วิเคราะห์บอล / วิเคราะห์บอลวันนี้

จอร์เก้ อัลมาด้า เทรนเนอร์ชาวอุรุกวัยของทีมเยือนจำเป็นต้องใส่เต็มหมดหน้าตักหากยังหวังจะผ่านเข้าไปเล่นนัดชิง แต่อุปสรรคก่อนลงสนามดูท่าจะมีมากอยู่พอสมควรเพราะนอกจากจะไร้เงา ติโต้ วาเลนเซีย(21นัด)แนวรุกที่ยังบาดเจ็บอยู่ก่อนแล้วยังจะพลาดใช้งาน กาเบรียล มาร์เกวซ(19นัด)แดนกลางตัวหลักที่จะถูกคาดโทษในเกมนี้ ส่วนตัวทีเด็ดในเกมนี้ยังคงไว้ใจให้ ดาเมียน ดิอ๊าซ ตัวรุกอาร์เจนไตน์ลงยืนเป็นเพลย์เมกเกอร์ในระบบ 4-2-3-1 โดยมี เอเรียล นาเฮลเพน เป็นหน้าเป้า

เรนาโต้ เกาโช่ ผู้จัดการทีม เกรมิโอ้ ตัวแทนจากบราซิลเตรียมจัดชุดเต็มลงบุ๊อีกครั้งแม้เกมเลกแรกจะบุกไปชนะ บาร์เซโลน่า เอสซี 3-0 ถึงประเทศ เอกวาดอร์ ทำให้โอกาสทะลุไปเข้าชิงจัดว่าสดใสพอสมควร ซึ่งในเกมนี้จะหมดสิทธิ์ใช้งานแน่ๆก็คือ ดั๊กลาส(-) และ ไมค่อน(11นัด)สองแดนกลางที่ยังบาดเจ็บอยู่ก่อนแล้ว ส่วนแกนหลักอย่าง ลูคัส บาร์ริออส หัวหอกตัวเก๋าชาวปารากวัยเตรียมลงเป็นหน้าเป้าในระบบ 4-2-3-1 โดยมี ฮวน , เฟร์นานดินโญ่ และ รามิโร่ เป็นสามประสานแนวรุก

ส่วนตัวแทนจากรัสเซียอย่าง สปาร์ตัก มอสโก กลับมาจุดประกายความหวังในการผ่านเข้ารอบทันทีหลังเพิ่งเปิดบ้านชนะ เซบีญ่า ไปถึง 5-1 หากพวกเขาบุกไปชนะจะทำให้โอกาสเข้ารอบในฐานะอันดับ 2 ของกลุ่มค่อนข้างสดใส ส่วนผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนามลงหนีไม่พ้นชุดหลักๆจากเกมที่แล้วส่วนตัวเจ็บยังคงไร้เงา ยาโน่ อนานิดซี่, จอร์จี้ ทิกิเยฟ, อาร์เตม ติโมเฟเยฟ และ โรมัน ซอบนิน ที่ยังเดี้ยงยาว แต่ทีเด็ดแนวรุกยังจะได้เห็น มาริโอ ปาซาลิช กลับมามีชื่อเป็นตัวจริงโดยมี หลุยซ์ อาเดรียโน่ เป็นหัวหอกในระบบ 4-5-1

สปาร์ตัก มอสโก (4-5-1) : อเล็กซานเดอร์ เซลิคอฟ ; มาร์โก้ เพ็ทโควิช, เซอร์ดาร์ ทาสชี่, จอร์จี้ ชิคิย่า, ดมิทรี่ กอมบารอฟ ; อิเวลิน โปปอฟ, แฟร์นานโด, เดนิส กลูชาคอฟ, มาริโอ ปาซาลิช, กินซี่ โพรเมส ; หลุยซ์ อาเดรียโน่

เอดูอาร์โด้ เบริซโซ่ ผู้จัดการทีม เซบีญ่า เริ่มยกระดับฟอร์มการเล่นขึ้นมาได้บ้างหลังตบทีมรองบ่อนในลีกมา 2 เกมติด ขณะที่เกมการแข่งขันในนัดนี้พวกเขาเตรียมกลับมาเล่นในบ้านเจอ สปาร์ตัก มอสโก ที่เพิ่งเอาชนะพวกเขามา 5-1 ในเกมที่มอสโก ซึ่งเกมนี้เจ้าบ้านเตรียมปรับทัพค่อนข้างแน่และจะได้เห็น กาเบรียล เมร์กาโด้ ลงเล่นแบ็คขวาแทน เซบาสเตียน กอร์เชียเช่นเดียวกับแดนกลางเตรียมพัก ไมเคิ่ล ครอห์น-เดห์ลี และให้ เอแวร์ บาเนก้า คอยลำเลียงบอลลให้แนวรุกอย่าง โนลิโต้,วิสซัม เบน เยดเดอร์ และ ปาโบล ซาราเบีย ในโซนแดนหน้าในระบบ 4-3-3

เซบีญ่า (4-3-3) : เซร์กิโอ ริโก้ ; กาเบรียล เมร์กาโด้, แกลร์กมงต์ ล็องเล่ต์, ไซม่อน ชาร์, เซร์กิโอ เอสกูเดโร่ ; กีโด ปิซาร์โร่, สเตเว่น เอนซ็องซี่ ; ปาโบล ซาราเบีย, เอแวร์ บาเนก้า, โนลิโต้ ; วิสซัม เบนเยดเดอร์

ดาร์โก้ มิลานิซ ผู้จัดการทีม มาริบอร์ ยังคงทำทีมจมบ๋วยของกลุ่ม อี ต่อเนื่องหลังเพิ่งเปิดบ้านโดน ลิเวอร์พูล ถล่ม 7-0 ในศึก ชปล. ส่วนความพร้อมในเกมนี้ผู้มาเยือนจากสโลวีเนียจะหมดสิทธิ์ใช้งานแน่ๆก็คือ เดนิส สมี กองหลังวัย 23 ปี ซึ่งเข่าพังเดี้ยยาว รวมไปถึง ลูก้า ซาโอวิช ที่เพิ่งบาดเจ็บมาจากเกมลีกในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ดีเกมนี้จะได้เห็น มาร์โก ซูเลอร์ ปราการหลังจอมเก๋าลงคุมแนวรับร่วมกับ อเล็คซานเดอร์ รายเซวิซ ได้ไม่มีปัญหา เช่นเดียวกับโซนแนวรุกพวกเขาเตรียมวาง ยาสมิน เมชาโนวิช ลงยืนเป็นหน้าเป้าพ่วงด้วย มาร์คอส ตาวาเรส, ดาเร่ เวอร์ชิช และ ดามยาน โบฮาร์ เป็นตัวสนับสนุน

มาริบอร์ (4-2-3-1) : ยาสมิน ฮันดาโนวิซ - มาร์ติน มิเลก, อเล็คซานเดอร์ รายเซวิซ, มาร์โก ซูเลอร์, มิตย่า วิเลอร์ - มารูวาน คาบ้า, บลาซ เวอร์โฮเว็ก - มาร์คอส ตาวาเรส, ดาเร่ เวอร์ชิช, ดามยาน โบฮาร์ - ยาสมิน เมชาโนวิช

เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ประจำทีมเตรียมปรับหมากอยู่หลายตำแหน่งในเกมนี้เพื่อเติมความสดในเกมรับมือ มาริบอร์ ใน แอนฟิลด์ หลังบุกไปถล่มมาถึง 7-0 ในเกมที่แล้ว ขณะที่เกมนี้จะไม่มีชื่อของกัปตันทีม จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่จะถูกพักร่างกายเพื่อรอบู๊เกมลีกและจะเป็น เอ็มเร่ ชาน,จอร์จินิโอ ไวย์นัลดุม และ เจมส์ มิลเนอร์ ผนึกกำลังร่วมกัน เช่นเดียวกับแดนหน้าจะเตรียมพัก โรแบร์โต้ เฟียร์มิโน่ ที่จะมีชื่อเป็นเพียงตัวสำรองเท่านั้นหลังกำลังศึกมาต่อเนื่องเช่นเดียวกับ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ เดยัน ลอฟเรน และ โจ โกเมซ ที่รอเช็คสภาพความฟิตก่อนลงสนามและน่าจะเป็นเพียงตัวสำรองเท่านั้น จึงไม่แปลกที่จะได้เห็น เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แบ็กขวาดาวรุ่งลงตัวจริงอีกครั้งในรายการ แชมเปี้ยนส์ ลีก

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ลอริส คาริอุส - เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจเอล มาติป, แรกนาร์ คลาวาน, อัลเบร์โต้ โมเรโน่ - เอ็มเร่ ชาน, เจมส์ มิลเนอร์, จอร์จินิโอ ไวย์นัลดุม - อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน,แดเนียล สเตอร์ริดจ์, โมฮาเหม็ด ซาล่าห์

