วิเคราะห์บอล / วิเคราะห์บอลวันนี้

ส่วนทีมเยือน เรอัล มูร์เซีย ทีมในศึก เซกุนด้า เบ ไม่มีอะไรจะเสียแล้วหลังพ่ายยับคารังตัวเอง ซึ่งเกมนี้พวกเขาจะไม่มีแน่ๆคือสองแนวรับอย่าง ฆวนร่า (9 นัด 1 ประตู) และ ออร์ติซ (12 นัด) ที่เจ็บ ซ้ำร้ายกองหน้าดาวซัลโวอย่าง ซอร์ริญ่า (11 นัด 6 ประตู)ดันถูกคาดโทษในเกมนี้ทำให้ มาร์ติน จะได้โอกาสลงล่าตาข่ายแทน โดยมี นาดยิบ, ยอเรนเต้ และ โมลิเนโร่ เป็นตัวสนับสนุน

ยูเซอาเอม มูร์เซีย (4-2-3-1) : ซานโตเม่ ; เฟเด เบก้า, ออร์ฟิล่า, มาเตออส, ฟอร์นิเอส ; ซานเชซ, ฆวนม่า ; นาดยิบ, ยอเรนเต้, โมลิเนโร่ ; มาร์ติน

เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ เทรนเนอร์ บาร์เซโลน่า ตุนสกอร์ในเกมแรกมา 3-0 ทำให้เกมที่สนาม คัมป์ นู นั้นง่ายขึ้นเยอะจึงไม่แปลกที่จะเห็นเหล่าแข้งสำรองกลับมาได้พิสูจน์ฝีเท้าอีกนัดในเกมนี้ ส่วนผู้เล่นที่ยังบาดเจ็บแน่นอนว่าจะไม่มี อุสมาน เดมเบเล่ ปีกวัย 20 ที่ยังเดี้ยงรวมไปถึง ราฟินญ่า, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ กับ เซร์จี้ โรเบร์โต้ ส่วน เคราร์ด ปีเก้ กองหลังตัวหลักจะพ้นโทษแบนมาเรียกความฟิตในนีดนี้โดยมี โธมัส แฟร์มาเล่น เป็นคู่หู ส่วนสามประสานแดนหน้าจะปรับมาใช้ อเล็กซ์ บิดัล, ปาโบล อัลกาเซร์ และ เคราร์ด เดโลเฟว

บาร์เซโลน่า (4-3-3) : แยสเปอร์ ซิลเลสเซ่น ; เนลซอน เซเมโด้, โธมัส แฟร์มาเล่น, เคราร์ด ปีเก้, ลูคัส ดีญ ; การ์เลส อาเลน่า, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, เดนิส ซัวเรซ ; อเล็กซ์ บิดัล, ปาโบล อัลกาเซร์, เคราร์ด เดโลเฟว

วิเซนต์ เมียร์ กุนซือ เอลเช่ ยังพอมีเหลี่ยมให้สู้อยู่บ้างหลังเจ๊ามาในเกมแรก 1-1 ส่วนความพร้อมในเกมนี้ทีมเยือนจะไม่มี กาเบรียล โคโรโซ่ แบ็คขวาที่เดี้ยงยาวถึงเดือนมีนาคมจากปัญหาที่หัวเข่า ส่วนผู้เล่นที่คาดว่าจะถูกส่งลงสนามจะใช้ โซรี่ กาบา หัวหอกตัวเก่งลงจับคู่กับ โลโล่ เปรีย โดยมี อีวาน ซานเชซ กับ ฆาบี ฟลอเรส ขึ้นเกมทางริมเส้นโดยมี ดีเอโก้ เบนิโต้ รับบทบาทเป็นจอมทัพในระบบ 4-4-2

เอลเช่ (4-4-2) : กิลเลอร์โม่ วาลเลโฆ่ ; อีวาน กาเลโร่, กอนซาโล่ เบร์ดู, โรมัน โกโลบาร์, เอดู อัลบาการ์ ; ดีเอโก้ เบนิโต้, ฆาบี ฟลอเรส, มาโนลิน, อีวาน ซานเชซ ; โซรี่ กาบา, โลโล่ เปรีย

ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ เทรนเนอร์ ''ตราหมี'' แอตฯมาดริด ไม่มีรายชื่อตัวเจ็บแน่ๆก็คือ ฆวนฟราน (8 นัด)กับ ซีม เวอร์ซัลจ์โก้ (3 นัด) 2 แนวรับประจำทีม ส่วนการปรับผังผู้เล่นในนัดนี้แน่นอนว่าจะเป้นโอกาสของเหล่าแข้งสำรองได้ลงพิสูจน์ตัวเองซึ่งแดนหน้าเตรียมถอดชื่อของ อังเคล กอร์เรอา และ อองตวน กรีซมันน์ พร้อมกับส่ง เฟร์นานโด ตอร์เรส และ ลูเซียโน่ เวียตโต้ ลงจับคู่ล่าตาข่าย โดยมี นิโกลาส ไกตัน และ อากุสโต้ เฟร์นานเดซ ลงมาปั้นเกมทางริมเส้นแทนที่ของ โกเก้ และ ซาอูล ญีเกซ

แอตฯมาดริด (4-4-2) : มิเกล โมย่า ; ซีม เวอร์ซัลจ์โก้, ลูกัส เฮร์นานเดซ, โฆเซ่ กิเมเนซ, เซร์คิโอ กอนซาเลซ ; อากุสโต้ เฟร์นานเดซ,มิเกล อังเคล โมย่า. โธมัส ปาร์เตย์, นิโกลาส ไกตัน ; เฟร์นานโด ตอร์เรส, ลูเซียโน่ เวียตโต้

มอนเตอากูโด้ เฮดโค้ชใหญ่ของ คาร์ทาเกน่า ตัวแทนจาก เซกุนด้า เบ แทบไม่เหลืออะไรให้ลุ้นหลังพ่ายยับเยินคาถิ่นจากนัดแรก ส่วนสภาพความมั่นใจก่อนลงสนามดูไม่สู้ดีนักหลังยังไร้ชัยมา 2 เกมรวด(เสมอ1แพ้1) ขณะที่ความพร้อมในเกมพวกเขาจะไร้เงา อัลบาโร่ กอนซาเลซ ปีกตัวจี๊ดที่บาดเจ็บมาจากเกมวันเสาร์เพียงรายเดียวเท่านั้น ส่วนแข้งทีเด็ดจะได้เห็น มุสซ่า กามาร์ หัวหอกวัย 22 กระรัตชาวเซเนกัลลงเป็นหน้าเป้าร่วมกับ กูกิ ซาลาซาร์ ทำให้ อิซ๊าค อเคเท็กซ์
ต้องหลุดเป็นตัวสำรอง ส่วนผังมิดฟิลด์จะใช้ เซจิโอ้ ฆิมิเนซ เป็นตัวชูโรงในการขึ้นเกมริมเส้น

คาร์ทาเกน่า (4-2-3-1) : มาร์กอส โมราเลส; ฆวน เกบัลลอส, มิเชล ซาบาโก้, มอยเซส การ์เซีย, มาร์กอส รุยซ์, เซจิโอ้ ฆิมิเนซ, ฮูโก้ โรดริเกซ,อเลฮานโดร ชาเบโร่, ดานี่ อบาโล่ -กูกิ ซาลาซาร์, มุสซ่า กามาร์

กุนซือ เอดูอาร์โด้ เบริซโซ่ นายใหญ่ประจำทีมตุนความได้เปรียบจากเกมแรกจากการบุกถล่มยับ 3-0 จึงไม่แปลกที่เกมนี้จะได้เห็นแข้งสำรองตบเท้าลงสนามหลายราย ส่วนตัวเจ็บแน่นอนว่าจะไม่มี ดาเนี่ยล การ์ริโก้ (3 นัด), นิโก้ ปาเรฆ่า (2 นัด), ไซม่อน ชาร์ (9 นัด) 3 แนวรับที่เดี้ยงอยู่ก่อนหน้านี้ แถมจะเป็นการกลับไปใช้ชุดเกรดสำรองผสนมแกนหลักบางตำแหน่งเหมือนในเลกแรก ซึ่งกองหน้าจะเป็นคิวของ โนลิโต้ ลงล่าตาข่ายร่วมกับ ปาโบล ซาราเบีย และ เบน เยดเดอร์ ที่กำลังร้อนแรง ส่วนผังแดนกลางจะทำการพัก เอแวร์ บาเนก้า กีโด ปิซซาโร่ และ สเตเว่น เอ็นซ็องซี่ เพื่อเปิดทางให้กับ บอร์ฆา ลาสโซ่, กานโซ่ และ โครห์น-เดลี

