วิเคราะห์บอล / วิเคราะห์บอลวันนี้

      โรแบร์โต้ มันชินี่ เฮ้ดโค้ชของ เซนิตฯ จะไร้เงาของ 3 มิดฟิลด์อย่าง เลอันโดร ปาเรเดส (9 นัด / 1 ประตู), โอเล็ก ชาตอฟ (8 นัด) และ วิคตอร์ ฟายซูลิน ที่มีปัญหาโรคเดี้ยงเล่นงาน นั่นทำให้ "มันโช่" ต้องปรับเปลี่ยน 11 ตัวจริงพอสมควร แต่สำหรับในเกมรุกน่าจะยังมีชื่อของ อเล็กซานเดอร์ โคโคริน (9 นัด / 6 ประตู) หัวหอกตัวเก่งลงผลิตสกอร์ในแดนหน้า

      โกเซ่ เซ็ดโลสกี้ กุนซือของ วาร์ดาร์ จะเหลือแค่ เอฟเกนี่ โนวัค (2 นัด) ปราการหลังชาวยูเครนคนเดียวเท่านั้น ที่ยังต้องใช้บริการของโรงพยาบาลอยู่ ส่วนกำลังรบที่เหลือพร้อมลุยกันทั้งหมดทุกคน คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในเกมนี้ จะนำทีมมาโดย ติกราน บาร์เซ็กห์ยาน (2 นัด / 1 ประตู) ดาวเตะทีมชาติอาร์เมเนีย ซึ่งเป็นตัวความหวังประจำทีม

      มุสตาฟา อัคชาย นายใหญ่ของ คอนยาสปอร์ ไม่มีรายงานผู้เล่นเดี้ยงหรือติดโทษห้ามแข่งแต่อย่างใด ทำให้สามารถเลือกสรรปรับแต่งทีมได้ตามสะดวก เชื่อว่า โฉมหน้าของ 11 ขุนพลในเกมนี้ น่าจะเป็นชุดที่ใช้งานอยู่ปัจจุบันในเกมลีก นำทีมมาโดย เฟราห์ต ออซโตรุน (4 นัด), มูซ่า อรัซ (4 นัด / 2 ประตู) และ เดนี่ มิโลเชวิช (4 นัด)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
คอนยาสปอร์ (4-5-1) : เซอร์คาน คิรินทิลี่ - เฟราห์ต ออซโตรุน, เปตาร์ ฟิลิโปวิช, วิลเฟรด โมเก้, เนย์ก สคูบิช - เมห์ดี บูราเบีย, เยนส์ ยอนส์สัน, โอเมอร์ อาลี ซาฮิเนอร์, มูซ่า อรัซ , อิโมห์ เอเซเกล - เดนี่ มิโลเชวิช

      รูดี้ การ์เซีย ผู้จัดการทีมของ มาร์กเซย จะอดใช้บริการของ คอสตาส มิโตกลู ดาวยิงป้ายแดงชาวกรีซ เนื่องจากมีอาการเจ็บหลังรบกวน แต่ การ์เซีย ก็จัดเตรียม "อาวุธหนัก" คนอื่นๆ ให้พร้อมลงสนามกันทั้งหมดทุกคน ไม่ว่าจะเป็น อาดิล รามี (4 นัด), ปาทริซ เอวร่า (3 นัด), ดิมิทรี ปาเยด (2 นัด) รวมไปถึง วาเลอรี่ แชร์กแมง (5 นัด)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
มาร์กเซย (4-3-3) : สตีฟ ม็องด็องด้า - บูน่า ซาร์, อาดิล รามี, อายเมน อับเดนนูร์, ปาทริซ เอวร่า - เกรกอรี่ เซอร์ติช, มักซิม โลเปซ, มอร์แกน แซนซง - ฟลอเรี่ยน ตูแว็ง, วาเลอรี่ แชร์กแมง, ดิมิทรี ปาเยต์

      มาโนโล่ ฆิเมเนซ เฮ้ดโค้ชของ เออีเค เอเธนส์ มีลิสต์ลูกทีมเดี้ยงในมืออยู่ 4 ราย คือ ดมิโตร ชีกรินสกี้ย์ (2 นัด), วาซิลิออส บาร์คาส, จอร์จอส เจียคูมาคิส และ คอนสแตนตินอส ลัมโบรปูลอส ส่วนในรายของ มาร์โก้ ลิเวย่า (3 นัด) แนวรุกสัญชาติโครเอเชีย เตรียมพร้อมลงช่วยทีมได้อีกครั้ง หลังจากชดใช้โทษห้ามแข่งเรียบร้อยแล้ว

      มาตาซจ์ เก็ค เทรนเนอร์ของ ริเยก้า ไม่มีปัญหาใดในการจัดทัพ เพราะสภาพความพร้อมของทีมสมบูรณ์ดี 100% ทำให้สามารถจัดชุดที่ดีที่สุดลงบู๊ได้เลย นั่นหมายความว่า ดาริโอ ซูปาริช (6 นัด / 1 ประตู), ฟิลิป บราดาริช (6 นัด / 2 ประตู) และ มาริโอ กาฟราโนวิช (5 นัด / 3 ประตู) จะพาเหรดกันลงสนามมีชื่อเป็น 11 ตัวจริงในเกมค่ำคืนนี้

      มิโรสลาฟ ดูคิช กุนซือของ ปาร์ติซาน เบลเกรด มีรายงานความเสียหายเข้ามาที่แดนกลาง เพราะจะไม่มีสองตัวหลักอย่าง เนโบย่า โคโซวิช (4 นัด / 1 ประตู) กับ เซย์ดูบา ซูมาห์ (6 นัด / 1 ประตู) ที่โดนไข้เดี้ยงครอบงำ แต่แกนสำคัญคนอื่น ไม่ว่าจะเป็น เอเวอร์ตัน ลุยซ์ (3 นัด) หรือ ตาวัมบ้า คาน่า (7 นัด / 4 ประตู) รอประจำการรับใช้ต้นสังกัดอยู่นานแล้ว

      อาดิ ฮัตเตอร์ ผู้จัดการทีมของ ยัง บอยส์ จะหมดสิทธิ์ใช้บริการของ ลอริส เบนิโต้ (5 นัด), เลโอนาร์โด้ แบร์โตเน่ (5 นัด / 2 ประตู) และ ชิลโลเม่ โออาโร (5 นัด / 1 ประตู) ที่ยังต้องพักรักษาตัวอยู่ทั้งหมด แต่ยังโชคดีที่ ฌอง เอ็นซาเม่ (6 นัด / 4 ประตู) หัวหอกทีมชาติแคเมอรูนที่กำลังฟอร์มสด ร่างกายฟิตเต็มสูบ พร้อมลงล่าตาข่ายให้กับทีมอย่างแน่นอน

      อาเบล แฟร์ไรร่า นายใหญ่ของ สปอร์ติ้ง บราก้า มีรายชื่อนักเตะเจ็บในมืออยู่ 4 ราย ได้แก่ มาราโฟน่า, ริคาร์โด้ เเฟร์ไรร่า, เมาโร และ วิลสัน เอดูอาร์โด้ แต่คงไม่ใช่ปัญหาสำคัญนัก เพราะพวกเขาเหล่านี้เดี้ยงยาวมาสักพักแล้ว นั่นหมายความว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง ไม่น่าจะต่างจากชุดที่ใช้ในเกมลีก โดยจะมี เปาลินโญ่ (5 นัด) ลงเล่นในแนวรุก

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
สปอร์ติ้ง บราก้า (4-4-2) : มาเธอุส - ริคาร์โด้ เอสกาโย่, บรูโน่ เวียน่า, ราอูล ซิลวา, เชฟเฟอร์สัน - ริคาร์โด้ ฮอร์ต้า, ดานิโล่ บาร์โบซ่า, นิโคล่า วุคเซวิช, ซาดาส - โกก้า, เปาลินโญ่

