วิเคราะห์บอล / วิเคราะห์บอลวันนี้

      อาคิม เบเยอร์ลอร์เซอร์ กุนซือของ ยาห์น เรเก้นส์บวร์ก เหลือเพียงแค่ โอลิเวอร์ ไฮน์ แนวรับวัย 27 ปี คนเดียวเท่านั้นที่เดี้ยงอยู่ ส่วนในรายของ อันเดรียส ไกเพิ่ล (10 นัด) กองกลางตัวเก่ง จะติดโทษแบน แต่ยังพอมีข่าวดีเข้ามาบ้าง เมื่อ อัสเกอร์ โซเรนเซ่น (9 นัด) ชดใช้โทษห้ามแข่งเรียบร้อยแล้ว กลับมาช่วยเกมรับได้ในเกมวันนี้

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ยาห์น เรเก้นส์บวร์ก (4-2-2-2) : ฟิลิปป์ เพนท์เก้ - เซบาสเตียน นัชไรเนอร์, เบเนดิคต์ กิมแบร์, อัสเกอร์ โซเรนเซ่น, อเล็กซานเดอร์ นานด์ซิค - มาร์วิน โนล, มาร์ก ไลส์ - ยาน ยอร์ก, โจชัว มีส์ - ซาร์กิส อดัมยาน, มาร์โก กรุตเนอร์

      ฮานเนส ดรูว์ส นายใหญ่ของ เออร์ซเกเบียร์เก้ เอา จะหมดสิทธิ์ใช้บริการของ นิคกี้ อาดเลอร์ กับ คลีเมนส์ ฟานดริช (10 นัด) ที่มีอาการเจ็บรบกวน ส่วนในรายของ ฟาเบียน คาลิก (10 นัด) ปราการหลังคนสำคัญจะติดโทษห้ามแข่ง ทำให้ ดรูว์ส ต้องเรียกตัว เดนนิส เคมเป้ (6 นัด) และ ฟิลิปป์ ไรเซ่ (5 นัด) มาเติมเต็มช่องว่างที่ขาดไป

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เออร์ซเกเบียร์เก้ เอา (3-4-3) : มาร์ติน มานเนิ่ล - เดนนิส เคมเป้, โดมินิค วีดร้า, นิโคไล แร็ปป์ - คาโลเกโร่ ริซซูโต้, คริสเตียน ทิฟเฟิร์ต, ฟิลิปป์ ไรเซ่, เซบาสเตียนเฮิร์ทเนอร์ - ปาสกาล ค็อปเค่, ดิม่า นาซารอฟ, โซเรน เบิร์ทรัม

      อิเลีย กรูเยฟ นายใหญ่ของ ดุ๊ยส์บวร์ก ยังคงมีชื่อของนักเตะเดี้ยงชุดเดิมเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น นิโก้ คล็อตซ์ (4 นัด), บรานิเมียร์ บายิช (1 นัด), ทิม อัลบูแทต และ ซลัตโก้ ยานยิช นั่นหมายความว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในเกมนี้ ไม่น่าจะต่างไปจากเกมก่อนๆ นำทีมมาโดย บอริช ทาชชี่ (9 นัด / 4 ประตู) หัวหอกชาวยูเครน วัย 24 ปี

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ดุ๊ยส์บวร์ก (4-2-2-2) : มาร์ค เฟล็คเก้น - เอนิส ฮายรี่, ดัสติน บอมฮอยเออร์, เกอร์ริต นูแบร์, เควิน โวลซ์ - ลูคัส โฟรเด้, ฟาเบียน ชเนลฮาร์ด - มอริตซ์ สต๊อปเพิ่ลคัมป์, โอลิเวียร่า ซูซ่า - บอริช ทาชชี่, คิงส์ลี่ย์ โอนูเอ็กบู

      เจฟ สตราสเซอร์ เทรนเนอร์ของ ไกเซอร์ฯ ยังคงไร้เงาของตัวเจ็บเซ็ตเดิม ได้แก่ ดาเนี่ยล ฮัลฟาร์ (7 นัด / 1 ประตู), แม็ดส์ อัลบัค (4 นัด) และ แค็กเปอร์ เพอร์ซีบิลโก้ (1 นัด) แต่ชั่วโมงนี้คงไม่มีอะไรให้กังวลใจ เพราะ สตราสเซอร์ คงเรียกใช้บริการของ 11 ขุนพลชุดเดิมที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน เนื่องจากลูกทีมทุกคนทำหน้าที่กันได้ดีอยู่เเล้ว

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไกเซอร์ฯ (3-4-2-1) : มาริอุส มุลเลอร์ - เบนจามิน เคสเซิ่ล, สติเป วูกูร์, จูเลียโน่ โมดิก้า - ฟิลิปป์ เวเน่, จีโน่ เฟชเนอร์, คริสโตฟห์ มอริตซ์, โจเอล อาบู ฮานนา - โอเซ่ ควัดโว่, เกอร์วาเน่ คาสตาเนียร์ - เซบาสเตียน อันเดอร์สสัน

      อูเว่ นอยฮุส ผู้จัดการทีมของ ไดนาโม เดรสเดน จะไม่มีชื่อของ โซเรน กอนเธอร์ (3 นัด), มาร์โก ฮาร์ทมันน์ (10 นัด / 1 ประตู), นิคลาส ฮุปท์มันน์ (5 นัด) และ ปาสกาล เทสโทร้ต (1 นัด) ที่โดนอาการเจ็บเล่นงานอยู่ทั้งหมด คาดว่าเกมนี้ นอยฮุส จะไว้วางใจในตัวของ เปเนียล เอ็มลาปา (6 นัด / 3 ประตู) ลงเป็นกองหน้า คอยล่าตาข่ายเหมือนเดิม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไดนาโม เดรสเดน (4-3-3) : มาร์วิน ชว้าบ - ปอล เซกุน, ยานนิค มุลเลอร์, ฟลอเรียน บัลลัส, ฟิลิป ไฮส์ - อิยาส ออสมัน, มานูเอล คอนราด, แลมเบิร์ต - นิคลาส ครอยเซอร์, เปเนียล เอ็มลาปา, ฮาริส ดุลเยวิช

      มิชาเอล โคลเนอร์ กุนซือของ เนิร์นแบร์ก เหลือลิสต์ลูกทีมเดี้ยงอยู่ 4 คน คือ มาร์เกริตเตอร์ (4 นัด), เดนนิส ลิพแพร์ต, เซบาสเตียน แคร์ก (3 นัด) และ อดัม ซเร็ค (2 นัด) เชื่อว่า โคลเนอร์ จะก็อปปี้ 11 ตัวจริงมาจากเกมที่บุกชนะ ดาร์มสตัดท์ 4-3 มาใช้บริการต่อ อาจจะปรับแค่ ทิม ไลโบลด์ (10 นัด / 1 ประตู) จะได้กลับมาออกสตาร์ทตั้งแต่ต้นเกม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เนิร์นแบร์ก (3-4-1-2) : ธอร์สเท่น เคิร์ชบอม - ลูคัส มูห์ล, เอดูอาร์ด โลเว่น, เอเวอร์ตัน - เอ็นริโก้ วาเลนตินี่, ฮันโน่ เบห์เรนส์, พาทริค เเอร์ราส, ทิม ไลโบลด์ - เควิน โมห์วัลด์ - เซดริค ทอยเชิร์ต, มิคาเอล อิชัค

