วิเคราะห์บอล / วิเคราะห์บอลวันนี้

      คาร์โล อันเชล็อตติ เทรนเนอร์ของ บาเยิร์น ก็ประสบปัญหานักเตะเดี้ยงหลายรายเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น มานูเอล นอยเออร์, ดาวิด อลาบา, เฌโรม บัวเต็ง, ฆวน เบร์นาต, ฟาเบียน เบนโก้, ฮาเมส โรดริเกวซ, อาร์เยน ร็อบเบน และ ธิอาโก้ อัลกันตาร่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น "อันเช่" ก็เตรียมขน "อาวุธหนัก" ลงสู่สังเวียนไม่น้อยไปกว่ากัน

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
บาเยิร์น (4-2-3-1) : สเวน อุลไรช์ - โจชัว กิมมิช, ฆาบี้ มาร์ติเนซ, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, ราฟินญ่า - อาร์ตูโร่ วิดัล, โคร็องแต็ง โตลิสโซ่ - คิงส์ลี่ย์ โคม็อง, โธมัส มุลเลอร์, ฟร้องค์ ริเบรี่ - โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

      ปีเตอร์ บอสซ์ นายใหญ่ของ ดอร์ทมุนด์ มีรายชื่อลูกทีมเจ็บในมือมากมาย ไล่มาตั้งแต่ โดมินิค ไรมันน์, เอริค ดวร์ม, ราฟาเอล เกร์เรโร่, ปาร์ค จู โฮ, มาเซล ชเมลเซอร์, เอ็มเร่ มอร์, มาร์โก้ รอยส์, จูเลี่ยน ไวเกิ้ล และ อังเดร ชูร์เล่ แต่ยังดีที่ตัวสำคัญอย่าง โซเครติส, มาริโอ เกิตเซ่ และ ปิแอร์ ออบาเมย็อง พร้อมลงสนามรับใช้ต้นสังกัด

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ดอร์ทมุนด์ (4-1-2-2-1) : โรมัน บูร์กี้ - ลูคัส พิสเซ็ค, โซเครติส, มาร์ค บาร์ธ่า, ด็อง ซากาดู - นูรี ซาฮิน - กอนซาโล่ คาสโตร, มาริโอ เกิตเซ่ - อุสมาน เดมเบเล่, คริสเตียน พูลิซิช - ปิแอร์ ออบาเมย็อง

      มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี เฮ้ดโค้ชของ ยูเวนตุส จะไม่มี มาร์โก เปียซ่า กับ ลอเรนโซ่ โรเซ็ตติ ที่ต้องใช้บริการของโรงพยาบาลอยู่เหมือนเก่า แต่กำลังรบที่เหลือพร้อมลุยอยู่นานแล้ว เชื่อว่าโฉมหน้าของ 11 ตัวจริง น่าจะประกอบไปด้วย จานลุยจิ บุฟฟ่อน, มัตเตีย เด ชิโญ่, ซามี เคดิร่า, มิราเลม ปานิช, เปาโล ดีบาล่า และ กอนซาโล่ ฮิกัวอิน

      เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เทรนเนอร์ของ สเปอร์ส จะหมดสิทธิ์ใช้งาน วิคเตอร์ วานยาม่า, ซอน ฮวง มิน, อีริค ลาเมล่า, มูสซ่า ซิสโซโก้ และ แดนนี่ โรส ที่เดี้ยงกันทั้งเซ็ต คาดว่านัดนี้ โปเช็ตติโน่ จะจัดทีมในระบบ 3-4-2-1 อีกครั้ง โดยจะส่ง โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, แยน แฟร์ต็องเก้น, อีริก ไดเออร์, เดเล่ อัลลี่ และ แฮร์รี่ เคน ลงสนามเป็นตัวจริง

      โฆเซ่ อังเกล ซิกานด้า เทรนเนอร์คนใหม่ของ แอธฯ บิลเบา จะไร้เงาของ เยราย อัลบาเรซ, เอ็นริก ซาโบริต, มิเกล ริโก้ และ อันเดร์ อิตูร์ราสเป้ ที่มีอาการเจ็บรบกวน ส่วนพวกตัวหลักอย่าง อายเมริค ลาปอร์เต้, มิเกล เบเลนเซียก้า, มิเกล ซาน โฆเซ่, ราอูล การ์เซีย, อิเกร์ มูเนียอิน รวมไปถึง อาริตซ์ อาดูริตซ์ พร้อมออกสตาร์ทกันตั้งแต่ต้นเกมทุกคน

      เจอร์เก้น คล็อปป์ เฮ้ดโค้ชของ ลิเวอร์พูล จะหมดสิทธิ์ใช้งาน อดัม ลัลลานา, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ และ นาธาเนี่ยล ไคลน์ ที่ติดพิษไข้เดี้ยงกันทั้งหมด คาดว่าเกมนี้ คล็อปป์ คงจัดชุดผสมลงเล่นเหมือนนัดก่อนๆ ทำให้ดาวรุ่งอย่าง อเล็กซานเดอร์ เทรนด์ อาร์โนลด์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน และ ดิว๊อค โอริกี้ จะได้โอกาสเป็น 11 ตัวจริง

      เลียม บั๊คลี่ย์ กุนซือของ เซนต์ พาทริคส์ จะไม่มีชื่อของ เกรแฮม เคลลี่ (21 นัด / 3 ประตู) มิดฟิลด์ตัวหลักของทีม เนื่องจากติดโทษแบน แต่ขุมกำลังคนอื่นๆ พร้อมรับใช้ต้นสังกัดกันทั้งหมด เชื่อว่าโฉมหน้าของ 10 ตำแหน่งที่เหลือ น่าจะเป็นชุดเดียวกับนัดที่บุกชนะ ดร็อกเฮด้า 1-0 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะทุกคนเล่นกันได้ดีอยู่แล้ว

      เกราร์ด ลิทเทิ่ล เทรนเนอร์ของ สลิโก้ โรเวอร์ส เตรียมขน 11 ขุนพลชุดที่เปิดบ้านเสมอ ดันดอล์ค 1-1 ในเกมลีกนัดที่ผ่านมา ลงสนามกันอย่างต่อเนื่อง เพราะไม่มีปัญหาในเรื่องสภาพความพร้อมเลยสักคน นั่นหมายความว่า เบนนี่ อิไกฮอน (3 นัด / 1 ประตู) ที่เพิ่งกดประตูแรกให้กับทีมได้ในนัดดังกล่าว จะลงเล่นตั้งแต่นาทีแรก

