วิเคราะห์บอล / วิเคราะห์บอลวันนี้

      ลุยส์ ซูเบลเดีย นายใหญ่คนใหม่ของ อลาเบส จะเหลือเพียงแค่ บิคตอร์ ลากูอาร์เดีย แนวรับคนสำคัญเพียงรายเดียวเท่านั้นที่ยังเดี้ยงอยู่ ส่วนขุมกำลังที่เหลือพร้อมรับใช้ต้นสังกัดได้ทั้งหมด เชื่อว่า ซูเบลเดีย จะมาพลิกโฉม อลาเบส ใหม่เกือบทั้งหมด โดยนักเตะที่เพิ่งย้ายมาร่วมทัพอย่าง มูบารัก วากาโซ่ น่าจะได้ลงเล่นในทันที

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
อลาเบส (4-2-3-1) : เฟร์นานโด ปาเชโก้ - คาร์ลอส บิการาย, โรดริโก้ อีลี่, กิเยร์โม่ มารีปาน, เธโอ เอร์นานเดซ - มูบารัก วากาโซ่, มานู การ์เซีย - อิไบ โกเมซ, ออสการ์ โรเมโร่, บูร์กุย - รูเบน โซบริโน่

      อาเซียร์ การิตาโน่ เฮ้ดโค้ชของ เลกาเนส มีตัวเจ็บค้างสต็อกอยู่ 2 คน คือ เซรันเตส นายด่านหมายเลขหนึ่ง กับ ดาบิด ติมอร์ ห้องเครื่องวัย 27 ปี คาดว่า การิตาโน่ จะวางหมากในระบบ 4-2-3-1 โดยจะมีแกนหลักจากปีก่อนอย่าง มาร์ติน มอนโตวานี่, อเล็กซานเดอร์ ซีมานอฟสกี้ และ มิเกล กูเอร์โร่ พาเหรดกันลงสนามเป็นตัวจริง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เลกาเนส (4-2-3-1) : อิวาน กูเอร์ย่า - โฆเซบา ซัลดูอา, เมาโร ดอส ซานโต๊ส, มาร์ติน มอนโตวานี่, ดีเอโก้ ริโก้ - รูเบน เปเรซ, ฆาเบียร์ เอราโซ่ - โอมาร์ รามอส, กาเบรียล ปีเรส, อเล็กซานเดอร์ ซีมานอฟสกี้ - มิเกล กูเอร์โร่

      โอลาฟ ยานส์เซ่น เทรนเนอร์ของ ซังต์ เพาลี มีรายชื่อลูกทีมบาดเจ็บอยู่ 4 ราย ได้แก่ ปาร์ค ยี ยัง, ฟิลิปป์ ซีไรส์, ชอย คยัง ร็อค (1 นัด) และ เรียว มิยาอิชิ เชื่อว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในเกมนี้ จะประกอบไปด้วย ลาส โซบีช (2 นัด), ดาเนี่ยล บูบัลล่า (2 นัด), วัลเดมาร์ โซโบต้า (2 นัด) รวมไปถึง อาซิซ บูฮัดดุซ (2 นัด)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ซังต์ เพาลี (4-2-3-1) : โรบิน ฮิมเมิ่ลมันน์ - เจเรมี่ ดู๊ดเซียค, มาร์ก ฮอร์นชูห์, ลาส โซบีช, ดาเนี่ยล บูบัลล่า - แบร์นด์ เนห์ริก, คริสโตเฟอร์ บุชมันน์ - โมลเลอร์ แดห์ลี, วัลเดมาร์ โซโบต้า, ซามี อัลลากี - อาซิซ บูฮัดดุซ

      ทอร์สเท่น ฟริ๊งส์ เฮ้ดโค้ชของ ดาร์มสตัดท์ จะไม่มีชื่อของ แยน โรเซนธาล และ ปีเตอร์ นีเมเยอร์ (1 นัด) ที่โดนอาการเดี้ยงเล่นงาน ส่วนขุมกำลังคนอื่นๆ ไม่มีปัญหาในการใช้บริการ คาดว่า ฟริ๊งส์ จะปรับทัพเล็กน้อยด้วยการส่ง ซานโดร ซิริกู ลงเป็นเเบ็คขวาตัวจริง หลังจากที่นั่งดู้พื่อนเล่นในเกมลีกนัดที่บุกเสมอ ไกเซอร์ฯ 1-1

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ดาร์มสตัดท์ (4-2-3-1) : ฮอยเออร์ แฟร์นันเดส - ซานโดร ซิริกู, พาทริค แบงการ์ด, อายทัก ซูลู, ฟาเบียน ฮอลลันด์ - ฮามิต อัลตินท็อป, วิลสัน คามาวูอาก้า - โทเบียส เคมพ์, มาร์วิน เมห์เล็ม, เควิน โกร๊สครอยซ์ - อาร์เตอร์ โซเบียค

      รูดี้ การ์เซีย ผู้จัดการทีมของ มาร์กเซย ต้องรอลุนความฟิตของ ดิมิทรี ปาเยต (1 นัด) ปีกตัวเก่งทีมชาติฝรั่งเศส ที่มีอาการเจ็บติดตัวมาเล็กน้อยจากเกมลีก คาดว่า การ์เซีย คงเรียกใช้งาน "ดาวดัง" แบบเต็มพิกัด ไม่ว่าจะเป็น อาดิล รามี่ (2 นัด), พาทริซ เอฟร่า (2 นัด), ลุยซ์ กุสตาโว่ (2 นัด), รวมไปถึง วาเลเร่ แชร์แม็ง (2 นัด)

      ไซม่อน รอซมัน นายใหญ่ของ ดอมซาเล่ ไม่ได้มีรายงานโรคเดี้ยงหรือติดโทษห้ามแข่งของนักเตะเข้ามา นั่นหมายความว่า รอซมัน สามารถจัดทีมชุดที่ดีที่สุดลงสนามได้อีกครั้ง เชื่อว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง น่าจะยังเป็นชุดเดิมที่คว่ำ ไฟร์บวร์ก ในรอบก่อน โดยจะมี อีวาน ไฟเรอร์ (4 นัด) ลงสนามเป็นตัวหลักในเกมรุกเหมือนเก่า

      อเล็กซานเดอร์ คัตห์สเควิช เทรนเนอร์ของ ดินาโม เคียฟ จะไร้เงาของ จูเนียร์ โมราเอส หัวหอกชาวบราซิลเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่ต้องพักระกษาตัวอยู่ ส่วนกำลังรบที่เหลือเรียกได้ว่า "ฟูลทีม" แบบสุดๆ คาดว่า คัตห์สเควิช น่าจะก็อปปี้ 11 ตัวจริงที่ใช้งานในลีกมาลงเล่นในนัดนี้ เพราะลูกทีมกำลังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมอยู่แล้ว