      จูเลี่ยน นาเกิ้ลมันน์ เฮ้ดโค้ชของ ฮอฟเฟ่นไฮม์ มีรายงานเรื่องลูกทีมบาดเจ็บเข้ามา 4 ราย ได้แก่ โรเบิร์ต ซูล์จ, เออร์มิน บิซัคซิช (2 นัด), แซร์ก จีนาบรี (2 นัด) และ อดัม ซาลาย (1 นัด) คาดว่า นาเกิ้ลมันน์ จะทำการโรเตชั่นนักเตะกันอีกรอบ ซึ่งรายชื่ออย่าง อังเดร ครามาริช (8 นัด / 2 ประตู), สตีเว่น ซูเบอร์ (7 นัด) จะกลับคืนตัวจริง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮอฟเฟ่นไฮม์ (3-4-2-1) : โอลิเวอร์ เบามันน์ - สเตฟาน พอช, เควิน โฟ้กท์, เบนจามิน ฮุบเนอร์ - พาเวล คาเดราเบค, เดนนิส ไกเกอร์, เคเรม เดเมียร์เบย์, สตีเว่น ซูเบอร์ - อังเดร ครามาริช, มาร์ก อูธ - ว้ากเนอร์

      มาร์ติน ชมิดท์ กุนซือของ โวล์ฟสบวร์ก ยังไม่มีชื่อของ เซบาสเตียน จุง, จอห์น บรู้คส์ และ เจฟฟรี่ บรูม่า ที่อยู่ระหว่างการรีดฟิต แต่คงไม่ส่งผลอะไรในการจัดทัพมากนัก เพราะ ชมิดท์ เตรียมขน 11 ขุนพลชุดที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบันลงสนามต่อเนื่อง โดยจะมี อิ๊กนาซิโอ กามาโช่ (8 นัด) จอมทัพชาวสเปน ลงปั้นเกมในแดนกลาง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โวล์ฟสบวร์ก (4-3-3) : โกเยนส์ กัสตีลส์ - พอล เวอร์ฮาจ, มาร์เซล ทิสเซอรันด์, เฟลิกซ์ อูดูโอไค, ยานนิค แกร์ฮาร์ดท์ - โจฌัว กีลาโว้ก, อิ๊กนาซิโอ กามาโช่, มักซิมิเลี่ยน อาร์โนลด์ - ยาคุบ บลาสซีคอฟสกี้, ดิว๊อค โอริกี, ยูนุส มัลลี่

      พาล ดาร์ได กุนซือของ แฮร์ธ่าฯ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน โธมัส คราฟต์, เซบาสเตียน ลังคัมป์ (5 นัด), วลาดิเมียร์ ดาริด้า (7 นัด) และ จูเลี่ยน ชีเบอร์ ที่ยังเดี้ยงไม่หาย ส่วนในรายของ เกงกิ ฮารากูชิ (6 นัด) จะติดโทษแบน แต่จะมีข่าวดีตรงที่ เวดัด อิบิเซวิช (6 นัด) จะกลับมาเป็น 11 ตัวจริงได้อีกครั้ง หลังจากชดใช้โทษห้ามแข่งแล้ว

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แฮร์ธ่าฯ (4-2-3-1) : รูเน่ ยาร์สไตน์ - มิตเชล ไวเซอร์, นิคลาส สตาร์ค, คาริม เรกิ๊ก, มาร์วิน แพล็ตเท่นฮาร์ด - ฟาเบียน ลุสเตนแบร์เกอร์, เพอร์ สเคลเบร็ด - แมทธิว เล็กกี้, อองเดร ดูด้า, วาเลนติโน่ ลาซาโร่ - เวดัด อิบิเซวิช

      คริสเตียน สไตรช์ นายใหญ่ของ ไฟร์บวร์ก มีรายชื่อลูกทีมบาดเจ็บอยู่ 4 รายเท่าเดิม คือ วินเซนต์ เซียร์โร่ (1 นัด), มานูเอล กัลด์, มาร์ก เคมพ์ (2 นัด) และ ยอร์ก นีแดร์เมเยอร์ เชื่อว่า สไตรซ์ น่าจะปรับ 11 ขุนพลแค่ตำแหน่งเดียวจากเกมนัดก่อน ด้วยการส่ง มาร์โก แตร์รัซซิโน่ (8 นัด) ลงเป็นตัวจริงแทนที่ ไรอัน เคนท์ (4 นัด)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไฟร์บวร์ก (3-4-2-1) : อเล็กซานเดอร์ ชโวลอฟ - ฟิลิปป์ ไลน์ฮาร์ท, จูเลี่ยน ชุสเตอร์, คักลาร์ โซยุนกู - ปาสกาล สเตนเซิ่ล, ไมค์ ฟร๊านซ์, นิโคลัส ฮอฟเลอร์, คริสเตียน กุนเตอร์ - ฟลอเรียน นีแดร์เลชเนอร์, มาร์โก แตร์รัซซิโน่, ยานิค ฮาเบเรอร์

      อเล็กซานเดอร์ นูรี เทรนเนอร์ของ เบรเมน จะยังไร้เงาของ มักซ์ ครูเซ่ (4 นัด), เกเบร เซลาสซี่ (7 นัด) และ เจอโรม กอนดอร์ฟ (4 นัด) ที่ต้องพักรักษาตัวอยู่ เชื่อว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง ไม่น่าจะต่างไปจากชุดเดิมที่ลงบู๊ในนัดก่อน นำทีมมาโดย โธมัส เดอลานี่ย์ (8 นัด / 1 ประตู), ฟิน บาร์เทิ่ลส์ (8 นัด / 1 ประตู) และ อิชัค เบลโฟดิล (6 นัด)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เบรเมน (3-5-2) : ยีรี พาฟเลนก้า - นิโคลัส มอยซานเดอร์, ลูโดวิช ซาเน่, มิลอส เวลโกวิช - โรเบิร์ต บอยเออร์, ซลัตโก้ ยูนูโซวิช, ฟิลิปป์ บาร์กเฟรเด้, โธมัส เดอลานี่ย์, ลุดวิก ออกุสตินส์สัน - ฟิน บาร์เทิ่ลส์, อิชัค เบลโฟดิล

      ปีเตอร์ สโตเกอร์ เฮ้ดโค้ชของ โคโลญจน์ ยังเหลือตัวเดี้ยงเซ็ตเดิม คือ โยนาส เอ็คเตอร์ (3 นัด), มาร์เซล ริสเซ่ (4 นัด) และ จอห์น กอร์โดบา (7 นัด) คาดว่าเกมนี้ สโตเกอร์ จะมีการปรับเปลี่ยนหมุนเวียนทีมกันอีกครั้งจากชุดที่ลุยในศึกยูโรป้า ลีก โดยจะส่ง เคลาดิโอ ปิซาร์โร่ (2 นัด) ที่ไม่มีส่วนร่วมในเกมดังกล่าว ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โคโลญจน์ (4-4-2) : ติโม ฮอร์น - ลูคัส คลุนเตอร์, เฟรเดอริก โซเรนเซ่น, โดมินิค ไฮนซ์, คอนสแตนติน รอยส์ - มิลอส โยยิช, ซาลีห์ ออซคาน, มัทธีอัส เลห์มันน์, คอนสแตนติน รอยส์ - ยูยะ โอซาโกะ, เคลาดิโอ ปิซาร์โร่

      โทนี่ พูลิส นายใหญ่ของ เวสต์ บรอมฯ จะไร้เงาของ โอลิเวอร์ บูร์เก้ (2 นัด), เจมส์ มอร์ริสัน (4 นัด / 1 ประตู) และ ฮัล ร็อบสัน-คานู (5 นัด / 1 ประตู) เพราะควงแขนกันเจ็บแบบยกเซ็ต เชื่อว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงจะปรับจากเกมที่บุกเสมอ เลสเตอร์ 1-1 แค่จุดเดียว คือ เบ็น ฟอสเตอร์ (7 นัด) จะกลับมาเป็นผู้รักษาประตูตัวจริง