      จูเลี่ยน นาเกิ้ลมันน์ เฮ้ดโค้ชของ ฮอฟเฟ่นไฮม์ จะไม่มีชื่อของ เซิร์จ จีนาบรี (1 นัด), อดัม ซาลาย (1 นัด) และ สเตฟาน พอช ที่โดนไข้เดี้ยงเล่นงาน ส่วนในรายของ เควิน โฟ้กท์ (2 นัด) กับ ซานโดร ว้ากเนอร์ (1 นัด) ต้องรอเช็คความฟิตกันอีกครั้ง คาดว่านัดนี้จะนำทีมมาโดย มาร์ก อูธ (3 นัด / 3 ประตู) ดาวยิงผู้ร้อนแรงสุดๆ ในช่วงเวลานี้

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮอฟเฟ่นไฮม์ (3-1-4-2) : โอลิเวอร์ เบามันน์ - เออร์มิน บิซัคซิช, ฮาเวิร์ด นอร์ดเวต, เบนจามิน ฮุบเนอร์ - เดนนิส ไกเกอร์ - พาเวล คาเดราเบค, เคเรม เดเมียร์บาย, นาเดียม อามิรี่, สตีเว่น ซูเบอร์ - มาร์ก อูธ, อันเดร ครามาริช

      อิลีร์ ดาย่า กุนซือของ สเคนเดอร์บู จะไร้เงาของ บาการี่ นิมาก้า (1 นัด) แนวรุกชาวมาลี เนื่องจากติดโทษห้ามแข่ง เพราะโดนไล่ออกมาจากนัดที่เสมอ ดินาโม ซาเกร็บ 0-0 แต่ก็เป็นเพียงรายเดียวที่ตกหล่นไป เชื่อว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในเกมนี้ ไม่น่าจะต่างจากรอบที่ผ่านมามากนัก โดยจะมี อาลี โซว์ (1 นัด) คอยล่าตาข่ายในแดนหน้า

      อเล็กซานเดอร์ คัตห์สเควิช เทรนเนอร์ของ ดินาโม เคียฟ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน โตมาสซ์ เค็ดซิโอร่า (4 นัด) แบ็คขวาชาวโปแลนด์ ที่มีอาการเจ็บรบกวน คาดว่า คัตห์สเควิช จะแก้ปัญหารูรั่วในแนวรับด้วยการโยก มายโคล่า โมรอซยุค (4 นัด) มายืนประจำการ แต่ในแนวรุกยังมี ดิวเมอร์ซี่ เอ็มโบกานี่ (5 นัด / 4 ประตู) ยืนเป็นศูนย์หน้าตัวเป้าได้เหมือนเดิม

      เซนอล กูเนส เฮ้ดโค้ชของ เบซิคตัส ต้องรอเช็คความฟิตของ โกคาห์น โกนุล กับ อาเดรียโน่ (1 นัด) สองแนวรับรุ่นเก๋าของทีม ก่อนลงสนามอีกครั้ง ว่ามีใครลงเล่นไหวหรือเปล่า ส่วนกำลังรบที่เหลือพร้อมลุยกันอยู่ตั้งนานแล้ว คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในเกมนี้ ไม่น่าจะต่างจากชุดใหญ่ในเกมลีก นำทีมมาโดย เซงค์ โตซุน (3 นัด / 1 ประตู) ดาวยิงทีมชาติตุรกี

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เบซิคตัส (4-2-3-1) : ฟาบรี - เนซิป อูซาล, เปเป้, ดุสก้า โทซิช, กาเนอร์ เอร์กิ้น - อติบา ฮัตชินสัน, โอกูซาน ออซยาคุป - ริคาร์โด้ กวาเรสม่า, อันแดร์สัน ตาลิสก้า, ไรอัน บาเบล - เซงค์ โตซุน

      แซร์โจ้ คอนไซเซา กุนซือของ ปอร์โต้ จะหมดสิทธิ์ใช้บริการของ มักซี่ เปไรร่า (1 นัด) และ แว็งซ็องต์ อาบูบาการ์ (5 นัด / 5 ประตู) สองกำลังสำคัญประจำทีม เนื่องจากติดโทษแบนด้วยกันทั้งคู่ ทำให้ คอนไซเซา ต้องปรับหมากด้วยการส่ง ริคาร์โด้ เปไรร่า (3 นัด) กับ ไตควินโญ่ โซอาเรส (2 นัด / 1 ประตู) ลงทำหน้าที่แทนในตำแหน่งแบ็คขวาและศูนย์หน้า 

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ปอร์โต้ (4-4-2) : อิเกร์ กาซิยาส - ริคาร์โด้ เปไรร่า, อิวาน มาร์กาโน่, เฟลิเป้, อเล็กซ์ เตเยส - เฆซุส โกโรน่า, โอลิเวอร์ ตอร์เรส, ดานิโล่, ยาซีน บราฮิมี่ - มูสซ่า เมเรก้า, ไตควินโญ่ โซอาเรส

      เจย์ ฮีปส์ เฮ้ดโค้ชของ นิว อิงแลนด์ รีโวลูชั่น จะขาดหายไปเพียงแค่ เคลิน โรว์ (22 นัด) ห้องเครื่องวัย 25 ปี คนเดียวเท่านั้น ที่มีอาการเจ็บเข่า ส่วนขุมกำลังที่เหลือพร้อมลุยกันทุกคน คาดว่า ฮีปส์ จะฝากความหวังในเกมรุกไว้ที่ ลี เหงียน (25 นัด / 9 ประตู) จอมทัพของทีมลูกครึ่งอเมริกัน-เวียดนาม ที่เพิ่งยิงประตูชัยในนัดที่ชนะ มอนเทรอัล อิมแพ็ค 1-0

      เกราโด้ มาร์ติโน่ เทรนเนอร์ของ แอตแลนต้า ยูไนเต็ด ยังไม่มี อเล็ค คานน์ (18 นัด) นายด่านหมายเลขหนึ่งเหมือนเดิม เพราะยังสลัดคราบเดี้ยงไม่ได้ ส่วนในรายของ เคนวีน โจนส์ (12 นัด / 2 ประตู) ศูนย์หน้าร่างยักษ์ ต้องรอเช็คฟิตก่อนเริ่มเกมอีกครั้ง แต่สำหรับดาวยิงตัวเก่งอย่าง โฆเซฟ มาร์ติเนซ (12 นัด / 10 ประตู) พร้อมลงช่วยทีมอย่างแน่นอน

      เลโอนาร์โด้ ยาร์ดิม เทรนเนอร์ของ โมนาโก งานเข้าซะเเล้ว เมื่อปีกตัวเก่งอย่าง โธมัส เลอมาร์ (5 นัด) โดนไข้เดี้ยงเล่นงาน คาดว่า ราชิด กีห์ซซาล (2 นัด) แนวรุกทีมชาติแอลจีเรีย จะลงทำหน้าที่แทน แต่กำลังรบที่เหลือยังอยู่กันครบครัน ทั้ง เจา มูตินโญ่ (5 นัด), ฟาบินโญ่ (5 นัด / 1 ประตู), ราดาเมล ฟัลเกา (5 นัด / 7 ประตู) และ สเตฟาน โยเวติช (1 นัด)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โมนาโก (4-4-2) : ดาเนียล ซูบาซิช - ฌิบริล ซิดิเบ้, คามิล กลิค, เชเมอร์สัน, ชอร์เก้ - โรนี่ โลเปซ, เจา มูตินโญ่, ฟาบินโญ่, ราชิด กีห์ซซาล - ราดาเมล ฟัลเกา, สเตฟาน โยเวติช

