วิเคราะห์บอล / วิเคราะห์บอลวันนี้

      แอนโธนี่ ฮัดสัน ผู้จัดการทีมของ นิวซีแลนด์ ต้องรอเช็คความฟิตของ คริส วู้ด ศูนย์หน้าตัวเก่งก่อนเริ่มเกมอีกครั้ง ว่าพร้อมมีส่วนร่วมในนัดชี้ชะตานัดนี้หรือไม่ หลังจากที่เกมก่อนได้โอกาสลงเล่นแค่ 16 นาทีเท่านั้น แต่ในแนวรับค่อนข้างแน่นปึ้ก เพราะจะมี วินส์ตัน รีด ปราการหลังกัปตันทีม ยืนคุมอยู่ต่อไปอีกนัด พร้อมกับแนวรับเซ็ตเดิมอีก 4 คน

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
นิวซีแลนด์ (5-3-2) : สเตฟาน มาริโนวิค - คิป โคลเวย์, มิคาเอล บ็อกซอลล์, วินส์ตัน รีด, ทอมมี่ สมิธ, เด็คลาน วีนน์ - เคลย์ตัน ลิวอิส, ไมเคิ่ล แม็คกลินชี่ย์, ไรอัน โธมัส - มาร์โก โรยาส, คอสต้า บาร์บารูเซส

      ริคาร์โด้ กาเรก้า เทรนเนอร์ของ เปรู น่าจะยังมั่นใจใน 11 ขุนพลชุดเดิม ที่บุกไปเก็บผลเสมอมาได้ก่อนในเลกแรก เเละเตรียมส่งลงสนามกันทั้งหมด เพราะไม่มีรายงานอาการเจ็บใดๆ เข้ามา นั่นหมายความว่า อัลเบร์โต้ โรดริเกวซ, บิคตอร์ โยตุน, เรนาโต้ ตาเปีย, คริสเตียน กูเอบา, เอดิสัน ฟลอเรส และ เจฟเฟร์สัน ฟาร์ฟาน จะได้ออกสตาร์ทกันทั้งหมด

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
เปรู (4-2-3-1) : เปโดร กัลเลเซ่ - อัลโด กอร์โซ่, อัลเบร์โต้ โรดริเกวซ, คริสเตียน รามอส, มิเกล เตราโก้ - บิคตอร์ โยตุน, เรนาโต้ ตาเปีย - อังเดร การิโญ่, คริสเตียน กูเอบา, เอดิสัน ฟลอเรส - เจฟเฟร์สัน ฟาร์ฟาน

      อัคถภรณ์ ชลิตาภรณ์ นายใหญ่ของ ไทย ฮอนด้า ยิ้มสบายใจได้ก่อนเกม เมื่อจะสามารถใช้งาน ถวิล บุตรสมบัติ (20 นัด / 3 ประตู) แนวรุกตัวเก่งประจำทีม ที่ชดใช้โทษห้ามแข่งเรียบร้อยแล้ว ส่วนกำลังรบที่เหลือพร้อมลุยอยู่นานแล้ว ไม่ว่าจะเป็น เดชา สอาดโฉม (18 นัด / 2 ประตู), ราฟาเอล ลิมา (26 นัด / 5 ประตู) และ สิทธิโชค กันหนู (24 นัด / 5 ประตู)

      ธชตวัน ศรีปาน กุนซือของ เมืองทองฯ ยังไม่มีชื่อของ อดิศร พรหมรักษ์ (17 นัด) กับ ทริสตอง โด (27 นัด / 3 ประตู) ที่ยังเจ็บไม่หาย ส่วนในรายของ นาโออากิ อาโอยามะ (28 นัด / 2 ประตู) ก็ดันติดโทษแบนอีก แต่จะได้ตัว เลอันโดร อัสซัมเซา (14 นัด / 12 ประตู) สวนทางกลับมาแทน แต่เชื่อว่า "โค้ชแบน" จะเรียกใช้ตัวสำรองลงยืดเส้นยืดสายบ้างแน่ๆ

      อเล็กซานเดร กาม่า เฮ้ดโค้ชของ เชียงรายฯ ต้องแก้ปัญหาใหญ่ในเกมรับซะเเล้ว เมื่อ ชินภัทร ลีเอาะ (22 นัด / 1 ประตู), เอเวอร์ตัน กอนซาเวส (30 นัด / 3 ประตู) และ อาทิตย์ ดาวสว่าง (8 นัด) ควงเเขนกันติดโทษแบน แต่ขุมกำลังคนอื่นๆ ยังอยู่กันครับ คาดว่า ประทุม ชูทอง (22 นัด / 2 ประตู) ต้องเป็นตัวหลักในแนวรับในนัดนี้

      ไมค์ มัลวี่ย์ ผู้จัดการทีมของ โปลิซ เทโร ยังไร้เงาของ มิเชล เอ็นดรี้ (28 นัด / 15 ประตู) ดาวยิงชาวฝรั่งเศส ที่ต้องพักรักษาตัวอยู่ต่อไป แต่จะมีข่าวดีตรงที่ มาริโอ อบรานเต้ (24 นัด / 1 ประตู) กับ ภูวนาท คำแก้ว (7 นัด / 1 ประตู) กลับมาช่วยทีมได้แล้ว หลังจากที่ชดใช้โทษห้ามแข่งเรียบร้อย พร้อมเป็นตัวเลือกในแผง 11 ตัวจริง

      ฆอร์เก้ หลุยส์ ปินโต้ เทรนเนอร์ของ ฮอนดูรัส น่าจะปรับ 11 ขุนพลเพียงแค่จุดเดียว โดยจะถอด ฆอห์นนี่ ปาลาซิออส ออกไปเป็นสำรอง และส่ง มายนอร์ ฟิเกรัว ปราการหลังประสบการณ์สูง มาคุมแนวรับแทน ส่วนอีก 10 ตำแหน่งที่เหลือคงเป็นเซ็ตเดียวทั้งหมด ซึ่งจะมี อองโตนี่ โลซาโน่ หัวหอกจากสโมสรบาร์เซโลน่า ยืนค้ำเป็นหน้าเป้า

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮอนดูรัส (4-2-3-1) : โดนิส เอสโกเบร์ - ไบรอัน เบ็คเคเลส, อองรี ฟิเกรัว, มายนอร์ ฟิเกรัว, เอมิลิโอ อิซากัวร์ - ฆอร์เก้ กลาลอส, อัลเฟรโด้ เมฆิอา - การ์ลอส ลานซ่า, อเล็กซานเดอร์ โลเปซ, รอมเมล กุยโอโต้ - อองโตนี่ โลซาโน่

      อังเก้ ปอสเตโคกลู นายใหญ่ของ ออสเตรเลีย ตัดสินใจเก็บ ทิม เคฮิลล์ แข้งจอมเก๋า ไม่ใช้งานในเกมก่อน เพื่อจะมาลงสนามในนัดนี้ คงส่งลงเป็น 11 ตัวจริงแน่นอน ส่วนในรายของ ร็อบบี้ ครูซ แนวรุกตัวเก่งอีกคน ต้องรอเช็คความฟิตก่อนเริ่มเกมอีกครั้ง ว่าไหวหรือไม่ แต่ตัวหลักในแดนกลางอย่าง อารอน มอย พร้อมลุยแบบไม่มีปัญหา