      ดาเนี่ยล รามอส ผู้จัดการทีมของ มาริติโม่ มีรายชื่อลูกทีมเจ็บมาจากซีซั่นก่อน 4 คน คือ ฟาบิโอ ไชน่า, เกวอร์ก กาห์ซาร์ยาน, โคโรนาส และ วิคเตอร์ ลุนด์เบิร์ก แต่ไม่น่าจะส่งผลกระทบอะไรมากมาย เพราะ รามอส เตรียมขน 11 ขุนพลชุดสู้ศึกช่วงเปิดฤดูกาลลงสนามอยู่แล้ว นำทีมมาโดย โรดริโก้ ปินโญ่ (2 นัด) กองหน้าคนสำคัญ

      อายคุต โคชามัน เทรนเนอร์ของ เฟเนร์บาห์เช่ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน เกรกอรี่ ฟาน เดอ วีล, ซาลิห์ อูชาน, เมห์เหม็ด เอคิซี่ และ เเฟร์นานเดา ที่เดี้ยงค้างสต็อกกันทุกคน ส่วนในรายของ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ย์ (1 นัด) ดาวยิงตัวเก๋าชาวดัชต์ ต้องรอเช็คความฟิตกันอีกครั้ง แต่ที่วืดแน่ๆ คือ ยูเลียโน่ กับ โรแบร์โต้ โซลดาโด้ เพราะเพิ่งย้ายมาร่วมทีม

      โกเซ่ เซ็ดโลสกี้ กุนซือของ วาร์ดาร์ จะเหลือแค่ เปตาร์ เพ็ตคอฟสกี้ คนเดียวเท่านั้น ที่ยังต้องใช้บริการของโรงพยาบาลอยู่ ส่วนกำลังรบที่เหลือพร้อมลุยกันทั้งหมดทุกคน คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในเกมนี้ ไม่น่าจะต่างจากชุดลุยศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก โดยจะมี โจนาธาน บาโลเตลลี่ หัวหอกชาวแซมบ้า ยืนเป็นศูนย์หน้าตัวเป้าเหมือนเดิม

      เกรแฮม พ็อตเตอร์ นายใหญ่ของ ออสเตอร์ซุนด์ส ขาดหายไปเพียงแค่ เซบาสเตียน ลุนด์บัค ห้องเครื่องประจำทีม ที่โดนอาการเจ็บเล่นงาน ส่วนในรายของ เคน เซม่า (14 นัด / 1 ประตู) และ ดู๊ก เบิร์กควิสต์ (8 นัด / 1 ประตู) สองกำลังสำคัญ ต้องรอเช็คความฟิตอีกครั้ง แต่ข่าวดีคือ ซามาน ก็อดห์ดอส (14 นัด / 4 ประตู) พร้อมลงล่าตาข่ายแน่ๆ

      รัซวาน ลูเชสคู เทรนเนอร์ของ พีเอโอเค จะไม่มี เอฟธีมิออส คูลูริส, พานาจิโอติส กลีกอส และ ไอโออันนิส มิสตาคิดิส ที่ยังเดี้ยงไม่หายกลับมา ส่วนในรายของ โดเรียง เลเวกู, พานาจิโอติส เดลิจานนิดิส และ กาญาส ต้องรอเช็คความฟิตก่อนลงสนามอีกครั้ง เกมนี้คงต้องฝากความหวังในการพังประตูไว้กับ เปโดร เอ็นริเก้ ศูนย์หน้าชาวบราซิล

      อิลีร์ ดาย่า กุนซือของ สเคนเดอร์บู เตรียมยก 11 ตัวจริงชุดที่ฝ่าฟันมาในศึกยูโรป้า ลีก ฤดูกาลนี้ มาใช้งานอย่างต่อเนื่อง เพราะไม่มีรายงานโรคเดี้ยงหรือติดโทษห้ามแข่งเข้ามา นำทีมมาโดย เตฟิค ออสมานี่ ลงช่วยทีมในเกมรับ, เอนอส กาวาซาจ เดินเกมตรงกลางสนาม และจะมี เจมส์ อเดนิยี่ หัวหอกชาวไนจีเรีย คอยผลิตสกอร์ให้กับทีมในแดนหน้า

      มาริโอ ซวิตาโนวิช เทรนเนอร์ของ ดินาโม ซาเกร็บ จะไร้เงาของ เอล อาร์บี ซูดานี่ (3 นัด / 1 ประตู) กับ อเดมี่ เนื่องจากมีอาการเจ็บรบกวน ส่วนในรายของ ดาเนี่ยล โอลโม่ (1 นัด / 1 ประตู) กองกลางชาวสเปน จะติดโทษแบน เชื่อว่า ซวิตาโนวิช น่าจะมีการปรับ 11 ขุนพลเล็กน้อย แต่สำหรับ อาร์มิน ฮ็อดซิช (4 นัด / 2 ประตู) น่าจะได้ลงเล่นแน่นอน

      คิม ชิน ฮวาน ผู้จัดการทีมของ ติมอร์ เลสเต้ ยู-23 เตรียมขนนักเตะชุดที่ดีที่สุดลงสู้ เพราะไม่มีรายงานความเสียหายเรื่องสภาพทีมเข้ามาแต่อย่างใด คาดว่า ชิน ฮวาน จะวางหมากมาในระบบ 4-1-2-3 โดยจะมี เฮนริเก วิลสัน, ปอร์เตโญ และ เนลสัน ชาร์เมนโต ยืนเป็น "สามประสาน" ในแดนหน้า และจะมี เฟลิเป กับ โมไรร่า ลงจับคู่กันในตำแหน่งปราการหลังตัวกลาง

      วรวุธ ศรีมะฆะ เฮ้ดโค้ชของ ไทย ยู-23 ต้องรอเช็คความฟิตของ ชินภัทร์ ลีเอาะ และ ชัยวัฒน์ บุราญ ก่อนลงสนามอีกครั้ง ว่าไหวหรือไม่ โดยเกมนี้ "โค้ชโย่ง" จะปรับแท็คติกมาเป็น 3-4-3 เพื่อเน้นเกมรุกเต็มที่ และจะมีการปรับเปลี่ยน 11 ตัวจริงหลายตำแหน่ง ซึ่งชื่อของ เชาว์วัตน์ วีระชาติ, มนตรี พรมสวัสดิ์, พิชา อุทรา และ สิทธิโชค กันหนู จะได้ออกสตาร์ทตั้งแต่เริ่มเกม

      เวลจ์โก้ เพาโนวิช เทรนเนอร์ของ ชิคาร์โก้ ไฟร์ มีลิสต์ลูกทีมบาดเจ็บในมืออยู่ 4 ราย คือ ยอห์น กูสเซ่นส์ (1 นัด), ฆอร์เก้ บาว่า (8 นัด), แบรนดอน วินเซนท์ (19 นัด / 1 ประตู) และ ดาเนี่ยล จอห์นสัน (8 นัด) นั่นทำให้ เพาโนวิช คงต้องคิดหนักไม่น้อยในการวางตัว แต่ในแดนหน้าจะมี เนมันย่า นิโคลิช (23 นัด / 16 ประตู) ยืนค้ำอยู่เหมือนเดิม