ส่วนทีมเยือน อิปสวิช ทาวน์ เลิกออกทะเลได้สักทีหลังบุกชนะ เบอร์ตัน 2-1 ในเกมล่าสุด อย่างไรก็ดีพวกเขายังคงหมดสิทธิ์ใช้งาน ทอม อาเดเยมี กับ เอเมียร์ ฮิวส์ ที่ยังมีปัญหาอาการบาดเจ็บ แต่เฮ้ดโค้ช มิค แม็คคาร์ธี่ย์ ต่างพร้อมส่งแกนหลักหน้าเดิมลงบู๊ได้ไม่มีปัญหาโดยเฉพาะหัวหอกอย่าง โจ การ์เนอร์(12นัด/4ประตู)เตรียมถูกวางเป็นหน้าเป้าโดยมี เบอร์ซันต์ เซลิน่า(9นัด/3ประตู)แข้งดาวรุ่งชาวโคโซโวที่ยืมมาจาก แมนฯ ซิตี้ เป็นเพลย์เมกเกอร์อยู่ด้านหลัง

นีล วอร์น็อค กุนซือ คาร์ดิฟฟ์ ยังคงต้องนำทีมหาฟอร์มเก่งให้เจอต่อไปหลังเก็บชัยได้เพียงเกมเดียวเท่านั้นตลอด 4 เกมหลังสุด(เสมอ2แพ้1) อย่างไรก็ดีความพร้อมในเกมนี้ยังถือว่าดูดีไม่น้อยเมื่อพวกเขาจะได้สองแข้งตัวหลักสลัดเดี้ยงกลับมาไม่ว่าจะเป็น เคนเนธ โซโฮเร่ (12 นัด/3 ประตู) กองหน้าเดนมาร์กและ อารอน กุนนาร์สสัน (10 นัด) ห้องเครื่องสัญชาติไอซ์แลนด์กลับมามีชื่อเป็นตัวจริงร่วมกับ เมนเดซ แลง (14 นัด/4 ประตู) และ โจ รอลส์ (13นัด/3 ประตู)ในผังแนวรุก

ส่วนทีมเยือน มิดเดิ้ลสโบรช์ ของกุนซือ แกร์รี่ มองค์ เริ่มลืมตาอ้าปากได้บ้างแล้วหลังบุกไปชนะ เร้ดดิ้ง 2-0 หลังพ่ายมา 2 เกมรวด อย่างไรก็ดีความพร้อมก่อนเกมจัดว่าโชคดีที่ไม่มีแข้งตัวเจ็บ ยกเว้น รูดี้ เกสเตด ดาวยิงร่างยักษ์ที่มีปัญหาเจ็บกล้ามเนื้อต้นขาแต่จะได้ บริทท์ อัสซอมบาล็องก้า (14 นัด 7 ประตู) กองหน้าค่อยเป็นตัวแบกรับความคาดหวังต่อไปพร้อมกับส่ง อดัม เคลย์ตัน (12 นัด) กับ โจนาธาน โฮว์สัน (12 นัด) เป็นตัวคุมแดนกลางพร้อมกับส่ง แอชลี่ย์ เฟล็ทเชอร์ (12 นัด 1 ประตู)คอยปั้นเกมรุก

เจ้าบ้าน ฮัลล์ ซิตี้ เริ่มมีสะดุดให้เห็นบ้างแล้วหลังเกมล่าสุดพลาดท่าพ่าย ฟอเรสต์ 2-3 คาบ้านของตัวเอง อย่างไรก็ดีเกมนี้พวกเขาหวังเรียกความมั่นใจกลับมาอีกครั้งแถมยังมีข่าวดีเมื่อ อีแวนโดร ห้องเครื่องบราซิเลี่ยนเริ่มกลับมาซ้อมได้แล้ว ยกเว้นตัวเจ็บหน้าเก่าอย่าง วิล คีน(-), ไบรอัน เลนิแฮน(-), อาเบล เฮอร์นันเดซ(3นัด/3ประตู) และ สตีเฟ่น คิงส์ลี่ย์(6นัด) ที่ยังกอดคอเดี้ยงต่อไป ขณะที่ตัวชูโรงอย่าง เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ (11 นัด 3 ประตู) กับ ยาร์ร็อด โบเว่น (14 นัด 8 ประตู)ต่างพร้อมมีชื่อลงแนวรุกตามคาด

ส่วนทีมเยือน บริสตอล ซิตี้ ของเทรนเนอร์ ลี จอห์นสัน กำลังอยู่ในช่วงมั่นใจหลังชนะรวดมา 2 เกมติดหลังชนะ ซันเดอร์แลนด์ 2-1 ในเกมล่าสุด ซึ่งเกมนี้พวกเขามีลุ้นได้ตัว นาธาน เบเกอร์(11 นัด)แนวรับสลัดเดี้ยงกลับมาเป็นตัวเลือกแต่คงต้องหลักทางให้ เอรอส ปิซาโน่ รับหน้าที่ไปก่อน ส่วนกองหน้าเตรียมวาง มิลาน ยูริช(1นัด/1ประตู) หัวหอกบอสเนียฯจับคู่กับ บ็อบบี รีด(14นัด/8ประตู) ค่อนข้างแน่

เจ้าบ้าน ฟูแล่ม ทีมอันดับ 13 ของตารางไม่ชนะใครมา 3 เกมติดเข้าไปแล้วโดยนัดล่าสุดเพิ่งบุกไปเสมอ โบลตัน 1-1 ส่วนความพร้อมในเกมนี้ สลาเวีย โยกาโนวิช นายใหญ่ประจำทีมจะไร้เงา เซยี่ โอโจ้ (6 นัด) ปีกตัวยืมจาก ลิเวอร์พูล และ ลูคัส เปียซอน (2 นัด/1 ประตู) ทว่ายังมีข่าวดีเมื่อ ทอม แชร์นี่ (6 นัด/1 ประตู) กองหลังกัปตันทีมเตรียมสลัดเดี้ยงกลับมาออกสตาร์ทโดยมีแนวรุกอย่าง สเตฟาน โยฮันเซ่น (14 นัด/4 ประตู)ปั้นเกมให้ อาบูบาการ์ กามาร่า (11 นัด/2 ประตู)จบสกอร์

ส่วนทีมเยือน บาร์นสลี่ย์ ผลงานที่ผ่านมาดูดีกว่าเจ้าถิ่นไม่มากนักหลังจมอยู่อันดับ 19 ของตาราง ทว่าฟอร์มโดยรวม 5 นัดหลังยังถือว่าพอฝากผีฝากไข้จากการหลุดพ่ายเพียงนัดเดียวเท่านั้น(ชนะ1เสมอ3) ส่วนความพร้อมในเกมนี้ถือว่าพวกเขาค่อนข้างฟูลทีมเลยทีเดียวเพราะจะไร้เงาเพียงแค่ อดัม จอห์นสัน(12นัด/1ประตู)แนวรับตัวหลักที่ยังเดี้ยงอยู่ ส่วนทีเด็ดในแดนหน้ายังคงใช้ ทอม แบรดชอว์ ที่ซัดไปแล้ว 4 ประตูในลีกลงบู๊ในระบบ 4-5-1

เจ้าบ้าน เบอร์ตัน อัลเบี้ยน ทีมโซนบ๋วยของตารางยังคงอยู่ในฟอร์มเละเทะต่อเนื่องหลังแพ้ไปถึง 4 จาก 5 นัดหลังสุดยังไม่ชนะใคร แถมเกมนี้ยังจะไร้เงาตัวเจ็บ จอห์น เบรย์ฟอร์ด(6นัด)แนวรับ และ เลียม บอยซ์(-)กองหน้าที่ยังบาดเจ็บอยู่ ส่วนแกนหลักที่เหลือต่างพร้อมลงประจำตำแหน่ง โดยมี ฌอน สแกนเนลล์ กับ มาร์วิน ซอร์เดลล์ เป็นตัวชูโรงในแดนหน้าในระบบ 4-4-2

ส่วนทีมเยือน ยูเวนตุส ของกุนซือ มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี เพิ่งตุนความมั่นใจจากเกมล่าสุดหลังบุกไปชนะ เอซี มิลาน 2-0 ในเกมลีกมาหมาดๆ ส่วนความพร้อมในเกมนี้พวกเขายังไร้เงาแข้งเดี้ยงหน้าเดิมอย่าง เมห์ดี้ เบนาเตีย, เบเนดิค โฮเวเดส และ มาร์โก เปียซ่า ขณะที่แกนหลักหน้าเดิมต่างพร้อมลงประจำตำแหน่งยกเว้นในรายของ ดั๊กลาส คอสต้า จะลงมาเติมความสดแทน มาริโอ มานด์ซูคิช เช่นเดียวกับ แบลส มาตุยดี้ ที่จะลงมาจับคู่กับ มิราเลม ปานิช แทนที่ ซามี่ เคดิร่า โดยมี ฮวน กวาดราโด้, เปาโล ดีบาล่า และ กอนซาโล่ ฮิกัวอิน คอยปักหลักชูโรงในแนวรุกต่อไป

ยูเวนตุส (4-2-3-1) : จานลุยจิ บุฟฟ่อน - มัตเตีย เด ชิโญ่, อันเดรีย บาซาญี่, จอร์โจ้ คิเอลลินี่, อเล็กซ์ ซานโดร - แบลส มาตุยดี้, มิราเลม ปานิช - ฮวน กวาดราโด้, เปาโล ดีบาล่า, ดั๊กลาส คอสต้า - กอนซาโล่ ฮิกัวอิน