      แฟร้งค์ ชมิดท์ เฮ้ดโค้ชของ ไฮเด้นไฮม์ จะหมดสิทธิ์ใช้บริการของ เดนิส โธมัลล่า และ โดมินิค ไวเดมันน์ สองแนวรุกของทีม เนื่องจากยังต้องใช้บริการของโรงพยาบาลอยู่ เชื่อว่าเกมนี้ ชมิดท์ จะวางหมากมาในระบบ 4-2-3-1 โดยจะมี มาธิส วิตเท็ค, เซบาสเตียน กรีสเบ็ค และ โรเบิร์ต กลัตเซิ่ล ลงสนามในฐานะ 11 ตัวจริง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไฮเด้นไฮม์ (4-2-3-1) : เควิน มุลเลอร์ - โรเบิร์ต สเตร๊าส์, มาธิส วิตเท็ค, ติโม เบียร์มันน์, อาร์เน่ ฟีค - เซบาสเตียน กรีสเบ็ค, ติช ริเวโร่ - ทิม สการ์เก้, โคลยา พุช, มาร์ก ชนัตเตอเรอร์ - โรเบิร์ต กลัตเซิ่ล

      ทอร์สเท่น ลีเบิร์คเน็ชท์ กุนซือของ บราวน์ชไวก์ จะไร้เงาของ พาทริค ชอนเฟลด์ กับ โดมินิค คุมเบล่า (1 นัด) เพราะยังสลัดคราบเดี้ยงไม่ได้ ส่วนในรายของ กีริน โมลล์ (1 นัด) กองกลางตัวสำคัญ ที่ถูกตะเพิดออกจากเกมที่บุกเสมอ ดุสเซลดอร์ฟ 2-2 จะติดโทษห้ามแข่ง คาดว่า ลูอิส แซมซัน (1 นัด) จะถูกโยกมาทำหน้าที่แทน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
บราวน์ชไวก์ (3-4-2-1) : ยัสมิน เฟย์ซิช - โยเซฟ บัฟโฟ่, กุสตัฟ วัลสวิค, สตีฟ เบรียตครอยซ์ - แยน ฮ็อคไชด์, เมียร์โก โบลันด์, ลูอิส แซมซัน, เคน ไรเชิ่ล - เฮนดริค ซุค, โอเนล เฮอร์นันเดซ - คริสตอฟเฟอร์ นีมัน

      อิสมาอิล อตาลัน เฮ้ดโค้ชของ โบคุ่ม งานเข้าตั้งแต่ต้นฤดูกาลเลย เมื่อมีรายงานนักเตะเดี้ยงเข้ามาถึง 6 ราย ไล่มาตั้งแต่ ติโม เพอร์เธิ่ล, แยน กียาเมร่าห์ (1 นัด), นิโก้ รีเบิ้ล, วิตาลี่ ยาเนลต์, อีวานเกลอส พาฟลิดิส และ เซลิม กุนดุซ (1 นัด) นั่นทำให้ อตาลัน ต้องมีการเปลี่ยน 11 ตัวจริงในหลายตำแหน่งเพื่ออุดรูรั่วและปรับสมดุลในทีม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โบคุ่ม (3-5-2) : มานูเอล รีมันน์ - ทิม ฮู้กลันด์, พาทริค ฟาเบียน, เฟลิกซ์ บาสเตียนส์ - อเล็กซานเดอร์ เมอร์เคล, สเตฟาโน่ เชลอซซี่, โธมัส ไอส์เฟลด์, อองโตนี่ โรซิลล่า, ดานิโล่ ซัวเรส - ดิมิตริออส เดียมานตากอส, ลูคัส ฮินเตอร์เซียร์

      อิเลีย กรูเยฟ นายใหญ่ของ ดุ๊ยส์บวร์ก มีรายงานลูกทีมบาดเจ็บอยู่ 3 คน คือ บาริส ออซเบ็ค, ทิม อัลบูแทต และ ซลัตโก้ ยานยิช ส่วนในรายของ ลูคัส โฟรเด้ (1 นัด) ห้องเครื่องวัย 22 ปี จะติดโทษแบน เนื่องจากโดนไล่ออกมาจากเกมที่บุกแพ้ ดินาโม เดรสเดน 0-1 เมื่อสัปดาห์ก่อน จึงต้องให้ โอลิเวียร่า ซูซ่า (1 นัด) มาทำหน้าที่แทน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ดุ๊ยส์บวร์ก (4-2-2-2) : มาร์ค เฟล็คเก้น - นิโก้ คล็อตซ์, ดัสติน บอมฮอยเออร์, เกอร์ริท นูเบอร์, เควิน โวลซ์ - โอลิเวียร่า ซูซ่า, ฟาเบียน ชเนลฮาร์ด - โมริตซ์ สต๊อปเพิ่ลคัมป์, อาห์เหม็ต เอ็นกิ้น - บอริช ทาชชี่, ไซม่อน แบรนด์สเต็ตเตอร์

      ไมค์ วัลปูร์กิส กุนซือของ อินกอลสตัดท์ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน ฟาเบียน บันติช, มักซ์ คริสเตียนเซ่น และ มอริตซ์ ฮาร์ทมันน์ ที่อาการเดี้ยงยังไม่ดีขึ้น คาดว่าเกมนี้ วัลปูร์กิส น่าจะมีการปรับหมากเล็กน้อยด้วยการส่ง สเตฟาน เล็กซ์ ลงเล่นแทน ฟิล นอยมันน์ (1 นัด) ทางกราบขวา และเปลี่ยนระบบมาเป็น 3-3-2-2 แทน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
อินกอลสตัดท์ (3-3-2-2) : มาร์ติน แฮนเซ่น - มาร์วิน มาทิป, โรแมง เบรเกอรี่, เฮาเก้ วอห์ล - สเตฟาน เล็กซ์, โทเบียส ชร๊อค, มาร์เซล เก๊าส์ - อัลเฟรโด้ โมราเลส, อัลม็อก โคเฮน - ดาริโอ เลซกาโน่, สเตฟาน คุชเก้