      ราล์ฟ ฮาเซ่นฮุตเทิ่ล เฮ้ดโค้ชของ ไลป์ซิก จะหมดสิทธิ์ใช้บริการของ ฟาบิโอ โคลตอร์ติ นายด่านจอมเก๋าวัย 36 ปี ที่มีอาการเจ็บรบกวน ส่วนในรายของ นาบี เกอิต้า (3 นัด / 1 ประตู) กับ มาร์วิน คอมป์เปอร์ ต้องรอเช็คความฟิตก่อนลงสนามอีกครั้ง แต่ที่แน่ๆ คือ ติโม แวร์เนอร์ (3 นัด / 3 ประตู) และ เอมิล ฟอร์สเบิร์ก (2 นัด) พร้อมลงสนามรับใช้ต้นสังกัดในนัดนี้

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไลป์ซิก (4-2-2-2) : ปีเตอร์ กาลัคซี่ - มาร์เซล ฮัลส์เท่นแบร์ก, อูปาเมกาโน่, วิลลี่ ออร์แบน, ลูคัส คลอสเตอร์มันน์ - เควิน คัมเพิ่ล, ดีเอโก้ เดม - นาบี เกอิต้า, เอมิล ฟอร์สเบิร์ก - ติโม แวร์เนอร์, ฌอง ออกุสติน

      โทรุ โอนิกิ เทรนเนอร์ของ คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ไม่มีปัญหาให้กังวลใจอะไรในการจัดทีม เพราะสภาพความพร้อมของลูกทีมทุกคนสมบูรณ์ 100% ทั้งหมด นั่นหมายความว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในเกมนี้จะเป็นชุดใหญ่เต็มสูบแน่นอน นำทีมมาโดย เอดูอาร์โด้ เนโต้ (24 นัด / 1 ประตู), เคนโกะ นากามูระ (23 นัด / 5 ประตู) และ ยู โคบายาชิ (25 นัด / 13 ประตู)

      ทาคาฟุมิ โฮริ ผู้จัดการทีมของ อุราวะ เร้ด ไดมอนด์ส จะไร้เงาของ ยูกิ มูโตะ (21 นัด / 5 ประตู) กองหน้าตัวเก่งที่ลงไปซัดประตูความหวังในเลกแรก เพราะจะติดโทษแบน หลังจากสะสมใบเหลืองครบโควต้าเเล้ว แต่กำลังสำคัญคนอื่นๆ ยังอยู่กันครบ ทั้ง ชินโซ โกโรกิ (25 นัด / 16 ประตู), ทาดานาริ ลี (20 นัด / 3 ประตู) และ ราฟาเอล ซิลวา (20 นัด / 9 ประตู)

      แฮร์รี่ เร้ดแน็ปป์ เฮ้ดโค้ชของ เบอร์มิงแฮม จะไร้เงาของ ไอแซค วาสเซลล์ (2 นัด) กับ คาร์ล เจนกินสัน (1 นัด) ที่ควงแขนกันเดี้ยง แต่กำลังรบที่เหลือพร้อมลุยอยู่นานแล้ว เชื่อว่า เร้ดแน็ปป์ ต้องมีการปรับ 11 ตัวจริงค่อนข้างแน่ เพราะผลงานไม่ดีเลย แต่สำหรับ ไมเคิ่ล มอร์ริสัน (6 นัด) คงต้องลงเล่นเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้กับทีมต่อไปอีกนัด

      โธมัส คริสเตียนเซ่น กุนซือของ ลีดส์ฯ หมดสิทธิ์ใช้บริการลูกทีม 3 ราย ได้แก่ คาเล็บ เอกูบาน (1 นัด), แมทธิว เพนนิงตัน (1 นัด) และ แกตาโน่ เบราร์ดี้ (1 นัด) เนื่องจากโดนอาการเจ็บเล่นงานอยู่ทั้งหมด คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในเกมนี้จะเป็นชุดเดียวกับที่เปิดบ้านชนะ เบอร์ตัน อัลเบี้ยน 5-0 เพราะทุกคนทำหน้าที่กันได้ดีเยี่ยมไร้ที่ติ

      ไนเจล คลัฟ กุนซือของ เบอร์ตัน อัลเบี้ยน จะไม่มีชื่อของ เลียม บอยซ์ หัวหอกทีมชาติไอร์แลนด์เหนือ ในเกมนี้ เพราะเดี้ยงยาวอยู่ยังไม่หาย ส่วนในรายของ โฮป อัคปาน (3 นัด) กองกลางเชื่อสายไนจีเรีย ต้องรอเช็คความฟิตก่อนลงสนามอีกครั้ง แต่สำหรับ มาร์วิน ซอร์เดลล์ (6 นัด / 1 ประตู) ศูนย์หน้าวัย 26 ปี พร้อมกลับมาทวงตำแหน่งตัวจริงคืนในเกมนี้

      ดาเนี่ยล ฟาร์เก้ นายใหญ่ของ นอริช มีรายงานเรื่องนักเตะเจ็บเซ็ตเดิมเข้ามา คือ แม็ตต์ จาร์วิส, จามาล ลิวอิส, หลุยส์ ธอมป์สัน และ อเล็กซ์ พริตชาร์ด นั่นหมายความว่า ฟาร์เก้ ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนทีมจากนัดที่เปิดบ้านชนะ เบอร์มิงแฮม 1-0 ทำให้เนลสัน โอลิเวียร่า (6 นัด / 4 ประตู) ผู้ซัดประตูชัยในเกมดังกล่าว จะได้ลงล่าตาข่ายให้กับทีมเหมือนเดิม

      แกรี่ มังค์ ผู้จัดการทีมของ มิดเดิ้ลสโบรช์ จะไม่มีชื่อของ รูดี้ เกสเตด (5 นัด / 1 ประตู) และ มาร์ติน เบร็ธไวท์ (1 นัด) สองตัวรุกกำลังสำคัญ เพราะต้องพักรักษาตัวอยู่ แต่คงไม่ส่งผลอะไรในการจัดทีมมากนัก เพราะ มังค์ เตรียมยึด 11 ขุนพลชุดที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน ลงบู๊กันต่อ นำทีมมาโดย บริตต์ อัสซ็อมบาลองก้า (6 นัด / 4 ประตู) ที่กำลังฮ็อต

      สตีฟ บรูซ เทรนเนอร์ของ แอสตัน วิลล่า งานเข้าไม่น้อย เมื่อมีรายชื่อลูกทีมบาดเจ็บยาวเป็นหางว่าว ไล่มาตั้งแต่ โจชัว โอโนมาห์ (6 นัด / 1 ประตู), อันเดร กรีน (5 นัด / 1 ประตู), ไคแนน เดวิส (3 นัด), แจ็ค เกรียลิช และ รูเชียน เฮ็ปเบิร์น-เมอร์ฟี่ ส่วนในรายของ โจนาธาน โคเฌีย หัวหอกทีมชาติไอวอรี่ โคสต์ ต้องรอประเมินความฟิตกันอีกครั้ง

      อูไน เอเมรี่ เฮ้ดโค้ชของ เปแอสเช จะหมดสิทธิ์ใช้งาน อังเกล ดิ มาเรีย (4 นัด) กับ ฮาเบียร์ ปาสตอเร่ (4 นัด / 2 ประตู) สองสตาร์ชาวอาร์เจนไตน์ เนื่องจากยังต้องใช้บริการของโรงพยาบาลอยู่ แต่ขุมกำลังที่เหลือฟิตเต็มสูบกันทั้งหมด คาดว่า เอเมรี่ จะขน "อาวุธหนัก" ลงเต็มอัตราศึกแน่ๆ นำทีมมาโดย เนย์มาร์ (4 นัด / 4 ประตู) ศูนย์หน้าค่าตัวสถิติโลก

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เปแอสเช (4-3-3) : อัลโฟนเซ อเรโอลา - ดานี่ อัลเวส, ธิอาโก้ ซิลวา, มาร์ควินญอส, เลย์แว็ง คูร์ซาว่า - อาเดรียน ราบิโอต์, มาร์โก แวร์รัตติ, ติอาโก้ มอตตา - เนย์มาร์, เอดินสัน คาวานี่, คีเลียน เอ็มบัปเป้

