วิเคราะห์บอล / วิเคราะห์บอลวันนี้

ส่วนทีมเยือน เซลต้า บีโก้ เตรียมโรเตชั่นกันยกใหญ่ในศึก โกปา เดล เรย์ นี้เช่นกัน ซึ่งเกมนี้จะได้เห็น รูเบน บลังโก้ ได้โอกาสลงเฝ้าเสาแทน เซร์คิโอ อัลบาเรซ แต่ก็ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน ฟากุนโด้ รอนกาย่า(2 นัด)แนวรับที่ยังมีปัญหาบาดเจ็บลงช่วยทีม ทว่าแนวรับแกนหลักส่วนใหญ่ยังคงถูกส่งลงประคองรุ่นน้องและยังได้เห็นแข้งขาประจำอย่าง ฮูโก้ มาโย่, กุสบาโบ กาบราล และ อันเดรอู ฟอนตาส ลงสนามยกเว้นในรายของแบ็กซ้ายอย่าง ดิเอโก้ อเลนเด้ ดาวรุ่งวัย 20 กระรัตขึ้นเกมทางฝั่งซ้าย ส่วนแนวรุกพวกเขาเตรียมพักตัวหลักเก่งๆอย่าง ยาโก้ อัสปาส, มักซี่ โกเมซ หรือแม้แต่ ปิโอเน่ ซิสโต้ เพื่อเปิดทางให้ แอนดรูว์ ยูลเซเกอร์,จอห์น กุยเด็ตติ และ เอ็มเร่ มอร์ ลงพิสูจน์ฝีเท้า

เซลต้า บีโก้ (4-3-3) : เซร์คิโอ อัลบาเรซ ; ฮูโก้ มาโย่, กุสบาโบ กาบราล, อันเดรอู ฟอนตาส, ดิเอโก้ อเลนเด้ ; บราอิส เมนเดซ,ราโดย่า, โฆซาเบด เอร์นานเดซ ; แอนดรูว์ ยูลเซเกอร์,จอห์น กุยเด็ตติ, เอ็มเร่ มอร์

โฆเซ่ หลุยส์ เมนดิลิบาร์ นายใหญ่ เออิบาร์ เตรียมปรับหมากมาเล่นแบ็คโฟว์อีกครั้งหลังใช้หลัง 5 ตัวนัดบุกไปพ่าย เรอัล มาดริด มา 0-3 ซึ่งในเกมนี้จะไม่มีชื่อแน่ๆก็คือ อิบัน รามิส ปราการหลังตัวหลักที่เจ็บยาวถึงเดือนมกราคม และจะได้เห็นตัวสำรองและเหล่าแข้งดาวรุ่งตบเท้าลงสนามยกเว้นในโซนแนวรับที่ยังใช้ เปาโล โอลิเวียร่า และ ดาบิด ฆวนก้า กองกลางใช้ ดานี่ การ์เซีย ประสานงานกับ ริเวร่า ส่วนแดนหน้ายังทิ้ง เซร์จี้ เอ็นริช เป็นตัวชูโรงก่อนจะพัก ทาคาชิ อินูอิ เพื่อเปิดทางให้ กีเก้ การ์เซีย ในระบบ 4-4-2

เออิบาร์ (4-4-2) : ริสค์ ; อาบิลร่า, เปาโล โอลิเวียร่า,อเลฮานโดร กัลเบส, ดาบิด ฆวนก้า ; รูเบน เปน่า, ดานี่ การ์เซีย, คริสเตียน ริเวร่า,เบเบ้ - กีเก้ การ์เซีย ; เซร์จี้ เอ็นริช

ส่วนทีมเยือน บาเลนเซีย ของกุนซือ มาร์เซลิโน่ เตรียมพักแกนหลักที่โชว์ฟอร์มดุตลอด 5 เกมหลัง(ชนะ5)ไว้ที่ข้างสนามหลายตำแหน่ง ซึ่งเกมนี้จะได้เห็นผู้เล่นสำรองอย่าง ซานติ มิน่า กับ โรดริโก้ โมเรโน่ ลงมาวาดลวดลายในตำแหน่งคู่หน้าบ้าง พร้อมกับวาง การ์ลอส โซเลร์ และ อันเดรียส เปไรร่า คอยขึ้นเกมจากริมเส้น ส่วนนายประตูจะเป็นคิวของ ฆัวเม่ โดเมเน็ค นายทวารมือสองลงเฝ้าเสาบ้าง

บาเลนเซีย (4-4-2) : ฆัวเม่ โดเมเน็ค ; นาโช่ บิดัล, กาเบรียล เปาลิสต้า, เอเซเกล การาย, โทนี่ ลาโต้ ; การ์ลอส โซเลร์, ดาเนี่ยล ปาเรโฆ่, นิโล่า มักซิโมวิช, อันเดรียส เปไรร่า ; โรดริโก้ โมเรโน่, ซานติ มิน่า

ตัวแทนจาก เซกุนด้า อย่าง เรอัล ซาราโกซ่า อยู่ในช่วงกำลังขาขึ้นหลังไร้พ่ายมา 7 เกมรวด ซึ่งความพร้อมในเกมนี้พวกเขาจะขาดเพียงแค่ บอร์ฆา อีเกลเซียส (7 ประตู) กับ โตเกโร่ (3 ประตู) ที่ยังบาดเจ็บเท่านั้น และน่าจะได้เห็นกุนซือ นัตโซ่ กอนซาเลซ ขนตัวหลักอย่าง โตเกโร่, โอลิเวอร์ บุฟฟ์, อเล็กซิส เฟบาส และ บอร์ฆ่า อิเกลซิอัส ลงบู๊ในระบบ 4-2-3-1 กันทั้งหมด

ซาราโกซ่า (4-2-3-1) : กริสเตียน ; เดลมาส, มิเกล, เบร์ดาสก้า, โอยาร์ซุน ; เอกูอาราส, ซาปาเตร้ ; โตเกโร่, โอลิเวอร์ บุฟฟ์, อเล็กซิส เฟบาส ; บอร์ฆ่า อิเกลซิอัส

ส่วนทีมเยือน มาลาก้า แม้จะเป็นตัวแทนจากลีกสูงสุดทว่าฟอร์มของพวกเขาจัดว่าเละเทะเกินบรรยายจากการแพ้ 8 จาก 9 เกมจมบ๋วยในเวลานี้ แต่ยังดีที่เกมนี้จะได้ เรซีโอ้ กลางตัวหลักพ้นโทษแบนกลับมาลงสนาม ทว่าตวหลักจากเกมลีกจะถูกพักในเกมนี้เกือบหมดเพื่อหลีกทางให้ ลาน ปิโน่, ซิฟู, เอานูเอเล่ เซชซินี่ รวมถึงดาวรุ่งอย่าง ฆาบี ออนติเบรอส ที่จะถูกส่งลงสนามกันทั้งหมด

มาลาก้า (5-4-1) : ปรีเอโต้ ; โรเบร์โต้ โรซาเลส, อเลฆานโดร โรเบลส, ลุยส์ เอร์นานเดซ, ลาน ปิโน่, ซิฟู ; เอานูเอเล่ เซชซินี่, เรซีโอ้ ; ฆาบี ออนติเบรอส, อาเดรียน, โยนี่ ; บอร์ฆา บาสยอน

เจ้าบ้าน นูมานเซีย ตัวแทนจากเซกุนด้าของกุนซือ อาร์ราซาเต้ จะไม่มีชื่อแน่ๆก็คือ การ์ลอส กูเตียร์เรซ (1 นัด) กับ ฮูลิโอ อัลบาเรซ (-) ที่ล้วนยังมีปัญหาอาการบาดเจ็บ ส่วนแกนหลักที่เหลือต่างฟอร์มลงบู๊ชนทีมจากลีกสูงสุดเต็มสูบนำโดย กีเยร์โม่ ที่ซัดในลีกไป 3 จาก 7 เกม ลงยืนเป็นหัวหอกในเกมนี้โดยมี ปาโบล บัลการ์เซ่, เปเร มิย่า และ มาร์ก มาเตอู คอยสนับสนุน

นูมานเซีย (4-2-3-1) : ไอตอร์ เฟเด ; ริป้า, ดานี่ กัลโบ, การ์ลอส กัต, ลุยส์ บัลการ์เซ่ ; เอกาสซี่, อินญิโก้ เปเรซ ; ปาโบล บัลการ์เซ่, เปเร มิย่า, มาร์ก มาเตอู ; กีเยร์โม่

ลุยส์ ซูเบลเดีย เทรนเนอร์ อลาเบส เตรียมปรับหมากให้ผู้เล่นสำรองได้พิสูจน์ฝีเท้าแทบยกเซ็ตเช่นกัน ซึ่งเกมนี้แน่นอนว่ายังคงไร้ชื่อของ บิคตอร์ ลากูอาร์เดีย, เอคตอร์ เอร์นานเดซ สองแนวรับ และรวมถึง อิไบ โกเมซ ตัวรุกฝั่งขวาที่ยังเจ็บเข่า คาดว่าเกมนี้พวกเขาจะมาในระบบ 4-3-3 โดยวาง อเล็กซานดาร์ กาไต, รูเบน โซบริโน่ และ บูร์กุย เป็นสามประสานแดนหน้า พร้อมกับวาง เอ็นโซ่ ซีดาน ลูกชายเฮดโค้ช เรอัล มาดริด, ปิน่า และ ออสก้า โรเมโร่ คอยบัญชาเกมแดนกลางร่วมกัน

อลาเบส (4-3-3) : อันโตนิโอ ซิเวร่า ; วิกาลาย, อเล็กซิส, อาเดรียน ดิเอเกวซ , รูเบน ดูอาร์เต้ ; เอ็นโซ่ ซีดาน , ปิน่า, ออสก้า โรเมโร่ ; อเล็กซานดาร์ กาไต, รูเบน โซบริโน่, บูร์กุย

