วิเคราะห์บอล / วิเคราะห์บอลวันนี้

      อันเต โควิช นายใหญ่ของ แฮร์ธ่าฯ มีลิสต์ตัวเจ็บอยู่ 7 ราย ไล่มาตั้งแต่ จูเลี่ยน อัลเบร็ชต์, เดอดริค โบยาต้า, พาล ดาร์ได, ยาเวโร่ ดิลโรซุน, อาร์เน่ เมเยอร์, ปีเตอร์ เปคาริค เเละ มาร์วิน พลัตเตนฮาร์ดต์ คาดว่า โควิช จะวางหมากมาในระบบ 4-2-1-3 โดยจะมี เวดัด อิบิเซวิช ลงเป็นตัวความหวังในแดนบน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แฮร์ธ่าฯ (4-2-1-3) : รูเน่ ยาร์สไตน์ - ลูกัส คลุนเตอร์, คาริม เรกิ๊ก, นิคลาส สตาร์ค, มาร์วิน แพลตเท่นฮาร์ด - วลาดิเมียร์ ดาริด้า, มาร์โก กรูยิช - อองเดร ดูด้า - ซาโลมง กาลู, เวดัด อิบิเซวิช, มักซิมิเลี่ยน มิตเทิ่ลสตัดต์

      มาร์คุส มัตเตส ผู้จัดการทีมของ อิชสตัตต์ ไม่มีปัญหาในการจัดทัพสู้ศึก เพราะสภาพความพร้อมของลูกทีมทุกคนสมบูรณ์ดี 100% นั่นหมายความว่า มัตเตส สามารถเลือกสรรชุดที่ดีที่สุดลงบู๊ได้สบาย นำทีมมาโดย คริสเตียน ไฮน์ลอธ (4 นัด / 3 ประตู) เเละ ฟาเบียน เอแบร์เล่ (3 นัด / 4 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
อิชสตัตต์ (4-3-3) : เฟลิกซ์ จุงฮาน - โดมินิค โวล์ฟสไตเนอร์, มาร์คุส วัฟเฟลอร์, เบนจามิน ชมิดรัมเซิ่ล, ฟลอเรียน ลัมเพร็ชต์ - ฟิลิปป์ เฟเดิร์ล, โจนาส ฟรายส์, จาค็อบ ซิตเซิ่ลสแบร์เกอร์ - คริสเตียน ไฮน์ลอธ, ฟาเบียน เอแบร์เล่, จูเลี่ยน คูเกิ้ล

      ซานโดร ชวาร์ซ กุนซือของ ไมนซ์ จะไร้เงาของ จี ดอง วอน, ฌอง มาเตต้า, โจนาธาน ไมเออร์ เเละ อารอน เซย์เดล ส่วนในรายของ ฟิลิปป์ เวเน่ ต้องรอเช็คความฟิตกันก่อน เชื่อว่า ชวาร์ซ จะเลือกจัดทัพในระบบ 4-3-3 นำทีมมาโดย โบเต้ บากู, ฌอง โบตุส, คาริม โอนิซิโว่ เเละ อเล็กซานดรู มักซิม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไมนซ์ (4-3-3) : ฟลอเรียน มุลเลอร์ - ดาเนี่ยล โบรซินสกี้, สเตฟาน เบลล์, มุสซ่า เนี๊ยคอาเต้, อารอน มาร์ติน - โบเต้ บากู, เอดิมิลสัน เเฟร์นานเดส, เเดนนี่ ลัตซ่า - ฌอง โบตุส, คาริม โอนิซิโว่, อเล็กซานดรู มักซิม

      ซาสช่า ฮิลด์มันน์ นายใหญ่ของ ไกเซอร์ฯ มีรายงานตัวเจ็บอยู่ 5 ราย ได้แก่ อังดรี บียาร์นาสัน (3 นัด), ดีลาน เอสเมล, ลูคัส ก็อตต์วัลต์, ลูคัส สปาลวิส เเละ จาเน็ค สเติร์นเบิร์ก คาดว่า ฮิลด์มันน์ จะวางหมากสู้ศึกในระบบ 4-1-4-1 โดยจะมี ฟลอเรียน พิค (4 นัด / 4 ประตู) แนวรุกฟอร์มแรง ลงนำทัพ

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไกเซอร์ฯ (4-1-4-1) : เลนนาร์ต กริลล์ - โดมินิค ชาด, คาร์โล ซิคคินเกอร์, โจเซ่ มาตูวิล่า, ฟิลิปป์ เฮอร์เชอร์ - จานิค บัคมันน์ - คริสตอฟ เฮมเลน, คริสเตียน คูห์ลเว็ตเตอร์, มานเฟร็ด สตาร์ค, ฟลอเรียน พิค - ติมมี่ ไธเล่