      เมาโร บิเอลโล่ เฮ้ดโค้ชของ มอนเทรอัล อิมแพ็ค มีเพียงแค่ อัมบรัวส์ โอยงโก้ (11 นัด / 1 ประตู) แบ็คซ้ายชาวแคเมอรูนเท่านั้น ที่ยังเดี้ยงยาวอยู่เหมือนเก่า ส่วนในรายของ อัสซุน กามาร่า (11 นัด) กับ บัลลู ฌอง-ยเวส ทาบลา (16 นัด / 2 ประตู) สองกำลังสำคัญของทีม ต้องรอเช็คความฟิตก่อนลงสนามอีกครั้ง แต่คาดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

      มาตาซจ์ เก็ค ผู้จัดการทีมของ ริเยก้า จะงดใช้งาน โซรัน คเวอร์ซิช (3 นัด / 1 ประตู) กองกลางชาวบอสเนียฯ เพราะมีอาการเจ็บรบกวน ส่วนในรายของ โยซิป มิซิช (4 นัด) กับ มาริโอ กาฟราโยวิช (3 นัด / 1 ประตู) สองตัวหลักของทีม ต้องรอเช็คอาการอีกครั้ง ว่าฟิตทันหรือไม่ แต่สำหรับ เฮเเบร์ (4 นัด) จะมีชื่อเป็น 11 ตัวจริงแน่นอน

      เบสนิค ฮาซี่ กุนซือของ โอลิมเปียกอส ต้องรอเช็คความฟิตของ โบติอา ปราการหลังชาวสเปน ก่อนลงสนามอีกครั้ง ว่าพร้อมบู๊หรือไม่ ส่วนในรายของนักเตะหน้าใหม่อย่าง ปาเป้ ซิสเซ่, เอ็มมานูอิล ซิโอปิส, วาดิส โอฌิฌา-โอโฟ, พานาโจติส ทาชต์ซิดิส และ เอ็มมานูเอล เอเมนิเก้ ชวดลงสนามทั้งหมด เพราะลงทะเบียนรายชื่อไม่ทัน

      สตานิมีร์ สตอยลอฟ เฮ้ดโค้ชของ อัสตาน่า ไม่มีปัญหาใดในการจัดทัพ เพราะลูกทีมทุกคนอยู่ในสภาพสมบูรณ์ 100% ทั้งหมด นั่นหมายความว่า สตอยลอฟ สามารถยก 11 ตัวจริงชุดเดิมมาใช้งานต่อได้เลย โดยจะมี จูเนียร์ กาบานานก้า (23 นัด / 15 ประตู) หัวหอกทีมชาติสาธารณรัฐคองโก ยืนเป็นหน้าเป้าเหมือนเก่า ในระบบ 4-5-1 ที่ใช้งานมาอยู่ตลอดในรายการนี้

      เบรนแดน ร็อดเจอร์ส นายใหญ่ของ เซลติก จะไม่มี "สามเดี้ยง" เซ็ตเดิม คือ เดเร็ค โบยาต้า, เอริค สเวียตเชนโก้ และ มุสซ่า เดมเบเล่ แต่บุมกำลังที่เหลือพร้อมรับใช้ต้นสังกัดดันทั้งหมด คาดว่า "บีร็อด" คงจัดหนักจัดเต็มชุดใหญ่ไฟกระพริบเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นทอม โรจิช (2 นัด), สก็อตต์ ซินแคร์ (2 นัด / 1 ประตู) รวมไปถึง เลจ์ กริฟฟิธส์ (2 นัด / 2 ประตู)

      โรแบร์โต้ มันชินี่ เฮ้ดโค้ชของ เซนิตฯ จะขาดหายไปแค่ วิคตอร์ ฟายซูลิน ห้องเครื่องตัวเก๋าประจำทีม เพราะยังบริการของโรงพยาบาลอยู่ แต่คงไม่ส่งผลกระทบอะไรในเกมนี้ เพราะ "มันโช่" คงเลือกนักเตะชุดปัจจุบันลงสนาม เนื่องจากลูกทีมกำลังโชว์ผลงานกันได้ดี โดยเฉพาะ อเล็กซานเดอร์ โคโคริน (6 นัด / 5 ประตู) ที่ฟอร์มกำลังฮ็อตเหลือเกิน

      เอริค เทน ฮัก เทรนเนอร์ของ อูเทร็ชท์ มีรายชื่อลูกทีมเดี้ยงในมือ 5 ราย ได้แก่ อานูอาร์ คาลี (1 นัด), ริโก้ สไทรเดอร์, พาทริค ยูสเท่น, คริส ดาวิด และ ไซม่อน มาคีน็อค ส่วนในรายของ ยาสซิน อายูบ (1 นัด) มิดฟิลด์ชาวโมร็อกโก ต้องรอเช็คความฟิตก่อนลงสนามอีกครั้ง แต่สำหรับ ซีริล เดสเซอร์ส (1 นัด / 2 ประตู) พร้อมลุยอย่างแน่นอน

      ยาโรสลาฟ ซิลฮาวี่ ผู้จัดการทีมของ สลาเวีย ปราก มีรายชื่อลูกทีมบาดเจ็บอยู่ 4 ราย คือ ไซมอน เดลี่ (2 นัด), ยีรี่ บิเล็ค (1 นัด), ยาสมิน สคุค (1 นัด) และ มาร์โก้ อัลวีร์ นั่นทำให้ ซิลฮาวี่ ต้องคิดแก้ปัญหาพอตัว แต่ยังโชคดีที่บรรดาตัวหลักคนอื่นพร้อมลงสนามได้ โดยเฉพาะ "จอมทัพ" อย่าง แดนนี่ (2 นัด / 1 ประตู)

      จอร์จอส โดนิส เทรนเนอร์ของ อาโปเอล จะมีเพียงแค่ ยอนนู แนวรับประจำทีมเท่านั้น ที่ยังเป็นแข้งเดี้ยงค้างสต็อกจากซีซั่นก่อน ส่วนขุมกำลังที่เหลือฟิตเต็มสูบกันทั้งหมด คาดว่า โดนิส จะวางหมากมาในระบบ 4-4-2 ตามที่ทีมถนัด ซึ่งจะมี อิกอร์ เดอ คามาร์โก้ กับ วานเดอร์ ยืนเป็นกองหน้าคู่กัน คอยผลิตสกอร์ให้กับทีม

