วิเคราะห์บอล / วิเคราะห์บอลวันนี้

      ฌอง ฟูร์ล็อง เทรนเนอร์ของ แบรสต์ จะไร้เงาของ ล็องนี่ แป็งตอร์ กองหน้าดาวรุ่งของทีม ที่โดนอาการเจ็บเล่นงาน ส่วนในราย อิบราอิม่า ซิสโซโก้ (10 นัด) ห้องเครื่องตัวเก่ง จะติดโทษห้ามแข่ง นั่นบังคับให้ ฟูร์ล็อง ต้องปรับ 11 ขุนพลอีกครั้ง แต่สำหรับ เอดูอาร์ บูแต็ง (15 นัด / 1 ประตู) พร้อมลงล่าตาข่ายแน่นอน

      ปาสกาล กัสติย็อง กุนซือของ แกลร์กมงต์ ฟุต มีรายงานเรื่องลูกทีมเดี้ยงเข้ามา 4 คน คือ คาริม เฌลลาบี้ (2 นัด), มาร์ติน คาฟดานสกี้ (8 นัด), มิเชล เอสปิโนซ่า (5 นัด) และ โตมาส กูร์แบร์ แต่คงไม่ส่งผลอะไรในการจัดทัพ เพราะไม่ใช่ตัวหลักในช่วงนี้อยู่เเล้ว ส่วนพวกกำลังหลักคนอื่นๆ พร้อมลงสนามกันได้ทั้งหมดทุกคน

      เดนิส เรโนด์ เฮ้ดโค้ชของ นิออร์ มีลิสต์ลูกทีมเดี้ยงในมืออยู่ 5 คน คือ อาร์เธอร์ เดสมาส์, ฌูลิยง ดากอสต้า (12 นัด), กูอ็องแต็ง เบน่า (4 นัด), เปโดร เฮนริเก้ (1 นัด) และ ธิโบต์ วิยง (9 นัด) ส่วนในรายของ โลร็องต์ อากูอาซี่ (15 นัด / 2 ประตู) มิดฟิลด์เสือเฒ่าประสบการณ์สูง จะติดโทษห้ามแข่งพอดี จึงอดมีส่วนร่วมในเกมนัดนี้

      อัลแบร์ การ์ติเยร์ เทรนเนอร์ของ กาเซเลค อฌักซิโอ้ ไม่มีปัญหาใดในการจัดทัพค่ำคืนนี้ เนื่องจากสภาพความพร้อมของลูกทีมทุกคนสมบูรณ์ 100% คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง ไม่น่าจะต่างไปจากเกมลีกนัดก่อนที่บุกชนะ ตูร์ 2-1 โดยจะมีทีเด็ดอยู่ที่ โอลิวิเย่ร์ เคม็อง (15 นัด / 2 ประตู) ซึ่งจะคอยสอดขึ้นไปทำประตูจากแถวสอง

      แกร้นท์ แม็คคานน์ ผู้จัดการทีมของ ปีเตอร์โบโร่ จะไร้เงาของ จูเนียร์ โมริอาส (10 นัด / 4 ประตู) กับ เลียม เชปฮาร์ด (6 นัด) ที่มีอาการเจ็บรบกวนอยู่ แต่จะมีข่าวดีเข้ามาตรงที่ เกวียน เอ็ดเวิร์ดส์ (16 นัด / 2 ประตู) ห้องเครื่องตัวสำคัญ กลับมาลงสนามได้อีกครั้ง หลังจากชดใช้โทษแบนเรียบร้อย โดยจะลงคุมแดนกลางทันที

      คาร์ล โรบินสัน กุนซือของ ชาร์ลตัน มีรายงานลูกทีมเดี้ยงเข้ามาหลายคน ไล่มาตั้งแต่ เบน รีฟส์ (7 นัด), ตาริค โฟซู (16 นัด / 7 ประตู), บิลลี่ คล้าร์ค (15 นัด / 1 ประตู), แฮรรี่ เลนน่อน, ลิวอิส เพจ และ เจสัน เพี๊ยซ (9 นัด) นั่นหมายความว่า โรบินสัน แทบไม่มีอะไหล่ให้ปรับแต่งทีม คงต้องยึด 11 ขุนพลชุดเดิมสู้ศึกไปก่อน

      โทนี่ โมว์เบรย์ เฮ้ดโค้ชของ แบล็คเบิร์น มีรายงานเรื่องลูกทีมบาดเจ็บเข้ามา 4 ราย ได้แก่ เคร็ก คอนเวย์ (8 นัด / 1 ประตู), แฮร์รี่ แช็ปแมน (12 นัด / 1 ประตู), เบน แกล๊ดวิน (5 นัด) และ ดาร์ราฟ เลนิฮาน (1 นัด) ทำให้ โมว์เบรย์ ต้องปรับทัพพอสมควร แต่ที่แน่ๆ คือ มาร์คุส อันทอนส์สัน (15 นัด / 6 ประตู) จะลงล่าตาข่ายเหมือนเดิม

      แกรี่ โบว์เยอร์ นายใหญ่ของ แบล็คพูล ยังไม่มีชื่อของ คลาร์ค โรเบิร์ตสัน (13 นัด), มาร์ค คัลเลน (3 นัด) และ จิม แม็คอัสลิสเตอร์ ที่เป็นแข้งเดี้ยงค้างสต็อกเหมือนเดิม ส่วนในรายของ ไคล์ วาสเซลล์ (16 นัด / 8 ประตู), เคอร์ติส ทิลต์ (19 นัด / 1 ประตู) และ โคลิน ดาเนี่ยล (18 นัด / 2 ประตู) ต้องรอเช็คความฟิตกันอีกครั้ง

      เยนส์ ราซิเยฟสกี้ เฮ้ดโค้ชของ โบคุ่ม จะไร้เงาของ โธมัส ไอส์เฟลด์ (9 นัด) กับ ติโม เพอร์เธิ่ล ที่โดนอาการเจ็บรบกวน แต่กำลังรบที่เหลือพร้อมลุยอยู่นานเเล้ว คาดว่า ราซิเยฟสกี้ จะวางหมากมาในระบบ 4-4-2 โดยจะมี ร็อบบี้ ครูส (11 นัด / 3 ประตู) และ ลูคัส ฮินเตอร์เซียร์ (12 นัด / 3 ประตู) รับบทบาทคู่หูเพชรฆาตในการล่าประตู

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โบคุ่ม (4-4-2) : มานูเอล รีมันน์ - แยน กียาเมร่าห์, อองโตนี่ โรซิลล่า, เฟลิกซ์ บาสเตียนส์, ดานิโล่ ซัวเรส - ลุค เฮมเมริช, สเตฟาโน่ เชลอซซี่, เควิน สโตเกอร์, วิตาลี่ ยาเนลท์ - ร็อบบี้ ครูส, ลูคัส ฮินเตอร์เซียร์

