วิเคราะห์บอล / วิเคราะห์บอลวันนี้

ส่วนทีมเยือน เอสปันญ่อล ของ กีเก้ ซานเชซ ฟลอเรส เพิ่งจะคัมแบ็กคว้าชัยเป็นเกมแรกของซีซั่นหลังเปิดบ้านชนะ เซลต้า บีโก้ 2-1 ความพร้อมในเกมนี้พวกเขาเริ่มได้ตัวเจ็บทยอยกลับมาเป็นตัวเลือกซึ่งจะเหลือเพียงสองแนวรับอย่าง ออสการ์ ดูอาร์เต้(-) กับ ฆาบี โลเปซ (2 นัด)เท่านั้นที่ยังบาดเจ็บ ซึ่งเกมนี้พวกเขาเตรียมปรับแท็คติกมาเล่นหน้าคู่อีกครั้งโดยการส่ง เซร์คิโอ การ์เซีย ลงมาจับคู่กับ เคราร์ด โมเรโน่ ทำให้ โฮเซ่ มานูเอล ฮูราโด้ แนวรุกตัวเก๋าจะได้พักในเกมนี้

เอสปันญ่อล (4-4-2) : เปา โลเปซ : บิคตอร์ ซานเชซ, ดาบิด โลเปซ,มาริโอ เฮร์โมโซ่, อารอน มาร์ติน ; เซร์จี้ ดาเดร์, ฆาบี ฟูเอโก้,เลโอ บัปติสเตา, ปาโบล ปิอัตติ ; เคราร์ด โมเรโน่, เลโอ บาปติสเตา

ฟราน เอสกริบา นายใหญ่ "เรือดำน้ำสีเหลือง" ยังไม่สามารถปรับเปลี่ยนนักเตะได้มากนักจากปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บนับ 4 รายก่อนหน้านี้ คาดว่าเกมนี้พวกเขายังคงยึดแกนหลักจากเกมชนะ อลาเบส 3-0 นำโดย มาริอาโน่ บาร์โบซ่า นายทวารมือสามที่ต้องลงเฝ้าเสาแทนที่ของ เซร์คิโอ อาเซนโฆ(-) กับ อันเดรียส เฟร์นานเดซ (2 นัด)ที่เดี้ยงพร้อมกันทั้ง 2 รายต่อไป ส่วนแดนกลางยังคงวาง มานู ตริกูเอรอส กับ โรดรี้ เป็นตัวชูโรง พร้อมกับใช้ เซดริก บากัมบู และ การ์ลอส บักก้า เป็นคู่หัวหอกตามคาด

บียาร์เรอัล (4-4-2) : มาริอาโน่ บาร์โบซ่า ; มาริโอ กัสปาร์, อัลบาโร่ กอนซาเลซ, บิคตอร์ รุยซ์, ฆัวเม่ คอสต้า ; ปาโบล ฟอร์นัลส์, มานู ตริกูเอรอส, โรดรี้, ซามู กัสติเญโฆ่ ; เซดริก บากัมบู, การ์ลอส บักก้า

ส่วนทีมเยือน เกตาเฟ่ น้องใหม่จากเซกุนด้า เริ่มยกระดับฟอร์มขึ้นมาเล็กน้อยแม้เกมล่าสุดจะพ่าย บาร์เซโลน่า แต่ก็พ่ายชนิดเฉียดฉิวด้วยสกอร์ 1-2 ส่วนความพร้อมก่อนเกมยังคงไม่มี คาริม โยดา, ดาเนี่ยล ปาเชโก้ รวมไปถึง เกกุ ชิบาซากิ แนวรุกชาวญี่ปุ่นที่เดี้ยงมาจากเกมล่าสุดทำให้ อัลวาโร่ ฆิเมเนซ จะถูกส่งลงมาเล่นแทนโดยมี ฟายกัล ฟายร์, และ อาห์เหม็ด เอ็นเดียเย่ คอยประสานงานร่วมกัน ขณะที่แดนหน้ายังคงไว้ใจ ฆอร์เก้ โมลิน่า ทำหน้าที่ตามเดิม

เกตาเฟ่ (4-2-3-1) : บิเซนเต้ กูไอต้า ; ดาเมี่ยน ซัวเรซ, ดิเยเน่ ดาโกนัม, ฆวน กาล่า, วิคตอเรียโน่ อันตูเนส ; มาร์เกล เบร์การ่า, เมาโร อารัมบาร์รี่ ; ฟายกัล ฟายร์, อัลวาโร่ ฆิเมเนซ, อาห์เหม็ด เอ็นเดียเย่ ; ฆอร์เก้ โมลิน่า

ฆวน การ์ลอส อุนซวย กุนซือ เซลต้า ยังคงยึดแข้งแกนหลักจากเกมบุกพ่าย เอสปันญ่อล 1-2 โดยเกมนี้พวกเขายังไม่มีชื่อ จอห์น กีเด็ตติ หัวหอกตัวเก่งที่ยังบาดเจ็บทำให้แข้งสามประสานแดนหน้าพวกเขายังใช้ชุดเดิมอย่าง ยาโก้ อาสปาส, มักซี่ โกเมซ, ปิโอเน่ ซิสโต้ ส่วนแดนกลางจะทำการเปลี่ยนตัวหนึ่งตำแหน่งโดยจะส่ง ปาโบล เอร์นานเดซ ลงตัวจริงแทน โฆซาเบด ซานเชซ

เซลต้า บีโก้ (4-3-3) : เซร์คิโอ อัลบาเรซ ; อูโก้ มาโย่, กุสตาโบ กาบราล, อันเดรว ฟุนตัส, จอนนี่ อ๊อตโต้ ; ดาเนี่ยล วาส, สตานิสลาฟ ราบอตก้า, ปาโบล เอร์นานเดซ ; ยาโก้ อาสปาส, มักซี่ โกเมซ, ปิโอเน่ ซิสโต้

ส่วนทีมเยือน เรอัล โซเซียดัด ของกุนซือ ยูเซบิโอ ซากริสตัน แม้จะพ่าย เรอัล มาดริด 1-3 คาถิ่น แต่ก็ถือว่าเป็นไปตามคาดยามเจอทีมระดับท็อปประจำลีก เพราะยามเจอทีมระดับเดียวกันหรือต่ำกว่าพวกเขาเช็คบิลคว้าชัยมาเรียบในซีซั่นนี้ ส่วนความพร้อมก่อนลงสนามจะไร้เงาเพียงแค่ ราอูล นาบาส (2 นัด)กับ การ์ลอส มาร์ติเนซ ตามคาด ส่วนผังแนวรุกจะทำการดร็อป กานาเลส เพื่อส่ง ฆวนมี่ ลงไปเป็นสามประสานร่วมกับ อัดยาน ยานาไซ และ วิลเลี่ยน โชเซ่ ขณะที่แนวรับยังต้องลุ้นความฟิตของ อินญิโก้ มาร์ติเนซ ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่ ดีเอโก้ ยอเรนเต้ จะได้ทำหน้าที่ต่อไปร่วมกับ กอนซาโล่ เอลัสตอนโด้

เรอัล โซเซียดัด (4-3-3) : เกโรนิโม่ รูยี่ ; อัลบาโร่ โอดริโอโซล่า, กอนซาโล่ เอลัสตอนโด้, ดีเอโก้ ยอเรนเต้, เควิน โรดริเกซ ; ชาบี ปรีเอโต้, อาเซียร์ อิยาร์ราเมนดี้, ดาบิด ซูรูตูซ่า ; อัดยาน ยานาไซ, วิลเลี่ยน โชเซ่, ฆวนมี่

ฆวน ราม่อน มูนญิซ กุนซือเลบานเต้ ออกตัวในลา ลีกา ได้ดีเกินคาดหลังยังไม่แพ้ใครมา 4 เกมติด โดยเกมล่าสุดเพิ่งจะเปิดรังเจ๊า บาเลนเซีย 1-1 ส่วนความพร้อมก่อนลงสนามกุนซือใหญ่ มูนญิซ เตรียมจับ โฆเซ่ หลุยส์ โมราเลส ที่พ้นโทษแบนออกสตาร์ทริมเส้นฝั่งซ้ายทันทีพร้อมกับดัน อีวี่ ที่ผลงานดีต่อเนื่องขึ้นไปเล่นหน้าเป้า ส่งผลให้ อเล็กซานเดอร์ อเลเกรีย ต้องหลุดสำรองไปโดยปริยาย ส่วนปัญหาเรื่องตัวผู้เล่นบาดเจ็บพวกเขาจะไม่มีชื่อ เจฟเฟอร์สัน เลอร์มา กองกลางโคลัมเบียที่เดี้ยงเพิ่มเติมต่อจาก โรเกร์ มาตรี้ และ อิบัน โลเปซ ที่เดี้ยงอยู่ก่อนแล้ว

เลบานเต้ (4-2-3-1) : ราอูล เฟร์นานเดซ ; เปโดร โลเปซ, เชม่า โรดริเกซ, เซร์คิโอ ปอสติโก, โตนโญ่ ; กัมปานญ่า,โรเบิร์ต ปีแอร์; เฆซอน โมราเลส, เอนิส บาร์ดี้, อีวี่ ; อเล็กซานเดอร์ อเลเกรีย

ส่วนทีมเยือน นาโปลี ของกำลังแรงไม่แพ้กันเพราะนอกจากจะคว้าชัยเกมลีกมา 4 แมตช์รวดแล้ว นัดล่าสุดเพิ่งยำใหญ่ เบเนเวนโต้ มาถึง 6-0 ส่วนสภาพความพร้อมของกุนซือ เมาริซิโอ ซาร์รี่ ไม่มีปัญหาตัวเจ็บตัวแบนให้ต้องกังวลและพร้อมยกชุดตัวเก่งจากเกมล่าสุดลงครบเซ็ตนำโดย ดรีส เมอร์เท่นส์ โฆเซ่ กาเยฆอน และ ลอเรนโซ่ อินซิเญ่ โดยมี มาเร็ค ฮัมซิค เป็นจอมทัพสำคัญในแผงแดนกลาง

