึ่งช่องโหว่ตรงนี้ จะถูกเติมเต็มโดย คู จา ชอล (11 นัด) ห้องเครื่องทีมชาติเกาหลีใต้ แต่สำหรับ อัลเฟร็ด ฟินโบกาสัน (11 นัด / 5 ประตู) ฟิตเต็มสูบแน่นอน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เอ๊าก์สบวร์ก (4-2-3-1) : มาร์วิน ฮิตซ์ - ดาเนี่ยล โอปาเร่, มาร์ติน ฮินเตเร็กเกอร์, เจฟฟรี่ กูเวลูว์, ฟิลิปป์ มักซ์ - ดาเนี่ยล เบเยอร์, คู จา ชอล - มาร์เซล เฮลเลอร์, มิเชล เกรกอริช, คูบี้ - อัลเฟร็ด ฟินโบกาสัน

      ซานโดร ชวาร์ซ นายใหญ่ของ ไมนซ์ มีลิสต์ลูกทีมเจ็บในมืออยู่ 4 คน คือ เรเน่ อ๊าดเลอร์ (9 นัด), อับดู ดิยัลโล่ (11 นัด / 2 ประตู), โฆโร (1 นัด)
และ โยชิโนริ มุโตะ (12 นัด / 3 ประตู) แต่ยังพอมีข่าวดีเข้ามาบ้าง เมื่อ จูลิโอ โดนาติ (12 นัด) แนวรับตัวสำคัญ กลับมาจากชดใช้โทษห้ามแข่งเเล้ว และน่าจะลงเป็นตัวจริงทันที

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไมนซ์ (4-2-3-1) : โรบิน เซนต์เนอร์ - ดาเนี่ยล โบรซินสกี้, สเตฟาน เบล, เลออน บาโลกัน, จูลิโอ โดนาติ - ฌอง กีบาแมง, แดนนี่ ลัตซ่า - เลวีน ออซตูนาลี่, อเล็กซานดรู มักซิม, ปาโบล เด บลาซิส - เคนัน โคโดร

      ปีเตอร์ บอสซ์ นายใหญ่ของ ดอร์ทมุนด์ มีรายชื่อลูกทีมเจ็บยาวเป็นหางว่าว ไล่มาตั้งแต่ โรมัน บูร์กิ (12 นัด), ดาน ซากาดู (11 นัด / 1 ประตู), เอริค ดอร์ม, มาริโอ เกิทเซ่ (10 นัด / 1 ประตู), เซบาสเตียน โรด, อเล็กซานเดอร์ อิซัค (1 นัด) และ มาร์โก รอยส์ แถม ปิแอร์ ออบาเมย็อง (12 นัด / 11 ประตู) ดันติดโทษแบนอีก

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ดอร์ทมุนด์ (4-3-3) : โรมัน บูร์กี - เยเรมี โตลยาน, มาร์ก บาร์ตรา, โซเครติส, มาร์เซล ชเมลเซอร์ - มาริโอ เกิทเซ่, จูเลี่ยน ไวเกิ้ล, ชินจิ คากาวะ - คริสเตียน พูลิซิช, ปิแอร์ ออบาเมย็อง, มักซิมิเลี่ยน ฟิลิปป์

      ไฮโค แฮร์ลิช กุนซือของ เลเวอร์คูเซ่น จะไม่มีชื่อของ สเวน เบนเดอร์ (11 นัด / 2 ประตู) กับ เวนเดล (12 นัด / 1 ประตู) สองกำลังสำคัญที่โดนไข้เดี้ยงเล่นงาน ส่วนในรายของ โดมินิค คอห์ร (12 นัด / 1 ประตู) ห้องเครื่องตัวเทพ ก็อดบู๊เช่นกัน เพราะติดโทษห้ามแข่ง ทำให้ จูเลี่ยน บอย์มการ์ตลิงเกอร์ (6 นัด) ต้องลงเล่นแทน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เลเวอร์คูเซ่น (3-4-2-1) : แบร์นด์ เลโน่ - ลาร์ส เบนเดอร์, โจนาธาน ตาห์, พานาจิโอติส เรตซอส - อั๊ดเมียร์ เมห์เมดี้, ชาร์ล อรานกุซ, จูเลี่ยน บอย์มการ์ตลิงเกอร์, จูเลี่ยน บรันด์ - เควิน โฟลลันด์, เลออน ไบลี่ย์ - ลูกัส เอลาริโอ