โฆเซ่ บอร์ดาลาส กุนซือ เกตาเฟ่ เตรียมปรับทัพยกใหญ่จากเกมเสมอ เลบานเต้ 1-1 ในเกมลีกนัดที่ผ่านมา ซึ่งเกมนี้จะได้เห็นนายทวารตัวสำรองอย่าง เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ได้ลงเฝ้าเสาบ้าง เช่นเดียวกับ โมรินเอโน่ จะได้ยืนตำแหน่งแบ็กขวาแทน ดาเมี่ยน ซัวเรซ และเหลือเพียง ฆวน กาล่า กองหลัง และ อามาธ เอ็นเดียเย่ ปีกซ้ายเพียงสองรายเท่านั้นที่เป็นแกนหลัก ส่วน 9 ผู้เล่นที่เหลือไม่มีตัวจริงจากเกมที่แล้วทั้งสิ้น ส่วนแดนกลางเตรียมปรับหมากมาใช้ระบบ 4-4-1-1 โดยส่ง มิเชล ปอร์ติลโล่ ลงหน้าต่ำให้ อังเกล โรดริเกวซ จบสกอร์

เกตาเฟ่ (4-4-1-1) : เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ ; โมรินเอโน่, บรูโน่ กอนซาเลซ, ฆวน กาล่า, มาติอัส โอลิเวล่า ; ชูลิ, เซร์คิโอ้ โมร่า, ลาเซ่น, อามาธ เอ็นเดียเย่ - มิเชล ปอร์ติลโล่ - อังเกล โรดริเกวซ

กีเก้ ซาเตียน กุนซือเรอัล เบติส จะไร้เงา ริซ่า ดูร์มิซี่ (7 นัด)แนวรับ ฆาบี การ์เซีย (7 นัด)กองกลาง และ คริสเตียน เตโญ่(8นัด/1ประตู)ตัวรุกมาจากเกมล่าสุด อย่างไรก็ดีเกมนี้พวกเขาก็มีแผนโรเตชั่นผู้เล่นและให้โอกาสแข้งสำรองได้ลงพิสูจน์ฝีเท้าอยู่แล้ว ทว่ากองหน้าพวกเขายังไว้ใจ เซร์คิโอ เลออนที่ซัดในลีกไป 4 จาก 7 เกมลงเป็นทีเด็ดตัวเป้า ในระบบ 4-2-3-1 ส่วนในรายของ อันโตนิโอ ซานาเบรีย และ บิคตอร์ กามาราซ่า จะต้องหลีกทางให้กับ โจเอล แคมป์เบล และ มาติอัส นาฮูเอล ในโซนเกมรุก

เรอัล เบติส (4-3-3) : ดานี่ กิมิเนซ ; ราฟา นาบาร์โร่, ทอสก้า, จอร์ดี้ อามัต, อันโตนิโอ บาร์รากัน ; ฟาเบียน รูอิซ,ริยาด บูเดอบูซ, ฮวนโฆ่ นาเบรส, มาติอัส นาฮูเอล, โจเอล แคมป์เบล,- เซร์คิโอ เลออน

เจ้าบ้าน กาดิส ตัวแทนจาก เซกุนด้า จะไม่มีผู้รักษาประตูมือหนึ่งที่ยังบาดเจ็บอย่าง คิฟูเอนเตส(11นัด) สองแนวรับ กอร์เรอา(2นัด),โลเปซ(7นัด) รวมถึง เปเรอา (4นัด)หัวหอกตัวสำรองที่ยังบาดเจ็บอยู่ อย่างไรก็ดีเกมนี้กุนซือ อัลบาโร่ ยังพร้อมวาง ดาบิด บาร์รัล ที่ซัดในลีกไป 3 จาก 8 นัดลงเป็นหัวหอกตัวเป้า โดยมี ซัลบี้(10นัด), รูเบน ครูซ(4นัด) และ อัลบาโร่ การ์เซีย(7นัด/2ประตู) เป็นสามประสานแนวรุก

กาดิซ (4-2-3-1) : รูเบน ยาเนซ ; โรเบอร์ กอร์เรอา, เซร์วานโด้ ซานเชซ, เคโคเยวิช, ไบร์อัน โอลิแวน - อเล็กซ์, อับดุลเลาะห์ -ซัลบี้, รูเบน ครูซ, อัลบาโร่ การ์เซีย - ดาบิด บาร์รัล

ส่วนทีมเยือน บาร์เซโลน่า ของกุนซือ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ ตัดสินใจพักแกนหลักถึง 7 ราย(แทร์ สเตเก้น, อุมตีตี้, บุสเก็ตส์, เปาลินโญ่, อิเนียสต้า, หลุยส์ ซัวเรซ, ลิโอเนล เมสซี่)ในชุดเดินทางบุกเยือน เรอัล มูร์เซีย ในเกมเลกแรกในศึก โกปา เดล เรย์ แต่ก็ยังวางตัวชุดใหญ่บางรายเพื่อเอาไว้แก้เกมบางส่วน ซึ่งเกมนี้นับเป็นโอกาสของเหล่าบรรดาตัวสำรองและได้ดึงดาวรุ่งจาก บาร์เซโลน่า เบ เข้ามาเสริม และถือเป็นแมตช์เปิดตัวของ มาร์ก คูคูเรลล่า แบ็กซ้ายดาวโรจน์เบียดลุ้นพี่ลงตัวจริงในเกมนี้โดยมี ลูคัส ดีญ คอยสแตนด์บายเช่นเดียวกับ เซร์กี้ โรแบร์โต้ และ อังเดร โกเมซ จะได้ออกสตาร์ทร่วมกันในแผงแดนกลาง

บาร์เซโลน่า (4-3-3) : แจสเปอร์ ซิลเลสเซ่น ; เนลซอน เซเมโด้, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, โธมัส แฟร์มาเล่น,มาร์ก คูคูเรลล่า; เซร์กี้ โรแบร์โต้, อังเดร โกเมซ, การ์เลส อเลนญ่า ; เคราร์ด เดวโลเฟว, ปาโก้ อัลกาเซร์, เดนิส ซัวเรซ

โฆเซ่ ซัลเมร่อน นายใหญ่ประจำทีมหลุดมาถึงรอบนี้ก็มาเจอของโหดตัวเอ้เข้าให้ เมื่อต้องเตรียมตัวเปิดรังเจอจ่าฝูง ลาลีกา อย่าง บาร์เซโลน่า ส่วนสภาพความพร้อมในเกมนี้พวกเขาเตรียมเช็คความฟิตของ เวก้า(6นัด)แนวรับ,ซิสกู มาติเนซ(6นัด/1ประตู),เปรโดร มาร์ติน(7นัด/3ประตู)สองหัวหอกขาประจำ และ ฮวนม่า บาร์โว่(4นัด)กองกลาง ซึ่งคาดว่าสามรายหลังจะฟิตทันมีชื่อออกสตาร์ทนำโดย ซิสกู มาติเนซ ,เปรโดร มาร์ติน และ ซานติ ยาร่า(8นัด/1ประตู)เป็นสามประสาน โดยมี ฮวนม่า บาร์โว่ เป็นตัวปั้นเกมอยู่ด้านหลัง

เรอัล มูร์เซีย (4-3-3) : อเล็กซ์ ซานโตเม่ ; ออร์ฟิล่า,ดาบิด มาเตออส,ฮวนร่า,เฟร์นานโด ยอร์เรนเต้- จอร์แเดน โดมินเกวซ,ฟราน คาร์นิเซอร์ ,ฮวนม่า บาร์โว่ - ซิสกู มาติเนซ ,เปรโดร มาร์ติน, ซานติ ยาร่า

กุนซือ เอดูอาร์โด้ เบริซโซ่ นายใหญ่ประจำทีมเตรียมปรับกระบวนอยู่หลายตำแหน่งเพื่อเติมความสดในเกมนี้โดยนักเตะที่พลาดจากเกมที่ เมสตาย่า อย่าง แกลร์กมงต์ ล็องเล่ต์ แนวรับตัวหลักและ โนลิโต้ ตัวรุกประจำทีมจะกลับมาติดทีมชุดเดินทางในเกมนี้ยกเว้น ไซมอน เคียร์, เซร์กิโอ เอสกูเดโร่ สองแนวรับและรวมถึง เอแวร์ บาเนก้า ต่างไม่มีชื่อเดินทางไปกับเพื่อนร่วมทีมเพื่อฟื้นตัวร่างกายสนามซ้อมรอลงสนามเกมเจอ เลกาเนส สุดสัปดาห์นี้ ส่วนแข้งเดี้ยงหน้าเก่าอย่าง สเตเว่น เอ็นซ็องซี่, มอนโตย่า,ดาเนี่ยล การ์ริโก้ และ นิโก้ ปาเรฆ่า ยังต้องรอการคัมแบ็กต่อไป

เซบีญ่า (4-3-3) : ดาบิด โซเรีย ; เซบาสเตียน คอร์เชีย, กาเบรียล เมร์การ์โด้, แกลร์กมงต์ ล็องเล่ต์, เซร์กิโอ เอสกูเดโร่ ; บอร์ฆา ลาสโซ่, กานโซ่, โครห์น-เดลี : ปาโบล ซาราเบีย, เบน เยดเดอร์, ฆัวกิน กอร์เรอา

มอนเตอากูโด้ เฮดโค้ชใหญ่ของ คาร์ทาเกน่า โชคไม่ดีนักที่ต้องมาเจอของแข็งจากลีกสูงสุดอย่าง เซบีญ่าแพ้ทีมเยือนจะไม่อยู่ในฟอร์มที่ดีก็ตาม ขณะที่สภาพความพร้อมก่อนลงสนามจัดว่าค่อนข้างฟูลทีมเลยทีเดียว ยกเว้นในโซนแดนกลางที่ดูจะมีปัญหาเล็กน้อยหลัง กอร์เดโร่(6นัด)จอมทัพประจำทีมดันถูกคาดโทษในเกมนี้เช่นเดียวกับ คริสโต้ มาร์ติน(9นัด/1ประตู)ตัวหลักขาประจำที่ยังบาดเจ็บอยู่ ทำให้ภาระจะตกไปอยู่ที่ อเลฮานโดร ชาเบโร่(7นัด/1ประตู) เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่งและ อิซัค อคีเท็กซ์(8นัด/5ประตู)ไปโดยปริยาย