เซบีญ่า (4-3-3) : ดาบิด โซเรีย ; เซบาสเตียน คอร์เชีย, โยฮานเนส กีส, แกลร์กมงต์ ล็องเล่ต์, ลิโอเนล คาโรล ; บอร์ฆา ลาสโซ่, กานโซ่, โครห์น-เดลี : ปาโบล ซาราเบีย, เบน เยดเดอร์, โนลิโต้

ส่วนทีมเยือน ลิเบอร์ตาด อาซันซิออง ของกุนซือเลือดสปนอย่าง เฟร์นานโด จูเบโร่ กำชัยมาได้ก่อนนัดแรกทำให้เกมนี้วางแท็คติกเล่นได้ง่ายกว่าเดิม ส่วนความพร้อมในเกมนี้มีจุดหนึ่งที่ต้องกังวลหลัง ออสก้า คาร์โดโซ่(13นัด/4ประตู) หัวหอกตัวหลักที่ติดโทษแบนในเกมนี้ทำให้โฉมหน้าแนวรุกจำเป็นต้องหวังพึ่ง ซานติอาโก้ ซัลเซโด้ และ ฮวน ซานตาครูซ ในการผลิตสกอร์

อาเรียล ฮอร์ลัน ผู้จัดการทีม อินดิเพนเดนเต้ เตรียมกลับมาเล่นในบ้านอีกครั้งหลังบุกไปพ่าย ลิเบอร์ตาด อาซันซิออง ก่อนในเกมแรก 0-1 ทำให้โจทย์เกมนี้จำเป็นต้องชนะสองประตูขึ้นไปเท่านั้นหากต้องการทะลุผ่านเข้ารอบต่อไป ส่วนสภาพความพร้อมก่อนลงสนามแน่นอนว่าจะไม่มี โจนาส กูเตียร์เรซ(10นัด)กองกลางที่ติดคัพ-ไท รวมไปถึง นิโคลาส ฟิเกา(-)ที่จะไร้ชื่อในเกมนี้ ส่วนตัวทีเด็ดในเกมนี้อย่าง เอ็มมานูเอล จิเกลอ็อตติ(6นัด) และ แมกซิมิลาโน เมซ่า(9นัด/2ประตู)พร้อมลงบู๊ในเกมนี้

ปาโบล มาชิน กุนซือ กิโรน่า เตรียมขนแข้งตัวสำรองลงบู๊ยกเซ็ตแน่ เพราะจากการพ่ายไปก่อนถึง 0-2 ในถิ่นตัวเองทำให้โอกาสเข้ารอบในเกมนี้ดูจะเป็นช้างยิ่งขึ้น ส่วนผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามจะได้เห็น โอลุงก้า ลงจับคู่กับ มาร์ลอส ในโซนกองหน้าโดยมี ดาบิด ติมอร์ ลงยืนเป็นเพลย์เมกเกอร์ในระบบ 3-4-1-2

กิโรน่า (3-4-1-2) : ออสการ์ อิไรซอซ ; แบมโบ ดิยาบี้, เบร์นาร์โด้, ผลานาส ; รามัลโญ่, อเล็กซ์ การ์เซีย, ดาบิด ติมอร์, โมยิก้า ; ดักลาส ลุยซ์ ; มาร์ลอส, โอลุงก้า

ฆวน รามอน มูนญิซ นายใหญ่ประจำทีมของ เลบานเต้ นัดนี้จะไม่มี เจฟเฟอร์ซอน เลร์มา กองกลางตัวหลักที่ยังเดี้ยงส่วน อเล็กซ์ อาเลเกรีย กองหน้าตัวหลักที่รูดม่านซีซั่นนี้ไปเป็นที่เรียบร้อยจากปัญหาบาดเจ็บ ส่วนผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามนัดจะได้เห็นแข้งสำรองบางตำแหน่งลงสอดแทรกให้เห็นนำโดย นาโน่ เมซ่า ลงยืนเป็นหน้าเป้าคู่กับ เอ็มมานูเอล บัวเต็ง ในระบบ 4-4-2

เลบานเต้ (4-4-2) : ออยเอร์ โอลาซาบัล ; เปโดร โลเปซ, เซร์คิโอ ปอสตีโก้, เอริก กาบาโก้, ลูน่า ; ซามู การ์เซีย, ดูกูเร่, โรเบร์ ปิเอร์, อีบี้ ; เอ็มมานูเอล บัวเต็ง, นาโน่ เมซ่า

โฆเซ่ หลุยส์ เมนดิลิบาร์ นายใหญ่ เออิบาร์ ยังคงไร้ชื่อแข้งตัวเจ็บนับ 4 รายไม่ว่าจะเป็น ผู้รักษาประตู โฆเอล โรดริเกซ,อิบัน รามิส (4 นัด)แนวรับ รวมถึงแข้งเดี้ยงที่ยังไม่มีบทบาทในซีซํ่นนี้อย่าง ฟราน ริโก้(-)และ เปโดร เลออน(-) ส่วนแข้งแกนหลักที่เพิ่งบุกชนะ อลาเบส 2-1 เมื่อสุดสัปดาห์จะได้พักเกมนี้เสียส่วนใหญ่ และจะเป็นคิวของ กีเก้ การ์เซีย และ ชาร์เลส ลงจับคู่ในแดนหน้าร่วมกัน

เออิบาร์ (4-4-2) : มาร์โก ดมิโตรวิช ; รูเบน เปน่า, อเลฆานโดร กัลเวซ, ดาบิด ลอมบาน,โฆเซ่ อังเคล ; อิบัน อเลโฆ่, โจน จอร์แดน, อิมานอล ซาร์เรียกี้, เบเบ้ ; กีเก้ การ์เซีย, ชาร์เลส

ฆวน อุนซูเอ เทรนเนอร์ เซลต้า บีโก้ เตรียมปรับทัพยกเซ็ตจากเกมลีกหลังชนะเกมลีก เลกาเนส 1-0 เมื่อสุดสัปดาห์ ส่วนสภาพความพร้อมจะหมดสิทธิ์ใช้งาน เซร์จี้ โกเมซ(10 นัด 1 ประตู)แนวรับที่ยังบาดเจ็บอยู่ ส่วนเหล่าแข่งสำรองอย่าง เอ็มเร่ มอร์, จอห์น กีเด็ตติ และ อันดรูว์ ยูลซัลเกอร์ เตรียมตบเท้าออกสตาร์ทเป็นตัวจริง

เซลต้า บีโก้ (4-3-3) : รูเบน ; ฮูโก้ มาโย่, กุสบาโบ กาบราล, ฟากุนโด้ รอนคาเกลีย, จอนนี่ อ๊อตโต้ ; บราอิส เมนเดซ, เนมันย่า ราโดย่า, โฆซาเบด เอร์นานเดซ ; เอ็มเร่ มอร์, จอห์น กีเด็ตติ, อันดรูว์ ยูลซัลเกอร์

หลุยส์ เซซ่าร์ ผู้จัดการทีม เรอัล บายาโดลิด เตรียมพักแกนหลักจากเกมลีกนัดล่าสุดถึง 10 ตำแหน่ง พร้อมกับทิ้ง ลุยส์มี่ ซานเชซ ที่เหลือรอดจากเกมล่าสุดลงคุมแผงแดนกลางเพียงรายเดียวเท่านั้น ซึ่งเหล่าแข้งโซนแนวรุกในเกมนี้จะมี อาเซียร์ บิยาร์ลิเบร กองหน้าตัวสำรองลงยืนหน้าเป้าพร้อมกับพัก ไฆเม่ มาต้า ดาวซัลโวของทีมไว้ที่ม้านั่งสำรอง

เรอัล บายาโดลิด (4-2-3-1) : เบร์เกร่า ; โมยาโน่, กีติอัน, ลาเลโร่, อังเคล การ์เซีย ; ลุยส์มี่ ซานเชซ, โกตัน ; เจียนนิโอตาส, เซร์คิโอ มาร์กอส, เอร์วิอาส ; อาเซียร์ บิยาร์ลิเบร

อาเซียร์ การีตาโน่ กุนซือ เลกาเนส จะกลับมาใช้งาน เคลาดิโอ บัววิว แนวรุกตัวหลักหลังพ้นโทษแบนกลับมาลงสนาม ทว่า เคลาดิโอ บัววิว แนวรุกตัวหลักจะหมดสิทธิ์ลงเจอต้นสังกัดจริงทำให้โฉมหน้าแนวรุกจะใช้ เอล ซาร์, กาเบรียล และ โฆเซ่ นารานโฆ่ ลงเป็นสามประสานพร้อมกับวาง โคเน่ ลงล่าตาข่ายเป็นเกมแรกของเจ้าตัวในซีซํ่นนี้

เลกาเนส (4-2-3-1) : เนเรโอ ชัมปาเน่ ; ตีโต้, บูตินซ่า, ราอูล การ์เซีย, ดีเอโก้ ริโก้ ; เอริก โมราน, เคราร์ด กัมบัว ; เอล ซาร์, กาเบรียล, โฆเซ่ นารานโฆ่ ; โคเน่