      ฮานเนส ดรูว์ส นายใหญ่ของ เออร์ซเกเบียร์เก้ เอา ยังไร้เงาของ นิคกี้ อาดเลอร์ เหมือนเดิม เนื่องจากยังอยู่ในช่วงรีดฟิต ส่วนในรายของ เดนนิส เคมเป้ (10 นัด / 1 ประตู) ดาวเตะตัวสำคัญ ดันมาติดโทษแบนอีก เนื่องจากสะสมใบเหลืองครบโควต้าเเล้ว แต่ตัวหลักคนอื่นๆ พร้อมลงเล่นกันทั้งหมด โดยเฉพาะ ดิม่า นาซารอฟ (11 นัด / 2 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เออร์ซเกเบียร์เก้ เอา (5-2-3) : มาร์ติน มานเนิ่ล - คาโลเกโร่ ริซซูโต้, ฟาเบียน คาลิก, โดมินิค วีดร้า, นิโคไล แร็ปป์, เซบาสเตียน เฮิร์ทเนอร์ - คริสเตียน ทิฟเฟิร์ต, เคลเมนส์ ฟานดริช - ปาสกาล ค็อปเค่, ดิม่า นาซารอฟ, โซเรน เบิร์ทรัม

      เจฟ ไซบีน นายใหญ่ของ บีเลเฟลด์ ยังมีเเข้งเดี้ยงค้างสต็อกเซ็ตเดิมอย่าง คริสโตเฟอร์ นอธ, นิลส์ ควอชเนอร์ (4 นัด) และ อันดรา สปอราร์ (9 นัด / 2 ประตู) นั่นหมายความว่า ไซบีน ไม่มีปัญหาอื่นใดเพิ่มเติมเข้ามา แถมยังมีข่าวดีอีกที่ จูเลี่ยน บอร์เนอร์ (12 นัด / 2 ประตู) กลับมารับใช้ต้นสังกัดได้แล้ว เพราะชดใช้โทษห้ามแข่งเรียบร้อย

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
บีเลเฟลด์ (4-2-2-2) : สเตฟาน ออร์เตก้า - ฟลอเรียน ดิ๊ค, จูเลี่ยน บอร์เนอร์, สเตฟาน ซัลเกอร์, ฟลอเรียน ฮาร์แธร์ซ - ทอม ชู๊ทซ์, มานูเอล เพรเทิ่ล - คริสตอฟ เฮมไลน์, พาทริค ไวห์เร๊าช์ - อันเดรียส โฟเกิ้ลซามเมอร์, ฟาเบียน โคลส

      เจฟ สตราสเซอร์ เทรนเนอร์ของ ไกเซอร์ฯ เหลือลูกทีมที่ต้องพักรักษาตัวอีก 4 ราย ได้แก่ มาร์เซล กอร์เรอา (5 นัด), แม็ดส์ อัลบัค (4 นัด), โอซายาเมน โอซาเว่ (10 นัด) และ แค็กเปอร์ เพอร์ซีบิลโก้ (1 นัด) นั่นทำให้ สตราสเซอร์ มีทางเลือกมากขึ้น แต่สำหรับ เซบาสเตียน อันเดอร์สสัน (10 นัด / 5 ประตู) น่าจะลงเล่นเป็นตัวจริงต่อไป

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไกเซอร์ฯ (4-3-2-1) : มาริอุส มุลเลอร์ - ฟิลิปป์ เอ็มเวเน่, เบนจามิน เคสเซิ่ล, สติเป วูกูร์, อาบู ฮันน่า - คริสโตฟห์ มอริตซ์, ดาเนี่ยล ฮัลฟาร์, นิลส์ ซูแฟร์ต - แบรนดอน บอร์เรลโล่, โอเซ ควัดโว่ - เซบาสเตียน อันเดอร์สสัน

      โอลาฟ ยานส์เซ่น ผู้จัดการทีมของ ซังต์ เพาลี มีลิสต์รายชื่อลูกทีมเจ็บอยู่ 4 ราย ได้แก่ สเวนด์ โบรเดอร์เซ่น, มาร์ค ฮอร์นชูห์ (6 นัด), ฟิลิปป์ ซีไรส์ และ เรียว มิยาอิชิ คาดว่า ยานส์เซ่น จะปรับทีมแค่จุดเดียวด้วยการส่ง โจฮันเนส ฟลุม (12 นัด / 2 ประตู) ลงเล่นขับเคลื่อนเกมในแดนกลางแทนที่ของ เบอร์นด์ เนห์ริก (14 นัด)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ซังต์ เพาลี (4-2-3-1) : โรบิน ฮิมเมิ่ลมันน์ - ลูก้า ซานเดอร์, ลาส โซบีช, คริสโตเฟอร์ อาวีเวอร์, ดาเนี่ยล บูบัลล่า - โจฮันเนส ฟลุม, คริสโตเฟอร์ บุชมันน์ - เชงค์ ซาฮิน, โมลเลอร์ แดห์ลี่, วัลเดมาร์ โซโบต้า - ซามี่ อัลลากุย

      ดามีร์ บูริช กุนซือของ กรอยเธอร์ เฟือร์ธ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน บาลาซส์ เม็กเยรี่ (9 นัด), นิค ออมลาดิช (4 นัด / 1 ประตู), เซอร์ชาน ซาราเรอร์ และ มาธิส บอลลี่ เพราะยังเดี้ยงอยู่ทั้งหมด เชื่อว่าเกมนี้ บูริช จะปรับแนวรุกกันอีกครั้ง โดยจะให้ มานูเอล ตอร์เรส (7 นัด), โตลชาย ชิเกอร์ชี่ (8 นัด) และ ดาวิด รอม (6 นัด) ลงเล่นร่วมกัน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
กรอยเธอร์ เฟือร์ธ (3-4-3) : ซัสชา บูร์เชิร์ต - มาริโอ มาโลก้า, มาร์โก กาลิกูรี่, ริชาร์ด มักยาร์ - คาเล็ด นาเรย์, พาทริค ซอนไธเมอร์, อดัม พินเตอร์, มักซิมิเลี่ยน วิตเท็ค - มานูเอล ตอร์เรส, โตลชาย ชิเกอร์ชี่, ดาวิด รอม

      เดเร็ค แม็คอินเนส เฮ้ดโค้ชของ อเบอร์ดีน ไม่มีรายงานความเสียหายเรื่องสภาพทีมเข้ามาเช่นกัน ทำให้สามารถเลือกจัดทีมชุดที่ดีที่สุดลงบู๊ได้แน่ เชื่อว่า แม็คอินเนส จะมีการปรับเปลี่ยน 11 ตัวจริงบ้างในบางตำแหน่งจากเกมก่อน แต่สำหรับ อดัม รูนี่ย์ (11 นัด / 4 ประตู) น่าจะได้รับความไว้วางใจเป็นศูนย์หน้าตัวเป้าต่อไป

      พอล แม็คโดนัลด์ นายใหญ่ของ คิลมาร์น็อค ไม่มีปัญหาใดในการจัดทัพ เพราะสภาพความพร้อมของลูกทีมทุกคนสมบูรณ์ 100% คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในเกมนี้ไม่น่าจะต่างไปจากนัดที่บุกเสมอ ดันดี 0-0 โดยจะมี คริส บอยด์ (11 นัด / 3 ประตู) ยืนเป็นคู่กองหน้ากับ จอร์แดน โจนส์ (14 นัด / 2 ประตู) เหมือนเดิม