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
เวสต์ บรอมฯ (4-3-3) : เบ็น ฟอสเตอร์ - เคร็ก ดอว์สัน, อาห์เหม็ด เฮกาซี่, จอนนี่ อีแวนส์, คีแรน กิ๊บบ์ส - เจค ลิเวอร์มอร์, เกอร์เซกอร์ซ ครีโชเวี๊ยค, แกเร็ธ แบร์รี่ - เจย์ โรดริเกซ, ซาโลมอน รอนดอน, นาเซอร์ ช๊าดลี่

      เมาริซิโอ เปเญกริโน่ เฮ้ดโค้ชของ เซาท์แฮมป์ตัน จะเหลือเพียงแค่ เฌเรมี่ ปิเอ็ด แนวรับชาวฝรั่งเศสคนเดียวเท่านั้น ที่ยังเดี้ยงอยู่ ส่วนขุมกำลังที่เหลือฟิตเต็มสูบกันทั้งหมด คาดว่า เปเญกริโน่ จะปรับหมากมาเป็นระบบ 4-2-3-1 โดยจะมี มาโนโล่ กั๊บเบียดินี่ (8 นัด / 3 ประตู) หัวหอกชาวอิตาลี ยืนค้ำเป็นกองหน้าตัวเป้าให้กับทีม

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
เซาท์แฮมป์ตัน (4-2-3-1) : เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ - เซดริก โซอาเรส, มายะ โยชิดะ, เฟอร์กิล ฟาน ไดย์ค, ไรอัน เบอร์ทรานด์ - สตีเว่น เดวิส, มาริโอ เลมิน่า - ดูซาน ทาดิช, โซฟิยาน บูฟาล, นาธาน เร้ดม่อนด์ - มาโนโล่ กั๊บเบียดินี่

      จุ๊ป เฮย์เกส เทรนเนอร์ของ บาเยิร์น จะไม่มีชื่อของตัวเดี้ยงเซ็ตเดิม คือ ฆวน เบร์นาต, มานูเอล นอยเออร์ (3 นัด), ฟร้องค์ ริเบรี่ (6 นัด) และ ฆาบี มาร์ติเนซ (4 นัด) คาดว่าเกมนี้ เฮย์เกส จะทำการโรเตชั่นนักเตะบ้าง โดยจะให้ ฮาเมส โรดริเกวซ (3 นัด / 1 ประตู) กับ อาร์ตูโร่ วิดัล (5 นัด / 1 ประตู) ลงวาดลวดลายในฐานะ 11 ตัวจริง

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
บาเยิร์น (4-2-3-1) : สเวน อุลไรช์ - โจชัว กิมมิค, นิคลาส ซูเล่, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, ดาวิด อลาบา - ธิอาโก้ อัลกานตาร่า, อาร์ตูโร่ วิดัล - อาร์เยน ร็อบเบน, ฮาเมส โรดริเกวซ, โธมัส มุลเลอร์ - โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

      มาร์คุส กิสดอล นายใหญ่ของ ฮัมบูร์ก จะหมดสิทธิ์ใช้งาน วาซิลิเย่ ยานยิซิช (2 นัด) และ นิโคไล มุลเลอร์ (1 นัด / 1 ประตู) ที่ยังต้องพักรักษาตัวอยู่ ส่วนในรายของ คิเรียกอส ปาปาโดปูลอส (7 นัด) จะกลับมาคืน 11 ตัวจริงได้แล้ว หลังจากชดใช้โทษแบนเรียบร้อย อีกคนที่น่าจะได้ออกสตาร์ทตั้งแต่ต้นเกม คือ ฟิลิป คอสติช (4 นัด)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮัมบูร์ก (3-4-2-1) : มาเธเนีย - คิเรียกอส ปาปาโดปูลอส, แมร์กิม มาฟราย, ริค ฟาน ดรองเกเล่น - เดนนิส เดี๊ยคเมเยอร์, อัลบิน เอคดัล, กีเดียน จุง, โกโตคุ ซากาอิ - อันเดร ฮาห์น, ฟิลิป คอสติช - บ๊อบบี้ วู้ด

      อันเดร ไบรเท่นไรเตอร์ เฮ้ดโค้ชของ ฮันโนเวอร์ ยังหมดสิทธิ์ใช้บริการของ เฟลิเป้ (4 นัด), โจเอล บาเซ่, อุฟเฟ่ เบ็ค และ เอ็ดการ์ พริบ ที่ต้องยังสลัดครายเดี้ยงกลับมาไม่ได้ ส่วนในรายของ มาร์วิน บาคาลอร์ซ (8 นัด) กับ นิคลาส ฟัลครู้ก (8 นัด) สองกำลังหลัก ต้องรอเช็คความฟิตก่อนลงสนามอีกครั้ง แต่เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหา

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮันโนเวอร์ (4-2-3-1) : ฟิลิปป์ ชอเนอร์ - จูเลี่ยน คอร์บ, ซาลิฟ ซาเน่, แอนตัน, มัทธีอัส ออสเตอร์โซเลค - ฟลอเรียน ฮุบเนอร์, เพอร์มิน ชเว็กเลอร์ - มาร์ติน ฮาร์นิค, มาร์วิน บาคาลอร์ซ, เคนาน คารามัน - นิคลาส ฟัลครู้ก

      มานูเอล บอย์ม เทรนเนอร์ของ เอ๊าก์สบวร์ก จะไม่มีชื่อของ อันเดรียส ลูธ กับ มาร์ติน ฮินเตอเร็กเกอร์ (8 นัด) ที่โดนอาการเจ็บเล่นงาน ทำให้ บอย์ม ต้องแก้ปัญหาด้วยการส่ง คอนสแตนตินอส สตาฟีลิดิส (1 นัด) ลงมาอุรูรั่วในเกมรับ ส่วนในเกมรุกยังมี อัลเฟร็ด ฟินโบกาสัน (8 นัด / 4 ประตู) คอยล่าตาข่ายในแดนหน้าเหมือนเก่า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เอ๊าก์สบวร์ก (4-2-3-1) : มาร์วิน ฮิตซ์ - ดาเนี่ยล โอปาเร่, เควิน ดานโซ่, คอนสแตนตินอส สตาฟีลิดิส, ฟิลิปป์ มักซ์ - เจฟฟรี่ กูเวลูว์, ดาเนี่ยล เบเยอร์ - มาร์เซล เฮลเลอร์, คู จา ชอล, คูบี้ - อัลเฟร็ด ฟินโบกาสัน

      ปีเตอร์ บอสซ์ นายใหญ่ของ ดอร์ทมุนด์ มีลิสต์นักเตะเจ็บเยอะไม่แพ้กัน ได้แก่ โอเมอร์ โทพรัค (7 นัด), ลูคัส พิสเซ็ค (7 นัด), เอริค ดวร์ม, มาร์โก้ รอยส์ และ เซบาสเตียน โร้ด แล้วต้องมาเสีย โซเครติส (8 นัด / 1 ประตู) ไปกับโทษแบนอีก ทำให้ บอสซ์ ต้องปรับแนวรับกันอีกครั้ง คาดว่า ดาน ซากาดู (7 นัด) จะโดนเปลี่ยนมายืนเป็นปราการหลังตัวกลาง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ดอร์ทมุนด์ (4-3-3) : โรมัน บูร์กี - เฌเรมี โตลยาน, มาร์ก บาร์ตรา, ดาน ซากาดู, มาร์เซล ชเมลเซอร์ - กอนซาโล่ กาสโตร, จูเลี่ยน ไวเกิ้ล, มาริโอ เกิทเซ่ - คริสเตียน พูลิซิช, ปิแอร์ ออบาเมย็อง, มักซิมิเลี่ยน ฟิลิปป์