นาโปลี (4-3-3) : เปเป้ เรน่า - คริสเตียน มาจโจ้, ราอูล อัลบิโอล, คาลิดู คูลิบาลี่, ฟาอูซี่ กูลาม - อัลลัน, จอร์จินโญ่, มาเร็ค ฮัมซิค - โฆเซ่ กาเยฆอน, ดรีส เมอร์เท่นส์, ลอเรนโซ่ อินซิเญ่

"อินทรีฟ้า-ขาว" ลาซิโอ ยังคงรักษามาตราฐานฟอร์มการเล่นได้อย่างต่อเนื่องหลังโกยชัยมา 4 เกมรวดเข้าไปแล้วรวมทุกรายการ ส่วนความพร้อมในเกมนี้ ซิโมเน่ อินซากี้ นายใหญ่ประจำทีมเตรียมขนชุดที่ดีที่สุดลงบู๊ยกเว้นในรายของ วัลเลซ (3 นัด),เฟลิเป้ อันแดร์สัน(-) และ นานี่(-)ที่ยังไม่พร้อมลงสนามจากอาการบาดเจ็บ ส่วนตัวทีเด็ดหลักอย่าง สเตฟาน ราดู, ดูซาน บาสต้าและหัวหอกตัวเก่ง ชิโร่ อิมโมบิเล่ ต่างพร้อมเป็นตัวยืนตามคาด

ลาซิโอ (3-4-2-1) : โธมัส สตราโคช่า - บาสโต๊ส, สเตฟาน เด ฟราย, สเตฟาน ราดู - ดูซาน บาสต้า, อเลสซานโดร มูร์จา, ลูคัส เลว่า, เซนาด ลูลิช - หลุยส์ อัลแบร์โต้, มิลินโกวิช ซาวิช - ชิโร่ อิมโมบิเล่

ส่วนทีมเยือน เรอัล เบติส เพิ่งจะเรียกความมั่นใจหลังเปิดรังชนะ ลา กอรุนญ่า 2-1 ส่วนความพร้อมในเกมนี้พวกเขายังไร้เงา อลิน ตอสก้า (1 นัด)และ โจเอล แคมป์เบล (-)ที่ยังมีปัญหาอาการบาดเจ็บ อย่างไรก็ดีนายใหญ่ กีเก้ เซเตียน เตรียมปรับทัพหลายตำแหน่งเพื่อรับมือกับ เรอัล มาดริด โดยเฉพาะ ซึ่งจะเป้นคิวของ อันโตนิโอ ซานาเบรีย กับ มาเทียส นาฮูเอล ลงมาแทน เซร์คิโอ เลออน กับ คริสเตียน เตโย่ ส่วนผังแนวรับพวกเขาเตรียมส่ง ราฟา นาวาร์โร่ แบ็กขวาวัยหนุ่มขึ้นเกมทางฝั่งขวาแทนที่ตัวเก๋าอย่าง อันโตนิโอ บาร์รากัน

เรอัล เบติส (4-3-3) : อันโตนิโอ อัดญัณ ; ราฟา นาวาร์โร่, ซูแฮร์ เฟดดัล, อิสซ่า ม็องดี้, ริซ่า ดูร์มิซี่ ; บิคตอร์ กามาราซ่า, ฆาบี การ์เซีย, อันเดรส กัวร์ดาโด้ ; ฆัวกิน, มาเทียส นาฮูเอล, อันโตนิโอ ซานาเบรีย

ซีเนดีน ซีดาน เทรนเนอร์ ''ราชันชุดขาว'' หวังใช้เกมนี้ระบายความอัดอั้นหลังเจอมรสุมตัวเจ็บตัวแบนมาโดยตลอดช่วงออกสตาร์ทฤดูกาลนี้ แถมยังจะเสีย เตโอ เอร์นานเดซ ที่บาดเจ็บเพิ่มเติมเข้ามาต่อจาก มาเตโอ โควาซิช และ คาริม เบนเซม่า ที่เจ็บไปแล้วก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดีพวกเขาจะได้ตัว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สตาร์หมายเลขหนึ่งและ มาร์เชโล่ แบ็กซ้ายตัวหลักกลับเข้าผัง 11 ตัวจริงอีกครั้งหลังพ้นโทษแบนกลับมา

เรอัล มาดริด (4-3-3) : เกย์ลอร์ นาวาส ; ดาเนียล การ์บาฆาล, นาโช่, เซร์คิโอ รามอส, มาร์เชโล่ ; กาเซมิโร่, ลูก้า โมดริช, อิสโก้ ; แกเร็ธ เบล,บอร์ฆา มาโยรัล,คริสเตียโน่ โรนัลโด้

ทีมเยือน กิโรน่า ต่างฟอร์มย่ำแย่ไม่แพ้กันจากการพ่ายมา 2 นัด แต่ยังถือว่าพอเข้าใจได้จากการต้องดวล เซบีญ่า และ บิลเบา มาติดๆกัน ซึ่งเกมนี้นายใหญ่ ปาโบล มาชิน เตรียมปรับทัพจากเกมล่าสุดไม่มากนักโดยการส่ง ปาโบล มาฟเฟโอ เติมความสดในตำแหน่งวิงแบ็คหลังได้พักมาเต็มที่ เช่นเดียวกับ โยอัน โมยิก้า ที่น่าจะได้สตาร์ทตัวจริงบ้างหลังทำผลงานได้เข้าตา ส่วนแนวรุกเตรียมวาง คริสเตียน สตูอานี่, ปอร์ตู และ ซาอูล การ์เซีย ตามคาด

กิโรน่า (3-4-3) : กอร์ก้า อิไรซอซ ; เบร์นาร์โด้ เอสปิโนซ่า, เปโดร อากาล่า, มาร์ก มูนีซ่า ; ปาโบล มาฟเฟโอ, อเล็กซ์ กราเนย์, เปเร่ ปอนส์, โยอัน โมยิก้า ; ปอร์ตู, คริสเตียน สตูอานี่, ซาอูล การ์เซีย

อาเซียร์ การีตาโน่ นายใหญ่ เลกาเนส ยังมีการบ้านให้ต้องแก้อีกเยอะหลังนำทีมพ่ายมา 2 เกมติดเข้าไปแล้ว อย่างไรก็ดีขุมกำลังหลักในแนวรุกต่างฟิตสมบูรณ์ครบน่าจะทำให้พวกเขาจัดชุดที่ดีที่สุดลงบู๊ได้ไร้ปัญหาไม่ว่าจะเป็น เตลาดิโอ บัววิว ที่จะถูกวางเป็นหัวหอกตัวเป้าโดยมี นาบิล เอล ซาร์, กาเบรียล ปีเรส และ อเล็กซานเดอร์ ซีมานอฟสกี้ เป็นตัวรุกตัวสนับสนุน อย่างไรก็ดีแนวรับอาจต้องลุ้นว่า เอเซเกว มูนอซ จะฟิตทันลงเล่นตัวจริงหรือไม่

เลกาเนส (4-2-3-1) : อิวาน กูเอร์ย่า ; โฆเซบา ซัลดูอา, ดิมิตริออส ซิโอวาส, มาร์ติน มอนโตวานี่, ดีเอโก้ ริโก้ ; รูเบน เปเรซ, ฆาเบียร์ เอราโซ่ ; นาบิล เอล ซาร์, กาเบรียล ปีเรส, อเล็กซานเดอร์ ซีมานอฟสกี้ ; เตลาดิโอ บัววิว

ส่วนนายใหญ่ ลุยส์ ซูเบลเดีย ยังต้องลุ้นเช็คความฟิตของ โบยาน ว่าจะฟิตทันเกมนี้หรือไม่ ทำให้เกมนี้พวกเขาเตรียมปรับแท็คติกมาใช้ระบบมาเล่นหน้าเป้าตัวเดียวโดยมี มูนีร์ เอลฮัดดาดี้ เป็นหอกตัวเป้าพร้อมกับส่ง ออสก้า โรเมโร่ ลงมาปั้นเกมแดนกลาง สว่นแนวรับพวกเขาเตรียมวาง กีเยร์โม่ มารีปาน ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงร่วมกับ โรดริโก้ อีลี่ ทำให้ อเล็กซิส รูอาโน่ ต้องหลุดเป็นตัวสำรองไปโดยปริยาย

อลาเบส (4-2-3-1) : เฟร์นานโด ปาเชโก้ ; คาร์ลอส บิการาย, โรดริโก้ อีลี่, กีเยร์โม่ มารีปาน, อัลฟองโซ่ เปดราซ่า ; โทมัส ปิน่า, อัลบาโร่ เมดราน, อิเบีย โกเมซ, บูร์กุย , ออสการ์ โรเมโร่ ; มูนีร์ เอลฮัดดาดี้

เปเป้ เมล เฮดโค้ชใหญ่ยังคงไม่มี การ์เลส กิล กองกลางที่มีปัญหาบาดเจ็บรวมถึงนายทวารอย่าง รูเบน มาร์ติเนซ(2 นัด) และ เปโดร มอนเกวร่า(3นัด)กลางตัวรับที่บาดเจ็บเข้ามาเป็นรายล่าสุด ส่วนแท็คติกในเกมนี้ เปเป้ เมล เตรียมปรับแท็คติกมาใช้ระบบ 4-4-2 โดยมี ฟลอริน อันโดโน่ กับ อาเดรียน โลเปซ เป็นคู่หูในแดนหน้า โดยมี กีเยร์เม่ ซานโต๊ส กับ เซลโซ บอร์เกส เป็นคู่จอมทัพ