      ปีเตอร์ บอสซ์ เฮ้ดโค้ชของ เลเวอร์คูเซ่น จะหมดสิทธิ์ใช้งาน ลาร์ส เบนเดอร์, โจเอล โปห์ยานปาโล รวมไปถึง มิตเชลล์ ไวเซอร์ ที่กอดคอกันเดี้ยงอยู่ คาดว่าเกมนี้ บอสซ์ จะวางหมากมาในระบบ 3-2-4-1 โดยจะมี คาริม เบลลาราบี กับ เวนเดลล์ ประจำการเป็น "วิงค์แบ็ค" ทางขวาและซ้าย ตามลำดับ

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เลเวอร์คูเซ่น (3-2-4-1) : ลูคัส ฮราเด็คกี้ - ติน เยดวาย, สเวน เบนเดอร์, โจนาธาน ตาห์ - จูเลี่ยน บอมการ์ตลิงเกอร์, ชาร์ล อารานกูอิซ - คาริม เบลลาราบี, ไค ฮาร์แวร์ซ, คาริม เดมีร์บาย, เวนเดลล์ - เควิน โฟลลันด์

      ฟูอัต คิลิช เทรนเนอร์ของ อาเค่น จะไร้เงาของ ไค โบซิง เเละ ชาน ออซคาน ที่โดนอาการเจ็บเล่นงาน เเต่กำลังรบที่เหลือพร้อมลุยกันอยู่นานเเล้ว เชื่อว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง จะประกอบไปด้วย ริคโก้ ไซเมอร์ (2 นัด), อเล็กซานเดอร์ ไฮน์เซ่ (2 นัด / 1 ประตู), ดาวิด พุตซ์ (2 นัด) เเละ แกรี่ โนเอล (2 นัด)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
อาเค่น (4-2-3-1) : ริคโก้ ไซเมอร์ - มัตติ ฟีดเลอร์, อเล็กซานเดอร์ ไฮน์เซ่, ปีเตอร์ ฮัคเคนเบิร์ก, อังเดร วัลเลนบอร์น - ดาวิด พุตซ์, พาทริค ซาลาต้า - เซบาสเตียน ชมิตต์, สติเป้ บาตาริโอ-เซอร์ดิค, โรบิน การ์นิเย่ร์ - แกรี่ โนเอล

      ดาวิด ว้ากเนอร์ เทรนเนอร์ของ ชาลเก้ จะไม่มีชื่อของ โจนาส คาร์ลส์, โอซาน คาบัค, แร็บบี้ มาตอนโด้, อาลิฟ ซาเน่, อเลสซานโดร ช็อป เเละ มาร์ก อูธ ที่กอดคอกันบาดเจ็บ เชื่อว่า ว้ากเนอร์ จะจัดทัพในระบบ 4-2-2-2 โดยจะมี กุยโด้ บวร์กสตัลเลอร์ กับ อาห์เม็ด คูตูกู ยืนเป็นกองหน้าคู่กันในแดนบน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ชาลเก้ (4-2-2-2) : อเล็กซานเดอร์ นูเบิ้ล - จอนโจ เคนนี่, บ็องฌาเเม็ง สตอมบูลี่, มาติย่า นาสตาซิช, บาสเตียน อ็อคซิปก้า - ซูอัต เซอร์ดาร์, เวสตัน เเม็คเคนนี่ - อามีน ฮาริต, สตีเว่น สเคอร์ซิบสกี้ - กุยโด้ บวร์กสตัลเลอร์, อาห์เม็ด คูตูกู

       ลาร์ส อูแดร์ ผู้จัดการทีมของ ดรอชเตอร์เซ่น มีลิสต์ลูกทีมเดี้ยงอยู่ 4 คน คือ ฮัสซาน เอล ซาเลห์, จาสเปอร์ กูสเซ่น, ติลล์ เฮอร์มานดุง เเละ สเวน ซอปฟ์เกน ส่วนในรายของ ซุง ฮยาน จุง แนวรุกชาวเกาหลีใต้ ติดปัญหาส่วนตัวลงสนามไม่ได้แน่ แต่สำหรับ อเล็กซานเดอร์ นอยมันน์ (3 นัด) พร้อมล่าตาข่าย

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ดรอชเตอร์เซ่น (5-4-1) : พาทริค ซีฟเคส - แอชตัน ก็อตซ์, เลียม กิวาห์, นิโก้ ฟอน เดอร์ รีธ, โซเรน เบห์รมานน์, จานเนส เอลเฟอร์ส - จาน เอเดลิ่ง, มาร์เซล อันดริยานิช, โอลิเวอร์ โยอันนู, อเล็กซ์ เชฮาด้า - อเล็กซานเดอร์ นอยมันน์