      ฮันเนส โวล์ฟ เฮ้ดโค้ชของ สตุ๊ตการ์ต เหลือลูกทีมไม่พร้อมลงเล่นอีก 4 คน คือ ดาเนี่ยล กินเซค (6 นัด / 2 ประตู), อเล็กซานเดอร์ เมเยอร์, มัทธิอัส ซิมเมอร์มันน์ (2 นัด) และ คาร์ลอส มาเน่ คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงน่าจะเป็นชุดเดียวกับที่บุกเสมอ ฮันโนเวอร์ 1-1 โดยจะมี ทาคุมะ อาซาโนะ (11 นัด / 1 ประตู) ยืนเป็นหน้าเป้า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
สตุ๊ตการ์ต (3-4-2-1) : รอน โรเบิร์ต ซีเลอร์ - ติโม บอย์มการ์ตเทิ่ล, เบนจามิน ปาวาร์, โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์ - อันเดรียส เบ็ค, คริสเตียน เกนท์เนอร์, ซานติอาโก้ อัสกากิบาร์, เอมิเลียโน่ อินซัว - โจซิป เบรคาโล่, เบอร์คาย ออซคาน - ทาคุมะ อาซาโนะ

      ฟลอเรียน โคห์เฟลด์ เทรนเนอร์ของ เบรเมน จะหมดสิทธิ์ใช้งาน ลูก้า กัลดิโรล่า (1 นัด), อารอน โยฮันส์สัน (2 นัด), มิชาเอล เซตเตเรอร์ และ จัสติน อีแลร์ส เพราะยังมีอาการเจ็บรบกวนอยู่ ส่วนในรายของ โธมัส เดอลานี่ย์ (13 นัด / 1 ประตู) มิดฟิลด์ตัวเก่งของทีม ต้องรอเช็คความฟิตก่อนเริ่มเกมกันอีกครั้ง แต่เชื่อว่าน่าจะลงเล่นไหว

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เบรเมน (4-3-3) : ยีรี พาฟเลนก้า - เกเบร เซลาสซี่, นิโคลัส มอยซานเดอร์, ลูโดวิช ซาเน่, ลุดวิก ออกุสตินส์สัน - มักซิมิเลี่ยน เอ็กเก้สไตน์, ฟิลิปป์ บาร์กเฟรเด้, โธมัส เดอลานี่ย์ - ฟิน บาร์เทิ่ลส์, มักซ์ ครูเซ่, ซลัตโก้ ยูนูโซวิช

      ราล์ฟ ฮาเซ่นฮุตเทิ่ล นายใหญ่ของ ไลป์ซิก ยังไม่มีชื่อของ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ (11 นัด / 2 ประตู) ที่เป็นเเข้งเดี้ยงค้างสต็อกอยู่ ส่วนในรายของ มาร์เซล ฮัลส์เท่นแบร์ก (11 นัด) ฟูลแบ็คของทีม ต้องรอเช็คฟิตกันอีกครั้ง แต่คาดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร 11 ตัวจริงในนัดนี้จะนำทัพมาโดย ติโม แวร์เนอร์ (11 นัด / 7 ประตู) เจ้าเก่าเจ้าเดิม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไลป์ซิก (4-4-2) : ปีเตอร์ กาลัคซี่ - ลูคัส โคลสเตอร์มันน์, วิลลี่ ออร์แบน, อูปาเมกาโน่, มาร์เซล ฮัลส์เท่นแบร์ก - เควิน คัมเพิ่ล, ดีเอโก้ เดมม์, นาบี เกอิต้า, เอมิล ฟอร์สเบิร์ก - ยุสซุฟ โพลเซ่น, ติโม แวร์เนอร์