ลา กอรุนญ่า (4-4-2) : คอสเทล ปันติลิม่อน ; ฆวนฟราน, ฟาเบียน ชาร์, ซิดเน่, ลูซินโญ่ ;บรูโร่ กาม่า, กีเยร์เม่ ซานโต๊ส,เซลโซ บอร์เกส, เฟเด การ์ตาเบีย , ฟลอริน อันโดโน่, อาเดรียน โลเปซ

ทีมเยือน ลาส พัลมาส ของกุนซือ มาโนโล่ มาร์เกซ อยู่ในช่วงน้ำขึ้นให้รีบตักหลังโกยชัยต่อเนื่อง 2 นัดติด อย่างไรก็ดีเกมนี้จะไม่มี อเลน ฮาลิโฮวิช, ทาน่า และ เซร์กี ซามเปร์ ที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บ ส่วนแท็คติกในเกมนี้ มาโนโล่ มาร์เกซ เตรียมเปลี่ยนมาใช้แผน 4-3-3 หลังจากเน้นเกมรับ 4-1-4-1 จากเกมชนะ บิลเบา 1-0 ซึ่งสามประสานในเกมนี้จะเป็น อุสซามา ทันนาเน่,โฆนาธาน กาเยรี่ และ บิโตโล่ เป็นสามประสานแนวรุก

ลาส พัลมาส (4-3-3) : เลียนโดร ชิชิโซล่า ; มิเชล มาเกโด้, เมาริซิโอ เลมอส,ซิโม่ นาบาร์โร่ , ดานี่ กาสเตยาโน่ ; โฆนาธาน บีเอร่า, เฮร์นาน ซานตาน่า, อัลเบร์โต้ อคิลานี่ ; อุสซามา ทันนาเน่, โฆนาธาน กาเยรี่, บิโตโล่

เซบีญ่า ของกุนซือ เอดูอาร์โด้ เบริซโซ่ เพิ่งพาทีมบุกไปชนะ กิโรน่า 1-0 ส่วนสภาพความพร้อมก่อนลงสนามพวกเขายังคงหมดสิทธิ์ใช้งาน โนลิโต้ (3 นัด 1 ประตู)กองหน้าที่ยังมีปัญหาบาดเจ็บส่วนผู้เล่นแกนหลักจากเกมที่แล้วยังพร้อมคืนสนามยกเว้นในรายของ หลุยส์ มูเรียล กับ ปาโบล ซาราเบีย ที่น่าจะหลุดเป็นตัวสำรองเพื่อหลีกทางให้ เฆซุส นาบาส และ วิสซาม เบน เยดเดอร์ ที่ได้พักเมื่อสุดสัปดาห์มีชื่อตัวจริงในเกมนี้ เช่นเดียวกับแผงแนวรับที่เตรียมกลับมาชุดเดิมอย่าง กาเบรียล เมร์กาโด้, ไซม่อน เคียร์, นิโกลัส ปาเรฆ่า และ เซร์กิโอ เอสกูเดโร่

เซบีญ่า (4-3-3) : เซร์กิโอ ริโก้ ; กาเบรียล เมร์กาโด้, ไซม่อน เคียร์, นิโกลัส ปาเรฆ่า, เซร์กิโอ เอสกูเดโร่ ; เอแวร์ บาเนก้า, สเตเว่น เอ็นซองซี่่, ฟรังโก้ วาซเกซ ; ฆัวกิน กอร์เรอา,เฆซุส นาบาส,วิสซาม เบน เยดเดอร์

ส่วน "ตราหมี" ของกุนซือ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ ยังคงฟอร์มฝืดต่อเนื่องจากเอาชนะ มาลาก้า มาแบบเฉียดฉิว1-0 ทั้งที่เล่นในบ้าน ส่วนความพร้อมก่อนลงสนามพวกเขายังคงหมดสิทธิ์ใช้งาน เอากุสโต้ เฟร์นานเดซ กองกลางที่ยังบาดเจ็บ ทว่ายังมีได้ตัว ซีม เวอร์ซัลจ์โก้ (3 นัด)ที่น่าจะผ่านความฟิตมีชื่อในเกมนี้ ส่วนแผนโลเตชั่นในเกมนี้พวกเขาเตรียมส่ง ยานนิค การ์ราสโก้ ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงริมเส้นแทน ซาอูล ญีเกซ ที่จะถูกหุบเข้าไปข้างในแทน กาบี้ ที่จะหลุดเป็นตัวสำรองไปก่อน

แอตฯมาดริด (4-4-2) : ยาน โอบลัค ; ฆวนฟราน, ดีเอโก้ โกดิน, สเตฟาน ซาวิช, ฟิลิเป้ ลุยส์ ; โกเก้, โธมัส ปาร์ตีย์, ซาอูล ญีเกซ, ยานนิค การ์ราสโก้ ; อองตวน กรีซมันน์, อังเคล คอร์เรอา

โฆเซ่ ซิกานด้า เฮดโค้ช แอธเลติก บิลเบา เตรียมกลับมาใช้นักเตะแกนหลักบางตำแหน่งหลังได้พักจากเกมบุกไปพ่าย ลาส พัลมาส 0-1 เมื่อสุดสัปดาห์ ซึ่งในเกมนี้จะเป็นคิวของ อาริตซ์ อาดูริซ หัวหอกตัวชูโรงที่ได้พักจากเกมสุดสัปดาห์ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงพร้อมกับถอย อินญากี้ วิลเลี่ยมส์ เป็นตัวขึ้นเกมร่วมรุกร่วมกับ ราอูล การ์เซีย และ อิเกร์ มูเนียอิน พร้อมกับใช้ มาร์เกล ซูซาเอต้า คุมแดนกลางร่วมกับ มิเกล ซาน โฮเซ่ ที่จะลงมาเสียบตำแหน่งของ มิเกล เบสก้า

แอธฯบิลเบา (4-2-3-1) : เกป้า ; ออสการ์ เด มาร์กอส, อายเมริค ลาปอร์เต้, ซาเบียร์ เอตเซต้า,มิเกล บาเลนเซียก้า ; มิเกล ซาน โฮเซ่,เบนญัต เอ็ตเชบาร์เรีย, ราอูล การ์เซีย, อิเกร์ มูเนียอิน, อินญากี้ วิลเลี่ยมส์ ; อาริตซ์ อาดูริซ

ส่วนทีมเยือน สวอนซี ตัวแทนจากพรีเมียร์ลีกเพิ่งโชว์ทีเด็ดแชร์แต้ม "ไก่เดือยทอง" มาหมาดๆ และทาง พอล คลีเม้นท์ นายใหญ่ประจำทีมไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงผู้เล่นจากเกมที่แล้วมากนัก ยกเว้นแค่ วิลเฟร็ด โบนี่ ที่น่าจะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงร่วมกับ อังเกล แรนเกล, เลลอย เฟอร์, โรเก้ เมซ่า รวมไปถึง เรนาโต้ ซานเชส แข้งตัวยืมจากเมืองเบียร์จะมีชื่อออกสตาร์ทเช่นกัน

สวอนซี (3-5-2) : คริสตอฟเฟอร์ นอร์ดฟิลท์ - ไมค์ ฟาน เดอร์ ฮูร์น, เฟเดริโก้ เฟอร์นานเดซ, อัลฟี่ มอว์สัน - อังเกล แรนเกล, เลลอย เฟอร์, โรเก้ เมซ่า, แซม คลูคัส, เรนาโต้ ซานเชส - ทามาราเอบี้ อับราฮัม, วิลเฟร็ด โบนี่

ตัวแทนจาก เดอะ แชมเปี้ยนชิพของกุนซือ ยาป สตัม โชคไม่ดีนักที่ต้องมาเสีย โมดู บาร์โรว์ หัวหอกตัวเก่งที่ดันมามีปัญหาที่หัวเข่าจนพลาดเจอทีมเก่าเกมนี้ อย่างไรก็ดีผู้เล่นแกนหลักที่เหลือต่างพร้อมลงประจำตำแหน่งโดยเฉพาะ จอน บูวาร์สสัน และ เลียม เคลลี่ แถมยังจะได้ จอน สวิฟต์ กองกลางดาวรุ่งสลัดเดี้ยงมีชื่อติดทีมในเกมนี้

เร้ดดิ้ง (4-2-3-1) : วิตอร์ มานโนเน่ - พอล แม็คเชน, คริส กุนเธอร์, เลียม มัวร์, ไทเลอร์ แบล็คเก็ต - โซเน่ อลูโก้, ดาวิด เอ็ดเวิร์ด - จอน สวิฟต์, เลียม เคลลี่, แกเร็ธ แม็คเคลียรี่ - จอน บูวาร์สสัน

ส่วนน้องใหม่ ไบรท์ตัน ก็เตรียมปรับทัพหลายตำแหน่งเช่นกัน เนื่องจากพวกเขาจะเป้นต้องรักษาความสดเพื่อเน้นอยู่รอดปลอดภัยในลีก ซึ่งในเกมนี้กุนซือ คริส ฮิวจ์ตัน เตรียมเปิดโอกาสให้แข้งตัวใหม่อย่าง โฆเซ่ อิซเกียร์โด้ ปีกโคลัมเบียและ เอเซเกวล สเคล็อตโต้ แนวรับมีชื่อเป็นตัวจริงร่วมกับแข้งดาวรุ่งอย่าง เจย์สัน โมลุมบี้ และ เดสซี่ย์ ฮัทชินสัน ลงคุมแดนกลาง

ไบรท์ตัน (4-4-1-1) : แม็ทธิว ไรอัน - เลียม โรซีเนียร์, เอเซเกวล สเคล็อตโต้, ลูอิส ดังค์, มาร์คุส ซุตต์เนอร์ - โฆเซ่ อิซเกียร์โด้, เจย์สัน โมลุมบี้, เดสซี่ย์ ฮัทชินสัน, ซอลลี่ มาร์ช - เกล็น เมอร์เร่ย์ - โตเมอร์ เฮเหม็ด