      นิโก้ โควัค กุนซือของ แฟร้งค์เฟิร์ต มีรายชื่อลูกทีมเจ็บยาวเป็นหางว่าวเหมือนเดิม ไล่มาตั้งแต่ โจนาธาน เด กุซมัน (7 นัด), สโลโบดาน เมโดเยวิช (1 นัด), เกลสัน แฟร์น็องเดส (5 นัด), แดนนี่ ดา คอสต้า (2 นัด), มาร์โก ฟาเบียน, อเล็กซานเดอร์ เมเยอร์ และ โอมาร์ มาสกาเรล ส่วนในรายของ ไซม่อน ฟาแลต (7 นัด) ยังติดโทษห้ามแข่งต่อไป

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แฟร้งค์เฟิร์ต (3-4-3) : ลูคัส ฮราเด็กกี้ - มาร์โก รุส, ดาบิด อับราฮัม, มาโกโตะ ฮาเซเบะ - ทิโมธี แชนด์เลอร์, มิยัต กาซิโนวิช, เควิน พริ๊นซ์ บัวเต็ง, ทาเลบ ทาวาธา - มาริอุส โวล์ฟ, เซบาสเตียง ฮัลแลร์, อันเต เรบิช

      ไฮโค แฮร์ลิช เทรนเนอร์ของ เลเวอร์คูเซ่น จะไร้เงาของ ติน เชดวาย กับ ลาร์ส เบนเดอร์ (4 นัด / 1 ประตู) ที่ยังไม่หายเจ็บ แต่กำลังรบที่เหลือพร้อมลุยอยู่นานเเล้ว คาดว่า แฮร์ลิช น่าจะมีการเปลี่ยนแปลง 11 ตัวจริงในบางตำแหน่ง แต่สำหรับ โดมินิค คอห์ร (8 นัด / 1 ประตู) และ จูเลี่ยน บรันด์ (8 นัด / 2 ประตู) น่าจะได้ลงเล่นต่อแน่นอน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เลเวอร์คูเซ่น (4-2-3-1) : แบร์นด์ เลโน่ - พานาจิโอติส เรตซอส, โจนาธาน ตาห์, สเวน เบนเดอร์, เวนเดล - ชาร์ล อรานกุซ, โดมินิค คอห์ร - เลออน ไบลี่ย์, จูเลี่ยน บรันด์, เควิน โฟลลันด์ - ลูกัส เอลาริโอ

      ดีเตอร์ เฮ็กคิงก์ เฮ้ดโค้ชของ กลัดบัค มีรายงานความเสียหายเรื่องลูกทีมเดี้ยงเข้ามา 5 ราย ได้แก่ ลาซโล่ บีนส์ (1 นัด), โทเบียส สโตรเบิ้ล, ราอูล โบบาดีย่า (4 นัด), ฮูลิโอ เซซ่าร์ บียัลบา (1 นัด) และ โจซิป เดอร์มิช แต่คงไม่ส่งผลอะไรในชั่วโมงนี้ เพราะ เฮ็กคิงก์ เตรียมขน 11 ขุนพลชุดเดิมลงทำศึกต่อ เนื่องจากทุกคนเล่นกันได้ดีอยู่เเล้ว

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
กลัดบัค (4-2-2-2) : ยาน ซอมเมอร์ - นิโก้ เอลเวดี้, มัทธีอัส กินเตอร์, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, ออสการ์ เวนด์ - เดนิส ซากาเรีย, คริสโตฟห์ เครเมอร์ - ฟาเบียน จอห์นสัน, ธอร์แกน อาซาร์ - ราฟฟาเอล, ลาร์ส สไตน์เดิ้ล

      ฮันเนส โวล์ฟ เฮ้ดโค้ชของ สตุ๊ตการ์ต มีลิสต์ลูกทีมบาดเจ็บอยู่ 4 คน คือ มาร์ซิน กามินสกี้ (8 นัด), คริสเตียน เกนท์เนอร์ (4 นัด), การ์ลอส มาเน่ และ มัทเธียส ซิมเมอร์มันน์ (2 นัด) นั่นบังคับให้ โวล์ฟ ต้องปรับหมากในเกมรับด้วยการโยก เบนจามิน ปาวาร์ (8 นัด) มาเป็นกองหลังตัวกลาง และส่ง อันเดรียส เบ็ค (6 นัด) ลงมาเป็นแบ็คขวา

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
สตุ๊ตการ์ต (3-4-2-1) : รอน โรเบิร์ต ซีเลอร์ - เบนจามิน ปาวาร์, ติโม บอย์มการ์ตเทิ่ล, โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์ - อันเดรียส เบ็ค, ซานติอาโก้ อัสกากิบาร์, โอเรล ม็องกาล่า, เดนนิส อาโอโก้ - ชากรัค อาโกโล่, อนาสตาซิออส โดนิส - ไซม่อน เทร็อดด์

      ราล์ฟ ฮาเซ่นฮุตเทิ่ล กุนซือของ ไลป์ซิก จะขาดหายไปเพียงแค่ สเตฟาน อิลซังเกอร์ (6 นัด) มิดฟิลด์ชาวออสเตรีย ที่โดนโทษห้ามแข่ง แต่ขุมกำลังที่เหลือพร้อมให้เรียกใช้บริการได้ทั้งหมด คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในเกมนี้ คงมีการโรเตชั่นในบางตำแหน่ง โดย ติโม แวร์เนอร์ (6 นัด / 5 ประตู) จะกลับมาทวงตัวจริงคืนเสียที

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไลป์ซิก (4-2-2-2) : ปีเตอร์ กาลัคซี่ - ลูคัส โคลสเตอร์มันน์, อูปาเมกาโน่, วิลลี่ ออร์แบน, มาร์เซล ฮัลส์เท่นแบร์ก - ดีเอโก้ เดม, นาบิล เกอิต้า - มาร์เซล ซาบิตเซอร์, เอมิล ฟอร์สเบิร์ก - ฌอน ออกุสติน, ติโม แวร์เนอร์

      ทอร์สเท่น ฟริ๊งส์ เทรนเนอร์ของ ดาร์มสตัดท์ มีลิสต์ลูกทีมบาดเจ็บอยู่ 4 คน คือ ดาเนี่ยล ฮอยเออร์ (9 นัด), ซานโดร ซิริกู (8 นัด), โทเบียส เคมพ์ (10 นัด / 3 ประตู) และ ปีเตอร์ นีเมเยอร์ (1 นัด) นั่นบังคับให้ ฟริ๊งส์ ต้องปรับเปลี่ยน 11 ตัวจริงกันอีกครั้ง แต่สำหรับ เควิน โกร๊สครอยซ์ (10 นัด / 3 ประตู) น่าจะได้ลงทำเกมให้กับทีมเหมือนเดิม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ดาร์มสตัดท์ (4-2-3-1) : โยเอล มอล - มาร์คุส สไตน์โฮเฟอร์, อายทัก ซูลู, พาทริค แบงการ์ด, ฟาเบียน ฮอลลันด์ - ฮามิต อัลตินท็อป, ยานนิค สตาร์ค - มาร์วิน เมห์เลม, แยน โรเซนธาล, เควิน โกร๊สครอยซ์ - เฟลิกซ์ พลัตเต