ฮอร์เก้ เฮซุส เทรนเนอร์ สปอร์ติ้ง ลิสบอน เตรียมได้โอกาสเอาคืน ยูเวนตุส ในนัดนี้หลังกลับมาเล่นในบ้านอีกครั้ง ส่วนความพร้อมก่อนลงสนามพวกเขาจะหมดสิทธิ์ใช้งาน เฌเรมี่ มาติเยอ แนวรัยตัวหลักที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บและจะได้เห็น อังเดร ปินโต้ ลงมาทดแทนตำแหน่ง เช่นเดียวกับ ดาเนียล โพเดนซ์ ตัวรุกดาวรุ่งที่มีไม่สมบูรณ์เช่นกัน นอกจากนี้พวกเขายังต้องเช็คความฟิตของ อลัน รุยซ์ แนวรุกตัวสำรองส่วนแกนหลักที่เหลืออย่าง เซย์ดู ดุมเบีย ตัวรุกสายจรวดชาวไอวอรี่โคสต์พร้อมเบียด บาส โดสต์ เพชฌฆาตดัตช์ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงโดยมี เกลสัน มาร์ตินส์, บรูโน่ แฟร์นานเดส และ มาร์กอส อคูณญ่า เป็นตัวสนับสนุน

สปอร์ติ้ง ลิสบอน (4-2-3-1) : รุย ปาตริซิโอ - คริสเตียโน่ ปิชชินี่, เซบาสเตียน โกอาเตส, เฌเรมี่ มาติเยอ, ฟาบิโอ โกเอนเตรา - วิลเลี่ยม คาร์วัลโญ่, โรดริโก้ บัตตาเกลีย - เกลสัน มาร์ตินส์, บรูโน่ แฟร์นานเดส, มาร์กอส อคูณญ่า - เซย์ดู ดุมเบีย

เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ ผู้จัดการทีมเพิ่งนำทีมบุกไปชนะ แอธเลติก บิลเบา 2-0 ใน ลา ลีกา นัดล่าสุดและกำลังยึดจ่าฝูงในลีกได้เวลานี้ ส่วนความพร้อมในเกมนี้พวกเขายังคงไร้เงา เคราร์ด ปีเก้ ปราการหลังตัวหลักที่ติดโทษแบน 1 นัด จากการโดนใบเหลือง-แดง ไล่ออกในเกมที่แล้ว แถม อันเดรส อีเนียสต้า กับ อเล็กซ์ บีดาล ยังมีอาการบาดเจ็บรบกวนเช่นเดียวกับแข้งเดี้ยงหน้าเก่าอย่าง ราฟินญ่า และ อุสมาน เดมเบลเล่ ที่จะหมดสิทธิ์ลงเล่นตามคาด ส่วนแทคติกการเล่นในนัดนี้จะได้เห็นพวกเขากลับมาเล่นหน้า 3 อีกครั้งโดยมี เคราร์ด เดวโลเฟว, หลุยส์ ซัวเรซ และ ลิโอเนล เมสซี่ เป็นสามแนวหน้าพร้อมกับส่ง เปาลินโญ่, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ และ เดนิส ซูอาเรซ คุมแดนกลางร่วมกัน

บาร์เซโลน่า (4-3-3) : มาร์ค อันเดร แทร์ ชเตเก้น - เซร์จี้ โรเบร์โต้, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ ซามูแอล อุมติตี้, ลูก้าส์ ดีญ - เปาลินโญ่, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, เดนิส ซูอาเรซ - เคราร์ด เดวโลเฟว, หลุยส์ ซัวเรซ, ลิโอเนล เมสซี่

ทากิส เลโมนิส เทรนเนอร์ป้ายแดง เข้ามารับงานต่อจาก เบสนิค ฮาซี่ ยังคงต้องหาทางยกระดับการเล่นของทีมต่อไปหลังเพิ่งบุกไปพ่าย พานาธิไนกอส 0-1 ในเกมลีก ทว่ายังพอเข้าใจได้เพราะเกมนี้พวกเขามีคิวรับมือทีมอย่าง บาร์เซโลน่า ในบ้านของพวกเขานั่นเอง ส่วนความพร้อมก่อนเกมพวกเขาเตรียมได้นักเตะกลับมาจากอาการบาดเจ็บยกเว้นในรายของ เอฟสตาธิออส ลัมปรู มิดฟิลด์วัย 19 ปี ที่ติดโทษแบน รวมไปถึง เบน นาบูอาเน่ กองหน้าวัย 28 ปี จากคอโมโรส ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนแถมยังต้องเช็คความฟิตของ เซบ้า ตัวรุกบราซิเลี่ยนก่อนลงสนาม ส่วนแทคติกในเกมนี้พวกเขาเตรียมปรับโฉมมาใชระบบ 4-5-1 โดยทิ้ง เอ็มมานูเอล เอเมนิเก้ เป็นหน้าเป้าโดยมี เมห์ดี้ คาร์เชล่า กอนซาเลซ และ อธานาซิออส อันดรูทซอส ขึ้นเกมริมเส้น

โอลิมเปียกอส (4-5-1) : ซิลวิโอ โปรโต้ - ดีโอโก้ ฟิเกยราส, อัลเบร์โต้ โบเตีย, บียอร์น เอ็นเกลส์, เลโอนาร์โด คูตริส - อธานาซิออส อันดรูทซอส, ฌักส์ อเล็กซิส โรมาโอ, วาดิส โอดิดา โอโฟเอ้, กีโญม ชิลเล่ต์, เมห์ดี้ คาร์เชล่า-กอนซาเลซ - เอ็มมานูเอล เอเมนิเก้

ส่วนทีมเยือน เรอัล โอเบียโด้ ฟอร์มดูดีกว่าพอสมควรหลังชนะมา 2 เกมติดแถหลุดพ่ายเพียงเกมเดียวเท่านั้นจาก 5 เกมหลังสุด ส่วนความพร้อมเกมนี้พวกเขาสามารถจัดชุดที่ดีที่สุดลงบู๊ได้โดยไร้ปัญหาและจะได้เห็นแข้งตัวชูโรงอย่าง โทเซ่ที่ซัดไปถึง 5 เม็ดจาก 11 เกมลีกลงเป็นหน้าเป้าโดยมี มิเก ลินาเรส(9นัด)กับ ซาอู เบร์ฆอน(11นัด/4ประตู)เป็นตัวสนับสนุน

จูลิโอ เวลาซเกวซ เทรนเนอร์ อัลกอร์กอน จำเป็นต้องรักษาโมเมนตั้มหลังคัมแบ็คคว้าชัยในเกมล่าสุดให้ได้ เพราะว่าก่อนหน้านี้พวกเขาพ่ายติดต่อกันมา 4 เกมรวดก่อนจะมีชัยเหนือ กิมนาสติก 3-0 ในเกมล่าสุด ส่วนความพร้อมพวกเขาจะไร้ กาเดอร์ (3 นัด)และ โนนโย่ (6 นัด) สองแดนกลางขาประจำ ทว่ายังดีที่แนวรุกอย่าง อบาโร่ กิมีเนซ(10นัด)และ โจนาธาน เปไรร่า(7นัด)ต่างพร้อมลงสนาม

ส่วนทีมเยือน นูมานเซีย ผลงานยังไม่คงเส้นคงวานักจากการชนะเสมอแพ้สลับกันเป็นว่าเล่น อย่างไรก็ดีจากภาพรวมถือว่ากำลังมั่นใจหลังเปิดรังชนะทีมบ๋วยจาก ลา ลีกา อย่าง มาลาก้า มา 2-1 ใน โกปา เดล เรย์ ส่วนความพร้อมพวกเขาเตรียมยึดตัวหลักลงบู๊ครบเซ็ตเพราะจะขาดเพียงแค่ อูลิโอ อัลบาเรซ (-)กองกลางตัวสำรองเพียงแค่รายเดียว

ฆวน มาริโน่ เทรนเนอร์ กอร์โดบ้า จำเป้นต้องหาจุดเปลี่ยนของทีมให้กลับมาเก็บแต้มได้อีกครั้งหลังพ่ายคู่แข่งต่อเนื่องมา 3 เกมติดแล้วแถมตลด 3 นัดโดนยิงไปถึง 9 เม็ดเลยทีเดียว อย่างไรก็ดีสภาพความพร้อมก่อนลงสนามจัดว่าค่อนข้างพร้อมเพราะจะขาดเพียงแค่ อเล็กซ์ วาลเลโย่ (2 นัด)แข้งแดนกลางที่ไม่จัดเป็นแข้งตัวหลักของพวกเขา

ทีมเยือน เซลต้า บีโก้ ฟอร์มต่างจากเจ้าบ้านพอสมควรหลังแพ้เพียงแค่เกมเดียวจาก 6 เกมหลังสุด แถมเกมนี้พวกเขาเตรียมขนชุดหลังกลับมาออกสตาร์ทอีกครั้งหลังบุกไปชนะ เออิบาร์ 2-1 ในศึก โกปา เดล เรย์ ด้ยผู้เล่นชุดสำรอง และจะได้เห็น ยาโก้ อัสปาส, มอย โกเมซ, ดาเนี่ยล วาสส์, มักซี่ โกเมซ และ ปิโอเน่ ซิสโต้ ตบเท้าออกสตาร์ทตัวจริงกันทั้งหมด