      เคนาน โคซัค เทรนเนอร์ของ ซานด์เฮาเซ่น ยังมีตัวเจ็บ 4 คนเท่าเดิม คือ มีร์โก บอร์น, โรเบิร์ต เฮอร์มันน์, มักซิมิเลี่ยน แยนเซ่น และ โฮเซ่ วุนกีดิก้า ดังนั้น โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในเกมนี้ คงเป็นชุดเดิมที่บุกเสมอ โฮลสไตน์ คีล 2-2 ทั้งหมด นำทีมมาโดย ลูคัส โฮเลอร์ (1 นัด) และ ริชาร์ด ซูคูต้า-พาซู (1 นัด / 1 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ซานด์เฮาเซ่น (4-2-2-2) : มาร์เซล ชูเฮน - ฟิลิปป์ คลิงมันน์, ทิม คิสเตอร์, มาร์คุส คาร์ล, ลาร์ต ปาการาด้า - สเตฟาน คูโลวิตส์, เดนิส ลินส์เมเยอร์ - เนจ์เมดดิน ดักห์ฟูส, คอร์บิเนี่ยน โฟลล์มันน์ - ลูคัส โฮเลอร์, ริชาร์ด ซูคูต้า-พาซู

      มาร์คุส อันแฟง ผู้จัดการทีมของ โฮลสไตน์ คีล ยังมีรายชื่อลูกทีมเดี้ยงอยู่ 4 คนเหมือนเก่า คือ อาร์เน่ ซิคเกอร์, ลูก้า ดูร์โฮลต์ซ, อาตาคาน คาราซอร์ และ อิลีร์ อาเซมี่ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจ ถ้า 11 ตัวจริงในเกมนี้จะเป็นชุดเดียวกับนัดเปิดสนาม โดยจะมี มาร์วิน ดุ๊คช์ (1 นัด / 1 ประตู) รับบทบาทเป็นศูนย์หน้าตัวเป้าเหมือนเดิม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โฮลสไตน์ คีล (4-1-4-1) : เคนเน็ธ ครอนโฮล์ม - พาทริค เฮอร์มันน์, โดมินิค ชมิดต์, ราฟาเอล ไซชอส, คริสโตเฟอร์ เลนซ์ - โดมินิค เพ็ตซ์ - คิงส์ลี่ย์ ชินด์เลอร์, อเล็กซานเดอร์ มูห์ลิ่ง, โดมินิค เดร็กซ์เลอร์, สตีเฟ่น เลเวเรนซ์ - มาร์วิน ดุ๊คช์

      เยนส์ เคลเลอร์ เฮ้ดโค้ชของ ยูนิโอน เบอร์ลิน จะหมดสิทธิ์ใช้งาน อาคาคิ กอก้า มิดฟิลด์วัย 25 ปี ที่มีอาการเจ็บส้นเท้า แต่คงไม่มีผลอะไรกับการจัดทัพแน่นอน เพราะ เคลเลอร์ เตรียมยก 11 ขุนพลชุดที่บุกชนะ อินกอลสตัดท์ 1-0 ลงสนามเล่นกันต่อเนื่อง นำทีมมาโดย คริสโตเฟอร์ ทริมเมิ่ล (1 นัด / 1 ประตู) แบ็คขวาผู้ซัดประตูชัย

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ยูนิโอน เบอร์ลิน (4-1-2-3) : ยาค็อบ บุสค์ เยนเซ่น - คริสโตเฟอร์ ทริมเมิ่ล, โทนี่ ไลส์เนอร์, มาร์ก ตอร์เรฆอน, คริสเตียน พีเดอร์เซ่น - เฟลิกซ์ โครส - มาเซล ฮาร์เทิ่ล, ดาเมียร์ ไครลัค - สตีเฟ่น สเคอร์ซิบสกี้, เซบาสเตียน โพลเตอร์, ไซม่อน เฮดลุนด์

      ทอร์สเท่น ฟริ๊งส์ เฮ้ดโค้ชของ ดาร์มสตัดท์ จะไร้เงาของ แยน โรเซนธาล ห้องเครื่องตัวเก๋าวัย 31 ปี เพียงรายเดียวเท่านั้น เนื่องจากเจ็บยาวอยู่ ส่วนขุมกำลังคนอื่นๆ ยังอยู่กันครบ คาดว่า ฟริ๊งส์ ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลง 11 ตัวจริง จากเกมก่อนที่เปิดบ้านชนะ กรอยเธอร์ เฟือร์ธ 1-0 แต่อย่างใด เพราะทุกคนทำหน้าที่กันได้อย่างยอดเยี่ยมแล้ว

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ดาร์มสตัดท์ (4-2-3-1) : ฮอยเออร์ แฟร์นันเดส - ซานโดร ซิริกู, ปีเตอร์ นีเมเยอร์, อายทัก ซูลู, ฟาเบียน ฮอลลันด์ - ฮามิต อัลตินท็อป, ยานนิค สตาร์ค - โทเบียส เคมพ์, มาร์วิน เมห์เล็ม, เควิน โกร๊สครอยซ์ - อาร์เตอร์ โซเบียค

      นอร์แบร์ต เมเยอร์ นายใหญ่ของ ไกเซอร์ฯ มีปัญหาเรื่องลูกทีมเดี้ยงหลายรายเลย ไล่มาตั้งแต่ มาร์เซล คอร์เรอา, พาทริค ซีกเลอร์, โซลตาน สตีเบอร์, เกอร์วาน กาสตาเนียร์, ฌัดส์ ซูอา และ แค็กเปอร์ เพอร์ซีบิลโก้ แถมยังเพิ่งมาเสีย ยูเลียโน่ โมดิก้า (1 นัด) แนวรับชาวอาร์เจนไตน์ สังเวยเกมแรกที่บุกไปแพ้ เนิร์นเเบร์ก 0-3 ไปอีกคนอีก