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
ออสเตรเลีย (3-5-2) : แมทธิว ไรอัน - ไบลี่ย์ ไรท์, เทรนท์ เซนส์บิวรี่, แมทธิว เยอร์มาน - โจชัว ริสดอน, ไมล์ เยดินัค, มัสซิโม่ ลูออนโก้, อารอน มอย, อาซิซ เบฮิช - ทิม เคฮิลล์, โทมี่ ยูริช

      เกอร์โน่ต์ รอห์ร เฮ้ดโค้ชของ ไนจีเรีย จะหมดสิทธิ์ใช้งาน โอเกนยี โอนาซี่, โมเซส ไซม่อน และ โอเดี้ยน อิกาโล่ ที่ไม่พร้อมสำหรับเกมนี้ แต่ตัวหลักคนอื่นๆ เตรียมรับใช้ชาติกันอยู่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น จอห์น โอบี มิเกล กัปตันทีมตัวเก่ง ซึ่งจะลงคุมจังหวะกับ วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ และปล่อยให้ อิเฮียนาโช่ กับ อาเหม็ด มูซ่า คอยล่าตาข่ายคู่แข่ง

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
ไนจีเรีย (4-2-3-1) : ดาเนี่ยล อัคเปยี่ - โอลา ไอน่า, เลออน บาโลกัน, ชิโซี่ อาวาเซียม, เชฮู อับดุลลาไฮ - จอห์น โอบี มิเกล, วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ - โอเกเนคาโร่ เอเตโบ, จอห์น โอกู, อิเฮียนาโช่ - อาเหม็ด มูซ่า

      ฆอร์เก้ ซามเปาลี นายใหญ่ของ อาร์เจนติน่า จะไร้เงาของ ลิโอเนล เมสซี่ ในนัดนี้ เพราะบินกลับ บาร์เซโลน่าไปแล้ว นั่นทำให้ ซามเปาลี เตรียมปรับสำรองลงยืดเส้นยืดสายบ้าง โดยโฉมหน้าของ 11 ตัวจริง จะต่างไปจากเกมก่อนแน่นอน ซึ่งคู่กองหน้าในวันนี้ จะเป็น เปาโล ดีบาล่า กับ ดาริโอ เบเนเด็ตโต้ และมี เอเวร์ บาเนก้า ยืนคุมเกมตรงกลาง

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
อาร์เจนตินา (3-5-2) : ออกุสติน มาร์เคซิน - เอมานูเอล มัมมาน่า, เฟเดริโก้ ฟาซิโอ, เอมิเลียโน่ อินซัว - คริสเตียน ปาบอน, เอเวร์ บาเนก้า, เลอันโดร ปาเรเดส, อเลฮานโดร โกเมซ, ดีเอโก้ เปร็อตติ - เปาโล ดีบาล่า, ดาริโอ เบเนเด็ตโต้

      ไฮมีร์ ฮัลล์กริมส์สัน กุนซือของ ไอซ์แลนด์ เอง น่าจะจัดทีมแบบเต็มสูบเหมือนเก่าเช่นกัน เพราะไม่มีรายงานเรื่องอาการเจ็บของลูกทีมเข้ามาแต่อย่างใด คาดว่า ตัวเด่นๆ ดังๆ น่าจะได้ลงเล่นกันครบครัน โดยเฉพาะในเกมรุก น่าจะเป็น อัลเฟร็ดห์ ฟินน์โบกาสัน จับคู่ กิลฟี่ ซิเกิร์ดส์สัน ยืนเป็นคู่ศูนย์หน้าคอยผลิตสกอร์ให้กับชาติบ้านเกิด

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
ไอซ์แลนด์ (4-4-2) : รูนาร์ อเล็กซ์ รูนาร์สสัน - ยอร์เตอร์ เฮอร์มันส์สัน, สเวอร์เรียร์ อิงกี้ อินกาสัน, คารี อาร์นาสัน, ฮอร์ดูร์ แม็กนุสสัน - โยฮันน์ กุ๊ดมุนด์สสัน, อารี สคูลาสัน, โอลาฟูร์ สคูลาสัน, เบียร์เคียร์ บียาร์นาสัน - อัลเฟร็ดห์ ฟินน์โบกาสัน, กิลฟี่ ซิเกิร์ดส์สัน

      เฟลิกซ์ ซานเชซ เทรนเนอร์ของ กาตาร์ ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลง 11 ขุนพลจากเกมที่เปิดบ้านแพ้ เช็ก 0-1 เมื่อ 3 วันก่อน เพราะต้องการที่จะทดลองระบบเเละนักเตะชุดนี้ นั่นหมายความว่า กาตาร์ จะมาในระบบ 4-2-3-1 อีกครั้ง โดยจะมี อัลมาห์ดี้ อาลี, อัสซิม มาดิโบ้, อิสมาเอล โมฮัมเหม็ด และ อัลโมเอซ อาลี ลงเล่นเป็นตัวจริง

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
กาตาร์ (4-2-3-1) : ซาอัด อับดุลลาห์ - โมฮาเหม็ด มูซ่า, บาสซัม ฮิชาม, อัลมาห์ดี้ อาลี, คาริม บูดิอาฟ - ฮัสซัน คาลิด, อัสซิม มาดิโบ้ - อิสมาเอล โมฮัมเหม็ด, อับดุลคาริม ซาเล็ม, อาคราม อาฟิฟ - อัลโมเอซ อาลี

      รูซิคุล เบอร์ดิเยฟ เทรนเนอร์ของ อุซเบกิสถาน ไม่ได้เรียกตัวหลักมาติดทีมชุดนี้หลายราย ไม่ว่าจะเป็น เยกอร์ คริเม็ตส์, อิกอร์ เซอร์เกเยฟ และ เซอร์เวอร์ เดจ์ปารอฟ แต่จะมีพวกดาวรุ่งสายเลือดใหม่ติดกันมามากมายแทน คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง จะมีนักเตะซีเนียร์อย่าง อิ๊กนาตี้ เนสเตรอฟ ลงประคับประคองน้องๆ ในสนาม

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
อุซเบกิสถาน (4-2-3-1) : อิ๊กนาตี้ เนสเตรอฟ - อิสลอม ตุคห์ตัคฮูยาเยฟ, เชอร์ซ็อด อาซามอฟ, อิสลอมยอน โคบิลอฟ, อัครอมยอน โคมิรอฟ - ซาร์ดอร์ มีร์ซาเยฟ, โอตาเบ็ค ชูคูรอฟ - ดอสตอนเบ็ค คัมห์ดามอฟ, อาซิซยอน กานิเยฟ, ยาซูร์ ยาห์ชิโบเยฟ - มารัต บิคมาเยฟ

      อัลเเบร์โต้ ซัคเคโรนี่ เฮ้ดโค้ชของ ยูเออี น่าจะมีการปรับเปลี่ยน 11 ตัวจริงจากเกมที่เปิดบ้านแพ้ เฮติ 0-1 บ้างในบางตำแหน่งเพื่อเป็นการลองทีม หลังจากที่เพิ่งเข้ารับหน้าที่เป็นนายใหญ่ของทีม แต่ "สตาร์ดัง" ของประเทศอย่าง โอมาร์ อับดุลราห์มาน น่าจะได้ออกสตาร์ทตั้งแต่นาทีแรกเหมือนเก่า พร้อมหน้าที่ปั้นเกมเหมือนเดิม