      คริสเตียน สไตรช์ เฮ้ดโค้ชของ ไฟร์บวร์ก มีลิสต์ลูกทีมบาดเจ็บหลายราย ไล่มาตั้งเเต่ มาร์ค เฟล็คเค่น, จานิค ฮาเบเรอร์, จานลูก้า อิตเตอร์, ฟลอเรียน คาธ, ติม ไคลน์เดี้ยนส์, ลูคัส คุบเลอร์, ชาง ฮุน ควอน เเละ มาร์โก เตอร์ราซซิโน่ คาดว่า จานลูก้า วัลด์ชมิดท์ เเละ นีลส์ พีเตอร์เซ่น จะลงผลิตสกอร์

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไฟร์บวร์ก (4-2-2-2) : อเล็กซานเดอร์ ชโวลอฟ - โฌนาต็อง ชมิด, ฟิลิปป์ ไลน์ฮาร์ต, โดมินิค ไฮน์ซ, คริสเตียน กุนเตอร์ - นิโคลัส ฮอฟเลอร์, ไมค์ ฟร๊านซ์ - แบรนดอน บอร์เรลโล่, วู ยอง จอง - จานลูก้า วัลด์ชมิดท์, นีลส์ พีเตอร์เซ่น

      สเตฟาน คราเมอร์ กุนซือของ มักเดบวร์ก จะไร้เงาของ ดุสติน บอมฮอยเออร์ กับ ซีร์ลอร์ด คอนเตห์ (1 นัด) ที่ควงเเขนกันเดี้ยงอยู่ แต่ขุมกำลังที่เหลือพร้อมลุยกันทุกคน เชื่อว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง จะนำทีมมาโดย มานเฟร็ด โอไซ-ควัดโว่, มาริโอ คเวซิช, โซเรน เบอร์ตรัม เเละ คริสเตียน เบ็ค

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
มักเดบวร์ก (4-2-3-1) : อเล็กซานเดอร์ บรุนส์ - โดมินิค เเอร์นส์, เจอร์เก้น กาซูล่า, โตเบียส มุลเลอร์, ติโม เพอร์เธล - ชาร์ลส์ ลาเปรว็อตเต้, โธเร่ จาค็อบเซ่น - มานเฟร็ด โอไซ-ควัดโว่, มาริโอ คเวซิช, โซเรน เบอร์ตรัม - คริสเตียน เบ็ค

      อัลเฟร็ด ชรอยเดอร์ กุนซือของ ฮอฟเฟ่นไฮม์ จะไร้เงาของ ซาร์กิส อดัมยาน, เลออน บิตเตนคอร์ต เเละ อังเดรย์ ครามาริช ที่โดนโรคเดี้ยงเข้าครอบงำ คาดว่า ชรอยเดอร์ จะวางหมากเกมนี้ในระบบ 3-4-1-2 โดยจะวาง เดนนิส ไกเกอร์ เป็น "จอมทัพ" ยืนหลังคู่กองหน้าอย่าง อีห์ลาส เบบู กับ วินเชนโซ่ กริโฟ่

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฮอฟเฟ่นไฮม์ (3-4-1-2) : โอลิเวอร์ เบามันน์ - สเตฟาน พอช, เควิน โฟ้กท์, เบนจามิน ฮุบเนอร์ - พาเวล คาเดราเบ็ค, เซบาสเตียน รูดี้, ฟลอเรียน กริลลิตช์, สตีเว่น ซูเบอร์ - เดนนิส ไกเกอร์ - อีห์ลาส เบบู, วินเชนโซ่ กริโฟ่

      มิคาเอล ไชเล่ เทรนเนอร์ของ วูร์ซบูร์กฯ มีรายงานนักเตะเจ็บอยู่ 3 คน คือ พาทริค บริตคร๊อยซ์ (3 นัด), มักซิมิเลี่ยน บรอยนิก เเละ นิโก้ สเตฟาน เชื่อว่า ไชเล่ เตรียมลุยด้วยระบบ 3-4-2-1 โดยจะมี ดาเนี่ยล ฮาเกเล่ (4 นัด), พาทริค ซอนไธเมอร์ (4 นัด) และ ลูก้า ไฟฟ์เฟอร์ (4 นัด / 2 ประตู) พาเหรดกันลงสนาม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
วูร์ซบูร์กฯ (3-4-2-1) : เอริค เฟอร์สแท็พเพ่น - ไลออน ชเวียร์ส, ดาเนี่ยล ฮาเกเล่, เซบาสเตียน ชุพพาน - ลุค เฮมเมริช, พาทริค ซอนไธเมอร์, เดฟ จีนาเซ่, แฟร้งค์ รอนสตัดต์ - ฟาบิโอ เคาฟ์มันน์, อัลบิออน วเรเนซี่ - ลูก้า ไฟฟ์เฟอร์