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไกเซอร์ฯ (4-2-3-1) : มุลเลอร์ - ฟิลิปป์ เวเน่, สติเป้ วูร์คูร์, โรบิน ค็อก, เลออง กูวาร่า - ดาเนี่ยล ฮัลฟาร์, แมดส์ อัลเบค - แบรนดอน บอร์เรลโล่, คริสโตฟห์ มอริตซ์, บาริส อาทิค - โอซายาเมน โอซาเว่

      นีล แม็คโดนัลด์ กุนซือของ ลิเมริค ไม่มีอะไรให้กังวลในการเลือกตัวผู้เล่น เพราะไม่มีรายงานความเสียหายใดๆ เข้ามาแม้แต่รายเดียว คาดว่า แม็คโดนัลด์ น่าจะปรับ 11 ตัวจริงในบางจุด แต่สำหรับ เดวิด โอคอนนอร์ (9 นัด), โรดริโก้ โตซี่ (23 นัด / 10 ประตู) และ ชีโดซี่ อ็อกเบเน่ (22 นัด / 5 ประตู) จะได้ลงเล่นเหมือนเก่า

      สตีเฟ่น เคนนี่ นายใหญ่ของ ดันดอล์ค ต้องรอเช็คความฟิตของ พาทริค แม็คอีเลนี่ย์ (20 นัด / 8 ประตู) ดาวยิงวัย 24 ปี ก่อนลงสนามอีกครั้งว่าไหวหรือเปล่า เพราะไม่ได้เล่นมาหลายนัดแล้ว ส่วนกำลังรบที่เหลือพร้อมลุยกันอยู่ทุกคน โดยเฉพาะ เดวิด แม็คมิลลาน (21 นัด / 12 ประตู) ที่กระสันลงสนามซะเหลือเกิน

      จอห์น คอลฟิลด์ นายใหญ่ของ คอร์ก ซิตี้ ยังหมดสิทธิ์ใช้บริการของ จอห์นนี่ ดันเลวี่ย์ (12 นัด / 2 ประตู) ที่เดี้ยงยาวมาก่อนหน้า ส่วนในรายของ อลัน เบนเน็ตต์ (16 นัด), จิมมี่ คีโอฮาน (19 นัด / 3 ประตู), สตีเฟ่น ดูลี่ย์ (20 นัด / 3 ประตู) และ ไรอัน เดลานี่ย์ (22 นัด / 5 ประตู) ต้องรอเช็คความฟิตกันอีกครั้ง

      พีท มาห์น เฮ้ดโค้ชของ ดร็อกเฮด้า จะไม่มีชื่อของ สตีเฟ่น เอลเลียตต์ (15 นัด / 2 ประตู), ไคแรน แม็คกุยแกน (18 นัด / 1 ประตู), เควิน ฟาร์ราเกอร์ (5 นัด) และ เกวิน เบรนแนน (13 นัด / 1 ประตู) ที่มีอาการเจ็บรบกวน แต่สำหรับ ลุค กัลลาเกอร์ (23 นัด) พร้อมลงสนามคุมแดนกลางให้กับทีมได้แน่นอน

      แฮร์รี่ เคนนี่ เทรนเนอร์ของ เบรย์ วันเดอเรอร์ส จะไร้เงาของ ปีเตอร์ เชอร์รี่ (24 นัด) ผู้รักษาประตูมือหนึ่งของทีม เพราะจะติดโทษแบน เนื่องจากโดนไล่ออกมาจากเกมที่เปิดบ้านแพ้ ฟินน์ ฮาร์ปส์ 2-3 เมื่อสัปดาห์ก่อน นั่นหมายความว่า เคนนี่ ต้องเรียกใช้งาน ลี สตาซี่ย์ (1 นัด) มาลงเฝ้าเสาเป็นตัวจริงแทน

      คีธ ลอง เฮ้ดโค้ชของ โบฮีเมี่ยนส์ หมดสิทธิ์ใช้งานนักเตะ 4 ราย ได้แก่ อีโออิน เวเรน, แดน คาซี่ย์ (3 นัด), วอร์เรน โอฮาร่า (6 นัด) และ เกร็ก เมอร์เรย์ (1 นัด) แต่คงไม่ส่งผลกระทบอะไร เพราะ ลอง น่าจะยังไม่เปลี่ยน 11 ขุนพลชุดปัจจุบัน เพราะลูกทีมทุกคนกำลังทำผลงานกันได้อย่างยอดเยี่่ยมอยู่แล้วนั่นเอง

      คริสเตียน สไตรช์ ผู้จัดการทีมของ ไฟร์บวร์ก ยังคงหมดสิทธิ์ใช้งาน คาริม กูเอเด้ กับ โอเนอร์ บูลุต ที่โรคเดี้ยงยังคงครอบงำอยู่เหมือนเดิม แต่เชื่อว่าไม่น่าหนักใจอะไรสำหรับ สไตรช์ เพราะตัวหลักๆ อย่าง คักลาร์ โซยุนกู, นีลส์ เพเตอร์เซ่น รวมไปถึง ฟลอเรียน นีแดร์เลชเนอร์ พร้อมจะลุยช่วยต้นสังกัดอยู่ตั้งนานแล้ว

      ไซม่อน รอซมัน นายใหญ่ของ ดอมซาเล่ ไม่ได้มีรายงานอาการเจ็บหรือติดโทษห้ามแข่งของนักเตะเข้ามา นั่นหมายความว่า รอซมัน สามารถจัดทีมชุดที่ดีที่สุดลงสนามได้อีกครั้ง เชื่อว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง น่าจะยังเป็นชุดเดิมเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยจะมี อีวาน ไฟเรอร์ (2 นัด) เป็นตัวความหวังในการพังประตู

      ยอสซี่ อาบูคาซิส กุนซือของ บีไน เยฮูด้า ไม่มีเรื่องให้ต้องกังวลในการจัดทีม เพราะลูกทีมฟิตเต็มสูบกันทั้งหมด คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในวันนี้ ไม่น่าจะต่างจากเกมเลกแรกที่ อิสราเอล โดยจะมี รอย กอร์ดาน่า กองกลางวัย 27 ปี คอยสร้างสรรค์เกมอยู่หลัง มาวิส ทชิโบต้า ที่ลงเป็นกองหน้าตัวความหวังในการผลิตสกอร์