นายใหญ่ อันโตนิโอ กาเดร่อน เฮดโค้ชของ ฟูเอนลาบราด้า ตัวแทนจาก เซกุนด้า เบ เริ่มทยอยได้นักเตะกลับมาก็จริง ทว่าเกมนี้จะไม่มี ปาโก้ แคนเดร่า(14นัด/1ประตู) แนวรับที่ติดโทษแบน ส่วนทีเด็ดในแดนหน้าพวกเขาเตรียมวาง ดิโอนี่ ลงจับคู่กับ คูเอโร่ โดยมี ดานี่ เฟร์นานเดซ และ ฮูโก้ เฟรลด์ คอยขึ้นเกมทางริมเส้นในระบบ 4-4-2

ฟูเอนลาบราด้า (4-4-2) : จอร์ดี้ โกดีน่า ; มิเกล ลิบาส, อีร์วิ่ง โลซาโน, ไดอา, ฟร้าน การ์เซีย - ดานี่ เฟร์นานเดซ, มิเกล อเทียนซ่า, หลุยส์ มิลล่า,ฮูโก้ เฟรลด์ - คูเอโร่, ดิโอนี่

ซีเนอดีน ซีดาน เฮดโค้ช เรอัล มาดริด เตรียมขนแข้งดาวรุ่งและเหล่าผู้เล่นสำรองลงบู๊ตามคาดซึ่งเกมนี้แน่นอนว่าจะได้เห็นผู้เล่นอย่าง โมยารัล, กาบายอส, ธีโอ, ลูคัส บาสเกวซ ตบเท้าลงสนามกันครบเซ็ตในระบบ 4-2-3-1 โดยมี มาเตโอ โควาชิซ ลงมาโชว์ฝีเท้าบ้างในตำแหน่งหลังกองหน้า ส่วนเจ็บแน่นอนว่าจะไม่มีแข้งเดี้ยงอย่าง เซร์คิโอ รามอส(11นัด) และ มาร์โก้ อเซนซิโอ้(12นัด/4ประตู) ตามคาด

เรอัล มาดริด (4-2-3-1) : กีโก้ กาซีย่า ; อัชราย ฮาคามี่, นาโช่, เฮร์นานโด , อัลบาโร เตเฆโร่ ; ดีเอโก้ ยอร์เรนเต้, ดานี่ กาบายอส ; บอร์ฆ่า มายอราล, มาเตโอ โควาชิซ,ลูคัส บาสเกวซ - โมยารัล

ส่วนตัวแทนจาก เซกุนด้า ชั่วโมงหลังมีหลุดฟอร์มให้เห็นเช่นกันหลังเพิ่งแพ้มา 2 เกมติดแถมเกมนี้จะไม่มีชื่อของ อิตอร์ เฟร์นานเดซ(16นัด)นายทวารมืหนึ่งและจะใช้ ไอตอร์ เฟเด ลงเฝ้าเสา ส่วนแนวรับจะหมดสิทธิ์ใช้งาน ดานี่ กัลโบ(16นัด)และหัวหอกตัวหลักอย่าง เปเร มิย่า(14นัด/4ประตู)ที่ยังเดี้ยงทำให้ภาระจะตกไปอยู่กับ กีเยร์โม่ ไปโดยปริยาย

นูมานเซีย (4-2-3-1) : ไอตอร์ เฟเด ; ริป้า, อูไน เอลเกซาบัล, การ์ลอส กัต, ลุยส์ บัลการ์เซ่ ; เอกาสซี่, อินญิโก้ เปเรซ ; ปาโบล บัลการ์เซ่, ฮิกินิโอ้ มาริน, มาร์ก มาเตอู ; กีเยร์โม่

เจ้าบ้าน มาลาก้า ตัวแทนจาก ลา ลีกา ยังคงอยู่ในฟอร์มย่ำแย่ต่อเนื่องแม้เกมล่าสุดจะบุกพ่าย เรอัล มาดริด เพียง 3-2 ก็ตาม ส่วนความพร้อมในเกมนี้ยังคงไม่มีชื่อของ เฟเดริโก้ ริกก้า (5 นัด), มิเกล ตอร์เรส (1 นัด) 2 แนวรับและ ซดราฟโก้ คูซมาโนวิช (5 นัด)กองกลางที่เจ็บหนักจนปิดเทอมไปก่อนเพื่อน ส่วนผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามจะได้เห็นแข้งชุดสำรองตบเท้ากันลงสนามพร้อมกับวาง บอร์ฆา บาสยอน ลงล่าตาข่ายบ้าง

มาลาก้า (4-2-3-1) : อันเดรีย ปีรีเอโต้ ; ซิฟูเอนเตส, ดีเอโก้ ยอเรนเต้, ลุยส์ เอร์นานเดซ, ปอล บายส์เซ่, โรแบร์โต้ โรเบลส ; เอสเตบัน โรลอน, เอมมานูเอล เซชซินี่ ; ฆาบี ออนติเบรอส, ฆวนปี้, อเล็กซ์ มูล่า ; บอร์ฆ่า บาสย่อน

ทีมเยือน เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก กำลังสานต่อความมั่นใจมาจากเกมกลางสัปดาห์หลังเอาชนะ วาร์ดาร์ สค็อบเย่ 2-1 ในศึก ยูโรป้า ลีก ส่วนความพร้อมในเกมนี้จะไม่มี วิคเตอร์ ไฟซูลิน กับ อันเดรย์ ลูเนฟ นายด่านมือ 1 ส่วนแข้งรายอื่นๆยังอยู่กันครบโดยเฉพาะทีเด็ดแดนหน้าอย่าง อเล็กซานเดอร์ โคโคริน รวมถึง ดาเลอร์ คูซาเยฟ และ เลอันโดร ปาเรเดส

สปาร์ตัก มอสโก ทีมอันดับ 3 ประจำลีกยังคงรักษามาตราฐานในลีกเป้นอย่างดีหลังชนะมา 2 เกมติด แถมในเกมนี้จะสามารถใช้งาน จอร์จี ชิคิยา แนวรับตัวหลักอีกครั้งหลังได้พักจากเกม ชปล. กลางสัปดาห์จากการติดโทษแบน ส่วนตัวเจ็บหน้าเดิมอย่าง จาโน อนานิดเซ่ , จอร์จี้ ตีกีเยฟ และ อาร์เต็ม ติโมเฟเยฟ ยังคงไม่พร้อมกันทั้งหมด สว่นแกนหลักแนวรุกอย่าง ควินซี โปรเมส , หลุยซ์ อาเดรียโน่ และ เซ หลุยส์ จะมีชื่อออกสตาร์ทในเกมนี้

ส่วนทีม โบตาโฟโก้ จะไร้เงา แอร์ทอน(3นัด) กลางรับตัวสำรองที่เดี้ยงมาก่อนหน้านี้ ส่วนแข้งแกนหลักที่เหลือต่างพร้อมลงประจำตำแหน่งโดยเกมนี้กุนซือใหญ่ แจร์ เวนทูร่า จะวาง เบรนเนอร์(17นัด/5ประตู) กับ กิลแยร์เม่(30นัด/4ประตู) ทั้งมักออกสตาร์ทจากตัวสำรองได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในระบบ 4-3-1-2

อัลเบร์โต้ วาเลนติม เฮดโค้ช พัลไมรัส จะหมดสิทธิ์ใช้งาน เฟร์นานโด ปราสส์ นายด่านมือหนึ่งที่โดนไล่ออกจากเกมที่แล้วทำให้เกมนี้จะใช้ เยลสัน ลงปักหลักแทน ส่วนแผนการเล่นที่จะใช้ในวันนี้เตรียมวางระบบ 4-2-1-3 โดยมี คีโน่(29นัด/7ประตู), วิลเลี่ยน(24นัด/7ประตู) และ ดูดู้(24นัด/8ประตู)ยืนเป็นสามประสาน

ดีน สมิธเทรนเนอร์ประจำทีมยังคงไม่มีชื่อของ อลัน จัดจ์, ริโก้ เฮนรี่ และ เฮนดริก ดัลส์การ์ด ที่ยังไม่พร้อมมีชื่อลงสนามโดยเฉพาะรายหลังที่ถึงแม้จะกลับมาซ้อมได้บ้างแล้ว ส่วนแข้งตัวชูโรงในเกมนี้ยังคงได้เห็นอดีตดาวรุ่ง ลิเวอร์พูล อย่าง เซร์กี้ กานอส มิดฟิลด์สเปน รวมถึง จอช แม็คอีชแรน และ ลาส ไวบ์ จะตบเท้ามีชื่อออกสตาร์ทด้วยกันทั้งหมด