      มาร์ติน ชมิดต์ นายใหญ่ของ เอ๊าก์สบวร์ก มีลิสต์ลูกทีมเจ็บถึง 9 ราย ไล่มาตั้งเเต่ เซร์กิโอ กอร์โดบา, อัลเฟร็ด ฟินน์โบกาสัน, ราฟาเอล ฟรามเเบร์เกอร์, เฟลิกซ์ เกิตเซ่, เจฟเฟรย์ กูเวลูว์, ยาโก้, ฟิลิปป์ มักซ์, ยาน โมราเว็ค เเละ รูเบน วาร์กาส ทำให้ต้องหวังพึ่ง ฟลอเรียน นีเดอร์เล็ชเนอร์ ในการจบสกอร์

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เอ๊าก์สบวร์ก (4-3-3) : โตมาส คูเบ็ค - จอร์ก ไตเกิ้ล, มาเร็ค ซูชี่, ไรเดอร์, มัดส์ พีเดอร์เซ่น - คาร์ลอส กรูเอโซ่, มิคาเอล เกรกอริตช์, ดาเนี่ยล เบเยอร์- อังเดร ฮาห์น, ฟลอเรียน นีเดอร์เล็ชเนอร์, มาร์โก ริชเตอร์

      กูเอริโน่ คาเพร็ตติ ผู้จัดการทีมของ เวิร์ล จะขาดหายไปเพียงเเค่ เฮนดริค โลห์มาร์ กองกลางวัย 23 ปี คนเดียวเท่านั้น ที่ต้องพักรักษาตัวอยู่ แต่ขุมกำลังที่เหลือพร้อมลุยเพื่อต้นสังกัดกันทั้งหมด คาดว่า คาเพร็ตติ จะวางหมากในระบบ 4-3-3 นำทีมมาโดย อายกุน ยิลดิริม (2 นัด) แนวรุกวัย 24 ปี ชาวตุรกี

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เวิร์ล (4-3-3) : โรบิน บรูเซเก้ - พาทริค โคห์โรบา, ดาเนี่ยล มิคิช, จูเลี่ยน สต็อคเนอร์, ลาร์ส ริตซ์ก้า - เมห์เหม็ด คูร์ต, รอน ชาลเลนเบิร์ก, จาน ช็อพพ์เนอร์ - นิโก้ เฮ็คเกอร์, มัตเธียส แฮเดอร์, อายกุน ยิลดิริม

      ซิลาส กุนซือของ เบเลเนนเซส มีรายชื่อลูกทีมเดี้ยงในมืออยู่ 6 ราย ไล่มาตั้งเเต่ กิกี้ อัลฟองโซ่, อัลอาสซาเน่ เกอิต้า, กอนชาโล่ ตาวาเรส, คูอาคู เเอร์เว่ คอฟฟี่, นิโคลัส เวเลซ เเละ นูโน่ โคเอลโญ่ เชื่อว่า ซิลาส จะส่ง ซิมอน รามิเรซ ลงในแนวรับแทน กอนชาโล่ ตาวาเรส ส่วนในแนวรุกจะมี กิกาส เหมือนเดิม

      อันโตนิโอ ฟอลญ่า เฮ้ดโค้ชของ ปอร์ติมอเนนเซ่ จะไร้เงาของ มาร์เซล ที่เดินเข้าออกโรงพยาบาลอยู่ ส่วนในรายของ เปาลินโญ่ กองกลางตัวเก่ง ต้องรอเช็คฟิตหน้างานกันก่อนอีกครั้ง คาดว่าเกมนี้ โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง จะประกอบไปด้วย โกกิ อันไซ, เปโดร ซา, บรูโน่ ตาบาต้า รวมไปถึง อิลตัน บัว มอร์เต้

      คริสเตียน นีลเซ่น เฮ้ดโค้ชของ ลิงบี้ ไม่มีปัญหาใดในการวางหมาก เพราะสภาพความพร้อมของเหล่าตัวหลักสมบูรณ์ดี 100% เชื่อว่า นีลเซ่น คงไม่คิดอะไรเยอะแค่ก็อปปี้ 11 ขุนพลจากเกมที่เปิดบ้านชนะ อาร์ฮุส 2-1 มาใช้บริการต่อก็พอ โดยจะมี เฟรเดริค กิตชาร์ (4 นัด / 4 ประตู) ยืนเป็นหน้าเป้า

      สตาเล่ โซลบัคเค่น นายใหญ่ของ โคเปนเฮเก้น เหลือลิสต์ลูกทีมเดี้ยงในมืออีก 3 คน คือ สเตฟาน อันเดอร์เซ่น, นิโคไล บอยเลเซ่น เเละ โรเบิร์ต มูดราซิย่า ส่วนในรายของ ราสมุส ฟอล์ค (3 นัด) กับ ปิเอรอส โซเตริอู (2 นัด) ต้องเช็คความฟิตกันก่อน แต่สำหรับ ดาเม่ เอ็นโดเย่ (4 นัด / 4 ประตู) ฟิตเต็มถัง