เจ้าบ้าน บอร์นมัธ ของกุนซือ เอ็ดดี้ ฮาว เตรียมเปิดบ้านเจอ ไบรจ์ตัน อีกครั้งหลังเพิ่งเปิดรังเฉือนชนะมาหมาดๆด้วยสกอร์ 2-1 ก่อนทั้งคู่จะโคจรมาพบกันในรายการ คาราบาว คัพ กลางสัปดาห์นี้ ส่วนแท็คติกของกุนซือหนุ่ม เอ็ดดี้ ฮาว เตรียมโรเตชั่นกันหยกใหญ่เพื่อเก็บตัวหลักไว้สู้เกมลีก ซึ่งจะเป็นคิวของ จอร์ดอน ไอบ์ ที่จะได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงร่วมกับ เจอร์เมน เดโฟ, ไรอัน เฟรเซอร์ และ โจชัว คิง ส่วนในรายของ จูเนียร์ สตานิสลาส ที่เพิ่งกลับมาซ้อมได้นั้นยังต้องลุ้นว่าผ่านความฟิตทันเวลาหรือไม่

บอร์นมัธ (4-4-1-1) : อัสเมียร์ เบโกวิช - สตีฟ คุ้ก, เนธาน อาเก้, ไทรอน มิงก์ส - อดัม สมิธ, ไรอัน เฟรเซอร์, แอนดรูว์ เซอร์แมน, แฮร์รี่ อาร์เตอร์, จอร์ดอน ไอบ์, โจชัว คิง - เจอร์เมน เดโฟ

ส่วนทีมเยือนจาก เดอะ แชมเปี้ยนชิพอย่าง โบลตัน ผลงานเละเทะเหลือเกินหลังแพ้รวดมา 4 เกมติดจมบ๋วยอยู่ในเวลานี้ คาดว่า ฟิล พาร์กินสัน คงไม่จำเป้นต้องมาเน้นมาอะไรในรายการนี้ให้มากนัก และจะได้เห็นผู้เล่นชุดผสมลงสนามพร้อมกับวางผังแนวรับถึง 5 คนและทิ้ง อารอน วิลบราฮัม ไว้เป็นหน้าเป้าเพียงรายเดียวเท่านั้น

โบลตัน (5-4-1) : เบน อัลวิค - เดวิด เวียเธอร์, มาร์ค ลิตเติ้ล, มาร์ค บีเวอร์, รีซ บรู๊กส์, แอนโทนี่ โรบินสัน - อดัม เลอ ฟอนเดร, เย็ม การาแคน, เคร็ก นูเน่, จอร์ช คัลเล่น, อดัม อาร์มสตรอง - อารอน วิลบราฮัม

เจ้าบ้าน เวสต์แฮม เริ่มยกระดับฟอร์มการเล่นขึ้นมาได้ทีละนิดหลังเก็บแต้มไปได้ 4 แต้มจาก 2 เกมหลังสุด โดยเกมนี้นายใหญ่ สลาเวน บิลิช จะได้ตัว มาร์ค โนเบิ้ล กองกลางกัปตันทีมสลัดเดี้ยงออกสตาร์ทตัวจริงในเกมนี้หลังมีอาการบาดเจ็บที่เข่าเช่นเดียวกับ มาร์โก อาร์เนาโตวิช แนวรุกคนเก่งเตรียมพ้นโทษแบนลงมาเปลี่ยนผลัดออกสตาร์ทเพื่อเติมความสดให้กับทีมเช่นเดียวกับเหล่าแข้งดาวรุ่งอย่าง ดีแคลน รีซ, โดมินโก้ ควีน่า และ เซอัด ฮัคซาบาโนวิช ที่เตรียมตบเท้าออกสตาร์ทตัวจริงทั้งหมด

เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (3-4-3) : อาเรียน - โชเซ่ ฟอนเต้, อันเจโล่ อ็อกบอนน่า, อาร์เธอร์ มาซัวคู - ซามูเอล บีรัม, มาร์ค โนเบิ้ล, อารอน เครสส์เวลล์, ดีแคลน รีซ - เอดิมิลสัน แฟร์น็องเดส, เดียฟรา ซาโก้, ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ

ส่วนทีมเยือน ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ ของกุนซือเลือดเยอรมัน ดาวิด แว๊กเนอร์ เตรียมปรับเพื่อให้โอกาสแข้งสำรองลงบู๊อยู่หลายตำแหน่งหลังเพิ่งจัดชุดเต็มเสมอ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-1 ในเกมลีกนัดล่าสุด ซึ่งเกมนี้จะได้เห็น โจนาธาน ฮอกก์ มีชื่อติดทีมในเกมนี้เป็นครั้งแรกชตั้งแต่เลื่อนชั้นขึ้นมา หลังมีปัญหาเจ็บที่ข้อเท้า ส่วน เคซี่ย์ พัลเมอร์ (3 นัด)จะไม่มีส่วนร่วมใดๆกับเพื่อนร่วมทีมหลังเจ็บที่น่องในช่วงฝึกซ้อมเช่นเดียวกับสองแนวรุก สตีฟ เมวี(4นัด/2ประตู)ที่ยังต้องพักฟื้นอาการข้อเท้ากับ เคซี พาล์มเมอร์(3นัด)ที่มีปัญาที่เอ็นร้อยหวาย

ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ (4-2-3-1) : โยนาส ลอสเซิ่ล - โธมัส สมิธ, มาธิอัส ยอร์เกนเซ่น, คริสโตเฟอร์ ชินด์เลอร์, คริส เลิฟ - อารอน มัว, ดาเนี่ยล วิลเลี่ยมส์ - เอเลียส คาชุงก้า, โธมัส อินซ์, ซาบิรี่ - โลร็องต์ เดอปัวตร์

เทรนเนอร์ป้ายแดงอย่าง รอย ฮ็อดจ์สัน ยังคงไม่สามารถช่วย พาเลซ ฟื้นอาการโคม่าหลังเพิ่งพาทีมพ่าย เซาท์แฮมป์ตัน คาบ้านประเดิมการคุมข้างสนามจมบ๋วยอยู่เวลานี้ อย่างไรก็ดีเกมนี้ "ปู่รอย" เตรียมปรับทัพเพื่อให้โอกาสแข้งสำรองเกือบยกแผงในเกมลีกคัพ แถมยังจะได้ทั้ง มามาดู ซาโก้ และ ป๊าป ซัวอาเร่ สองแนวรับที่เพิ่งสลัดเดี้ยงมีชื่อเป็นตัวจริงครั้งแรกของซีซั่น โดยเฉพาะ มามาดู ซาโก้ ที่ไม่ได้ลงสนามหลังบาดเจ็บเอ็นข้อเท้าตั้งแต่เดือนเมษายน ส่วนสองตัวเจ็บที่เหลือยังคงไม่มีชื่อของ วิลเฟร็ด ซาฮา (1 นัด)และ คอนเนอร์ วิคแฮม (-)ตามเดิม

คริสตัล พาเลซ (4-3-3) : จูเลียน สเปโรนี่ - โจเอล วอร์ด, มามาดู ซาโก้, เจมส์ ทอมกินส์,ป๊าป ซัวอาเร่ - เจมส์ แม็คอาร์เธอร์, เจสัน พันเชียน, ลูก้า มิลิโวเยวิช - อันดรอส ทาวน์เซ่นด์, คริสติย็อง เบนเตเก้, บาการี่ ซาโก้

ส่วนทีมเยือน มาลาก้า ผมงานยังกู่ไม่กลับหลังเละเทะพ่ายในลีกเป็นนัดที่ 4 ติดต่อกัน อย่างไรก็ดีเทรนเนอร์ มิเชล จะทำการเปลี่ยนตำแหน่งเพียงแค่รายเดียวเท่านั้นหลังพ่าย "ตราหมี" เพียงแค่เม็ดเดียวเท่านั้น ซึ่งจะเป็น ฆวนปิ ที่จะได้ขึ้นเกมทางกราบซ้ายแทนที่ กอนซาโล่ คาสโตร ส่วนแนวรุกที่เหลือยังคงใช้ชุดเดิม ส่วนแนวรับมีลุ้นได้ตัว มิเกล ตอร์เรส สลัดเดี้ยงกลับมาเป็นตัวเลือกในเกมนี้

มาลาก้า (4-2-3-1) : โรเบร์โต้ ฆิมิเนซ ; โรเบร์โต้ โรซาเลส,ลุยส์ เอร์นานเดซ,ดีเอโก้ กอนซาเลซ ,เฟเดริโก้ ริคก้า, เรซีโอ้, เอสเตบัน โรโลน,ฆวนปิ, อเลฮานโดร มูล่า,อาเดรียน กอนซาเลซ,บอร์ฆา บา สตอน

จากหล่อๆกลายเป็นเสียฟอร์มเล็กๆเมื่อ บาเลนเซีย ที่อุตส่าแบ่งเจ๊ามาจากสองทีมดังจากกรุงมาดริดมาได้กลับทำได้เพียงเสมอ เลบานเต้ 1-1 อย่างไรก็ดีกุนซือใหญ่ มาร์เซลิโน่ ยังพอใจชื่นได้บ้างเมื่อพวกเขาไม่มีรายงานตัวเจ็บเข้ามาเพิ่มเติมนอกจาก รูเบน เบโซ่ (2 นัด) และ นาโช่ กิล (2 นัด)ที่เดี้ยงมาก่อนหน้านี้ ส่วนตัวผู้เล่น มาร์เซลิโน่ เตรียมเปิดโอกาสให้ ซานติ มิน่า หัวหอกดาวรุ่งออกสตาร์ทเป็นจริงแทนที่ ซิโมเน่ ซาซ่า เช่นเดียวกับ อังเดรอัส เปเรย์รา ที่ยืมมาจาก ยูไนเต็ด จะได้โอกาสลงริมเส้นแทน กอนซาโล่ กูเอเดส