คาร์ทาเกน่า (4-2-3-1) : ปาอู ตอร์เรส; ออสก้า รามิเรซ, มิเชล ซาบาโก้, มอยเซส การ์เซีย, เฆซุส อัลบาโร่, กอนซาโล่ ปอลเลย์,เซจิโอ้ ฆิมิเนซ, ฮูโก้ โรดริเกซ,อเลฮานโดร ชาเบโร่,กูกิ ซาลาซาร์ - อิซ๊าค อเคเท็กซ์

โฆเซ่ หลุยส์ เมนดิลิบาร์ นายใหญ่ เออิบาร์ บุกมาเยือนเกมนี้โดยไม่มี อิบัน รามิส (4 นัด) ปราการหลังตัวหลักที่เจ็บยาวถึงเดือนมกราคม เช่นเดียวกับแดนกลางที่ที่จะชื่อของ ฟราน ริโก้, อีวี่ (2 นัด)กองกลางตัวารองที่ยังเดี้ยงต่อไป ส่วนการปรับหมากในเกมนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงบางตำแหน่งโดยการส่ง ดาบิด ฆวนก้า แทนที่ โฆเซ่ อังเคล โดยมี ทาคาชิ อินูอิ แข้งชาวญีปุ่น ลงปั้นเกมริมเส้นฝั่งซ้ายให้ เซร์จี้ เอ็นริช คอยจบสกอร์ในแดนหน้า

เออิบาร์ (5-4-1) : มาร์โก ดมิโตรวิช ; อันเดร์ กาป้า, อานาอิตซ์ อาร์บิญ่า เปาโล โอลิเวียร่า, ดาบิด ลอมบาน, ดาบิด ฆวนก้า ; โฆอัน ฆอร์แดน, ดานี่ การ์เซีย, กอนซาโล่ เอสกาลันเต้, ทาคาชิ อินูอิ ; เซร์จี้ เอ็นริช

ซีเนดีน ซีดาน เฮดดค้ชประจำทีมยังคงต้องใช้งาน กีโก้ กาซีย่า นายทวารตัวสำรองต่อไปอีกนัด เพราะมือหนึ่งอย่าง เกย์เลอร์ นาบาส(6 นัด)ยังต้องใช้เวลาเพื่อฟื้นฟูอาการบาดเจ็บต่อไป เช่นเดียวกับสองผู้เล่นเอ๊าท์ฟิลด์อย่าง มาเตโอ โควาซิช (2 นัด) และ แกเร็ธ เบล (5 นัด 2 ประตู) ซึ่งเกมนี้ถึงแม้จะต้องรอเช็คฟิตในรายของ ราฟาแอล วานราน แต่คาดว่าไม่น่าจะมีปัญหาในการลงมาประสานงานกับ เซร์คิโอ รามอส ส่วนแนวรุกยังคงไว้ใจให้ คาริม เบนเซม่า ที่ใช้โอกาสเปลืองเหลือเกินในเกมเจ๊า สเปอร์ส เมื่อกลางสัปดาห์ลงจับคู่กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สตาร์เบอร์หนึ่งประจำทีม

เรอัล มาดริด (4-3-1-2) : กีโก้ กาซีย่า ; นาโช่, ราฟาแอล วาราน, เซร์คิโอ รามอส, มาร์เชโล่ ; ลูก้า โมดริช, กาเซมิโร่, โทนี่ โครส ; อีสโก้ ; คริสเตียโน่ โรนัลโด้, คาริม เบนเซม่า

ส่วนทีมเยือนของกุนซือจะหมดสิทธิ์ใช้งาน อิเกร์ มูเนียอิน (6 นัด 1 ประตู)ที่จัดเป็นแกนหลักแดนกลางเพียงแค่รายเดียวเท่านั้นแถมยังต้องลุ้นอีกว่า มิเกล บาเลนเซียก้า แบ็คซ้ายตัวหลักจะสลัดอาการข้อเท้าเดี้ยงกลับมาช่วยทีมได้หรือไม่ ส่วนผังโซนกองหน้าพวกเขาจำเป็นต้องพักหัวหอกตัวเก๋าอย่าง อาริตซ์ อาดูริตซ์ หลังกำศึกติดต่อกันมาหลายนัดและจะเป็น อินญากี้ วิลเลี่ยมส์ จะถูกดันมารับบทดังกล่าวแทน

แอธฯบิลเบา (4-2-3-1) : เกป้า ; อินญิโก้ เลกูเอ้, อายเมริค ลาปอร์เต้, อูไน นูนเญซ, เอริก ซาโบริต ; มิเกล ซาน โฆเซ่, มิเกล เบสก้า ; มาร์เกล ซูซาเอต้า, ราอูล การ์เซีย, อินญิโก้ กอร์โดบา ; อินญากี้ วิลเลี่ยมส์

อาเซียร์ การีตาโน่ กุนซือ เลกาเนส ไม่มีรายงานตัวเจ็บเพิ่มเติมนอกจากแข้งเดี้ยงหน้าเก่าอย่าง ฆอน เซรันเตส (-)นายประตูและ โอมาร์ รามอส (5 นัด)แดนกลางเท่านั้น และจากฟอร์มไร้พ่ายมา 4 เกมติดทำให้พวกเขาไม่มีแผนจะปรับตำแหน่งมากนักแถมยังจะได้ อเล็กซ์ ซีมานอฟสกี้ กองหน้าตัวหลักที่หายเจ็บกลับมารวมถึง นาบิล เอล ซาร์, นอร์ดิน อัมรบัต และ กาเบรียล ปีเรส ยังคงถูกวางเป็นทีเด็ดแนวรุกต่อไป

เลกาเนส (4-2-3-1) : อิวาน กูเอร์ย่า ; โฆเซบา ซัลดูอา, ดิมิตริออส ซิโอวาส, เมาโร ดอส ซานโต๊ส, ราอูล การ์เซีย ; เอราโซ่, รูเบน เปเรซ, กาเบรียล ปีเรส ; นาบิล เอล ซาร์, นอร์ดิน อัมรบัต, อเล็กซานเดอร์ ซีมานอฟสกี้

ส่วนทีมเยือนของ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มฝืดแบบสุดๆหลังไม่ชนะใครมา 4 เกมรวดซึ่ง 3 เกมหลังรวมทุกรายการพวกเขาออกหน้าเสมอทั้งหมด ซึ่งในเกมนี้จะมีการปรับเปลี่ยนบางตำแหน่งจากเกมยุโรปและจะได้เห็น โธมัส ปาร์เตย์ จะยึดโผ 11 ตัวจริงคืนมาจาก กาบี้ ส่วนกองกลางคนสำคัญอย่าง โกเก้ จะหลุดออกจากทีมหลังบาดเจ็บมาจากเกม ชปล. ส่วนแดนหน้ายังคงไว้ใจให้ อังเคล กอร์เรอา ประสานงานกับ อองตวน กรีซมันน์ ต่อไป

แอตฯมาดริด (4-4-2) : ยาน โอบลัค ; ฆวนฟราน, ดีเอโก้ โกดิน, สเตฟาน ซาวิช, ฟิลิเป้ หลุยส์ ; โกเก้, กาบี้, ซาอูล ญีเกซ, ยานนิค การ์ราสโก้ ; อังเคล กอร์เรอา, อองตวน กรีซมันน์

เจ้าบ้าน เซลต้า บีโก้ กำลังยกระดับการเล่นขึ้นมาต่อเนื่องหลังไม่แพ้ใครมา 4 เกมติด ซึ่งในเกมนี้มีข่าวดีคือจะได้ มักซี่ โกเมซ กองหน้าตัวหลักพ้นโทษแบนกลับมาลงสนามร่วมกับ ยาโก้ อัสปาส และ ปิโอเน่ ซิ สโต้ ทำให้ เอ็มเร่ มอร์ ต้องกลับไปนั่งสำรองต้องกลับไปนั่งสำรองอีกครั้ง ส่วนตำแหน่งแบ็กขวาจะมีการเปลี่ยนแปลงเช่นกันหลัง ฮูโก้ มาโย่ สลัดคราบเดี้ยงกลับมาช่วยทีมทำให้ ดาเนี่ยล วาสส์ จะถูกดันขึ้นไปเล่นมิดฟิลด์เกมนี้

เซลต้า บีโก้ (4-3-3) : เซร์คิโอ อัลบาเรซ ; ฮูโก้ มาโย่, กุสบาโบ กาบราล, อันเดรอู ฟอนตาส, จอนนี่ อ๊อตโต้ ; ดาเนี่ยล วาส, สตานิสลาฟลาบ็อตก้า, โฆซาเบด เอร์นานเดซ ; ยาโก้ อัสปาส, มักซี่ โกเมซ, ปิโอเน่ ซิ สโต้

ปาโก้ อาเยสเตราน เทรนเนอร์ใหม่ประจำทีมจะเข้ามาไขก็อกฟอร์มย่ำแย่ของ ลาส พัลมาส ในช่วงเวลานี้ ซึ่งก็ถือว่าก็ต้องเอาใจช่วยกันต่อกับการลุ้นหนีพื้นที่ตกชั้นหลังผ่านไป 8 นัด ซึ่งก่อนเกมพวกเขาจะขาดเพียงแค่ อเลน ฮาลิโฮวิช (3 นัด)เพียงรายเดียวที่ยังบาดเจ็บ และยังคงได้เห็นทีเด็ดแนวรุกอย่าง โลอิก เรมี่ กองหน้าฝรั่งเศส และตัวจี๊ดอย่าง บิโตโล่ และ โฆนาธาน กาเยรี่ ลงบู๊กันครบเซ็ต ส่วนผังแนวรับจะให้โอกาส ดาบิด ซิมง ลงแทน มิเชล มาเกโด้ ที่หลุดฟอร์มจากตำแหน่งแบ็กขวา

ลาส พัลมาส (4-3-3) : เลอันโดร ชิชิโซล่า ; ดาบิด ซิมง, เมาริซิโอ เลมอส, เปโดร บีกาส, ดานี่ กาสเตยาโน่ ; โฆนาธาน บิเอร่า, อัลเบร์โต้ อากีลานี่, เอร์นาน ซานตาน่า ; บิคตอร์ บีโตโล่, โฆนาธาน กาเยรี่, โลอิก เรมี่