      โธมัส โธมัสเบิร์ก เทรนเนอร์ของ แรนเดอร์ส จะไร้เงา ไซมอน ไพซินเกอร์ (3 นัด) ห้องเครื่องวัย 27 ปี ที่โดนโทษห้ามเเข่ง แต่จะเป็นเพียงคนเดียวเท่านั้นที่หายหน้าไป คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง จะนำทีมมาโดย เอริค มาร์เซ่น (4 นัด), อังเดร โรเมอร์ (3 นัด / 1 ประตู) เเละ เอมิล ไรส์ (4 นัด / 1 ประตู)

      ยาค็อบ มิเคลเซ่น ผู้จัดการทีมของ โอเดนเซ่ เตรียมจัดทัพมาในระบบ 3-5-2 ดังเก่า และน่าจะเป็นชุดเดียวกับที่บุกชนะ เอสเบิร์ก 1-0 เพราะลูกทีมทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยมเเล้ว นั่นหมายความว่า บาชคิม คาดรี้ (4 นัด / 2 ประตู) กับ ซานเดอร์ สเวนด์เซ่น (3 นัด / 3 ประตู) จะควงเเขนกันเป็นกองหน้าคู่กัน

      ลูเซียน ฟาฟร์ นายใหญ่ของ ดอร์ทมุนด์ จะไม่มีชื่อของ มาเต้ โมเรย์ ที่ยังสลัดคราบเดี้ยงไม่ได้ ส่วนในรายของ จูเลี่ยน บรันด์, โรมัน บูร์กี เเละ ธอร์แกน อาซาร์ ต้องรอเช็คความฟิตกันอีกครั้ง เชื่อว่า ฟาฟร์ จะปรับระบบมาใช้ 4-2-3-1 แทนแผนเดิม 4-4-2 ที่เอาชนะ บาเยิร์น 2-0 ได้ ในศึกเยอรมัน ซูเปอร์ คัพ

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ดอร์ทมุนด์ (4-2-3-1) : มาร์วิน ฮิตซ์ - อาชรัฟ ฮาคิมี่, มานูเอล อคานยี่, มัตส์ ฮุมเมลส์, นิโก้ ชูลซ์ - อั๊กเซล วิตเซล, โธมัส เดอลานี่ย์ - ยาดอน ซานโช่, มาร์โก รอยส์, ราฟาเอล เกร์เรโร่ - ปาโก้ อัลกาเซร์

      ไฮโก้ โฟเกล เฮ้ดโค้ชของ อัวร์ดินเกน มีรายงานตัวเจ็บอยู่ 4 ราย ได้แก่ เดนนิส เดาเบ้ (3 นัด), อาเดรียโน่ กริมัลดี้, โดมินิค มาโรห์ เเละ สเตฟาน อิ๊กเนอร์ (2 นัด) แต่ตัวสำคัญคนอื่นๆ พร้อมรับใช้ต้นสังกัดกันทั้งหมด เชื่อว่า เควิน กรอสส์คร๊อยซ์ (4 นัด) เเละ ยาน เคิร์ชฮอฟฟ์ (1 นัด) จะเดินนำทัพลงสู่สนาม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
อัวร์ดินเกน (4-1-4-1) : ลูคัส โคนิกโชเฟอร์ - เควิน กรอสส์คร๊อยซ์, อาสซานี่ ลูคิมย่า, อันเดรียส แม็กซ์โซ่, คริสเตียน ดอร์ด้า - ยาน เคิร์ชฮอฟฟ์ - บูบาการ์ เเบร์รี่, เซลิม กุนดุซ, โรเเบร์โต้ โรดริเกวซ, พาทริค พลุคเก้ - แฟร้งค์ เอวิน่า

      มาร์โก โรเซ่ เทรนเนอร์ของ กลัดบัค มีรายงานลูกทีมเดี้ยงเข้ามา 6 ราย ได้แก่ โตนี่ ยานช์เก้, คริสตอฟ คราเมอร์, ตอร์เบน มูเซล, ลาร์ส สตินเดิ้ล, อิบราอิม่า ตราโอเร่ เเละ ฆูลิโอ บิญาลบา คาดว่า โรเซ่ จะวางหมากมาในระบบ 4-3-3 นำทีมมาโดย โตเบียส สโตรเบิ้ล, โยนาส ฮอฟมันน์ และ ฟลอเรียน นอยเฮ้าส์

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
กลัดบัค (4-3-3) : ยานน์ ซอมเมอร์ - สเตฟาน ไลเนอร์, มัตเธียส กินเตอร์, นิโก้ เอลเวดี้, ออซการ์ เวนด์ - เดนิส ซากาเรีย, โตเบียส สโตรเบิ้ล, โยนาส ฮอฟมันน์ - มาร์กุส ตูราม, ฟลอเรียน นอยเฮ้าส์, อาลาสซาเน่ เปลีย

