วิเคราะห์บอล / วิเคราะห์บอลวันนี้

      มิชาเอล โคลเนอร์ กุนซือของ เนิร์นแบร์ก มีรายงานตัวเจ็บเซ็ตเดิมเข้ามา ได้แก่ ยอร์ก มาร์กเรตเตอร์ (6 นัด), เดนนิส ลิพแพร์ต, เซบาสเตียน แคร์ก (3 นัด) และ อดัม ซเร็ค (2 นัด) แต่คงไม่ส่งผลกระทบอะไรอีก เพราะ โคลเนอร์ คงไม่คิดเปลี่ยนแปลง 11 ขุนพลชุดใหญ่เเน่ เนื่องจากลูกทีมทุกคนกำลังทำหน้าที่ได้ดีแล้ว

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เนิร์นแบร์ก (4-3-3) : ธอร์สเท่น เคิร์ชบอม - เอ็นริโก้ วาเลนตินี่, ลูคัส มูห์ล, เอเวอร์ตัน, ทิม ไลโบลด์ - ฮันโน่ เบห์เรนส์, พาทริค เเอร์ราส, เอดูอาร์ด โลเว่น - เซดริค ทอยเชิร์ต, เควิน โมห์วัลด์, มิคาเอล อิชัค

      แฟร้งค์ ชมิดท์ เฮ้ดโค้ชของ ไฮเด้นไฮม์ จะไร้เงาของ มาร์นอน บุช (7 นัด / 1 ประตู), นิโกล่า ดอฟดาน (10 นัด / 1 ประตู) และ เดนิส โธมัลล่า ที่ยังต้องใช้บริการของโรงพยาบาลอยู่ คาดว่าเกมนี้ ชมิดท์ น่าจะยังไว้วางใจในตัวของ โรเบิร์ต กลัทเซล (10 นัด / 2 ประตู) หลังจากที่กดคนเดียว 2 ตุง ในศึกเดเอฟเบ โพคาล

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไฮเด้นไฮม์ (4-2-3-1) : เควิน มุลเลอร์ - โรเบิร์ต สเตร๊าส์, ติโม เบียร์มันน์, เควิน เคร๊าส์, อาร์เน่ ฟีค - มาธิอัส วิตเทค, เซบาสเตียน กรีสเบ็ค - ทิม สคาร์เค่, โคลย่า พุสช์, มาร์ก ชนัตเตอเรอร์ - โรเบิร์ต กลัทเซล

      ทอร์สเท่น ลีเบิร์คเน็ชท์ กุนซือของ บราวน์ชไวก์ จะเหลือเพียงแค่ โจเซฟ บัฟโฟ่ (11 นัด / 3 ประตู), เมียร์โก โบลันด์ (8 นัด / 2 ประตู), คริสตอฟเฟอร์ นีมัน (7 นัด / 3 ประตู) และ โดมินิค คุมเบล่า (6 นัด / 1 ประตู) ที่เป็นแข้งเดี้ยงค้างสต็อก ดังนั้น โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงก็คงไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากนัก

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
บราวน์ชไวก์ (4-2-3-1) : ยัสมิน เฟย์ซิช - มักซิมิเลี่ยน ซอยเออร์, กุสตัฟ วัลสวิค, สตีวี่ บริทคร๊อยซ์, เคน ไรเชิ่ล - ไคริน โมล, หลุยส์ แซมซั่น - โอเนล เฮอร์นานเดซ, ออซคาน ยิลดิริม, ซาลิม เคลิฟี่ - ซูเลมาน อับดุลลาไฮ

      อูเว่ นอยฮุส นายใหญ่ของ ไดนาโม เดรสเดน จะหมดสิทธิ์ใช้งาน ฟิลิป ไฮส์ (7 นัด / 2 ประตู), โซเรน กอนเธอร์ (4 นัด), มาร์โก ฮาร์ทมันน์ (10 นัด / 1 ประตู) และ ปาสกาล เทสโทร้ต (1 นัด) เนื่องจากโดนอาการเจ็บเล่นงาน นั่นบังคับให้ นอยฮุส ต้องเรียกตัว ฟาเบียน มุลเลอร์ (5 นัด) มาอุดช่องโหว่ตรงตำแหน่งเเบ็คซ้าย

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไดนาโม เดรสเดน (4-3-3) : มาร์วิน ชว้าบ - ปอล เซกุน, ยานนิค มุลเลอร์, ฟลอเรียน บัลลัส, ฟาเบียน มุลเลอร์ - อิยาส ออสมัน, มานูเอล คอนราด, อันเดรียส แลมเบิร์ต - นิคลาส ครอยเซอร์, เปเนียล เอ็มลาปา, ฮาริส ดุลเยวิช

      ราล์ฟ ฮาเซ่นฮุตเทิ่ล กุนซือของ ไลป์ซิก จะไร้เงาของ สเตฟาน อิลซังเกอร์ (6 นัด) กับ บรูม่า (7 นัด / 1 ประตู) ที่โดนโรคเดี้ยงเล่นงาน เต่นักเตะรายอื่นๆ พร้อมรับใช้ต้นสังกดกันทั้งหมด เชื่อว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในคืนนี้ คงมีต่างจากเกมเดเอฟเบ โพคาลแน่ โดย ติโม แวร์เนอร์ (7 นัด / 5 ประตู) จะกลับมาทวงตัวจริงคืนสักที

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไลป์ซิก (4-2-2-2) : ปีเตอร์ กาลัคซี่ - ลูคัส โคลสเตอร์มันน์, อูปาเมกาโน่, วิลลี่ ออร์แบน, มาร์เซล ฮัลส์เท่นแบร์ก - ดีเอโก้ เดม, นาบิล เกอิต้า - มาร์เซล ซาบิตเซอร์, เอมิล ฟอร์สเบิร์ก - ยุสซุฟ โพลเซ่น, ติโม แวร์เนอร์

      จุ๊ป เฮย์เกส เทรนเนอร์ของ บาเยิร์น จะไม่มีชื่อของ ฆวน เบร์นาต, มานูเอล นอยเออร์ (3 นัด), ฟร้องค์ ริเบรี่ (6 นัด) และ โธมัส มุลเลอร์ (9 นัด / 1 ประตู) ที่อาการยังไม่ดีขึ้นเลยสักคน คาดว่าเกมนี้ เฮย์เกส จะปรับทัพกันอีกครั้ง โดยจะให้ นิคลาส ซูเล่ (7 นัด / 1 ประตู) กับ เซบาสเตียน รูดี้ (7 นัด) ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงบ้าง

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
บาเยิร์น (4-2-3-1) : สเวน อุลไรช์ - โจชัว กิมมิค, นิคลาส ซูเล่, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, ดาวิด อลาบา - เซบาสเตียน รูดี้, อาร์ตูโร่ วิดัล - อาร์เยน ร็อบเบน, ธิอาโก้ อัลกานตาร่า, คิงส์ลี่ย์ โกม็อง - โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

      ปีเตอร์ บอสซ์ เทรนเนอร์ของ ดอร์ทมุนด์ เหลือลูกทีมที่ยังเจ็บอยู่ 4 คน คือ โอเมอร์ โทพรัค (7 นัด), ลูคัส พิสเซ็ค (7 นัด), เอริค ดวร์ม และ มาร์โก้ รอยส์ เชื่อว่า บอสซ์ จะกลับมาใช้ตัวจริงเต็มพิกัดอีกครั้ง หลักจากที่พักตัวเก่งไม่ใช้งานในศึกเดเอฟเบ โพคาล โดย ปิแอร์ ออบาเมย็อง (9 นัด / 10 ประตู) จะกลับมาผลิตสกอร์เหมือนเดิม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ดอร์ทมุนด์ (4-3-3) : โรมัน บูร์กี - มาร์ก บาร์ตรา, โซเครติส, ดาน ซากาดู, มาร์เซล ชเมลเซอร์ - กอนซาโล่ กาสโตร, จูเลี่ยน ไวเกิ้ล, ชินจิ คากาวะ - อันเดร ยาร์โมเลนโก้, ปิแอร์ ออบาเมย็อง, คริสเตียน พูลิซิช