      โรแบร์โต้ มันชินี่ เฮ้ดโค้ชของ เซนิตฯ ยังไม่มีชื่อของ อีวาน โนโวเซลต์เซฟ กับ วิคตอร์ ฟายซูลิน ที่ต้องใช้บริการของโรงพยาบาลอยู่ แต่คงไม่ส่งผลกระทบอะไรในเกมนี้ เพราะ "มันโช่" คงเลือกโรเตชั่นนักเตะลงสนามเพื่อให้ตัวหลักได้พักบ้าง แต่สำหรับ อเล็กซานเดอร์ โคโคริน (3 นัด / 2 ประตู ) น่าจะได้รับบทเพชรฆาตเหมือนเก่า

      มารินอส อูซูนิดิส นายใหญ่ของ พานาธิไนกอส เหลือตัวเจ็บเพียงแค่ จอร์จอส โคอูโตรอุมบิส กับ ลูคัส วิญาฟาเนซ แล้วเท่านั้น ทำให้สภาพความพร้อมในเกมนี้ค่อนข้างสมบูรณ์เลย คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในใจของ อูซูนิดิส น่าจะเป็นชุดเดียวกับที่เปิดบ้านชนะ 1-0 ได้ก่อน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

      โรมัน กริกอร์ชุค เทรนเนอร์ของ กาบาล่า ไม่มีปัญหาใดในการจัดทัพ เนื่องจากลูกทีมทุกคนอยู่ในสภาพพร้อมรบ 100% สามารถเรียกใช้บริการได้ทั้งหมด เชื่อว่า กริกอร์ชุค คงจัดหนักจัดเต็มที่สุดเท่าที่จะทำได้ ด้วยการส่ง วิตาลี่ เวอร์นีดุ๊บ, ยาวิด ฮูเซย์นอฟ และ บากาลี่ย์ ดาโบ ลงสนามในนาม 11 ตัวจริง

      ฟรังโก้ โฟดา ผู้จัดการทีมของ สตวร์ม กราซ มีรายชื่อลูกทีมเดี้ยงอยู่ 5 ราย ได้แก่ คริสเตียน ชูลซ์, มาร์ค ชเมอร์บ็อค, คริสเตียน ชอยส์เซนเกเยอร์, ลูคัส สเพนด์โฮเฟอร์ และ โอลิเวอร์ ฟิลิป นั่นทำให้ โฟดา ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลง 11 ตัวจริงได้มากนัก น่าจะยังเรียกใช้งานชุดเดิมที่เปิดบ้านพ่าย 1-2 ต่อไปอีกนัด

      อายคุต โคชามัน เทรนเนอร์ของ เฟเนร์บาห์เช่ ต้องรอเช็คความฟิตของ ไซม่อน ชาร์, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ย์ และ เเฟร์นานเดา ก่อนลงสนามในค่ำคืนนี้อีกครั้ง ว่ามีใครที่จะลงรับใช้ต้นสังกัดทันบ้าง แต่สำหรับ มาติเยอ วัลบูเอน่า, ซูซ่า และ โอซาน ตูฟาน พร้อมออกสตาร์ทตั้งแต่นาทีแรกของเกมอย่างแน่นอน

      มาริโอ ซวิตาโนวิช เทรนเนอร์ของ ดินาโม ซาเกร็บ จะไร้เงาของ ต็องโก้ ดุมเบีย, โยซิป ปิราวิช และ บอร์นา โซซ่า (1 นัด) ที่ยังมีอาการเจ็บรบกวนอยู่ เชื่อว่า ซวิตาโนวิช เตรียมยก 11 ขุนพลชุดที่เปิดบ้านชนะมา 2-1 ลงสนามอีกครั้ง นำทีมมาโดย อาร์มิน ฮ็อดซิช (3 นัด / 2 ประตู) ดาราของทีม

      แด็ก ฟาเกอร์โม่ กุนซือของ อ็อดด์ ต้องรอเช็คความฟิตของ เฟรดริค นอร์ดคเวลล์ (15 นัด / 1 ประตู) ห้องเครื่องตัวสำคัญ ก่อนลงสนามอีกครั้ง ว่าพร้อมลงสนามหรือไม่ ส่วนขุมกำลังที่เหลือไม่มีปัญหาใดในการเรียกใช้งาน คาดว่า โยเน่ ซามูเอลเซ่น (11 นัด) จะได้ลงคุมเกมในแดนกลางเหมือนเดิม

      รูดี้ การ์เซีย ผู้จัดการทีมของ มาร์กเซย จะมีนักเตะเดี้ยงค้างสต็อกอยู่ 3 รายเท่าเดิม คือ อองรี เบดิโม่, บูน่า ซาร์ และ ร็อด ฟานนี่ นั่นหมายความว่า การ์เซีย สามารถยึดทีมชุดเดิมที่เปิดบ้านชนะมาก่อน 4-2 ลงสนามต่ออีกนัด นำทีมมาโดย วาเลเร่ แชร์แม็ง ดาวยิงวัย 27 ปี ที่เพิ่งระเบิดแฮตทริคได้ในเกมดังกล่าว

      อีฟ ฟานเดอร์แฮเก้ห์ เฮ้ดโค้ชของ อุสเตนด์ ยังไม่มีชื่อของแข้งหน้าใหม่อย่าง นิโกล่าส์ ราจ์เซล เหมือนเก่า เพราะอาการเจ็บยังไม่ดีขึ้น แต่นักเตะคนอื่นๆ พร้อมลุยกันอยู่นานแล้ว เชื่อว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในเกมนี้ ไม่น่าจะต่างจากเกมเลกแรกมากนัก โดยจะมี โนว์เล็ด มูโซน่า (1 นัด) ยืนเป็นกองหน้าคอยล่าตาข่าย

      โกเซ่ เซ็ดโลสกี้ กุนซือของ วาร์ดาร์ จะเหลือแค่ เพ็ตคอฟสกี้ กับ สโตจ์คอฟ ที่ยังเดี้ยงค้างสต็อกอยู่ ส่วนในรายของ จัมบูล จิกาห์อูรี่ กองกลางชาวจอร์เจีย ต้องรอเช็คความฟิตก่อนลงสนามอีกครั้ง แต่สำหรับ โจนาธาน บาโลเตลลี่ หัวหอกชาวแซมบ้า ผู้ยิงประตูชัยในเกมแรกที่เปิดบ้านชนะ 1-0 พร้อมลงล่าตาข่ายอย่างแน่นอน