      เบรนแดน ร็อดเจอร์ส นายใหญ่ของ เซลติก ยังไม่มีชื่อของ เดเร็ค โบยาต้า และ เอริค สเวียตเชนโก้ สองแนวรับประจำทีมเหมือนเดิม เพราะอาการบาดเจ็บยังไม่ดีขึ้น ส่วนในรายของ มุสซ่า เดมเบเล่ กองหน้าตัวเก่ง ต้องรอเช็คความฟิตก่อนลงสนามอีกครั้ง แต่สำหรับ เลจ์ กริฟฟิธส์ (4 นัด / 2 ประตู) พร้อมกลับมาลงเล่นเป็นตัวจริงรับใช้ต้นสังกัดได้แล้ว

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
เซลติก (4-2-3-1) : เคร็ก กอร์ดอน - มิคาเอล ลุสติก, เนอร์ บิตตัน, โจโซ ซิมูโนวิช, คีแรน เทียร์นี่ย์ - สก็อต บราวน์, ฌูลส์ ชอม - เจมส์ ฟอร์เรสต์, แพทริค โรเบิร์ตส์, สก็อต ซินแคลร์ - เลจ กริฟฟิธส์

      นีล วอร์น็อค กุนซือของ คาร์ดิฟฟ์ ยิ้มสบายใจได้ก่อนเกมเลย เพราะไม่มีรายงานความเสียหายเรื่องสภาพทีมเข้ามา แต่เกมนี้อาจจะมีการพักผู้เล่นตัวหลักบ้าง เพราะลงเตะติดต่อกันหลายนัดแล้ว เชื่อว่า อารอน กุนนาร์สสัน (6 นัด) มิดฟิลด์ทีมชาติไอซ์แลนด์ น่าจะได้รับโอกาสนั้น ส่วนในเกมบุก ลี ทอมลิน (2 นัด) น่าจะได้ลงสนามวาดลวดลายกับเค้าบ้างในนัดนี้

      อเล็ก นีล เทรนเนอร์ของ เปรสตันฯ มีเรื่องให้คิดซะเเล้วในแนวรับ เพราะจะไร้เงาของ เบน เพียร์สัน (4 นัด) ปราการหลังตัวสำคัญ ซึ่งโดนพิษไข้เดี้ยงเล่นงาน ส่วนในรายของ แดเนี่ยล จอห์นสัน (5 นัด / 1 ประตู) กองหลังกำลังหลักอีกคน ต้องรอเช็คความฟิตก่อนลงสนามอีกครั้ง แต่โชคดีที่แนวรุกยังใช้บริการของ จอร์แดน ฮูกิล (6 นัด / 1 ประตู) ได้ดังเดิม

      เรเน่ ไวเลอร์ เทรนเนอร์ของ อันเดอร์เลชท์ ไม่มีปัญหาใดในการจัดทัพ เพราะลูกทีมทุกคนฟิตกันสมบูรณ์ดี นั่นหมายความว่า ไวเลอร์ สามารถก็อปปี้ 11 ตัวจริงจากเกมลีกที่เปิดบ้านชนะ โลเคอเรน 3-2 เมื่อสามวันก่อน มาใช้บริการต่อได้เลย นำทีมมาโดย โอลิวิเย่ร์ เดส์ชัคท์ (1 นัด), เลอันแดร์ เดนดองเก้ร์ (5 นัด) และ ลูกัส ธีโอดอร์ซิค (6 นัด / 2 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
อันเดอร์เลชท์ (4-2-3-1) : ฟร้องค์ โบเย็กซ์ - แอนดี้ นายาร์, อูโร สปายิช, โอลิวิเย่ร์ เดส์ชัคท์, อีวาน โอบราโดวิช - อาเดรียน เตรอแบล, เลอันแดร์ เดนดองเก้ร์ - มัสซิโม่ บรูโน่, โซฟิยาน ฮานนี่, อองรี ออนเยกูรู - ลูกัส ธีโอดอร์ซิค

      คาร์โล อันเชล็อตติ เฮ้ดโค้ชของ บาเยิร์น จะหมดสิทธิ์ใช้งาน ฆวน เบร์นาต และ ดาวิด อลาบา (2 นัด) สองแบ็คซ้ายตัวสำคัญเหมือนเดิม เนื่องจากยังสลัดคราบเดี้ยงไม่ได้ ทำให้ ราฟินญ่า (2 นัด) ต้องรับสัมปทานในตำแหน่งนี้ต่อไปอีกนัด ส่วนในรายของ อาร์ตูโร่ วิดัล (2 นัด) กองกลางตัวแกร่งทีมชาติชิลี จะอดบู๊เช่นกัน เพราะติดโทษห้ามแข่ง

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
บาเยิร์น (4-2-3-1) : มานูเอล นอยเออร์ - โจชัว กิมมิค, ฆาบี มาร์ติเนซ, มัทส์ ฮุมเมิ่ล, ราฟินญ่า - เซบาสเตียน รูดี้, โกร็องแต็ง โตลิสโซ่ - อาร์เยน ร๊อบเบน, ธิอาโก้ อัลกานตาร่า, ฟร้องค์ ริเบรี่ - โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

      ฮันเนส โวล์ฟ เทรนเนอร์ของ สตุ๊ตการ์ต มีรายงานความเสียหายเรื่องลูกทีมเดี้ยงเข้ามา 4 ราย ได้แก่ โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์ (2 นัด / 1 ประตู), เอมิเลียโน่ อินซัว, การ์ลอส มาเน่ และ มัทเธียส ซิมเมอร์มันน์ (2 นัด) นั่นทำให้ โวล์ฟ ต้องปรับแก้แนวรับเป็นการด่วน ด้วยการหุบ เบนจามิน ปาวาร์ (2 นัด) มายืนกองหลังตัวกลาง และส่ง อันเดรียส เบ็ค ลงเล่นเป็นวิงแบ็คทางฝั่งขวา

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
สตุ๊ตการ์ต (3-2-2-2-1) : รอน โรเบิร์ต ซีเลอร์ - เบนจามิน ปาวาร์, ติโม บอย์มการ์ตเทิ่ล, มาร์ซิน คามินสกี้ - อันเดรียส เบ็ค, เดนนิส อาโอโก้ - คริสเตียน เกนท์เนอร์, โอเรล ม็องกาล่า - ชาดรัค อาโกโล่, โจซิป เบรคาโล่ - ไซม่อน เทร็อดด์

      โดเมนิโก้ เทเดสโก้ เฮ้ดโค้ชของ ชาลเก้ ไม่มีปัญหาใดในการจัดทัพค่ำคืนนี้ เนื่องจากสภาพความพร้อมของลูกทีมทุกคนสมบูรณ์ 100% สามารถเลือกสรรได้ตามใจชอบ คาดว่า เทเดสโก้ จะมีการปรับ 11 ขุนพลแค่จุดเดียวตรงที่จะส่ง กุยโด บวร์กสตอลเลอร์ (1 นัด) ลงมายืนเป็นศูนย์หน้าตัวจริง และให้ ฟรังโก้ ดิ ซานโต้ (2 นัด) ไปนั่งรอโอกาสบนม้านั่งสำรอง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ชาลเก้ (3-3-1-2-1) : ราล์ฟ ฟาห์รมันน์ - ธีโล่ เคห์เรอร์, นัลโด้, มาติยา นาสตาซิช - ดาเนี่ยล คาลิกูรี่, นาบิล เบนตาเลบ, บาสเตียน อ๊อกซิปก้า - เลออน โกเร็ตส์ก้า - อามีน ฮาริต, เยฟเกนี่ โคโนพิลยานก้า - กุยโด บวร์กสตอลเลอร์