      อันเดร ไบรเท่นไรเตอร์ นายใหญ่ของ ฮันโนเวอร์ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน มาร์ติน ฮาร์นิค (9 นัด / 5 ประตู), เฟลิเป้ (4 นัด), อุฟเฟ่ เบ็ค และ เอ็ดการ์ พริบ ที่ยังใช้บริการของโรงพยาบาลอยู่ ทำให้ ไบรเท่นไรเตอร์ ต้องแก้ปัญหาในเกมบุกโดยด่วน คาดว่าเกมนี้ ต้องฝากความหวังการพังประตูไว้ที่ นิคลาส ฟัลครู้ก (9 นัด / 2 ประตู) ดาวยิงวัย 24 ปี

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮันโนเวอร์ (4-3-2-1) : ฟิลิปป์ ชอเนอร์ - จูเลี่ยน คอร์บ, ซาลิฟ ซาเน่, แอนตัน, มีโก อัลบอร์นอซ - เพอร์มิน ชเว็กเลอร์, มาร์วิน บาคาลอร์ซ, เซบาสเตียน เมเยอร์ - อิห์ลัส เบบู, เคนาน คารามัน - นิคลาส ฟัลครู้ก

      ปีเตอร์ สโตเกอร์ ผู้จัดการทีมของ โคโลญจน์ จะหมดสิทธิ์ใช้บริการของ โยนาส เอ็คเตอร์ (3 นัด), เคลาดิโอ ปิซาร์โร่ (2 นัด) และ จอห์น กอร์โดบา (7 นัด) ที่ควงเเขนกันเดี้ยงอยู่ นั่นบังคับให้ สโตเกอร์ ต้องแก้ปัญหาอีกครั้งโดยเฉพาะในแนวรุก ซึ่งต้องเรียกใช้งาน ไซม่อน โซลเลอร์ (6 นัด) มายืนคู่กับ ยูยะ โอซาโกะ (8 นัด / 1 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โคโลญจน์ (4-2-2-2) : ติโม ฮอร์น - เฟรเดอริก โซเรนเซ่น, โดมินิค มาโรห์, โดมินิค ไฮนซ์, ยานส์ ฮอร์น - มิลอส โยยิช, ซาลีห์ ออซคาน - เลออน บิตเท่นคอร์ต, คริสเตียน เกลเมนส์ - ยูยะ โอซาโกะ, ไซม่อน โซลเลอร์

      ไฮโค แฮร์ลิช เฮ้ดโค้ชของ เลเวอร์คูเซ่น ยิ้มสบายใจได้ก่อนเกมเลย เมื่อไม่มีรายงานความเสียหายเรื่องสภาพทีมเข้ามารบกวนแม้แต่รายเดียว นั่นหมายความว่า แฮร์ลิช สามารถเลือกวางหมากได้ตามต้องการ เชื่อว่า ขุนพลหลักๆ ที่เป็นคู่ใจน่าจะได้ลงสนามกันครบครันแน่ นำทีมมาโดย จูเลี่ยน บรันด์ (9 นัด / 3 ประตู) ที่ฟอร์มกำลังแจ่ม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เลเวอร์คูเซ่น (4-2-3-1) : แบร์นด์ เลโน่ - เบนจามิน เฮนริช, โจนาธาน ตาห์, สเวน เบนเดอร์, เวนเดล - ลาร์ส เบนเดอร์, ชาร์ล อรานกุซ - เลออน ไบลี่ย์, ไค ฮาแวร์ซ, จูเลี่ยน บรันด์ - เควิน โฟลลันด์

      มาร์ติน ชมิดท์ กุนซือของ โวล์ฟสบวร์ก จะหมดสิทธิ์ใช้งาน เซบาสเตียน จุง, จอห์น บรู้คส์ และ เจฟฟรี่ บรูม่า ที่อยู่ระหว่างพักรักษาตัว คาดว่าเกมนี้ ชมิดท์ จะกลับมาใช้ตัวหลักอีกครั้ง หลังจากที่บางรายได้พักในเกมบอลถ้วยเมื่อกลางสัปดาห์ แต่สำหรับ ดิว๊อค โอริกี (7 นัด / 2 ประตู) จะได้ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้าอีกหนึ่งนัด

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โวล์ฟสบวร์ก (4-2-3-1) : โกเยนส์ กัสตีลส์ - พอล เวอร์ฮาจ, มาร์เซล ทิสเซอรันด์, เฟลิกซ์ อูดูโอไค, จานลูก้า อิตเตอร์ - โจฌัว กีลาโว้ก, มักซิมิเลี่ยน อาร์โนลด์ - ยาคุบ บลาสซีคอฟสกี้, ดาเนี่ยล ดิดาวี, ยูนุส มัลลี่ - ดิว๊อค โอริกี

      โดเมนิโก้ เทเดสโก้ เทรนเนอร์ของ ชาลเก้ ยังไร้เงาของ มาติยา นาสตาซิช (7 นัด) และ ปาโบล อินซัว เหมือนเดิม เพราะยังสลัดคราบเดี้ยงไม่ได้ ส่วนในรายของ เลออน โกเร็ตส์ก้า (9 นัด / 4 ประตู) ต้องรอเช็คความฟิตก่อนลงสนามอีกครั้ง แต่ที่แน่ๆ คือ กีโด บวร์กสตัลเลอร์ (8 นัด / 3 ประตู) พร้อมลงเป็นเพชรฆาตได้เหมือนเก่า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ชาลเก้ (3-4-3) : ราล์ฟ ฟาห์รมันน์ - เบนจามิน สตอมบูลี่, นัลโด้, ธีโล่ เคห์เรอร์ - ดาเนี่ยล คาลิกูรี่, เลออน โกเร็ตส์ก้า, มักซ์ เมเยอร์, บาสเตียน อ๊อกซิปก้า - อามีน ฮาริต, เยฟเกนี โคโนพิลยานก้า, กีโด บวร์กสตัลเลอร์

      มาร์คุส กิสดอล เฮ้ดโค้ชของ ฮัมบูร์ก จะเหลือเพียงแค่ นิโคไล มุลเลอร์ (1 นัด / 1 ประตู) ที่เป็นแข้งเจ็บค้างสต็อก ส่วนในรายของ กีเดียน จุง (9 นัด) ตัวรับผิวสี จะติดโทษห้ามแข่ง เพราะโดนไล่ออกมาจากเกมที่เปิดบ้านแพ้ บาเยิร์น 0-1 ทำให้ กิสดอล ต้องปรับหมากด้วยการส่ง อัลบิน เอคดัล (6 นัด) ลงสนามเป็น 11 ตัวจริงแทน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮัมบูร์ก (3-4-1-2) : มาเธเนีย - คิเรียกอส ปาปาโดปูลอส, แมร์กิม มาฟราย, ริค ฟาน ดรองเกเล่น - เดนนิส เดี๊ยคเมเยอร์, อัลบิน เอคดัล, โกโตคุ ซากาอิ, ดั๊กลาส ซานโต๊ส - อารอน ฮันท์ - อันเดร ฮาห์น, บ๊อบบี้ วู้ด

      พาล ดาร์ได กุนซือของ แฮร์ธ่าฯ จะไม่มีชื่อของ เซบาสเตียน ลังคัมป์ (5 นัด), วลาดิเมียร์ ดาริด้า (7 นัด), แมทธิว เล็กกี้ (9 นัด / 4 ประตู) และ เกงกิ ฮารากูชิ (6 นัด) ที่ควงเเขนกันติดโทษแบนแบบยกเซ็ต ส่วนในรายของ จูเลี่ยน ชีเบอร์ หัวหอกวัย 28 ปี ยังคงเดี้ยงอยู่เหมือนเก่า แต่ยังพอจะมีข่าวดีที่ เวดัด อิบิเซวิช (7 นัด) ลงช่วยทีมได้แน่