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
ยูเออี (4-3-3) : คาห์ลิด เอสซา - โมฮัมเหม็ด ฟอว์ซี่, โมฮัมเหม็ด อาห์หมัด, โมฮานัด ซาเล็ม, วาลิด อับบาส - ทาริก อาห์เหม็ด, คาห์มิส อีสมาอิล, อาร์เมอร์ อับดุลราห์มาน - ยาสซิม ซัลมาน, อาห์เหม็ด อัล อัทลาส, โอมาร์ อับดุลราห์มาน

      โฆเซ่ เปเคร์มัน ผู้จัดการทีมของ โคลอมเบีย จะปรับทีมหนึ่งตำแหน่งจากเกมนัดที่ผ่านมา โดยจะส่ง ฆวน กัวดราโด้ ปีกตัวเก่งจากสโมสรยูเวนตุส ลงป่วนทำเกมรุกทางกราบขวา แทนที่ อาวิเลส อูร์ตาโด้ แต่อีก 10 ตำแหน่งที่เหลือน่าจะยังเป็นเซ็ตเดิมทั้งหมด นำทีมมาโดย ฮาเมส โรดริเกวซ จอมทัพสุดหล่อประจำทีม

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
โคลอมเบีย (4-3-3) : เลอันโดร กาสเตญานอส - ฆอห์น เมดิน่า, คริสเตียน ซาปาต้า, ดาวินสัน ซานเชซ, วิลเลี่ยม เตซิโญ่ - มาเตอุส อูริเบ้, อาเบล อากุยลาร์, โจวานนี่ โมเรโน่ - ฆวน กัวดราโด้, ดูวาน ซาปาต้า, ฮาเมส โรดริเกวซ

      มาร์เชลโล่ ลิปปี้ กุนซือของ จีน ไม่มีปัญหาใดในการจัดทัพและเตรียมตัวจะส่ง 11 ตัวจริงชุดที่เปิดบ้านแพ้ เซอร์เบีย 0-2 ลงพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งในเกมนี้ คาดว่า ลิปปี้ จะเลือกใช้ระบบ 4-4-2 เหมือนเก่า โดยจะมี เฟ็ง เสี่ยวติง ลงคุมเกมรับ, เหา จุนหมิน เดินเกมตรงกลาง และ เกา หลิน กับ หวู่ เล่ย เป็นคู่หัวหอกในแดนหน้า

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
จีน (4-4-2) : หยาน จุนหลิง - จาง ลินเป็ง, เฟ็ง เสี่ยวติง, เจง เจง, หลี่ ซูเป็ง - หยู หานเฉา, เส้า หยูเหา, เหา จุนหมิน, หยิน ฮองโบ - เกา หลิน, หวู่ เล่ย

      สลาโวลยุบ มุสลิน เทรนเนอร์ของ เซอร์เบีย เอง ก็น่าจะยังยึด 11 ตัวจริงชุดเดิมที่บุกชนะ จีน 2-0 มาลงเล่นกันต่อ เนื่องจากไม่มีรายงานความเสียหายใดๆ เข้ามา จึงไม่มีความจำเป็นจะต้องปรับทัพ โดยจะมี "ดาราดัง" อย่าง บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, ดูซาน ทาดิช, อาเดม ลายิช และ อเล็คซานดาร์ มิโตรวิช พาเหรดกันลงสนาม

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
เซอร์เบีย (4-2-3-1) : วลาดิเมียร์ สตอยโควิช - อันโตนิโอ รูคาวิน่า, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, ดุสโก้ โทซิช, อีวาน โอบราโดวิช - เซอร์เกจ์ มิลินโควิช-ซาวิช, เนมันย่า กูเดลย์ - ดูซาน ทาดิช, อาเดม ลายิช, ฟิลิป คอสติช - อเล็คซานดาร์ มิโตรวิช

      ชิน แท ยัง นายใหญ่ของ เกาหลีใต้ เตรียมขน 11 ตัวจริงจากเกมก่อนที่เอาชนะ โคลอมเบีย 2-1 ลงสนามบู๊ต่อเนื่อง เพราะลูกทีมทำผลงานกันได้ดีอยู่แล้ว นั่นหมายความว่า ซอน ฮวง มิน และ อี คุน โฮ จะรับหน้าที่เป็นคู่ศูนย์หน้าเหมือนเดิม และจะมี กี ซุง ยอง กับ จาง ฮยุน ซู ยืนเป็นตัวหลักในแดนกลางและหลัง ตามลำดับ

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
เกาหลีใต้ (4-4-2) : คิม ซุง กยู - ชอย ชุล ซุน, ควอน คยุง วอน, จาง ฮยุน ซู, คิม จิน ซู - ควอน ชาง ฮุน, โก โย ฮาน, กี ซุง ยอง, อี แจ ซุง - ซอน ฮวง มิน, อี คุน โฮ

      สุรชัย จตุรภัทรพงษ์ นายใหญ่ของ บางกอกกล๊าส ยังไร้เงาของ ชาตรี ฉิมทะเล (23 นัด / 9 ประตู) และ ณัฐชัย ศรีสุวรรณ์ (15 นัด / 2 ประตู) เหมือนเดิม เนื่องจากต้องพักรักษาตัวต่อ ส่วนในรายของ ดาเนียล การ์เซีย โตติ (23 นัด / 9 ประตู) จอมทัพชาวสเปนติดโทษห้ามแข่ง ทำให้ ยาสมานี่ คัมโปส (30 นัด / 10 ประตู) ต้องนำทีมลุย

      มิลอส โยคซิช เทรนเนอร์ของ นครราชสีมา จะหมดสิทธิ์ใช้บริการของ เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว (27 นัด) กับ ประลอง สาวันดี (4 นัด) เพราะโรคเดี้ยงเข้าครอบงำ ส่วนในรายของ อธิบดี เอติรัตน์ (27 นัด / 2 ประตู) กองหลังตัวแกร่ง ก็ติดโทษแบน แต่จะได้ตัว นฤพล อารมณ์สวะ (24 นัด / 2 ประตู) สวนทางกลับมาใช้งานแทน

      ไมค์ มัลวี่ย์ เฮ้ดโค้ชของ โปลิซ เทโร จะไม่มีชื่อของ มิเชล เอ็นดรี้ (28 นัด / 15 ประตู) ดาวยิงชาวฝรั่งเศส ที่ยังสลัดคราบเดี้ยงกลับมาไม่ได้ ส่วนในรายของ มาริโอ อบรานเต้ (24 นัด / 1 ประตู) กับ ภูวนาท คำแก้ว (7 นัด / 1 ประตู) สองแนวรับของทีม จะติดโทษแบน แต่ยังดีที่ คาลิฟา ซิสเซ่ (29 นัด / 2 ประตู) พร้อมลงช่วยทีมได้