บาเลนเซีย (4-4-2) : เนโต้ ; มาร์ติน มอนโตย่า, เฆซอน มูริโญ่, เอเซเกล การาย, โฆเซ่ กาย่า ; อังเดรอัส เปเรย์รา, ดาเนี่ยล ปาเรโฆ่, จอฟเฟรย์ ก็องด็อกเบีย, การลอส โซเลร์ ; โรดริโก้ โมเรโน่, ซานติ มิน่า

ส่วนลูกทีมของ โฆเซ่ เมนดิลิบาร์ เพิ่งจะพาลูกทีมเก็บชัยได้อีกครั้งจากการชนะ เลกาเนส 1-0 หลังแพ้ติดต่อกันมา 2 นัดติด ซึ่งเกมนี้พวกเขายังคงไร้เงาแแข้งเดี้ยงตั้งแต่ก่อนเริ่มซีซั่นอย่าง โฆเอล โรดริเกซ,ฟราน ริโก้, เปโดร เลออน รวมถึง อิวาน อาเลโฆ่ กองกลางดาวรุ่งอีกราย อย่างไรก็ดี เมนดิลิบาร์ เตรียมปรับทัพบางตำแหน่งโดยให้โอกาส กอนซาโล เอสกาลันเต้ลงมาจับคู่กับ ดานี่ การ์เซีย ในแผงแดนกลางเช่นเดียวกับ ชาลส์ จะได้จับคู่ กีเก้ การ์เซีย แทนที่ของ เซร์กี เอนริช

เออิบาร์ (4-4-2) : มาร์โก้ ดมิโตรวิช ; อันเดร์ กาปา,เปาโล โอลิเวียร่า,อเลฮานโดร กัลวาซ,โฆเซ่ อังเคล ; รูเบน เปนญ่า, กอนซาโล เอสกาลันเต้, ดานี่ การ์เซีย, ทาเกชิ อินูอิ ; กีเก้ การ์เซีย, ชาลส์

กุนซือ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ เพิ่งจะพา "เจ้าบุญทุ่ม" ผลิกสถานการณ์มาแบบหืดจับหลังบุกไปชนะ เกตาเฟ่ 1-2 ชนิดเหนื่อยลากดินแถมต้องสังเวยแนวรุกร้อยล้านอย่าง อุสมาน เดมเบลเล่ ที่มาไม่ทันไรก็ได้รับบาดเจ็บหนักถึงขั้นพักราว 4 เดือน ทำให้แนวรุกในเกมนี้จะเป็นโอกาสของ เคราร์ด เดวโลเฟว ลงทำหน้าที่แทนโดยมี หลุยส์ ซัวเรซ กับ ลีโอเนล เมสซี เป็นสองคีย์แมนหลักในการล่าตาข่าย ส่วน เปาลินโญ่ ที่ทำประตูชัยได้ในเกมที่แล้วจะมีชื่อเป็นตวสำรองตามเดิม

บาร์เซโลน่า (4-3-3) : มาร์ค-อันเดร แทร์ สเตเก้น ; เนลสัน เซเมโด้, เกราร์ด ปีเก้,ซามูเอล อุมติตี้, ฆอร์ดี้ อัลบ้า ;เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, อิวาน ราคิติช, อิเนสต้า ; เคราร์ด เดวโลเฟว, หลุยส์ ซัวเรซ, ลีโอเนล เมสซี

ส่วนทีมเยือน ฮูราแคน ฟอร์มต่างจากเจ้าถิ่นพอสมควรหลังชนะมา 2 เกมติดรวมทุกรายการ ส่วนเรื่องความพร้อมพวกเขาจะพลาดใช้งาน เฟเดริโก้ มานซิเนลลี่ กองหลังตัวเก๋าที่เจ็บข้อเท้าและ ปาโบล อัลบาเรซ แนวรับอีกรายที่มีปัญหากล้ามเนื้อ อย่างไรก็ดียังพอมีข่าวดีเมื่อ มาเรียโน่ กอนซาเลซ, ฮูลิโอ อังกูโล่, คาร์ลอส อเราโฆ่ และ เมาโร โบกาโด้ ที่มีปัญหากล้ามเนื้อต่างมีลุ้นผ่านความฟิตทันเกมนี้ แต่บรรดาแกนหลักอย่าง ราม่อน อาบีล่า, อาเดรียน กาเลโย่ และ อิ๊กนาซิโอ้ ปุซเซ็ตโต้ ต่างพร้อมลงปักหลักในระบบ 4-4-2 ตามคาด

เจ้าบ้าน กิมนาเซีย จำเป็นต้องยกระดับการเล่นโดยด่วนหลังยังไม่ชนะใครเลยตลอด 2 เกมในช่วงออกสตาร์ท ซึ่งเกมนายใหญ่ มาเรียโน่ โซโซ่ ยังคงไร้เงา มักซิมิเลียโน่ โคโรเนล กองหลังที่เดี้ยงไปนานต้องใช้เวลาเรียกความฟิตอีกสักะยะ แถม ฮวน ซิลวา (-)ที่ดวกแตกเจ็บหนักที่หัวเข่าไม่มีกำหนดกลับมาในเร็วๆนี้แน่ อย่างไรก็ดีกุนซือ มาเรียโน่ โซโซ่ ยังพอใจชื่นอยู่บ้างที่คู่หัวหอกตัวเก่งอย่าง ฟรังโก้ นีลล์ และ นิโคลัส อิบันเนส ยังพร้อมลงสนามในระบบ 4-4-2 ไม่มีปัญหา

ส่วนทีมเยือน คอริติบ้า มีปัญหาให้ต้องกังวลไม่แพ้กันเมื่อจะหมดสิทธิ์เรียกใช้งาน เจา เปาโล (4 นัด) กองหน้าตัวสำรองรวมถึง เครแบร์ (11 นัด 4 ประตู) หัวหอกตัวเก๋าที่ยังบาดเจ็บอยู่ แถมบรรดาตัวหลักอย่าง เลโอ (11 นัด), แวร์ลี่ย์ (12 นัด) และ วิลเลี่ยม มาเธอุส (20 นัด)ดันมาติดโทษแบนในเวลาพร้อมกันอีกต่างหาก ทำให้รายชื่อตัวจริงในเกมนี้จะทำการยกเครื่องไปหลายตำแหน่งและจะได้เห็น โดโด้, มาร์ซิโอ และ เฮนริค ลงมาพิสูจน์ฝีเท้าแทนที่ตัวหลัก

เจ้าบ้าน พัลไมรัส แม้จะมีปัญหาเรื่องตัวผู้เล่นแต่ส่วนใหญ่ล้วนเป็นแข้งเดี้ยงยาวมาก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะเป็น อโรก้า (-), โมเซส (-) สองกองกลาง รวมไปถึง เชลสัน (4 นัด) ผู้รักษาประตูมือหนึ่งก็มีอาการบาดเจ็บรบกวน ทำให้ แฟร์นานโด ปราสส์ ยังได้โอกาสเฝ้าหลังบ้านให้ทีมต่อไป ทว่าเกมนี้ประสิทธิ์ภาพในเกมรุกดูจะลดความน่ากลัวลงไปเยอะเมื่อ ลวน กับ วิลเลี่ยน สองแนวรุกคนสำคัญจะถูกคาดโทษในเกมนี้ทำให้ อันโตนิโอ คาร์ลอส และ ดิเอโก้ โซซ่า จะถูกส่งลงมาแทน

ส่วนทีมเยือน อาร์ฮุส ผลงานยังไม่คงเส้นคงวานักแถมเกมล่าสุดเพิ่งจะหมดความมั่นใจหลังเปิดรังโดน แรนเดอร์ส ถล่ม 4-1 ส่วนสภาพความพร้อมในเกมนี้พวกเขาไม่มีรายงานตัวเจ็บเข้ามายกเว้นตัวเจ็บหน้าเก่าอย่าง มิคเกล รัสค์(2นัด/1ประตู)กับ อเล็กซานเดอร์ แอนเดอร์สัน(1นัด)สองแนวรับ ส่วนตัวคีย์แมนสำคัญอย่าง มาร์ติน สเปลมันน์(8นัด/2ประตู)พร้อมจะเป็นจักรสำคัญในการสร้างสรรค์เกมให้ มุสตาฟา บันดู(7นัด/1ประตู)เป็นตัวจบสกอร์

เจ้าบ้าน นอร์ดเจลแลนด์ กำลังอยู่ในช่วงมั่นใจหลังหลุดพ่ายเพียงเกมเดียวเท่านั้น 8 เกมหลังแถมเป็นการเก็บชัยได้ถึง 6 เกมเลยทีเดียว ซึ่งก็เป็นไปตามคาดว่ากุนซือ โบ เฮนริคเซ่น ยังคงยึดแกนหลักจากเกมที่แล้วยามไร้เงาแข้งเดี้ยงตัวหลักอย่าง แมดส์ พีเดอร์เซ่น(8นัด)แนวรับตัวหลักที่เดี้ยงเพิ่มเติมเข้ามา ส่วนแกนหลักอย่าง เออร์เนสต์ อัสซานต์(8นัด/7ประตู)กับ ก็อดสเวย์ ดอนโญ่ว(8นัด/5ประตู)สองกองหน้าชาวกาน่าจะเป็นทีเด็ดสำคัญในเกมนี้

ส่วนทีมเยือน เซลต้า บีโก้ ของกุนซือ ฆวน การ์ลอส อุนซูเอ ทยอยได้แกนหลักกลับมาเป็นตัวเลือกกันเกือบครบจะขาดก็เพียงแค่ จอห์น กีเด็ตติ กองหน้าทีมชาติสวีเดนที่ต้องลุ้นผ่านความฟิตในเกมนี้หลังบาดเจ็บไหปลาร้าตั้งแต่ช่วงปรี-ซีซํ่น ส่วนทีเด็ดในแดนหน้าพวกเขาได้วาง มักซิมิเลียโน่ โกเมซ ดาวยิงตัวใหม่ออกสตาร์ทประสานงานกับพิโอเน่ ซิสโต้ และยาโก้ อัสปาส ตามคาด