เซลต้า บีโก้ (4-3-3) : รูเบน บลังโก้ ; อูโก้ มาโย่, กุสบาโบ กาบราล, เซร์จี้ โกเมซ, จอนนี่ อ๊อตโต้ ; ดาเนี่ยล วาส, สตานิสลาฟ ลาบ็อตก้า, โฆซาเบด เอร์นานเดซ ; ยาโก้ อัสปาส, มักซี่ โกเมซ, ปิโอเน่ ซิสโต้

เจ้าบ้าน มาลาก้า ยังคงเป็นทีมที่มีปัญหาทั้งฟอร์มการเล่นและขาดแข้งแกนหลักจากปัญหาบาดเจ็บในเวลานี้ จึงไม่แปลกที่จะเห็นพวกเขาแพ้ไปถึง 8 จาก 9 เกมในลีกจมบ๋วยอยู่ในยามนี้ ซึ่งตัวหลักๆที่จะหมดสิทธิ์ช่วยทีมคงหนีไม่พ้น ดีเอโก้ โรลัน กองกลางคนสำคัญทำให้ เกโก้ ยังคงต้องลงทดแทนเช่นเดียวกับ ซดราฟโก้ คูซมาโนวิช ที่เจ็บหนักถึงขั้นปิดเทอมยาวไปแล้ว ส่วนแนวรุกที่เหลือและยังพอากความหวังได้อย่าง อาดัลลเบร์โต้ เปนารันด้า,ฆวนปี้ และ กอนซาโล่ กาสโตร จะมีชื่อในเกมนี้

มาลาก้า (4-2-3-1) : โรเบร์โต้ ฆิมิเนซ ; โรเบร์โต้ โรซาเลส, ลุยส์ เอร์นานเดซ, ปอล บายาสเซ่, ฆวน เปเรซ ; เอสเตบัน โรลอน, เรซีโอ้ ; เกโก้, ฆวนปี้, กอนซาโล่ กาสโตร ; อาดัลลเบร์โต้ เปนารันด้า

ฆวน รามอน มูนญิซ เทรนเนอร์ เลบานเต้ ยังคงไม่มี ซามู การ์เซีย มิดฟิลด์ตัวรุกที่ต้องพักยาวจนถึงสิ้นเดือนตุลาคมเช่นเดียวกับแบ็กขวาอย่าง อีบัน โลเปซ ที่ต้องรอเข้ารับการผ่าตัดที่เอ็นเข่าซ้าย พร้อมกับไร้เงา นาโน่ เมซ่า กองหน้าตัวเป้าที่ต้องพักยาว 8 สัปดาห์ ทำให้กองหน้าจะต้องฝากความหวังไว้ที่ อเล็กซ์ อาเลเกรีย ที่จะรับบทบาทหัวหอกเดี่ยวในเกมนี้

เลบานเต้ (4-2-3-1) : ราอูล เฟร์นานเดซ ; เปโดร โลเปซ, เซร์คิโอ ปอสตีโก้, เชม่า โรดริเกซ, อันโตนิโอ ลูน่า ; เจฟเฟอร์ซอน เลร์มา, โฆเซ่ กัมปานญ่า ; อีบี โลเปซ, เอนิส บาร์ดี, โฆเซ่ หลุยส์ โมราเลส ; อเล็กซ์ อาเลเกรีย

โฆเซ่ หลุยส์ เมนดิลิบาร์ นายใหญ่ เออิบาร์ มีลุ้นได้ กอนซาโล่ เอสกาลันเต้ ฟิตกลับมาหลังจากข้อเท้าเดี้ยง ทว่า 3 แข้งผู้เล่นเอ้าท์ฟิลด์อย่าง อิบัน รามิส (4 นัด),ฟราน ริโก้, อีวี่ (2 นัด)และ เปโดร เลออน (-)ต่างยังไม่สามารถสลัดอาการบาดเจ็บได้ในยามนี้ ส่วนผังแนวรุกพวกเขาจะใช้ เซร์จี้ เอ็นริช กับ กีเก้ การ์เซีย เป็นคีย์แมนหลักในการจบสกอร์ต่อไป

เออิบาร์ (5-3-2) : มาร์โก ดมิโตรวิช ; อันเดร์ กาป้า, อานาอิตซ์ อาร์บิญ่า เปาโล โอลิเวียร่า, ดาบิด ลอมบาน, โฆเซ่ อังเคล ; โฆอัน ฆอร์แดน, ดานี่ การ์เซีย, ทาคาชิ อินูอิ ; เซร์จี้ เอ็นริช, กีเก้ การ์เซีย

ซีเนอดีน ซีดาน กุนซือ เรอัล มาดริด จะกลับมาใช้ เคย์เลอร์ นาบาส นายทวารตัวจริงในเกมลีกอีกครั้งเป็นเหตุให้ กีเก้ กาซีย่า ต้องหลุดไปเป็นสำรองโดยปริยาย นอกจากนี้จะได้เห็นทีเด็ดแนวรุกขาประจำอย่าง อีสโก้, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ คาริม เบนเซม่า กลับมาประเดิมสนามส่วนในรายตัวเจ็บอย่าง แกเร็ธ เบล (5 นัด 2 ประตู), มาเตโอ โควาซิช (2 นัด) และ ดาเนี่ยล การ์บาฆัล (6 นัด)ต่างยังม่พร้อมลงสนาม

เรอัล มาดริด (4-3-1-2) : เคย์เลอร์ นาบาส ; นาโช่, ราฟาแอล วาราน, เซร์คิโอ รามอส, มาร์เชโล่ ; ลูก้า โมดริช, กาเซมิโร่, โทนี่ โครส ; อีสโก้ ; คริสเตียโน่ โรนัลโด้, คาริม เบนเซม่า

ปาโบล มาชิน เทรนเนอร์เจ้าบ้านเตรียมกลับมาใช้บริการแข้งหลักแบบยกเซ็ตหลังใช้ชุดสำรองในเกมแพ้ เลบานเต้ 0-2 ในศึก โกปา เดล เรย์ มาหมาดๆ ซึ่งเกมนี้ยังจะได้ คริสเตียน สตูอานี่ กองหน้าชาวอุรุกวัยจะพ้นโทษแบนกลับมาประจำการแนวรุกร่วมกับ กริสเตียน ปอร์ตู และ บอร์ฆา การ์เซีย อีกครั้ง

กิโรน่า (3-4-3) : โบโน่ ; ฆวนเป้, โจนาส รามัลโญ่, เบร์นาร์โด้ เอสปิโนซ่า ; ปาโบล มาฟเฟโอ, เปเร่ ปอนส์, อเล็กซ์ การ์เซีย, อาดาย เบนิเตซ ; กริสเตียน ปอร์ตู, คริสเตียน สตูอานี่, บอร์ฆา การ์เซีย

ส่วนทีมเยือน เอวเซบิโอ ซากริสตาน กุนซือ เรอัล โซเซียดัด จะไร้เงาอาเซียร์ อิยาร์ราเมนดี้ กองกลางตัวหลักที่ติดโทษแบนและจะได้เห็น อีกอร์ ซูเบลเดีย ไปยืนมิดฟิลด์ตัวต่ำ และให้ รูเบน ปราโด้ จับคู่ในโซนตัวคุมเกมร่วมกับ ดาบิด ซูรูตูซ่า แทน ส่วนตัวเจ็บอีกรายก็คือ อิมานอล อากีร์เร็ทเช่ (3 นัด)หัวหอกตวสำรองเท่านั้นที่ไม่พร้อมใช้งานในยามนี้

เรอัล โซเซียดาด (4-3-3) : เคโรนีโม่ รูยี่ ; อัลบาโร่ โอดริโอโซล่า, ดีเอโก้ ยอร์เรนเต้, อินญิโก้ มาร์ติเนซ, เกบิน โรดริเกซ ; ชาบี ปรีเอโต้, อีกอร์ ซูเบลเดีย, รูเบน ปราโด้ ; มิเกล โอยาซาบัล, วิลเลี่ยน โฆเซ่, อั๊ดนาน ยานาซาย

โฆเซ่ บอร์ดาลาส นายใหญ่ประจำทีมยังคงไร้เงา กาคุ ชิบาซากิ(4 นัด 1 ประตู) มิดฟิลด์ทีมชาติญี่ปุ่น เช่นเดียวกับแดนกลางอีกรายอย่าง เจฟเฟอร์สัน มอนเตโร่ (1 นัด)ที่ยังไม่น่าพร้อมมีชื่อในเกมนี้ อย่างไรก็ดีแกนหลีกทั้งหลายที่ได้พักเมื่อเกมกลางสัปดาห์จะกลับมามีชื่อเป็นตัวจริงโดยแดนหน้าจะใช้ ฆอร์เก้ โมลิน่า ล่าตาข่ายโดยมี อัลบาโร่ คิมิเนซ, ฟายกัล ฟายร์ และ อามาธ เอ็นเดียเย่ คอยปั้นเกม