      อเล็กซานเดอร์ นูรี เฮ้ดโค้ชของ เบรเมน ยังไร้เงาของ นิโคลัส มอยซานเดอร์ กับ ซลัตโก้ ยูนูโซวิช ที่ต้องใช้บริการของโรงพยาบาลอยู่เหมือนเดิม ส่วนในรายของ จาง หยูหนิง เพิ่งกลับมาจากภารกิจในการรับใช้ทีมชาติจีน น่าจะยังไม่ฟิตพอ แต่กำลังหลักอย่าง เกเบร เซลาสซี่ (2 นัด), มักซ์ ครูเซ่ (2 นัด) และ ฟิน บาร์เทิ่ลส์ (2 นัด) พร้อมลุยแน่นอน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เบรเมน (3-3-2-2) : ยีรี พาฟเลนก้า - โรเบิร์ต บอยเออร์, ลูโดวิช ซาเน่, มิลอส เวลโกวิช - เกเบร เซลาสซี่, มักซิมิเลี่ยน เอ็กเก้สไตน์, ลุดวิก ออกุสตินส์สัน - เจอโรม กอนดอร์ฟ, โธมัส เดอลานี่ย์ - มักซ์ ครูเซ่, ฟิน บาร์เทิ่ลส์

      พาล ดาร์ได ผู้จัดการทีมของ แฮร์ธ่าฯ มีรายชื่อนักเตะเจ็บในมือ 5 คน คือ โจนาธาน คลิ้นส์มันน์, จูเลียส คาเด้, วาเลนติโน่ ลาซาโร่, จูเลี่ยน ชีเบอร์ และ ดาวี เซลเก้ คาดว่าเกมนี้ ดาร์ได จะปรับระบบการเล่นใหม่ด้วยการส่ง อเล็กซานเดอร์ เอสไวน์ (2 นัด) ลงยืนเป็นกองหน้าตัวที่ 2 และถอด เพอร์ สเคลเบร็ด (2 นัด) ออกไปนั่งดูเพื่อนข้างสนามแทน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แฮร์ธ่าฯ (4-2-2-2) : รูเน่ ยาร์สไตน์ - มิตเชล ไวเซอร์, เซบาสเตียน ลังก์คัมป์, คาริม เรกิ๊ก, มาร์วิน แพล็ตเท่นฮาร์ด - นิคลาส สตาร์ค, วลาดิเมียร์ ดาริด้า - แมทธิว เล็กกี้, โซโลม็อง กาลู - อเล็กซานเดอร์ เอสไวน์, เวดัด อิบิเซวิช

      เยนส์ เคลเลอร์ กุนซือของ ยูนิโอน เบอร์ลิน จะหมดสิทธิ์ใช้งาน มาร์ก ตอร์เรฆอน (4 นัด) และ เคนนี่ เรดอนโด้ (2 นัด) ที่เดี้ยงไม่หายสักที ส่วนในรายของ กริสชา โพรเมล (1 นัด) ห้องเครื่องดาวรุ่ง ยังติดโทษห้ามแข่งอยู่ เชื่อว่าเกมนี้จะมีชื่อของ โทนี่ ไลส์เนอร์ (3 นัด), สเตฟาน เฟิร์สท์เนอร์ (3 นัด) และ อาคาคิ กอก้า (1 นัด) ออกสตาร์ทเป็น 11 ตัวจริงค่อนข้างแน่

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ยูนิโอน เบอร์ลิน (4-1-2-3) : ยาค็อบ บุสค์ เยนเซ่น - คริสโตเฟอร์ ทริมเมิ่ล, โทนี่ ไลส์เนอร์, ฟาเบียน ชอนไฮม์, คริสเตียน พีเดอร์เซ่น - สเตฟาน เฟิร์สท์เนอร์ - ดาเมียร์ ไครลัค, เฟลิกซ์ โครส - อาคาคิ กอก้า, เซบาสเตียน โพลเตอร์, ไซม่อน เฮดลุนด์

      ฟรีดเฮล์ม ฟุงเคิ่ล เฮ้ดโค้ชของ ดุสเซลดอร์ฟ จะไม่มีชื่อของ มิชาเอล เรนซิ่ง (3 นัด) ผู้รักษาประตูมือหนึ่งของทีม เนื่องจากอาการเจ็บยังไม่ดีขึ้น ทำให้ ราฟาเอล โวล์ฟ จะได้ลงเฝ้าเสาต่อ คาดว่า ฟุงเคิ่ล จะเปลี่ยนคู่กองหน้ามาเป็น ฮาวาร์ด นีลเซ่น (1 นัด) กับ รูเวน เฮนนิ่งส์ (4 นัด / 2 ประตู) และส่ง โอลิเวอร์ ฟิงค์ (2 นัด) ลงไปคุมเกมแทน อดัม บ็อดเซค (4 นัด)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ดุสเซลดอร์ฟ (3-1-4-2) : ราฟาเอล โวล์ฟ - คาน อายฮาน, อันเดร ฮอฟมันน์, นิโก้ กีเซลมันน์ - มาร์เซล โซบ็อตต์ก้า - ฌอง ซิมเมอร์, โอลิเวอร์ ฟิงค์, ฟลอเรียน นอยเฮาส์, ลูคัส ชมิตซ์ - ฮาวาร์ด นีลเซ่น, รูเวน เฮนนิ่งส์

      เคนาน โคซัค เทรนเนอร์ของ ซานด์เฮาเซ่น มีรายงานความเสียหายเข้ามาเรื่องโรคเดี้ยงเข้ามา 5 ราย ได้แก่ ริค วุลเล่, มาร์เซล ซีเกิร์ท (2 นัด), มีร์โก บอร์น, โรเบิร์ต เฮอร์มันน์ และ สเตฟาน คูโลวิตส์ (3 นัด) เชื่อว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในเกมนี้จะต่างจากนัดที่เปิดบ้านแพ้ ดุสเซลดอร์ฟ 1-2 เพียงตำแหน่งเดียวคือ ฮาจิ ไรท์ (2 นัด / 1 ประตู) จะได้ลงเล่นตั้งแต่นาทีแรก

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ซานด์เฮาเซ่น (3-2-2-1-2) : มาร์เซล ชูเฮน - ทิม คิสเตอร์, ทิม คนิปปิ้ง, มาร์คุส คาร์ล - ฟิลิปป์ คลิงมันน์, ลาร์ต ปาการาด้า - เดนิส ลินส์เมเยอร์, เอรอลล์ เซจ์นุลลาฮู - เนจ์เมดดิน ดักห์ฟูส - ฮาจิ ไรท์, ลูคัส โฮเลอร์

      ทอร์สเท่น ลีเบิร์คเน็ชท์ กุนซือของ บราวน์ชไวก์ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน พาทริค ชอนเฟลด์ และ จูเลียส เบียด้า (2 นัด) เพราะโดนอาการเจ็บเล่นงาน คาดว่าเกมนี้ ลีเบิร์คเน็ชท์ จะปรับทัพในหลายตำแหน่งเพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับทีม โดยจะส่ง มักซิมิเลี่ยน ซอยเออร์ (1 นัด), ออซคาน ยิลดิริม และ คริสตอฟเฟอร์ นีมัน (3 นัด / 1 ประตู) ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงโชว์ของบ้าง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
บราวน์ชไวก์ (4-2-3-1) : ยัสมิน เฟย์ซิช - มักซิมิเลี่ยน ซอยเออร์, โยเซฟ บัฟโฟ่, กุสตัฟ วัลสวิค, เคน ไรเชิ่ล - เมียร์โก โบลันด์, ลูอิส แซมซัน - ซาลิม เคห์ลิฟี, ออซคาน ยิลดิริม, โอเนล เฮอร์นานเดซ - คริสตอฟเฟอร์ นีมัน