เซลต้า บีโก้ (4-3-3) : เซร์คิโอ อัลบาเรซ ; อูโก้ มาโย่, อันดรู ฟอนตาส, กุสฟาโว่ กาบรัล, จอนนี่ ; โฆซาเบด ซานเชซ, สตานิสลาฟ โลบอตก้า, ดาเนี่ยล วาสส์ ; ยาโก้ อัสปาส, มักซิมิเลียโน่ โกเมซ, ปิโอเน่ ซิสโต้

กีเก้ ซานเชซ ฟลอเรส เทรนเนอร์ เอสปันญ่อล เตรียมกับมาใช้ ดีเอโก้ โลเปซ นายทวารมือหนึ่งอีกครั้งหลังสลัดเดี้ยงลงมาแทนที่ ปาอู โลเปซ ทว่าสองแนวรับอย่าง ออสการ์ ดูอาร์เต้(-), ฆาบี โลเปซ(2 นัด)ยังคงมีปัญหาอาการบาดเจ็บและยังคงวางใจ มาริโอ เฮร์โมโซ่ กับ ดาบิด โลเปซ มีคู่เซ็นเตอร์ในเกมนี้ ส่วนทีเด็ดในแนวรุกพวกเขาจะใช้ เลโอ บาปติสเตา กับ เกราร์ด โมเรโน่ เป็นตัวจบสกอร์ร่วมกัน

เอสปันญ่อล (4-4-2) : ปาอู โลเปซ ; บิคตอร์ ซานเชซ,มาริโอ เฮร์โมโซ่, ดาบิด โลเปซ, อารอน มาร์ติน ; โฆเซ่ ฆูราโด้, ฆาบี ฟูเอโก้, ปาเป้ ดิย็อป, ปาโบล ปิอัตติ ; เลโอ บาปติสเตา, เกราร์ด โมเรโน่

แม้นายใหญ่ ซีเนดีน ซีดาน จะทำผลงานได้ดีใน ชปล. ทว่าในเกมลีกยังคงมีการบ้านให้ต้องแก้ไขกันพอสมควรเมื่อกองหน้าคนสำคัญอย่าง คาริม เบนเซม่า (3 นัด)กำลังมีปํญหาอาการบาดเจ็บ เช่นเดียวกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ มาร์เชโล่ ที่ยังโดนคาดโทษติดอยู่ในเกมนี้ ทำให้แบ็กซ้ายพวกเขาได้วาง เธโอ เอร์นานเดซ ลงสนามแทนเช่นเดียวกับผังแนวรุกที่จะใช้ แกเร็ธ เบล, มาร์โก้ อาเซนซิโอ้ และ อีสโก้ เป็นสามประสาน ส่วนแดนกลางยังไม่ส่งผลมากนักจากการบาดเจ็บของ มาเตโอ โควาซิช (2 นัด)ตัวสำรอง

เรอัล มาดริด (4-3-3) : เกย์ลอร์ นาวาส ; ดาเนียล การ์บาฆาล, ราฟาแอล วาราน, เซร์คิโอ รามอส, เธโอ เอร์นานเดซ ; โทนี่ โครส, กาเซมิโร่, ลูก้า โมดริช ; แกเร็ธ เบล, มาร์โก้ อาเซนซิโอ้, อีสโก้

ลูกทีมของ ยูเซบิโอ ซากริสตัน กำลังอยู่ในช่วงท็อปฟอร์มสุดขีดหลังเพิ่งเปิดบ้านถล่ม โรเซนบอร์ก 4-0 ในยูโรป้า ทำให้พวกเขาเก็บชัย 4 นัดรวดเข้าไปแล้ว แถมสภาพความพร้อมก่อนเกมถือว่าสมบูรณ์เนื่องจากจะมีแค่ ราอูล นาบาส (2 นัด)แนวรับตัวหลักเพียงรายเดียวที่ยังบาดเจ็บ แต่ก็ได้ อินญิโก้ มาร์ติเนซ ที่สลัดเดี้ยงกับมาลงสนามได้อีกครั้ง

เรอัล โซเซียดัด (4-3-3) : เกโรนิโม่ รูยี่ ; อัลบาโร่ โอดริโอโซล่า, กอนซาโล่ เอลัสตอนโด้, อินญิโก้ มาร์ติเนซ, เควิน โรดริเกซ ; ชาบี ปรีเอโต้, อาเซียร์ อิยาร์ราเมนดี้, ดาบิด ซูรูตูซ่า ; อัดยาน ยานาซาย, วิลเลี่ยน โชเซ่, ฆวนมี่

ส่วนลูกทีมของนายใหญ่ โฆเซ่ ซิกานด้า อยู่ในสภาพทีมกำลังมั่นใจหลังเก็บชัยได้มาจากเกมล่าสุด แถมสภาพความพร้อมในวันนี้ยังไร้ตัวเจ็บตัวแบน จะมีก็เพียงแต่ อสการ์ เดอ มาร์กอส ที่ต้องรอเช็คความฟิต ส่วนทีเด็ดแดนหน้ายังคงวาง อาริตซ์ อาดูริซ เป็นกำลังหลักโดยมี ราอูล การ์เซีย เตรียมออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในแดนกลางอีกครั้ง

แอธฯบิลเบา (4-2-3-1) : เกป้า ; เอเนโก้ โบเบด้า, อายเมริค ลาปอร์เต้, อูไน นูนเญซ, เอนริช ซาบอริต ; มิเกล เบสก้า, เบนญัติ ; มาร์เกล ซูซาเอต้า, ราอูล การ์เซีย, อิเกร์ มูเนียอิน ; อินญากี้ วิลเลี่ยมส์

มาโนโล่ มาร์เกซ นายใหญ่ประจำทีมจะไม่มี เซร์กี ซามเปร์ กองกลางที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บทว่าพวกเขาก็ได้วาง โฆนาธาน บีเอร่า, ฆาบี กัสเตยาโฆ่ และ อัลเบร์โต้ อคิลานี่ เป็นสามประสานเอาไว้แล้ว เช่นเดียวกับ บิโตโล่ ตัวรุกคนสำคัญสลัดเดี้ยงกลับมาได้ทันเวลาจะถูกวางเป็นทางเลือกแดนหน้าค่อนข้างแน่

ลาส พัลมาส (4-3-3) : เลียนโดร ชิชิโซล่า ; มิเชล มาเกโด้, เมาริซิโอ เลมอส, เปโดร บีกาส, ดานี่ กาสเตยาโน่ ; โฆนาธาน บีเอร่า, ฆาบี กัสเตยาโฆ่, อัลเบร์โต้ อคิลานี่ ; อเลน ฮาลิโลวิช, โฆนาธาน กาเยรี่, บิโตโล่

ส่วน เซบีญ่า ของกุนซือ เอดูอาร์โด้ เบริซโซ่ เพิ่งบุกไปผ่านงานช้างที่ แอนฟิลด์ มาได้ด้วยการบุกเจ๊ามา 2-2 ก่อนจะกลับมาเล่นในลีกอีกครั้ง ซึ่งในเกมนี้กุนซือ เอดูอาร์โด้ เบริซโซ่ เตรียมปรับตำแหน่งในทีมยกใหญ่หลังกำศึกมาเหนื่อยและเตรียมใช้ เซบาสเตียน กอร์เชีย, ดาเนี่ยล การ์ริโก้, เกลม็องต์ ล็องเล่ต์ และ ลีโอเนล กาโรเล่ ออกสตาร์ทแนวรับยกแผง ส่วนทีเด็ดในแนวรุกยังคงไม่มี โนลิโต้ (3 นัด 1 ประตู)เป็นทีเด็ดทำให้ ฆัวกิน กอร์เรอา, หลุยส์ มูเรียล และ ปาโบล ซาราเบีย จะได้ลงเล่นร่วมกันไปก่อน

เซบีญ่า (4-3-3) : เซร์กิโอ ริโก้ ; เซบาสเตียน กอร์เชีย, ดาเนี่ยล การ์ริโก้, เกลม็องต์ ล็องเล่ต์, ลีโอเนล กาโรเล่ ; เอแวร์ บาเนก้า, สเตเว่น เอ็นซองซี่่, กานโซ่ ; ฆัวกิน กอร์เรอา, หลุยส์ มูเรียล, ปาโบล ซาราเบีย

ทีมน้องใหม่ กิโรน่า จากที่ฟอร์มแรงมา 3 นัดติด(ชนะ2เสมอ1) ในที่สุดก็พลาดท่าจนได้หลังบุกไปพ่ายทีมแกร่งในบ้านอย่าง บิลเบา เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดีนายใหญ่ ปาโบล มาชิน ยังคงไว้ใจผู้เล่นชุดนี้เต็มเปี่ยมและยังคงวาง ปอร์ตู, คริสเตียน สตูอานี่ กับ ซาอูล การ์เซีย เป็นสามประสานแดนหน้าในการล่าตาข่าย ส่วนแข้งเดี้ยงอย่าง ดาบิด ติมอร์ ยังคงไม่มีกำหนดคัมแบ็คในเร็วๆนี้แต่ ปาโบล มาฟเฟโอ กับ อเล็กซ์ กราเนย์ ยังคงผนึกกำลังกันได้ไม่มีปัญหา

กิโรน่า (3-4-3) : กอร์ก้า อิไรซอซ ; เบร์นาร์โด้ เอสปิโนซ่า, เปโดร อากาล่า, มาร์ก มูนีซ่า ; ปาโบล มาฟเฟโอ, อเล็กซ์ กราเนย์, เปเร่ ปอนส์, อาดาย เบนิเตซ ; ปอร์ตู, คริสเตียน สตูอานี่, ซาอูล การ์เซีย