ฆาบี กาเยย่า ผู้จัดการทีม "เรือดำน้ำ" กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มดีต่อเนื่องหลังซิวชัยในลีกมา 2 เกมติด ซึ่งในเกมนี้พวกเขายังคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนักเพราะแข้งตัวเจ็บส่วนใหญ่ล้วนเจ็บไปก่อนหน้านี้ตั้งหลายนัดโดยเฉพาะ 2 ผู้รักษาประตูอย่าง อันเดรส เฟร์นันเดซ (2 นัด), เซร์คิโอ อาร์เซนโฆ่ (-)รวมถึงแข้งแนวรับอย่าง รูเบน เซเมโด้ (3 นัด) และ อาเดรียน มาริน (-)ที่ยังไม่ได้โอกาสลงสนามในซีซั่นนี้ ส่วนแกนหลักแนวรับยังคงใช้ อัลบาโร่ กอนซาเลซ กับ บิคตอร์ รุยซ์ ลงเล่นอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับวาง เซดริก บากัมบู และ การ์ลอส บักก้า เป็นทีเด็ดแดนหน้าต่อไป

บียาร์เรอัล (4-4-2) : มาเรียโน่ บาร์โบซ่า ; มาริโอ กัสปาร์, อัลบาโร่ กอนซาเลซ, บิคตอร์ รุยซ์, ฆัวเม่ คอสต้า ; ซามู กัสติเญโฆ่, โรดรี, มานู ตริกูเอรอส ; ปาโบล ฟอร์นัลส์ ; เซดริก บากัมบู, การ์ลอส บักก้า

ส่วนทีมเยือน โบโลญญ่า ของกุนซือ โรแบร์โต้ โดนาโดนี่ จะหมดสิทธิ์ใช้งานแน่ๆคือ โดเมนิโก้ ไมเอ็ตต้า แข้งแนวรับและ อิบราฮิม่า เอ็มบาเย่ กองกลางประจำทีม ทว่าไม่ส่งผลอะไรต่อการเล่นของทีมยามนี้หลังทุกคนยังเล่นได้เข้าขาและจะได้เห็นแข้งขุดเดิมจากเกมที่แล้วลงบู๊ครบเซ็ตนำโดย โรดริโก้ ปาลาซิโอ หัวหอกตัวเก๋าลงจบสกอร์โดยมี ซิโมเน่ แวร์ดี้ กับ เฟเดริโก้ ดิ ฟรานเชสโก้ คอยขึ่นเกมทางริมเส้น

โบโลญญ่า (4-3-3) : อันโตนิโอ มิรานเต้ - วาซิลิส โทโรซิสดิส, จานคาร์โล กอนซาเลซ, ฟิลิป เฮลันเดอร์, อดัม มาซิน่า - อีริก พัลการ์, อันเดรีย โพลี่, ก็อดเฟร็ด ดอนซาห์ - ซิโมเน่ แวร์ดี้, เฟเดริโก้ ดิ ฟรานเชสโก้, โรดริโก้ ปาลาซิโอ

จาน ปิเอโร่ กัสเปรินี่ บอสใหญ่น่าจะมีการปรับทัพพอสมควรในเกมนี้และจะได้เห็น ราฟาเอล โตลอย ที่เพิ่งหายเจ็บกลับมาคืนสู่ตำแหน่งตัวจริงอีกครั้งนั่นเท่ากับว่า โฮเซ่ ปาโลมิโน่ ปราการหลังอาร์เจนไตน์ต้องหลุดเป็นตัวารองไปโดยปริยาย ขณะที่ผังแดนกลางจะส่ง มาร์เท่น เด รูน ลงคุมจังหวะเกมร่วมกับ เลโอนาร์โด สปินาซโซล่า และใช้ ยาสมิน เคอร์ติซ กับ โยซิป อิลิซิส คอยปั้นเกมให้ อันเดรีย เพตาญ่า จบสกอร์

อตาลันต้า (3-4-2-1) : เอทริต เบริช่า - ราฟาเอล โตลอย, มัตเตีย คัลดาร่า, อันเดรีย มาซิเอลโล่ - ฮันส์ ฮาเตบัวร์, เรโม ฟรูแลร์, มาร์เท่น เด รูน, เลโอนาร์โด สปินาซโซล่า - ยาสมิน เคอร์ติซ, โยซิป อิลิซิส - อันเดรีย เพตาญ่า

ฟาบิโอ เปกเชีย นายใหญ่ประจำทีมโชคไม่ดีนักที่ต้องเสียกองกลางตัวรุกตัวทีเด็ดอย่าง มัตเตีย วาโลติ ที่ดันเดี้ยงเพิ่มเติ่มเข้ามาต่อจาก มัตเตโอ เบียงเค็ตติ กับ อเล็กซ์ แฟร์รารี่ สองแนวรับประจำทีมที่เดี้ยงก่อนหน้านี้ ซึ่งตำแหน่งในโซนแนวรุกจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงโดยการส่ง ดานิเอเล่ แวร์เด้ ปีกตัวจี๊ดลงมาผนึกกำลังกับ อเลสซิโอ แชร์ชี่ เพื่อสร้างสรรค์โอกาสให้ จามเปาโล ปาซซินี่ ลงจบสกอร์ในแดนหน้า

เวโรน่า (4-3-3) : นิโกลัส - มาร์ติน กาเซเรส, ซามูเอล ซูร์พาย็อง, อันโตนิโอ คารัชโชโล่, โมฮาเหม็ด ฟาเรส - โรมูโล่, บรูโน่ ซูคูลินี่, ดาเนียล เบสซ่า - อเลสซิโอ แชร์ชี่, จามเปาโล ปาซซินี่, ดานิเอเล่ แวร์เด้

โรลันโด้ มารัน ผู้จัดการทีมยังคงทำการปรับหมากเพือหาจุดลงตัวต่อไปซึ่งเกมนี้มีแนวโน้มว่าจะได้เห็น เนน้าด โทโมวิช แบ็คซ้ายเซอร์เบียหลุดเป็นตัวสำรองอีกครั้งเพื่อหลีกทางให้กับ มัสซิโม่ ก็อบบี้ ลงมาเล่นแทน พร้อมกับถอด นิโกล่า ริโกนี่ ที่ยังทำผลงานได้ไม่ดีในแดนกลางออกพร้อมกับส่ง เพอร์พาริม ฮาเตมาย ออกสตาร์ทโดยมี โรแบร์โต้ อินเกลเซ่ และ มานูเอล ปุคคาเรลลี่ เป็นคู่ศูนย์หน้า ส่วนในราย ริคคาร์โด้ เม็กโกรินี่ หัวหอกอีกรายยังคงมีปัญหาบาดเจ็บอยู่

คิเอโว่ (4-3-1-2) : สเตฟาโน่ ซอร์เรนติโน่ - ฟาบริซิโอ จัคคาตอเร่, ดาริโอ ดายเนลลี่, อเลสซานโดร กัมเบรินี่, มัสซิโม่ ก็อบบี้ - ลูกัส กาสโตร, อีวาน ราโดวาโนวิช, เพอร์พาริม ฮาเตมาย - วอลเตอร์ เบียร์ซ่า - โรแบร์โต้ อินเกลเซ่, มานูเอล ปุคคาเรลลี่

ส่วนทีมบ๋วยอย่าง มาลาก้า เตรียมรับชะตาเอาไว้ได้เลยเพราะเกมนี้พวกเขาจะขาดตัวผู้เล่นไปหลายตำแหน่งไม่ว่าจะเป็น เรซีโอ้ กองกลางตัวหลักที่โดนไล่ออกจากเกมพ่าย เลกาเนส 0-2 ในนัดล่าสุด จึงต้องส่ง อาเดรียน ลงปักหลักแทนในยามที่ ซดราฟโก้ คูซมาโนวิช(5นัด) เจ็บหนักปิดเทอมยาวเป็นที่เรียบร้อย แถมแนวรับตัวหลักอีกรายอย่าง ดีเอโก้ กอนซาเลซ (4 นัด 1 ประตู) ยังคงต้องพักรักษาตัวต่อไป

มาลาก้า (5-4-1) : โรเบร์โต้ ฆิมิเนซ ; โรเบร์โต้ โรซาเลส, มิเกล ตอร์เรส, ลุยส์ เอร์นานเดซ, ปอล บายาสเซ่, ฆวน เปเรซ ; ดีเอโก้ โรลัน, อาเดรียน กอนซาเลซ, เอสเตบัน โรลอน, อเลฆานโดร มูล่า ; บอร์ฆ่า บาสยอน

เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ ผู้จัดการทีม บาร์เซโลน่า เกมนี้ยังคงได้เห็น เคราร์ด ปีเก้ จับคู่กับ ซามูแอล อุมตีตี้ ในตำแหน่งคู่เซ็นเตอร์ต่อไปแม้ว่ารายแรกเพิ่งจะโดนไล่ออกมาจากเกม ชปล. กลางสัปดาห์ก็ตาม ขณะที่ ลูคัส ดีญ ยังคงต้องหลีกทางให้กับ ฆอร์ดี้ อัลบา ที่ถึงแม้จะมีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยแต่ไม่น่าจะพลาดมีชื่อใน 11 ผู้เล่นตัวจริง พร้อมกับใช้ หลุยส์ ซัวเรซ กับ ลิโอเนล เมสซี่ เป็นตัวชูโรงในแดนหน้าโดยมี เดนิส ซัวเรซ เป็นตัวสนับสนุนเพิ่มเติม

บาร์เซโลน่า (4-3-3) : มาร์ค อังเดร แทร์ ชเตเก้น ; เนลซอน เซเมโด้, เคราร์ด ปีเก้, ซามูแอล อุมตีตี้, ฆอร์ดี้ อัลบา ;อีวาน ราคิติช, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, อันเดรส อิเนียสต้า ; หลุยส์ ซัวเรซ, ลิโอเนล เมสซี่, เดนิส ซัวเรซ