      จูเลี่ยน นาเกิ้ลมันน์ เฮ้ดโค้ชของ ฮอฟเฟ่นไฮม์ มีรายงานเรื่องลูกทีมเจ็บเข้ามา 4 ราย ได้แก่ เบนจามิน ฮุบเนอร์ (9 นัด / 1 ประตู), เออร์มิน บิซัคซิช (2 นัด), แซร์ก จีนาบรี (4 นัด) และ ว้ากเนอร์ (11 นัด / 4 ประตู) ส่วนในรายของ เควิน โฟ้กท์ (12 นัด) แนวรับตัวแกร่งจะติดโทษแบน บังคับให้ นาเกิ้ลมันน์ ต้องแก้ไขกองหลังในนัดนี้

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮอฟเฟ่นไฮม์ (4-3-3) : โอลิเวอร์ เบามันน์ - พาเวล คาเดราเบค, เควิน อัคโปกูม่า, สเตฟาน พอช, นิโก้ ชูลซ์ - เคเรม เดเมียร์เบย์, ฟลอเรียน กริลลิช, เดนนิส ไกเกอร์ - อันเดร ครามาริช, มาร์ก อูธ, นาเดียม อามิรี่

      อันเดร ไบรเท่นไรเตอร์ ผู้จัดการทีมของ ฮันโนเวอร์ มีรายงานลูกทีมเดี้ยงเข้ามา 6 คน คือ เฟลิเป้ (4 นัด), เพอร์มิน ชเว็กเลอร์ (12 นัด), มาร์ติน ฮาร์นิค (13 นัด / 5 ประตู), โจนาธาส (7 นัด / 3 ประตู), อุฟเฟ่ เบ็ค และ เอ็ดการ์ พริบ ส่วนในรายของ ซาลิฟ ซาเน่ (12 นัด / 1 ประตู) ปราการหลังตัวหลัก ต้องรอเช็คฟิตก่อนลงสนามอีกครั้ง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮันโนเวอร์ (3-4-3) : ฟิลิปป์ ชอเนอร์ - โอลิเวอร์ ซอร์ก, ซาลิฟ ซาเน่, แอนตัน - จูเลี่ยน คอร์บ, มานูเอล ชไมเดบัค, มาร์วิน บาคาลอร์ซ, มัทธีอัส ออสเตอร์โซเลค - เฟลิกซ์ เคล๊าส์, นิคลาส ฟัลครู้ก, อิห์ลัส เบบู

      จุ๊ป ไฮย์เกส เฮ้ดโค้ชของ บาเยิร์น จะไร้เงานักเตะเจ็บอย่าง มานูเอล นอยเออร์ (3 นัด), ดาวิด อลาบา (8 นัด / 1 ประตู), ฆวน เบร์นาต (2 นัด), ธิอาโก้ อัลกานตาร่า (9 นัด / 1 ประตู) และ อาร์เยน ร๊อบเบน (11 นัด / 3 ประตู) ทำให้ ไฮย์เกส ต้องแก้ปัญหาตรงแบ็คซ้ายอีกครั้ง โดยคราวนี้น่าจะเป็น ราฟินญ่า (9 นัด) ที่โยกข้ามฝั่งมาเล่น

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
บาเยิร์น (4-3-3) : สเวน อุลไรช์ - โจฌัว กิมมิค, นิคลาส ซูเล่, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, ราฟินญ่า - อาร์ตูโร่ วิดัล, ฆาบี มาร์ติเนซ, โกร็องแต็ง โตลิสโซ่ - คิงส์ลี่ย์ โกม็อง, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, ฮาเมส โรดริเกวซ