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แฮร์ธ่าฯ (4-2-3-1) : รูเน่ ยาร์สไตน์ - พีเตอร์ เพคาริค, นิคลาส สตาร์ค, คาริม เรกิ๊ก, มาร์วิน แพล็ตเท่นฮาร์ด - เพอร์ สเคลเบร็ด, อาร์เน่ เมเยอร์ - มิตเชล ไวเซอร์, อองเดร ดูด้า, วาเลนติโน่ ลาซาโร่ - เวดัด อิบิเซวิช

      ดีเตอร์ เฮ็กคิงก์ นายใหญ่ของ กลัดบัค จะยังไม่มีชื่อของ ลาซโล่ บีนส์ (1 นัด), โทเบียส สโตรเบิ้ล และ ราอูล โบบาดีย่า (4 นัด) เพราะยังไม่หายเจ็บ ส่วนในรายของ คริสโตฟห์ เครเมอร์ (8 นัด) กองกลางตัวสำคัญ ต้องรอเช็คความฟิตก่อนเริ่มเกมอีกครั้ง แต่สำหรับ ธอร์แกน อาซาร์ (9 นัด / 2 ประตู) พร้อมลงสนามแน่นอน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
กลัดบัค (4-2-2-2) : ยาน ซอมเมอร์ - นิโก้ เอลเวดี้, มัทธีอัส กินเตอร์, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, ออสการ์ เวนด์ - เดนิส ซากาเรีย, คริสโตฟห์ เครเมอร์ - ธอร์แกน อาซาร์, วินเชนโซ่ กริโฟ่ - ราฟฟาเอล, ลาร์ส สไตน์เดิ้ล

      จูเลี่ยน นาเกิ้ลมันน์ เทรนเนอร์ของ ฮอฟเฟ่นไฮม์ ก็ยังเหลือเเข้งเดี้ยงเซ็ตเดิม คือ โรเบิร์ต ซูล์จ, เออร์มิน บิซัคซิช (2 นัด), แซร์ก จีนาบรี (2 นัด) และ อดัม ซาลาย (1 นัด) แต่เชื่อว่าเกมนี้ นาเกิ้ลมันน์ จะเปลี่ยนกลับมาใช้นักเตะชุดใหญ่อีกครั้ง หลังจากที่ได้พักตัวหลักบางคนในบอลถ้วยเดเอฟเบ โพคาล เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮอฟเฟ่นไฮม์ (3-4-1-2) : โอลิเวอร์ เบามันน์ - เควิน อั๊คโปกูม่า, เควิน โฟ้กท์, เบนจามิน ฮุบเนอร์ - พาเวล คาเดราเบค, เดนนิส ไกเกอร์, เคเรม เดเมียร์เบย์, สตีเว่น ซูเบอร์ - นาเดียม อามิรี่ - อังเดร ครามาริช, มาร์ก อูธ

      ฮานเนส ดรูว์ส กุนซือของ เออร์ซเกเบียร์เก้ เอา เพิ่งมาเสีย ดิม่า นาซารอฟ (11 นัด / 2 ประตู) กับ โซเรน เบิร์ทรัม (8 นัด / 4 ประตู) ไปกับอาการเดี้ยงเพิ่มเข้าไปอีก จากที่มี นิคกี้ อาดเลอร์ และ คลีเมนส์ ฟานดริช (10 นัด) ที่เจ็บอยู่ก่อนหน้านี้ แต่ยังพอมีข่าวดีอยู่บ้าง เมื่อ ฟาเบียน คาลิก (10 นัด) พ้นโทษแบนกลับมาช่วยเกมรับได้แล้ว

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เออร์ซเกเบียร์เก้ เอา (5-2-3) : มาร์ติน มานเนิ่ล - คาโลเกโร่ ริซซูโต้, ฟาเบียน คาลิก, โดมินิค วีดร้า, นิโคไล แร็ปป์, เดนนิส เคมเป้ - คริสเตียน ทิฟเฟิร์ต, ฟิลิปป์ ไรเซ่ - อัลเบิร์ต บุนยาคู, ปาสกาล ค็อปเค่, มาริโอ คเวซิช

      โอลาฟ ยานส์เซ่น นายใหญ่ของ ซังต์ เพาลี มีรายงานความเสียหายเรื่องนักเตะเจ็บเข้ามาถึง 7 ราย ได้แก่ เชงค์ ซาฮิน (8 นัด / 2 ประตู), เมาริซ ลิทก้า (6 นัด), ริชาร์ด นอยเด็คเกอร์ (4 นัด), มาร์ค ฮอร์นชูห์ (6 นัด), ฟิลิปป์ ซีไรส์, อาซิซ บูฮัดดูซ (7 นัด) และ เรียว มิยาอิชิ นั่นทำให้ ยานส์เซ่น ต้องคิดหนักไม่น้อยในการวางหมากเกมนี้

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ซังต์ เพาลี (4-2-3-1) : โรบิน ฮิมเมิ่ลมันน์ - ลูก้า ซานเดอร์, ลาส โซบีช, คริสโตเฟอร์ อาวีเวอร์, ดาเนี่ยล บูบัลล่า - แบร์นด์ เนห์ริก, โยฮันเนส ฟลุม - วัลเดมาร์ โซโบต้า, คริสโตเฟอร์ บุชมันน์, โมลเลอร์ แดห์ลี่ - ซามี อัลลากี

      สเตฟาน ไลเทิ่ล ผู้จัดการทีมของ อินกอลสตัดท์ ไม่มีปัญหาใดๆ ในการจัดทีม เพราะลูกทีมทุกคนฟิตกันเต็มสูบ สามารถเรียกใช้งานได้ทั้งหมด คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในวันนี้ คงจะเป็นชุดเดิมที่ลงสนามอยู่ในปัจจุบัน เพราะทำหน้าที่กันได้ดีอยู่แล้ว นำทีมมาโดย สเตฟาน คุชเก้ (10 นัด / 2 ประตู) หัวหอกตัวสำคัญของทีม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
อินกอลสตัดท์ (4-3-3) : ออร์ยาน นีลันด์ - โทเบียส เลเวิ่ลส์, มาร์วิน มาทิป, เฮาเก้ วอห์ล, มาร์เซล เก๊าส์ - คริสเตียน แทรช, อัลม็อก โคเฮน, อัลเฟรโด้ โมราเลส - โธมัส เพลเดิ้ล, สเตฟาน คุชเก้, ซอนนี่ คิตเทิ่ล

      เจฟ ไซบีน เทรนเนอร์ของ บีเลเฟลด์ มีรายชื่อลูกทีมเดี้ยงอยู่ 3 คนเซ็ตเดิม คือ บาบูคาร์ เกย์, เดวิด อูล์ม และ คริสโตเฟอร์ นอธ ส่วนในรายของ เลอันโดร พูทาโร่ (1 นัด) จะโดนโทษแบน เนื่องจากโดนไล่อออกมาจากเกมระดับยู-23 แต่คงไม่ส่งผลอะไรกับการจัดทัพ เพราะนักเตะที่มีปัญหาก็ไม่ใช่ตัวหลักในช่วงเวลานี้อยู่แล้ว

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
บีเลเฟลด์ (4-2-2-2) : สเตฟาน ออร์เตก้า - นิลส์ เตเซร่า, จูเลี่ยน บอร์เนอร์, สเตฟาน ซัลเกอร์, ฟลอเรียน ฮาร์แธร์ซ - มานูเอล เพรเทิ่ล, ทอม ชู้ตซ์ - พาทริค ไวห์เร๊าช์, คีนู สเต๊าด์ - ฟาเบียน โคลส, อันเดรียส โฟเกิ้ลซามเมอร์

      เลียม บั๊คลี่ย์ นายใหญ่ของ เซนต์ พาทริคส์ จะหมดสิทธิ์ใช้บริการของ จอร์ดี้ บอล์ค (10 นัด / 1 ประตู) ปราการหลังชาวดัตช์ ที่โดนโทษห้ามแข่ง ส่วนในรายของ โอเว่น การ์วาน (9 นัด) มิดฟิลด์ตัวเก๋า ต้องรอเช็คความฟิตก่อนลงสนามอีกครั้ง แต่สำหรับ คริส เฟแกน (27 นัด / 7 ประตู) ดาวยิงตัวความหวัง พร้อมลงเล่นแน่นอน