      จูเลี่ยน นาเกิ้ลมันน์ นายใหญ่ของ ฮอฟเฟ่นไฮม์ จะเหลือเพียงแค่ เบนจามิน ฮุบเนอร์ (9 นัด / 1 ประตู) รายเดียวเท่านั้นที่ยังเจ็บไม่หาย แต่เชื่อว่าเกมนี้ นาเกิ้ลมันน์ จะโรเตชั่นนักเตะแน่ๆ เพราะลูกทีมกรำศึกหนักมาเหลือเกิน โดยชื่ออย่าง เออร์มิน บิคัคซิช (2 นัด), พาเวล คาเดอร์ราเบ็ค (8 นัด) และ เซิร์จ จีนาบรี้ (3 นัด) จะได้เป็นตัวจริง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮอฟเฟ่นไฮม์ (3-5-2) : โอลิเวอร์ เบามันน์ - เออร์มิน บิคัคซิช, เควิน อัคโปกูม่า, เควิน โฟ้กท์ - พาเวล คาเดอร์ราเบ็ค, เคเรม เดเมียร์เบย์, นาเดียม อามิรี่, เดนนิส ไกเกอร์, สตีเว่น ซูเเบร์ - เซิร์จ จีนาบรี้, อันเดร ครามาริช

      มาร์คุส กิสดอล เทรนเนอร์ของ ฮัมบูร์ก จะไม่มีชื่อของ บีจาร์เน่ โธเอลเค่, อัลบิน เอคดัล (8 นัด) และ นิโคไล มุลเลอร์ (1 นัด / 1 ประตู) ที่โดนไข้เดี้ยงเข้าครอบงำ ดังนั้น กิสดอล จึงยังไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน 11 ตัวจริงที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน แม้จะเพิ่งแพ้มาก็ตาม นั่นทำให้ ยาน อาร์ป (4 นัด / 2 ประตู) จะยืนค้ำเป็นหน้าเป้าต่อไปอีกนัด

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮัมบูร์ก (4-2-3-1) : มาเธเนีย - เดนนิส เดี๊ยคเมเยอร์, คิเรียกอส ปาปาโดปูลอส, แมร์กิม มาฟราย, ดั๊กลาส ซานโต๊ส - กีเดียน จุง, โกโตคุ ซากาอิ - ทัตสึยะ อิโตะ, อารอน ฮันท์, ฟิลิป คอสติช - ยาน อาร์ป

      พาล ดาร์ได เทรนเนอร์ของ แฮร์ธ่าฯ ยังมีรายงานลูกทีมเดี้ยงเซ็ตเดิม คือ นิคลาส สตาร์ค (9 นัด / 1 ประตู), วลาดิเมียร์ ดาริด้า (7 นัด), วาเลนติน สต๊อคเกอร์ (3 นัด) และ จูเลี่ยน ชีเบอร์ แต่เชื่อว่า ดาร์ได จะสลับสับเปลี่ยน 11 ตัวจริงจากเกมยูโรป้า ลีกแน่ โดยจะดัน มิตเชล ไวเซอร์ (12 นัด / 1 ประตู) ขึ้นไปเป็นปีกขวา และส่ง ซาโลมง กาลู (11 นัด / 3 ประตู) กับ เวดัด อิบิเซวิช (10 นัด / 2 ประตู) มาช่วยทำเกมบุก

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แฮร์ธ่าฯ (4-2-3-1) : รูเน่ ยาร์สไตน์ - ปีเตอร์ เปคาริค, เซบาสเตียน ลังคัมป์, คาริม เรกิ๊ก, มาร์วิน แพล็ตเท่นฮาร์ด - อาร์เน่ ไมเออร์, เพอร์ สเคลเบร็ด - มิตเชล ไวเซอร์, วาเลนติโน่ ลาซาโร่, ซาโลมง กาลู - เวดัด อิบิเซวิช

      ปีเตอร์ สโตเกอร์ กุนซือของ โคโลญจน์ มีลิสต์นักเตะเจ็บยาวเหยียด ได้แก่ โดมินิค ไฮนซ์ (11 นัด / 1 ประตู), เจา กูไอรอส, โดมินิค มาโรห์ (6 นัด), เลออน บิตเท่นคอร์ต (12 นัด), คริสเตียน เคลเมนส์ (1 นัด), โจนาส เอคเตอร์ (3 นัด), มาร์โก โฮเกอร์ (5 นัด), มาร์เซล ริสเซ่ (4 นัด), จอห์น กอร์โดบา (8 นัด) และ ไซม่อน โซลเลอร์ (9 นัด) แถมต้องมาเสีย เฟรเดริค โซเรนเซ่น (12 นัด / 1 ประตู) ไปกับโทษแบนอีก

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โคโลญจน์ (3-4-3) : ติโม ฮอร์น - ฆอร์เก้ เมเร่, มัทธีอัส เลห์มันน์, จานเนส ฮอร์น - ลูคัส คลุนเตอร์, มิลอส โยยิช, ซาลีห์ ออซคาน, คอนสแตนติน เร๊าส์ - ยูยะ โอซาโกะ, เคลาดิโอ ปิซาร์โร่, เซห์รู กีรัสซี่

      จุ๊ป ไฮย์เกส เฮ้ดโค้ชของ บาเยิร์น มีลิสต์ลูกทีมเดี้ยงอยู่ 4 คนเช่นกัน คือ มานูเอล นอยเออร์ (3 นัด), ธิอาโก้ อัลกานตาร่า (9 นัด / 1 ประตู), ฟร้องค์ ริเบรี่ (6 นัด) และ อาร์เยน ร๊อบเบน (11 นัด / 3 ประตู) ทำให้ ไฮย์เกส ต้องปรับโฉม 11 ตัวจริงกันอีกครั้ง โดยรายชื่ออย่าง มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ (12 นัด / 1 ประตู) จะกลับมาลงเล่น

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
บาเยิร์น (4-2-3-1) : สเวน อุลไรช์ - โจฌัว กิมมิค, นิคลาส ซูเล่, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, เบร์นาต - ฆาบี มาร์ติเนซ, เซบาสเตียน รูดี้ - โกร็องแต็ง โตลิสโซ่, อาร์ตูโร่ วิดัล, ฮาเมส โรดริเกวซ - โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

      ดีเตอร์ เฮ็กคิงก์ เทรนเนอร์ของ กลัดบัค ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน 4 นักเตะเจ็บชุดเก่า ได้แก่ โยนาส ฮอฟมันน์ (7 นัด), อิบราฮิม่า ตราโอเร่ (3 นัด), ลาซโล่ เบนส์ (1 นัด) และ โทเบียส สโตรเบิ้ล แต่คงไม่ส่งผลอะไรมากมาย เพราะ เฮ็กคิงก์ เตรียมก็อปปี้ 11 ขุนพลจากชุดที่บุกชนะ แฮร์ธ่าฯ 4-2 มาลงสนามเล่นกันต่อเนื่องอยู่แล้ว

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
กลัดบัค (4-2-2-2) : ยาน ซอมเมอร์ - นิโก้ เอลเวดี้, มัทธีอัส กินเตอร์, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, ออสการ์ เวนด์ - เดนิส ซากาเรีย, คริสโตฟห์ เครเมอร์ - ธอร์แกน อาซาร์, ฟาเบียน จอห์นสัน -ลาร์ส สไตน์เดิ้ล, ราฟฟาเอล