เอียน ฮอลโลเวย์ ผู้จัดการทีม ยังคงไร้เงา เนดุม โอนูโอฮ่า, เจมส์ เพิร์สช และ แกรนท์ ฮอลล์ 3 ผู้เล่นที่มีอาการบาดเจ็บแถมยังจะมี โจเอล ลินช์ (10 นัด) และ ดาร์เนลล์ เฟอร์ลอง (7 นัด) ควงแขนเดี้ยงเพิ่มเติมทำให้แนวรับจำเป็นต้องปรับขบวนกันยกใหญ่ ทว่ายังดีที่ผังแดนหน้ายังคงมีชื่อของ แมตต์ สมิธ (147 นัด 4 ประตู) ล่าตาข่ายกับ คอเนอร์ วอชิงตัน (17 นัด 4 ประตู)ตามเดิม

โฆเซ่ บอร์ดาลาส กุนซือ เกตาเฟ่ ยังคงนำทีมเก็บแต้มได้มา 3 เกมรวดจากการ ชนะ 2 เสมอ 1 โดยเกมล่าสุดโชว์ทีเด็ดถล่ม อลาเบส 4-1 ส่วนความพร้อมในเกมนี้พวกเขาจะไร้เงา กาคุ ชิบาซากิ (4 นัด 1 ประตู) มิดฟิลด์ทีมชาติญี่ปุ่นเพียงรายเดียวเท่านั้น ส่วน คาริม โยดา จะหมดสิทธิ์ลงช่วยทีมไปโดยปริยายหลังต้องเผชิญหน้ากับทีมต้นสังกัด ส่วนหมากผู้เล่นในนัดนี้จะมีการปรับ อังเคล โรดริเกซ ขึ้นไปยืนหน้าคู่กับ ฆอร์เก้ โมลิน่า อีกครั้ง

เกตาเฟ่ (4-4-2) : บิเซนเต้ กูยาต้า ; ดาเมี่ยน ซัวเรซ, เฌเน่ ดาโกนัม, ฆวน กาล่า, บิตอเรียโน่ อันตูเนส ; ฟรานซิสโก้ ปอร์ติโญ่, เมาโร อารัมบาร์รี่, มาร์เกล เบร์การ่า, อามาธ เอ็นเดียเย่ ; อังเคล โรดริเกซ, ฆอร์เก้ โมลิน่า

กีเก้ ฟลอเรส ซานเชซ ผู้จัดการทีมยังคงต้องหาทางนำ เอสปันญ่อล กลับเข้าฝั่งหลังพ่ายแพ้มา 2 เกมรวด ส่วนความพร้อมก่อนลงสนามแม้จะไม่มีตัวเจ็บในสต็อคแต่ล่าสุดดูเหมือน เลโอ บาปติสเตา กองหน้าตัวหลักจะไม่พร้อมสำหรับเกมนี้ในเรื่องของอาการบาดเจ็บ ทว่ายังดีที่ มาริโอ เอร์โมโซ่ พ้นโทษแบนกลับมาปักหลักแนวรับได้อีกครั้ง ส่วนทีเด็ดตำแหน่งแนวหน้าจะได้เห็น เคราร์ด โมเรโน่ กับ เซร์คิโอ การ์เซีย ลงประสานงานกัน

เอสปันญ่อล (4-4-2) : เปา โลเปซ ; บิคตอร์ ซานเชซ, ดาบิด โลเปซ, มาริโอ เอร์โมโซ่, อารอน มาร์ติน ; ฆูราโด้, เซร์จี้ ดาเดร์, ฆาบี ฟูเอโก้, ปาโบล ปิอัตติ ; เคราร์ด โมเรโน่, เซร์คิโอ การ์เซีย

ส่วนทีมเยือน อาร์ฮุส เพิ่งจะเปิดรังชนะ ซิลเคบอร์ก 3-1 หลังจากแพ้ติดต่อกัน 4 เกมรวด ซึ่งความพร้อมในเกมนี้โชคดีที่ไม่มีตัวเจ็บเข้าให้กังวลใจและจะได้เห็น มอร์เทน รัสมุสเซ่น(14นัด/4ประตู)ที่ทำประตูได้ในเกมล่าสุดลงล่าตาข่ายร่วมกับ โมเบียส ซาน่า(16นัด/1ประตู)และ มุสตาฟา บันดู(13นัด/3ประตู)ที่ลงมาเป็นสำรองพร้อมเหมาคนเดียว 2 ประตูจะออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเกมนี้

เจ้าบ้าน มิดทิลลันด์ ยังคงร้อนแรงต่อเนื่องจากการซิวชัยในเกมล่าสุดเหนือ อัลบอร์ก ทำให้ตลอด 5 นัดหลังพวกเขาซิวชัยรวดไปถึง 4 จาก 5 นัด ส่วนสภาพความพร้อมก่อนเกมไม่มีรายงานตัวเจ็บให้กังวลใจและได้จะได้เห็น ราสมุส คริสเตนเซ่น (14 นัด/2 ประตู) แนวรับตัวหลักลงสนามต่อเนื่องหลังเพิ่งหายเจ็บ ส่วนริลวาน ฮัสซัน (11 นัด) กองกลางเลือดไนจีเรียยังคงเป็นตัวสำรองต่อไป ส่วนตัวรุกในเกมนี้พวกเขายังคงใช้ อเล็กซานเดอร์ ซอร์ล็อธ (16 นัด/9 ประตู) ดาวยิงสูงสุดของทีม, ปอล โอนูอาชู (13 นัด/8 ประตู) ศูนย์หน้าร่างยักษ์และ ยาค็อบ โพลเซ่น (16 นัด/3 ประตู) จอมทัพลงบู๊ครบเซ็ต

เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ เทรนเนอร์ บาร์เซโลน่า ยังคงนำลูกทีมเก้บชัยได้ตามเป้าต่อเนื่องหลังเพิ่งยกทัพไปชนะเอสปันญ่อล 2-0 ในศึกดารบี้ แมตช์ เกมลา ลีกา นัดล่าสุดก่อนจะบุกไปเสมอ ยูเวนตุส พร้อมกับตีตั๋วผ่านเข้ารอบ ชปล. เมื่อกลางสัปดาห์ ส่วนผู้เล่นที่จะพลาดในเกมนี้จะไร้เงากองหลังตัวเก่งอย่าง เคราร์ด ปีเก้ ที่ติดโทษแบนและจะใช้ โธมัส แฟร์มาเล่น ลงจับคู่เซ็นเตอร์แบ็คกับ ซามูแอล อุมตีตี้ ในยามที่ ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ (6 นัด)ยังคงบาดเจ็บ ส่วนแผงแนวรุกแน่นอนว่ายังคงได้เห็น หลุยส์ ซัวเรซ และ ลิโอเนล เมสซี่ ลงยืนหน้าคู่โดยมี ปาโบล อัลกาเซร์ มีชื่ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงร่วมกับสตาร์รายอื่น

บาร์เซโลน่า (4-4-2) : มาร์ค อังเดร แทร์ ชเตเก้น ; เนลซอน เซเมโด้, โธมัส แฟร์มาเล่น, ซามูแอล อุมตีตี้, ฆอร์ดี้ อัลบา ; ปาโบล อัลกาเซร์, อีวาน ราคิติช, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, อันเดรส อิเนียสต้า ; หลุยส์ ซัวเรซ, ลิโอเนล เมสซี่

มาร์เซลิโน่ เทรนเนอร์ บาเลนเซีย ยังคงนำลูกโชว์ผลงานร้อนแรงต่อเนื่องหลังขนะรวด 8 เกมติดรวมทุกรายการแถมเกมรุกยังสุดสะแด่วซัดรวม 28 เม็ดเข้าไปแล้ว แถมเกมนี้ยังมีข่าวดีเมื่อ ซิโมเน่ ซาซ่า ดาวยิงตัวเก่งฟิตกลับมาล่าตาข่ายอีกครั้งร่วมกับ โรดริโก้ โมเรโน่ โดยมี กอนกาโล่ กูเอเดส และ การ์ลอส โซเลร์ คอยขึ้นเกมทางริมเส้น ส่วนผู้เล่นบาดเจ็บแน่นอนว่ายังไม่มีชื่อของ ฆาบี กิมิเนซ (-)ที่ยังคงเดี้ยง ส่วน เฆซอน มูริโญ่ (8 นัด)ยังคงต้องรอโอกาสต่อจาก กาเบรียล เปาลิสต้ ที่จะปักหลักกับ เอเซเกล การาย ในแผงหลังต่อเนื่อง

บาเลนเซีย (4-4-2) : เนโต้ ; มาร์ติน มอนโตย่า, กาเบรียล เปาลิสต้า, เอเซเกล การาย, โฆเซ่ กาย่า ; การ์ลอส โซเลร์, ดาเนี่ยล ปาเรโฆ่, จอฟเฟรย์ ก็องด็อกเบีย, กอนกาโล่ กูเอเดส ; โรดริโก้ โมเรโน่, ซิโมเน่ ซาซ่า