      เทิดศักดิ์ ใจมั่น ผู้จัดการทีมของ ชลบุรี จะหมดสิทธิ์ใช้งาน เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ (24 นัด / 1 ประตู) ปีกซ้ายตัวเก่ง ที่ติดโทษห้ามแข่ง แต่ขุมกำลังที่เหลือพร้อมลุยอยู่นานแล้ว คาดว่า "น้าเทิด" เตรียมจัดชุดใหญ่ลงบู๊ต่อ โดยจะมีทั้ง นูรูล ศรียานเก็ม (30 นัด / 7 ประตู) และ เรนาน มาร์เกวส (31 นัด / 25 ประตู) ลงทำเกมรุกร่วมกัน

      โบซิดาร์ บันโดวิช กุนซือของ บุรีรัมย์ฯ ยิ้มสบายใจได้เลย เพราะสภาพความพร้อมของลูกทีมทุกคนสมบูรณ์ 100% นั่นหมายความว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง คงไม่ต่างไปจากเกมที่ผ่านมาๆ โดยจะมี อันเดรส ตูเญซ (15 นัด / 1 ประตู), ดิโอโก หลุยส์ ซานโต (27 นัด / 23 ประตู) และ ชาช่า โคเอลโญ่ (32 นัด / 33 ประตู) ลงสนามแน่

      มาโน่ โพลกิ้ง นายใหญ่ของ แบงค็อกฯ เหลือเพียงแค่ มานูเอล ทอม เบียรห์ (19 นัด / 2 ประตู) คนเดียวเท่านั้น ที่เป็นแข้งเดี้ยงค้างสต็อก ส่วนในรายของ พุทธินันท์ วรรณศรี (29 นัด / 2 ประตู) จะติดโทษแบน แต่นักเตะที่เหลือไม่มีปัญหาในการรับใช้ต้นสังกัด โดยเฉพาะ ดราแกน บอสโควิช (31 นัด / 37 ประตู) ที่ลุ้นยิง 40 ประตูให้ได้ในปีนี้

      ธชตวัน ศรีปาน เทรนเนอร์ของ เมืองทองฯ ต้องแก้ปัญหาตรงแบ็คขวาต่อไป เมื่อ อดิศร พรหมรักษ์ (17 นัด) กับ ทริสตอง โด (27 นัด / 3 ประตู) ยังไม่หายเดี้ยง เชื่อว่า "โค้ชแบน" จะเรียกใช้งาน นุกูลกิจ ครุฑใหญ่ (1 นัด) ลงเล่น ส่วนในรายของ เลอันโดร อัสซัมเซา (14 นัด / 12 ประตู) จะติดโทษห้ามแข่ง อดมีส่วนร่วมเเน่นอน

      อเล็กซานเดร กาม่า เฮ้ดโค้ชของ เชียงรายฯ ไม่มีเรื่องให้กังวลในการจัดทัพ เพราะลูกทีมทุกคนฟิตสมบูรณ์ดี จะมีก็เเค่ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ (22 นัด / 1 ประตู) ที่เจ็บยาวอยู่คนเดียวเท่านั้น คาดว่าเกมนี้ กาม่า ไม่น่าจะปรับเปลี่ยน 11 ตัวจริงอะไร น่าจะมี ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ (29 นัด / 5 ประตู) ลงคุมจังหวะตรงกลางสนามเหมือนเก่า

      โดริวัล จูเนียร์ เฮ้ดโค้ชของ เซา เปาโล มีรายงานความเสียหายเรื่องลูกทีมเดี้ยงเข้ามา 3 ราย ได้แก่ เอแดร์ มิลิเตา (18 นัด / 1 ประตู), เวลลิงตัน เน็ม (10 นัด / 1 ประตู) และ กิลแบร์โต้ (14 นัด / 2 ประตู) แต่ขุมกำลังที่เหลือฟิตเต็มสูบกันทั้งหมด คาดว่า แฮร์นาเนส (17 นัด / 9 ประตู) จะลงทำหน้าที่เป็นจอมทัพเหมือนเก่าเหมือนเดิม

      เซ ริคาร์โด้ นายใหญ่ของ วาสโก ดา กาม่า จะไร้เงาของ เคลวิน (5 นัด) กับ ว๊ากเนอร์ (15 นัด / 2 ประตู) ที่มีอาการเจ็บรบกวน ส่วนในรายของ เวลลิงตัน (22 นัด) และ โชมาร์ (5 นัด) จะอดบู๊ในเกมนี้ เนื่องจากติดโทษแบน แต่สำหรับในแดนหน้าไม่มีอะไรเปลี่ยน โดย เนเน่ (26 นัด / 5 ประตู) จะจับคู่กับ หลุยส์ ฟาเบียโน่ (12 นัด / 5 ประตู)

      ซลัตโก้ ดาลิช กุนซือของ โครเอเชีย น่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในชุด 11 ตัวจริงจากเกมก่อน นอกจากจะส่ง มาริโอ มานด์ซูคิช ลงเป็นตัวจริง เพียงแค่ตำแหน่งเดียวเท่านั้น เพราะลูกทีมทุกคนทำผลงานกันได้ยอดเยี่ยมอยู่แล้ว นั่นหมายความว่า มาร์เชโล่ โบรโซวิช, อีวาน ราคิติช และ ลูก้า โมดริช จะได้ลงคุมแดนกลางกันต่อ

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
โครเอเชีย (4-2-3-1) : ดานิเยล ซูบาซิช - ซีม เวอร์ซัลโก้, เดยัน ลอฟเรน, โดมากอย วิด้า, อีวาน สตรินิช - มาร์เชโล่ โบรโซวิช, อีวาน ราคิติช - อันเดร ครามาริช, ลูก้า โมดริช, อีวาน เพริซิช - มาริโอ มานด์ซูคิช

      มิชาเอล สคิบเบ้ เทรนเนอร์ของ กรีซ มีข่าวดีเข้ามาก่อนเกม เมื่อ คอสตาส มาโนลาส ปราการหลังตัวเก่ง กลับมาช่วยทีมได้แล้ว หลังจากชดใช้โทษห้ามแข่งเรียบร้อย คาดว่าเกมนี้ สคิบเบ้ จะปรับโฉมของทีมใหม่ด้วยระบบ 4-2-3-1 โดยจะวาง คอสตาส มิโตรกลู หัวหอกตัวเก่งจากสโสสรมาร์กเซย ยืนค้ำเป็นศูนย์หน้าตัวเป้า

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
กรีซ (4-2-3-1) : โอเรสติส คาร์เนซิส - พานาจิโอติส เรตซอส, โซเครติส, คอสตาส มาโนลาส, จอร์กอส ซาเวลลาส - อเล็กซานดรอส ซิโอลิส, เซก้า - จานนิโอตาส, คอสตอส ฟอร์ตูนิส, คริสโตโดโลปูลอส - คอสตาส มิโตรกลู

      ดาร์เรน เวย์ ผู้จัดการทีมของ เยโอวิล จะหมดสิทธิ์ใช้บริการของ โอลูเฟลา โอโลโมลา (14 นัด / 7 ประตู) กับ ฟรองซัว โซโก้ (15 นัด / 5 ประตู) สองกองหน้าตัวสำคัญ ที่ดันควงแขนกันติดโทษแบนพอดี นั่นบังคับให้ เวย์ ต้องฝากฝังภาระในการพังประตูในนัดนี้ไปไว้กับ แซม สเตอร์ริดจ์ (15 นัด / 3 ประตู) ศูนย์หน้าดาวรุ่ง วัย 19 ปี ทันที