      มาร์ติน ชมิดท์ กุนซือของ โวล์ฟสบวร์ก ยังไม่มีชื่อของ เซบาสเตียน จุง, อิ๊กนาซิโอ กามาโช่ (9 นัด) เเละ ยาคุบ บลาสซีคอฟสกี้ (7 นัด / 1 ประตู) ที่ต้องพักรักษาตัวอยู่เหมือนเก่า แต่กำลังรบที่เหลือพร้อมลุยแน่นอน เชื่อว่า ดิว๊อค โอริกี (10 นัด / 4 ประตู) จะกลับมายึดตำแหน่งคืนได้อีกครั้ง โดย ชมิดท์ จะใช้งานตรงริมเส้นฝั่งขวา

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โวล์ฟสบวร์ก (4-3-3) : โกเยนส์ กัสตีลส์ - พอล เวอร์ฮาจ, จอห์น บรู้คส์, เฟลิกซ์ อูดูโอไค, มาร์เซล ทิสเซอรันด์ - โจฌัว กีลาโว้ก, ดาเนี่ยล ดิดาวี, มักซิมิเลี่ยน อาร์โนลด์ - ดิว๊อค โอริกี, มาริโอ โกเมซ, ยูนุส มัลลี่

      มานูเอล บอย์ม ผู้จัดการทีมของ เอ๊าก์สบวร์ก ไม่มีรายงานความเสียหายของสภาพทีมเข้ามาแม้แต่รายเดียว นั่นหมายความว่า บอย์ม สามารถเลือกสรร 11 ตัวจริงได้ตามสะดวก คาดว่า "สามประสาน" ในแดนหน้า จะประกอบไปด้วย มาร์เซล เฮลเลอร์ (11 นัด), อัลเฟร็ด ฟินโบกาสัน (11 นัด / 5 ประตู) และ คูบี้ (12 นัด / 2 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เอ๊าก์สบวร์ก (4-3-3) : มาร์วิน ฮิตซ์ - ดาเนี่ยล โอปาเร่, เควิน ดานโซ่, เจฟฟรี่ กูเวลูว์, ฟิลิปป์ มักซ์ - รานี เคดิร่า, มิเชล เกรกอริช, ดาเนี่ยล เบเยอร์ - มาร์เซล เฮลเลอร์, อัลเฟร็ด ฟินโบกาสัน, คูบี้

      ไฮโค แฮร์ลิช เทรนเนอร์ของ เลเวอร์คูเซ่น ไม่มีปัญหาเรื่องนักเตะบาดเจ็บ แต่ดันมีลูกทีมโดนเเบนอยู่ 2 คน คือ เวนเดล (12 นัด / 1 ประตู) กับ เบนจามิน เฮนริชส์ (7 นัด) ทำให้ แฮร์ลิช ต้องปรับฟูลแบ็คทั้งสองข้างใหม่หมด เชื่อว่าผู้ที่จะมารับสัมปทานเเทน ได้แก่ พานาจิโอติส เรตซอส (8 นัด) และ สเวน เบนเดอร์ (11 นัด / 2 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เลเวอร์คูเซ่น (3-4-3) : แบร์นด์ เลโน่ - สเวน เบนเดอร์, โจนาธาน ตาห์, พานาจิโอติส เรตซอส - ลาร์ส เบนเดอร์, โดมินิค คอห์ร, ชาร์ล อรานกุซ, เลออน ไบลี่ย์ - ไค ฮาแวร์ซ, เควิน โฟลลันด์, จูเลี่ยน บรันด์

      นิโก้ โควัค นายใหญ่ของ แฟร้งค์เฟิร์ต จะไร้เงาของ โจนาธาน เดอ กุซมัน (8 นัด), มาสกาเรล, มาร์โก ฟาเบียน และ อเล็กซานเดอร์ เมเยอร์ ที่ยังต้องใช้บริการของโรงพยาบาลอยู่ ส่วนเรื่องที่น่ายินดีคือ การ์ลอส ซัลเซโด้ (7 นัด) กับ เควิน พริ๊นซ์ บัวเต็ง (12 นัด / 2 ประตู) หายเจ็บกลับมา พร้อมลงเป็น 11 ตัวจริงได้แล้วในเกมนี้

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แฟร้งค์เฟิร์ต (3-5-2) : ลูคัส ฮราเด็กกี้ - การ์ลอส ซัลเซโด้, ดาบิด อับราฮัม, ไซม่อน ฟาแลต - มาริอุส โวล์ฟ, เควิน พริ๊นซ์ บัวเต็ง, มิยัต กาซิโนวิช, มาร์ก สเตนเดร่า, เจโทร วิลเลมส์ - เซบาสเตียน ฮัลเลอร์, อันเต เรบิช

      ซานโดร ชวาร์ซ ผู้จัดการทีมของ ไมนซ์ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน เรเน่ อ๊าดเลอร์ (9 นัด), เลออน บาโลกัน (4 นัด) และ คาริม โอนิซิโว่ (2 นัด) ที่ยังควงเเขนกันบาดเจ็บอยู่ ส่วนในรายของ จูลิโอ โดนาติ (12 นัด) แนวรับตัวหลักของทีมจะอดบู๊เช่นกัน เนื่องจากติดโทษแบน คาดว่า ตัวตายตัวแทนน่าจะเป็น เกอร์ริต โฮลท์มันน์ (1 นัด)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไมนซ์ (4-3-3) : โรบิน เซนต์เนอร์ - ดาเนี่ยล โบรซินสกี้, อับดู ดิยัลโล่, สเตฟาน เบล, เกอร์ริต โฮลท์มันน์ - ฌอง กีบาแมง, แดนนี่ ลัตซ่า, อเล็กซานดรู มักซิม - เลวีน ออซตูนาลี่, โยชิโนริ มุโตะ, ปาโบล เดอ บลาซิส

      คริสเตียน สไตรช์ เฮ้ดโค้ชของ ไฟร์บวร์ก ยังคงครอบครองลูกทีมเดี้ยง 5 รายเท่าเดิม คือ ฟิลิปป์ ไลน์ฮาร์ท (9 นัด), โอเนอร์ บูลุต (1 นัด), ยอร์ก นีแดร์เมเยอร์, ไมค์ ฟร๊านซ์ (11 นัด) และ ฟลอเรียน นีแดร์เลชเนอร์ (10 นัด / 2 ประตู) นั่นบังคับให้ สไตรช์ ไม่มีทางเลือกในการจัดทีมมากกนัก น่าจะจำใจใช้ชุดเก่าต่อไปอีกนัด

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไฟร์บวร์ก (3-4-3) : อเล็กซานเดอร์ ชโวลอฟ - มาร์ก เคมพ์, จูเลี่ยน ชุสเตอร์, คักลาร์ โซยุนกู - ปาสกาล สเตนเซิ่ล, ยานิค ฮาเบเรอร์, นิโคลัส ฮอฟเลอร์, คริสเตียน กุนเตอร์ - บาร์ตอซ คาปุสก้า, นีล พีเตอร์เซ่น, ฟลอเรียน คาธ