เอดูอาร์โด้ เบริซโซ่ มีปัญหาให้ต้องคิดไม่ตกจากที่อยู่ดีๆก็หลุดฟอร์มเสียขวัญในเกม ชปล. หลังบุกไปโดน สปาร์ตัก มอสโก เจ้าถิ่นรัสเซีย ถล่มยับ 5-1 หน้าตาเฉย ส่วนขุมกำลังในเกมนี้แน่นอนว่าจะยังไม่มีชื่อของ 2 ตัวเจ็บแนวรับอย่าง ดาเนี่ยล การ์ริโก้ (3 นัด)และ นิโก้ ปาเรฆ่า (2 นัด) ทำให้โฉมหน้าแนวรับยังคงเป็นไซม่อน เคียร์ ปักหลักกับเซนเตอร์กับ แกลร์กมงต์ ล็องเล่ต์ ต่อไป แถมแดนกลาง สเตเว่น เอ็นซ็องซี่ ยังคงไม่สามารถสลัดเดี้ยงช่วยทีมได้จึงเป็นโอกาสของ กีโด ปิซาร์โร่ อีกครั้ง

เซบีญ่า (4-3-3) : เซร์กิโอ ริโก้ ; กาเบรียล เมร์กาโด้, ไซม่อน ชาร์, แกลร์กมงต์ ล็องเล่ต์, เซร์กิโอ เอสกูเดโร่ ; เอแวร์ บาเนก้า, กีโด ปิซาร์โร่, ฟรานโก้ บาซเกซ : เฆซุส นาบาส, หลุยส์ มูเรียล, ฆัวกิน กอร์เรอา

มาร์เซลิโน่ เทรนเนอร์บาเลนเซียเจ้านายใหญ่ "ไอ้ค้างคาว" หวังยึดชุดแกร่งจากนัดบุกถล่ม เรอัล เบติส 6-3 ลงบู๊เกือบครบเซ็ตแน่หลังนาทีนี้พวกเขามั่นใจสุดๆจากการชนะรวดมา 4 เกมติด แถม ซิโมเน่ ซาซ่า ยังคงเป็นตัวความหวังในแดนหน้าได้ไม่มีปัญหาแม้จะเจ็บเล็กน้อยจากเกมดังกล่าว ซึ่งคู่หูในเกมนี้คงเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจาก ซิโมเน่ ซาซ่า ที่ผนึกกำลังเป็นอย่างดี แถมจะยังคืน 11 ตัวจริงให้แก่ ซิโมเน่ ซาซ่า เบียดตำแหน่งแบ็กขวาของ นาโช่ วิดัล ที่ต้องหลุดสำรองไปโดยปริยาย

บาเลนเซีย (4-4-2) : เนโต้ ; มาร์ติน มอนโตย่า, เฆซอน มูริโญ่, เอเซเกล การาย, โฆเซ่ กาย่า ; การ์ลอส โซเลร์, ดาเนี่ยล ปาเรโฆ่, จอฟเฟรย์ ก็องด็อกเบีย, กอนกาโล่ กูเอเดส ; โรดริโก้ โมเรโน่, ซิโมเน่ ซาซ่า

ลุยส์ ซูเบลเดีย เทรนเนอร์ อลาเบส ยังคงไม่สามารถนำทีมเก็บชัยชนะได้ต่อเนื่องหลังแพ้ไปถึง 7 จาก 8 เกมหลังรั้งรองบ๋วยในยามนี้ ส่วนความพร้อมก่อนเกมพวกเขายังจะไร้ชื่อของ อิไบ โกเมซ ตัวรุกฝั่งขวาที่เจ็บเข่าทำให้ต้องส่ง อเล็กซานดาร์ กาไต ลงขึ้นเกมรุกร่วมกับ อัลบาโร่ เมดราน และ อัลฟองโซ่ เปดราซ่า โดยใช้ มูนีร์ เอล ฮัดดาดี้ รับบทเป็นหน้าตัวเป้า

อลาเบส (4-2-3-1) : เฟร์นานโด ปาเชโก้ ; อเล็กซิส รูอาโน่, โรดริโก้ อีลี่, กีเยร์โม่ มาริปาน, รูเบน ดูอาร์เต้ ; มานู การ์เซีย, ดาเนี่ยล ตอร์เรส ; อเล็กซานดาร์ กาไต, อัลบาโร่ เมดราน, อัลฟองโซ่ เปดราซ่า ; มูนีร์ เอล ฮัดดาดี้

กีเก้ ซาเตียน นายใหญ่ประจำทีมยังมีปัญหาให้ต้องปรับแก้พอสมควรในเรื่องเกมรับหลังเสียประตูให้ บาเลนเซีย ถึง 6 ลูกจากเกมที่แล้ว แถมก่อนเกมแนวรับตัวหลักอย่าง ริซ่า ดูร์มิซี่ (7 นัด) ยังไม่สามารถสลัดเดี้ยงกลับมาเติมฟูลแบ็คได้ทันเวลาทำให้ อาลิน ทอสก้า ลงปักหลักแทนต่อไป ส่วนแดนกลางก็จะขาดตัวเลือกเช่นกันจกการไร้เงา ฆาบี การ์เซีย(7 นัด) และจะเป็น อันเดรส กวาร์ดาโด้ ลงจับคู่กับ ฟาเบียน รูอิซ ในโซนมิดฟิลด์ตัวกลาง

เรอัล เบติส (4-3-3) : อันโตนิโอ อาดาน ; อันโตนิโอ บาร์รากัน, อิสซ่า ม็องดี้, ซูเอียร์ เฟดดาล, อาลิน ทอสก้า ; ฟาเบียน รูอิซ, อันเดรส กวาร์ดาโด้, บิคตอร์ กามาราซ่า ; ฆัวกิน ซานเชซ, อันโตนิโอ ซานาเบรีย, เซร์คิโอ เลออน

โฆเซ่ บอร์ดาลาส กุนซือ เกตาเฟ่ ยังคงไร้เงา กาคุ ชิบาซากิ มิดฟิลด์ทีมชาติญี่ปุ่นที่เจ็บ เช่นเดียวกับแดนกลางรายอื่นอย่าง เจฟเฟอร์สัน มอนเตโร่ (1 นัด), อัลบาโร่ คิมิเนซ (7 นัด 1 ประตู) และ เซร์คิโอ โมร่า (6 นัด)ที่ยังกอดคอกันเดี้ยงด้วยกันทั้งหมด ทำให้ทางเลือกในเกมนี้มีค่อนข้างจำกัดและยังคงได้เห็น ฟรานซิสโก้ ปอร์ตีโญ่, ฟายกัล ฟายร์ และ อามาธ เอ็นเดียเย่ ลงประสานงานในแนวรุกโดยทิ้ง ฆอร์เก้ โมลิน่า เป็นหน้าเป้าเดี่ยวในเกมนี้

เกตาเฟ่ (4-2-3-1) : บิเซนเต้ กูยาต้า ; ดาเมี่ยน ซัวเรซ, เฌเน่ ดาโกนัม, ฆวน กาล่า, บิตอเรียโน่ อันตูเนส ; มาร์เกล เบร์การ่า, เมาโร อารัมบาร์รี่ ; ฟรานซิสโก้ ปอร์ตีโญ่, ฟายกัล ฟายร์, อามาธ เอ็นเดียเย่ ; ฆอร์เก้ โมลิน่า

ฆวน รามอน มูนญิซ นายใหญ่ประจำทีมมีข่าวดีคือจะได้ เอนิส บาร์ดี้ จอมทัพแกนหลักสลัดอาการป่วยกลับมาลงตัวจริงอีกครั้งร่วมกับ อีบี โลเปซ และ โฆเซ่ หลุยส์ โมราเลส เช่นเดียวกับ เซร์คิโอ ปอสตีโก้ ที่น่าจะผ่านความฟิตลงคุมปราการหลังได้ไม่มีปัญหา อย่างไรก็ดียังพอมีบางจุดให้ต้องกังวลอยู่บ้างเมื่อ ซามู การ์เซีย มิดฟิลด์ตัวรุกที่เจ็บกล้ามเนื้อต้องพักยาวต่อไปรวมไปถึงแบ็คขวาอย่าง อีบัน โลเปซ ที่เจ็บหนักถึงขั้นผ่าตัดที่เข่าเลยทีเดียว

เลบานเต้ (4-2-3-1) : ราอูล เฟร์นานเดซ ; เปโดร โลเปซ, เซร์คิโอ ปอสตีโก้, เชม่า โรดริเกซ, โตนโญ่ การ์เซีย ; เจฟเฟอร์ซอน เลร์มา, โฆเซ่ กัมปานญ่า ; อีบี โลเปซ, เอนิส บาร์ดี, โฆเซ่ หลุยส์ โมราเลส ; นาโน่ เมซ่า

ส่วนทีมเยือน อินเตอร์ มิลาน ของนายใหญ่ ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ จะหมดสิทธิ์ใช้งานแน่ๆก็คือในรายของ มาร์เชโล่ โบรโซวิช (5 นัด/2 ประตู)กองกลางกำลังหลักที่ยังคงบาดเจ็บอยู่ ทำให้โฉมหน้าในแดนกลางจะใช้ มาติอัส เวชิโน่ ห้องเครื่องอุรุกวัยลงประสานงานกับ โรแบร์โต้ กายาร์ดินี่ โดยมี อันโตนิโอ กานเดรว่า, บอร์ฆา บาเลโร่ และ อีวาน เปริซิซ เป็นสามประสานในแนวรุก ขณะที่แดนหน้าคงเป็นใครไม่ได้นอกจาก เมาโร อิคาร์ดี้ ที่ซัดไปแล้ว 9 เม็ดในซีซั่นนี้

อินเตอร์ (4-2-3-1) : ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช - ดานิโล่ ดัมโบรซิโอ, มิลาน สคิเนียร์, เจา มิรานด้า, ยูโตะ นากาโตโมะ - โรแบร์โต้ กายาร์ดินี่, บอร์ฆา บาเลโร่ - อันโตนิโอ กานเดรว่า, บอร์ฆา บาเลโร่, อีวาน เปริซิซ - เมาโร อิคาร์ดี้