แม้จะฟอร์มดีหลังซิวชัยมา 2 นัดรวด ทว่ากุนซือ ฟราน เอสกริบา ยังวางใจกับสถานการณ์ในตอนนี้ได้หลังยังคงไร้เงา เซร์คิโอ อาเซนโฆ(-) กับ อันเดรียส เฟร์นานเดซ (2 นัด)สองนายทวารมือวางอันดับต้นในทีมที่ยังบาดเจ็บ เช่นเดียวกับผู้เล่นเอาท์ฟิลด์อย่าง อาเดรียน มาริน กับ บรูโน่ โซเรียโน่ ที่ต้องรอวันสลัดเดี้ยงเช่นกัน ส่วนความพร้อมที่เหลือพวกเขาเตรียมเรียกตัวสองแนวรับอย่าง อัลบาโร่ กอนซาเลซ และ บิคตอร์ รุยซ์ กลับมาลงสนามหลังได้พักเกม ยูโรป้า โดยมี เซดริก บากัมบู กับ การ์ลอส บักก้า เป็นทีเด็ดจบสกอร์

บียาร์เรอัล (4-4-2) : มาริอาโน่ บาร์โบซ่า ; มาริโอ กัสปาร์, อัลบาโร่ กอนซาเลซ, บิคตอร์ รุยซ์, ฆัวเม่ คอสต้า ; ปาโบล ฟอร์นัลส์, มานู ตริกูเอรอส, โรดรี้, ซามู กัสติเญโฆ่ ; เซดริก บากัมบู, การ์ลอส บักก้า

ลุยส์ ซูเบลเดีย นายใหญ่ประจำทีมมีเรื่องให้ต้องกังวลพอสมควรหลังแพ้รวดมา 3 เกมติดจนหล่นมาอยู่โซนตกชั้นแล้วในเวลานี้ ขณะที่สภาพทีมพวกเขายังมีปัญหาให้ต้องแก้ไขเมื่อ บิคตอร์ ลากูอาร์เดีย ยังคงบาดเดี้ยงต่อเนื่องหมดโอกาสช่วยแนวรับเช่นเดียวกับ เอคตอร์ เอร์นานเดซ(1นัด)แบ็กซ้ายประจำทีมที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บทำให้ อัลฟอนโซ่ เปดราซ่า ยังคงได้ลงสนามต่อไป ส่วนเกมนี้จะได้เห็น โบยาน ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงบ้างซึ่งจะลงมาจับคู่กับ มูนีร์ เอลฮัดดาดี้ ในโซนกองหน้า

อลาเบส (4-2-2) : เฟร์นานโด ปาเชโก้ ; คาร์ลอส บิการาย, โรดริโก้ อีลี่, อเล็กซิส รูอาโน่, อัลฟองโซ่ เปดราซ่า ; ออสการ์ โรเมโร่, อัลบาโร่ เมดราน, โทมัส ปีน่า, บูร์กุย ; มูนีร์ เอลฮัดดาดี้, โบยาน

ทัพ "ลาซามพ์" กำลังอยู่ในช่วงมั่นใจไม่แพ้กันหลังบุกไปโค่น ฟิออเรนติน่า ได้ถึงถิ่ง 2-1 ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าเกมนี้นายใหญ่ มาร์โก จามเปาโล ยังคงไว้ใจแข้งแกนหลักลงบู๊ต่อไปโดยใช้ กาสตัน รามิเรซ เป็นเพลย์เมกเกอร์ตัวเดินเกมเพื่อสนับสนุนสองกองหน้าอย่าง ฟาบิโอ กวายาเรลล่า กับ จานลูก้า คาปรารี่ ส่วนแข้งเดี้ยงก่อนหน้านี้อย่าง เอมิเลียโน่ วิเวียโน่ นายทวารกับ โดโด้ แนวรับยังคงไร้ชื่อในเกมนี้ต่อไป

ซามพ์โดเรีย (4-3-1-2) : คริสเตียน พัคกิโอนี่ - จาโคโป ซาล่า, มาติอัส ซิลเวสเตร, จีอันมาร์โก้ เฟอร์รารี่, วาสโก้ เรกินี่ - เอ็ดการ์ บาร์เรโต้, ลูคัส ตอร์ไรร่า, เดนนิส ปราเอ้ต์ - กาสตัน รามิเรซ - ฟาบิโอ กวายาเรลล่า ,จานลูก้า คาปรารี่

ซินิซ่า มิไฮโลวิช เฮดโค้ช "กระทิงหิน" จะไม่ปรับตำแหน่งตัวหลักจากเกมล่าสุดแน่หลังเพิ่งพาทีมบุกไปชนะ เบเนเวนโต้ 1-0 ซึ่งสภาพพร้อมโดยรวมพวกเขายังคงไร้เงา 2 แดนกลางอย่าง เมียร์โก วัลดิฟิออรี่ กับ ดานิเอเล่ บาเซลลี่ รวมไปถึง ลูกัส โบเย่ กองหน้าตัวสำรอง ซึ่งไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด เมื่อ อันเดรีย เบล็อตติ หัวหอกทีมชาติอิตาลียังคงเป็นตัวชูโรงในสนามโดยมี ยาโก้ ฟัลเก้, อาเดม ลายิช และ เอ็มบาย เนียง เป็นตัวสนับสนุน

โตริโน่ (4-2-3-1) : ซัลวาตอเร่ ซิริกู - ลอเรนโซ่ เด ซิลเวสตรี้, นิโกลัส เอ็นกูลู, เอมิเลียโน่ โมเร็ตติ, คริสเตียน โมลินาโร่ - โทมัส ลินคอน, โจเอล โอบี - ยาโก้ ฟัลเก้, อาเดม ลายิช, เอ็มบาย เนียง - อันเดรีย เบล็อตติ

ส่วนทีมเยือน ดินาโม เดรสเดน ฟอร์มยังไม่สู้ดีนักหลังไม่ชนะใครมา 3 เกมติดนับจากในลีก ซึ่งเกมนี้ อูเว่ นอยเฮาส์ ไม่มีรายงานตัวเจ็บมาจากเกมล่าสุดและจะมาในแท็คติก 4-2-3-1 โดยมี ลูคัส รอสเซอร์(5นัด/2ประตู)เป็นหัวหอกตัวเป้า พร้อมกับวาง มาร์โก้ ฮาร์ทมันด์(5นัด/1ประตู)กับ อีริค เบอร์โก้(4นัด)เป็นตัวสนับสนุน

ทีมที่เพิ่งเลื่อนชั้นอย่าง จอห์น เรเกนเบิร์ก ถือว่ายกระดับฟอร์มการเล่นได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะยามนี้เกมเยือนกลายเป็นทีเด็ดไปแล้วหลังบุกไปชนะไฮน์เดนเฮลม์ 3-1 ในเกมล่าสุด ซึ่งในเกมนี้เชื่อว่าเทรนเนอร์ อาคิม แบเออร์ลอร์เซอร์ ยังคงยึดแกนหลักจากเกมล่าสดโดยเฉพาะกองหน้าอย่าง มาร์โก้ กรู๊ทท์เนอร์(5นัด/1ประตู)ที่ยิงประตูได้ในเกมที่แล้วจะลงจับคูกับ ซากิส อดัมยาน(5นัด)ในระบบ 4-4-2 โดยมี มาร์วิน โนลล์(4นัด/2ประตู)เป็นจอมทัพคนสำคัญ

ส่วนทัพ "งูใหญ่" อินเตอร์ อยู่ในช่วงฟอร์มดุจริงอะไรจริงหลังชนะเกมลีกมา 3 เกมรวดพ่วงด้วยการถล่มสกอร์รวม 8 เม็ดเข้าไปแล้ว ส่วนความพร้อมในเกมนี้นายใหญ่ ลูชาโน่ สปัลเล็ตติ ไม่มีตัวเจ็บตัวแบนให้ต้องกังวลและยังคงวางใจให้ เมาโร อิคาร์ดี้ เป็นหัวหอกตัวเป้า โดยมี อันโตนิโอ คันเดรว่า, เจา มาริโอ้ และ อีวาน เปริซิซ เป็นสามประสานแนวรุก

อินเตอร์ (4-2-3-1) : ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช - ดานิโล่ ดัมโบรซิโอ, มิลาน สคิเนียร์, เจา มิรานด้า, ดัลเบิร์ต เฮ็นริเก้ - บอร์ฆา บาร์เรโร่, มาติอัส เวซิโน่ - อันโตนิโอ คันเดรว่า, เจา มาริโอ้, อีวาน เปริซิซ - เมาโร อิคาร์ดี้

เกมนี้ โครโตเน่ เตรียมกับมาเฝ้าถิ่นอีกครั้งหลังบุกไปพ่าย กาญารี่ 0-1 ซึ่งเป็นนัดที่สองเข้าไปแล้วที่พวกเขาแพ้คู่แข่งและยังไม่ชนะใครตลอด 3 เกมออกสตาร์ท ส่วนสภาพความพร้อมยังพอมีข่าวดีอยู่บ้างเมื่อ มาเรียโน่ อิซโก้ กองกลางประจำทีมสลัดเดี้ยงกลับมาเป็นตัวเลือก ทว่าก็ยังไม่มี อังเดรีย นาลินี่ ที่ยังบาดเจ็บตามเดิม ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่ากุนซือ ดาวิเด้ นิโคล่า ยังคงให้โอกาสนักเตะชุดหลักๆจากเกมที่แล้วได้พิสูจน์ในสนามกันต่อ