      สตาเล่ โซลบัคเค่น นายใหญ่ของ โคเปนเฮเก้น มีรายชื่อลูกทีมเจ็บอยู่ในมือ 4 ราย ได้แก่ ทอม โฮกลี (1 นัด), ปีเตอร์ อันเคอร์เซ่น, นิโคไล บอยเลเซ่น (3 นัด) และ ราสมุส ฟอล์ค คาดว่า โซลบัคเค่น เตรียมใช้ 11 ขุนพลชุดที่ดีที่สุดเท่าที่จัดได้ลงบู๊ โดยจะมี อังเครย่า พาฟโลวิช (3 นัด / 1 ประตู) ลงเป็นกองหน้าตัวความหวัง

      มาโนโล่ ฆิเมเนซ เฮ้ดโค้ชของ เออีเค เอเธนส์ มีลิสต์ลูกทีมเดี้ยงในมืออยู่ 3 ราย คือ โรนัลด์ บาร์กาส, อนาสตาซิออส บาคาเซตาส และ คอนสแตนตินอส ลัมโบรปูลอส แต่ไม่น่าจะส่งผลในการจัดทัพ เนื่องจาก ฆิเมเนซ น่าจะเลือก 11 ขุนพลชุดเดิมสู้ศึกต่อไป โดยจะมี มาร์โก้ ลิเวย่า ยืนค้ำเป็นศูนย์หน้าตัวเป้าให้กับทีม

      วิคตอร์ กอนชาเรนโก้ เทรนเนอร์ของ ซีเอสเคเอ มอสโก ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน โรมัน เอเรเมนโก้ มิดฟิลด์ชาวฟินแลนด์เหมือนเดิม เพราะถูกแบนเนื่องจากไม่ผ่านการตรวจโด๊ป ส่วนกำลังสำคัญคนอื่นๆ ยังอยู่กันครบ ไม่ว่าจะเป็น อิกอร์ อคินเฟเยฟ (3 นัด), อเล็กเซ เบเรซุตสกี้ (2 นัด) และ "จอมทัพ" อย่าง อลัน ซาโกเยฟ (3 นัด)

      มิโรสลาฟ ดูคิช กุนซือของ ปาร์ติซาน เบลเกรด ขาดหายไปเพียงแค่ เนมันย่า สเตวาโนวิช นายด่านวัย 25 ปี คนเดียวเท่านั้น ที่ยังต้องใช้บริการของโรงพยาบาลอยู่ นั่นหมายความว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในเกมนี้ ไม่น่าจะต่างจากเกมก่อนที่เปิดบ้านแพ้ 1-3 นำทีมมาโดย ตาวัมบ้า คาน่า (2 นัด / 2 ประตู) ดาวยิงชาวแคเมอรูน

      เบสนิค ฮาซี่ ผู้จัดการทีมของ โอลิมเปียกอส ยังไม่มีชื่อของ อันเดร มาร์ตินส์, ทาริค เอลยูนูสซี่ และ โบเตีย ที่เดี้ยงยาวมาจากซีซั่นก่อน ในขณะที่ พานาโจติส ทาชต์ซิดิส กับ ปาเป้ ซิสเซ่ สองแข้งป้ายแดง ก็อดบู๊เช่นกัน เพราะลงทะเบียนไม่ทัน แต่สำหรับ โมฮัมเหม็ด เบน ที่กดคนเดียว 2 ตุงในเกมแรก พร้อมลุยอย่างแน่นอน

      มิลอส โยคซิช เทรนเนอร์ของ นครราชสีมา น่าจะจัดหนักจัดเต็มด้วยทีมชุดใหญ่ค่อนข้างแน่ นั่นหมายความว่า วิคเตอร์ อิกโบเนโฟ่ (23 นัด / 1 ประตู), ณัฐพงษ์ สายริยา (14 นัด),โดมินิค อาดิยิอาห์ (22 นัด / 6 ประตู), อันโตนีโอ พีน่า (24 นัด / 2 ประตู) และ เปาโล รานเกล (7 นัด / 7 ประตู) จะพาเหรดกันลงเล่นเป็นตัวจริงทุกคนในเกมนี้

      มาโน่ โพลกิ้ง เฮ้ดโค้ชของ แบงค็อกฯ จะหมดสิทธิ์ใช้บริการของ เมดาห์ พูลาดี้ (4 นัด) มิดฟิลด์ทีมชาติอิหร่าน ที่ไม่มีชื่อลงทะเบียน แต่ก็จะมี "โจโจ้" เจย์ซี่ ออควุนวานเน่ (6 นัด / 4 ประตู) หัวหอกร่างยักษ์โผล่มาทดแทน เชื่อว่า ภานุพงศ์ วงศ์ษา (5 นัด), วิทยา หมัดหลำ (13 นัด) และ จักรพันธ์ พรใส (1 นัด) อาจจะได้โอกาสลงสนามบ้าง

      ธชตวัน ศรีปาน กุนซือของ เมืองทองฯ ยังไม่มีชื่อของ สารัช อยู่เย็น (2 นัด) เหมือนเดิม แต่ขุมกำลังที่เหลือฟิตพร้อมลุยกันทั้งหมด คาดว่าเกมนี้ "โค้ชแบน" จะเลือกใช้งาน ธีราทร บุญมาทัน (22 นัด / 7 ประตู), เฮเเบร์ตี้ แฟร์นันเดส (7 นัด / 2 ประตู) และ ธีรศิลป์ แดงดา (21 นัด / 12 ประตู) ลงเป็นแกนของทีม

      โชคทวี พรหมรัตน์ นายใหญ่ของ เชียงใหม่ เตรียมขนนักเตะชุดที่ดีที่สุดลงบู๊ เพื่อหวังหักด่านผ่าน "กิเลนผยอง" ไปให้ได้ เชื่อว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในใจของ "โค้ชโชค" น่าจะนำทีมมาโดย "สามประสานต่างชาติ" ที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน ได้แก่ เยนดริก รุยซ์, บรูโน่ เวลลิงตัน และ ฮริสติยาน คีรอฟสกี้