แม้นายใหญ่ เมาริซิโอ ซาร์รี่ เพิ่งจะพาทีมบุกไปพ่าย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-2 ในศึก ชปล. ทว่าวิเคราะห์จากรูปเกมในครึ่งหลังจัดว่าสู้ได้สมศักดิ์ศรีแถมมีลุ้นเก็บแต้มได้เสียด้วยซ้ำ ซึ่งในเกมนี้พวกเขายังคงไร้เงาอาร์คาดิอุสซ์ มิลิค หัวหอกเลือดโปแลนด์ที่เข่าเดี้ยงอยู่แถมยังต้องลุ้นว่า ลอเรนโซ่ อินซิเญ่ ที่บาดเจ็บเล็กน้อยจากเกมที่แล้วว่าจะสมบูรณ์หรือไม่ ทว่าหากไม่มีอะไรผิดคาดน่าจะได้เห็นลงประสานกับ โฆเซ่ กาเยฆอน และ ดรีส เมอร์เท่นส์ ที่ต่างพาช่วยกันระเบิดฟอร์มรั้งจ่าฝูงของลีกในเวลานี้

นาโปลี (4-3-3) : เปเป้ เรน่า - เอลเซอิด ฮายซาย, ราอูล อัลบิโอล, คาลิดู คูลิบาลี่, ฟาอูซี่ กูลาม - อัลลัน, จอร์จินโญ่, มาเร็ค ฮัมซิค - โฆเซ่ กาเยฆอน, ดรีส เมอร์เท่นส์, ลอเรนโซ่ อินซิเญ่

ส่วนทีมเยือน โครโตเน่ ภายใต้การนำของกุนซือ ดาวิเด้ นิโคล่า มีข่าวดีคือจะได้กองหน้าอย่าง มาร์โก้ ตุมมิเนลโล่ กลับมาเป็นทางเลือกทว่าคงต้องหลีกทางให้ มาร์เซโล่ ทร็อตต้า กับ อังเต้ บูดิเมียร์ ที่ประสานงานกันได้เป็นอย่างดีไปก่อน ขณะที่กองหน้าตัวเจ็บอีกรายอย่าง อเล็กซานดร้า โตเนฟ ยังไม่มีชื่อต่อไปตามคาด ส่วนทีเด็ดในการขึ้นเกมรุกจะได้เห็น มาร์คัส โรห์เด้น และ อาเดรียน สโตยาน คอยขั้นเกมจากด้านข้างทั้งสองฝั่ง

โครโตเน่ (4-4-2) : อเล็กซ์ คอร์ดาซ - มาริโอ ซัมปิริซี่, เฟเดริโก้ เจคเครินี่, อาร์ลินด์ อเยติ, บรูโน่ มาร์เตลล่า - มาร์คัส โรห์เด้น, อันเดรีย บาร์เบริส, โรรานโด้ มันดราโกร่า, อาเดรียน สโตยาน - มาร์เซโล่ ทร็อตต้า, อังเต้ บูดิเมียร์

กุนซือ มาร์โก จามเปาโล นายใหญ่ประจำทีมมีข่าวดีคือจะได้ เอ็ดการ์ บาร์เรโต้(4 นัด)จอมทัพแกนหลักพ้นโทษแบนกลับมาออกสตาร์ทร่วมกับ ลูคัส ตอร์ไรร่า และ เดนนิส ปราเอ้ต์ อีกครั้ง ทำให้ คารอล ลิเน็ตตี้ ต้องหลุดเป็นตัวสำรองไปโดยปริยาย ขณะที่แนวรุกยังคงวางแกนหลักหน้าเดิมนำโดย กาสตัน รามิเรซ ที่จะเป็นตัวปั้นเกมให้คู่หน้าอย่าง ฟาบิโอ กวายาเรลล่า กับ ดาเนี่ยล ซาปาต้า จบสกอร์

ซามพ์โดเรีย (4-3-1-2) : คริสเตียน พัคกิโอนี่ - บาสตอส เบเรสซินสกี้, มาติอัส ซิลเวสเตร, จานมาร์โก้ แฟร์รารี่, อิวาน สตรินิช -เอ็ดการ์ บาร์เรโต้, ลูคัส ตอร์ไรร่า, เดนนิส ปราเอ้ต์ - กาสตัน รามิเรซ - ฟาบิโอ กวายาเรลล่า, ดาเนี่ยล ซาปาต้า

ส่วนทีมเยือน สลาเวีย ปราก ของกุนซือ ยาโรสลาฟ ซิลฮาวี่ จะไร้เงา มูริส เมซาโนวิช กองหน้าบอสเนีย, มิชาแอล เอ็นกาดู-เอ็นกาฌี กลางรับชาวแคเมอรูน, ดูซาน สเวนโต้ กองกลางตัวเก๋ารวมไปถึง เพอร์ โฟล แนวรับประจำทีม ซึ่งทั้งหมดต่างมีปัญหาบาดเจ็บแทบทั้งสิ้น ทำให้โฉมหน้าผู้เล่นตัวจริงไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้มากนักและยังคงได้เห็น โทมัส เนซิด ดาวยิงวัย 28 ปีลงยืนเป็นหัวหอกตัวเป้าโดยมี แยน ซีโคร่า, มิโรสลาฟ สต็อค และ ยาโรเมียร์ ซีเมอร์ฮัล คอยปั้นเกมจากโซนแนวรุก

สลาเวีย ปราก (4-2-3-1) : พรีมีเซิ่ล โควาร์ - แยน บอริล, ยาคุ๊บ ยูกาส, ซิมง เดลี่, เอดูอาร์ด โซโบล - ยาคุ๊บ ฮโรมาด้า, รุสลาน โรตาน - แยน ซีโคร่า, มิโรสลาฟ สต็อค, ยาโรเมียร์ ซีเมอร์ฮัล - โทมัส เนซิด

ฆาบี กาเญฆ่า ผู้จัดการทีม บียาร์เรอัล มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บก่อนลงสนามพอสมควรไม่ว่าจะเป็น รูเบ็น เซเมโด้, อันเดรียส เฟร์นานเดซ, เซร์กิโอ อาเซนโฆ่, นิโคล่า ซานโซเน่ และ บรูโน่ โซเรียโน่ ที่บาดเจ็บอยู่ก่อน แถมกองหน้าตัวเก่งอย่าง เซดริก บากัมบู(7นัด/7ประตูในลีก)ยังบาดเจ็บเพิ่มเติมเข้ามาทำให้ เอเนส อูนัล แข้งดาวรุ่งตุรกีได้โอกาสพิสูจน์ฝีเท้าโดยมี การ์ลอส บักก้า เป็นคู่หู

บียาร์เรอัล (4-3-1-2) : มาริอาโน่ บาร์โบซ่า - มาริโอ กัสปาร์, ดานิเอเล่ โบเนร่า, บิคตอร์ รุยซ์, ฆัวเม่ กอสต้า - ปาโบล ฟอร์นัลส์, รามิโร่ กูเอร์ร่า, มานู ตริกูเอรอส - โรแบร์โต้ โซเรียโน่ - เอเนส อูนัล, การ์ลอส บักก้า

ส่วนทีเยือน สเตอัว บูคาเรสต์ ของผู้จัดการทีม วิโอเรล ตานาเซ่ เตรียมกลับมาใช้แนวรับตัวเก่งอย่าง มาร์โก มอมชิโลวิช ที่ได้พักจากเกมลีกนัดเสมอ โวลุนทารี่ 0-0 ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงอีกครั้งเช่นเดียวกับ วิลเลี่ยม ดั๊กลาส ปีกบราซิเลี่ยน น่าจะกลับมามีชื่อเป็นตัวจริงคอยปั้นเกมรุกให้กองหน้าอย่าง อาร์เล็ม โนเอเร่ ที่ซัดในลีกไปแล้ว 5 เม็ดจาก 12 เกมเป็นตัวจบสกอร์

ฮาโปเอล เบียร์ เชว่า ตัวแทนจากประเทศ อิสราเอล อยู่ในฟอร์มกำลังมั่นใจจากเกมลีกหลังชนะ ฮาโปเอล รานาน่า 3-1 ส่วนความพร้อมในศึก ยูโรป้า ลีก พวกเขาเตรียมจัดชุดที่ดีที่สุดลงบู๊ครบเซ็ต โดยเฉพาะในรายของ โมฮัมเหม็ด กาเดียร์ ตัวรุกวัย 26 ปีเตรียมลงประสานงานร่วมกับ โทมาส เพ็คฮาร์ต หัวหอกร่างโย่งโดยมี แดน ไอน์บินเดอร์ และ จอห์น โอกู เป็นคู่จอมทัพร่วมกันในเกมนี้ ส่วนในรายของ เอลยานิฟ บาร์ด้า หัวหอกกัปตันทีมตัวเก๋ายังคงบาดเจ็บในเวลานี้ตามเดิม

ส่วนทีมเยือน เรอัล โซเซียดัด ของกุนซือ ยูเซบิโอ ซากริสตัน กำลังมีปัญหาเรื่องฟอร์มการเล่นในลีกไม่น้อย ทว่ามาเล่นในรายการนี้ยังจัดว่ามีมาตราฐานเหนือคู่แข่งอยู่ไม่น้อยโดยเฉพาะในเกมนี้ที่จะบุกมาเยือนรองบ่อน วาร์ดาร์ ด้วยสภาพทีมพร้อมรบเต็มสูบและจะได้เห็น คาร์ลอส เวล่า, วิลเลี่ยน โชเซ่ กับ มิเกล โอยาร์ซาบัล เป็นสามประสานในแดนหน้าในระบบ 4-3-3 พร้อมกับวาง ชาบี ปรีเอโต้, อิกอร์ ซูเบลเดีย และ อาเซียร์ อิยาร์ราเมนดี้ คอยคุมเกมแดนกลาง

เรอัล โซเซียดัด (4-3-3) : เกโรนิโม่ รูยี่ - อาริตซ์ อีลูสตอนโด้, ดิเอโก้ ญอเรนเต้, ราอูล นาบาส, เด ลา เบญ่า - ชาบี ปรีเอโต้, อิกอร์ ซูเบลเดีย - อาเซียร์ อิยาร์ราเมนดี้ - คาร์ลอส เวล่า, วิลเลี่ยน โชเซ่, มิเกล โอยาร์ซาบัล