กุนซือ เอดูอาร์โด้ เบริซโซ่ ยังไร้เงา ไซม่อน ชาร์ ปราการหลังทีมชาติเดนมาร์กที่เจ็บจึงต้องส่ง โยฮานเนส กีส ลงปักหลักแทน ส่วนแข้งตัวเจ็บแน่นอนว่ายังคงไร้ชื่อ ดาเนี่ยล การ์ริโก้ และ นิโก้ ปาเรฆ่า และจะได้เห็นการพักนักเตะหลังบดมาเหนื่อยกับ ลิเวอร์พูล โดยทำการพัก ฆัวกิน กอร์เรอา และ ปาโบล ซาราเบีย พร้อมส่ง โนลิโต้ กับ เฆซุส นาบาส ลงป่วนแนวรับแทน

เซบีญ่า (4-2-3-1) : ดาบิด โซเรีย ; กาเบรียล เมร์กาโด้, โยฮานเนส กีส, แกลร์กมงต์ ล็องเล่ต์, เซร์กิโอ เอสกูเดโร่ ; กีโด ปิซซาโร่, สเตเว่น เอ็นซ็องซี่ : ปาโบล ซาราเบีย, เอแวร์ บาเนก้า, โนลิโต้ ; ลุยส์ มูเรียล

ฆาบี กาเยย่า ผู้จัดการทีมชั่วคราว "เรืดำน้ำสีเหลือง" มีปัญหาการจัดทัพค่อนข้างเยอะหลังยังไร้เงาตัวเจ็บนับ 5 รายก่อนหน้านี้ ส่วนผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามจะได้เห็น การ์ลอส บักก้า กับ เซดริก บากัมบู ยังคงรับบทเป็นคู่หน้าโดยมี นิโกล่า ซานโซเน่ เป็นตัวสอดแทรก ส่วนตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คจะปรับมาใช้งาน อัลบาโร่ กอนซาเลซ ลงเล่นเป็นตัวจริงแทน ดานิเอเล่ โบเนร่า

บียาร์เรอัล (4-3-1-2) : มาเรียโน่ บาร์โบซ่า ; มาริโอ กัสปาร์, อัลบาโร่ กอนซาเลซ, บิคตอร์ รุยซ์, ฆัวเม่ คอสต้า ; มานู ตริกูเอรอส, โรดรี, โรเบร์โต้ โซเรียโน่ ; ปาโบล ฟอร์นัลส์ ; เซดริก บากัมบู, การ์ลอส บักก้า

ลาส พัลมาส (4-3-3) : ราอูล ไลโซอิน ; ดาบิด ซิมง, เมาริซิโอ เลมอส, ชีโม่ นาบาร์โร่, ดานี่ กาสเตยาโน่ ; โฆนาธาน บีเอร่า, ฆาบี กัสเตยาโน่, บิเซนเต้ โกเมซ ; บิคตอร์ บีโตโล่, โฆนาธาน กาเยรี่, โลอิก เรมี่

เอวเซบิโอ ซากริสตาน กุนซือ เรอัล โซเซียดัด เตรียมเช็คความฟิตของ ดาบิด ซูรูตูซ่า กองกลางตัวหลักแต่คาดว่าจะฟิตพร้อมออกสตาร์ทได้อย่างไร้ปัญหาซึ่งทำให้ความพร้อมภายในทีมจัดว่าสมบูรณ์สุดๆและจะได้เห็นแกนหลักอย่าง อาเซียร์ อียาร์ราเมนดี้ กับ ชาบี ปรีเอโต้ ลงเป็นจอมทัพร่วมกันพร้อมกับใช้ อัดนาน ยานาซาย, มิเกล โอยาซาบัล และ วิลเลี่ยน โฆเซ่ คอยขึ้นเกมในโซนสามประสานแดนหน้า

เรอัล โซเซียดัด (4-3-3) : เคโรนีโม่ รูยี่ ; อัลบาโร่ โอดริโอโซล่า, ดีเอโก้ ยอร์เรนเต้, อินญิโก้ มาร์ติเนซ, เกบิน โรดริเกซ ; ชาบี ปรีเอโต้, อาเซียร์ อียาร์ราเมนดี้, ดาบิด ซูรูตูซ่า ; มิเกล โอยาซาบัล, วิลเลี่ยน โฆเซ่, อัดนาน ยานาซาย

โฆเซ่ อังเคล ซิกานด้า กุนซือ บิลเบา มีข่าวดีคือจะได้ มิเกล เบสก้า กองกลางตัวหลักซึ่งพ้นโทษแบนกลับมาลงสนาม ส่วนตัวเจ็บยังคงไร้ชื่อแข้งโซนมิดฟิลด์อย่าง อิเกร์ มูเนียอิน (6 นัด 1 ประตู) และ เบนญัติ (6 นัด)ตามคาด ส่วนผังแนวรุกในเกมนี้ยังคงใช้ตัวหลักอย่าง อาริตซ์ อาดูริตซ์, อินญากี้ วิลเลี่ยมส์ และ อายเมริก ลาปอร์ต้า ยังมีชื่อตามคาด

แอธฯบิลเบา (4-2-3-1) : เกป้า ; อินญิโก้ เลกูเอ้, อายเมริค ลาปอร์เต้, อูไน นูนเญซ, มิเกล บาเลนเซียก้า ; มิเกล ซาน โฆเซ่, อันเดร์ อิตูร์ราสเป้ ; อินญากี้ วิลเลี่ยมส์, ราอูล การ์เซีย, อินญิโก้ กอร์โดบา ; อาริตซ์ อาดูริตซ์

กุนซือ กาอิซก้า การิตาโน่ มีปัญหาการจัดทัพเพิ่มเข้าให้แล้วหลัง ลูซินโญ่ และ กีเยร์เม่ กอดคอติดโทษแบนในนัดนี้ทำให้ต้องมีการปรับตำแหน่งโดยการส่ง เฟร์นานโด นาบาร์โร่ และ เปโดร มอสเกร่า ลงสนามเช่นเดียวกับแนวรับที่จะวางาอูล อัลเบนโตซ่า ลงปักหลักแทน ซิดเน่ ที่บาดเจ็บ ส่วนทีเด็ดแนวรุกยังคงได้เห็น อาเดรียน โลเปซ เป็นตัวชูโรงยาม ซากาเรีย บักกาลี่ ยังไม่ฟิตสมบูรณ์

ลา กอรุนญ่า (4-2-3-1) : รูเบน มาร์ติเนซ ; เคราร์ด บาเลนติน, ราอูล อัลเบนโตซ่า, ฟาเบียน ชาร์, เฟร์นานโด นาบาร์โร่ ; เปโดร มอสเกร่า, เซลโซ่ บอร์เกส ; เฟเด การ์ตาเบีย, เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้, อาเดรียน โลเปซ ; ลูกัส เปเรซ

สเตฟาโน่ ปิโยลี่ ผู้จัดการทีมมีข่าวดีคือจะได้ มิลาน บาเดลย์ ห้องเครื่องวัย 28 ปีสลัดเดี้ยงกลับมาลงตัวจริงอีกครั้งในแผงแดนกลางทำให้ การ์ลอส ซานเชส ต้องหลุดเป็นตัวสำรองในเกมนี้เพื่อเปิดทางให้ลงมาผนึกกำลังร่วมกับ มาร์โก เบนาสซี่ และ จอร์แดน แวเรอตูต์ พร้อมกับใช้ เฟเดริโก้ เคียซ่า, โจวานนี่ ซิเมโอเน่ และ กิล ดิอ๊าซ เป็นทีเด็ดในเกมรุก

ฟิออเรนติน่า (4-3-3) : มาร์โก สปอร์ติเยลโล่ - บรูโน่ กัสปาร์, เกร์มัน เปซเซย่า, ดาวิเด้ อัสโตรี่, คริสเตียโน่ บิรากี้ - มาร์โก เบนาสซี่, จอร์แดน แวเรอตูต์, การ์ลอส ซานเชส - เฟเดริโก้ เคียซ่า, โจวานนี่ ซิเมโอเน่, กิล ดิอ๊าซ

ซิโมเน่ อินซากี้ ผู้จัดการทีมยังคงไร้เงาแข้งเดี้ยงที่บาดเจ็บก่อนหน้านี้โดยเฉพาะ ดาวิเด้ ดิ เจนนาโร่ กองกลางและกองหน้าอย่าง เฟลิเป้ ไซเซโด้ ที่ยังพร้อมออกสตาร์ทส่วนผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามกุนซือ อินซากี้ เตรียมส่ง ชิโร่ อิมโมบิเล่ ลงเป็นทีเด็ดแดนหน้าอีกครั้งหลังส่งชุดสำรองลงบู๊ ยูโรป้า ลีก โดยมี มิลินโกวิช ซาวิช และ หลุยส์ อัลแบร์โต้ เป็นตัวสนับสนุน