      วิคตอร์ กอนชาเรนโก้ เทรนเนอร์ของ ซีเอสเคเอ มอสโก ไม่มีปัญหาใดในการจัดทัพ เพราะสภาพความพร้อมของลูกทีมทุกคนสมบูรณ์ดี 100% เชื่อว่า โฉมหน้าของ 11 ขุนพลในเกมนี้ ไม่น่าจะต่างจากชุดปัจจุบันที่ใช้บริการอยู่ นำทีมมาโดย อิกอร์ อคินเฟเยฟ (4 นัด), อเล็กเซ เบเรซุตสกี้ (5 นัด) และ อลัน ซาโกเยฟ (6 นัด / 1 ประตู)

      อาดิ ฮัตเตอร์ ผู้จัดการทีมของ ยัง บอยส์ จะไร้เงาของ ตูลังต์ เซเฟรี่ กองกลางของทีม เพียงรายเดียวเท่านั้น ที่ยังเดี้ยงไม่หาย ส่วนขุมกำลังคนอื่นๆ พร้อมให้เรียกใช้งานได้ทั้งหมด คาดว่า ฮัตเตอร์ จะจัดหนักจัดเต็มในการวางกลยุทธ์เข้าสู้ศึก โดยจะมี ชิลโลเม่ โออาโร (3 นัด / 1 ประตู) หัวหอกชาวฝรั่งเศส ลงเป็นกองหน้าคอยล่าตาข่าย

      แฮร์รี่ เคนนี่ เทรนเนอร์ของ เบรย์ วันเดอเรอร์ส เตรียมขนผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนาม เพราะไม่มรายงานความเสียหายเรื่องสภาพความพร้อมเลยสักคน คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในเกมนี้ จะประกอบไปด้วย ปีเตอร์ เชอร์รี่ (24 นัด), ทิม คลันซี่ (19 นัด / 3 ประตู), แกรี่ แม็คแค็บ (23 นัด / 14 ประตู) และ แอนโธนี่ ฟลัด (15 นัด / 3 ประตู)

      เกราร์ด ลิทเทิ่ล นายใหญ่ของ สลิโก้ โรเวอร์ส จะอดใช้งาน เจมี่ แม็คโดนาฟ (1 นัด) ห้องเครื่องดาวรุ่งประจำทีม เนื่องจากติดโทษห้ามแข่ง แต่ก็ไม่น่าส่งผลอะไรนัก เพราะเป็นเพียงแค่ตัวอะไหล่อยู่แล้ว ส่วนพวกตัวหลักๆ อย่าง แกรี่ บอยลัน (22 นัด), เคร็ก ร็อดแดน (20 นัด) และ ราฟฟาเอเล่ เครตาโร่ (22 นัด / 2 ประตู) พร้อมลุยอยู่ตั้งนานแล้ว

      สตีเฟ่น แบร็ดลี่ย์ กุนซือของ แชมร็อค โรเวอร์ส มีปัญหาแน่นอนในแนวรับ เมื่อ ลุค ไบร์เน่ (14 นัด) ปราการหลังวัย 24 ปี โดนไข้เดี้ยงเล่นงาน ไม่พร้อมลงเล่นแน่ๆ ส่วนอีก 3 กองหลังอย่าง โรเบร์โต้ โลเปซ (18 นัด / 2 ประตู), แซม โบน (13 นัด) และ แดนนี่ เดไวน์ (12 นัด) ต้องรอเช็คฟิตกันก่อนคิกออฟอีกครั้ง ว่าใครจะลงสนามไหวบ้าง

      นีล แม็คโดนัลด์ เทรนเนอร์ของ ลิเมริค ไม่มีอะไรให้ต้องวิตกในการเลือกตัวผู้เล่น เพราะไม่มีรายงานความเสียหายใดๆ เข้ามาแม้แต่คนเดียว นั่นหมายความว่า แม็คโดนัลด์ สามารถใช้ 11 ตัวจริงชุดปัจจุบันลงเล่นได้เลย นำทีมมาโดย เดวิด โอคอนนอร์ (10 นัด), โรดริโก้ โตซี่ (24 นัด / 10 ประตู) และ ชีโดซี่ อ็อกเบเน่ (23 นัด / 5 ประตู)

      วรวุธ ศรีมะฆะ เฮ้ดโค้ชของ ไทย ยู-23 ต้องรอเช็คความฟิตของ "กัปตันทีม" อย่าง เจนรบ สำเภาดี ก่อนลงสนามอีกครั้ง แต่คาดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เชื่อว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในเกมนี้ในใจของ "โค้ชโย่ง" จะเป็นชุดใหญ่เต็มสูบ นำทีมมาโดย นนท์ ม่วงงาม, เควิน ดีรมรัมย์, ศศลักษณ์ ไหประโคน , รัตนากร ใหม่คามิ และ ชัยวัฒน์ บุราญ

      หลุยส์ มิญา นายใหญ่ของ อินโดนีเซีย ยู-23 จะหมดสิทธิ์ใช้งานสองกำลังหลักอย่าง จานโซลา นัสรุลลอฮ์ กับ บากัส อาดี ที่โดนอาการเจ็บเล่นงาน ทำให้ มิญา ต้องปรับ 11 ตัวจริงจากเกมที่เสมอ ไทย ยู-23 0-0 ในศึกรอบคัดเลือกชิงแชมป์เอเชีย ยู-23 แต่ก็ยังดีที่ตัวสำคัญอื่นๆ ยังอยู่กันครบ ทั้ง อิวาน ดิมาส, มุฮัมมัด ฮาร์กิอานโต้ และ เอซรา วาเลียน

      สตาเล่ โซลบัคเค่น นายใหญ่ของ โคเปนเฮเก้น มีรายชื่อแนวรับบาดเจ็บอยู่ 2 ราย ได้แก่ ทอม โฮกลี (1 นัด) กับ เอริค โยฮันส์สัน (5 นัด) ส่วนในรายของ ยาน เกรกุส (3 นัด) ห้องเครื่องทีมชาติสโลวาเกีย จะติดโทษแบน เนื่องจากโดนไล่ออกในเกมที่เปิดบ้านชนะ วาร์ดาร์ 4-1 ในรอบก่อน นั่นเป็นปัญหาที่ โซลบัคเค่น ต้องแก้ไข

      กูร์บาน กูร์บานอฟ เทรนเนอร์ของ คาราบัก ต้องรอเช็คความฟิตของ ดานี่ กวินตาน่า (1 นัด) และ โดนัลด์ กูเอร์เรียร์ สองกองกลางต่างชาติ ก่อนลงสนามอีกครั้ง ว่าใครพร้อมรับใช้ต้นสังกัดได้บ้าง แต่สำหรับ มิเชล มิดฟิลด์จอมเก๋าชาวสเปน น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงและคอยคุมเกมตรงกลางสนามเหมือนเก่าเหมือนเดิม