      เคนนี่ ชีลส์ ผู้จัดการทีมของ เดอร์รี่ ซิตี้ จะไม่มีชื่อของ นาธาน บอยล์ (26 นัด / 5 ประตู) และ นิคกี้ โลว์ (27 นัด) สองกำลังสำคัญของทีม ที่ต้องพักรักษาตัวอยู่ แต่ขุมกำลังคนอื่นๆ ฟิตเต็มสูบกันทั้งหมด คาดว่าเกมนี้ ชีลส์ จำเป็นต้องฝากภาระในการพังประตูไปอยู่ที่ โรแนน เคอร์ติส (31 นัด / 8 ประตู) หัวหอกดาวรุ่งวัย 21 ปี

      แฮร์รี่ เคนนี่ เฮ้ดโค้ชของ เบรย์ วันเดอเรอร์ส จะได้ตัว ไรอัน เบรนแนน (29 นัด / 7 ประตู) กองกลางตัวเก่งกลับมาช่วยทีมได้อีกครั้ง หลังจากชดใช้โทษห้ามแข่งเเล้วเรียบร้อย และน่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงทันที โดยจะประสานงานกับ แกรี่ แม็คแค็บ (29 นัด / 15 ประตู) และ อารอน กรีน (32 นัด / 12 ประตู) ช่วยกันพาทีมควานหาชัยชนะ

      จอห์น คอลฟิลด์ กุนซือของ คอร์ก ซิตี้ น่าจะยังให้โอกาสกับบรรดาดาวรุ่งของทีมต่อไป เพราะผลการแข่งขันไม่ได้มีความหมายอะไรอีกแล้ว เน้นให้เด็กๆ ได้เก็บเลเวลจะดีกว่า นั่นหมายความว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงจะมีชื่อของ คอร์เนอร์ แม็คคาร์ธี่ย์ (6 นัด), คีย์แรน แซดเลียร์ (12 นัด / 2 ประตู) และ คอร์เนอร์ เอลลิส (19 นัด / 2 ประตู)

      โอลลี่ ฮอร์แกน กุนซือของ ฟินน์ ฮาร์ปส์ จะไร้เงาของ อีธาน บอยล์ (28 นัด / 1 ประตู) กองกลางตัวสำคัญที่โดนไข้เดี้ยงเล่นงาน ส่วนในรายของ ฌอน ฮุสตัน (31 นัด / 4 ประตู), แพ็ดดี้ แม็คคอร์ท (26 นัด / 2 ประตู) และ ดาเมี่ยน แม็คนัลตี้ (27 นัด) ต้องรอเช็คความฟิตก่อนลงสนามกันอีกครั้ง แต่เชื่อว่าน่าจะลงช่วยทีมได้อย่างไม่มีปัญหากันทั้งสามคน

      คีธ ลอง นายใหญ่ของ โบฮีเมี่ยนส์ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน เชน ซัพเพิ้ล (32 นัด) กับ ดีเเลน ฮายส์ (14 นัด) ที่ยังมีอาการเจ็บรบกวน ส่วนในรายของ แดน ไบรน์ (27 นัด / 1 ประตู), ร็อบ คอร์นวอลล์ (29 นัด) และ คีธ วอร์ด (25 นัด / 5 ประตู) จะอดบู๊ทั้งหมด เนื่องจากติดโทษแบน แต่ข่าวดีคือ ดาเนี่ยล คอร์โคแรน (24 นัด / 15 ประตู) ลงสนามได้ตามปกติ

      นิโก้ โควัค เทรนเนอร์ของ แฟร้งค์เฟิร์ต มีรายชื่อนักเตะบาดเจ็บเยอะไม่แพ้กัน ไล่มาตั้งแต่ ทิโมธี แชนด์เลอร์ (9 นัด), แดนนี่ ดา คอสต้า (2 นัด), ยานนี่ เรกาเซล, เกลสัน แฟร์น็องเดซ (5 นัด), มาร์โก ฟาเบียน, มาสกาเรล, เนลซง เอ็มบูฮอม และ อเล็กซานเดอร์ เมเยอร์ นั่นสรุปได้เลยว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง คงไม่เปลี่ยนไปจากนัดก่อนๆ

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แฟร้งค์เฟิร์ต (3-3-2-2) : ลูคัส ฮราเด็กกี้ - ดาบิด อับราฮัม, มาโกโตะ ฮาเซเบะ, ซิมง ฟาเล็ตต์ - มาริอุส โวล์ฟ, เควิน พริ๊นซ์ บัวเต็ง, เยโทร วิลเล็มส์ - โยนาธาน เดอ กุซมัน, มิยัต กาซิโนวิช - เซบาสเตียง ฮัลแลร์, อันเต เรบิช

      ซานโดร ชวาร์ซ เฮ้ดโค้ชของ ไมนซ์ มีลิสต์ลูกทีมเดี้ยงเพิ่มเป็น 7 คน คือ เรเน่ อ๊าดเลอร์ (9 นัด), เลออน บาโลกัน, อเล็กซานเดอร์ แฮ็ค, แกร์ริตต์ โฮลต์มันน์, คาริม โอนิซิโว (2 นัด), นิโค บุนเเกร์ต และ กาเอต็อง บุสมันน์ ทำให้เกมนี้ ชวาร์ซ ต้องเรียกตัว โรบิน เซนท์เนอร์ นายด่านวัย 22 ปี มาประเดิมสนามเฝ้าเสาในเกมลีก

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไมนซ์ (4-3-3) : โรบิน เซนท์เนอร์ - จูลิโอ โดนาติ, สเตฟาน เบล, ฌอง กีบาแมง, ดาเนี่ยล โบรซินสกี้ - ซูอัต เซอร์ดาร์, แดนนี่ ลัตซ่า, ฟาเบียน ฟราย - ปาโบล เดอ บลาซิส, โยชิโนริ มุโตะ, วิคเตอร์ ฟิสเชอร์

      ปีเตอร์ เวอร์เมส เฮ้ดโค้ชของ สปอร์ติ้ง แคนซัส ยังไร้เงาของ คาเมรอน พอร์เตอร์ (1 นัด) และ ทิม เมเลีย (31 นัด) ที่ยังเจ็บไม่หาย แต่ขุมกำลังที่เหลือพร้อมลุยอยู่นานแล้ว คาดว่า เวอร์เมส น่าจะมีการปรับทีมในบางตำแหน่ง แต่สำหรับ อิลี่ (33 นัด) ห้องเครื่องชาวสเปน คงลงคุมจังหวะในแดนกลางของทีมเหมือนเก่าเหมือนเดิม

      วิลเมร์ กาเบรร่า นายใหญ่ของ ฮุสตัน ไดนาโม ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน จอร์จ มัลกิ กับ เมโม โรดริเกวซ ที่เป็นแข้งเดี้ยงค้างสต็อกอยู่ ส่วนในรายของ โบเนียค การ์เซีย (20 นัด), อเล็กซ์ เดลาการ์ซ่า (30 นัด), โจเซ่ โรดริเกซ (9 นัด / 2 ประตู) และ ฟิลิปป์ เซนเดอรอส (2 นัด) ต้องรอเช็คฟิตกันอีกครั้ง ว่าใครพร้อมลงสนามได้ทันบ้าง

      เกร็กก์ เบอร์ฮาลเตอร์ กุนซือของ โคลัมบัส ครูว์ จะหมดสิทธิ์ใช้บริการของ กาสตัน ซัวโร่, เบน สวอนสัน และ อเล็กซ์ คร็อกนาเล่ (17 นัด) ที่ยังต้องใช้บริการของโรงพยาบาลอยู่ทั้งหมด ส่วนในรายของ เวย์ลอน ฟรานซิส (12 นัด) แนวรับชาวคอสตาริก้า ต้องรอเช็คฟิตกันก่อนอีกครั้ง แต่สำหรับ โอล่า กามาร่า (34 นัด / 18 ประตู) ลงเล่นได้แน่