      อูเว่ คอสชินัต กุนซือของ ซานด์เฮาเซ่น มีลิสต์นักเตะเจ็บ 6 คน ไล่มาตั้งเเต่ จูเลียส บิยาด้า, อาซิซ บูฮัดดูซ, โซเรน ดี๊คมันน์, โรมัน ฮุค, มาร์คุส คาร์ล และ ทิม คิสเตอร์ เชื่อว่า คอสชินัต จะยังมั่นใจในระบบ 4-2-3-1 อย่างเก่า โดยจะมี รูริค กิสลาสัน (2 นัด) หัวหอกชาวไอซ์เเลนด์ ยืนค้ำเป็นศูนย์หน้าตัวเป้า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ซานด์เฮาเซ่น (4-2-3-1) : มาร์ติน ไฟรเซิ่ล - เดนนิส เดี๊ยคไมเออร์, เกอร์ริต เนาเบอร์, อเล็กซานเดอร์ ซิห์รอฟ, ลาร์ต ปาคาราด้า - อีวาน เปาเรวิช, เอริค เซนก้า - เควิน เบห์เรนส์, ฟิลิปป์ ฟอร์สเตอร์, มาริโอ อังเกลส์ - รูริค กิสลาสัน

      บอริส ชอมเมอร์ส ผู้จัดการทีมของ เนิร์นแบร์ก จะไม่มีชื่อของ อเล็กซานเดอร์ ฟุคส์, เควิน โกเดน, เฟอร์กิล มิซิดยาน, ฟาเบียน ชลอยเซเนอร์ และ อดัม เซรลัค ที่ควงเเขนกันเดี้ยงอยู่ เชื่อว่า ชอมเมอร์ส จะส่ง มาเธเนีย (2 นัด), ฮันโน่ เบห์เรนส์ (2 นัด) เเละ มิคาเอล อิชัค (2 นัด) ออกสตาร์ทตั้งเเต่นาทีเเรก

      เจฟฟ์ ไซบีน นายใหญ่ของ อินกอลสตัดท์ จะไร้เงาของ มิคาเอล เฮนล็อธ (2 นัด) แนวรับวัย 27 ปี ที่โดนอาการเจ็บเล่นงาน แต่ขุมกำลังรายอื่นๆ พร้อมรับใช้ต้นสังกัดกัน คาดว่า โธมัส เคลเลอร์ (3 นัด), จอร์จอส พินติดิส (3 นัด), พาทริค ซุสเซ็ค (4 นัด) เเละ สเตฟาน คุตช์เก้ (4 นัด / 3 ประตู) จะลงตัวจริง

      พาเวล เวอร์บา นายใหญ่ของ วิคตอเรีย เพลเซ่น ก็ไม่มีปัญหาอะไรในการจัดทัพ เพราะสภาพความพร้อมของตัวหลักสมบูรณ์ดี 100% คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง จะประกอบไปด้วย อาเลส ฮรุสก้า (4 นัด), ยาคุบ บราเบ็ค (4 นัด / 1 ประตู), ยาน โคปิช (4 นัด / 2 ประตู) และ มิชาล เคอร์เมนชิค (4 นัด / 2 ประตู)

      ลาสซโล โบโลนี่ กุนซือของ อันต์เวิร์ป เตรียมวางหมากในระบบ 4-2-3-1 ตามที่ทีมถนัด และน่าจะเป็นชุดปัจจุบันที่ใช้บริการอยู่ด้วย นั่นหมายความว่า อับดูลาเย่ เซ็ค (2 นัด) จะลงคุมเกมรับ, ลิออร์ เรฟาเอลอฟ (2 นัด / 2 ประตู) ยืนเป็นเพลย์เมกเกอร์ เเละ ดิอูเเมร์ซี่ เอ็มโบคานี่ (2 นัด / 4 ประตู) คอยจบสกอร์

      เซอร์เกน ยัลชิน เฮ้ดโค้ชของ เยนี่ มาลัตยาสปอร์ เตรียมส่งลูกทีมเซ็ตเดิมจากรอบก่อนที่บุกชนะ โอลิมปิย่า 1-0 มาลงบู๊กันแบบต่อเนื่อง เพราะลูกทีมทำหน้าที่กันได้โอเคเเล้ว นั่นหมายความว่า ฟาบิยง ฟาร์โนเญ่, อาร์ตูโร่ มีน่า, มูรัต ยิลดิริม, อาดิส ยาโฮวิช, ธิเอวี่ บิฟูม่า เเละ โมรีเก้ โฟฟาน่า จะอยู่กันครบ