      ฟรีดเฮล์ม ฟุงเคิ่ล เฮ้ดโค้ชของ ดุสเซลดอร์ฟ จะเหลือเพียงแค่ มิชาเอล เรนซิ่ง (3 นัด) กับ ฮาเวิร์ด นีลเซ่น (4 นัด) เท่านั้นที่เป็นแข้งเดี้ยงค้างสต็อกอยู่ แต่คงไม่ส่งผลอะไรกับทีมมากนัก เพราะ ฟุงเคิ่ล เตรียมใช้งาน 11 ขุนพลชุดเดิมต่อไปอีกนัด โดยจะมี เบนิโต้ รามาน (6 นัด / 2 ประตู) จับคู่กับ รูเวน เฮนนิ่งส์ (10 นัด / 4 ประตู) ในแดนหน้า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ดุสเซลดอร์ฟ (3-5-2) : ราฟาเอล โวล์ฟ - คาน อายฮาน, อันเดร ฮอฟฟ์มันน์, นิโก้ กีเซลมันน์ - ฌอน ซิมเมอร์, ฟลอเรียน นอยฮุส, มาร์เซล โซบ็อตก้า, โอลิเวอร์ ฟิงค์, ลูคัส ชมิตซ์ - เบนิโต้ รามาน, รูเวน เฮนนิ่งส์

      แฟร้งค์ ชมิดท์ เฮ้ดโค้ชของ ไฮเด้นไฮม์ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน มาธิอัส วิตเทค (9 นัด / 1 ประตู) ปราการหลังตัวแกร่งที่โดนใบแดงในเกมที่เปิดบ้านแพ้ โฮลสไตน์ เคียล 3-5 ในเกมก่อน คาดว่าตัวตายตัวแทนในนัดนี้จะเป็น เควิน เคร๊าส์ (4 นัด) ส่วนในแนวรุกยังมี นิโกล่า โดเวดัน (10 นัด / 1 ประตู) ยืนค้ำเป็นตัวเป้า คอยผลิตสกอร์เหมือนเก่า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไฮเด้นไฮม์ (4-2-3-1) : เควิน มุลเลอร์ - มาร์นอน บุช, เควิน เคร๊าส์, ติโม เบียร์มันน์, อาร์เน่ ฟีค - นอร์มัน ธอยเออร์เคาฟ์, เซบาสเตียน กรีสเบ็ค - ทิม สคาร์เก้, เบน ฮัลโลแรน, มาร์ก ชนัตเตอเรอร์ - นิโกล่า โดเวดัน

      สเตฟาน ไลเทิ่ล กุนซือของ อินกอลสตัดท์ ยิ้มสบายใจได้ก่อนเกมเลย เมื่อสภาพความพร้อมของลูกทีมทุกคนสมบูรณ์ 100% เชื่อว่า ไลเทิ่ล จะมีการปรับหมากเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะลูกทีมเล่นกันได้ดีพอตัวอยู่แล้ว โดยจะสลับให้ สเตฟาน คุชเก้ (9 นัด / 1 ประตู) ลงไปยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า แทนที่ ดาริโอ เลซกาโน่ (10 นัด / 2 ประตู) ดูบ้าง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
อินกอลสตัดท์ (4-3-2-1) : ออร์ยาน นีลันด์ - โทเบียส เลเวิ่ลส์, มาร์วิน มาทิป, เฮาเก้ วอห์ล, มาร์เซล เก๊าส์ - คริสเตียน แทรช, อัลม็อก โคเฮน, อัลเฟรโด้ โมราเลส - โธมัส เพลเดิ้ล, ซอนนี่ คิตเทิ่ล - สเตฟาน คุชเก้

      จอห์น คอลฟิลด์ เฮ้ดโค้ชของ คอร์ก ซิตี้ เตรียมขนสำรองลงสนามยืดเส้นยืดสายบ้าง หลังจากที่พาทีมคว้าเเชมป์ไปเรียบร้อยแล้ว นั่นหมายความว่า บรรดาแข้งดาวรุ่งจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงกันหลายราย ไล่มาตั้งแต่ คอร์เนอร์ แม็คคาร์ธี่ย์ (5 นัด), คีย์แรน แซดเลียร์ (11 นัด / 1 ประตู) รวมไปถึง คอร์เนอร์ เอลลิส (18 นัด / 2 ประตู)

      เลียม บั๊คลี่ย์ นายใหญ่ของ เซนต์ พาทริคส์ ยังไม่มีชื่อของ ดาร์เรน เดนเนฮี (2 นัด) แนวรับที่เดี้ยงยาวอยู่ก่อนหน้านี้ ส่วนในรายของ เกรแฮม เคลลี่ (27 นัด / 4 ประตู) มิดฟิลด์ตัวสำคัญ อดบู๊แน่นอน เพราะจะติดโทษแบน แต่ก็ยังพอมีข่าวดีอยู่บ้าง เมื่อ คริส เฟแกน (26 นัด / 7 ประตู) ดาวยิงตัวความหวังของทีม ฟิตเต็มสูบ พร้อมลงสนามได้แน่

      สตีเฟ่น แบร็ดลี่ย์ กุนซือของ แชมร็อค โรเวอร์ส จะไม่มีชื่อของ แบรนดอน ไมเล่ (28 นัด / 8 ประตู) กองกลางตัวสำคัญของทีม เนื่องจากติดโทษห้ามแข่ง แต่กำลังรบที่เหลือพร้อมลุยอยู่นานแล้ว คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง ไม่น่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปสักเท่าไหร่ คงจะมี แกรี่ ชอว์ (27 นัด / 10 ประตู) ยืนเป็นกองหน้าคอยล่าตาข่ายให้กับทีมเหมือนเดิม

      แฮร์รี่ เคนนี่ เทรนเนอร์ของ เบรย์ วันเดอเรอร์ส จะหมดสิทธิ์ใช้งาน ไรอัน เบรนแนน (29 นัด / 7 ประตู) ห้องเครื่องวัย 25 ปี ที่โดนไล่ออกมาจากเกมที่บุกแพ้ ดันดอล์ค 0-1 ทำให้ เคนนี่ ต้องปรับ 11 ขุนพลกันเล็กน้อย แต่เชื่อว่า ฮิวจ์ ดักลาส (18 นัด / 1 ประตู), แกรี่ แม็คแค็บ (28 นัด / 15 ประตู) และ อารอน กรีน (31 นัด / 11 ประตู) น่าจะได้ลงเล่นต่อ

      คีธ ลอง เฮ้ดโค้ชของ โบฮีเมี่ยนส์ จะยังไร้เงาของ วอร์เรน โอฮาร่า (10 นัด) กับ ลอร์แคน ฟิตซ์เกรัลด์ (24 นัด / 1 ประตู) เพราะยังไม่หายเจ็บ ส่วนในรายของ ฟูอัด ซูเล่ (24 นัด) และ คีธ วอร์ด (25 นัด / 5 ประตู) จะติดโทษห้ามแข่ง แต่วืดแน่ๆ อีก 2 คน คือ จอร์จี้ ปอย์นตัน (24 นัด / 4 ประตู) กับ ไคแรน โอคอนเนอร์ (6 นัด) เนื่องจากติดกฎการยืมตัว

      สตีเฟ่น เคนนี่ กุนซือของ ดันดอล์ค ปวดตับในการจัดทัพแน่นอน เพราะต้องรอเช็คฟิตลูกทีมก่อนส่งรายชื่อถึง 8 ราย ไม่รู้ว่าจะมีคนพร้อมลงเล่นเท่าไหร่ แถมต้องมาเสีย สตีเฟ่น โอคอนเนลล์ (19 นัด / 1 ประตู) กัปตันทีมตัวเก่ง กับ คอนอร์ คลิฟฟอร์ด (17 นัด) กองกลางประจำทีม ไปกับโทษแบนอีก นั่นทำให้ เคนนี่ ต้องคิดหนักไม่น้อยในการแก้ปัญหา

      ซานโดร ชวาร์ซ ผู้จัดการทีมของ ไมนซ์ จะไม่มีชื่อของ อเล็กซานเดอร์ แฮ็ค, แกร์ริตต์ โฮลต์มันน์, คาริม โอนิซิโว (2 นัด), นิโค บุนเเกร์ต และ กาเอต็อง บุสมันน์ เพราะยังต้องใช้บริการของโรงพยาบาลอยู่ คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง น่าจะเป็นชุดเดิมที่ลงเล่นอยู่ในปัจจุบัน เนื่องจากทุกคนทำหน้าที่กันได้ดีอยู่แล้ว