      เกราโด้ มาร์ติโน่ เฮ้ดโค้ชของ แอตแลนต้า ยูไนเต็ด จะไม่มีชื่อของ แซ็คช์ ลอยด์, เกรกอรี่ การ์ซ่า (26 นัด / 2 ประตู) และ อเล็กซ์ คานน์ (18 นัด) ที่โดนอาการเจ็บเล่นงาน ส่วนในรายของ แบรนดอน บาซเกซ (13 นัด / 1 ประตู) กับ ไมเคิ่ล ปาร์คเฮิร์สท์ (33 นัด) ต้องรอทดสอบความฟิตก่อนลงสนามอีกครั้ง ว่าไหวหรือไม่สำหรับเกมนี้

      มีร์เซีย เรดนิค ผู้จัดการทีมของ มูสครง สบายใจได้หน่อยตรงที่สภาพความพร้อมของลูกทีมทุกคนสมบูรณ์ 100% สามารถเลือกจัดทัพชุดใหญ่ได้เลย นั่นหมายความว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในเกมนี้ ไม่น่าจะต่างไปจากชุดเดิมที่ลงเล่นในปัจจุบัน โดยจะมี โฌนาธ็อง โบลิงกี้ (10 นัด / 6 ประตู) ยืนเป็นตัวความหวังในแดนหน้า

      ตินติน มาร์เกซ นายใหญ่ของ แซงต์ ทรุยด็องส์ จะไร้เงาของ คริสเตียน เซบาญอส (2 นัด / 2 ประตู) กับ บาบาการ์ กูเอเย่ (3 นัด) สองเเนวรุกของทีม ที่ยังสลัดคราบเดี้ยงกลับมาไม่ได้ แต่คงไม่น่ากังวลสักเท่าไหร่ เพราะ มาร์เกซ เตรียมขน 11 ขุนพลจากนัดที่เปิดบ้านชนะ อุสเตนด์ 1-0 ในเกมลีกนัดที่ล่าสุด มาใช้งานต่ออยู่แล้ว

      ซา ปินโต้ เฮ้ดโค้ชของ สตองดาร์ ลีเเอช จะเหลือเพียงแค่ แมร์วีลล์ โบคาดี้ (8 นัด) มิดฟิลด์ทีมชาติสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก รายเดียวเท่านั้น ที่เป็นนักเตะเจ็บค้างสต็อก นั่นหมายความว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในเกมนี้ น่าจะเป็นชุดที่ดีที่สุดเท่าที่จัดได้แน่นอน นำทีมมาโดย ออร์ลันโด้ ซา (8 นัด / 4 ประตู) ดาวยิงที่ฟอร์มกำลังแรง

      ลาสซโล โบโลนี่ กุนซือของ อันท์เวิร์ป มีรายงานเรื่องลูกทีมเดี้ยงเข้ามา 4 คน คือ โอโฟซูเอเน่, ดีโน่ อาร์สลานากิช (9 นัด / 1 ประตู), โรเบร์โต้ นูเญซ และ นาแดร์ ก็องห์ดรี้ (1 นัด) ส่วนในรายของ มามูตู เอ็นดิอาย (5 นัด) ห้องเครื่องทีมชาติมาลี ต้องรอเช็คความฟิตก่อนลงสนามอีกครั้ง แต่ขุมกำลังคนอื่นๆ พร้อมรับใช้ต้นสังกัดกันทั้งหมด

      แฟร้งค์ ชมิดท์ เฮ้ดโค้ชของ ไฮเด้นไฮม์ จะไม่มีชื่อของ มาร์นอน บุช (7 นัด / 1 ประตู) กับ เดนิส โธมัลล่า ที่โดนไข้เดี้ยงเข้าครอบงำ เชื่อว่าเกมนี้ ชมิดท์ จะมีการโรเตชั่นนักเตะในบางตำแหน่ง ส่งผลให้ มาธิอัส วิตเทค (9 นัด / 1 ประตู), มักซี่ ธีล (6 นัด / 1 ประตู) และ นิโกล่า โดเวดัน (10 นัด / 1 ประตู) จะได้โชว์ในสนามบ้าง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไฮเด้นไฮม์ (4-2-3-1) : เควิน มุลเลอร์ - โรเบิร์ต สเตร๊าส์, นอร์มัน ธอยเออร์เคาฟ์, เควิน เคร๊าส์, อาร์เน่ ฟีค - มาธิอัส วิตเทค, เซบาสเตียน กรีสเบ็ค - มักซี่ ธีล, นิโกล่า โดเวดัน , มาร์ก ชนัตเตอเรอร์ - เบน ฮัลโลแรน

      อาคิม เบเยอร์ลอร์เซอร์ กุนซือของ ยาห์น เรเก้นส์บวร์ก ยังคงหมดสิทธิ์ใช้บริการของ โอลิเวอร์ ไฮน์ แนวรับวัย 27 ปี คนเดียวเหมือนเก่า เพราะยังไม่หายเจ็บ คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในเกมนี้ จะเป็นชุดที่ใหญ่เต็มสูบแน่นอน โดยจะมี ซาร์กิส อดัมยาน (11 นัด) ลงจับคู่กับ มาร์โก กรุตเนอร์ (11 นัด / 2 ประตู) ในแดนหน้า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ยาห์น เรเก้นส์บวร์ก (4-2-2-2) : ฟิลิปป์ เพนท์เก้ - เซบาสเตียน นัชไรเนอร์, อัสเกอร์ โซเรนเซ่น, มาร์วิน โนล, อเล็กซานเดอร์ นานด์ซิค - มาร์ก ไลส์, อันเดรียส ไกเพิ่ล - ยาน ยอร์ก, โจชัว มีส์ - ซาร์กิส อดัมยาน, มาร์โก กรุตเนอร์

      ฮันเนส โวล์ฟ เฮ้ดโค้ชของ สตุ๊ตการ์ต มีลิสต์ลูกทีมบาดเจ็บเพิ่มขึ้นเป็น 6 ราย ได้แก่ เดนนิส อาโอโก้ (9 นัด), อนาสตาซิออส โดนิส (7 นัด / 1 ประตู), มาร์ซิน กามินสกี้ (8 นัด), คริสเตียน เกนท์เนอร์ (4 นัด), การ์ลอส มาเน่ และ มัทเธียส ซิมเมอร์มันน์ (2 นัด) ทำให้ โวล์ฟ แทบจะไม่มีทางเลือกไหน นอกจากจะใช้ 11 ขุนพลชุดปัจจุบันลงสู้ศึกกันต่อ

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
สตุ๊ตการ์ต (3-4-2-1) : รอน โรเบิร์ต ซีเลอร์ - เบนจามิน ปาวาร์, ติโม บอย์มการ์ตเทิ่ล, โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์ - อันเดรียส เบ็ค, ซานติอาโก้ อัสกากิบาร์, โอเรล ม็องกาล่า, เอมิเลียโน่ อินซัว - ชากรัค อาโกโล่, โยซิป เบรคาโล่ - ดาเนี่ยล กินซ์เซ็ค

      เจฟ สตราสเซอร์ นายใหญ่ของ ไกเซอร์ฯ จะยังงดใช้งาน ดาเนี่ยล ฮัลฟาร์ (7 นัด / 1 ประตู), แม็ดส์ อัลบัค (4 นัด) และ แค็กเปอร์ เพอร์ซีบิลโก้ (1 นัด) เหมือนเดิม เนื่องจากยังสลัดคราบเดี้ยงไม่ได้ คาดว่าเกมนี้ สตราสเซอร์ จะปรับโฉม 11 ตัวจริงใหม่หลายตำแหน่ง ส่วนในรายของ เซบาสเตียน อันเดอร์สสัน (7 นัด / 5 ประตู) น่าจะได้ลงผลิตสกอร์เหมือนเก่า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไกเซอร์ฯ (3-4-3) : มาริอุส มุลเลอร์ - เบนจามิน เคสเซิ่ล, สติเป วูกูร์, จูเลียโน่ โมดิก้า - ฟิลิปป์ เวเน่, เลออน กูวาร่า, พาทริค ซีกเลอร์, คริสโตฟห์ มอริตซ์ - บาริส อาติค, เซบาสเตียน อันเดอร์สสัน, แบรนดอน บอร์เรลโล่