      ฟลอเรียน โคห์เฟลด์ กุนซือของ เบรเมน จะไร้เงาของ มิชาเอล เซตเตเรอร์ กับ จัสติน อีแลร์ส ที่โดนโรคเดี้ยงเล่นงาน แต่ขุมกำลังคนอื่นๆ ฟิตสมบูรณ์ดีกันทั้งหมด คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในนัดนี้ น่าจะเป็นชุดเดียวกับที่เปิดบ้านเอาชนะ ฮันโนเวอร์ 4-0 โดยจะมี มักซ์ ครูเซ่ (8 นัด / 3 ประตู) เดินนำทีมลงสู่สนาม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เบรเมน (4-3-3) : ยีรี พาฟเลนก้า - เกเบร เซลาสซี่, นิโคลัส มอยซานเดอร์, มิลอส เวลโกวิช, ลุดวิก ออกุสตินส์สัน - มักซิมิเลี่ยน เอ็กเก้สไตน์, ฟิลิปป์ บาร์กเฟรเด้, โธมัส เดอลานี่ย์ - ฟิน บาร์เทิ่ลส์, มักซ์ ครูเซ่, ซลัตโก้ ยูนูโซวิช

      ราล์ฟ ฮาเซ่นฮุตเทิ่ล เทรนเนอร์ของ ไลป์ซิก จะหมดสิทธิ์ใช้งาน มาร์เซล ซาบิตเซอร์ (11 นัด / 2 ประตู) กองกลางชาวออสเตรีย ที่เจ็บสังเวยชัยชนะในศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก ทำให้ ฮาเซ่นฮุตเทิ่ล ต้องเรียกตัว ดีเอโก้ เดมม์ (11 นัด) มาลงเล่นแทน ส่วนอีก 10 ตำแหน่งที่เหลือน่าจะเป็นชุดเดิมทั้งหมด เพราะทำหน้าที่กันดีอยู่แล้ว

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไลป์ซิก (4-4-2) : ปีเตอร์ กาลัคซี่ - ลูคัส โคลสเตอร์มันน์, วิลลี่ ออร์แบน, อูปาเมกาโน่, มาร์เซล ฮัลส์เท่นแบร์ก - เควิน คัมเพิ่ล, ดีเอโก้ เดมม์, นาบี เกอิต้า, เอมิล ฟอร์สเบิร์ก - ยุสซุฟ โพลเซ่น, ติโม แวร์เนอร์

      โดเมนิโก้ เทเดสโก้ นายใหญ่ของ ชาลเก้ จะเหลือเพียงแค่ ปาโบล อินซัว และ นาบิล เบนตาเลบ (6 นัด / 3 ประตู) เท่านั้นที่ยังสลัดอาการเจ็บกลับมาไม่ได้ แต่ข่าวดีที่สำคัญคือ เลออน โกเร็ตซ์ก้า (9 นัด / 4 ประตู) มิดฟิลด์ตัวสำคัญ พร้อมกลับมาประจำการในนัดนี้พอดี ส่วนในแดนหน้ายังมี กีโด บวร์กสตัลเลอร์ (11 นัด / 4 ประตู) เหมือนเก่า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ชาลเก้ (3-5-2) : ราล์ฟ ฟาห์รมันน์ - ธีโล่ เคห์เรอร์, นัลโด้, เบนจามิน สตอมบูลี่ - ดาเนี่ยล คาลิกูรี่, เลออน โกเร็ตซ์ก้า, มักซ์ เมเยอร์, เยฟเกนี โคโนพิลยานก้า, บาสเตียน อ๊อกซิปก้า - กีโด บวร์กสตัลเลอร์, ฟรังโก้ ดิ ซานโต้

      ปีเตอร์ บอสซ์ เฮ้ดโค้ชของ ดอร์ทมุนด์ ยังคงเหลือ "4 เดี้ยง" เซ็ตเดิม คือ ลูคัส พิสเซ็ค (7 นัด), เอริค ดวร์ม, เซบาสเตียน โรด และ มาร์โก้ รอยส์ ส่วนในรายของ โรมัน บูร์กี (12 นัด) ที่มีอาการเจ็บในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก ก็กลับมาฟิตทันพอดี อีกรายที่น่าจะได้ลงเป็น 11 ตัวจริงในเกมนี้ ได้แก่ คริสเตียน พูลิซิช (11 นัด / 2 ประตู) ปีกชาวอเมริกัน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ดอร์ทมุนด์ (4-3-3) : โรมัน บูร์กี - เยเรมี โตลยาน, มาร์ก บาร์ตรา, โซเครติส, มาร์เซล ชเมลเซอร์ - มาริโอ เกิทเซ่, จูเลี่ยน ไวเกิ้ล, ชินจิ คากาวะ - คริสเตียน พูลิซิช, ปิแอร์ ออบาเมย็อง, มักซิมิเลี่ยน ฟิลิปป์

      แว็งซองต์ อ็อกน็อง เฮ้ดโค้ชของ น็องซี่ มีลิสต์ลูกทีมเดี้ยงในมืออยู่ 5 ราย ได้แก่ เอ็นดี้ อัสเซมเบ้, ไรอัน บิดูนก้า, ไมเคิ่ล เครเตียน (1 นัด), แว็งซองต์ มาร์เช็ตติ (10 นัด) และ พาทริค เอเลอร์ (4 นัด / 1 ประตู) คาดว่า อ็อกน็อง จะวางหมากมาในระบบ 4-2-3-1 โดยจะมี มาลาลี่ เดมเบเล่ (12 นัด / 2 ประตู) ยืนเป็นหอกเดี่ยว

      ฟร็องกิส ชิลโลต์ กุนซือของ โอแซร์ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน มิคาเอล บาร์เร็ตโต้, วิอูซ์ ซาเน่ (11 นัด / 1 ประตู) และ โมอัมเหม็ด ยัตตาร่า (9 นัด / 5 ประตู) ที่มีอาการเจ็บรบกวน ทำให้ ชิลโลต์ ต้องปรับทัพกันเป็นการด่วน แต่สำหรับ เปเป้ ซาเน่ (11 นัด / 1 ประตู) กองหน้าตัวเก่งของทีม พร้อมลงเป็นตัวพักบอลได้เหมือนเดิม

      แฟร้งค์ ชมิดท์ กุนซือของ ไฮเด้นไฮม์ จะไร้เงาของ มาธิอัส วิตเทค (11 นัด / 1 ประตู) กับ เซบาสเตียน กรีสเบ็ค (14 นัด) สองกำลังหลักของทีม เนื่องจากโดนพิษไข้เดี้ยงเล่นงาน แต่เชื่อว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในเกมนี้ ไม่น่าจะต่างจากชุดที่เปิดบ้านชนะ ยูนิโอน เบอร์ลิน 4-3 เพราะทุกคนเล่นกันได้อย่างดีเยี่ยมอยู่แล้ว