      รอย ฮ็อดจ์สัน กุนซือของ คริสตัล พาเลซ เหลือตัวเจ็บค้างสต็อกเซ็ตเดิม คือ อี ชุง ยอง (2 นัด), จอร์ดอน มัตช์ และ คอนเนอร์ วิคแฮม แต่จะมีข่าวดีเข้ามาตรงที่ เจมส์ แม็คอาร์เธอร์ (10 นัด / 1 ประตู) กลับมาช่วยทีมได้แล้ว แต่น่าจะนั่งเป็นสำรองไปก่อน ส่วนในรายของ คริสติย็อง เบนเตเก้ (9 นัด) ได้ลงเล่นแน่

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
คริสตัล พาเลซ (4-4-2) : เวย์น เฮนเนสซี่ย์ - โจเอล วอร์ด, สกอตต์ แดนน์, มามาดู ซาโก้, พาทริค ฟาน อานโฮลต์ - รูเบ็น ลอฟตัส-ชี๊ค, โยอัน กาบาย, ลูก้า มิลิโวเยวิช, แอนดรอส ทาวน์เซ่นด์ - วิลเฟร็ด ซาฮา, คริสติย็อง เบนเตเก้

      อลัน พาร์ดิว นายใหญ่ของ เวสต์ บรอมฯ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน เคร็ก ดอว์สัน (9 นัด), นาเซอร์ ชาดลี่ (2 นัด / 1 ประตู), เจมส์ มอร์ริสัน (4 นัด / 1 ประตู) และ แมตต์ ฟิลลิปส์ (13 นัด / 1 ประตู) ที่ยังต้องพักรักษาตัวอยู่ทั้งหมด คาดว่า พาร์ดิว น่าจะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง 11 ตัวจริงมากนัก น่าจะยึดชุดเดิมต่อไปอีกนัด

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เวสต์ บรอมฯ (4-3-3) : เบน ฟอสเตอร์ - อัลแล็ง นีย็อม, อาเหม็ด เฮกาซี่, จอนนี่ อีแวนส์, คีแรน กิ๊บบ์ส - เกรกอร์ซ ครีโชเวี๊ยค, เคลาดิโอ ยาค็อบ, เจค ลิเวอร์มอร์ - เจย์ โรดริเกวซ, ซาโลมอน รอนดอน, เจมส์ แม็คคลีน

      รุย วิตอเรีย นายใหญ่ของ เบนฟิก้า จะไร้เงาของ รูเบน ดิอาส (5 นัด) และ ฟิลิเป้ ออกุสโต้ (8 นัด) ที่ยังต้องใช้บริการของโรงพยาบาลอยู่ แต่ขุมกำลังที่เหลือ ไม่มีปัญหาใดในการเรียกใช้งาน คาดว่า วิตอเรีย จะไม่มีการปรับทัพแต่อย่างใด และจะส่ง "อาวุธหนัก" อย่าง โยนาส (12 นัด / 15 ประตู) ลงล่าตาข่ายอย่างแน่นอน

      แซร์โจ้ คอนไซเซา กุนซือของ ปอร์โต้ จะหมดสิทธิ์ใช้บริการของ เฆซุส โคโรน่า (11 นัด / 2 ประตู) แนวรุกตัวเก่งของทีม เนื่องจากจะติดโทษแบน ส่วนในรายของ โอตาวินโญ่ (5 นัด) ห้องเครื่องดาวรุ่งวัย 22 ปี ต้องรอเช็คความฟิตก่อนลงสนามอีกครั้ง แต่สำหรับ แว็งซองต์ อาบูบาการ์ (12 นัด / 9 ประตู) พร้อมลุยอยู่นานแล้ว

      ฆวน มูนญิซ นายใหญ่ของ เลบานเต้ จะไม่มีชื่อของ อีบัน โลเปซ (3 นัด), เจฟเฟอร์ซอน เลร์มา (8 นัด), ชีค ดูกูเร่ (10 นัด / 1 ประตู), โรเคร์ มาร์ตี้ และ อเล็กซ์ อาเลเกรีย (9 นัด) นั่นบังคับให้ มูนญิซ ต้องปรับทัพแก้ปัญหา 11 ตัวจริงเป็นการด่วน แต่สำหรับ เอเนส อูนัล (3 นัด / 1 ประตู) น่าจะได้รับโอกาสลงสนามต่อไปในเกมลีก