      ฮันเนส โวล์ฟ นายใหญ่ป้ายแดงของ สตุ๊ตการ์ท มีรายชื่อลูกทีมเจ็บอยู่ในมือ 2 ราย คือ เอมิเลียโน่ อินซัว และ คาร์ลอส มาเน่ ส่วนในรายของ โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์ ปราการหลังคนสำคัญ อดบู๊เช่นกัน เพราะจะติดโทษห้ามแข่ง แต่สำหรับตัวหลักๆ อย่าง ติโม บอย์มการ์ตเทิ่ล, คริสเตียน เกนท์เนอร์ และ ไซม่อน เทร็อดด์ พร้อมลงช่วยทีมแน่นอน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
สตุ๊ตการ์ท (4-4-1-1) : รอน โรเบิร์ต ซีเลอร์ - มัทธีอัส ซิมเมอร์มันน์, ติโม บอย์มการ์ตเทิ่ล, มาร์ซิน กามินสกี้, เบนจามิน ปาวอร์ - คริสเตียน เกนท์เนอร์, ชาดรัค อาโกโล่, โจซิป เบรคาโล่, เดนิส เบอร์นิช - ดาเนี่ยล จินเซค - ไซม่อน เทร็อดด์

      เคล้าส์ วอลลิตซ์ เฮ้ดโค้ชของ ค็อตบุส จะไร้เงาของ มาร์เซล เบาเด้, ฟิลิปป์ เน็ชเทิ่ล และ เควิน ไวด์ลิช ที่ยังสลัดคราบเดี้ยงไม่ได้ แต่ไม่น่าจะส่งผลอะไรกับทีม เนื่องจาก วอลลิตซ์ น่าจะก็อปปี้ 11 ขุนพลชุดปัจจุบันมาใช้งานต่อเนื่อง เพราะลูกทีมกำลังทำผลงานในลีกกันได้ดีอยู่แล้ว โดยเฉพาะ สเตรลี่ มัมบ้า (3 นัด / 4 ประตู) ที่ฟอร์มกำลังแรง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ค็อตบุส (4-1-4-1) : เมเยอร์ - สตาร์ทเซฟ, สไตน์, มาตูวิล่า, ชลูเตอร์ - ครูเซ่ - ซิมเมอร์, มาร์เชโล่, ไฟรตัส, วิเตริตติ, ไกส์เลอร์ - มัมบ้า

      มานูเอล บอย์ม เทรนเนอร์ของ เอ๊าก์สบวร์ก จะขาดหายไปแค่ ไคอูบี้ มิดฟิลด์ชาวบราซิล คนเดียวเท่านั้น ที่ไม่พร้อมใช้งาน ส่วนขุมกำลังรายอื่นๆ พร้อมลงสนามรับใช้ต้นสังกัดกันทั้งหมด คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในเกมนี้ น่าจะประกอบไปด้วย มาร์ติน ฮินเตเร็กเกอร์, คู จา โชล, มาร์เซล เฮลเลอร์ และ อัลเฟร็ดห์ ฟินน์โบกาสัน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เอ๊าก์สบวร์ก (4-2-3-1) : มาร์วิน ฮิทซ์ - ราฟาเอล ฟรามแบร์เกอร์, เจฟเฟรย์ กูเวลีอูว์, มาร์ติน ฮินเตเร็กเกอร์, ฟิลลิปป์ มักซ์ - คู จา โชล, ดาเนี่ยล ไบเออร์ - โชนาต็อง ชมิด, มิชาเอล เกรกอริทช์, มาร์เซล เฮลเลอร์ - อัลเฟร็ดห์ ฟินน์โบกาสัน

      เยนส์ ฮาร์เทล กุนซือของ มักเดบวร์ก จะไร้เงาของ แอนดรูว์ ไฮนัลท์ แนวรับชาวแคนาดา กับ ชาร์ลส์ ลาเปรว็อตเต้ กองกลางเลือดน้ำหอม เนื่องจากโดนไข้เดี้ยงครอบงำ แต่ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรในการจัดทัพ เพราะ ฮาร์เทล น่าจะยึด 11 ขุนพลที่ใช้งานอยู่ปัจจุบันในลีกมาทั้งหมด โดยจะมี คริสเตียน เบ็ค (4 นัด) คอยล่าตาข่าย

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
มักเดบวร์ก (3-4-3) : บรุนส์ท - ชิลเลอร์, วีล, ฮัมมันน์ - บุตเซ็น, อาร์ดมันน์, โรเธอร์, ไนเมเยอร์ - ทูร์พิทซ์, คริสเตียน เบ็ค, ชเวเด้

      อันดรีส ยองเคอร์ เฮ้ดโค้ชของ โวล์ฟสบวร์ก จะไม่มีชื่อของ เซบาสเตียน จุง, คริสเตียน แทรช, มาร์วิน สเตฟาเนี๊ยค, เจฟฟรี่ บรูม่า และ วิเอรินญ่า ที่เรียงหน้ากันบาดเจ็บ โดยเกมนี้ ยองเคอร์ อาจจะให้โอกาสกับบรรดาแข้งหน้าใหม่ลงเล่นประเดิมสนาม ไม่ว่าจะเป็น พอล เวอร์ฮาจ, จอห์น บรู้คส์ รวมไปถึง อิ๊กนาซิโอ กามาโช่

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โวล์ฟสบวร์ก (4-2-3-1) : โกเยนส์ กัสตีลส์ - พอล เวอร์ฮาจ, โรบิน น็อกเก้, จอห์น บรู้คส์, ยานนิค แกร์ฮาร์ด - โจฌัว กีลาโว้ก, อิ๊กนาซิโอ กามาโช่ - ยาคุบ บลาสซีคอฟสกี้, ดาเนี่ยล ดิดาวี, เคย์เลน ฮินด์ - มาริโอ โกเมซ

      เดิร์ค เฮย์น นายใหญ่ของ นอร์แดร์สเต็ดท์ จะหมดสิทธิ์ใช้บริการของ ดาเน่ คุมแมร์เฟลด์ (3 นัด), มาร์คุส คอฟฟี่ (1 นัด) และ ชอย คัง มิน เนื่องจากต้องใช้บริการของโรงพยาบาลอยู่ เชื่อว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในเกมนี้ จะเป็นชุดใหญ่ที่สุดเท่าที่จะจัดได้แน่ๆ นำทีมมาโดย ยาน ลูเนบูร์ก (3 นัด) ดาวยิงตัวความหวังของทีม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
นอร์แดร์สเต็ดท์ (4-4-1-1) : ฮ็อกเคอร์ - มาร์เซ่น, โบยัดเกียน, มานดิช, โรส - บราวน์, ค็อก, ท็อคซอซ, ลินเดเนอร์ - ดริ๊งคูธ - ยาน ลูเนบูร์ก