      ซาโว มิโลเซวิช เทรนเนอร์ของ ปาร์ติซาน น่าจะมีการปรับทัพเล็กน้อยจาก 11 ขุนพลชุดที่ลุยในเกมลีกนัดล่าสุด เพราะ มิโลเซวิช เลือกเก็บตัวหลักไว้เพื่อลุยในบอลยุโรป โดยเฉพาะในรายของ อูมา ซาดิก (2 นัด) หัวหอกชาวไนเจีย น่าจะออกสตาร์ทเป็นตัวจริง เคียงข้างกับ ฟิลิป สเตวาโนวิช (2 นัด / 2 ประตู)

      เยสส์ โธรุป เทรนเนอร์ของ เกนท์ เตรียมเรียกตัว ยูยะ คุโบ (1 นัด) ดาวเตะชาวญี่ปุ่นกลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง หลังจากที่เป็นเพียงเเค่ตัวสำรองในเกมลีกนัดที่ผ่านมา คาดว่า โธรุป จะจัดทัพมาในระบบ 4-3-3 โดยจะมี "สามตัวบน" อย่าง คุโบ, โรมัน ยาเรมชุค (2 นัด / 1 ประตู) เเละ โจนาธาน ดาวิด (2 นัด / 1 ประตู)

      อิมานอล อิดิอาเคซ กุนซือของ ลาร์นาก้า ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่ต้องปรับทีม เนื่องจากเกมที่บุกชนะ เลฟสกี้ โซเฟีย 4-0 นั้น ลูกทีมทุกคนทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยมอยู่เเล้วนั่นเอง เชื่อว่า อีวาน ตริชคอฟสกี้ จอมทัพชาวนอร์ธ มาซิโดเนีย ที่กดคนเดียว 4 ตุงในเกมดังกล่าว จะลงประจำการเป็นตัวหลักในแนวรุกดังเดิม

      มิเกล คาร์โดโซ่ ผู้จัดการทีมของ เออีเค เอเธนส์ น่าจะต้องยึดโครงสร้างหลักของทีมจากฤดูกาลที่เเล้วไปก่อน จึงจะค่อยๆ ปรับจูนทีมไปเรื่อยๆ นั่นหมายความว่า วาซิไลออส บาร์คาส, ดมีโตร ชีกรินสกี้, เปตรอส มานดาลอส, อังเดร ซิโมเอส รวมไปถึง มาร์โก ลิวาย่า จะได้ออกสตาร์ทช่วยต้นสังกัดในนัดนี้

      คอร์เนลิอู ปาปูร่า เฮ้ดโค้ชของ ไครโอว่า จะหมดสิทธิ์ใช้งาน นิคูออร์ บานคู (4 นัด) แบ็คซ้ายตัวแกร่งของทีม เนื่องจากติดโทษเเบนจากการสะสมใบเหลือง นั่นเป็นจุดที่ ปาปูร่า ต้องแก้ปัญหาในทันที ส่วนในแนวรุกไม่มีตัวสำคัญๆ ขาดหาย ยังคงมี คาร์ลอส ฟอร์เตส (3 นัด) เป็นตัวความหวังเหมือนเดิม

      โอเล็ก โคโนนอฟ เทรนเนอร์ของ สปาร์ตัก มอสโก เตรียมจัดทัพมาสู้ในระบบ 4-2-3-1 เช่นกัน เเละน่าจะเป็นชุดเดียวกับเกมลีกที่เปิดบ้านเสมอ ดินาโม มอสโก 0-0 เพราะนักเตะทำตามเเท็กติกที่วางไว้โอเคเเล้ว นำทีมมาโดย อเล็คซานเดอร์ ตาชาเยฟ (3 นัด), ยาโน่ อานานิดเซ่ (3 นัด) และ เอเซเกล ปอนเซ่ (4 นัด)

      มาร์ค ชไนเดอร์ ผู้จัดการทีมของ เอฟซี ธูน มีรายงานตัวเจ็บอยู่ 3 ราย ได้แก่ เกรกอรี่ คาร์แลน, เดนนิส เฮดิเกอร์ และ นิโน่ ซิสวิเลอร์ คาดว่า เอฟซี ธูน จะวางหมากในระบบ 4-2-3-1 โดยจะมี นิโคล่า ซุตเตอร์ (3 นัด), บาซิล สติลล์ฮาร์ต (3 นัด / 1 ประตู) และ ซิโมเน่ แร็ปป์ (3 นัด / 2 ประตู) พาเหรดกันลงสนาม

      อาดี้ ฮุตเตอร์ นายใหญ่ของ แฟร้งค์เฟิร์ต จะไร้เงาของ อันเต้ เรบิช หัวหอกตัวเก่ง ที่โดนอาการเจ็บเล่นงาน แต่ตัวหลักๆ ที่เหลือพร้อมลุยกันอยู่นานเเล้ว คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง จะประกอบไปด้วย อีวาน เอ็นดิ๊คก้า, มาโกโตะ ฮาซาเบะ, แดนนี่ ดา คอสต้า, ฟิลิป คอสติช และ กอนชาโล่ ปาซิเอนเซีย