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เลบานเต้ (4-2-3-1) : ออยเอร์ โอลาซาบัล - ชาเกล มัวร์, เซร์คิโอ ปอสตีโก้, เชม่า โรดริเกซ, โตนโญ่ - โรแบร์ ปีเอร์, โฆเซ่ กัมปานญ่า - เฆซอน, เอนิส บาร์ดี, โฆเซ่ หลุยส์ โมราเลส - เอเนส อูนัล

      มิเชล ผู้จัดการทีมของ มาลาก้า มีลิสต์ลูกทีมเจ็บอยู่ 4 ราย ได้แก่ เฟเดริโก้ ริกก้า (5 นัด), มิเกล ตอร์เรส (1 นัด), ฆวน การ์ลอส (10 นัด) และ ซดราฟโก้ คูซมาโนวิช (5 นัด) แต่จะมีข่าวดีตรงที่ เรซีโอ้ (11 นัด / 1 ประตู) กลับมารับใช้ต้นสังกัดได้แล้ว หลังจากชดใช้โทษแบนเรียบร้อย และน่าจะลงเป็นตัวจริงคุมแดนกลางทันที

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
มาลาก้า (4-4-2) : โรเบร์โต้ ฆิมิเนซ - โรเบร์โต้ โรซาเลส, ลุยส์ เอร์นานเดซ, ปอล บายาสเซ่, ดีเอโก้ กอนซาเลซ - เกโก้, อาเดรียน กอนซาเลซ, เรซีโอ้, กอนซาโล่ กาสโตร - อาดัลลเบร์โต้ เปนารันด้า, ดีเอโก้ โรลัน

      โอลาฟ ยานส์เซ่น เทรนเนอร์ของ ซังต์ เพาลี มีรายงานความเสียหายเรื่องลูกทีมเดี้ยง 4 คน คือ มาร์ค ฮอร์นชูห์ (6 นัด), ฟิลิปป์ ซีไรส์, ริชาร์ด นอยเด็คเกอร์ (4 นัด) และ เรียว มิยาอิชิ ส่วนในรายของ เบอร์นด์ เนห์ริก (15 นัด) กองกลางตัวหลักจะติดโทษแบน เนื่องจากโดนไล่ออกจากนัดล่าสุดที่บุกแพ้ กรอยเธอร์ เฟือร์ธ 0-4

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ซังต์ เพาลี (4-2-3-1) : โรบิน ฮิมเมิ่ลมันน์ - ลูก้า ซานเดอร์, ลาส โซบีช, คริสโตเฟอร์ อาวีเวอร์, ดาเนี่ยล บูบัลล่า - โจฮันเนส ฟลุม, คริสโตเฟอร์ บุชมันน์ - เชงค์ ซาฮิน, โมลเลอร์ แดห์ลี่, วัลเดมาร์ โซโบต้า - อาซิซ บูฮัดดูซ

      เจฟ ไซบีน หัวเรือใหญ่ของ บีเลเฟลด์ จะไร้เงาของ คีนู สเต๊าด์ (14 นัด / 2 ประตู), นิลส์ ควอชเนอร์ (4 นัด) และ อันดรา สปอราร์ (9 นัด / 2 ประตู) ที่มีอาการเจ็บรบกวน เชื่อว่า ไซบีน น่าจะยังยึด 11 ขุนพลจากเกมที่บุกชนะ ชนะ ไกเซอร์ฯ 2-0 โดยจะมี อันเดรียส โฟเกิ้ลซามเมอร์ (15 นัด / 6 ประตู) เป็นตัวทีเด็ดในแดนหน้า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
บีเลเฟลด์ (4-2-2-2) : สเตฟาน ออร์เตก้า - ฟลอเรียน ดิ๊ค, จูเลี่ยน บอร์เนอร์, สเตฟาน ซัลเกอร์, ฟลอเรียน ฮาร์แธร์ซ - ทอม ชู๊ทซ์, มานูเอล เพรเทิ่ล - เลอันโดร ปูตาโร่, คอนสแตนติน เคิร์ชเบาเมอร์ - อันเดรียส โฟเกิ้ลซามเมอร์, ฟาเบียน โคลส