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไฮเด้นไฮม์ (4-2-2-2) : เควิน มุลเลอร์ - โรเบิร์ต สเตร๊าส์, เควิน เคร๊าส์, ติโม เบียร์มันน์, อาร์เน่ ฟีค - มาร์เซล ทิทช์-ริเวโร่, นอร์มัน ธอยเออร์เค๊าฟ์ - มาร์ก ชนัตเตอเรอร์, มักซี่ ธีล - โรเบิร์ต กลัทเซล, จอห์น เวอร์ฮ็อค

      เคนาน โคซัค เฮ้ดโค้ชของ ซานด์เฮาเซ่น เหลือรายชื่อตัวเจ็บในมืออยู่อีก 5 คน คือ ริค วัลเล่, ดาเมี่ยน โรสบัค (1 นัด), มีร์โก บอร์น, สเตฟาน คูโลวิตส์ (5 นัด) และ คอร์บิเนี่ยน โฟลมันน์ (2 นัด) นั่นหมายความว่า โคซัค ไม่ต้องปรับเปลี่ยน 11 ขุนพลตรงไหน นอกจากจะใส่ มักซิมิเลี่ยน แยนเซ่น (7 นัด) ลงแทนที่ คูโลวิตส์ ก็พอ

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ซานด์เฮาเซ่น (4-2-2-2) : มาร์เซล ชูเฮน - ฟิลิปป์ คลิ้งมันน์, ทิม คิสเตอร์, ทิม คิปปิ้ง, เลยาร์ต ปาการาด้า - เดนิส ลินส์เมเยอร์, มักซิมิเลี่ยน แยนเซ่น - เนย์เมดดิน ดั๊กห์ฟุส, มานูเอล สตีฟเลอร์ - ลูกัส โฮเลอร์, ริชาร์ด ซูกูต้า-ปาซู

      เปโดร ไคซินญ่า เฮ้ดโค้ชของ เรนเจอร์ส มีตัวเจ็บค้างสต็อกอยู่ 3 คนเช่นกัน คือ ลี วัลเลซ (5 นัด), เกรแฮม ดอร์แรนส์ (10 นัด / 5 ประตู) และ จอร์แดน รอสซิเตอร์ (1 นัด) ส่วนในรายของ ลี ฮ็อดสัน (4 นัด) กับ บรูโน่ อัลเวส (8 นัด) สองกองหลังตัวสำคัญ ต้องรอเช็คความฟิตกันอีกครั้ง ว่าใครพร้อมมีส่วนร่วมได้บ้าง

      นีล แม็คคาน กุนซือของ ดันดี จะหมดสิทธิ์ใช้งาน เคอร์ วัดเดลล์ (10 นัด / 2 ประตู), สก็อตต์ เบน (12 นัด) และ ลิวอิส สเพนเซ่ (9 นัด) ที่โดนไข้เดี้ยงเข้าครอบงำ ส่วนในรายของ ดาร์เรน โอเดีย (8 นัด) ปราการหลังตัวสำคัญ จะติดโทษแบน แต่ยังโชคดีที่ อาเจย์ เลช-สมิธ (10 นัด / 4 ประตู) พร้อมลงล่าตาข่ายให้กับทีม

      ดาวิด กูอิย็อง เฮ้ดโค้ชของ แร็งส์ มีรายชื่อลูกทีมเดี้ยงอยู่ 4 ราย ได้แก่ เกรกอรี่ แบร์ติเยร์ (3 นัด), โนล็อง เอ็มเบมบ้า (6 นัด), มุสซา บาน่า และ มาติเยอ กาฟาโร แต่คงไม่ส่งผลอะไรกับทีมมากนัก เพราะไม่ได้เป็นตัวหลักอยู่แล้ว เชื่อว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในเกมนี้ จะนำทีมมาโดย ดีเอโก้ (14 นัด / 4 ประตู)

      โอลิวิเย่ร์ ป็องตาโลนี่ นายใหญ่ อฌักซิโอ้ ไม่มีปัญหาใดให้ต้องกังวลในการจัดทีมสู้ศึกค่ำคืนนี้ เพราะสภาพความพร้อมของทีมสมบูรณ์ 100% นั่นหมายความว่า ป็องตาโลนี่ สามารถก็อปปี้ 11 ขุนพลชุดปัจจุบันมาใช้งานต่อได้ทันที โดยจะมีทีเด็ดอยู่ที่ รย๊าด นูรี่ (13 นัด / 6 ประตู) ที่ฟอร์มกำลังฮ็อทเหลือเกิน

      ทอร์สเท่น ฟริ๊งส์ กุนซือของ ดาร์มสตัดท์ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน ดาเนี่ยล ฮอยเออร์ (9 นัด), โทเบียส เคมพ์ (10 นัด / 3 ประตู), ซิลาส เซห์นเดอร์ และ เฟลิกซ์ พลัตเต (6 นัด / 2 ประตู) เพราะยังต้องใช้บริการของโรงพยาบาลอยู่ คาดว่า ฟริ๊งส์ จะวางหมากมาในระบบ 4-2-3-1 โดยจะมี เทอร์เรนซ์ บอยด์ (8 นัด / 1 ประตู) ยืนค้ำเป็นหน้าตัวเป้า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ดาร์มสตัดท์ (4-2-3-1) : โยเอล มอล - เควิน โกร๊สครอยซ์, อายทัก ซูลู, พาทริค แบงการ์ด, ฟาเบียน ฮอลลันด์ - ยานนิค สตาร์ค, ฮามิต อัลตินท็อป - ซานโดร ซิริกู, จูเลี่ยน ฟอน ฮัคเค่, มาร์วิน เมห์เลม - เทอร์เรนซ์ บอยด์

      เยนส์ เคลเลอร์ เทรนเนอร์ของ ยูนิโอน เบอร์ลิน จะไร้เงาของ มิชาเอล พาเรนเซ่น (3 นัด), ฟาเบียน โชนไฮม์ (10 นัด) และ เคนนี่ เรดอนโด้ (2 นัด) ที่มีอาการเจ็บรบกวน แต่กำลังหลักยังอยู่กันครบ ไม่ว่าจะเป็น สตีเว่น สเคอร์ซิบสกี้ (12 นัด / 5 ประตู), มาร์เซล ฮาร์เทล (14 นัด / 2 ประตู) และ เซบาสเตียน โพลเตอร์ (14 นัด / 8 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ยูนิโอน เบอร์ลิน (4-2-3-1) : ยาค็อบ บุสค์ - คริสโตเฟอร์ ทริมเมิ่ล, โทนี่ ไลส์เนอร์, ตอร์เรฆอน, คริสเตียน พีเดอร์เซ่น - กริสชา โพรเมล, เดนนิส เด๊าบ์ - สตีเว่น สเคอร์ซิบสกี้, มาร์เซล ฮาร์เทล, อาคาคิ กอก้า - เซบาสเตียน โพลเตอร์

      ฮันเนส โวล์ฟ กุนซือของ สตุ๊ตการ์ต มีรายชื่อลูกทีมเดี้ยงหลายคน ไล่มาตั้งแต่ ดาเนี่ยล กินเซค (6 นัด / 2 ประตู), ชากรัค อาโกโล่ (10 นัด / 4 ประตู), มาร์ซิน กามินสกี้ (8 นัด), อเล็กซานเดอร์ เมเยอร์, มัทธิอัส ซิมเมอร์มันน์ (2 นัด), คาร์ลอส มาเน่ และ อนาสตาซิออส โดนิส (7 นัด / 1 ประตู) ส่งผลให้ต้องปรับทีมกันพอสมควร