โครโตเน่ (4-4-2) : อเล็กซ์ คอร์ดาซ - มาริโอ ซัมปิริซี่, เฟเดริโก้ เจคเครินี่, เลอันโดร กาเบรียลล่า, บรูโน่ มาร์เตลล่า - มาร์คัส โรห์เด้น, อันเดรีย บาร์เบริส, โรรานโด้ มันดราโกร่า, อาเดรียน สโตยาน - มาร์เซโล่ ทร็อตต้า, อังเต้ บูดิเมียร์

ส่วนทีมเยือน โบโลญญ่า ของกุนซือ โรแบร์โต้ โดนาโดนี่ เพิ่งบุกไปโดน นาโปลี ถล่มยับ 0-3 แถมความพร้อมเรื่องตัวผู้เล่นยังคงไร้เงาของ อันเจโล่ ดา คอสต้า (-)และ วาสซิลิส โตโรซิดิส (2 นัด)ที่ยังบาดเจ็บ อย่างไรก็ดีพวกเขาจะได้ตัว อันเจโล่ ดา คอสต้า (-)นายทวารกับมาเป็นตัวเลือกหลังสลัดอาการบาดเจ็บเป็นที่เรียบร้อยเช่นเดียวกับ เซซาร์ ฟัลเลตติ (-)กองกลาง ทว่ายังต้องหลีกทางให้ตัวหลักจากเกมที่แล้วไปก่อน

โบโลญญ่า (4-3-3) : อันโตนิโอ มิรานเต้ - อิบราฮิม่า เอ็มบาเย่, เซบาสเตียง เดอ มาโย่, โดเมนิโก้ มาเยตต้า, อดัม มาซิน่า - อีริก พัลการ์, อันเดรีย โพลี่, ซิโมเน่ แวร์ดี้ - โรดริโก้ ปาลาซิโอ, เฟเดริโก้ ดิ ฟรานเชสโก้, มัตเตีย เดสโตร

"ม่วงมหากาฬ" เพิ่งโชว์ทีเด็ดบุกถล่ม เวโรน่า 5-0 ทำให้แกนหลักจากเกมดังกล่าวต่างตบเท้าออกสตาร์ทกันยกใหญ่ อย่างไรก็ดีนายใหญ่ สเตฟาโน่ ปิโอลี่ จะไร้เงา วาล็องตอง เอย์สเซริค ตัวรุกฝรั่งเศสที่มีปัญหาอาการบาดเจ็บ ส่วนทีเด็ดแนวรุกจะวาง มาร์โก้ เบนาสซี่, ซีริล แตร์เรอู และ จิโอวานนี่ ซิมิโอเน่ เป็นตัวชูโรงตามคาด

ฟิออเรนติน่า (4-2-3-1) : มาร์โก้ สปอร์เตลโล่ - บรูโน่ กาสปาร์, ดาวิเด้ อัสโตรี่, เจอร์มัน เปซเซร่า, คริสเตียโน่ บิรากี้ - จอร์แดน แวร์ตูร์, มิลาน บาเดล - เฟเดริโก้ เคียซ่า, มาร์โก้ เบนาสซี่, ซีริล แตร์เรอู - จิโอวานนี่ ซิมิโอเน่

ส่วน ลา กอรุนญ่า ของกุนซือ เปเป้ เมล เตรียมส่ง ลูกัส เปเรซ ลงเล่นเป็นตัวจริงนับตั้งแต่ย้ายมาจาก "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซนอล ขณะที่ตัวเจ็บจะหมดสิทธิ์ใช้งาน การ์เลส กิล กองกลางที่มีปัญหาบาดเจ็บรวมถึงนายทวารอย่าง รูเบน มาร์ติเนซ (2 นัด) และจะใช้ คอสเทล ปันติลิม่อน ปักหลักเฝ้าเสาแทน ส่วนแนวรุกจะใช้ อาเดรียน โลเปซ เป็นตัวจบสกอร์ในตำแหน่งหน้าเป้า

ลา กอรุนญ่า (4-2-3-1) : คอสเทล ปันติลิม่อน ; ฆวนฟราน, ฟาเบียน ชาร์, ซิดเน่, ลูซินโญ่ ; เปโดร มอสเกร่า, กีเยร์เม่ ซานโต๊ส ; เฟเด การ์ตาเบีย, ลูกัส เปเรซ, อาเดรียน โลเปซ , ฟลอริน อันโดโน่, อาเดรียน โลเปซ

นายใหญ่ เซเตียน ยังคงยึดแกนหลักจากเกมล่าสุดค่านข้างแน่แม้จะเพิ่งบุกไปพ่าย บียาร์เรอัล 1-3 ก็ตาม โดยเกมนี้ตัวเจ็บยังคงไร้ชื่อของ อลิน ตอสก้า (1 นัด) กับ โจเอล แคมป์เบล (-) ให้โฉมหน้าแนวรุกจะเป็น ฆัวกิน, เซร์คิโอ เลออน และ คริสเตียน เตโย่ เป็นสามประสาน

เรอัล เบติส (4-3-3) : อันโตนิโอ อัดญัณ ; อันโตนิโอ บาร์รากัน, ซูแฮร์ เฟดดัล, อิสซ่า ม็องดี้, ริซ่า ดูร์มิซี่ ; บิคตอร์ กามาราซ่า, ฆาบี การ์เซีย, อันเดรส กัวร์ดาโด้ , ฆัวกิน, เซร์คิโอ เลออน, คริสเตียน เตโย่

ส่วนทีมฟอร์มห่วยอย่าง มาลาก้า ของกุนซือ มิเชล มีปัญหาตัวเจ็บค่อนข้างเยอะจากการไร้เงาของ เฟเดริโก้ ริกก้า, มิเกล ตอร์เรส และ อาดัลเบร์โต้ เปนญารานด้า ขณะที่ตัวจริงแนวรุกในเกมนี้พวกเขาจะใช้ ยูสซูฟ เอน-เนซีรี่ เป็นทีเด็ดหน้าเป้าร่วมกับ บอร์ฆา บา สตอน

มาลาก้า (3-5-2) : โรเบร์โต้ ฆิมิเนซ ; ลุยส์ เอร์นานเดซ, ปอล เบย์สเซ่, ดีเอโก้ กอนซาเลซ ; โรเบร์โต้ โรซาเลส, ซดาฟโก้ คูซมาโนวิช, เรซีโอ้, อาเดรียน กอนซาเลซ,เฟเดริโก้ ริกก้า , บอร์ฆา บา สตอน, ยูสซูฟ เอน-เนซีรี่

"ตราหมี" กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มฝืดอย่างแท้จริงหลังไม่ชนะใครมา 2 เกมติด ซึ่งทั้งสองนัดเป็นการเจ๊าโดยทำประตูไม่ได้ทั้งคู่ อย่างไรก็ดีเกมนี้ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ เทรนเนอร์ จะได้ตัว อองตวน กรีซมันน์ พ้นโทษแบนออกสตาร์ทเป็นตัวจริงร่วมกับ อังเคล คอร์เรอา โดยมี ซาอูล ญีเกซ กับ ยานนิค การ์ราสโก้ ขึ้นเกมจากมิดฟิลด์ ส่วน ซีม เวอร์ซัลจ์โก้ (3 นัด) แบ็กขวาที่มีอาการเดี้ยงจะเป็น ฆวนฟราน กลับมายึดตัวจริงได้อีกครั้ง

แอตฯมาดริด (4-4-2) : ยาน โอบลัค ; ฆวนฟราน, ดีเอโก้ โกดิน, สเตฟาน ซาวิช, ฟิลิเป้ ลุยส์ ; โกเก้, โธมัส ปาร์ตีย์, ซาอูล ญีเกซ, ยานนิค การ์ราสโก้ ; อองตวน กรีซมันน์, อังเคล คอร์เรอา

ส่วนกุนซือ เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ เตรียมโรเตชั่นนักเตะค่อนข้างแน่หลังเพิ่งเปิดรังถล่ม ยูเวนตุส ใน ชปล. มาหมาดๆ โดยเกมนี้พวกเขายังคงไร้เงาแข้งเดี้ยงตัวสำรองอย่าง ราฟินญ่า กับ อาร์ดา ตูราน ขณะที่แผงมิดฟิลด์จะได้เห็นชื่อของ อันเดร โกเมส กับ เปาลินโญ่ ได้โอกาสออกสตาร์ทตัวจริงในเกมนี้

บาร์เซโลน่า (4-3-3) : มาร์ค-อันเดร แทร์ สเตเก้น ; เนลสัน เซเมโด้, เกราร์ด ปีเก้, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, ลูคัส ดีญ ; อันเดร โกเมส, เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, เปาลินโญ่ ; อุสมาน เดมเบลเล่, หลุยส์ ซัวเรซ, ลีโอเนล เมสซี

น้องใหม่ ลา ลีก้า เพิ่งเก็บชัยในนัดแรกจากการบุกชนะ เลกาเนส 2-1 ทว่าเกมนี้ดูจะหนักหนาสาหัสเพราะจะเจอจ่าฝูงอย่าง บาร์เซโลน่า แถมนายใหญ่ เมาโร อารัมบาร์รี่ จะไม่มีชื่อของ คาริม โยดา กับ ดาเนี่ยล ปาเชโก้ ทำให้ ฟายกัล ฟายร์, เกกุ ชิบาซากิ, อาห์เหม็ด เอ็นเดียเย่ และ ฆอร์เก้ โมลิน่า จะถูกวางเป็นกลุ่มแนวรุกล่าสกอร์อีกครั้งตามคาด

เกตาเฟ่ (4-2-3-1) : บิเซนเต้ กูไอต้า ; ดาเมี่ยน ซัวเรซ, ดิเยเน่ ดาโกนัม, ฆวน กาล่า, วิคตอเรียโน่ อันตูเนส ; มาร์เกล เบร์การ่า, เมาโร อารัมบาร์รี่ ; ฟายกัล ฟายร์, เกกุ ชิบาซากิ, อาห์เหม็ด เอ็นเดียเย่ ; ฆอร์เก้ โมลิน่า