ลาซิโอ (3-4-2-1) : โธมัส สตราโคช่า - บาสโต๊ส, สเตฟาน เด ฟราย, สเตฟาน ราดู - อดัม มารูซิค, มาร์โก ปาโรโล่, ลูคัส เลว่า, เซนาด ลูลิช, มิลินโกวิช ซาวิช - หลุยส์ อัลแบร์โต้ - ชิโร่ อิมโมบิเล่

ส่วนทีมเยือน นาโปลี ทีมจ่าฝูงยังคงร้อนแรงต่อเนื่องหลังเก็บชัยรวด 2 เกมติดรวมทุกรายการยังนำเดี่ยวจ่าฝูงในเวลานี้ ส่วนสภาพความพร้อมก่อนลงสนามจะขาดเพียงแค่ ฟาอูซี่ กูลาม แบ็คซ้ายตัวเก่งและ อาร์คาดิอุสซ์ มิลิก กองหน้าที่ยังเดี้ยงอยู่ ส่วนทีเด็ดแนวรุกส่วนใหญ่ยังอยู่กันครบไม่ว่าจะเป็น โฆเซ่ กาเยฆอน ดรีส, เมอร์เท่นส์ และ ลอเรนโซ่ อินซินเญ่ เป็นสามประสาน โดยมี อัลลัน, จอร์จินโญ่ รวมถึง มาเร็ค ฮัมซิค จอมทัพประจำทีมเป็นตัวชูโรงแผงมิดฟิลด์

นาโปลี (4-3-3) : เปเป้ เรน่า - คริสเตียน มาจโจ้, ราอูล อัลบิโอล, คาลิดู คูลิบาลี่, เอลเซอิด ฮายซาย - อัลลัน, จอร์จินโญ่, มาเร็ค ฮัมซิค - โฆเซ่ กาเยฆอน, ดรีส เมอร์เท่นส์, ลอเรนโซ่ อินซิเญ่

ลุยจิ เดล เนรี่ เฮ้ดโค้ชเจ้าบ้าน อูดิเนเซ่ เป็นอันต้องสะดุดเสียแล้วหลังฟอร์มดีชนะรวดมา 3 เกมติด ก่อนจะโดน กาญารี่ บุกมาเบรคความร้อนแรงถึงถิ่นด้วยผล 0-1 ส่วนความพร้อมในเกมนี้แน่นอนว่ายังจะไร้เงา เยนส์ ลาร์เซ่น กองหลังตัวหลักชาวเดนมาร์กที่บาดเจ็บ รวมถึง เอมิล ฮัลเฟร็ดสัน(7 นัด)แดนกลาง นอกจากนี้ยังจะไม่มี อัลบาโน่ บิซซาร์รี่ นายทวารที่โดนไล่ออกจากเกมล่าสุด ทำให้ ซิโมเน่ สคุฟเฟต นายทวารดาวรุ่งได้รับโอกาส ส่วนคีย์แมนในเกมนี้จะใช้ โรดริโก้ เด ปอล, มักซี่ โลเปซ และ สติเป้ เปริก้า คอยจบสกอร์

อูดิเนเซ่ (4-3-3) : ซิโมเน่ สคุฟเฟต - ซิลวาน วิดเมอร์, ดานิโล่, ซาเมียร์, อาลี อั๊ดนาน - อันโตนิน บารัค, เซโก้ โฟฟาน่า, ยาคุบ ยังค์โต้ - โรดริโก้ เด ปอล, มักซี่ โลเปซ, สติเป้ เปริก้า

มาร์โก จามเปาโล เทรนเนอร์ประจำทีมโชคไม่ดีที่เกมนี้จะไร้ชื่อ เดนนิส ปราเอ้ต์ (12 นัด) ห้องเครื่องตัวเก่งชาวเบลเยี่ยมที่ดันบาดเจ็บทำให้เกมนี้ต้องหวังพึ่ง คารอล ลิเน็ตตี้ (11 นัด/3 ประตู) ลงประสานตรงกลางร่วมกับ เอ็ดการ์ บาร์เรโต้ และ ลูคัส ตอร์ไรร่า ในผังจอมทัพ ส่วนแนวรุกจะวาง ฟาบิโอ กวายาเรลล่า กับ ดาเนี่ยล ซาปาต้า เป็นหน้าตัวเป้าโดยมี กาสตัน รามิเรซ คอยปั้นเกม

ซามพ์โดเรีย (4-3-1-2) : เอ็มมิเลียโน่ วิเวียโน่ - บาสตอส เบเลซินสกี้, มาติอัส ซิลเวสเตร, จานมาร์โก แฟร์รารี่, อิวาน สตรินิช - เอ็ดการ์ บาร์เรโต้, ลูคัส ตอร์ไรร่า, คารอล ลิเน็ตตี้ - กาสตัน รามิเรซ - ฟาบิโอ กวายาเรลล่า, ดาเนี่ยล ซาปาต้า

โรแบร์โต้ โดนาโดนี่ ผู้จัดการทีม จัดว่าอยู่ใช้ช่วงที่ผู้เล่นค่อนข้างฟูลทีมหลังจะขาดเพียงแค่ เฟเดริโก้ ดิ ฟรานเชสโก้ กองหน้าที่ยังบาดเจ็บเพียงแค่รายเดียว ส่วนการจัดทัพในเกมนี้คาดว่าจะได้เห็น อิบราฮิม่า เอ็มบาเย่ แบ็คขวาอนาคตไกลลงมาเสียบตำแหน่งของ เอมิล คราฟธ์ ฟูลแบ็คสวีเดนที่ยังไม่สมบูรณ์นักในเกมนี้ ส่วนตำแหน่งที่เหลือคาดว่ายังคงยึดแกนหลักหน้าเดิมลงเล่นต่อไป

โบโลญญ่า (4-3-3) : แองเจโล่ ดา คอสต้า - อิบราฮิม่า เอ็มบาเย่, จานคาร์โล กอนซาเลซ, ฟิลิป เฮลันเดอร์, อดัม มาซิน่า - ก็อดเฟร็ด ดอนซาร์, อีริก พัลการ์, อันเดรีย โพลี่ - โรดริโก้ ปาลาซิโอ, มัตเตีย เดสโตร, ซิโมเน่ แวร์ดี้

ทีมน้องใหม่ สปัล ของกุนซือ เลโอนาร์โด้ เซมปลิซี่ จะไม่มี เฟเดริโก้ วิเวียนี่ มิดฟิลด์กับ มาร์โก บอร์ริเอลโล่ กองหน้าที่ติดโทษแบนด้วยกันทั้งหมด ทำให้พวกเขาต้องแก้โจทย์ด้วยการส่ง ลูก้า โมร่า ลงมาคุมแดนกลางเช่นเดียวกับ เฟเดริโก้ โบนาซโซลี่ หัวหอกดาวรุ่งที่จะถูกส่งลงมาจับคู่กับ อัลแบร์โต้ ปาลอสคี่ (12 นัด/3 ประตู)ในตำแหน่งกองหน้า

สปัล (3-5-2) : อัลเฟร็ด โกมิส - บาร์ตอซ ซาลามอน, ฟรานเชสโก้ วิคารี่, เฟลิเป้ - มานูเอล ลาซซารี่, ปาสกวาเล่ สเคียตตาเรลล่า, อัลแบร์โต้ กราสซี่, ลูก้า โมร่า, เฟเดริโก้ มัตเตียเอลโล่ - อัลแบร์โต้ ปาลอสคี่, เฟเดริโก้ โบนาซโซลี่

โรลันโด้ มารัน บอสใหญ่ประจำทีมจะทำการปรับทัพพอสมควรหลัง อิวาน ราโดวาโนวิช กองกลางตัวหลักดันติดโทษแบนในเกมนี้ ส่วนผังแนวรับจะมีการปรับตำแหน่งพร้อมกับส่ง ดาริโอ ดายเนลลี่ กองหลังชาวอิตาลีในวัย 38 ปีลงควบตำแหน่งแทนของ บ็อตยาน เซซาร์ ส่วนแดนกลางจะได้เห็น ซามูเอล บาสเตียง ลงสนามบ้างในเกมนี้

คิเอโว่ (4-3-1-2) : สเตฟาโน่ ซอร์เรนติโน่ - ฟาบริซิโอ ชัคคาตอเร่, ดาริโอ ดายเนลลี่, เนห์นาด โตโมวิค, มัสซิโม่ ก็อบบี้ - ซามูเอล บาสเตียง, นิโกล่า ริโกนี่, เพอร์พาริม ฮาเตมาย - วอลเตอร์ เบียร์ซ่า - ริคคาร์โด้ เม็กโกรินี่, โรแบร์โต้ อินเกลเซ่

ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ เทรนเนอร์ แอตฯมาดริด จะขาด 2 แบ็คขวาทั้ง ฆวนฟราน (8 นัด) และ ซีม เวอร์ซัลจ์โก้ (3 นัด)ในเวลาพร้อมกันทำให้นายใหญ่จำเป็นต้องโยก โฆเซ่ คิมิเนซ ออกมาเล่นแทนพร้อมกับส่ง สเตฟาน ซาวิช ลงมาอุดตำแหน่งโดยมี ดีเอโก้ โกดิน เป็นแม่งานคุมแผงหลังตามคาด ส่วนแนวรุกในเกมนี้แน่นอนว่ายังคงใช้ อองตวน กรีซมันน์ เป็นคีย์แมนแดนหน้าหลังเพิ่งปลดล็อคทำประตูมาจากเกมยุโรปพร้อมด้วย อังเคล กอร์เรอา และ โกเก้ เป็นสามประสานร่วมกัน

แอตฯมาดริด (4-3-3) : ยาน โอบลัค ; โฆเซ่ คิมิเนซ, ดีเอโก้ โกดิน, สเตฟาน ซาวิช, ฟิลิเป้ หลุยส์ ; โธมัส ปาร์เตย์, กาบี, ซาอูล ญีเกซ ; อังเคล กอร์เรอา, อองตวน กรีซมันน์, โกเก้

ฆวน รามอน มูนญิซ เทรนเนอร์ เลบานเต้ ยังคงไม่สามารถใช้งาน เจฟเฟอร์ซอน เลร์มา (8 นัด)ที่ถึงแม้จะพ้นโทษแบนกลับมาแต่กลับมีปัญหาบาดเจ็บรบกวน เช่นเดียวกับตัวเจ็บหน้าเก่าอย่าง โรเคร์ มาร์ตี้ (-), อเล็กซ์ อาเลเกรีย (9 นัด)สองแนวรุกและ อีบัน โลเปซ (3 นัด)ผู้เล่นแนวรับ ส่วนตัวหลักในเกมนี้ยังคงวาง เอเนส อูนัล เป็นทีเด็ดในการจบสกอร์โดยมี เฆซอน, เอนิส บาร์ดี และ โฆเซ่ หลุยส์ โมราเลส คอยสนับสนุน

เลบานเต้ (4-2-3-1) : ออยเอร์ โอลาซาบัล ; ชาเกล มัวร์, เซร์คิโอ ปอสตีโก้, เชม่า โรดริเกซ, โตนโญ่ ; ชีค ดูกูเร่, โฆเซ่ กัมปานญ่า ; เฆซอน, เอนิส บาร์ดี, โฆเซ่ หลุยส์ โมราเลส ; เอเนส อูนัล

ปาโบล มาชิน กุนซือ กิโรน่า มีปัญหาเรื่องตัวผู้เล่นไม่แพ้กันเมื่อแดนกลางจะไม่มีชื่อของกองกลางตัวคีย์แมนอย่าง เปเร่ ปอนส์ (11 นัด) รวมไปถึงแนวรับอย่าง เปโดร อัลกาล่า (5 นัด 1 ประตู)ที่ยังเดี้ยงและ เบร์นาร์โด้ เอสปิโนซ่า ที่ติดโทษแบนเข้ามาทำให้โซนหลังบ้านจะได้เห็น โชนาส รามัลโญ่ แข้งตัวสำรองลงมาขัดตาทัพ เช่นเดียวกับแดนกลางจะส่ง ดาบิด ติมอร์ ลงจับคู่กับ อเล็กซ์ การ์เนลล์

กิโรน่า (3-4-3) : โบโน่ ; ฆวนเป้, โชนาส รามัลโญ่, มาร์ก มูนีซ่า ; ปาโบล มาฟเฟโอ, ดาบิด ติมอร์, อเล็กซ์ การ์เนลล์, อาดาย เบนิเตซ ; กริสเตียน ปอร์ตู, คริสเตียน สตูอานี่, บอร์ฆา การ์เซีย

กีเก้ ซาเตียน กุนซือ เรอัล เบติส จะหมดสิทธิ์ใช้บริการ ซูแฮร์ เฟดดัล (7 นัด/2 ประตู) ปราการหลังโมร็อกโก เนื่องจากเดี้ยงไม่เลิก ทำให้ ฆอร์ดี้ อามัต จะลงปักหลักร่วมกับ อาลิน ตอสก้า แทน เนื่องจาก อิสซ่า ม็องดี้ จะเป็นแนวรับอีกรายที่ติดโทษแบนในเกมนี้ส่วนแนวรุกพวกเขาเตรียมใช้ คริสเตียน เตโย่, อันโตนิโอ ซานาเบรีย และ ฆัวกิน ซานเชซ เป็นทีเด็ดในแผงแดนหลังและยังคงไร้เงา โจเอล แคมพ์เบลล์ (3 นัด/1 ประตู)ที่เดี้ยงมาก่อนหน้านี้

เรอัล เบติส (4-3-3) : อันโตนิโอ อาดาน ; อันโตนิโอ บาร์รากัน, อาลิน, ฆอร์ดี้ อามัต, ริซ่า ดูร์มิซี่ ; ฟาเบียน รุยซ์, ฆาบี การ์เซีย, อันเดรส กวาร์ดาโด้ ; คริสเตียน เตโย่, อันโตนิโอ ซานาเบรีย, ฆัวกิน ซานเชซ

ส่วนผู้มาเยือน มาลาก้า ทีมโซนท้ายของตารางเริ่มยกระดับฟอร์มขึ้นมาได้บ้างหลังชนะ 2 จาก 3 เกมในลีก ขณะที่สภาพความพร้อมจะไม่มีชื่อของ ซดราฟโก้ คูซมาโนวิช ที่เจ็บหนักปิดเทอมยาวไปแล้ว ส่วนกองกลางคนสำคัญอย่าง เรซีโอ้ พ้นโทษแบนกลับมาช่วยทีมได้ทันเวลาเพื่อมาผนึกกำลังกับแนวรุกอย่าง อาดัลเบร์โต้ เปนารันด้า ที่จะเบียด บอร์ฆ่า ยาสยอน ออกสตาร์ทตัวจริงได้ต่อเนื่อง

มาลาก้า (4-2-3-1) : โรเบร์โต้ ฆิมิเนซ ; โรเบร์โต้ โรซาเลส, ลุยส์ เอร์นานเดซ, ปอล บายาสเซ่, ฆวน เปเรซ ; อาเดรียน กอนซาเลซ, เรซีโอ้ ; เกโก้, ดีเอโก้ โรลัน, กอนซาโล่ กาสโตร ; อาดัลลเบร์โต้ เปนารันด้า

ซีเนดีน ซีดาน เทรนเนอร์ "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ยังคงไร้รายชื่อผู้เล่นอย่าง เกย์ลอร์ นาบาส (เอ็นหลังหัวเข่า), แกเร็ธ เบล (น่อง) รวมไปถึงเซร์คิโอ รามอส (จมูกหัก)กองหลังกัปตันทีมที่อยู่ในช่วงพักฟื้น ส่วนแข้งแกนหลักที่เหลือต่างมีชื่อในเกมนี้และจะได้เห็น เฆซุส บาเยโฆ ลงปักแทน นาโช่ เซ็นเตอร์แบ็คกำลังเสริมที่ติดแบน ส่วนแกนหลักรายอื่นๆอย่างลูก้า โมดริช, เบเซม่า, โทนี่ โครส และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จะเป็นตัวชูโรงตามคาด

เรอัล มาดริด (4-3-1-2) : กิโก้ กาซีย่า ; ดาเนี่ยล การ์บาฆัล, ราฟาแอล วาราน, เฆซุส บาเยโฆ, มาร์เซโล่ ; ลูก้า โมดริช, กาเซมิโร่, โทนี่ โครส ; อิสโก้ ; คริสเตียโน่ โรนัลโด้, คาริม เบนเซม่า

โฆเซ่ หลุยส์ เมนดิลิบาร์ นายใหญ่ เออิบาร์ ยังคงไร้ชื่อแข้งเดี้ยง 4 รายอย่าง โฆเอล โรดริเกซ ผู้รักษาประตู,อิบัน รามิส (4 นัด) กองหลัง,ฟราน ริโก้ (-)กองกลาง และ เปโดร เลออน (-)แนวรุกที่เดี้ยงตั้งแต่ต้นฤดูกาล ส่วนผังการจัดตัวในเกมนี้ ดาบิด ฆวนก้า จะได้ลงปักหลักแทน โฆเซ่ อังเคล อย่างต่อเนื่องรวมไปถึง กอนซาโล่ เอสกาลันเต้ จะออกสตาร์ทตรงกลางสนามนั่นทำให้ โฆอัน ฆอร์แดน ต้องหลุดไปเป็นสำรอง

เออิบาร์ (4-4-2) : มาร์โก ดมิโตรวิช ; อันเดร์ กาป้า, อานาอิตซ์ อาร์บิญ่า เปาโล โอลิเวียร่า, ดาบิด ลอมบาน, ดาบิด ฆวนก้า ; อิบัน อเลโฆ่, กอนซาโล่ เอสกาลันเต้, ดานี่ การ์เซีย, ทาคาชิ อินูอิ ; เซร์จี้ เอ็นริช, ชาร์เลส