เกตาเฟ่ (4-2-3-1) : บิเซนเต้ กูยาต้า ; ดาเมี่ยน ซัวเรซ, เฌเน่ ดาโกนัม, ฆวน กาล่า, บิตอเรียโน่ อันตูเนส ; มาร์เกล เบร์การ่า, เมาโร อารัมบาร์รี่ ; อัลบาโร่ คิมิเนซ, ฟายกัล ฟายร์, อามาธ เอ็นเดียเย่ ; ฆอร์เก้ โมลิน่า

ส่วนจ่าฝูง วูล์ฟแฮมป์ตัน อยู่ในสภาพความข้างพร้อมก่อนลงสนามเพราะนอกจากตัวเจ็บหน้าเดิมอย่าง คาเรล ลิเกเม่(-)นายทวารที่ยังบาดเจ็บ และ ฟิล โอโฟซู(-)แนวรับ ตัวหลักที่เหลือต่างพร้อมลงสนามได้ไม่มีปัญหา นอกจากนี้จะได้ วิลลี่ โอลี่(5นัด)กลับมากู้สถานการณ์แนวรับเพิ่มเติม

เจ้าบ้าน ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส ฟอร์มไม่สู้ดีนักหลังไม่ชนะใครมา 5 เกมรวด(เสมอ4แพ้1) ส่วนความพร้อมในเกมนี้พวกเขาจะไร้เงาแนวรับไปหลายรายไม่ว่าจะเป็น สตีเว่น คอลเกอร์(2นัด),แกรนท์ ฮัลล์(-),เนดุม โอนูโอฮา(7นัด)กัปตันทีม และ เจมส์ เพียซ ทว่ายังมีข่าวดีเมื่อ แจ็ค โรบินสัน(7นัด)อดีตแนวรับค่าย "หงส์แดง" เตรียมกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง

ส่วนทีมเยือน มิลล์วอลล์ ของกุนซือ นีล แฮร์ริส เทรนเนอร์ประจำทีมมีข่าวดีคือจะได้ตัว สตีฟ มอร์ริสัน หัวหอกตัวเก๋ากลับมามีชื่อออกสตาร์ทอีกครั้งโดยมีตัวหลักอย่าง จอร์จจี้ ซาวิลล์ (13 นัด/4 ประตู), เจด วอลเลซ (13 นัด/3 ประตู) และ ลี เกรกอรี่ (10 นัด/2 ประตู)เป็นตัวชูโรง

นีล วอร์น็อค เฮดโค้ช จะยังคงหมดสิทธิ์ใชงาน อารอน กุนนาร์สสัน (10 นัด) มิดฟิลด์ชาวไอซ์แลนด์กับ เคนเน็ธ โซโฮเร่ (13 นัด/3 ประตู) แนวรุกชาวเดนมาร์กที่ยังมีปัญหาอาการบาดเจ็บ ทว่าแกนหลักที่เหลือต่างพร้อมลงประจำตำแหน่งไม่ว่าจะเป็น ดาวิด ฮอยต์เล็ท, ดาเนี่ยล วอร์ด และ โจ รัลส์ ที่จะถูกวางเป็นสามประสาน

อาเซียร์ การีตาโน่ กุนซือ เลกาเนส ยังมีเรื่องให้กังวลเมื่อ รูเบน เปเรซ กองกลางคนสำคัญที่มีปัญหาบริเวณหัวไหล่ยังไม่พร้อมลงสนาม แต่ยังดีที่ อเล็กซ์ ซีมานอฟสกี้ พร้อมลงเป็นหน้าเป้าโดยมี เคลาดิโอ บัววิว, นอร์ดิน อัมราบัต และ กาเบรียล ปีเรส เป็นตัวสนับสนุนในโซนแนวรุกอีกครั้ง อย่างไรก็ดีเหล่าบรรดาแกนหลักแดนกลางต่างมีชื่อออกสตาร์ทยังเว้นในรายของ โอมาร์ รามอส (5 นัด)ที่ยังรอการคัมแบ็กจากอาการบาดเจ็บต่อไป

เลกาเนส (4-3-3) : อีวาน กูเอร์ย่า ; โฆเซบา ซัลดูอา, ดิมิตริออส ซิโอวาส, เมาโร ดอส ซานโต๊ส, ราอูล การ์เซีย ; เอราโซ่, รูเบน เปเรซ, กาเบรียล ปีเรส ; นอร์ดิน อัมรบัต, เคลาดิโอ บัววิว, อเล็กซานเดอร์ ซีมานอฟสกี้

เอดูอาร์โด้ เบริซโซ่ นายใหญ่ประจำทีมจะหมดสิทธิ์ใช้งานแน่ๆก็คือตัวเจ็บอย่าง ดาเนี่ยล การ์ริโก้ (3 นัด)กับ นิโก้ ปาเรฆ่า (2 นัด)สองแนวรับที่ยังบาดเจ็บอยู่ ส่วนตัวหลักทั้งหลายอย่าง ไซม่อน ชาร์, เซร์คิโอ เอสคูเดโร่, สเตเว่น เอ็นซ็องซี่, เอแวร์ บาเนก้า และ มาร์ติน มอนโตย่า จะกลับมาประจำการตามเดิมหลังได้พักเต็มที่จากเกมกลางสัปดาห์ในศึก โกปา เดล เรย์ ที่ชนะรองบ่อนอย่าง การ์ตาเกน่า 3-0 โดยแนวรุกจะได้เห็น เฆซุส นาบาส ฆัวกิน กอร์เรอา และ หลุยส์ มูเรียล กลับมาลงสนามอีกครั้ง

เซบีญ่า (4-3-3) : เซร์กิโอ ริโก้ ; กาเบรียล เมร์กาโด้, ไซม่อน ชาร์, แกลร์กมงต์ ล็องเล่ต์, เซร์กิโอ เอสกูเดโร่ ; เอแวร์ บาเนก้า, สเตเว่น เอ็นซ็องซี่, ฟรานโก้ บาซเกซ : เฆซุส นาบาส, หลุยส์ มูเรียล, ฆัวกิน กอร์เรอา

เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ ผู้จัดการทีม บาร์เซโลน่า จ่าฝูง ลา ลีกา สเปน เตรียมกลับมาใช้ขุมกำลังชุดหลังลงบู๊อีกครั้งหลังให้โอกาสเหล่าชุดสำรองบวกกับดาวรุ่งบดเอาชนะ เรอัล มูร์เซีย 3-0 ในเกมบอลถ้วย ซึ่งเกมนี้แน่นอนว่าจะได้เห็น เคราร์ด ปีเก้ กลับมาออกสตาร์ทกับ ซามูแอล อุมตีตี้ ในคู่เซนเตอร์อีกครั้ง พร้อมกับวาง เคราร์ด เดโลเฟว ขึ้นเกมปีกขวาพร้อมกับทิ้ง หลุยส์ ซัวเรซ และ ลิโอเนล เมสซี่ เป็นตัวจบสกอร์

บาร์เซโลน่า (4-4-2) : มาร์ค อังเดร แทร์ ชเตเก้น ; เนลซอน เซเมโด้, เคราร์ด ปีเก้, ซามูแอล อุมตีตี้, ฆอร์ดี้ อัลบา ;เคราร์ด เดโลเฟว ,อีวาน ราคิติช, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, อันเดรส อิเนียสต้า ; หลุยส์ ซัวเรซ, ลิโอเนล เมสซี่

เจ้าบ้าน แอธเลติก บิลเบา ยังคงขาด อิเกร์ มูเนียอิน (6 นัด 1 ประตู)แนวรุกตัวเก่งที่ยังบาดเจ็บในเกมนี้ ส่วนแกนหลักที่เหลือต่างพร้อมลงประจำตำแหน่งโดยเฉพาะ อินญากี้ วิลเลี่ยมส์ ที่จะกลับมาขึ้นเกมริมเส้นฝั่งขวาอีกครั้งโดยมี อินญิโก้ กอร์โดบา ขึ้นเกมทางฝั่งซ้ายปั้นให้ อาริตซ์ อาดูริตซ์ หัวหอกวัยเก๋าที่ได้พักมาหนึ่งสัปดาห์จะกลับมามีชื่อเป็นตัวจริงลงบู๊ "เจ้าบุญทุ่ม" ในเกมนี้

แอธฯบิลเบา (4-2-3-1) : เกป้า ; อินญิโก้ เลกูเอ้, อายเมริค ลาปอร์เต้, อูไน นูนเญซ, เอริก ซาโบริต ; มิเกล ซาน โฆเซ่, มิเกล เบสก้า ; อินญากี้ วิลเลี่ยมส์ , ราอูล การ์เซีย, อินญิโก้ กอร์โดบา ; อาริตซ์ อาดูริตซ์

ฆาบี กาเยย่า เทรนเนอร์ป้ายแดง ยังคงมีรายชื่อตัวเจ็บยาวเป็นหางว่าวไม่ว่าจะเป็น อันเดรส เฟร์นันเดซ (2 นัด), เซร์คิโอ อาร์เซนโฆ่ (-) สองผู้รักษาประตูและ รูเบน เซเมโด้ (3 นัด)แนวรับที่ยังบาดเจ็บอยู่ อย่างไรก็ดีเหล่าบรรดาคีย์แมนคนสำคัญต่างพาตบเท้าออกสตาร์ทโดยเฉพาะคู่หัวหอกอย่าง เซดริก บากัมบู และ การ์ลอส บักก้า