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไมนซ์ (4-3-3) : เรเน่ อ๊าดเลอร์ - จูลิโอ โดนาติ, อับดู ดิยัลโล่, สเตฟาน เบล, ดาเนี่ยล โบรซินสกี้ - ฌอง กีบาแมง, แดนนี่ ลัตซ่า, ฟาเบียน ฟราย - วิคเตอร์ ฟิสเชอร์, โยชิโนริ มุโตะ, เลวิน ออซตูนาลี

      โดเมนิโก้ เทเดสโก้ เทรนเนอร์ของ ชาลเก้ จะหมดสิทธิ์ใช้บริการของ มาติยา นาสตาซิช (7 นัด) และ ปาโบล อินซัว ที่โดนไข้เดี้ยงเล่นงาน ทำให้ บ็องฌาแม็ง สตัมบูลี่ (4 นัด) ต้องรับหน้าที่ปราการหลังตัวกลางต่อไปอีกนัด ส่วนกำลังหลักคนอื่นๆ ยังอยู่กันครบครัน นำทีมมาโดย เลออน โกเร็ตส์ก้า (8 นัด / 3 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ชาลเก้ (3-4-3) : ราล์ฟ ฟาห์รมันน์ - บ็องฌาแม็ง สตัมบูลี่, ธีโล่ เคห์เรอร์, นัลโด้ - ดาเนี่ยล คาลิกูรี่, เลออน โกเร็ตส์ก้า, มักซ์ เมเยอร์, บาสเตียน อ๊อกซิปก้า - เยฟเกนี่ โคโนพิลยานก้า, กุยโด บวร์กสตัลเลอร์, อามีน ฮาริต

      อาดิ ฮัตเตอร์ ผู้จัดการทีมของ ยัง บอยส์ มีรายงานความเสียหายเรื่องลูกทีมบาดเจ็บเข้ามา 5 ราย ประกอบไปด้วย โตล็องต์ ซูเลจ์มานอฟ, ลอริส เบนิโต้ (5 นัด), เลโอนาร์โด้ แบร์โตเน่ (5 นัด / 2 ประตู), มิราเล็ม ซูเลจ์มานี่ (8 นัด / 1 ประตู) และ ชิลโลเม่ โออาโร (5 นัด / 1 ประตู) นั่นทำให้ ฮัตเตอร์ ไม่มีทางเลือกไหนในการปรับแต่ง 11 ตัวจริงมากนัก

      อเล็กซานเดอร์ คัตห์สเควิช เทรนเนอร์ของ ดินาโม เคียฟ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน วิคตอร์ ซีกานคอฟ (10 นัด / 5 ประตู) กองกลางตัวสำคัญ เนื่องจากโดนโรคเดี้ยงเล่นงาน ส่วนในรายของ โดมาก็อจ วิด้า (7 นัด / 1 ประตู) กองหลังตัวแกร่ง ต้องรอเช็คความฟิตก่อนลงสนามอีกครั้ง แต่ศูนย์ตัวเก่งอย่าง ดิวเมอร์ซี่ เอ็มโบกานี่ (9 นัด / 5 ประตู) ลงสนามได้แน่นอน

      พาล ดาร์ได เฮ้ดโค้ชของ แฮร์ธ่าฯ จะหมดสิทธิ์ใช้งานนักเตะเดี้ยง 6 คน คือ โธมัส คราฟต์, มักซิมมิเลี่ยน มิตเตลสตัดท์, เซบาสเตียน ลังก์คัมป์ (5 นัด), วลาดิเมียร์ ดาริด้า (7 นัด), แมทธิว เล็กกี้ (8 นัด / 4 ประตู) และ จูเลี่ยน ไชแบร์ ทำให้ ดาร์ได ต้องปรับ 11 ขุนพลกันในบางตำแหน่ง แต่สำหรับ ซาโลมง กาลู (7 นัด / 2 ประตู) น่าจะได้ลงสนามต่อไป

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แฮร์ธ่าฯ (4-2-3-1) : รูเน่ ยาร์สไตน์ - ปีเตอร์ เปคาริค, นิคลาส สตาร์ค, คาริม เรกิ๊ก, จอร์แดน โตรูนาริก้า - เพอร์ สเคลเบร็ด, ฟาเบียน ลุสเตนแบร์เกอร์ - มิตเชล ไวเซอร์, วาเลนติน สต๊อคเกอร์, อองเดร ดูด้า - ซาโลมง กาลู

      ยูริ เวอร์นีดุบ ผู้จัดการทีมของ ซอร์ย่า จะไม่มีชื่อของ วยาเชสลาฟ เชคเชอร์ (5 นัด) ปราการหลังประสบการณ์สูง และ วลาดิสลาฟ คาลิตวินต์เซฟ (6 นัด / 1 ประตู) ห้องเครื่องประจำทีม ที่โดนอาการเจ็บเล่นงานอยู่ทั้งคู่ แต่ยังดีที่คนอื่นๆ ฟิตเต็มสูบกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น อาร์เต็ม ซูคอตสกี้ (11 นัด), ซิลาส (4 นัด / 1 ประตู) รวมไปถึง ยูรี่ (9 นัด / 3 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ซอร์ย่า (4-1-4-1) : ลูนิน - โอปานาเซนโก้, สวาต๊อค, เกรชิสกิ้น, ซูคอตสกี้ - คาราติน - คาราวาเยฟ, ซิลาส, อันดริเยฟสกี้, ยูรี่ - โกรมอฟ

      ดิมิตาร์ ดิมิตรอฟ กุนซือของ ลูโดโกเร็ตส์ จะไร้เงาของ กุสตาโว่ คัมปันฮาโร่ (10 นัด / 1 ประตู), วลาดิสลาฟ สโตยานอฟ และ เวอร์กิล มิซิดยาน (8 นัด / 4 ประตู) ที่ยังต้องใช้บริการของโรงพยาบาลอยู่ คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง ไม่น่าจะต่างชุดปัจจุบันที่ใช้งานอยู่มากนัก นำทีมมาโดย เคลาดิอู เคเซรู (8 นัด / 4 ประตู) ยืนค้ำเป็นศูนย์หน้าตัวเป้า

      อาเบล แฟร์ไรร่า นายใหญ่ของ สปอร์ติ้ง บราก้า มีลิสต์ลูกทีมเดี้ยงในมือเพิ่มเป็น 6 คน ได้แก่ มาราโฟน่า, ลาซาร์ โรซิช (6 นัด), เซกูเอร่า (4 นัด), มาร์โก้ บาคิช, ดีเอโก้ ซูซ่า (2 นัด / 1 ประตู) และ วิลสัน เอดูอาร์โด้ แต่ยังพอมีข่าวดีอยู่บ้าง เมื่อ โคค่า (6 นัด / 3 ประตู) หัวหอกร่างยักษ์ทีมชาติอิยิปต์ พร้อมลงเป็นกองหน้าตัวความหวังให้กับทีม

      อับดุลลาห์ อัฟชี่ เฮ้ดโค้ชของ อิสตันบูล บาซัคเซฮีร์ มีรายชื่อลูกทีมเจ็บค้างสต็อกอยู่ถึง 5 ราย ไล่มาตั้งแต่ มาร์ซิโอ มอสโซโร่ (4 นัด), มานูเอล ดา คอสต้า (2 นัด), เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ (7 นัด / 3 ประตู), เอ็มเร่ เบโลโซกลู (6 นัด / 2 ประตู) และ ออเรลิย็อง เชดฌู นั่นทำให้ อัฟชี่ ต้องยกเครื่องแผง 11 ตัวจริงกันใหม่ในหลายตำแหน่งเลย