เซโดเมียร์ ยาเนฟสกี้ เทรนเนอร์ทีมตัวแทนจาก มาเซโดเนีย แม้จะเป็นถึงทีมรองจ่าฝูงในลีกทว่าเทียบกับเกรดบอลในเวทียุโรปยังจัดว่าห่างชั้นหลังแพ้รวดมาสองนัดเข้าไปแล้ว ส่วนความพร้อมก่อนลงสนามในนัดนี้ยังดีที่ไม่มีรายงานตัวเจ็บและตัวแบนให้ต้องกังวล ซึ่งแน่นอนว่าจะได้เห็นแกนหลักในแดนหน้าอย่าง ติแกรน บาร์เซกียาน (8 นัด/4 ประตูในลีก)ลงเป็นตัวความหวังในระบบ 4-2-3-1 พร้อมกับวาง จัมบูล จิกาอูรี่, ฮวน เฟลิเป้ อัลเวส กับ เดยาน บลาเซฟสกี้ เป็นสามประสานเกมรุก

วาร์ดาร์ (4-2-3-1) : ฟิลิป กาเชฟสกี้ - ฮอฟฮานเนส ฮัมบาร์ดซุมยาน, โบบัน เกิร์นชารอฟ, ดาร์โก้ เวลโคสกี้, วลาดิก้า เบอร์ดารอฟสกี้ - นิโคล่า กลิกอรอฟ, โบบัน นิโคลอฟ - จัมบูล จิกาอูรี่, ฮวน เฟลิเป้ อัลเวส, เดยาน บลาเซฟสกี้ - ติแกรน บาร์เซกียาน

สว่นทีมรองบ่อนประจำสายอย่าง อพอลลอน ถือว่าสู้ในรายการนี้ได้สมศักดิ์ศรีแม้ดีกรีสโมสรจะเป็นรองทีมอื่นเยอะแต่ก็เสมอมาได้ทั้ง เอฟเวอร์ตัน และ ลียง จาก 2 เกมที่ผ่านมา อย่างไรก็ดีเกมนี้ยิ่งเป็นงานยากทวีคูณเมื่อพวกเขาจะไร้เงา วาล็องแต็ง โรเบิร์จ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟตัวเก่งที่ติดโทษแบนในเกมนี้ ทำให้ โซโฟรนิส อาฟกูสตี้ เฮดโค้ชไม่มีตัวเลือกมากนัก ทำให้ภาระแบกทีมจะตกไอยู่กับ อันตอน มากลิก้า, เอมิเลียโน่ เซลาญ่า และ นิโกลาส มาร์ติเนซ ไปโดยปริยาย

อพอลลอน (4-2-3-1) : บรูโน วาเล่ - เจา เปโดร กูเอร่า, เอ็กตอร์ ยูสเต้, วาอเล็กซ์ ดา ซิลวา, ชานแดร์ - อาเล็ฟ, เอสเตบัน ซาเช็ตติ - อันโตนิโอ ยาโคลิส, นิโกลาส มาร์ติเนซ, เอมิเลียโน่ เซลาญ่า - อันตอน มากลิก้า

จาน ปิเอโร่ กัสเปรินี่ เฮดโค้ช อตาลันต้า เปิดตัวในรายการนี้ได้ไม่ธรรมดาจริงๆ หลังเอาชนะ เอเวอร์ตัน และบุกไปเสมอ ลียง มาได้ในเกมล่าสุดนำจ่าฝูงของกลุ่ม อี ในเวลานี้ ส่วนความพร้อมก่อนลงสนามไม่มีรายงานตัวเจ็บตัวแบนให้ต้องกังวลใจ ซึ่งพวกเขาจะกลับมาใช้งาน อเลฆานโดร โกเมซ กัปตันทีมลงเป็นแกนหลักเช่นเดียวกับ อันเดรียส คอร์เนลิอุส หัวหอกแดนโคนมเตรียมตบเท้ามีชื่อเป็นตัวจริง

อตาลันต้า (3-4-2-1) : เอทริต เบริช่า - อันเดรีย มาซิเอลโล่, มัตเตีย คัลดาร่า, โฮเซ่ ปาโลมิโน่ - ฮันส์ ฮาเตบัวร์, เรโม ฟรูแลร์, ไบรอัน คริสเตียนเต้, เลโอนาร์โด สปินาซโซล่า - ยาสมิน เคอร์ติซ, อเลฆานโดร โกเมซ - อันเดรียส คอร์เนลิอุส

ส่วนตัวแทนจากเช็กอย่าง วิคตอเรีย พัลเซ่น อยู่ในช่วงกำลังมั่นใจหลังซิวชัยรวมทุกรายการมา 6 เกมรวดเข้าไปแล้ว ส่วนสภาพความพร้อมในเกมนี้พวกเขาไม่มีแข้งได้รับบาดเจ็บหรือติดโทษแบนใดๆ ยกเว้นในรายของ ลิมเบอร์สกี้ แนวรับตัวหลักที่ลุ้นเช็คความฟิต ส่วนแกนหลักขาประจำในแดนกลางอย่าง แยน โคปิช, ดาเนียล โกลาร์ และ ดิเอโก้ ชีวูลิช ต่างพร้อมลงปั้นเกมให้ มิคาล เคอร์เมนชิค คอยจบสกอร์ในแดนหน้า

ตัวแทนจากสวิตเซอร์แลนด์อย่าง ลูกาโน่ ยังคงไร้แต้มจากการพ่ายแพ้มา 2 เกมแรก แถมฟอร์มในลีกยังจัดว่าย่ำแย่อีกหลังแพ้รวดมา 4 เกมติด ส่วนความพร้อมในเกมนี้นยาใหญ่ เพียร์ลุยจิ ทามิ ยังคงไร้เงาแข้งเดี้ยงหน้าเก่าอย่าง จาซิโนวิค (กองหลัง)เเละ กิลโดลติ(กองกลาง) ที่เดี้ยงยาวมาก่อนเหน้านี้ แถมหัวหอกตัวหลักอย่าง คาร์ลินญอส(9นัด/1ประตู)ส่อแววพลาดช่วยทีมแดนหน้าในค่ำคืนนี้อีก

ส่วนทีมเยือนของนายใหญ่ คาเร่ อิงเกบริกต์เซ่น กำลังอยู่ในช่วงมั่นใจหลังทำผลงานได้ร้อนแรงในลีกแถมยังมีแต้มขับเคี่ยวกับทั้ง เซนิต และ เรอัล โซเซียดัด ในยามนี้ ส่วนสภาพความพร้อมก่อนเกมดูจะมีปัญหาไม่น้อยเพราะหนึ่งในกองหน้าคนสำคัญอย่าง มาติอัส วิลฮาล์มสัน ที่ซัดในลีกไปถึง 7 จากการลงสนาม 18 นัดยังไม่สามารถสลัดเดี้ยงได้ทันเวลา ทว่ายังดีที่ ซามูเอล อเดงเบนโร่ ดาวยิงเลือดไนจีเรีย สามารถลงทดแทนตำแหน่งได้ไม่มีปัญหาร่วมกับอดีตแข้งดังพรีเมียร์ลีกอย่าง นิคลาส เบนท์เนอร์(24นัด/15ประตูในลีก) รวมถึง มิลาน เยฟโตวิค(22นัด/8ประตูในลีก) จะเป็นตัวชูโรงตามเดิม

กุนซือ โรแบร์โต้ มันชินี่ เตรียมนำ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก กลับมาเล่นในศึก ยูโรป้า ลีก อีกครั้งหลังซิว 3 เต็มจาก 2 นัดแรกในนกลุ่ม L แถมสภาพความพร้อมในเกมนี้จัดว่าพร้อมรบเต็มสูบเพราะจะขาดเพียงแค่ วิคเตอร์ ฟายซูลิน กองกลางจอมเก๋าวัย 31 ปี ที่เดี้ยงยาวอยู่ก่อนหน้านี้เท่านั้น คาดว่าเกมนี้จะได้เห็นเจ้าบ้านมาในระบบ 4-3-3 โดยใช้ อเล็คซานเดอร์ โกโกริน, เซบาสเตียน ดริอูสซี่ กับ อาร์เต็ม ดีซูบ้า เป็นสามประสานแดนหน้าคอยล่าสกอร์ พร้อมกับวาง มาติอัส คราเนวิตเตอร์ จอมทัพที่เคยค้าแข้งกับ เซบีญ่า คอยบันชาเกม

ส่วนทีมเยือน ครูไซโร่ ทีมอันดับ 5 ของตารางเพิ่งจะบุกไปชนะ เกรมิโอ 1-0 ในเกมล่าสุดมาหมาดๆ ซึ่งเกมนี้พวกเขามีปัญหาแข้งบาดเจ็บไม่แพ้กันหลังไร้เงา เดเด้(3นัด)แนวรับ,ฟาบิโอ(24นัด)นายทวารมือหนึ่ง และ อเลฮานโดร แอเรียล คาบราล(13นัด)ปีกซ้ายกำลังสำรอง ส่วนแข้งตัวจริงในเกมนี้น่าจะได้เห็น ราฟาเอล โซบิส (19 นัด / 4 ประตู) กับ ซาสซ่า (15 นัด / 6 ประตู) เป็นทีเด็ดในแดนหน้าค่อนข้างแน่พร้อมกับวาง ธิอาโก้ เนเวส (24 นัด / 7 ประตู), ลูคัส โรเมโร่ (22 นัด / 1 ประตู) ผนึกกำลังในแดนกลาง

ทีมรองบ๋วยอย่าง กอริติบ้า ยังคงอาการย่ำแย่ต่อเนื่องอีกนัดหลังแพ้ไปถึง 4 จาก 5 นัดเข้าไปแล้ว แถมความพร้อมก่อนยังมีปัญหาหนักให้ มาร์เซโล โอลิเวร่า เจ้านายใหญ่ต้องปวดหัวหลังมีแข้งแกนหลักบาดเจ็บอย่าง อเล็คซานโดร(15นัด/1ประตู)แนวรุกขาประจำ และ ไคเบอร์ เฟร์ตัส(11นัด/4ประตู)ปีกซ้ายที่ยังเดี้ยงอยู่ อย่างไรก็ดีแข้งแกนหลักที่เหลือต่างพร้อมลงประจำตำแหน่งได้ไม่มีปัญหาโดยเฉพาะแดนหน้าจะเป็น เฮนริเก้ อัลเมด้า (24 นัด / 6 ประตู) จับคู่กับ ริลโด้ (25 นัด / 5 ประตู)ในระบบ 4-3-1-2 ตามคาด