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
สตุ๊ตการ์ต (3-4-3) : รอน โรเบิร์ต ซีเลอร์ - เบนจามิน ปาวาร์, ติโม บอย์มการ์ตเทิ่ล,โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์ - อันเดรียส เบ็ค, คริสเตียน เกนท์เนอร์, ซานติอาโก้ อัสกากิบาร์, เอมิเลียโน่ อินซัว - ทาคุมะ อาซาโนะ, ไซม่อน เทร็อดด์, เบอร์คาย ออซชาน

      อันเดร ไบรเท่นไรเตอร์ ผู้จัดการทีมของ ฮันโนเวอร์ เหลือลูกทีมบาดเจ็บอยู่ 4 ราย ได้แก่ เฟลิเป้ (4 นัด), ซาเรนเรน บาซี, อุฟเฟ่ เบ็ค และ เอ็ดการ์ พริบ นั่นทำให้ ไบรเท่นไรเตอร์ สามารถปรับทัพมาเป็นชุดใหญ่ได้อีกครั้ง โดยจะมี มาร์ติน ฮาร์นิค (12 นัด / 5 ประตู) กับ นิคลาส ฟัลครู้ก (12 นัด / 2 ประตู) ยืนเป็นคู่หัวหอกในแดนหน้า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮันโนเวอร์ (4-2-2-2) : ฟิลิปป์ เชาเนอร์ - จูเลี่ยน คอร์บ, วัลเดมาร์ แอนตัน, ซาลิฟ ซาเน่, มีโก อัลบอร์นอซ - เพอร์มิน ชเว็กเลอร์, มาร์วิน บาคาลอร์ซ - อิห์ลัส เบบู, เฟลิกซ์ เคล๊าส์ - มาร์ติน ฮาร์นิค, นิคลาส ฟัลครู้ก

      อับดุลลาห์ อัฟชี่ นายใหญ่ของ อิสตันบูล บาซัคเซฮีร์ จะไม่มีชื่อของ เมห์เหม็ด บัตดัล (3 นัด), เอเกเมน คอร์คมาซ, ตูนาย โตรุน (5 นัด) และ ออเรลิย็อง เชดฌู เพราะโดนโรคเดี้ยงเข้าครอบงำอยู่ทั้งหมด แต่ไม่น่าจะส่งผลอะไรในการจัดทัพ เพราะ อัฟชี่ เตรียมขน 11 ขุนพลชุดปัจจุบันลงบู๊ต่อ เนื่องจากลูกทีมกำลังเข้าฝักกันทุกคน

      ดิมิตาร์ ดิมิตรอฟ เฮ้ดโค้ชของ ลูโดโกเร็ตส์ ยังหมดสิทธิ์ใช้บริการของ วลาดิสลาฟ สโตยานอฟ ผู้รักษาประตูวัย 30 ปีเหมือนเก่า เพราะมีกำหนดคัมแบ็คในเดือนมีนาคมปีหน้าโน่นเลย เชื่อว่าเกมนี้ โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง ไม่น่าจะต่างไปจากนัดที่ผ่านๆ มา โดยจะมี เวอร์กิล มิซิดยาน (11 นัด / 6 ประตู) คอยล่าตาข่ายเหมือนเก่า

      จูเลี่ยน นาเกิ้ลมันน์ เฮ้ดโค้ชของ ฮอฟเฟ่นไฮม์ ยังไม่มีชื่อของ ซานโดร ว้ากเนอร์ (10 นัด / 4 ประตู) กับ เบนจามิน ฮุบเนอร์ (9 นัด / 1 ประตู) ที่ยังสลัดคราบเดี้ยงกลับมาไม่ได้ เชื่อว่า นาเกิ้ลมันน์ จะปรับโฉมเกมรุกด้วยการดัน อันเดร ครามาริช (12 นัด / 2 ประตู) ขึ้นไปยืนคู่กับ มาร์ก อูธ (11 นัด / 6 ประตู) เพื่อผลิตสกอร์

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮอฟเฟ่นไฮม์ (3-5-2) : โอลิเวอร์ เบามันน์ - เควิน อัคโปกูม่า, สเตฟาน พอช, เควิน โฟ้กท์ - ลูคัส รัปป์, เคเรม เดเมียร์เบย์, ฟลอเรียน กริลลิช, เดนนิส ไกเกอร์, นิโก้ ชูลซ์ - มาร์ก อูธ, อันเดร ครามาริช

      อาเบล แฟร์ไรร่า นายใหญ่ของ สปอร์ติ้ง บราก้า เหลือนักเตะเจ็บค้างสต็อกเพียงแค่ 3 ราย ได้แก่ มาราโฟน่า, ลาซาร์ โรซิช (6 นัด) และ เมาโร นั่นทำให้ แฟร์ไร่า มีทางเลือกในการปรับทัพมากขึ้น คาดว่าเกมนี้จะวางหมากมาในระบบ 4-2-3-1 โดยจะมี เปาลินโญ่ (11 นัด / 1 ประตู) หัวหอกวัย 25 ปี ยืนค้ำเป็นกองหน้าตัวเป้า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
สปอร์ติ้ง บราก้า (4-2-3-1) : มาเธอุส - ริคาร์โด้ เอสกาโย่, ซิลวา, แฟร์ไรร่า, มาร์เชโล่ โกยาโน่ - ดานิโล่, นิโคล่า วุคเซวิช - ซาดาส, ฟราน เซร์กิโอ, ริคาร์โด้ ฮอร์ต้า - เปาลินโญ่

      อาดิ ฮัตเตอร์ เฮ้ดโค้ชของ ยัง บอยส์ จะไร้เงาของ มาร์โก โวล์ฟลี่ (3 นัด), สตีเฟ่น ฟอน เบอร์เก้น (14 นัด), ลอริส เบนิโต้ (5 นัด / 2 ประตู) และ โตล็องต์ ซูเลจ์มานอฟ เพราะยังต้องพักรักษาตัวอยู่ทั้งหมด แต่ยังพอมีข่าวดีอยู่บ้าง เมื่อ โรเเชร์ อัสซาเล่ (15 นัด / 7 ประตู) และ ฌอง เอ็นซาเม่ (14 นัด / 9 ประตู) พร้อมลงเล่นเพื่อทีม

      มิโรสลาฟ ดูคิช ผู้จัดการทีมของ ปาร์ติซาน เบลเกรด จะไม่มีชื่อของ โมฮัมเหม็ด มูนีร์ (2 นัด), เนโบย่า โคโซวิช (4 นัด / 1 ประตู) และ ดอร์เด้ โยวาโนวิช (6 นัด / 2 ประตู) ที่ควงแขนกันโดนอาการเจ็บรบกวน ส่วนในรายของ โซรัน โทซิช (9 นัด / 3 ประตู) กองกลางตัวเก่งประจำทีมจะอดบู๊เช่นกัน เนื่องจากติดโทษห้ามแข่ง