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
อิสตันบูล บาซัคเซฮีร์ (4-2-3-1) : บาบากาน - จูเนียร์ ไคชาร่า, เอปูเรียนู, อัตตามาห์, กาแอล กลิชี่ - โกคาน อินแลร์, เทคเดเมียร์ - เอดิน วิสก้า, นาโปเลโอนี่, เอลเยโร่ เอเลีย - เมฟลุต เออร์ดิ้ง

      จูเลี่ยน นาเกิ้ลมันน์ เทรนเนอร์ของ ฮอฟเฟ่นไฮม์ ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน เออร์มิน บิซัคซิช (2 นัด), แซร์ก จีนาบรี้ (2 นัด), อดัม ซาลาย (1 นัด) และ โรเบิร์จ ซูล์จ เนื่องจากยังสลัดคราบเดี้ยงไม่ได้ ส่วนในรายของ ลูคัส รุปป์ (4 นัด / 1 ประตู) ต้องรอเช็คความฟิตก่อนเกมกันอีกครั้ง แต่ที่แน่ๆ คือ มาร์ก อูธ พร้อมช่วยต้นสังกัดแน่นอน (7 นัด / 5 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮอฟเฟ่นไฮม์ (3-4-2-1) : โอลิเวอร์ เบามันน์ - ฮาเวิร์ด นอร์ดเวต, เควิน โฟ้กท์, สเตฟาน พอช - พาเวล คาเดราเบค, เดนนิส ไกเกอร์, ยูเก้น โพลันสกี้ล, สตีเว่น ซูเบอร์ - เฟลิกซ์ พาสลัค, อังเดร ครามาริช - มาร์ก อูธ

      เปโดร มาร์ตินส์ นายใหญ่ของ วิตอเรีย กิมาไรส์ จะขาดหายไปเพียงแค่ ดั๊กลาส เฮซุส (4 นัด) นายทวารประสบการณ์สูงคนเดียวเท่านั้น ส่วนขุมกำลังที่เหลือพร้อมลุยอยู่นานแล้ว คาดว่า มาร์ตินส์ จะเรียกตัว เจา มิเกล (4 นัด) นายด่านมือสอง มาเฝ้าเสาต่อเนื่อง และในแนวรุกจะมี เปาโล อูร์ตาโด้ (7 นัด / 1 ประตู) เป็นจอมทัพคอยปั้นเกม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
วิตอเรีย กิมาไรส์ (4-4-1-1) : เจา มิเกล - เจา ออเรลิโอ้, ฮูบัล, เปเดรา, กิสห์ลาอิน โคน็อง - เอลดอน, กิลเยร์โม่ เกลิส, อัลฮัสซัน วาคาโซ่, ราฟาเอล - เปาโล อูร์ตาโด้ - ออสการ์ เอสตูปิญาน

      รูดี้ การ์เซีย ผู้จัดการทีมของ มาร์กเซย ไม่มีปัญหาใดให้กังวลในการจัดทัพค่ำคืนนี้ เพราะลูกทีมทุกคนฟิตสมบูรณ์กันดี คาดว่า การ์เซีย เตรียมจัด "อาวุธหนัก" ลงสนามกันแบบครบครันแน่ๆ นำทีมมาโดย อาดิล รามี่ (8 นัด), ปาทริซ เอวร่า (3 นัด), ดิมิทรี่ ปาเยต์ (6 นัด / 1 ประตู) และหน้าตัวเป้าจะเป็น วาเลอรี่ แชร์กแมง (9 นัด) เจ้าเดิม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
มาร์กเซย (4-2-3-1) : สตีฟ ม็องด็องด้า - บูน่า ซาร์, อาดิล รามี่, โรลันโด้, ปาทริซ เอวร่า - ลุยซ์ กุสตาโว่, ฟร้องค์ ซัมโบ - มอร์แกน แซนซง, ดิมิทรี่ ปาเยต์, ฟลอเรี่ยน ตูแว็ง - วาเลอรี่ แชร์กแมง

      มาร์โก โรเซ่ เทรนเนอร์ของ ซัลซ์บวร์ก เหลือรายชื่อลูกทีมเดี้ยงอีก 4 ราย ได้แก่ ปัตซง ดาก้า (4 นัด), ฮวาง ฮี ชาน (6 นัด / 3 ประตู), สเตฟาน สตานเกิ้ล (2 นัด) และ มาริน ปอนกราซิช (5 นัด) นั่นทำให้ โรเซ่ ต้องปรับ 11 ตัวจริงกันอีกครั้ง โดยเกมนี้จะต้องฝากความหวังในการผลิตสกอร์ไว้ที่ มูนัส แด็บบูร์ (11 นัด / 9 ประตู) ดาวยิงทีมชาติอิสราเอล

      มุสตาฟา อัคชาย นายใหญ่ของ คอนยาสปอร์ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน เลโบกัง มานยาม่า (4 นัด) กับ อับดุล ราซัค ตราโอเร่ (1 นัด) สองห้องเครื่องที่มีอาการเจ็บรบกวน ส่วนในรายของ อามีร์ ฮัดซิอาห์เมโตวิช มิดฟิลด์ชาวบอสเนียฯ ต้องรอทดสอบความฟิตก่อนเริ่มเกมอีกครั้ง แต่สำหรับ พาทริค เอเซ่ (4 นัด / 2 ประตู) พร้อมลงล่าตาข่ายแน่นอน

      เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เทรนเนอร์ของ เซลติก จะไร้เงาของ โจโซ ซิมูโนวิช (5 นัด) กับ แอนโธนี่ รัลส์ตัน (3 นัด) ที่ยังต้องใช้บริการของโรงพยาบาลอยู่ เชื่อว่า "บีร็อดจ์" ไม่น่าจะมีการปรับ 11 ตัวจริงอะไรมากนัก น่าจะเป็นตัวหลักเดิมๆ อย่าง สก็อต ซินแคลร์ (8 นัด / 3 ประตู), ทอม โรกิช (7 นัด / 2 ประตู) และ เลจ กริฟฟิธส์ (8 นัด / 3 ประตู) ลงเล่นเหมือนเก่า

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
เซลติก (4-2-3-1) : เคร็ก กอร์ดอน - มิคาเอล ลุสติก, เนอร์ บิตตัน, เดดริค โบยาต้า, คีแรน เทียร์นี่ย์ - สก็อต บราวน์, จูลส์ ชาม - แพทริค โรเบิร์ตส์, สก็อต ซินแคลร์, ทอม โรกิช - เลจ กริฟฟิธส์

      จุ๊ป ไฮย์เกส เฮ้ดโค้ชของ บาเยิร์น จะไม่มีชื่อของ มานูเอล นอยเออร์ (3 นัด), ฆวน เบร์นาต, ฆาบี มาร์ติเนซ (4 นัด) และ ฟร้องค์ ริเบรี่ (6 นัด) ที่มีอาการเจ็บรบกวน คาดว่า ไฮย์เกส น่าจะเรียกใช้บริการของ คิงส์ลี่ย์ โกม็อง (8 นัด / 1 ประตู) ลงประสานงานร่วมกับแนวรุกอีก 2 คน อย่าง อาร์เยน ร็อบเบน (7 นัด / 2 ประตู) และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (8 นัด / 9 ประตู)

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
บาเยิร์น (4-3-3) : สเวน อุลไรช์ - โจชัว กิมมิค, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, เจอโรม บัวเต็ง, ดาวิด อลาบา - เซบาสเตียน รูดี้, ธิอาโก้ อัลกานตาร่า, โธมัส มุลเลอร์ - อาร์เยน ร็อบเบน, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, คิงส์ลี่ย์ โกม็อง