เซ ริคาร์โด้ เฮดโค้ชของผู้มาเยือนกำลังนำทีมติดลมบนหลังเก็บชัยมา 2 เกมรวด ซึ่งความพร้อมในเกมนี้จะขาดแน่ๆคือกองหน้าคนสำคัญอย่าง หลุยส์ ฟาเบียโน่(11นัด/5ประตู)และ เคลวิน(5นัด)หัวหอกตัวทางเลือกที่ต่างมีปัญหาบาดเจ็บ ทำให้โฉมหน้าแนวรุกจะเหลือแกนหลักเพียงแค่ ว๊ากเนอร์,เนเน่ และ มาธิอัส เพ็ธ เป็นสามประสานแนวรุกในระบบ 4-2-3-1 โดยมี อันเดรียส ริออส เป็นหอกตัวเป้า

เจา เปาโล ซานเชส นายใหญ่ประจำทีมจะหมดสิทธิ์ใช้งาน วิลเลี่ยม อัลเวส(9นัด)แนวรับตัวหลักที่ถูกคาดโทษในเกมนี้ เช่นเดียวกับคีย์แมนสำคัญในแผงหลังอย่าง โรเจอร์ คาร์วัลโญ่(19นัด) และ อีกอร์(19นัด/1ประตู)กองกลางจอมทัพต่างยังมีปัญหาบาดเจ็บด้วยกันทั้งคู่ ส่วนผังตัวรุกแกนหลักจะได้เห็น แอนดริโก้(26นัด/2ประตู),หลุยส์ เฟร์นานโด(24นัด/6ประตู) และ จอร์จินโญ่(26นัด/2ประตู) เป็นสามประสานแนวรุก โดยมี วอลเตอร์(21นัด/5ประตู) เป็นหัวหอกในระบบ 4-2-3-1 ค่อนข้างแน่

จอร์จ เชซุส ผู้จัดการทีม ลิสบอน จำเป็นต้องเช็คความฟิตในรายของ อลัน รูอิซ มิดฟิลด์ตัวรุกวัย 24 ปี ชาวอาร์เจนไตน์ ฟาบิโอ โกเอนเตรา วิงแบ็กซ้ายที่ยืมมาจากเรอัล มาดริด เช่นเดียวกับ เซย์ดู ดูมเบีย แนวรุกตัวหลัก ทำให้โฉมหน้าแบ็กซ้ายจะได้เห็น โจนาธาน ซิลวา ลงเล่นแทน เช่นเดียวกับ มาร์กอส อคุนญ่า จะลงเสียบตำแหน่งแนวรุกโดยมี เกลสัน มาร์ตินส์ และ บรูโน่ แฟร์นานเดส เป็นสามประสานปั้นให้ บาส ดอสท์ ที่จะเป็นทีเด็ดกองหน้าตัวเป้า

สปอร์ติ้ง ลิสบอน (4-2-3-1) : รุย ปาตริซิโอ ; คริสเตียโน่ ปิชชินี่, เซบาสเตียน โกอาเตส, เฌเรมี่ มาติเยอ, โจนาธาน ซิลวา ; วิลเลี่ยม คาร์วัลโญ่, โรดริโก้ บัตตาเกลีย ; เกลสัน มาร์ตินส์, บรูโน่ แฟร์นานเดส, มาร์กอส อคูณญ่า ; บาส ดอสท์

ซิมิเลียโน่ อัลเลกรี กุนซือเลือดมักกะโรนีของ "ไอ้ม้าลาย" เตรียมจัดชุดที่ดีที่สุดลงบู๊ตามคาดแม้จะยังขาดตัวเจ็บหน้าเดิมอย่าง เบเนดิคห์ โฮเวเดส, มัตเตีย เด ชีโญ่,เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ และ มาร์โก้ เปียก้า ที่ยังรอการคัมแบ็กต่อไป ส่วนผังนักเตะเกมนี้จะได้เห็นการปรับหมากมาเล่นในระบบ 4-2-3-1 อีกครั้งพร้อมกับส่ง เปาโล ดีบาล่า ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงโดยมี ดั๊กลาส คอสต้า และ มาริโอ มานด์ซูคิช เป็นสามประสานแนวรุกคอยปั้นให้ กอนซาโล่ ฮิกัวอิน จบสกอร์

ยูเวนตุส (4-2-3-1) : จานลุยจิ บุฟฟ่อน - สเตฟานโน่ สตูรานี่, อันเดรีย บาซาญี่, จอร์โจ้ คิเอลลินี่, อเล็กซ์ ซานโดร - ซามี่ เคดิร่า, แบลส มาตุยดี้ - มาริโอ มานด์ซูคิช, เปาโล ดีบาล่า, ดั๊กลาส คอสต้า - กอนซาโล่ ฮิกัวอิน

ส่วนตัวแทนจากกรีซอย่าง โอลิมเปียกอส เพิ่งจะบุกไปพ่าย ยูเวนตุส 0-2 ในศึก ชปล. เกมล่าสุดและกำลังรั้งบ๋วยของกลุ่มในเวลานี้ ส่วนความพร้อมก่อนเกมนายใหญ่ เบสนิค ฮาซี่ ยังต้องลุ้นเช็คความฟิตของ ยากอส วูโควิค ปราการหลังตัวกลางที่เจ็บยาวมาก่อนหน้านี้เช่นเดียวกับ เบน นาบูฮาน กองหน้าตัวสำรองที่น่าจะมีชื่อเป็นตัวเลือก ส่วนแกนหลักภายในทีมพวกเขายังคงยึดชุดหน้าเดิมๆจากเกมยุโรปนัดที่ผ่านมานำโดย เอ็มมานูเอล เอเมนิเก้ หัวหอกตัวเก่งประจำทีมและ คอนสแตนตินอส ฟอร์ตูนิส เพลย์เมกเกอร์ชาวกรีซคอยปั้นเกมอยู่ด้านหลัง

โอลิมเปียกอส (4-2-3-1) : สเตฟานอส คาปิโน่ - โอมาร์ เอลอับเดลลาอุย, อเล็กซี่ ราเมา, ยอร์น เอ็นเกลส์, ดีโอโก้ ฟิเกราส - วาดิส โอดิดญ่า, ฌิลเล่ต์ - มาร์โก้ มาริน, คอนสแตนตินอส ฟอร์ตูนิส, เมห์ดี้ การ์เซล่า-กอนซาเลซ - เอ็มมานูเอล เอเมนิเก้

เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ เทรนเนอร์ชาวบาสก์ของ "เจ้าบุญทุ่ม" เตรียมเปิดรังรับมือ โอลิมเปียกอส ที่ยังไร้แต้มในกลุ่มนี้ สภาพความพร้อมก่อนเกมจะหมดสิทธิ์ใช้งาน ราฟินญ่า,อาร์ด้า ตูราน และ อุสมาน เดมเบลเล่ ตามคาด ส่วนในรายของ อันเดรียส อีเนียสต้า ที่เจ็บมาจากเกมทีมชาติจะผ่านความฟิตมีชื่อในเกมนี้พร้อมกับปรับผังมาเล่นกลางสามตัวร่วมกับ เปาลินโญ่ และ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ ขณะที่แดนหน้าจะเพิ่มเติมตำแหน่งของ เคราร์ด เดวโลเฟว ร่วมกับคีย์แมนอย่าง ลีโอเนล เมสซี่ และ หลุยส์ ซัวเรซ ไปอีกราย

บาร์เซโลน่า (4-3-3) : มาร์ค อันเดร แทร์ ชเตเก้น ; เซร์กี้ โรเบร์โต้, เคราร์ด ปีเก้, ซามูแอล อุมติตี้, ฆอร์ดี้ อัลบา ; เปาลินโญ่, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, อันเดียส อีเนียสต้า ; ลีโอเนล เมสซี่, หลุยส์ ซัวเรซ, เคราร์ด เดวโลเฟว

ทีมเยือน วอลซอลล์ ยังคงไล่ล่าหาชัยชนะต่อไปหลังไม่ชนะใครมา 5 เกมติด(เสมอ4แพ้1) ซึ่งเกมนี้ จอน สิทนี่ย์ กุนซือประจำทีมยังคงต้องดิ้นรนพาทีมหนีโซนล่างและเตรียมปรับหมากนักเตะโดยการส่ง ไทเลอร์ โรเบิร์ตส์ (9 นัด 3 ประตู) กองหน้าดาวรุ่งลงตัวจริงร่วมกับ 3 ประสานแนวรุกอย่าง เออร์ฮัน ออซตูเมอร์ (13 นัด 4 ประตู), อมาดู บากาโยโก้ (12 ประตู 2 ประตู) และ ดาเนี่ยล อั๊กเย่ (7 นัด 3 ประตู)พร้อมลงสนามตามคาด

เจ้าบ้าน เอ็มเค ดอนส์ อยู่ในช่วงหลุดฟอร์มไปพอสมควรหลังแพ้มา 2 เกมติดแถมโดนถลุงประตู 6 เม็ดเข้าไปแล้ว ซึ่งเกมนี้พวกเขายังคงไร้เงา คัลลั่ม บริทเทียน (7 นัด 1 ประตู)กองหลังตัวหลักที่ยังบาดเจ็บ ซึ่งถือเป็นแข้งดาวรุ่งที่ถูกจับตามองจากสองทีมใหญ่จากลีกสูงสุดอย่าง เชลซี และ สเปอร์ส อีกด้วย แต่ถึงกระนั้นยังพอมีข่าวดีขึ้นมาบ้างเมื่อ อารอน ทชิบอล่า (11 นัด) กองกลางคนสำคัญพ้นโทษแบนกลับมา