      เจฟ สตราสเซอร์ เฮ้ดโค้ชของ ไกเซอร์ฯ มีรายงานลูกทีมไม่พร้อมลุยอยู่ 5 คน คือ มาร์เซล กอร์เรอา (5 นัด), ยูเลียโน่ โมดิก้า (5 นัด), แม็ดส์ อัลบัค (4 นัด), โอซายาเมน โอซาเว่ (10 นัด) และ แค็กเปอร์ เพอร์ซีบิลโก้ (1 นัด) เชื่อว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในเกมนี้ น่าจะยังเป็นชุดเดิมอยู่ต่อไป เพราะเป็นทีมชุดที่ดีที่สุดแล้ว

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไกเซอร์ฯ (3-4-2-1) : มาริอุส มุลเลอร์ - เบนจามิน เคสเซิ่ล, สติเป วูกูร์, อาบู ฮันน่า - ฟิลิปป์ เวเน่, นิลส์ ซูแฟร์ต, คริสโตฟห์ มอริตซ์, เลออน กูวาร่า - แบรนดอน บอร์เรลโล่, โอเซ ควัดโว่ - เซบาสเตียน อันเดอร์สสัน

      แฟร้งค์ ชมิดท์ เทรนเนอร์ของ ไฮเด้นไฮม์ จะเหลือแค่ เซบาสเตียน กรีสเบ็ค (14 นัด) คนเดียวเเล้วเท่านั้น ที่ต้องพักอยู่ ส่วนในรายของ มาธิอัส วิตเทค (11 นัด / 1 ประตู) สลัดคราบเดี้ยงกลับมาช่วยทีมได้แล้ว และน่าจะได้ลงเป็น 11 ตัวจริงทันที แต่อีก 10 ตำแหน่งที่เหลือคงเป็นชุดเดิมแน่นอน เพราะกำลังเข้าขากันสุดๆ

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไฮเด้นไฮม์ (4-2-2-2) : เควิน มุลเลอร์ - โรเบิร์ต สเตร๊าส์, มาธิอัส วิตเทค, ติโม เบียร์มันน์, อาร์เน่ ฟีค - มาร์เซล ทิทช์-ริเวโร่, นอร์มัน ธอยเออร์เค๊าฟ์ - มาร์ก ชนัตเตอเรอร์, มักซี่ ธีล - โรเบิร์ต กลัทเซล, จอห์น เวอร์ฮ็อค

      มาร์คุส กิสดอล กุนซือของ ฮัมบูร์ก เหลือตัวเจ็บค้างสต็อกเซ็ตเดิม คือ บีจาร์เน่ โธเอลเค่, อัลบิน เอคดัล (8 นัด) และ นิโคไล มุลเลอร์ (1 นัด / 1 ประตู) นั่นหมายความว่า กิสดอล ไม่มีเหตุต้องเปลี่ยน 11 ตัวจริงที่เปิดบ้านชนะ ฮอฟเฟ่นไฮม์ 3-0 สามารถใช้บริการได้ต่อเนื่อง โดยจะมี ยาน อาร์ป (5 นัด / 2 ประตู) ลงเล่นกันต่อ

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮัมบูร์ก (4-2-3-1) : มาเธเนีย - เดนนิส เดี๊ยคเมเยอร์, คิเรียกอส ปาปาโดปูลอส, แมร์กิม มาฟราย, ดั๊กลาส ซานโต๊ส - กีเดียน จุง, โกโตคุ ซากาอิ - อารอน ฮันท์, บ็อบบี้ วู้ด, ฟิลิป คอสติช - ยาน อาร์ป