      อิสมาอิล อตาลัน เฮ้ดโค้ชของ โบคุ่ม เหลือรายชื่อนักเตะบาดเจ็บอีก 5 ราย ได้แก่ มานูเอล ไรมันน์ (4 นัด), ยานนิค บานดอว์สกี้ (2 นัด / 1 ประตู), ติโม เพอร์เธิ่ล, โธมัส ไอส์เฟลด์ (4 นัด) และ วิตาลี่ ยาเนลท์ (1 นัด) ทำให้ อตาลัน ต้องแก้ปัญหาในหลายตำแหน่ง โดยผู้เล่นอย่าง เฟลิกซ์ ดอร์นบุช, อเล็กซานเดอร์ เมอร์เคล (1 นัด) และ ซิดนี่ย์ แซม จะได้โอกาสลงเล่นเป็นตัวจริง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โบคุ่ม (4-3-3) : เฟลิกซ์ ดอร์นบุช - สเตฟาโน่ โคลอซซี่, ทิม ฮู้กลันด์, เฟลิกซ์ บาสเตียนส์, ดานิโล่ ซัวเรส - อเล็กซานเดอร์ เมอร์เคล, อองโตนี่ โรซิลล่า, เควิน สโตเกอร์ - ซิดนี่ย์ แซม, ลูคัส ฮินเตอร์เซียร์, โยฮันเนส วูร์ตซ์

      ทอร์สเท่น ฟริ๊งส์ เทรนเนอร์ของ ดาร์มสตัดท์ จะเหลือเพียงแค่ ปีเตอร์ นีเมเยอร์ (1 นัด) กองกลางตัวเก๋าเท่านั้น ที่ยังเดี้ยงไม่หาย แต่คงไม่ได้สร้างความกังวลใจใดๆ ให้ ฟริ๊งส์ อีกแล้ว เพราะเตรียมขน 11 ขุนพลชุดปัจจุบันลงสู้ศึกต่อ แต่จะมีปรับนิดหน่อยตรงที่ ยานนิค สตาร์ค (2 นัด / 1 ประตู) จะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงแทนที่ วิลสัน คามาวูอาก้า (3 นัด / 1 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ดาร์มสตัดท์ (4-2-3-1) : ฮอยเออร์ แฟร์นันเดส - ซานโดร ซิริกู, อายทัก ซูลู, อิมมานูเอล ฮอห์น, ฟาเบียน ฮอลลันด์ - ยานนิค สตาร์ค, ฮามิต อัลตินท็อป - โทเบียส เคมพ์, มาร์วิน เมห์เลม, เควิน โกร๊สครอยซ์ - อาร์เทอร์ โซบีช

      อเล็กซานเดร กามา ผู้จดการทีมของ เชียงรายฯ จะไร้เงาของ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ (22 นัด / 1 ประตู) และ ประทุม ชูทอง (20 นัด / 1 ประตู) สองกำลังหลักของทีม ที่ยังสลัดโรคเดี้ยงไม่ได้ แต่ขุมกำลังที่เหลือฟิตเต็มสูบกันทั้งหมดทุกคน คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง จะนำทีมมาโดย นนท์ ม่วงงาม (3 นัด) และ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ (23 นัด / 3 ประตู)

      โบซิดาร์ บันโดวิช เฮ้ดโค้ชของ บุรีรัมย์ฯ จะหมดสิทธิ์ใช้บริการของ กรกช วิริยอุดมศิริ (19 นัด) แบ็คซ้ายตัวสำคัญที่โดนอาการเจ็บรบกวน ส่วนในรายของ จักรพันธ์ แก้วพรม (22 นัด / 3 ประตู), นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม (22 นัด) และ ดิโอโก หลุยส์ ซานโต (20 นัด / 16 ประตู) พร้อมกลับมารับใช้ต้นสังกัดได้แล้ว หลังจากที่ชดใช้โทษห้ามแข่งเรียบร้อย

      คาร์โล อันเชล็อตติ เทรนเนอร์ของ บาเยิร์น ไม่มีชื่อของ เจอโรม บัวเต็ง, ฆวน เบร์นาต และ ดาวิด อลาบา (2 นัด) เพราะยังสลัดอาการบาดเจ็บไม่ได้ นั่นทำให้ "อันเช่" ต้องแก้ปัญหาแบ็คซ้ายด้วยการโยก ราฟินญ่า (1 นัด) มาเล่น ส่วนอีก 10 ตำแหน่งที่เหลือไม่มีอะไรพลิกโผ โดย โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ (2 นัด / 3 ประตู) จะลงเป็นเพชรฆาตล่าประตูเหมือนเดิม

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
บาเยิร์น (4-2-3-1) : มานูเอล นอยเออร์ - โจชัว กิมมิค, นิคลาส ซูเล่, มัทส์ ฮุมเมิ่ล, ราฟินญ่า - เซบาสเตียน รูดี้, โกร็องแต็ง โตลิสโซ่ - อาร์เยน ร็อบเบน, โธมัส มุลเลอร์, ฟร้องค์ ริเบรี่ - โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

      จูเลี่ยน นาเกิ้ลมันน์ เฮ้ดโค้ชของ ฮอฟเฟ่นไฮม์ จะไร้เงาของ เซิร์จ จีนาบรี (1 นัด) กับ อดัม ซาลาย (1 นัด) สองแนวรุกตัวสำคัญ ที่โดนพิษไข้เดี้ยงเล่นงาน คาดว่านัดนี้ นาเกิ้ลมันน์ จะปรับระบบใหม่มาเป็นปราการหลัง 3 ตัว โดยจะส่ง ฮาเวิร์ด นอร์ดเวต (1 นัด) และ เควิน โฟ้กท์ (2 นัด) ลงเป็นตัวจริงแทนที่ เออร์มิน บิซัคซิช (1 นัด) กับ เจเรมี่ โตลยาน (2 นัด)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮอฟเฟ่นไฮม์ (3-2-1-2-2) : โอลิเวอร์ เบามันน์ - ฮาเวิร์ด นอร์ดเวต, เควิน โฟ้กท์, เบนจามิน ฮุบเนอร์ - พาเวล คาเดราเบค, สเตวาน ซูเบอร์ - เคเรม เดเมียร์บาย - นาเดียม อามิรี่, ลูคัส รุปป์ - มาร์ก อูธ, ซานโดร ว้ากเนอร์

      อันเดร ไบรเท่นไรเตอร์ ผู้จัดการทีมของ ฮันโนเวอร์ มีรายงานตัวเจ็บเซ็ตเดิมเข้ามา ได้แก่ มีโก อัลบอร์นอซ, อุฟเฟ่ เบ็ค, เอ็ดการ์ พริบ และ ซาเรนเซ่น บาเซ่ แต่คงไม่ส่งผลกระทบอะไรในการจัดทีมอีกแล้ว เพราะ ไบรเท่นไรเตอร์ เตรียมใช้บริการ 11 ขุนพลชุดเดิมต่อไปอีกนัด เนื่องจากทุกคนกำลังโชว์ผลงานในสนามกันได้อย่างยอดเยี่ยมอยู่แล้วนั่นเอง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮันโนเวอร์ (4-1-2-2-1) : ฟิลิปป์ ชอเนอร์ - จูเลี่ยน คอร์บ, ซาลิฟ ซาเน่, เฟลิเป้, มัทธีอัส ออสเตอร์โซเลค - แอนตัน - เพอร์มิน ชเว็กเลอร์, มาร์วิน บาคาลอร์ซ - เฟลิกซ์ เคล๊าส์, มาร์ติน ฮาร์นิค - นิคลาส ฟัลครู้ก

      อันดรีส ยองเคอร์ เฮ้ดโค้ชของ โวล์ฟสบวร์ก เหลือลูกทีมเดี้ยงอีกแค่ 2 คน คือ จอห์น บรู้คส์ กับ เจฟฟรี่ บรูม่า ส่วนขุมกำลังที่เหลือพร้อมให้เรียกใช้งานได้ทั้งหมด คาดว่า ยองเคอร์ จะเรียกใช้งาน 11 ขุนพลชุดเดียวกับที่บุกชนะ แฟร้งค์เฟิร์ต 1-0 โดยจะเปลี่ยนแค่ตำแหน่งเดียว ด้วยการส่ง ดิว๊อค โอริกี้ ลงเล่นแทน ลานดรี้ ดิมาตา (2นัด) เพื่อนร่วมชาติ