      สมชาย ชวยบุญชุม นายใหญ่ของ ราชนาวี ต้องรอเช็คความฟิตของ โรดริโก้ เเวร์จิลิโอ (21 นัด / 12 ประตู) ดาวยิงตัวสำคัญ ก่อนลงสนามอีกครั้ง ส่วนนักเตะคนอื่นๆ ไม่ได้มีปัญหาในการเรียกใช้งาน คาดว่า "น้าฉ่วย" จะวางตัว อาเดโฟลาริน ดูโรซินมี่ (21 นัด / 7 ประตู) ให้ลงป่วนเกมรับคู่ต่อสู้เหมือนกับนัดที่ผ่านๆ มา

      สุรชัย จตุรภัทรพงษ์ เฮ้ดโค้ชของ บางกอกกล๊าส จะไร้เงาของ อรรถวิทย์ สุขช่วย, ศิวกร แสงวงศ์ (2 นัด) และ อาเรียล โรดริเกวซ (14 นัด / 5 ประตู) เพราะโดนอาการบาดเจ็บรบกวน แต่กำลังรบที่เหลือพร้อมลุยกันทั้งหมด โดยเฉพาะ "อีซ้ายทะลวงไส้" ยาสมานี่ คัมโปส (24 นัด / 9 ประตู) ที่ฟอร์มกำลังเข้าที่เข้าทางเหลือเกิน

      เอดูอาร์โด้ บิเญกาส กุนซือของ โอเรียนเต้ จะไม่มีชื่อของ เปโดร กาลินโด้ (3 นัด) ผู้รักษาประตูมือหนึ่งของทีม เนื่องจากโดนใบแดงมาจากเกมก่อน จึงทำให้ติดโทษแบนในนัดนี้ แต่ยังดีที่ขุมกำลังรายอื่นๆ ฟิตเต็มสูบกันทั้งหมด เชื่อว่า ฆอร์เก้ ฟลอเรส นายด่านวัย 28 ปี จะได้รับความไว้วางใจจาก บิเญกาส ให้ลงเฝ้าเสาในเกมนี้

      ริคาร์โด้ เซลินสกี้ เทรนเนอร์ของ แอต.ตูคูมัน เตรียมขน 11 ขุนพลชุดเดิมที่บุกไปเอาชนะที่ โบลิเวีย 3-2 ในเกมนัดแรก ลงสนามรับใช้ต้นสังกัดกันต่อ เนื่องจากไม่มีรายงานความเสียหายใดเกิดขึ้น คาดว่า เซลินสกี้ จะวางหมากมาในระบบ 4-3-3 โดยจะมี หลุยส์ โรดริเกวซ (21 นัด / 4 ประตู) ยืนเป็นปีกขวา คอยป่วนแนวรับคู่แข่งขัน

      กุสตาโว่ อัลฟาโด้ เฮ้ดโค้ชของ ฮูรากัน จะหมดสิทธิ์ใช้งาน อเลฆันโดร โรเมโร่ (27 นัด / 2 ประตู) แนวรุกวัย 22 ปี ที่โดนตะเพิดออกมาในเกมเลกแรก ทำให้ติดโทษห้ามแข่งในนัดนี้ แต่กำลังรบที่เหลือพร้อมลุยกันทั้งหมด คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง ไม่น่าจะต่างจากนัดที่โดนถลุงมาก่อน 1-5 เนื่องจากเป็นทีมชุดที่ดีที่สุดอยู่แล้ว

      เฟร์นานโด ฆูเบโร่ นายใหญ่ของ ลิเบร์ตัด ไม่มีปัญหาใดๆ ในการลุยศึกนัดนี้ เพราะไม่มีรายงานนักเตะบาดเจ็บหรือติดโทษห้ามแข่งเข้ามาเลยสักราย นั่นหมายความว่า ฆูเบโร่ สามารถโรเตชั่นนักเตะตัวหลักไปพักได้ตามสบาย โดยน่าจะส่ง อันโตลิน อัลคาราซ (13 นัด / 1 ประตู) ปราการหลังประสบการณ์สูง ลงสนามประคองน้องๆ ในทีม

      กิลมาร์ ดาลล์ ปอซโซ่ นายใหญ่ของ ยูเวนตูเด้ ก็ไม่มีเรื่องให้ต้องกังวลใจเช่นกันในการจัดทีม เมื่อสภาพความพร้อมของลูกทีมทุกคนสมบูรณ์ 100% คาดว่า ปอซโซ่ น่าจะยังวางใจใน 11 ขุนพลที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน โดยจะมี วอลลาเซอร์ (14 นัด / 4 ประตู) กับ ติอาโก้ มาร์เกวส (17 นัด / 7 ประตู) ยืนเป็นกองหน้าคู่กันคอยล่าตาข่าย

      มาร์ซิโอ โคเอลโญ่ เฮ้ดโค้ชของ ฟิกูเรนเซ่ ไม่มีรายงานความเสียหายใดๆ ของลูกทีมเข้ามา จึงสามารถเลือกจัดทีมได้ตามสะดวก เชื่อว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในเกมนี้ ก็น่าจะยังเป็นตัวเดิมๆ เหมือนเก่า นำทีมมาโดย มาร์ควินญอส (8 นัด), เซ อันโตนิโอ (14 นัด / 1 ประตู), ดูดู้ วิเอร่า (17 นัด) และ ร็อบสัน (16 นัด / 6 ประตู)

      เคนาน โคซัค เทรนเนอร์ของ ซานด์เฮาเซ่น จะไร้เงาของ มีร์โก บอร์น, โรเบิร์ต เฮอร์มันน์, มักซิมิเลี่ยน แยนเซ่น และ โฮเซ่ วุนกีดิก้า ที่มีอาการเจ็บรบกวน เชื่อว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริงในเกมนี้ จะเป็นชุดเดิมทั้งหมด ยกเว้นแค่ เนจ์เมดดิน ดักห์ฟูส กับ อาลี อิบราฮิมาจ สองแข้งหน้าใหม่ที่จะได้ออกสตาร์ทเป็นเกมแรก