บียาร์เรอัล (4-4-2) : มาเรียโน่ บาร์โบซ่า ; มาริโอ กัสปาร์, อัลบาโร่ กอนซาเลซ, บิคตอร์ รุยซ์, ฆัวเม่ คอสต้า ; ซามู กัสติเญโฆ่, โรดรี, มานู ตริกูเอรอส ; ปาโบล ฟอร์นัลส์ ; เซดริก บากัมบู, การ์ลอส บักก้า

ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ เทรนเนอร์ ''ตราหมี'' แอตฯมาดริด เตรียมกลับมมาใช้ผู้เล่นชุดเก่งอีกครั้งหลังลงบู๊เกม โกปา เดล เรย์ โดยการบุกเสมอ เอลเช่ 1-1 เมื่อกลางสัปดาห์ ส่วนความพร้อมในเกมนี้วกเขาจำเป็นต้องเช็ความฟิตของ ยานนิค การ์ราสโก้ ทว่า ซาอูล ญีเกซ ก็พร้อมขยับตำแหน่งมาอุดช่องว่างโดยมี อองตวน กรีซมันน์ ยืนจับคู่ เควิน กาเมโร่ ในเกมนี้

แอตฯมาดริด (4-4-2) : ยาน โอบลัค ; ฆวนฟราน, ดีเอโก้ โกดิน, สเตฟาน ซาวิช, ฟิลิเป้ หลุยส์ ;อังเคล กอร์เรอา, โมมัส ปาตีย์, กาบี, ซาอูล ญีเกซ ; เควิน กาเมโร่ , อองตวน กรีซมันน์

ส่วนทีมเยือนของกุนซือ มาร์เซลิโน่ เทรนเนอร์ บาเลนเซีย เตรียมกลับมายึดแข้งตัวชูโรงลงบู๊เช่นกันหลังยังคงความร้อนแรงไว้ต่อเนื่อง ซึ่งทีมรองจ่าฝูงมีปัญหาให้กังวลใจเล็กน้อยเมื่อ ฆาบี กิมิเนซ (-) แนวรับยังมีปัญหาอาารบาเจ็บ แถม ดาเนียล ปาเรโฆ่ ยังถูกคาดโทษในเกมนี้ อย่างไรก็ดีเหล่าบรรดาแข้งตัวหลักขาประจำต่างมีชื่อในสนามตามคาดโดยเฉพาะสองคีย์แมนแนวรุกอย่าง โรดริโก้ โมเรโน่ และ ซิโมเน่ ซาซ่า ต่างพร้อมลงเป็นหน้าเป้าได้ตามคาด

บาเลนเซีย (4-4-2) : เนโต้ ; มาร์ติน มอนโตย่า, เฆซอน มูริโญ่, เอเซเกล การาย, โฆเซ่ กาย่า ; การ์ลอส โซเลร์, ดาเนี่ยล ปาเรโฆ่, จอฟเฟรย์ ก็องด็อกเบีย, กอนกาโล่ กูเอเดส ; โรดริโก้ โมเรโน่, ซิโมเน่ ซาซ่า

ลุยส์ ซูเบลเดีย เทรนเนอร์ อลาเบส ยังคงหมดสิทธิ์ใช้งานนักเตะอย่าง บิคตอร์ ลากูอาร์เดีย (-)กับ เอคตอร์ เอร์นานเดซ (1 นัด) สองแนวรับที่เดี้ยงยาวมาก่อนหน้านี้ ส่วนความพร้อมก่อนลงสนามเจ้าบ้านเตรียมปรับหมากขนตัวหลักลงบู๊อีกครั้งหลังจะได้เห็น มูนีร์ เอล ฮัดดาดี้ ลงยืนเเป็นหัวหอกตัวเป้าโดยมี อเล็กซานดาร์ กาไต, อัลบาโร่ เมดราน และ อัลฟองโซ่ เปดราซ่า ประสานงานในแผงแนวรุก

อลาเบส (4-2-3-1) : เฟร์นานโด ปาเชโก้ ; อเล็กซิส รูอาโน่, โรดริโก้ อีลี่, กีเยร์โม่ มาริปาน, รูเบน ดูอาร์เต้ ; มานู การ์เซีย, ดาเนี่ยล ตอร์เรส ; อเล็กซานดาร์ กาไต, อัลบาโร่ เมดราน, อัลฟองโซ่ เปดราซ่า ; มูนีร์ เอล ฮัดดาดี้

ส่วนทีมเยือน วิตอเรีย เซตูบัล ของกุนซือ โชเซ่ คูเซย์โร่ เพิ่งนำลูกทีมชนะ มาริติโม่ 3-1 ในเกมที่ผ่านมาน่าจะมีความั่นใจก่อนเกมอยู่ไม่น้อย ทว่าเกมนี้พวกเขามีจะปัญหาในเรื่องแนวรับอยู่เล็กน้อยหลังยังคงไร้ชื่อ นูโน่ ปินโต(7นัด/1ประตู)แข้งแกนหลักที่ยังบาดเจ็บ รวมไปถึงนักเตะอย่าง แพทริก(1นัด),เซซ่าร์(1นัด) และแดนกลางอย่าง เซเมโด้(1นัด)จะไม่มีชื่อเกมนี้เช่นกัน

วิตอร์ โอลิเวร่า ผู้จัดการทีม ปอร์ติโมเนนเซ่ ยังคงต้องหาทางนำลูกทีมยกระดับฟอร์มการเล่นต่อไปหลังไม่ชนะใครมา 4 เกมติด แม้ 3 เกมหลังจะเสมอมาทั้งหมดก็ตาม อย่างไรก็ดีดูเหมือนพวกเขาจะไร้ชื่อแกนหลักลงบู๊เกมนี้อยู่ไม่น้อยไล่ตั้งแต่ผู้รักษาประตูจะไม่มีชื่อของ ริคาร์โด้ เฟร์เรล่า(9นัด), ริคาร์โด้ เปสซ่า(8นัด)แนวรับคนสำคัญ ทาบาต้า(4นัด/1ประตู)กับ เอเวอร์ตัน(7นัด)แข้งแดนกลาง และ นากาจิมะ(5นัด/4ประตู)หัวหอกดาวซัลโวประจำทีม

ส่วนทีมเยือน เอสปันญ่อล ของ กีเก้ ซานเชซ ฟลอเรสเฮ้ดโค้ชเตรียมพักแกนหลักจากการสุดสัปดาห์พักค่อนข้างแน่ไม่ว่าจะเป็นตัวหลักโซนเกมรุกอย่าง เลโอ บาปติสเตา (9 นัด/2 ประตู), ฆูราโด้ (8 นัด) และปาโบล ปิยัตติ (8 นัด/1 ประตู) เช่นเดียวกับ อาเดรียน โลเปซ กองหน้าอีกรายที่ยังบาดเจ็บอยู่ และจะเป็นโอกาสของ เซร์กิโอ การ์เซีย ลงจับคู่กับ เคราร์ด โมเรโน่ ในเกมนี้

เอสปันญ่อล (4-2-2-2) : ดีเอโก้ โลเปซ - เซร์กิโอ ซานเชซ, ดาบิด โลเปซ, นัลโด้, ดิดัช บีล่า - ปาปากูลี่ ดิย็อป, เซร์กี ดาร์เดร์ - เอร์นัน เปเรซ, กราเนโร่ - เซร์กิโอ การ์เซีย, เคราร์ด โมเรโน่

โฆเซ่ มาร์ติ นายใหญ่ประจำทีมเตรียมเปิดรังต้อนรับ เอสปันญ่อล ตัวแทนจาก ลา ลีกา ในศึก โกปา เดล เรย์ เลกแรก ซึ่งเกมนี้พวกเขาเตรียมจัดชุดหลักๆจากเกมลีกลงสนามนำโดย ไบรอัน มาร์ติน ที่จะถูกวางตัวเป็นหน้าเป้าโดยมี ซูโซ่, ฆวน การ์ลอส และ เตย์รอน เป็นตัวสนับสนุนแถมยังมีข่าวดีคือจะได้ ซามูเอเล่ ลองโก้(6 นัด/3 ประตู)ผ่านความฟิตกลับมาเป็นทางเลือกในแดนหน้า

เตเนริเฟ่ (4-2-3-1) : การ์ลอส - ลุยส์ เปเรซ, การ์ลอส รุยซ์, ฮอร์เก้ ซานซ์, นาอูเยล - อัลเบร์โต้, ไอตอร์ ซานซ์ - ซูโซ่, ฆวน การ์ลอส, เตย์รอน - ไบรอัน มาร์ติน