      คริสเตียน สไตรช์ นายใหญ่ของ ไฟร์บวร์ก จะหมดสิทธิ์ใช้งาน โจนาส เมฟเฟิร์ต, อามีร์ อาบราชี่ (3 นัด), มาร์ก เคมพ์ (4 นัด), มานูเอล กัลด์, ไมค์ ฟร๊านซ์ (11 นัด) และ ฟลอเรียน นีแดร์เลชเนอร์ (10 นัด / 2 ประตู) ที่กอดคอกันเดี้ยงอยู่ทั้งหมด คาดว่า สไตรซ์ จะถอด บาร์ตอซ คาปุสก้า (4 นัด / 1 ประตู) มานั่งสำรองตามเดิม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไฟร์บวร์ก (3-4-3) : อเล็กซานเดอร์ ชโวลอฟ - โรบิน โคช, จูเลี่ยน ชุสเตอร์, คักลาร์ โซยุนกู - ปาสกาล สเตนเซิ่ล, ยานิค ฮาเบเรอร์, นิโคลัส ฮอฟเลอร์, คริสเตียน กุนเตอร์ - มาร์โก้ แตร์ราซซิโน่, นีล พีเตอร์เซ่น, ฟลอเรียน คาธ

      เรนัลโด้ รูเอด้า เฮ้ดโค้ชของ ฟลาเมงโก้ ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน เอแดร์สัน และ ออร์ลันโด้ เบร์ริโอ ที่ต้องพักรักษาตัวอยู่ ส่วนในรายของ เปาโล เกร์เรโร่ ดาวยิงทีมชาติเปรู ยังติดโทษแบนเหมือนเดิม เนื่องจากตรวจสารกระตุ้นไม่ผ่าน คาดว่าเกมนี้ รูเอด้า น่าจะยังยึด 11 ตัวจริงชุดที่เปิดบ้านเอาชนะมาได้ก่อน 2-1 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

      ฆูลิโอ โคเมซาญ่า ผู้จัดการทีมของ ฆูเนียร์ ไม่มีรายงานเรื่องลูกทีมไม่พร้อมรับใช้ต้นสังกัดเพิ่มเติมเข้ามา นั่นหมายความว่า โคเมซาญ่า สามารถก็อปปี้ 11 ขุนพลชุดเดิมลงแก้มืออีกครั้งได้เลย นำทีมมาโดย ราฟาเอล เปเรซ (14 นัด / 1 ประตู), เลโอนาร์โด้ ปิโก้ (24 นัด / 1 ประตู) และ เตโอฟิโล กูเตียร์เรซ (14 นัด / 6 ประตู)

      วิลเมร์ กาเบรร่า เทรนเนอร์ของ ฮุสตัน ไดนาโม จะไร้เงาของ จอร์จ มัลกิ กับ อเล็กซ์ เดลาการ์ซ่า (30 นัด) เพราะมีอาการเจ็บที่หัวเข่า ส่วนในรายของ ไทเลอร์ เดริช (28 นัด), อัลเบิร์ธ เอลลิส (30 นัด / 11 ประตู) และ จาลิล อานิบาบา (12 นัด) จะกอดคอกันติดโทษห้ามแข่งทั้งหมด นั่นทำให้ กาเบรร่า ต้องปวดขมับในการจัดทีมวันนี้เลย

      ไบรอัน ชเม็ทเซอร์ เฮ้ดโค้ชของ ซีแอทเทิ่ล ซาวน์เดอร์ส มีตัวเจ็บเพียงแค่ แบร็ด อีแวนส์ (11 นัด / 1 ประตู) คนเดียวเท่านั้น ส่วนในรายของ ออสวัลโด้ อลองโซ่ (27 นัด / 1 ประตู), จอร์แดน มอร์ริส (23 นัด / 3 ประตู) และ สเตฟาน ฟราย (35 นัด) ต้องรอเช็คฟิตกันอีกครั้ง แต่ที่วืดแน่ๆ คือ โรมัน ตอร์เรส (26 นัด) เพราะติดโทษแบน