      คีธ เคิร์ล เทรนเนอร์ของ คาร์ไลส์ ต้องรอเช็คความฟิตของ จอห์น โอซุลลิแวน กับ เคลวิน เอตูฮู (7 นัด) อีกครั้ง ว่าพร้อมลงเล่นหรือไม่ แต่จะมีข่าวดีตรงที่ แจ็ค บอนแฮม (12 นัด) นายด่านหมายเลขหนึ่ง ฟิตเต็มสูบ กลับมารับใช้ต้นสังกัดได้แล้ว ส่วนในแดนหน้าจะมี ฮัลลัม โฮป (16 นัด / 4 ประตู) ลงเป็นตัวความหวังสมดังชื่อแน่นอน

      จอห์น โคลแมน กุนซือของ แอ็คคริงตัน ไม่มีรายงานความเสียหายใดเรื่องสภาพทีมเข้ามา นั่นหมายความว่า โคลแมน สามารถก็อปปี้ 11 ตัวจริง จากเกมที่บุกชนะ วีแกน 4-0 มาใช้งานต่อได้เลย เพราะลูกทีมทุกคนเล่นกันได้อย่างยอดเยี่ยมอยู่เเล้ว โดยเฉพาะ บิลลี่ คี (16 นัด / 10 ประตู) ที่ฟอร์มกำลังร้อนแรงมากมาย

      ฌอน เดอร์รี่ นายใหญ่ของ เคมบริดจ์ จะไร้เงาของ อเดบาโย อาซีซ (5 นัด) กองหน้าผิวสีวัย 23 ปี ที่ยังคงเดี้ยงอยู่ ส่วนในรายของ แกรี่ ดีแกน (16 นัด) ห้องเครื่องชาวไอริช ต้องรอเช็คฟิตก่อนลงสนามอีกครั้ง แต่ที่อดบู๊แน่ๆ อีกคน คือ จอร์จ มาริส (14 นัด / 1 ประตู) แนวรุกดาวรุ่งประจำทีม เนื่องจากติดโทษห้ามแข่ง

      จอห์น แม็คเกรียล เฮ้ดโค้ชของ โคลเชสเตอร์ ปวดตับไม่แพ้กัน เมื่อมีนักเตะเจ็บเพียบเลย ไม่ว่าจะเป็น เคน วินเซนต์-ยัง (11 นัด / 1 ประตู), แซมมี่ ซโมดิกส์ (10 นัด / 4 ประตู), เบรนแนน ดิคเคนสัน, ลุค พรอสเซอร์, คอร์ทนี่ย์ ซีเนียร์ (1 นัด / 1 ประตู) และ ฌอน เมอร์เรย์ (13 นัด / 2 ประตู) คงต้องหาทางเอาตัวรอดให้ได้

      รอสซี่ อีเมส เทรนเนอร์ของ บาร์เน็ต มีรายงานลูกทีมบาดเจ็บยาวเป็นหางว่าว ไล่มาตั้งแต่ ชาร์ลคิว คูลเธิร์สต์ (13 นัด / 7 ประตู), เจมี่ สตีเฟ่นส์ (3 นัด), เคอร์ติส เวสตัน (2 นัด), จอห์น อกินเด (2 นัด), ริชาร์ด บรินด์ลีย์, แอลเลียต จอห์นสัน (2 นัด) และ เดฟ ทาร์ปีย์ (2 นัด) นั่นทำให้ อีเมส ต้องคิดหนักในการจัดทีมนัดนี้

      ดาร์เรลล์ คลาร์ค เทรนเนอร์ของ บริสตอล โรเวอร์ส ยังไม่มีชื่อของ บิลลี่ โบดิน (12 นัด / 7 ประตู) และ เจมส์ คลาร์ค (1 นัด) เพราะเดี้ยงอยู่เหมือนเก่า ส่วนในรายของ ไรอัน สวีนี่ย์ (10 นัด / 2 ประตู) กับ ทอม ล็อคเยอร์ (13 นัด / 1 ประตู) ก็ติดภารกิจรับใช้ทีมชาติ ไอร์แลนด์ และ เวลส์ ตามลำดับ นั่นทำให้ คลาร์ค ต้องปรับทีมอีกครั้ง

      เกรแฮม อเล็กซานเดอร์ เฮ้ดโค้ชของ สคันธอร์ป จะหมดสิทธิ์ใช้งาน โจนาธาน มาร์เก็ตต์ส กับ ลุค วิลเลี่ยมส์ ที่ยังต้องใช้บริการของโรงพยาบาลอยู่ ส่วนในรายของ แซม แมนตอม (8 นัด) ต้องรอเช็คความฟิตก่อนเริ่มกมอีกครั้ง แต่ที่วืดแน่ๆ อีก 2 คน คือ รอรี่ แม็กอาร์เดิ่ล (16 นัด) และ เคลย์ตัน ลูอิส ที่ติดภารกิจรับใช้ชาติบ้านเกิด

      จิมมี่ ฟลอยด์ ฮัสเซลแบงค์ กุนซือของ นอร์ทแฮมป์ตัน ยังคงไร้เงาของ อารอน ฟิลลิปส์ (2 นัด), เลออน บาร์เน็ตต์ (5 นัด / 1 ประตู) และ อเล็กซ์ เรเวลล์ (12 นัด / 1 ประตู) ที่ยังสลัดคราบเดี้ยงกลับมาไม่ได้ ส่วนในรายของ เรแกน พูล (9 นัด) กองหลังดาวรุ่งก็ติดภารกิจรับใช้ทีมชาติเวลส์ รุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี งดใช้งานเช่นกัน

      โฆเซ็ป โคลเต็ต รูอิซ ผู้จัดการทีมของ อ็อกซ์ฟอร์ด ไม่มีปัญหาใดในการจัดทัพ เนื่องจากสภาพความพร้อมของลูกทีมทุกคนสมบูรณ์ดี 100% นั่นหมายความว่า กำลังสำคัญๆ อย่าง ริคาร์ดินโญ่ (14 นัด / 1 ประตู), จอช รัฟเฟิ่ลส์ (14 นัด / 4 ประตู) และ เวส โธมัส (12 นัด / 5 ประตู) พร้อมพาเหรดกันลงสนามเป็นตัวจริง

      มาร์ติน โอนีล นายใหญ่ของ ไอร์แลนด์ จะไม่มีชื่อของ ริชาร์ด คีอ็อกห์ กับ เจมส์ แม็คคาร์ธี่ ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวน ส่วนในรายของ เดวิด เมย์เลอร์ ห้องเครื่องคนสำคัญ ก็ดันติดโทษห้ามแข่ง อดบู๊ไปอีกคน คาดว่าเกมนี้ โอนีล จะเลือกวางหมากมาในระบบ 4-5-1 โดยจะมี เชน ลอง รับบทบาทยืนค้ำเป็นกองหน้าตัวเป้าให้กับทีม