      จูเลี่ยน นาเกิ้ลมันน์ เฮ้ดโค้ชของ ฮอฟเฟ่นไฮม์ จะเหลือเพียงแค่ เออร์มิน บิซัคซิช (2 นัด) และ อดัม ซาลาย (1 นัด) ที่ยังต้องใช้บริการของโรงพยาบาลอยู่ เชื่อว่าเกมนี้ นาเกิ้ลมันน์ น่าจะโรเตชั่นนักเตะกันอีกครั้ง โดย ฮาร์วาร์ด นอร์ดต์ไวต์ (6 นัด), ยูเกน โปลันสกี้ (4 นัด), นิโก้ ชูลซ์ (7 นัด) และ ลูคัส รุปป์ (4 นัด / 1 ประตู) จะได้ลงเป็นตัวจริง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮอฟเฟ่นไฮม์ (3-3-2-2) : โอลิเวอร์ เบามันน์ - ฮาร์วาร์ด นอร์ดต์ไวต์, เควิน โฟ้กท์, เบนจามิน ฮุบเนอร์ - พาเวล คาเดราเบค, ยูเกน โปลันสกี้, นิโก้ ชูลซ์ - ลูคัส รุปป์, เคเรม เดเมียร์เบย์ - อังเดร ครามาริช, มาร์ก อูธ

      อเล็กซานเดอร์ นูรี ผู้จัดการทีมของ เบรเมน จะไร้เงาของ ฟิน บาร์เทิ่ลส์ (9 นัด / 1 ประตู) แนวรุกความเร็วสูงที่โดนอาการเดี้ยงเล่นงาน ส่วนขุมกำลังที่เหลือสามารถเรียกใช้งานได้ตามปกติ คาดว่า นูรี น่าจะมีการเปลี่ยนแปลง 11 ตัวจริงในบางจุด แต่สำหรับ อิชัค เบลโฟดิล (7 นัด) น่าจะได้ลงสนามยืนค้ำเป็นศูนย์หน้าตัวเป้าให้กับทีมต่อไป

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เบรเมน (4-2-2-2) : ยีรี พาฟเลนก้า - เกเบร เซลาสซี่, นิโคลัส มอยซานเดอร์, ลูโดวิช ซาเน่, ลุดวิก ออกุสตินส์สัน - ฟิลิปป์ บาร์กเฟรเด้, โธมัส เดอลานี่ย์ - อิเซ็ต ฮาจ์โรวิช, ซลัตโก้ ยูนูโซวิช - ฟลอเรียน ไคนซ์, อิชัค เบลโฟดิล

      อูเว่ นอยฮุส ผู้จัดการทีมของ ไดนาโม เดรสเดน เหลือตัวเจ็บอยู่อีก 3 คน คือ โซเรน กอนเธอร์ (3 นัด), มาร์โก ฮาร์ทมันน์ (10 นัด / 1 ประตู) และ ปาสกาล เทสโทร้ต (1 นัด) คาดว่าเกมนี้ นอยฮุส ไม่น่าจะมีการปรับทีมแต่อย่างใด คงจะส่งชุดที่ดีที่สุดลงบู๊เหมือนเก่า นำทีมมาโดย เปเนียล เอ็มลาปา (7 นัด / 4 ประตู) กองหน้าทีมชาติโตโก

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไดนาโม เดรสเดน (4-3-3) : มาร์วิน ชว้าบ - ปอล เซกุน, ยานนิค มุลเลอร์, ฟลอเรียน บัลลัส, ฟิลิป ไฮส์ - อิยาส ออสมัน, มานูเอล คอนราด, อันเดรียส แลมเบิร์ต - นิคลาส ครอยเซอร์, เปเนียล เอ็มลาปา, ฮาริส ดุลเยวิช

      คริสเตียน สไตรช์ นายใหญ่ของ ไฟร์บวร์ก มีลิสต์ลูกทีมเดี้ยงในมือยาวเป็นหางว่าว ไล่มาตั้งแต่ วินเซนต์ เซียร์โร่ (1 นัด), มานูเอล กัลด์, มาร์ก เคมพ์ (2 นัด), ฟิลิปป์ ไลน์ฮาร์ท (9 นัด), อามีร์ อาบราชี่ (2 นัด), โอนูร์ บูลุต (1 นัด), คาริม กูเอเด้, โยนาส เมฟเฟิร์ต และ ยอร์ก นีแดร์เมเยอร์ นั่นบังคับให้ สไตรซ์ ไม่มีทางเลือกในการปรับทีมมากนัก

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไฟร์บวร์ก (4-2-2-2) : อเล็กซานเดอร์ ชโวลอฟ - ปาสกาล สเตนเซิ่ล, โรบิน โคช, คักลาร์ โซยุนกู, คริสเตียน กุนเตอร์ - ไมค์ ฟร๊านซ์, นิโคลัส ฮอฟเลอร์ - โยริค ราเว่ต์, มาร์โก แตร์รัซซิโน่ - ยานิค ฮาเบเรอร์, นีลส์ เพเตอร์เซ่น

      อันเดร ไบรเท่นไรเตอร์ กุนซือของ ฮันโนเวอร์ ยังไม่มีชื่อของนักเตะเจ็บเซ็ตเดิมอย่าง เฟลิเป้ (4 นัด), โจเอล บาเซ่, อุฟเฟ่ เบ็ค และ เอ็ดการ์ พริบ นั่นหมายความว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง ไม่น่าจะต่างไปจากชุดที่ใช้งานอยู่ในเกมลีก นำทีมมาโดย นิคลาส ฟัลครู้ก (9 นัด / 2 ประตู) กับ มาร์ติน ฮาร์นิค (9 นัด / 5 ประตู) ยืนเป็นคู่กองหน้า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮันโนเวอร์ (4-2-2-2) : เอสเซอร์ - จูเลี่ยน คอร์บ, ซาลิฟ ซาเน่, แอนตัน, มัทธีอัส ออสเตอร์โซเลค - เพอร์มิน ชเว็กเลอร์, มาร์วิน บาคาลอร์ซ - อิห์ลาส เบบู, เคนาน คารามัน - นิคลาส ฟัลครู้ก, มาร์ติน ฮาร์นิค

      มาร์ติน ชมิดท์ เทรนเนอร์ของ โวล์ฟสบวร์ก เหลือเพียงแค่ เซบาสเตียน จุง แนวรับวัย 27 ปีเท่านั้น ที่ยังเดี้ยงไม่หาย ส่วนกำลังรบที่เหลือพร้อมลุยอยู่นานเเล้ว คาดว่า ชมิดท์ น่าจะมีการปรับ 11 ตัวจริงเล็กน้อย ด้วยการส่ง มาริโอ โกเมซ (4 นัด) ลงมายืนศูนย์หน้าตัวจริง แล้วถ่าง ดิว๊อค โอริกี (7 นัด / 2 ประตู) ไปขึ้นเกมทางกราบซ้ายแทน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โวล์ฟสบวร์ก (4-2-3-1) : โกเยนส์ กัสตีลส์ - พอล เวอร์ฮาจ, มาร์เซล ทิสเซอรันด์, เฟลิกซ์ อูดูโอไค, จิอันลูก้า อิตเตอร์ - อิ๊กนาซิโอ กามาโช่, มักซิมิเลี่ยน อาร์โนลด์ - ยาคุบ บลาสซีคอฟสกี้, ดาเนี่ยล ดิดาวี่, ดิว๊อค โอริกี - มาริโอ โกเมซ