      อันเดร ไบรเท่นไรเตอร์ เทรนเนอร์ของ ฮันโนเวอร์ ขาดนักเตะไปไม่น้อยเช่นกัน เนื่องจากอาการเจ็บ ไล่มาตั้งแต่ ซามูเอล ร้าดลินเกอร์, มีโก อัลบอร์นอซ, ลาร์ส ริทซ์ก้า, ทอม บอลเลอร์, อุฟเฟ่ เบ็ค, โนอาห์ ซาเรนเรน-บาซี, เมเต้ เดมีร์ และ ยูเซฟ เอ็มกาห์เมส จึงบังคับให้ ไบรเท่นไรเตอร์ ไม่มีทางเลือกใดมากนักในการจัดทีมนัดนี้

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮันโนเวอร์ (4-2-2-2) : มิชาเอล เอสเซอร์ - จูเลี่ยน คอร์บ, ซาลิฟ ซาเน่, เฟลิเป้, มัทเธียส ออสท์โซเล็ค - แอนตัน, พีร์มิน ชเว็กเลอร์ - เฟลิกซ์ เคล๊าส์, เอ็ดการ์ พริบ - มาร์ติน ฮาร์นิค, นิคลาส ฟัลครู้ก

      ดาเนี่ยล ซิลล์เคน ผู้จัดการทีมของ บอนเนอร์ เตรียมขนผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนามได้เลย เนื่องจากสภาพความพร้อมของลูกทีมทุกคนสมบูรณ์ดี 100% คาดว่า ซิลล์เคน จะวางหมากมาในระบบ 4-4-2 ตามที่ทีมถนัด โดยจะฝากความหวังในการพังประตูไว้ที่สองศูนย์หน้าอย่าง วอจโน เยซิช (2 นัด) และ ลาร์ส โลค็อทช์ (2 นัด / 1 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
บอนเนอร์ (4-4-2) : โมนาธ - ดันดาร์, สปินราธ, เพอร์เรย์, โอเมอร์บาซิช - ไฮร์ช, ชูมาเกอร์, ฟิลลินเกอร์, ไกเซอร์ - วอจโน เยซิช, ลาร์ส โลค็อทช์

      มาร์คุส กิสดอล ผู้จัดการทีมของ ฮัมบูร์ก จะหมดสิทธิ์ใช้บริการของ ปิแอร์ ลาซ็อกก้า, ฟิลิป คอสติช และ อัลบิน เอคดัล สามกำลังหลักของทีม ที่โดนไข้เดี้ยงเล่นงาน เชื่อว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง น่าจะไม่ต่างจากปีก่อนมากนัก นำทีมมาโดย โกโตคุ ซากาอิ, คิเรียกอส ปาปาโดปูลอส, กีเดียน จุง, นิโคไล มุลเลอร์, อารอน ฮันท์ และ บ๊อบบี้ วู้ด

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮัมบูร์ก (4-2-3-1) : มาเธเนีย - โกโตคุ ซากาอิ, คิเรียกอส ปาปาโดปูลอส, แมร์กิม มาฟราย, ดั๊กลาส คอสต้า - กีเดียน จุง, วาเลซ - นิโคไล มุลเลอร์, อารอน ฮันท์, อันเดร ฮาห์น - บ๊อบบี้ วู้ด

      โจ เอน็อค นายใหญ่ของ ออสนาบรู้ค จะไร้เงาของ บาสเตียน ชูลซ์ (2 นัด), อเล็กซานเดอร์ แดร์โช่ และ คริสเตียน บิกเคิ่ล (2 นัด) ที่มีอาการเจ็บรบกวนอยู่ ส่วนกำลังรบที่เหลือพร้อมลุยกันทั้งหมด คาดว่า เอน็อค จะจัดทัพในระบบ 4-4-2 โดยจะมี มาร์คอส อัลบาเรซ (1 นัด / 1 ประตู) กับ ฮาลิล ซัฟรัน (3 นัด / 1 ประตู) รับหน้าที่เป็นคู่กองหน้า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ออสนาบรู้ค (4-4-2) : เกอร์สเบ็ค - ซ็องกาเร่, อัปเปียห์, ซูซัค, แองเกิ้ล - ไฮแดร์, โกร๊ส, ดันเนแบร์ก, รีเมริงค์ - มาร์คอส อัลบาเรซ, ฮาลิล ซัฟรัน

      เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เทรนเนอร์ของ สเปอร์ส จะไม่มีชื่อของ "สี่สหายเดี้ยง" อย่าง คีแรน ทริปเปียร์, อีริค ลาเมล่า, ชอร์เชส เอ็นกูดู และ แดนนี่ โรส ทำให้ โปเช็ตติโน่ ต้องแก้รูรั่วตรงตำแหน่งแบ็คขวา ด้วยการโยก อีริก ไดเออร์ มายืน แล้วส่ง แฮร์รี่ วิงค์ส ลงเป็นกองกลางตัวคุมจังหวะเกม ส่วน แฮร์รี่ เคน พร้อมลงเล่นแน่นอน

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
สเปอร์ส (4-2-3-1) : อูโก้ ยอริส - อีริก ไดเออร์, โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, แยน แฟร์ต็องเก้น, เบ็น เดวี่ส์ - แฮร์รี่ วิงค์ส, มูสซ่า เด็มเบเล่ - มูสซ่า ซิสโซโก้, เดเล่ อัลลี่, คริสเตียน อีริคเซ่น - แฮร์รี่ เคน

      ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือของ นิวคาสเซิ่ล จะหมดสิทธิ์ใช้งาน เจมี่ สเตอร์รี่ กับ เดอันเดร เยดลิน สองแนวรับของทีม เนื่องจากมีปัญหาอาการเจ็บ คาดว่า "เอล ราฟา" จะจัดหนักจัดเต็มด้วยการส่ง พอล ดัมเม็ตต์, จอนโจ้ เชลวี่ย์, อโยเซ่ เปเรซ, คริสเตียน อัตซู และ ดไวจ์ท เกย์ล ลงสนามเป็น 11 ตัวจริงในค่ำคืนนี้

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
นิวคาสเซิ่ล (4-2-3-1) : ร็อบ เอลเลียต - ฆาบี มานกีโญ่, ฟลอริย็อง เลอฌวน, เคียแรน คลาร์ค, พอล ดัมเม็ตต์ - จอนโจ้ เชลวี่ย์, มิเกล เมริโน่ - แม็ตต์ ริตชี่, อโยเซ่ เปเรซ, คริสเตียน อัตซู - ดไวจ์ท เกย์ล

      เอ็ดดี้ โฮว์ เฮ้ดโค้ชของ บอร์นมัธ จะไร้เงาของ รอยส์ วิกกิ้นส์, จูเนียร์ สตานิสลาส และ คัลลั่ม วิลสัน ที่ยังเดี้ยงยาวอยู่ เชื่อว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในใจของ โฮว์ คงเป็นแกนหลักชุดเดิมอย่าง ไซม่อน ฟรานซิส, แฮร์รี่ อาร์เตอร์ และ โจชัว คิง ส่วนในรายของ อัสเมียร์ เบโกวิช และ เนธาน เอเก้ ซึ่งเพิ่งย้ายมา น่าจะได้รับโอกาสเช่นกัน