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
ไอร์แลนด์ (4-5-1) : ดาร์เรน แรนดอล์ฟ - ไซรัส คริสตี้, เชน ดัฟฟี่, คีแรน คลาร์ค, สตีเฟ่น วอร์ด - เจมส์ แม็คคลีน, เกล็น วีแลน, เวส ฮูลาแฮน, เจฟ เฮนดริค, ร๊อบบี้ เบรดี้ - เชน ลอง

      อาเก้ ฮาไรด์ กุนซือของ เดนมาร์ก ต้องรอเช็คความฟิตของ ไซม่อน เคียร์, นิโคไล ยอร์เกนเซ่น และ อันเดรียส เบลลันด์ ก่อนเริ่มเกมอีกครั้ง ว่ามีใครพร้อมลงช่วยทีมได้ทันบ้าง แต่กำลังหลักคนอื่นๆ ฟิตสมบูรณ์ดีทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล, โธมัส เดอลานี่ย์, คริสเตียน อีริกเซ่น รวมไปถึง นิคลาส เบนด์เนอร์

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
เดนมาร์ก (4-2-3-1) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล - ปีเตอร์ อังเกอร์เซ่น, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, โยนาส คนุดเซ่น - วิลเลี่ยม ควิสต์, ลาส โชน - คริสเตียน อีริคเซ่น, โธมัส เดอลานี่ย์, พิโอเน่ ซิสโต้ - นิคลาส เบนด์เนอร์

      ริคาร์โด้ กาเรก้า เฮ้ดโค้ชของ เปรู จะหมดสิทธิ์ใช้งาน เปาโล เกร์เรโร่ ดาวยิงตัวเก่งของทีม เนื่องจากติดโทษแบน เพราะตรวจสารกระตุ้นไม่ผ่าน นั่นบังคับให้ กาเรก้า ต้องแก้ปัญหาศูนย์หน้าเป็นการด่วน คาดว่า เจฟเฟร์สัน ฟาร์ฟาน จะเป็นคำตอบ โดยจะยืนกองหน้าตัวเป้าในระบบ 4-2-3-1 ซึ่งจะมี คริสเตียน กูเอบา ปั้นเกมอยู่ข้างหลัง

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
เปรู (4-2-3-1) : เปโดร กัลเลเซ่ - อัลโด กอร์โซ่, อัลเบร์โต้ โรดริเกวซ, คริสเตียน รามอส, มิเกล เตราโก้ - บิคตอร์ โยตุน, เรนาโต้ ตาเปีย - อังเดร การิโญ่, คริสเตียน กูเอบา, เอดิสัน ฟลอเรส - เจฟเฟร์สัน ฟาร์ฟาน

      แอนโธนี่ ฮัดสัน นายใหญ่ของ นิวซีแลนด์ มีข่าวดีก่อนเริ่มเกมเลย เมื่อสภาพความพร้อมของลูกทีมทุกคนสมบูรณ์ 100% สามารถจัดชุดที่ดีที่สุดลงบู๊ได้สบาย เชื่อว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในเกมนี้ จะประกอบไปด้วยบรรดาดาวดังของประเทศ นำทีมมาโดย คริส วู้ด ศูนย์หน้าร่างโย่งจากสโมสรเบิร์นลี่ย์ ในศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
นิวซีแลนด์ (5-3-2) : สเตฟาน มาริโนวิค - เดน อิงก์แฮม, มิคาเอล บ็อกซอลล์, แอนดรูว์ ดูแรนท์, วินส์ตัน รีด, คิป โคลเวย์ - มาร์โก โรยาส, ไรอัน โธมัส, ไมเคิ่ล แม็คกลินชี่ย์ - คริส วู้ด, คอสต้า บาร์บารูเซส

      อังเก้ ปอสเตโคกลู ผู้จัดการทีมของ ออสเตรเลีย จะไร้เงาของ ร็อบบี้ ครูซ แนวรุกตัวเทพ ที่สลัดคราบเดี้ยงไม่ทัน แต่ข่าวดีก็คือ ทิม เคฮิลล์ ดาวเตะประสบการณ์สูง บินร่วมทัพมาด้วย และน่าจะได้ลงเล่นเป็น 11 ตัวจริงในแดนหน้าคู่กับ ทอม โรจิช โดยเกมนี้ ปอสเตโคกลู จะปรับแท็คติกมาใช้ระบบ 3-5-2 ในการรับมือคู่แข่งขัน

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
ออสเตรเลีย (3-5-2) : แมทธิว ไรอัน - เทรนท์ เซนส์บิวรี่, มิลอส เดเกเน็ค, แมทธิว เยอร์มาน - แมธิว เล็คกี้, เจมส์ ทรอยซี่, มาร์ค มิลิแกน, อารอน มอย, แบร็ดลี่ย์ สมิธ - ทิม เคฮิลล์, ทอม โรจิช

      ฆอร์เก้ หลุยส์ ปินโต้ เฮ้ดโค้ชของ ฮอนดูรัส ทำเรื่องให้ทั้งประเทศงงงวยกันอีกแล้ว เมื่อตัดสินใจไม่เรียกตัว เอ็ดดี้ เอร์นานเดซ หัวหอกตัวเก่งที่ลงช่วยทีมในเกมที่ชนะ เม็กซิโก 3-2 มาสู้ศึกนัดชี้ชะตานัดนี้ แต่ตะวสำคัญคนอื่นๆ ยังอยู่กันครบ ไม่ว่าจะเป็น มายนอร์ ฟิเกรัว, ไบรอัน อากอสต้า, รอมเมล กุยโอโต้ และ การ์ลอส กอสต์ลี่ย์

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮอนดูรัส (4-2-3-1) : โดนิส เอสโกเบร์ - ไบรอัน เบ็คเคเลส, อองรี ฟิเกรัว, มายนอร์ ฟิเกรัว, เอเบร์ อัลบาราโด้ - ไบรอัน อากอสต้า, อัลเฟรโด้ เมฆิอา - อัลเบร์โต้ เอลิส, อเล็กซานเดอร์ โลเปซ, รอมเมล กุยโอโต้ - การ์ลอส กอสต์ลี่ย์

      ราน เบน ชิมอน เทรนเนอร์ของ ไซปรัส หั่นชื่อของ คอนสแตนตินอส ชาราลัมบิเดส และ อันเดรียส มาคริส สองมิดฟิลด์ตัวเก่ง ออกจากการบุกเยือน จอร์เจีย ในทริปนี้ ส่วนในรายของ คอนสแตนตินอส ปานากี้ ก็หลุดโผไปเช่นกัน เนื่องจากอาการเจ็บเล่นงาน แต่ยังดีที่ เปียรอส เซอเตอริอู พร้อมลุยในฐานะศูนย์หน้าตัวจริง

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
ไซปรัส (5-4-1) : นีโอฟีตอส มิชาเอล - เจสัน เดเมตริอู, จอร์จอส เมอร์คิส, ฟานอส คาเตลาริส, คอนสแตนตินอส ไลฟิส, เรนาโต้ มาร์กาก้า - แว็งซองต์ ลาบาน, คอสตากิส อาร์ตีมาตาส, ชาริส ไคเรียคู, เจสัน เดเมตริอู - เปียรอส เซอเตอริอู