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ซานด์เฮาเซ่น (4-2-2-2) : มาร์โก คัลเลอร์ - ฟิลิปป์ คลิงมันน์, ทิม คิสเตอร์, มาร์คุส คาร์ล, ดาเมียน รอสบัค - สเตฟาน คูโลวิตส์, เดนิส ลินส์เมเยอร์ - เนจ์เมดดิน ดักห์ฟูส, อาลี อิบราฮิมาจ - ลูคัส โฮเลอร์, ริชาร์ด ซูคูต้า-พาซู

      มาร์คุส อันแฟง ผู้จัดการทีมของ โฮลสไตน์ คีล มีรายชื่อลูกทีมตกหล่นอยู่ 4 คน คือ อาร์เน่ ซิคเกอร์, ลูก้า ดูร์โฮลต์ซ, อาตาคาน คาราซอร์ และ อิลีร์ อาเซมี่ เพราะยังต้องใช้บริการของโรงพยาบาลอยู่ คาดว่า อันแฟง จะวางหมากมาในระบบ 4-1-4-1 โดยจะมี มาร์วิน ดัคช์ หัวหอกวัย 23 ปี รับบทบาทเป็นศูนย์หน้าตัวเป้า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โฮลสไตน์ คีล (4-1-4-1) : เคนเน็ธ ครอนโฮล์ม - พาทริค เฮอร์มันน์, โดมินิค ชมิดต์, ราฟาเอล ไซชอส, คริสโตเฟอร์ เลนซ์ - โดมินิค เพ็ตซ์ - คิงส์ลี่ย์ ชินด์เลอร์, อเล็กซานเดอร์ มูห์ลิ่ง, โดมินิค เดร็กซ์เลอร์, สตีเฟ่น เลเวเรนซ์ - มาร์วิน ดัคช์

      โธมัส เล็ตช์ นายใหญ่คนใหม่ของ เออร์ซเกเบียร์เก้ เอา ก็ขาดไปแค่ นิคกี้ อ๊าดเลอร์ ดาวยิงวัย 32 ปี เท่านั้น ที่ยังเจ็บไม่หายเหมือนเดิม ส่วนขุมกำลังที่เหลือพร้อมลุยทุกคน คาดว่า เล็ตช์ เตรียมปรับโฉม 11 ขุนพลใหม่เกือบหมด โดยจะมีตัวใหม่อย่าง นิโคไล รัป กับ เดนนิส เคมพ์ มาช่วยขันเกมรับให้เหนียวแน่นขึ้นกว่าเดิม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เออร์ซเกเบียร์เก้ เอา (3-4-2-1) : มาร์ติน มานเนิ่ล - ฟาเบียน คาลิก, นิโคไล รัป, เดนนิส เคมพ์ - เซบาสเตียน แอร์ตเนอร์, ฟานดริช, วีดร้า, คาโลเกโร่ ริซซูโต้ - มาริโอ เคซิช, ดิม่า นาซารอฟ - ปาสกาล ค็อปเค่

      แฟร้งค์ ชมิดท์ เฮ้ดโค้ชของ ไฮเด้นไฮม์ ยิ้มร่าได้ก่อนคิกออฟเลย เมื่อสภาพความพร้อมของทีมสมบูรณ์สุดขีด ไม่มีใครบาดเจ็บหรือติดโทษแบนเลย นั่นหมายความว่า บรรดาแกนหลักจากฤดูกาลก่อนอย่าง เควิน มุลเลอร์, มาธิส วิตเท็ค, เซบาสเตียน กรีสเบ็ค และ จอห์น เวอร์ฮ็อค จะพาเหรดกันลงเล่นแบบครบครัน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไฮเด้นไฮม์ (4-2-2-2) : เควิน มุลเลอร์ - สเตร๊าส์, มาธิส วิตเท็ค, เบียร์มันน์, อาร์เน่ ฟีค - ติช ริเวโร่, เซบาสเตียน กรีสเบ็ค - มาร์ก ชนัตเตอเรอร์, โดฟดาน - กลัตเซิ่ล, จอห์น เวอร์ฮ็อค

      อิเลีย กรูเยฟ เฮ้ดโค้ชของ ดุ๊ยส์บวร์ก มีลิสต์ลูกทีมบาดเจ็บอยู่ 3 ราย ได้แก่ บรานิเมียร์ บานิค, ทิม อัลบูแทต และ ซลัตโก้ ยานยิช แต่คงไม่น่าหนักใจมากนัก เพราะ กรูเยฟ เตรียมขนแข้งป้ายแดงลงเล่นกันเป็น 11 ตัวจริงอย่างครบครัน ไล่มาตั้งเเต่ ลูคัส โฟรเด้, มอริตซ์ สต๊อปเพิ่ลคัมป์ รวมไปถึง โอลิเวียร่า ซูซ่า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ดุ๊ยส์บวร์ก (4-2-2-2) : เฟล็คเก้น - คล็อตซ์, บอมฮอยเออร์, นูเบอร์, เควิน โวลซ์ - โฟรเด้, ชเนลฮาร์ด - สต๊อปเพิ่ลคัมป์, โอลิเวียร่า ซูซ่า - ทาชชี่, คิงส์ลี่ย์ โอนูเย็กบู

      อูเว่ นอยฮุส นายใหญ่ของ ดินาโม เดรสเดน จะหมดสิทธิ์ใช้งาน ฟลอเรียน บัลลัส, มาร์โก ฮาร์ทมันน์, ออสมัน และ นิคลาส ฮุปมันน์ ที่เดี้ยงยาวมาจากซีซั่นก่อน ทำให้ต้องหันไปพึ่งพานักเตะใหม่อย่าง มาร์วิน ชว้าบ , โซเรน กอนเธอร์ และ ริโก้ เบนาเตลลี่ ในการสู้ศึกบุนเดสลีก้า 2 นัดเปิดฤดูกาลในเกมวันนี้

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ดินาโม เดรสเดน (4-3-3) : มาร์วิน ชว้าบ - นิคลาส ครอยเซอร์, ยานนิค มุลเลอร์, กอนเธอร์, ฟิลิป ไฮส์ - เบนาเตลลี่, มานูเอล คอนราด, อันเดรียส แลมเบิร์ต - มอสเชิ่ล, เทสโทร้ต, เอริช เบอร์โก้