ส่วนทีมเยือน เลบานเต้ เตรียมโรเตชั่นนักเตะเช่นเดียวกันรวมไปถึงแข้งตัวเจ็บอย่าง อีบัน โลเปซ (3 นัด),ซามู การ์เซีย (5 นัด)และ เฆซอน (5 นัด)จะไม่มีชื่อในเกมนี้เช่นเดียวกับตัวหลักที่ลงสนามจากเกมที่แล้ว และจะเป็น เอ็มมานูเอล บัวเต็ง ที่จะรับบทบาทเป็นหัวหอกตัวเป้าโดยมี ซามู, บาร์ดี้ และ อีบี โลเปซ ที่จะเป็นตัวสนับสนุนเกมรุก นอกจากนี้จะได้เห็น 2 แข้งใหม่อย่าง ลูกิช ประเดิมสนามในแดนกลางร่วมกับ ดูกูเร่ เช่นเดียวกับ กาบาโก้ อีกรายที่จะมีชื่อในแผงแนวรับ

เลบานเต้ (4-2-3-1) : โอเยียร์ - มัวร์, กาบาโก้, โรเบร์, โตนโญ่ - ลูกิช, ดูกูเร่ - ซามู, บาร์ดี้, อีบี โลเปซ - เอ็มมานูเอล บัวเต็ง

ปาโบล มาชิน เทรนเนอร์ กีโรน่า เตรียมปรับทัพขนผู้เล่นสำรองลงบู๊ไม่ต่างอะไรกับทีมอื่นๆจาก ลา ลีกา ในเกมกลางสัปดาห์แห่งฟุตบอลถ้วยรวมถึงตัวเจ็บอย่าง เปโดร อัลกาล่า (5 นัด 1 ประตู)แนวรับที่จะหมดสิทธิ์ช่วยทีม ส่วนแข้งตัวสำรองอย่าง กอร์ก้า อิไรซอซ จะได้โอกาสเฝ้าเสาในเกมนี้เช่นเดียวกับแดนกลางอย่าง ดั๊กลาส, กราเนล, โมยิก้า พร้อมกับวาง กาโยเด้ และ โอลุงก้า ลงยืนหน้าคู่ในเกมนี้

กิโรน่า (3-5-2) : กอร์ก้า อิไรซอซ - รามัลโญ่, ติมอร์, มูนิเอซ่า - เอเดย์, ดั๊กลาส หลุยซ์, อามากัต, กราเนล,โยอัน โมยิก้า - กาโยเด้, โอลุงก้า

ส่วนทีมเยือน เรอัล มาดริด ของกุนซือ ซีเนอดีน ซีดาน เกมนี้เตรียมถอดชุดผู้เล่นตัวหลักออกจากเกมนี้แทบยกเซ็ตแถมจะไม่มีชื่อเดินทางมาเล่นเกมนี้ด้วย นอกจากนี้แกนหลักที่เดี้ยงก่อนหน้านี้อย่าง เกย์เลอร์ นาบาส (6 นัด),แกเร็ธ เบล (5 นัด 2 ประตู)รวมถึง มาเตโอ โควาซิช (2 นัด) ก็ยังหมดสิทธิ์ช่วยทีมตามคาด ทว่าจะได้เห็นเหล่าแข้งสำรองหรือดาวรุ่งตบเท้าลง 11 ตัวจริงไม่ว่าจะเป็น อัชราย ฮาคามี่ แบ็คขวาดาวรุ่งวัย 18 ที่โชว์ฟอร์มได้ดีรวมไปถึง บอร์ฆ่า มายอราล, ดานี่ กาบายอส และ มาร์โก้ อเซนซิโอ้ ที่จะลงประสานงานแดนหน้าร่วมกันในระบบ 4-3-3

เรอัล มาดริด (4-3-3) : กีโก้ กาซีย่า ; อัชราย ฮาคามี่, นาโช่, เฆซุส บาเยโฆ่, มาร์เชโล่ ; ดีเอโก้ ยอร์เรนเต้, ลูคัส บาสเกวซ, โทนี่ โครส ; บอร์ฆ่า มายอราล, ดานี่ กาบายอส, มาร์โก้ อเซนซิโอ้

นายใหญ่ อันโตนิโอ กาเดร่อน เฮดโค้ชของ ฟูเอนลาบราด้า ตัวแทนจาก เซกุนด้า เบ มีปัญหาขาดแข้งนักเตะพอสมควรก่อนรับมือยักษ์ใหญ่ ลา ลีกา อย่าง เรอัล มาดริด โดยเฉพาะจอมทัพตัวหลักอย่าง คริสโตบาล(9นัด/1ประตู),บราโว่(4นัด) รวมถึงแนวรับอย่าง ฮวนม่า(2นัด)ที่ยังบาดเจ็บอยู่ อย่างไรก็ดีแกนหลักที่เหลือต่างฟอร์มลงสู้ศึกไม่มีปัญหาและจะได้เห็นคีย์แมนแนวรุกอย่าง มาเธอัส บาร์โรโซ่(8นัด/1ประตู) ตัวรุกชาวบราซิล และจอมทัพตัวเก่ง ฮูโก้ เฟรลด์(10นัด/3ประตู)ลงช่วยแดนกลางโดยมี ดิโอนี่(10นัด/4ประตู)เป็นตัวเป้าร่วมกับ หลุยส์ มิลล่า ในระบบ 4-4-2

ฟูเอนลาบราด้า (4-4-2): ปอล เฟร์ซาเน็ต ; ดิอัส, อาร์มานโด้, ฟร้าน การ์เซีย, ปาโก้ ชานเดล่า - ดานี่ เฟร์นานเดซ,ฮูโก้ เฟรลด์,รูเบน ซานซ์, มาเธอัส บาร์โรโซ่ - หลุยส์ มิลล่า, ดิโอนี่

ส่วนทีมเยือน "ตราหมี" ของ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ จะพักตัวหลักเกือบยกทีมไม่ว่าจะเป็น ผู้รักษาประตู ยาน โอบลัค, 3 แนวรับ สเตฟาน ซาวิช, ดีเอโก้ โกดิน และ เฟลิเป้ ลุยส์ เช่นเดียวกับแดนกลางจะไร้เงา โกเก้, ยานนิค การ์ราสโก้ และ กาบี แถมแดนหน้ายังจะไร้เงา อองตวน กรีซมันน์ กับ อังเคล กอร์เรอา เพื่อหลีกทางให้ เฟร์นานโด ตอร์เรส หัวหอกตัวเก๋าประจำทีมลงจับคู่กับ ลูเซียโน่ เวียตโต้ ในเกมนี้

แอตฯมาดริด (4-4-2) : มิเกล โมย่า ; ซีม เวอร์ซัลจ์โก้, ลูกัส, โชเซ่ คิมิเนซ, เซร์คิโอ กอนซาเลซ ; ฆวนฟราน, อากุสโต้ เฟร์นานเดซ, โธมัส ปาร์เตย์, นิโกลาส ไกตัน ; เฟร์นานโด ตอร์เรส, ลูเซียโน่ เวียตโต้

เจ้าบ้าน เอลเช่ ฟอร์มไม่ดีนักหลังพ่ายมา 2 เกมติด ซึ่งในเกมนี้พวกเขามีคิวเปิดรังเจอ "ตราหมี" ในศึก โกปา เดล เรย์ ด้วยสภาพไม่สมบูรณ์นักหลังจะขาดแนวรับตัวหลักอย่าง คิมิเนซ (10 นัด) รวมถึง 3 กองกลาง โปรเวนซิโอ (8 นัด), ปรีมี่ (7 นัด) และ โกยานเตส (6 นัด 1 ประตู)ที่ยังบาดเจ็บรวมไปถึง นิโน่ (10 นัด 4 ประตู) กองหน้ารองดาวซัลโวที่จะไม่มีชื่อในเกมนี้ ซึ่งคาดว่าจะเป็น กาบา (8 นัด 5 ประตู) ลงจับคู่กับ เบนจา (9 นัด 3 ประตู) ค่อนข้างแน่

เอลเช่ (4-4-2) : โฆเซ่ ฆวน ; อีวาน กาเลโร่, กอนซาโล่ เบร์ดู, โรมัน โกโลบาร์, เอดู อัลบาการ์ ; ดีเอโก้ เบนิโต้, ฆาบี ฟลอเรส, มาโนลิน, อีวาน ซานเชซ ; โซรี่ กาบา, เบนจา

ส่วนทีมเยือน เลกาเนส ของกุนซือ อาเซียร์ การีตาโน่ เตรียมพักแกนหลักบางรายในเกมนี้ไม่ว่าจะเป็น นายด่านเบอร์หนึ่งอย่าง ปิชู กูเอร์ย่า ที่จะถูกพักเพื่อให้โอกาส เนเรโอ ชัมปาเน่ ลงเฝ้าเสา ส่วนแกนหลักที่เหลืออย่าง รูเบน เปเรซ (8 นัด)จอมทัพคนสำคัญรวมถึงนาบิล เอล ซาร์, นอร์ดิน อัมรบัต และ กาเบรียล ปีเรส ต่างไร้ชื่อในเกมนี้ด้วยกันทั้งหมดเพื่อเปิดทางให้ โฆเซ่ นารานโฆ่, กูเอร์โร่ และ อเล็กซานเดอร์ ซีมานอฟสกี้ ลงมาประสานงานร่วมกัน

เลกาเนส (4-3-3) : เนเรโอ ชัมปาเน่ ; โฆเซบา ซัลดูอา, ตีโต้, มันโตวานี่, เอเซเกว มูนญอซ, ดีเอโก้ ริโก้ ; เอริก โมราน, ดาร์โก้ บราซานัช, เคราร์ด กัมบัว ; โฆเซ่ นารานโฆ่, กูเอร์โร่, อเล็กซานเดอร์ ซีมานอฟสกี้