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โวล์ฟสบวร์ก (3-2-2-2-1) : โกเยนส์ กัสตีลส์ - มาร์เซล ติสเเซร์ร็อง, อิ๊กนาซิโอ กามาโช่, โรบิน น็อกเก้ - พอล เวอร์ฮาจ, ยานนิค แกร์ฮาร์ด - โฌซัว กุยลาโวกุย, มักซิมิเลี่ยน อาร์โนลด์ - ดิว๊อค โอริกี้, ดาเนี่ยล ดิดาวี - มาริโอ โกเมซ

      ไฮโค แฮร์ลิช นายใหญ่ของ เลเวอร์คูเซ่น จะหมดสิทธิ์ใช้บริการของ ติน เชดวาย, พานาจิโอติส เร็ตซอส, จูเลี่ยน บอมการ์ตลินเกอร์ และ โยเอล โปห์ยานปาโล ที่ยังเดี้ยงกันยกเซ็ต คาดว่า แฮร์ลิช เตรียมลุยต่อด้วยทีมชุดที่เปิดบ้านเสมอ ฮอฟเฟ่นไฮม์ 2-2 ในเกมลีกนัดล่าสุด โดยจะมี เควิน โฟลลันด์ (2 นัด) ดาวยิงทีมชาติเยอรมันยืนเป็นหน้าตัวเป้า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เลเวอร์คูเซ่น (3-4-2-1) : แบร์นด์ เลโน่ - โจนาธาน ตาห์, สเวน เบนเดอร์, เบนจามิน เฮนริช - อั๊ดเมียร์ เมห์เมดี้, โดมินิค คอห์ร, ชาร์ล อรานกุซ, เวนเดล - คาริม เบลลาราบี, จูเลี่ยน บรันด์ - เควิน โฟลลันด์

      ซานโดร ชวาร์ซ กุนซือของ ไมนซ์ มีรายชื่อนักเตะเจ็บอยู่ 5 คน คือ เอมิล เบิร์กกรีน, ยานนิค ฮูธ, อเล็กซานเดอร์ ฮัค, กาเอต็อง บุสมันน์ และ ฟิลิปป์ เคลเมนต์ นั่นทำให้ ชวาร์ซ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลง 11 ตัวจริงได้มากนัก คงจะมีแค่ ฌอน กีบาแมง ที่หายเจ็บกลับมาเบียด ฟาเบียน ฟราย (2 นัด) ให้หลุดไปเป็นตัวสำรองข้างสนามเท่านั้น

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไมนซ์ (4-2-3-1) : เรเน่ อ๊าดเลอร์ - จูลิโอ โดนาติ, สเตฟาน เบล, อับดู ดิยัลโล่, ดาเนี่ยล โบรซินสกี้ - ฌอน กีบาแมง, แดนนี่ ลัตซ่า - เลวิน ออซตูนาลี่, อเล็กซานดรู มักซิม, โรบิน ไควสัน - โยชิโนริ มุโตะ

      ปีเตอร์ สโตเกอร์ เฮ้ดโค้ชของ โคโลญจน์ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน มิลอส โยยิช (2 นัด) กับ มาร์เซล ริสเซ่ (2 นัด) สองกองกลางตัวสำคัญที่โดนอาการบาดเจ็บเล่นงาน นั่นบังคับให้ สโตเกอร์ ต้องแก้ปัญหาในแดนกลางด้วยการส่ง คริสเตียน เคลเมนส์ (1 นัด) ลงมาเล่นแทน ริสเซ่ ส่วนในแนวรับก็จะปรับแบ็คซ้ายมาเป็น คอนสแตนติน ร๊อยช์ (1 นัด)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โคโลญจน์ (4-2-2-2) : ติโม ฮอร์น - ลูคัส คลุนเตอร์, เฟรเดอริก โซเรนเซ่น, โดมินิค ไฮนซ์, คอนสแตนติน ร๊อยช์ - มัทธีอัส เลห์มันน์, โยนาส เอคเตอร์ - คริสเตียน เคลเมนส์, เลออน บิตเท่นคอร์ต - ยูยะ โอซาโกะ, จอห์น กอร์โดบา

      มานูเอล บอย์ม เทรนเนอร์ของ เอ๊าก์สบวร์ก ไม่มีปัญหาใดในการจัดทัพค่ำคืนนี้ เนื่องจากสภาพความพร้อมของลูกทีมทุกคนสมบูรณ์ 100% คาดว่าเกมนี้ บอย์ม จะมีการปรับทีมใน 2 จุด คือ จะส่ง ดาเนี่ยล โอปาเร่ ลงเล่นเเบ็คขวาแทน ราฟาเอล ฟรัมแบร์เกอร์ (2 นัด) และให้ รานี่ เคห์ดิร่า (1 นัด) มาคุมแดนกลางแทนที่ คู จา ชอล (2 นัด)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เอ๊าก์สบวร์ก (4-2-3-1) : มาร์วิน ฮิตซ์ - ดาเนี่ยล โอปาเร่, เจฟฟรี่ กูเวลูว์, มาร์ติน ฮินเตอร์เร็กเกอร์, ฟิลิปป์ มักซ์ - รานี่ เคห์ดิร่า, ดาเนี่ยล เบเยอร์ - โจนาต็อง ชมิด, มิชาเอล เกรกอริตช์, ไคอูบี้ - อัลเฟร็ด ฟินโบกาสัน

      นิโก้ โควัค กุนซือของ แฟร้งค์เฟิร์ต จะไร้เงาของ เลออน บัตจ์, มาโกโตะ ฮาเซเบะ (2 นัด), ยานนี่ เรกาเซล, แดนนี่ บลุม, มาร์โก ฟาเบียน และ โอมาร์ มาสกาเรล เพราะต้องใช้บริการของโรงพยาบาลอยู่ทุกคน นั่นหมายความว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงไม่น่าจะต่างจากเดิม คงมีแค่การส่ง การ์ลอส ซัลเซโด้ ลงเสียบแทนในตำแหน่งของ ฮาซาเบะ จุดเดียวเท่านั้น

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แฟร้งค์เฟิร์ต (3-3-2-2) : ลูคัส ฮราเด็กกี้ - การ์ลอส ซัลเซโด้, ดาบิด อับราฮัม, ไซม่อน ฟาล็อตเต้ - ทิโมธี แชนด์เลอร์, เกลสัน แฟร์น็องเดส, เจโทร วิลเลมส์ - มิยัต กาซิโนวิช, โจนาธาน เดอ กุซมัน - เซบาสเตียง ฮัลแลร์, เควิน พริ๊นซ์ บัวเต็ง

      ดีเตอร์ เฮ็กคิงก์ เทรนเนอร์ของ กลัดบัค จะไม่มีชื่อของ มามาดู ดูกูเร่, วินเชนโซ่ กริโฟ่, โทเบียส สโตรเบิ้ล, อิบราฮิมา ตราโอเร่ (1 นัด) และ โจซิป เดอร์มิช ที่นัดกันเดี้ยงทั้งหมด แต่คงไม่ส่งผลกระทบในการจัดทีม เพราะ เฮ็กคิงก์ เตรียมก็อปปี้ 11 ตัวจริงจากเกมลีกนัดล่าสุดมาใช้งานต่อ โดยจะมี ลาร์ส สไตน์เดิ้ล (2 นัด) กับ ราฟฟาเอล (2 นัด) ยืนเป็นกองหน้าคู่กัน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
กลัดบัค (4-2-2-2) : ยาน ซอมเมอร์ - นิโก้ เอลเวดี้, มัทธีอัส กินเตอร์, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, ออสการ์ เวนด์ - คริสโตฟห์ เครเมอร์, เดนิส ซากาเรีย - อิบราฮิม่า ตราโอเร่, ธอร์แกน อาซาร์ - ลาร์ส สไตน์เดิ้ล, ราฟฟาเอล