      ริคาร์โด้ ซีลินสกี้ นายใหญ่ของ แอต.ตูคูมัน มีลิสต์ลูกทีมเดี้ยงในมือ 4 ราย ได้แก่ คริสเตียน ลุชเช็ตติ (7 นัด), ฟรังโก้ สบุตโตนี่ (4 นัด / 1 ประตู), ดาร์โด้ มิลอค (2 นัด) และ มาเตียส บัลลินี่ ส่วนในรายของ เอ็มมานูเอล โมลิน่า ห้องเครื่องจอมเก๋า จะติดโทษแบน แต่ยังดีที่ หลุยส์ โรดริเกซ (8 นัด / 3 ประตู) พร้อมลงล่าตาข่ายได้

      เคลาดิโอ เบียกโจ้ เทรนเนอร์ของ ซาน ลอเรนโซ่ จะไม่มีชื่อของ เบาติสต้า เมร์ลินี่ (3 นัด) กับ ฟรังโก้ มุสซิส (2 นัด) ที่ควงเเขนกันเจ็บเข่าทั้งคู่ ส่วนในรายของ เฟร์นานโด เบลลุสชี่ (8 นัด / 2 ประตู) และ เอเซเควียล เครุตติ (8 นัด / 4 ประตู) สองตัวหลักของทีมต้องรอเช็คความฟิตก่อนลงสนามอีกครั้ง แต่คาดว่าน่าจะลงเล่นไหว

      อีวาน เลโก้ กุนซือของ คลับ บรูซ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน อีธาน ฮอร์วาธ (12 นัด), เอลิเบลตัน ปาลาซิออส (5 นัด) และ อาห์เหม็ด ตูบ้า (1 นัด) เพราะโดนไข้เดี้ยงเข้าครอบงำ คาดว่า เลโก้ เอง ก็น่าจะยึด 11 ตัวจริงชุดเก่าลงบู๊ต่อ เนื่องจากไม่มีรายงานความเสียหายใดเข้ามาและลูกทีมทุกคนก็ทำหน้าที่กันได้อย่างดีอยู่เเล้ว

      ฟร้องกี้ ดูรี่ นายใหญ่ของ ซูลเต้ วาเรเกม จะไร้เงาของ แชร์ยาน เดอ เม็ตส์ (4 นัด), ติโมธี่ เดริจ์ค (10 นัด), ปีเตอร์ โอลายินก้า (14 นัด / 5 ประตู) และ เฟรดริค เยนเซ่น (5 นัด) ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่ แต่คงไม่น่าจะส่งผลอะไร เพราะ ดูรี่ น่าจะยึด 11 ขุนพลชุดเดิมที่เพิ่งฉะกันมาในบอลลีกเมื่อสามวันก่อน ลงเเก้ตัวอีกครั้ง

      เดเร็ค แม็คอินเนส ผู้จัดการทีมของ อเบอร์ดีน ยังคงจัดทีมได้ตามสะดวกเหมือนเดิม เพราะไม่มีรายงานความเสียหายใดๆ เข้ามา คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในนัดนี้ ไม่น่าจะต่างจากชุดที่บุกชนะ คิลมาร์น็อค 3-1 ในเกมลีกเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งจะมี สตีวี่ เมย์ (13 นัด / 4 ประตู) หัวหอกวัย 25 ปี ลงผลิตสกอร์ในแดนหน้าเหมือนเก่าเหมือนเดิม

      แกรม เมอร์ตี้ นายใหญ่ของ เรนเจอร์ส จะหมดสิทธิ์ใช้งานนักเตะเดี้ยงอยู่ 4 ราย ได้แก่ บรูโน่ อัลเวส (8 นัด), ลี วัลเลซ (5 นัด), เกรแฮม ดอร์แรนส์ (10 นัด / 5 ประตู) และ จอร์แดน รอสซิเตอร์ (1 นัด) นั่นทำให้ เมอร์ตี้ แทบจะปรับเปลี่ยน 11 ขุนพลไม่ได้เลย คงต้องยึดชุดเดิมต่อไป โดยจะมี อัลเฟรโด้ โมเรลอส (14 นัด / 6 ประตู) เป็นตัวความหวัง