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
บอร์นมัธ (4-5-1) : อัสเมียร์ เบโกวิช - อดัม สมิธ, ไซม่อน ฟรานซิส, เนธาน เอเก้, ชาร์ลี แดเนี่ยลส์ - จอร์ดอน ไอบ์, แฮร์รี่ อาร์เตอร์, แอนดรูว์ เซอร์แมน, แดน กอสลิ่ง, มาร์ก พิวจ์ - โจชัว คิง

      โทนี่ พูลิส นายใหญ่ของ เวสต์ บรอมฯ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน แกเร็ธ แม็คออลี่ย์ กับ เจมส์ มอร์ริสัน ที่ยังต้องใช้บริการของโรงพยาบาลอยู่ ส่วนขุมกำลังคนอื่นๆ ฟิตสมบูรณ์ดีกันทั้งหมด คาดว่า พูลิส ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลง 11 ตัวจริงจากซีซั่นก่อนมากนัก เพราะลูกทีมเล่นกันได้เข้าขาอยู่แล้ว แถมยังอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาอีกด้วย

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
เวสต์ บรอมฯ (4-4-2) : เบ็น ฟอสเตอร์ - เคร็ก ดอว์สัน, จอนนี่ อีแวนส์, อาห์เหม็ด เอกาซี่, อัลแล็ง นีย็อม - แม็ตต์ ฟิลลิปส์, เจค ลิเวอร์มอร์, เคลาดิโอ ยาค็อบ, นาเซอร์ ช๊าดลี่ - ซาโลมอน รอนดอน, เจย์ โรดริเกวซ

      มาร์ค ฮิวจ์ส เทรนเนอร์ของ สโต๊ค จะไม่มีชื่อของ สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ กับ อิบราฮิม อเฟลลาย สองห้องเครื่องของทีมที่ควงแขนกันเจ็บ แต่ตัวความหวังคนอื่นๆ สามารถลงรับใช้ต้นสังกัดได้แน่นอน ไล่มาตั้งแต่ ไรอัน ชอว์ครอสส์, เอริค ปีเตอร์ส, โจ อัลเลน, เซอร์ดาน ชากิรี่, โบยาน เกอร์กิช, อีริก ชูโป-โมติง และ ไซโด้ เบราฮิโน่

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
สโต๊ค (4-2-3-1) : แจ็ค บัตแลนด์ - เกล็น จอห์นสัน, ไรอัน ชอว์ครอสส์, เคิร์ต ซูม่า, เอริค ปีเตอร์ส - โจ อัลเลน, ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ - เซอร์ดาน ชากิรี่, โบยาน เกอร์กิช, อีริก ชูโป-โมติง - ไซโด้ เบราฮิโน่

      โรนัลด์ คูมัน นายใหญ่ของ เอฟเวอร์ตัน มีรายงานตัวเดี้ยงยาวเข้ามา 5 ราย ได้แก่ รอสส์ บาร์คลี่ย์, ยานนิค โบลาซี่, เจมส์ แม็คคาร์ธี่, รามิโร่ ฟูเนส โมรี่ และ ซีมุส โคลแมน นั่นหมายความว่า โฉมหน้าของ 11 ขุนพลในเกมนี้ จะผสมปนเปแข้งหน้าใหม่ลงสนามหลายคน ไม่ว่าจะเป็น ไมเคิ่ล คีน, ซานโดร รามิเรซ รวมไปถึง เวย์น รูนี่ย์

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
เอฟเวอร์ตัน (3-4-1-2) : จอร์แดน พิคฟอร์ด - คูโค่ มาร์ติน่า, ไมเคิ่ล คีน, แอชลี่ย์ วิลเลี่ยมส์, เลห์ตัน เบนส์ - ทอม เดวี่ส์, ไอดริสซ่า กูเอเย่, มอร์แกน ชไนเดอร์ลิน - ดาวี่ คลาสเซ่น - ซานโดร รามิเรซ, เวย์น รูนี่ย์

      ดาวิด ว้ากเนอร์ เฮ้ดโค้ชของ ฮัดเดอร์สฟิลด์ มีลูกทีมเดี้ยงอยู่ 4 คนเช่นกัน ได้แก่ นาห์กี้ เวลล์ส, โจนาธาน ฮ็อกก์, มาร์ติน แครนี่ และ ยอน สแตนโควิช ส่งผลให้ ว้ากเนอร์ ต้องเลือกนักเตะตามอัตภาพที่มี เชื่อว่า ฮัดเดอร์สฟิลด์ จะลงบู๊ในระบบ 4-4-1-1 ด้วยความเจียมเนื้อเจียมตัว และวาง สตีฟ มูนี่ ดาวยิงตัวใหม่ไว้เป็นศูนย์หน้าคอยจบสกอร์อยู่คนเดียว

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮัดเดอร์สฟิลด์ (4-4-1-1) : โยนาส ลอสเซิ่ล - โธมัส สมิธ, คริสโตเฟอร์ ชินด์เลอร์, มาธิอัส ยอร์เกนเซ่น, คริส เลิฟ - โธมัส อินซ์, ฟิลิป บิลลิ่ง, อารอน มัว, รายิฟ ฟาน ลา ปาร์ร่า - เอเลียส คาชุงก้า - สตีฟ มูนี่

      แฟร้งค์ เดอ บัวร์ กุนซือรายใหม่ของ คริสตัล พาเลซ มีลิสต์รายชื่อนักเตะเจ็บค้างสต็อกอยู่ 4 ราย คือ คอนเนอร์ วิคแฮม, เจมส์ แม็กอาร์เธอร์, บาการี่ ซาโก้ และ ปาเป้ ซูอาเร่ คาดว่า เดอ บัวร์ จะปรับโฉม คริสตัล พาเลซ ใหม่ ด้วยการใช้ระบบ 3-4-3 โดยจะมี "สามประสาน" ในแดนหน้าอย่าง วิลเฟร็ด ซาฮา, คริสติย็อง เบนเตเก้ และ อันดรอส ทาวน์เซ่นด์

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
คริสตัล พาเลซ (3-4-3) : จูเลี่ยน สเปโรนี่ - ลูก้า มิลิโวเยวิช, สกอตต์ แดนน์, ไยโร รีเดวัลด์ - ติโมธี่ โฟซู-เม็นซ่าห์, เจสัน พันเชี่ยน, รูเบ็น ลอฟตัส-ชี๊ค, พาทริค ฟาน อานโฮลต์ - วิลเฟร็ด ซาฮา, คริสติย็อง เบนเตเก้, อันดรอส ทาวน์เซ่นด์