เจ้าบ้าน เรอัล บายาโดลิด ตัวแทนจาก เซกุนด้า อยู่ในช่วงกำลังมั่นใจหลังไม่แพ้มา 3 เกมติด อย่างไรก็ดีเกมนี้มีหลายจุดให้ต้องกังวลเมื่อ มิเชล (10 นัด 3 ประตู) กองกลางตัวหลัก และกองหน้าคนสำคัญอย่าง อิบัน ซัลวาดอร์ (10 นัด 3 ประตู)ยังต้องเช็คความฟิต แถม ลุยส์มี่ ซานเชซ (8 นัด 1 ประตู)กองกลางคนสำคัญจะหมดโอกาสลงเล่นเกมนี้แน่ๆจากการถูกคาดโทษ ทำให้ภาระจะตกไปอยู่ที่ ไฆเม่ มาต้า ดาวยิงตัวเก่งที่กดไป 10 ลูกจาก 11 เกมไปโดยปริยาย

เรอัล บายาโดลิด (4-2-3-1) : มาซิป ; อันโตนิโอ, กีโก้ โอลิบาส, เดียบิด, อังเคล การ์เซีย ; บอร์ซ่า เฟเดซ, อานูอาร์ ; โทนี่ บียาร์, อิบัน ซัลวาดอร์, ออสการ์ ปลาโน่ ; ไฆเม่ มาต้า

ส่วนทีมเยือน เบเนเวนโต้ อาการเข้าขั้นเกินเยียวยากว่าเยอะ เพราะน้องใหม่จาก เซเรีย บี มาตราฐานห่างชั้นจากลีกสูงสุดอยู่หลายขุมจากการแพ้รวด 9 เกมติดนับตั้งแต่เลื่อนชั้นจมบ๋วยไปโดยปริยาย แถมความพร้อมก่อนเกมดูท่าจะมีปัญหาหลังจะไร้เงาตัวเจ็บอย่าง อันเดรีย คอสต้า แนวรับและ มาร์โก้ ดาเลสซานโดร กองกลางแถมปราการหลังอย่าง ลูก้า อันเตอี ยังต้องชดใช้โทษแบนต่อไป

เบเนเวนโต้ (4-3-3) : อัลแบร์โต้ บริ๊กโนลี่ - โลเรนโซ่ เวนูติ, เบรัต จิมซิติ, ลอเรนโซ่ เวนูติ, กาเอตาโน่ เลติเซีย - เลเดียน เมมูชาย, ดานิโล่ คาตัลดี้,รามาน ชิบซาห์ - คริสเตียโน่ ลอมบาร์ดี้, ปิเอโตร เยมเมลโล่, อมาโด้ ซิซีเร็ตติ

ดิเอโก้ โลเปซ เทรนเนอร์ชาวอุรุกวัยอยู่ในสภาพทีมค่อนข้างพร้อมก็จริงจากการต้องเช็คความฟิตของ อันเดรีย คอสซู (2 นัด)เพียงรายเดียวเท่านั้น ทว่าฟอร์มของพวกเขากลับสวนทางหลังแพ้รวดไป 5 เกมรวด ส่วนแทคติกเกมในบ้านนัดนี้พวกเขายังคงยึดแผนเก่ง 3-5-2 ตามคาดโดยมี เลโอนาร์โด้ ปาโวเล็ตติ เป็นตัวยืนจับคู่กับ ดิเอโก้ ฟาริอัส โดยมี เจา เปรโดร เป็นเพลย์เมกเกอร์

กายารี่ (3-5-2) : ลูก้า ครอสโต้ - ฟาบิโอ ปิซาคาเน่,มาร์โก อันเดรโอลลี่, มาร์โก คาปัวโน่ ,ดานิเอเล่ เดสเซน่า, อาเธอร์ โยนิต้า, ลูก้า ชิการินี่, ซิโมเน่ ปาโดอิน- เจา เปรโดร - เลโอนาร์โด้ ปาโวเล็ตติ, ดิเอโก้ ฟาริอัส

ส่วนทีมเยือน บียาร์เรอัล ของนายใหญ่ขัดตาทัพอย่าง ฆาบี กาเยย่า ไม่มีปัญหาในการจัดทัพให้ต้องกังวลใจยกเว้นตัวเจ็บหน้าเก่าเท่านั้น ซึ่งเกมนี้ทัพ "เรือดำน้ำ" เตรียมโรเตชั่นพักตัวหลักหลายรายไม่ว่าจะเป็น อเซนโฆ ในตำแหน่งผู้รักษาประตูเช่นเดียวกับแนวรับจะไร้ชื่อของ กอนซาเลซ, รุยซ์ กับ กอสต้า ส่วนแดนหน้าพวกเขาก็เตรียมใส่ชื่อสองหัวหอกตัวสำรองอย่าง ดาริโอ โปเบด้า กับ เอเนส อูนัล ลงพิสูจน์ฝีเท้า

บียาร์เรอัล (4-3-1-2) : อันเดร์ กันเตโร่ ; อันโตนิโอ รูกาวิน่า, โบเนร่า, บิคตอร์ รุยซ์, อาเดรียน มาริน ; บรูโน่ โซเรียโน่, รามิโร่ กูเอร์ร่า, เดนิส เชรีเชฟ ; เลโอ ซัวเรซ ; ดาริโอ โปเบด้า, เอเนส อูนัล

ตัวแทนจาก เซกุนด้า เบ อย่าง พอนเฟร์ราดิน่า จะได้โอกาสเฝ้ารังเจอทีม ลา ลีกา และเตรียมจัดชุดที่ดีที่สุดลงบู๊ในค่ำคืนนี้ไม่ว่าจะเป็น อัลบาโร่ โมเรโน่ (8 นัด)ที่เตรียมเป็นจอมทัพคู่กับ อันดี้ (10 นัด 2 ประตู)ในระบบ 4-4-2 โดยมี ดาบิด ซิอาโด (9 นัด) กับ ปาโบล ปายาเรส (10 นัด)เป็นคู่หัวหอกตัวเป้า

พอนเฟร์ราดิน่า (4-4-2) : ดินู มอลโดวาน ; ซิดอนชา, ฆอน การ์เซีย, ยาคูบา ฮามานี่, ฆอร์เก้ การ์เซีย ; ซาลินาส, อัลบาโร่ โมเรโน่, อันดี้, โฆเซ่ ริออส ; ดาบิด ซิอาโด, ปาโบล ปายาเรส

ส่วนทีมเยือน แอธฯบิลเบา ถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเห็นพวกเขาโรเตชั่นนักเตะเหมือนทีมจากลีกสูงสุดรายอื่นๆ แต่ก็ยังพอวางตัวหลักหน้าเดิมอย่าง อินญิโก้ เลกูเอ้, อูไน นูนเญซ และ เอริก ซาโบริต ลงคุมแนวรับ รวมถึง เบนญัติ ที่จะลงเป็นตัวชูโรงในผังมิดฟิลด์ ส่วนในผังแนวรุกเตรียมให้โอกาสนักเตะอย่าง มาร์เกล ซูซาเอต้า, อเก็ทเช่ และ ซาบิน เป็นสามประสานในแดนหน้าพร้อมกับทิ้ง กีเก้ โซล่า เป็นหน้าตัวเป้า

แอธฯบิลเบา (4-2-3-1) : เอคตอร์ เอร์เรริน ; อินญิโก้ เลกูเอ้, ชาเบียร์ เอ็ทเชียต้า, อูไน นูนเญซ, เอริก ซาโบริต ; เบนญัติ, อันเดร์ อิตูร์ราสเป้ ; มาร์เกล ซูซาเอต้า, อเก็ทเช่, ซาบิน ; กีเก้ โซล่า

ตัวแทนจาก เซกุนด้า เบ อย่าง ฟอร์เมนเตร่า ฟอร์มไม่สู้ดีนักจากเกมลีกหลังไม่ชนะใครมา 5 เกมรวด ทว่าเกมนี้พวกเขาก็พร้อมจัดชุดที่ดีที่สุดเพื่อรับมือทีมจาก ลา ลีกา ในศึก โกปา เดล เรย์ โดยมี ฆวน อันโตนิโอ ซาน(10 นัด 2 ประตู) ลงยืนเป็นหัวหอกตัวเป้าในระบบ 4-1-4-1 พร้อมกับวาง เฟร์นานโด ลินัน (9 นัด)ลงคุมเกมอยู่หน้าแนวรับโดยมี โฆเซบา การ์เมน กับ โอมาร์ อัลบาเรซ เป็นคู่จอมทัพร่วมกัน

ฟอร์เมนเตร่า (4-1-4-1) : มร์กอส กอนเตร่า ; คิงส์ลี่ย์, ซามูเอล, ฆาบี โรซ่า, ไดลอส เทเฆร่า ; เฟร์นานโด ลินัน ; เฟร์นานโด เกส, โฆเซบา การ์เมน, โอมาร์ อัลบาเรซ, อาเดรียน รีเอร่า ; ฆวน อันโตนิโอ ซาน