      อูไน เอเมรี่ กุนซือของ เปแอสเช จะไร้เงาของ ธิอาโก้ ซิลวา (5 นัด) ปราการหลังกัปตันทีมที่โดนอาการบาดเจ็บเล่นงาน ส่วนในรายของ ธิอาโก้ ม็อตต้า (7 นัด / 1 ประตู), เอดิสัน คาวานี่ (8 นัด / 8 ประตู) และ เลย์แว็ง คูร์ซาว่า (5 นัด / 1 ประตู) ต้องรอเช็คฟิตก่อนเริ่มเกมกันอีกครั้ง แต่เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร คงจะลงเล่นได้

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เปแอสเช (4-3-3) : อัลโฟนเซ อเรโอลา - ดานี่ อัลเวส, เปรสเนล คิมเป็มเบ้, มาร์ควินญอส, เลย์แว็ง คูร์ซาว่า - อาเดรียน ราบิโอต์, มาร์โก แวร์รัตติ, ธิอาโก้ มอตตา - เนย์มาร์, เอดินสัน คาวานี่, คีเลียน เอ็มบัปเป้

      นิโกลัส ฟรูตอส เทรนเนอร์ของ อันเดอร์เลชท์ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน แอนดี้ นายาร์ (1 นัด), อูโร สปายิช (8 นัด / 1 ประตู) และ เอ็มมานูเอล โซวาห์ (1 นัด) ที่ยังต้องพักรักษาตัวอยู่ คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง จะต่างจากเกมเเชมเปี้ยนส์ ลีก นัดล่าสุด แค่ตำแหน่งของ สปายิช ซึ่งจะเป็น คาร่า เอ็มโบดี้จ์ (7 นัด) ที่มารับสัมปทานแทน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
อันเดอร์เลชท์ (5-3-2) : ฟร้องค์ โบเย็กซ์ - อเล็กซานดรู ชิปซิอู, คาร่า เอ็มโบดี้จ์, เลอันแดร์ เดนดองเก้ร์, โอลิวิเย่ร์ เดส์ชัคท์, เดนนิส อัปเปียห์ - อาเดรียน เตรอแบล, โซฟิยาน ฮานนี่, ปีเตอร์ แกร์เคนส์ - ลูคัส ตีโอดอร์เซียค, เฮนรี่ ออนเยกูรู

      โบซิดาร์ บันโดวิช เฮ้ดโค้ชของ บุรีรัมย์ฯ จะหมดสิทธิ์ใช้บริการของ ดิโอโก หลุยส์ ซานโต (25 นัด / 21 ประตู) ที่จะติดโทษห้ามแข่ง ทำให้ บันโดวิช ต้องปรับทัพด้วยการเรียกตัว ราฟาเอล บาสโต๊ส (9 นัด / 4 ประตู) มาลงล่าตาข่ายคู่กับ ชาช่า โคเอลโญ่ (30 นัด / 31 ประตู) ส่วนขุมกำลังที่เหลือก็ไม่มีปัญหาอะไร พร้อมลงรับใช้ต้นสังกัดกันทุกคน

      อเล็กซานเดร กาม่า กุนซือของ เชียงรายฯ จะไม่มีชื่อของ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ (22 นัด / 1 ประตู) และ ราฟาเอล โคเอลโญ่ (26 นัด / 11 ประตู) ที่ยังเดี้ยงไม่หาย ส่วนในรายของ ประทุม ชูทอง (20 นัด / 1 ประตู) ต้องรอเช็คความฟิตกันอีกครั้ง แต่ตัวหลักคนอื่นๆ ยังอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา นำทีมมาโดย "วากาบายาชิเมืองไทย" อย่าง นนท์ ม่วงงาม (7 นัด)

      อังเดร วิญาส-โบอาส นายใหญ่ของ เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี ก็เตรียมขนผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงบู๊เช่นกัน เนื่องจากไม่มีรายงานความเสียหายเรื่องสภาพทีมเข้ามา เชื่อว่า วิญาส-โบอาส จะส่ง "อาวุธหนัก" อย่าง ออสการ์ (19 นัด / 2 ประตู), ฮัลค์ (24 นัด / 13 ประตู) และ เอลเคสัน (17 นัด / 11 ประตู) ลงเล่นตั้งแต่นาทีแรกของเกมอย่างแน่นอน

      ทาคาฟุมิ โฮริ เฮ้ดโค้ชของ อุราวะ เร้ด ไดมอนด์ส ไม่มีปัญหาใดให้ต้องกังวลในการจัดทัพ เพราะนักเตะตัวหลักทั้งหมดฟิตสมบูรณ์กันดี คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในเกมนี้ ไม่น่าจะต่างไปจากเกมนัดก่อนที่บุกไปเสมอ 1-1 ที่แผ่นดินจีน นำทีมมาโดย โยซุเกะ คาชิวากิ (22 นัด / 5 ประตู) กองกลางตัวเก่งผู้ซัดประตูสำคัญในเกมดังกล่าว

      ริชาร์ด เวลเลนส์ ผู้จัดการทีมของ โอลด์แฮม จะไร้เงาของ ไรอัน ฟลินน์ (1 นัด), พอล กรีน (1 นัด) และ ไรอัน แม็คลาฟลิน (7 นัด / 1 ประตู) ที่ยังต้องพักรักษาตัวอยู่ ส่วนในรายของ คอร์ทนี่ย์ ดัฟฟัส (3 นัด) ต้องรอทดสอบความฟิตก่อนเริ่มเกมอีกครั้งหนึ่ง แต่ข่าวดีคือ โอเว่น ดอยล์ (7 นัด / 6 ประตู) ดาวซัลโวประจำทีม พร้อมลุยอยู่แล้ว

      สจ๊วร์ต แม็คคอลล์ กุนซือของ แบร็ดฟอร์ด จะไม่มีชื่อของ โทนี่ แม็คมาน (12 นัด / 1 ประตู) กับ รูเวน ซัตเตลไมเออร์ ที่มีอาการเจ็บรบกวน ส่วนในรายของ เชย์ แม็คคาร์แทน (4 นัด / 1 ประตู) แนวรุกวัย 23 ปี ต้องรอเช็คฟิตกันอีกครั้ง แต่สำหรับ โดมินิค โปเลอน (13 นัด / 3 ประตู) ฟิตเต็มสูบ พร้อมลงล่าตาข่ายได้อย่างแน่นอน

      ลี คล้าร์ค กุนซือของ บิวรี่ มีรายชื่อลูกทีมบาดเจ็บ 5 ราย ได้แก่ โจ เมอร์ฟี่ย์ (9 นัด), นาธาน คาเมรอน (5 นัด / 1 ประตู), เคร็ก โจนส์ (3 นัด), แดนนี เมยอร์ และ สตีเฟน ดอว์สัน (1 นัด) นั่นทำให้ คล้าร์ค น่าจะต้องใช้ 11 ตัวจริงชุดเดิมต่อไป โดยจะมี เจอร์มัน เบ็คฟอร์ด (11 นัด / 7 ประตู) เป็นตัวความหวังในการพังประตู

      แกรี่ โบว์เยอร์ เฮ้ดโค้ชของ แบล็คพูล จะหมดสิทธิ์ใช้งาน มาร์ค คัลเลน (3 นัด) และ จิม แม็คอัสลิสเตอร์ ที่ยังเดี้ยงไม่หาย ส่วนในรายของ อาร์ม็องด์ จีน็องดูอิลเล่ต์ (3 นัด) ต้องรอเช็คความฟิตก่อนลงสนามอีกครั้ง แต่ที่วืดแน่ๆ อีกคน คือ โคลิน ดาเนี่ยล (12 นัด / 2 ประตู) กองกลางตัวเก่งของทีม เพราะจะติดโทษห้ามแข่ง