โจวานนี่ เดอ เบียซี่ เทรนเนอร์ อลาเบส จะขาดเพียงแค่ บิคตอร์ ลากูอาร์เดีย (-)ปราการหลังที่เดี้ยงยาวเพียงรายเดียวเท่านั้น ส่วนแกนหลักที่เหลือต่างพร้อมมีชื่อลงสนามยกเว้นบางตำแหน่งที่อาจจะต้องปรับทัพโดยการปรับแดนกลางส่ง มูบารัก วากาโซ่ ลงปักหลักแทน อัลบาโร่ เมดราน ขณะที่ตำแหน่งอื่นๆยังคงวาง มูนีร์ เอล ฮัดดาดี้ และ กริสเตียน ซานโต๊ส จบสกอร์ร่วมกัน

อลาเบส (3-5-2) : เฟร์นานโด ปาเชโก้ ; อเล็กซิส รูอาโน่, โรดริโก้ อีลี่, กีเยร์โม่ มาริปาน ; การ์ลอส บิการาย, มูบารัก วากาโซ่, โทมัส ปิน่า, มานู การ์เซีย, อัลฟอนโซ่ เปดราซ่า ; มูนีร์ เอล ฮัดดาดี้, กริสเตียน ซานโต๊ส

วิโอเรล ตานาเซ่ นายใหญ่ สเตอัว บูคาเรสต์ เตรียมเช็คความฟิตของ โรมาริโอ้ เบนซาร์(6นัด/1ประตู)กองกลางว่าจะผ่านความฟิตหรือไม่ นอกจากนี้จากสถานการณ์ที่ลอยลำผ่านเข้ารอบไปแล้ว พวกเขาก็จัดแจงเตรียมพักแข้งแกนหลักไปหลายตำแหน่งไม่ว่าจะเป็น ฟิลิเป้ เตเซร์ร่า(13นัด/1ประตู)แนวรุก มิฮาย ปินเตลลี่(11นัด) และ มาร์โค โมเมคชิโนวิค(12นัด/1ประตู)ที่ได้จะได้พักกันทั้งหมดในทริปนี้

เจ้าบ้าน วิคตอเรีย พัลเซ่น ทีมดังจาก เช็ก ยังคงหมดสิทธิ์ใช้งาน ยาน บาราเน็ก(-)แนวรับที่เดี้ยงยาว รวมถึงสองตัวหลักอย่าง มาร์ติน ซีแมน(12นัด)และ มิคาล เคอร์เมนชิค (13 นัด / 9 ประตู)หัวหอกหมายเลขหนึ่งที่บาดเจ็บเข้ามา ทำให้ความหวังจะตกไปอยู่ที่ แยน โคปิช ดาเนียล โกลาร์ และ ดิเอโก้ ชีวูลิช ไปโดยปริยาย

ส่วนทีมเยือน ฮาโปเอล เบียร์ เชว่า ของเทรนเนอร์ บารัค บาคาร์ กำลังอยู่ในช่วงมั่นใจหลังนำลูกทีมซิวชัยเรียบมา 4 จาก 5 เกมหลังสุดแถมยังไม่แพ้ใคร ส่วนความพร้อมไม่มีปัญหาเรื่องผู้เล่นให้กวนใจนัก และจะได้เห็น โทมัส เป็คฮาร์ต หัวหอกตัวเก่งชาวเช็ก, มาห์ราน ราดี้ ห้องเครื่องจอมเก๋าและ แดน ไอน์บินเดอร์ เพลย์เมกเกอร์ออกสตาร์ทในเกมนี้

เพียร์ลุยจิ ทามิ ผู้จัดการทีม ลูกาโน่ แทบไม่เหลืออะไรให้ลุ้นหนักกับการเก็บได้เพียง 3 คะแนนจาก 4 เกมในรอบแบ่งกลุ่ม ส่วนความพร้อมในเกมนี้แน่นอนว่าจะไม่มีชื่อของ โกรัน จาซิโนวิค, มาร์โค ปาดาลิโน่ 2 กองหลังเเละ สเตฟานโน่ กิลโดลติ แถม ฟาบิโอ ดาเปรล่า แนวรับตัวเก่งจะถูกคาดโทษในเกมนี้ ส่วนแข้งตัวจริงจะได้เห็น อเล็กซานเดอร์ แกรนด์ท หัวหอกชาวสวีเดนถูกวางเป็นหน้าเป้าในระบบ 4-2-3-1 โดยมี ดาวิเด้ มาเรียนี่ เป็นเพลย์เมกเกอร์

ทีมเยือน เรอัล โซเซียดัด ของเทรนเนอร์ ยูเซบิโอ ซากริสตาน ยังมีโอกาสลุ้นแชมป์กลุ่มหากคว้าชัยได้ในเกมนี้ ซึ่งแข้งสวนใหญ่ภายในทีมยังพร้อมรอสแตนบายยกเว้น ดาบิด ซูรูตูว่า กองกลางจอมเก๋าวัย 31 ปีกับ อิมานอล อกิร์เร็ตเซ่ หัวหอกกำลังเสริมที่ยังเดี้ยงด้วยกันทั้งคู่ ส่วนผังการยืนในแดนหน้าจะได้เห็น อัดนาน ยานาไซจ์, วิลเลี่ยน โชเซ่ และ มิเกล โอยาร์ซาบัล เป็นตัวยืนในเกมนี้

เรอัล โซเซียดัด (4-3-3) : เกโรนิโม่ รูยี่ - อัลบาโร่ โอดริโอโซล่า, อาริตซ์ อีลูสตอนโด้, อินญิโก้ มาร์ติเนซ, เด ลา เบญ่า - ชาบี ปรีเอโต้, อิกอร์ ซูเบลเดีย, อาเซียร์ อิยาร์ราเมนดี้ - อัดนาน ยานาไซจ์, วิลเลี่ยน โชเซ่, มิเกล โอยาร์ซาบัล

คาเร่ อิงเกบริกต์เซ่น ผู้จัดการทีมแทบไม่เหลืออะไรให้ลุ้นแล้วในรายการ ยูโรป้าลีก ส่วนความพร้อมในเกมนี้จะไร้เงา แม็กนัส สตัมเนสโตร กองกลางเพียงรายเดียวเท่านั้น ส่วนแข้งแกนหลักที่เหลือยอมพร้อมเป็นตัวเลือกให้ใช้งานโดยเฉพาะ นิกคลาส เบนด์เนอร์, ซามูเอล อเด็กเบนโร่, ยานน์ เด ลานเลย์ และ ไมค์ เยนเซ่น ที่พร้อมเป็นตัวยืนตามคาด

โรเซนบอร์ก (4-3-3) : อันเดร ฮานเซ่น - เวการ์ เฮเดนสตัด, ตอเร่ เรกินิอุสเซ่น, ยอร์เก้น สเคลวิค, เบียร์เกอร์ เมลิ่ง - ไมค์ เยนเซ่น, อันเดอร์ส คอนร๊าดเซ่น, อันเดอร์ส ตรอนด์เซ่น - ซามูเอล อเด็กเบนโร่, นิกคลาส เบนด์เนอร์, ยานน์ เด ลานเลย์

เซโดเมียร์ ยาเนฟสกี้ กุนซือ วาร์ดาร์ จะไม่มี วลาดิซา เบอร์ดารอฟสกี้ ที่บาดเจ็บและไม่ได้เดินทางไปกับเพื่อนร่วมทีมในครั้ง ส่วนแข้งแกนหลักที่เหลือจะได้เห็น ยตาโล หัวหอกบราซิเลี่ยนลงยืนหน้าเป้าโดยมี จาบา จิกาอูรี่,ฟิลิปเป้ เดล เบลโล่ และ ทิกราน บาร์เซกห์ยาน คอยปั้นเกมในระบบ 4-2-3-1 พร้อมกับวาง นิโคล่า กลิกอรอฟ และ มาร์โควิช เป็นคู่จอมทัพ

โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซืออิตาเลี่ยนของเซนิต จะหมดสิทธิ์ใชเงานผู้เล่น 2 รายอย่าง อังเดรย์ รูเนฟ และ วิคตอร์ ฟัลซูรลิน กองกลางตัวหลักที่ยังบาดเจ็บ อย่างไรก็ดีแกนหลักที่เหลือต่างพร้อมลงประจำตำแหน่งไม่ว่าจะเป็น อเล็กซานเดอร์ โกโกริน,โอเล็ก ชาตอฟ และ เอมิเลียโน ริโกนี เป็นสามประสานแดนหน้าในระบบ 4-3-3 โดยมี เลอันโดร ปาเรเดส อดีตมิดฟิลด์โรม่าเป็นตัวชูโรงในแผงกลาง