      ปีเตอร์ บอสซ์ นายใหญ่ของ ดอร์ทมุนด์ มีลิสต์นักเตะเจ็บยาวเป็นหางว่าวเหมือนเดิม ไล่มาตั้งแต่ เอริค ดวร์ม, ราฟาเอล เกร์เรโร่, มาร์โก้ รอยส์, จูเลี่ยน ไวเกิ้ล,อันเดร ชูร์เล่ และ เซบาสเตียน โร้ด นั่นทำให้ บอสซ์ คงไม่มีการปรับ 11 ตัวจริงอะไรนัก นอกจากจะคืนตำแหน่งให้ มาร์เซล ชเมลเซอร์ ลงประจำการทางกราบซ้ายคนเดียวเท่านั้น

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ดอร์ทมุนด์ (4-3-3) : โรมัน บูร์กี - ลูคัส พิสเซ็ค, โซเครติส, มาร์ก บาธรา, มาร์เซล ชเมลเซอร์ - กอนซาโล่ กาสโตร, นูรี ซาฮิน, มาริโอ เกิทเซ่ - คริสเตียน พูลิซิช, ปิแอร์ ออบาเมย็อง, มักซิมิเลี่ยน ฟิลิปป์

      คริสเตียน สไตรช์ ผู้จัดการทีมของ ไฟร์บวร์ก มีรายชื่อลูกทีมเดี้ยงในมือ 5 ราย ได้แก่ มานูเอล กัลด์, มาร์ก เคมพ์ (2 นัด), ยอร์ก นีแดร์เมเยอร์, โยนาส เมฟแฟร์ต และ คาริม กูเอเด้ ส่วนในรายของ นิโกลัส ฮอฟเลอร์ (2 นัด) ห้องเครื่องตัวสำคัญ จะติดโทษแบน เพราะโดนไล่ออกมาจากเกมที่บุกแพ้ ไลป์ซิก 1-4 ในนัดก่อนที่จะเบรกช่วงทีมชาติ

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไฟร์บวร์ก (3-2-2-2-1) : อเล็กซานเดอร์ ชโวลอฟ - ฟิลิปป์ ลีนฮาร์ท, จูเลียน ชุสเตอร์, ชักลาร์ โซยุนชู - ปาสกาล สเตนเซิ่ล, คริสเตียน กุนเตอร์ - อาเมียร์ อับราชี่, ไมค์ ฟร๊านซ์ - ยานิค ฮาเบเรอร์, โยริค ราเว่ต์ - ฟลอเรียน นีแดร์เลชเนอร์

      อาคิม เบเยอร์ลอร์เซอร์ ผู้จัดการทีมของ ยาห์น เรเก้นส์บวร์ก เหลือรายชื่อลูกทีมเจ็บ 3 คน คือ โอลิเวอร์ ไฮน์, อูเว่ เฮสเซ่ และ จอห์น สไตน์เกิ้ล แต่คงไม่ส่งผลอะไรกับทีม เพราะ เบเยอร์ลอร์เซอร์ เตรียมเรียก 11 ขุนพลชุดปัจจุบันมาใช้งานต่อ นำทีมมาโดย ยาน ยอร์ก (4 นัด / 3 ประตู) ห้องเครื่องตัวสำคัญ ที่ฟอร์มกำลังจัดจ้านร้อนแรงอย่างมากในเวลานี้

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ยาห์น เรเก้นส์บวร์ก (4-2-2-2) : ฟิลิปป์ เพนท์เก้ - เซบาสเตียน นัชไรเนอร์, อัสเกอร์ โซเรนเซ่น, มาร์วิน โนล, อเล็กซานเดอร์ นานด์ซิค - มาร์ก ไลส์, อันเดรียส ไกเพิ่ล - ยาน ยอร์ก, โจชัว มีส - ซาร์กิส อดัมยาน, มาร์โก กรุตเนอร์

      แฟร้งค์ ชมิดท์ เฮ้ดโค้ชของ ไฮเด้นไฮม์ ยังไม่มีชื่อของ เดนิส โธมัลล่า ดาวยิงวัย 25 ปี เหมือนเดิม เพราะกำลังอยู่ในช่วงพักฟื้นเร่งฟิต คาดว่าเกมนี้ ชมิดท์ จะปรับหมากมาใช้ระบบ 4-2-2-2 โดยจะให้โอกาสกับ โรเบิร์ต กลัตเซิ่ล (3 นัด / 1 ประตู) ลงล่าตาข่ายคู่กับ จอห์น เวอร์โฮ้ค (4 นัด) และจะมี ทิม สการ์เก้ (4 นัด) กับ มาร์ก ชนัตเตอเรอร์ (4 นัด) เป็นตัวสนับสนุน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไฮเด้นไฮม์ (4-2-2-2) : เควิน มุลเลอร์ - โรเบิร์ต สเตร๊าส์, มาธิส วิตเท็ค, ติโม เบียร์มันน์, อาร์เน่ ฟีค - เซบาสเตียน กรีสเบ็ค, มาร์เซล ริเวโร่ - ทิม สการ์เก้, มาร์ก ชนัตเตอเรอร์ - โรเบิร์ต กลัตเซิ่ล, จอห์น เวอร์โฮ้ค

      เมียร์โก ดิ๊คโฮ้ต นายใหญ่ของ กรอยเธอร์ เฟือร์ธ เหลือเพียงแค่ เซอร์ชาน ซาราเรอร์ และ มาธิส บอลลี่ เท่านั้น ที่ยังกลับมาช่วยทีมไม่ได้ ส่วนกำลังรบที่เหลือฟิตเต็มถังกันทั้งหมด คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงน่าจะเปลี่ยนแปลงจากชุดเก่าแน่ เพราะผลงานไม่ดีเลย โดยแนวรุกน่าจะวาง จูเลี่ยน กรีน ลงยืนหัวหอกคู่กับ แซร์ดาร์ ดูร์ซัน (4 นัด)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
กรอยเธอร์ เฟือร์ธ (4-4-2) : บาลาส เม็กเยรี่ - มาร์โก กาลิกูรี่, มาริโอ มาโลก้า, ริชาร์ด มักยาร์, มักซิมิเลี่ยน วิตเท็ค - นิค ออมลาดิช, อดัม พินเตอร์, เจอร์เก้น กาซูล่า, คาเล็ด นาเรย์ - แซร์ดาร์ ดูร์ซัน, จูเลี่ยน กรีน

      อูเว่ นอยฮุส เทรนเนอร์ของ ไดนาโม เดรสเดน มีรายชื่อลูกทีมเดี้ยงอยู่ในมือถึง 5 ราย ได้แก่ โซเรน กอนเธอร์ (3 นัด), เอริช เบอร์โก้ (4 นัด), มานูเอล คอนราด (4 นัด), เลออน โลฟ และ ปาสกาล เทสโทร้ต (1 นัด) นั่นบังคับให้ นอยฮุส ต้องปรับทัพเป็นการด่วน โดยเกมนี้จะส่ง ปอล เซกุน นักเตะหน้าใหม่ลงประเดิมสนามในตำแหน่งแบ็คขวา

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไดนาโม เดรสเดน (4-3-3) : มาร์วิน ชว้าบ - ปอล เซกุน, ยานนิค มุลเลอร์, ฟลอเรียน บัลลัส, ฟิลิป ไฮส์ - ริโก้ เบนาเตลลี่, อิยาส ออสมัน, มาร์โก ฮาร์ทมันน์ - พาทริค มอสเชิ่ล, ลูคัส โรเซอร์, ซาสช่า ฮอร์วาธ