      จุ๊ป เฮย์เกส เฮ้ดโค้ชของ บาเยิร์น มีรายงานลูกทีมบาดเจ็บเข้ามา 5 ราย ได้แก่ ฮาเมส โรดริเกวซ (4 นัด / 1 ประตู), ฆวน เบร์นาต, มานูเอล นอยเออร์ (3 นัด), ฟร้องค์ ริเบรี่ (6 นัด) และ โธมัส มุลเลอร์ (9 นัด / 1 ประตู) นั่นทำให้ เฮย์เกส ต้องปรับผัง 11 ตัวจริงกันอีกครั้ง โดยจะดัน ธิอาโก้ อัลกานตาร่า (7 นัด / 1 ประตู) ขึ้นไปยืนเป็นตัวรุกด้านบน

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
บาเยิร์น (4-2-3-1) : สเวน อุลไรช์ - โจชัว กิมมิค, เฌอโรม บัวเต็ง, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, ดาวิด อลาบา - ฆาบี้ มาร์ติเนซ, อาร์ตูโร่ วิดัล - อาร์เยน ร็อบเบน, ธิอาโก้ อัลกานตาร่า, คิงส์ลี่ย์ โกม็อง - โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

      ราล์ฟ ฮาเซ่นฮุตเทิ่ล นายใหญ่ของ ไลป์ซิก ยิ้มสบายใจได้ก่อนเกมเลย เมื่อสภาพความพร้อมของลูกทีมทุกคนสมบูรณ์ 100% สามารถเลือกจัดสรรได้ตามสะดวก คาดว่า ฮาเซ่นฮุตเทิ่ล จะขน 11 ขุนพลที่ดีที่สุดลงบู๊แบบไม่มีกั๊ก นำทีมมาโดย นาบิล เกอิต้า (6 นัด / 1 ประตู), เอมิล ฟอร์สเบิร์ก (7 นัด) และ ติโม แวร์เนอร์ (7 นัด / 5 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไลป์ซิก (4-2-2-2) : ปีเตอร์ กาลัคซี่ - ลูคัส โคลสเตอร์มันน์, อูปาเมกาโน่, วิลลี่ ออร์แบน, มาร์เซล ฮัลส์เท่นแบร์ก - เควิน แคมเพิ่ล, นาบิล เกอิต้า - มาร์เซล ซาบิตเซอร์, เอมิล ฟอร์สเบิร์ก - ฌอง ออกุสติน, ติโม แวร์เนอร์

      ปีเตอร์ บอสซ์ นายใหญ่ของ ดอร์ทมุนด์ มีรายงานลูกทีมเดี้ยงอยู่ 6 คน คือ ปิแอร์ ออบาเมย็อง (9 นัด / 10 ประตู), โอเมอร์ โทพรัค (7 นัด), ลูคัส พิสเซ็ค (7 นัด), เอริค ดวร์ม, มาร์โก้ รอยส์ และ เซบาสเตียน โร้ด นั่นบังคับให้ บอสซ์ ต้องปรับ 11 ขุนพลอีกครั้ง โดยเกมนี้จะได้เห็น จาดอน ซานโช (1 นัด) เจ้าหนูจากแดนผู้ดีลงเล่น

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ดอร์ทมุนด์ (4-3-3) : โรมัน บูร์กี - เยเรมี โตลยาน, โซคราติส, มาร์ก บาร์ตรา, มาร์เซล ชเมลเซอร์ - กอนซาโล่ กาสโตร, นูรี ซาฮิน, ชินจิ คากาวะ - จาดอน ซานโช, อังเดรย์ ยาร์โมเลนโก้, มักซิมิเลี่ยน ฟิลิปป์

      เจนส์ ฮาร์เทล เทรนเนอร์ของ มักเดบวร์ก จะหมดสิทธิ์ใช้งาน เฟลิกซ์ ชิลเลอร์ (5 นัด), ชาร์ลส์ ลาเปรว็อตเต้ และ โทเบียส ชเวเด้ (10 นัด / 2 ประตู) ที่ยังต้องใช้บริการของโรงพยาบาลอยู่ คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในเกมนี้ ไม่น่าจะต่างจากชุดที่ลงเล่นในเกมลีก นำทีมมาโดย คริสเตียน เบ็ค (13 นัด / 1 ประตู) หัวหอกวัย 29 ปี

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
มักเดบวร์ก (4-3-3) : บรุนส์ - บุทเซน, ฮานด์เค่, ชาเฟอร์, ฮัมมันน์ - โรเธอร์, วีล, อาร์ดมันน์ - ทูร์พิทซ์, เบ็ค, ไนเมเยอร์

      เยนส์ เคลเลอร์ นายใหญ่ของ ยูนิโอน เบอร์ลิน จะไร้เงาของ อาซึโตะ อุชิดะ แบ็คขวาจากเเดนอาทิตย์อุทัย เนื่องจากมีอาการเจ็บรบกวน ส่วนขุมกำลังที่เหลือ พร้อมรับใช้ต้นสังกัดกันทั้งหมด เชื่อว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในเกมค่ำคืนนี้ น่าจะประกอบไปด้วย ไซม่อน เฮดลุนด์ (11 นัด / 4 ประตู) และ เซบาสเตียน โพลเตอร์ (11 นัด / 6 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ยูนิโอน เบอร์ลิน (4-2-3-1) : ดาเนี่ยล เมสเซนโฮเลอร์ - คริสโตเฟอร์ ทริมเมิ่ล, โทนี่ ไลส์เนอร์, ฟาเบียน โชนไฮม์, คริสเตียน พีเดอร์เซ่น - ดามีร์ ไครลัค, กริสชา โพรเมล - สตีเว่น สเคอร์ซิบสกี้, มาร์เซล ฮาร์เทล, ไซม่อน เฮดลุนด์ - เซบาสเตียน โพลเตอร์

      ไฮโค แฮร์ลิช เทรนเนอร์ของ เลเวอร์คูเซ่น จะเหลือเพียงแค่ ติน เชดวาย แนวรับดาวรุ่งชาวโครแอตคนเดียวเท่านั้นที่ยังเดี้ยงอยู่ คาดว่าเกมนี้ แฮร์ลิช น่าจะมีการโรเตชั่นนักเตะไปพักบ้าง นั่นหมายความว่า เบนจามิน เฮนริชส์ (5 นัด), ชาร์ล อรานกุซ (7 นัด / 1 ประตู) และ จูเลี่ยน บรันด์ (9 นัด / 3 ประตู) จะได้รับโอกาสลงมาวาดลวดลายในสนาม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เลเวอร์คูเซ่น (4-2-2-2) : แบร์นด์ เลโน่ - เบนจามิน เฮนริชส์, โจนาธาน ตาห์, สเวน เบนเดอร์, เวนเดล - จูเลี่ยน บอมการ์ตลินเกอร์, ชาร์ล อรานกุซ - เลออน ไบลี่ย์, จูเลี่ยน บรันด์ - ไค ฮาแวร์ทซ์, ลูกัส เอลาริโอ

      มาร์คุส อันแฟง ผู้จัดการทีมของ โฮลสไตน์ เคียล ยังคงเหลือเเข้งเดี้ยงเซ็ตเดิม คือ คริสโตเฟอร์ เลนซ์ (4 นัด), อาร์เน่ ซิคเกอร์ และ มานูเอล ยานเซอร์ (4 นัด / 1 ประตู) เชื่อว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในเกมนี้ จะเป็นชุดที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบันแบบไม่มีการเปลี่ยนแปลง เพราะทุกคนกำลังทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีเยี่ยมอยู่แล้ว

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โฮลสไตน์ เคียล (4-1-4-1) : เคนเนธ ครอนโฮล์ม - เซบาสเตียน ไฮดินเกอร์, โดมินิค ชมิดท์, ราฟาเอล ซีโชส, โยฮันส์ ฟาน เดน เบิร์ก - โดมินิค ไพต์ซ - คิงส์ลี่ย์ ชินด์เลอร์, อเล็กซานเดอร์ มูห์ลิ่ง, โดมินิค เดร็กซ์เลอร์, แอนโธนี่ เลเวอเรนซ์ - มาร์วิน ดุ๊คช์