      อเล็กซานเดอร์ คัตห์สเควิช นายใหญ่ของ ดินาโม เคียฟ มีลิสต์ลูกทีมเดี้ยงอยู่ในมือ 4 คน คือ มีคีต้า บูร์ด้า, นิคิต้า คอร์ซุน (8 นัด), เซอร์เฮย์ ซีดอร์ชุค (9 นัด) และ อาร์เต็ม คราเวตส์ (9 นัด / 3 ประตู) นั่นบังคับให้ คัตห์สเควิช ต้องฝากความหวังในการพังประตูไว้กับ ดิอูเเมร์ซี่ เอ็มโบคานี่ (13 นัด / 7 ประตู) หัวหอกตัวเก๋าวัย 32 ปี

      อิลีร์ ดาย่า เฮ้ดโค้ชของ สเคนเดอร์บู ยิ้มสบายใจได้ก่อนเกมเลย เมื่อสภาพความพร้อมของลูกทีมทุกคนสมบูรณ์ 100% สามรถเลือกจัดชุดที่ดีที่สุดลงสู้ศึกได้ นั่นหมายความว่า ตัวหลักๆ อย่าง มาร์โก ราดาส (10 นัด / 1 ประตู), อัฟริม ตาคู (9 นัด / 4 ประตู) และ อาลี โซว์ (10 นัด / 4 ประตู) จะพาเหรดกันเป็น 11 ตัวจริง

      เปโดร มาร์ตินส์ ผู้จัดการทีมของ วิตอเรีย กิมาไรส์ มีรายงานลูกทีมเจ็บเข้ามา 4 ราย ได้แก่ มาร์คอส วาเลนเต้ (6 นัด), ราฟาเอล มิรานด้า (8 นัด), เซบาสเตียน รินคอน (4 นัด / 1 ประตู) และ ฌูเนียร์ ตาโญ่ (4 นัด) นั่นทำให้ มาร์ตินส์ แทบไม่มีกำลังรบมาสับเปลี่ยน คงต้องเรียกใช้งาน 11 ขุนพลชุดปัจจุบันต่อไปอีกนัด

      มาร์โก โรเซ่ เทรนเนอร์ของ ซัลซ์บวร์ก จะหมดสิทธิ์ใช้งาน เปาโล มิรานด้า (6 นัด) ปราการหลังชาวบราซิลคนเดียวเท่านั้นที่ขึ้นบัญชีเดี้ยงอยู่ ส่วนในรายของ ดิอาดี้ ซามาสเซคู (13 นัด) ต้องรอเช็คความฟิตก่อนลงสนามอีกครั้ง คาดว่า มูนาส ดับบูร์ (14 นัด / 11 ประตู) จะได้ลงเป็นตัวความหวังในแดนหน้าเหมือนเก่า

      รูดี้ การ์เซีย กุนซือของ มาร์กเซย จะไร้เงาของ เกรกอรี่ เเซร์ติช (4 นัด) อยู่เหมือนเก่า เพราะอาการเจ็บยังไม่ดีขึ้น ส่วนในรายของ ปาทริซ เอวร่า (4 นัด) กับ บูบาการ์ กามาร่า (1 นัด) กอดคอกันติดโทษแบน ทำให้ การ์เซีย ต้องปรับทัพกันพอสมควร แต่แดนหน้ายังมี วาเลอรี่ แชร์กแมง (12 นัด) คอยผลิตสกอร์เหมือนเดิม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
มาร์กเซย (4-2-3-1) : สตีฟ ม็องด็องด้า - บูน่า ซาร์, อาดิล รามี่, อายเมน อับเดนนูร์, ฌอด็อง อามาวี่ - ลุยซ์ กุสตาโว่, ฟร้องค์ ซัมโบ - ลูคัส โอคัมโปส, มอร์แกน แซนซง, มักซิเม่ โลเปซ - วาเลอรี่ แชร์กแมง

      เมห์เหม็ด ออซดิเล็ค เทรนเนอร์ของ คอนยาสปอร์ ยังไม่มีเเข้งเดี้ยงค้างสต็อกคู่เดิมอย่าง เลโบกัง มานยาม่า (4 นัด) กับ อับดุล ราซัค ตราโอเร่ (1 นัด) ส่วนในรายของ เอเรน อัลบายรัค (5 นัด) แนวรับวัย 26 ปี ต้องรอเช็คความฟิตก่อนลงสนามอีกครั้ง แต่ที่แน่ๆ คือ มาลิค เอวูน่า (6 นัด) ลงเป็นศูนย์หน้าตัวเป้าได้ชัวร์

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
คอนยาสปอร์ (4-2-3-1) : เซอร์คาน คิรินติลี่ - เน็จ์ค สคูบิช, เซลิม อาย, วิลเฟร็ด โมเก้ อาโบร, เฟอร์ฮัต ออซโตรุน - เยนส์ ยอนส์สัน, เมห์ดี้ บูราเบีย - โอเมอร์ ซาฮิเนอร์, มูซ่า อาราซ, เดนี่ มิโลเซวิช - มาลิค เอวูน่า

      เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ผู้จัดการทีมของ เซลติก จะหมดสิทธิ์ใช้งาน แพทริค โรเบิร์ตส์ (5 นัด), โจโซ ซิมูโนวิช (5 นัด), แอนโธนี่ รัลส์ตัน (3 นัด) และ เอริค สเวียตเชนโก้ เป็นแข้งเดี้ยงค้างสต็อก แต่ยังพอมีข่าวดีเข้ามาบ้าง เมื่อ เลจ กริฟฟิธส์ (11 นัด / 5 ประตู) ดาวยิงตัวสำคัญ ฟิตทันกลับมารับใช้ต้นสังกัดได้พอดีในเกมนี้

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
เซลติก (4-2-3-1) : เคร็ก กอร์ดอน - มิคาเอล ลุสติก, เนอร์ บิตตัน, เดดริค โบยาต้า, คีแรน เทียร์นี่ย์ - สก็อต บราวน์, โอลิวิเย่ร์ เอ็นต์ชาม - เจมส์ ฟอร์เรสต์, คัลลัม แม็คเกรเกอร์, สก็อต ซินแคลร์ - เลจ กริฟฟิธส์

      อูไน เอเมรี่ เทรนเนอร์ของ เปแอสเช จะขาดหายไปเพียงแค่ ธิอาโก้ ม็อตต้า (8 นัด / 1 ประตู) มิดฟิลด์ประสบการณ์สูงคนเดียวเท่านั้น ที่ยังต้องใช้บริการของโรงพยาบาลอยู่ ส่วนขุมกำลังที่เหลือฟิตเต็มสูบกันทั้งหมด คาดว่า "สามประสาน" ในแนวรุก จะนำทีมมาโดย เนย์มาร์ (9 นัด / 7 ประตู) ซูเปอร์สตาร์ประจำทีม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เปแอสเช (4-3-3) : อัลโฟนเซ อเรโอลา - ดาเนี่ยล อัลเวส, ธิอาโก้ ซิลวา, มาร์ควินญอส, เลย์แว็ง คูร์ซาว่า - อาเดรียน ราบิโอต์, มาร์โก แวร์รัตติ, จูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์ - เนย์มาร์, เอดินสัน คาวานี่, คีเลียน เอ็มบัปเป้