      ฌอน ไดช์ กุนซือของ เบิร์นลี่ย์ จะขาดหายไปแค่ ดีน มาร์นี่ย์ กองกลางตัวหลักคนเดียวเท่านั้น ที่โดนอาการเจ็บรบกวน ส่วนขุมกำลังรายอื่นๆ พร้อมรับใช้ต้นสังกัดกันทั้งหมด คาดว่า ไดซ์ จะเลือกวางหมากในระบบ 4-5-1 เพื่อเน้นเกมรับให้เหนียวแน่นไว้ก่อน โดยจะมี โจนาธาน วอลเตอร์ส หัวหอกประสบการณ์สูงวัย 33 ปี ยืนค้ำเป็นกองหน้าตัวเป้า

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
เบิร์นลี่ย์ (4-5-1) : ทอม ฮีตัน - แม็ตธิว โลว์ตัน, เบ็น มี, เจมส์ ทาร์คอฟสกี้, สตีเฟ่น วอร์ด - ร็อบบี้ เบรดี้, สตีเฟ่น เดฟูร์, เจฟฟ์ เฮนดริค, แจ็ค คอร์ค, โยฮันน์ กุ๊ดมุนส์สัน - โจนาธาน วอลเตอร์ส

      อันโตนิโอ คอนเต้ ผู้จัดการทีมของ เชลซี หมดสิทธิ์ใช้บริการของ ดิเอโก้ คอสต้า, เอแดน อาซาร์, เปโดร โรดริเกวซ และ ตีมูเอ้ บากาโยโก้ เพราะโดนพิษไข้เดี้ยงเล่นงาน ส่วนในรายของ วิกเตอร์ โมเซส วิงก์แบ็คตัวแกร่ง จะติดโทษแบน นั่นทำให้ คอนเต้ ต้องส่ง อันโตนิโอ รูดิเกอร์ ลงประเดิมสนาม แล้วถ่าง เซซ่าร์ อัซปิลิกูเอต้า ไปเล่นวิงก์แบ็คขวาแทน

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
เชลซี (3-4-3) : ธิโบต์ กูร์กตัวส์ - อันโตนิโอ รูดิเกอร์, ดาวิด ลุยซ์, แกรี่ เคฮิลล์ - เซซ่าร์ อัซปิลิกูเอต้า, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, เชส ฟาเบรกาส, มาร์กอส อลอนโซ่ - วิลเลี่ยน, อัลบาโร่ โมราต้า, มิชี่ บัตชัวยี่

      เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือของ ลิเวอร์พูล มีรายชื่อลูกทีมเจ็บยาวเป็นหางว่าว ไล่มาตั้งแต่ อดัม บ๊อกดาน, นาธาเนี่ยล ไคลน์, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, อดัม ลัลลาน่า, แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ และ แดนนี่ อิงส์ ทำให้ "เจเค" ต้องจัดทัพเท่าที่ทรัพยากรอำนวย เชื่อว่า โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, โรแบร์โต้ เฟียร์มิโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ จะได้โอกาสลงเล่นในแผงเกมรุก

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ซิมง มิโญเล่ต์ - อเล็กซานเดอร์ เทรนด์ อาร์โนลด์, โจเอล มาติป, เดยัน ลอฟเรน, เจมส์ มิลเนอร์ - เอ็มเร่ ชาน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม - โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, โรแบร์โต้ เฟียร์มิโน่, ซาดิโอ มาเน่

      มาร์โก้ ซิลวา เทรนเนอร์คนใหม่ของ มิดเดิ้ลสโบรช์ จะไร้เงาของ คริสติย็อง คาบาเซเล่ แนวรับเชื้อสายดีอาร์คองโก เพียงรายเดียวเท่านั้น ที่ยังสลัดคราบเดี้ยงไม่ได้ คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในเกมนี้ น่าจะเป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีจากซีซั่นก่อน นำทีมมาโดย อูเรลโญ่ โกเมส, ยูเนส กาบูล, นอร์ดิน อัมราบัต และ โรเบร์โต้ เปเรย์ร่า

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
วัตฟอร์ด (4-2-3-1) : อูเรลโญ่ โกเมส - ดาริล ยานมาต, ยูเนส กาบูล, มิเกล บริตอส, โชเซ่ โฮเลบาส - อับดูลาย ดูกูเร่, นาธานเนี่ยล ชาโลบาห์ - นอร์ดิน อัมราบัต, ทอม เคลเวอร์ลี่ย์, โรเบร์โต้ เปเรย์ร่า - อันเดร เกรย์

      พอล คลีเม้นท์ กุนซือของ สวอนซี มีลิสต์นักเตะเจ็บอยู่ 4 คน คือ เฟร์นานโด้ ญอเรนเต้, กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน, คี ซุง ยอง และ นาธาน ดายเออร์ ทำให้เกมนี้ คลีเม้นท์ ต้องคิดหนักไม่น้อยในการจัดตัว แต่ก็ยังโชคดีที่กำลังสำคัญหลายคนฟิตเต็มสูบ พร้อมลงสนามกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น เฟเดริโก้ เฟร์นานเดซ, เลรอย เฟอร์, เวย์น เร้าท์เล็ดจ์ และ จอร์แดน อายิว

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
สวอนซี (4-3-1-2) : ลูคัส ฟาเบียนสกี้ - ไคล์ นอฟตัน, เฟเดริโก้ เฟร์นานเดซ, อัลฟี่ มอว์สัน, มาร์ติน โอลส์สัน - เลรอย เฟอร์, เลออน บริตตัน, ทอม แคร์โรลล์ - เวย์น เร้าท์เล็ดจ์ - ทามาราเอบี้ อับราฮัม, จอร์แดน อายิว

      เมาริซิโอ เปเญกริโน่ นายใหญ่ป้ายแดงของ เซาท์แฮมป์ตัน จะหมดสิทธิ์ใช้บริการของ อเล็กซ์ แม็กคาร์ธี่ และ เฟอร์กิล ฟาน ไดย์ค ที่ยังเดี้ยงอยู่ แต่กำลังรบที่เหลือพร้อมลุยอยู่นานแล้ว คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในเกมนี้ ไม่น่าจะต่างซีซั่นก่อนมากนัก นำทีมมาโดย เซดริก โซอาเรส, มายะ โยชิดะ, โอริออล โรเมอู, นาธาน เร้ดม่อนด์ และ เจมส์ วอร์ด-เพราส์

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
เซาท์แฮมป์ตัน (4-2-3-1) : เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ - เซดริก โซอาเรส, แจ็ค สตีเฟ่นส์, มายะ โยชิดะ, ไรอัน เบอร์ทรานด์ - โอริออล โรเมอู, สตีเว่น เดวิส - นาธาน เร้ดม่อนด์, เจมส์ วอร์ด-เพราส์, โซฟิยาน บูฟาล - มาโนโล่ กับเบียดินี่