      ซานโดร ชวาร์ซ กุนซือของ ไมนซ์ มีรายงานความเสียหายเรื่องลูกทีมเจ็บอยู่ 6 ราย ได้แก่ เลออน บาโลกัน, อเล็กซานเดอร์ แฮ็ค, แกร์ริตต์ โฮลต์มันน์, คาริม โอนิซิโว (2 นัด), นิโค บุนเเกร์ต และ กาเอต็อง บุสมันน์ นั่นทำให้ ชวาร์ซ ไม่มีอะไหล่มาปรับเปลี่ยน 11 ตัวจริงมากนัก จึงต้องยึดตัวหลักลงสนามบู๊ต่ออีกนัด

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไมนซ์ (4-2-3-1) : เรเน่ อ๊าดเลอร์ - จูลิโอ โดนาติ, อับดู ดิยัลโล่, สเตฟาน เบล, ดาเนี่ยล โบรซินสกี้ - ฌอง กีบาแมง, แดนนี่ ลัตซ่า - เลวิน ออซตูนาลี, อเล็กซานดรู มักซิม, วิคเตอร์ ฟิสเชอร์ - โยชิโนริ มุโตะ

      นิโก้ โควัค ผู้จัดการทีมของ แฟร้งค์เฟิร์ต ยังรายชื่อลูกทีมบาดเจ็บหลายรายเหมือนเดิม คือ ทิโมธี แชนด์เลอร์ (9 นัด), แดนนี่ ดา คอสต้า (2 นัด), เกลสัน แฟร์น็องเดซ (5 นัด), มาร์โก ฟาเบียน, มาสกาเรล และ อเล็กซานเดอร์ เมเยอร์ ส่วนในรายของ ดาบิด อับราฮัม (9 นัด) ปราการหลังตัวสำคัญชาวอาร์เจนไตน์ จะติดโทษห้ามแข่ง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แฟร้งค์เฟิร์ต (4-2-3-1) : ลูคัส ฮราเด็กกี้ - การ์ลอส ซัลเซโด้, มาร์โก รุส, ไซม่อน ฟาแลต, ทาเลบ ทาวาธา - โจนาธาน เด กุซมัน, สโลโบดาน เมโดเยวิช - มาริอุส โวล์ฟ, อายเมน บาร์ก็อก, แดนนี่ บลุม - ลูก้า โยวิช

      แกร์ด เคล้าส์ นายใหญ่ของ ชไวน์เฟิร์ต จะไม่มีชื่อของ โดมินิค ไวส์ (8 นัด), ลูคัส คลิง (3 นัด) และ นิโคลัส เกิร์ตเลอร์ ที่โดนโรคเดี้ยงเล่นงาน แต่กำลังรบที่เหลือพร้อมลุยอยู่นานแล้ว คาดว่า เคล้าส์ จะวางหมากมาในระบบ 4-2-3-1 โดยจะมี อดัม ยาบิรี่ (16 นัด / 9 ประตู) หัวหอกจอมเก๋าประสบการณ์สูง ยืนค้ำเป็นกองหน้าตัวเป้า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ชไวน์เฟิร์ต (4-2-3-1) : ไอแบน - เมสซิงชเลเกอร์, บิลลิค, สโตรห์เมเยอร์, ยานซ์ - ครากัน, เฟรี่ - วิลช์, เยลิซิช, เคร้าท์ชไนเดอร์ - ยาบิรี่

      ดีเตอร์ เฮ็กคิงก์ เฮ้ดโค้ชของ กลัดบัค เหลือรายชื่อลูกทีมเจ็บอีก 4 ราย ได้แก่ ลาซโล่ บีนส์ (1 นัด), โทเบียส สโตรเบิ้ล, มามาดู ดูคูเร่ และ โจซิป เดอร์มิช คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ขุนพลจะเป็นชุดใหญ่ลงทำศึกต่อ นำทีมมาโดย ธอร์แกน อาซาร์ (9 นัด / 2 ประตู), ราฟฟาเอล (9 นัด / 2 ประตู) และ ลาร์ส สไตน์เดิ้ล (9 นัด / 3 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
กลัดบัค (4-2-2-2) : ยาน ซอมเมอร์ - นิโก้ เอลเวดี้, มัทธีอัส กินเตอร์, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, ออสการ์ เวนด์ - เดนิส ซากาเรีย, คริสโตฟห์ เครเมอร์ - ฟาเบียน จอห์นสัน, ธอร์แกน อาซาร์ - ราฟฟาเอล, ลาร์ส สไตน์เดิ้ล

      ฟรีดเฮล์ม ฟุงเคิ่ล เทรนเนอร์ของ ดุสเซลดอร์ฟ จะไร้เงาของ คาน อายฮาน (11 นัด) กับ ลูคัส ชมิตซ์ (8 นัด) สองแนวรับตัวสำคัญ เนื่องจากติดโทษแบนทั้งคู่ ทำให้ ฟุงเคิ่ล ต้องปรับหมากด้วยการส่ง โรบิน บอร์มุธ (6 นัด) และ จูเลี่ยน เชาเออร์เต้ (5 นัด) ลงมาทำหน้าที่แทน อีกคนที่น่าจะได้เป็นตัวจริง คือ รูเวน เฮนนิ่งส์ (11 นัด / 4 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ดุสเซลดอร์ฟ (3-5-2) : ราฟาเอล โวล์ฟ - โรบิน บอร์มุธ, อันเดร ฮอฟฟ์มันน์, นิโก้ กีเซลมันน์ - ฌอน ซิมเมอร์, ฟลอเรียน นอยฮุส, มาร์เซล โซบ็อตก้า, โอลิเวอร์ ฟิงค์, จูเลี่ยน เชาเออร์เต้ - เบนิโต้ รามาน, รูเวน เฮนนิ่งส์

      โดเมนิโก้ เทเดสโก้ เทรนเนอร์ของ ชาลเก้ มีตัวเดี้ยง 2 รายเท่าเดิม คือ มาติยา นาสตาซิช (7 นัด) และ ปาโบล อินซัว เชื่อว่าเกมนี้ เทเดสโก้ จะมีการโรเตชั่นนักเตะเกิดขึ้นแน่นอน โดยรายชื่ออย่าง อเลสซานโดร ช็อปฟ์ (1 นัด), เวสตัน แม็คเคนนี่ (5 นัด) และ บรีล เอ็มโบโล่ (4 นัด) จะได้รับโอกาสออกสตาร์ทเป็นตัวจริงบ้าง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ชาลเก้ (3-4-3) : ราล์ฟ ฟาห์รมันน์ - บ็องฌาแม็ง สตัมบูลี่, ธีโล่ เคห์เรอร์, นัลโด้ - อเลสซานโดร ช็อปฟ์, เวสตัน แม็คเคนนี่, มักซ์ เมเยอร์, บาสเตียน อ๊อกซิปก้า - เยฟเกนี่ โคโนพิลยานก้า, บรีล เอ็มโบโล่, อามีน ฮาริต

      รูดิเกอร์ เรห์ม ผู้จัดการทีมของ เวเฮน จะหมดสิทธิ์ใช้งาน เจเรเมียส ลอร์ช (1 นัด), ฟิลิปป์ มุลเลอร์ (9 นัด / 2 ประตู), เควิน เปซโซนี่ และ จูเลส ชวาดอร์ฟ ที่มีอาการเจ็บรบกวน แต่ขุมกำลังที่เหลือฟิตเต็มสูบกันทั้งหมด โดยจะมี มานูเอล ชาฟเฟลอร์ (13 นัด / 8 ประตู) ดาวซัลโวประจำทีม ปักหลักล่าตาข่ายอยู่ในแดนหน้า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เวเฮน (4-2-2-2) : มาร์คุส โคลเก้ - เซบาสเตียน มโรว์ก้า, ซาสช่า ม็อคเคนเฮาป์, สตีเว่น รูเพร็ชท์, อัล์ฟ มินท์เซล - โรเบิร์ต อันดริช, นิคลาส แดมส์ - โมริทซ์ คุห์น, สเตฟาน อันดริสท์ - มานูเอล ชาฟเฟลอร์, อั๊กเยมัง ดิอาวูซี่