      วลาดิเมียร์ ไวส์ เฮ้ดโค้ชของ จอร์เจีย ไม่ได้มีปัญหาเรื่องอาการบาดเจ็บรบกวนนักเตะตัวหลักแต่อย่างใด จึงทำให้สามารถเรียกตัวเก่งมาใช้งานได้ทั้งหมด คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง ไม่น่าจะต่างไปจากเกมคัดเลือกฟุตบอลโลกที่ผ่านมา โดยจะมี จอร์จี้ ควิลิตาย่า หัวหอกวัย 24 ปี เป็นตัวความหวังของชาติเหมือนเดิม

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
จอร์เจีย (4-5-1) : จอร์จี้ มาคาริดเซ่ - โอตาร์ คาคาบัดเซ่, กูราม คาเชีย, โซโลมอน คเวียร์คเวเลีย, จอร์จี้ นาวาลอฟสกี้ - จาบา คานคาว่า, วาเลรี่ คาไซชวิลี่, จอร์จี้ อาบูร์จาเนีย, วาเลเรียน กวิเลีย, จัมบูล จิกาห์อูรี่ - จอร์จี้ ควิลิตาย่า

      ติเต้ นายใหญ่ของ บราซิล เรียก "ดาราดัง" มาติดทีมกันแบบครบครัน ไม่มีเซอร์ไพรซ์อะไรให้เห็น แต่นัดนี้อาจจะมีปัญหาอยู่หน่อยตรงที่ต้องรอเช็คฟิตของ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ จอมทัพตัวเก่งจากสโมสรลิเวอร์พูลก่อน ถ้าไม่ไหวก็ยังมีตัวตายตัวแทนอีกเพียบ คาดว่า เนย์มาร์ จะลงนำทัพเล่นเกมรุกร่วมกับ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และ กาเบรียล เฮซุส

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
บราซิล (4-3-3) : อาลิสสัน - ดาเนี่ยล อัลเวส, ติอาโก้ ซิลวา, มาร์ควินญอส, มาร์เชโล่ - คาเซมิโร่, เปาลินโญ่, เรนาโต้ ออกุสโต้ - เนย์มาร์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, กาเบรียล เฮซุส

      วาฮิด ฮาลิฮ็อดซิช กุนซือของ ญี่ปุ่น จะไร้เงาของ "สี่ตัวดัง" ที่ค้าแข้งในต่างแดนอย่าง ชินจิ คากาวะ, เคซึเกะ ฮอนดะ, โยชิโนริ มูโตะ และ ชินจิ โอคาซากิ เพราะหั่นชื่อออกไปแล้วเรียบร้อย แต่ยังพอมีนักเตะที่คุ้นตาอยู่บ้างในทีมชุดนี้ ไม่ว่าจะเป็น ฮิโรกิ ซากาอิ, มายะ โยชิดะ, ยูโตะ นากาโตโมะ, ยูยะ โอซาโกะ รวมไปถึง ทาเคชิ อินูอิ

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
ญี่ปุ่น (4-3-3) : เออิจิ คาวาชิม่า - ฮิโรกิ ซากาอิ, มายะ โยชิดะ, โยโมอากิ มากิโนะ, ยูโตะ นากาโตโมะ - โยซูเกะ อิเดกูชิ, โฮตารุ ยามากูชิ, ชู คูราตะ - ยูยะ คูโบะ, ยูยะ โอซาโกะ, ทาเคชิ อินูอิ

      สลาโวลยุบ มุสลิน เฮ้ดโค้ชของ เซอร์เบีย ตัดใจไม่เรียก เนมันย่า มาติช ห้องเครื่องตัวเทพจากสโมสรแมนฯ ยูไนเต็ด มาลุยจีนครั้งนี้ ส่วนในรายของ มาติย่า นาสตาซิช กับ นิโกล่า มัคซิโมวิช สองแนวรับตัวหลัก ก็ยังไม่หายเดี้ยง ยังดีที่ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช กับ อเล็กซานเดอร์ โคลาลอฟ ฟิตเต็มสูบ พร้อมลงช่วยทีมในเกมรับ

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
เซอร์เบีย (5-4-1) : วลาดิเมียร์ สตอยโควิช - อันโตนิโอ รูคาวิน่า, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, ยากอส วูโควิช, ดุสโก้ โทซิช, อเล็กซานเดอร์ โคลาลอฟ - มาร์โก กรูยิช, เนมันย่า กูเดลย์, ดูซาน ทาดิช, อาเดม ลายิช - อเล็คซานดาร์ มิโตรวิช

      มาร์เชลโล่ ลิปปี้ เทรนเนอร์ของ จีน ไม่ได้เรียกตัว จาง ยูหนิง กับ เจง จี้ สองกำลังสำคัญของชาติ มาติดทีมชุดนี้ แต่ก็ยังมีตัวหลักรายอื่นๆ พร้อมลงสนามอีกหลายคน คาดว่า ลิปปี้ จะวางหมากมาในระบบ 4-3-3 ตามที่ทีมถนัด โดยจะมี หยู ดาเบา, เกา หลิน และ เส้า จี้ ยืนเป็น "สามประสาน" ในแดนหน้า คอยผลิตสกอร์

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
จีน (4-3-3) : เช็ง เซ็ง - จาง ลินเป็ง, เหร็น หาง, เฟ็ง เสี่ยวติง, หลี่ ซูเป็ง - เจง เจง, จาง ซี่เจ๊, เฉา ซูรี - หยู ดาเบา, เกา หลิน, เส้า จี้

      โฆเซ่ เปเคร์มัน กุนซือของ โคลอมเบีย ไม่ได้เรียก "ดาวดัง" อย่าง ดาบิด ออสปิน่า และ ราดาเมล ฟัลเกา มาติดทีมชุดนี้ ส่วนในรายของ ตีโอฟิโล กูเตียร์เรซ กับ หลุยส์ มูเรียล ก็โดนหั่นชื่อออกเช่นกัน แต่ยังมีนักเตะที่ฝากความหวังได้อย่าง ฮาเมส โรดริเกวซ, คาร์ลอส ซานเชซ, ฆวน กัวดราโด้ และ คาร์ลอส บักก้า ลงเล่นอยู่

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
โคลอมเบีย (4-4-2) : เลอันโดร กาสเตญานอส - ซานติอาโก้ อาริอาส, ดาวินสัน ซานเชซ, ออสการ์ มูริโญ่, แฟรงค์ ฟาบรา - คาร์ลอส ซานเชซ, อาเบล อากุยลาร์, ฆวน กัวดราโด้, ฮาเมส โรดริเกวซ - คาร์ลอส บักก้า, ดูวาน ซาปาต้า

      ชิน แท ยัง ผู้จัดการทีมของ เกาหลีใต้ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรในการเรียกตัวนักเตะติดทีมชาติครั้งนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นพวกที่ตะลุยในเกมคัดบอลโลกมาแล้วทั้งนั้น นั่นหมายความว่า แท ยัง เตรียมขนชุดที่ดีที่สุดลงบู๊ เพื่อทดสอบทีมแน่ๆ โดยจะมี คู จา โชล กับ ซอน ฮวง มิน เป็นแกนหลักของทีมในแดนกลางและแดนหน้า

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
เกาหลีใต้ (3-4-3) : คิม ซุง กยู - ควอน คยุง วอน, จาง ฮยุน ซู, คิม ยัง กวอน - ลี แจ ซุง, คู จา โชล, จุง วู ยัง, ยอม คี ฮุน - ควอน ชาง ฮุน, ซอน ฮวง มิน, อี คุน โฮ

      แบร์นด์ สตอร์ก เทรนเนอร์ของ ฮังการี ตัดสินใจไม่เรียกตัว ปีเตอร์ กาลัคซี่ กับ อดัม แลง สองตัวสำคัญของชาติ มาร่วมทัพในเกมนี้ ส่วนในรายของ โซลตัน เกร่า กองกลางประสบการณ์สูง ก็ยังเดี้ยงไม่หาย ทำให้ สตอร์ก ต้องเปลี่ยนแปลง 11 ตัวจริงพอสมควร แต่สำหรับ บาลาซส์ ดซุดซ์ซัค พร้อมลงช่วยทีมทางกราบซ้ายเหมือนเดิม

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮังการี (4-4-2) : เดเนส ดิบุสซ์ - อัตติล่า ฟิโอล่า, ริชาร์ด กุซมิกส์, ตามาส คาดาร์, ยานอส ซาโบ - อดัม นากี้, มาเต้ ปัตไค, โซลตัน สตีเบอร์, บาลาซส์ ดซุดซ์ซัค - โรลันด์ อูไกร, เนมันย่า นิโคลิช

      ลุก โฮลซ์ เฮ้ดโค้ชของ ลักเซมเบิร์ก ไม่ได้เรียกตัวหลักอย่าง โฌนาต็อง ฌูแบร์, มักซีม ชาโน่ต์ และ เซบาสติย็อง ธิลล์ มาติดทีมชุดนี้ แต่กำลังหลักในการลงเล่นฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกยังอยู่กันหลายราย ไม่ว่าจะเป็น คริส ฟิลิปป์ส, เกอแว็ง มัลเก้ต์, คริสโตแฟร์ มาร์แต็งส์ เปไรร่า, แว็งซ็องต์ ธิลล์ รวมไปถึง ออเรลิย็อง โฌอาชิม

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
ลักเซมเบิร์ก (4-4-2) : อองโตนี่ มอริส - มาร์แว็ง มาร์แต็งส์, คริส ฟิลิปป์ส, เกอแว็ง มัลเก้ต์, เดิร์ค คาร์ลซง - คริสโตแฟร์ มาร์แต็งส์ เปไรร่า, แว็งซ็องต์ ธิลล์, โอลิวิเย่ร์ ธิลล์, แกร์ซง โรดริเกวส - ออเรลิย็อง โฌอาชิม, ดาวิด ตูร์เปล

      เอร์นาน โกเมซ เฮ้ดโค้ชของ ปานามา จะไม่มีชื่อของ กาเบรียล โกเมซ, เอ็ดการ์ บาร์เซนาส, หลุยส์ เตฆาด้า และ อับเดียล อาร์โรโย่ ที่มีปัญหาบาดเจ็บ จึงไม่ได้ถูกเรียกตัวมาด้วย นั่นทำให้ โกเมซ ต้องปรับทัพในหลายตำแหน่ง โดยเกมนี้น่าจะฝากความหวังในการพังประตูไว้กับคู่กองหน้าอย่าง บลาส เปเรซ และ กาเบรียล ตอร์เรส

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
ปานามา (4-4-2) : เปเนโด้ - อดอลโฟ มาชาโด้, ฟีเดล เอสโคบา, โรมัน ตอร์เรส, หลุยส์ โอวัลเล่ - อานีบัล โกดอย, อาร์มานโด คูเปร์, อัลเบร์โต้ กวินเตโร่, ริการ์โด้ บุยตราโก้ - บลาส เปเรซ, กาเบรียล ตอร์เรส

      คาร์ลอส เควรอซ กุนซือของ อิหร่าน จะหมดสิทธิ์ใช้งาน เปจ์มาน มอนตาเซรี่ ที่มีอาการเจ็บรบกวน ส่วนในรายของ มาซุด โชยาเอล ก็ไม่มีชื่อติดทีมชุดนี้เช่นกัน แต่ "อาวุธหนัก" ที่เหลือยังพร้อมให้เรียกใช้บริการ คาดว่า เควรอซ จะใส่ชื่อของ ซาร์ดาร์ อัซมูน ดาวยิงตัวเก่ง ลงประจำการในแดนหน้าเพื่อล่าตาข่ายอย่างแน่นอน

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
อิหร่าน (4-3-3) : อาลิเรซา เบรานวานด์ - วาร์ย่า กาห์ฟูรี่, มอร์เตซ่า ปูราลิกันยี่, ยาลัล ฮอสเซนี่, มิลัด โมฮัมมาดี้ - ซาอิด อัซซาโตลาฮิ, วาฮิด อามิรี่, โอมิด เอบราฮิมี่ - อาลิเรซา จาฮันบัคห์, เมห์ดี้ ตาเรมี่, ซาร์ดาร์ อัซมูน

      มาร์ติน รีม กุนซือของ เอสโตเนีย ไม่มีชื่อของตัวดังของประเทศอย่าง แร็กนาร์ คลาวาน ปราหลังจากสโมสรลิเวอร์พูล และตัวเก๋าของทีมชาติอย่าง คอนสแตนติน วาสซิลเยฟ เนื่องจากโดนหั่นชื่อออก เชื่อว่า รีม น่าจะวางหมากมาในระบบ 5-4-1 โดยจะมี ยูนาส ตาม ยืนเป็นตัวหลักในเกมรับร่วมกับ คาโรล เม็ตส์ และ นิคิต้า บารานอฟ

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
เอสโตเนีย (5-4-1) : มิห์เคล อัคซาลู - ไตโย เตนิสเต้, คาโรล เม็ตส์, นิคิต้า บารานอฟ, ยูนาส ตาม, อาร์เตอร์ ปิคค์ - อิลย่า อันโตนอฟ, มัตทิอัส คาอิต, เซอร์เก้ เซ็นยอฟ, เราโน ซัปปิเน่น - เฮนรี อานิเย่ร์

      มาร์คคู คาเนอร์วา เฮ้ดโค้ชของ ฟินแลนด์ จะไร้เงาของนักเตะชั่วโมงบินสูงๆ อย่าง เซาลี่ ไวซาเน่น, เพอร์พาริม เฮเตมาย และ อเล็กซานเดอร์ ริง เพราะไม่ได้เรียกตัวติดทีมชุดนี้มาด้วย แต่กำลังสำคัญคนอื่นๆ ยังพร้อมรับใช้ชาติได้อยู่หลายคน ไม่ว่าจะเป็น ลูคัส ฮราเด็กกี้, นิคลาส มอยซานเดอร์, โจเอล โพห์ยานปาโล่ รวมไปถึง ตีมู พุคกี้

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
ฟินแลนด์ (4-4-2) : ลูคัส ฮราเด็กกี้ - ยูฮา ปิริเน่น, เปาลุส อารายูรี่, นิคลาส มอยซานเดอร์, ยูน่า ตอยวิโอ้ - รัสมุส ชุลเลอร์, โธมัส ลาม, โรบิน ล็อด, คาสเปอร์ ฮามาไลเน่น - โจเอล โพห์ยานปาโล่, ตีมู พุคกี้