      มาริโอ ฟริค ผู้จัดการทีมของ วาดุซ งานเข้าซะเเล้ว เมื่อจะหมดสิทธิ์ใช้บริการของ จานนี่ อันโตนิอาซซี่ (1 นัด) กับ มานูเอล ซุตเตอร์ (3 นัด / 1 ประตู) ที่กอดคอกันติดโทษแบน นั่นทำให้ ฟริค ต้องปรับทัพในทันที แต่ยังพอมีข่าวดีอยู่บ้าง เพราะ ตูนาฮาน ชิเช็ค (3 นัด / 1 ประตู) ฟิตเต็มสูบ พร้อมลงล่าตาข่าย

      เปโดร มาร์ตินส์ เทรนเนอร์ของ โอลิมเปียกอส จะไร้เงาของ ลาซารอส คริสโตดูโลปูลอส กับ คอนสแตนตินอส ฟอร์ตูนิส ที่ควงเเขนกันเดี้ยงยาวอยู่ เชื่อว่า มาร์ตินส์ จะเลือกใช้ 11 ตัวจริงมาจากเกมที่เปิดบ้านชนะ วิคตอเรีย เพลเซ่น 4-0 เพราะลูกทีมทำหน้าที่กันดีเเล้ว นำทีมมาโดย ดาเนี่ยล โปเดนเช่

      โอคาน บุรุค กุนซือของ อิสตันบูล บาซัคเซฮีร์ จะขาดหายไปเพียงเเค่ อเล็กซานดรู เอปูเรอานู ปราการหลังทีมชาติมอลโดว่า ที่มีอาการเจ็บเข่ารบกวน คาดว่า บุรุค จะเลือกใช้แกนหลักจากปีก่อนลงบู๊ในเกมนี้ ไล่มาตั้งเเต่ ชาเอล กลิชี่, โกคาห์น อินเเลร์, เอดิน วิสก้า, อาร์ด้า ตูราน รวมไปถึง โรบินโญ่

      เเซร์โจ้ คอนไซเซา เฮ้ดโค้ชของ ปอร์โต้ จะไม่มีชื่อของ ดีโอโก้ คอสต้า กับ มามาดู ลุม ที่โดนไข้เดี้ยงเข้าครอบงำ เชื่อว่า คอนไซเซา คงยึดตัวหลักๆ จากซีซั่นที่เเล้วให้มาช่วยทีมเหมือนเก่าไปก่อน โดยจะมี เปเป้ ลงคุมเกมรับ, โอตาวินโญ่ คอยสร้างสรรค์เกมรุกตรงกลาง เเละ มุสซ่า มาเรก้า คอยจบสกอร์

      มูรัด มูซาเยฟ ผู้จัดการทีมของ คราสโนดาร์ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน ยูริ กาซินสกี้ เเละ วิคตอร์ คลาเอสสัน ที่ควงเเขนกันเข้าออกโรงหมออยู่ แต่ขุมกำลังที่เหลือพร้อมรับใช้ต้นสังกัดกันทั้งหมด คาดว่า มูซาเยฟ จะจัดทัพในระบบ 4-3-3 โดยจะวาง อาริ (4 นัด) ยืนเป็นศูนย์หน้าตัวเป้า คอยพักบอลในแดนบน

      ฟาติห์ เตริม กุนซือของ กาลาตาซาราย จะหมดสิทธิ์ใช้งาน เซเนอร์ ออซบายรัคลี กับ เอมเร่ อัคบาบา ที่ควงเเขนกันเดี้ยงอยู่ ส่วนในรายของ โซฟียาน เฟกูห์ลี่ และ เอ็มบาย ดิอาเญ่ ได้พักต่อ เนื่องจากเพิ่งเสร็จภารกิจรับใช้ทีมชาติ แต่ข่าวดีที่มีเข้ามาคือ ไรอัน ด็องค์ พร้อมลงตัดเกมในแดนกลางเพื่อทีมเเน่นอน

      เมห์เหม็ด อัลติปาร์มัค นายใหญ่ของ อัคฮีซาร์สปอร์ จะขาดหายไปเพียงเเค่ ฮัสซาน อาลี อาดิกูเซล กองกลางวัย 19 ปี ที่ต้องพักรักษาตัวกันต่อ แต่กำลังรบคนอื่นๆ ฟิตเต็มสูบกันทั้งหมด เชื่อว่าเกมนี้ ราย์โก้ ร็อตมัน, มูซ่า นิซัม, เอราย อาตาเซเว่น และ อายคุต เชวิเกอร์ จะได้โอกาสพาเหรดกันลงสนาม

      เคลาดิเนีย โอลิเวียร่า ผู้จัดการทีมของ โกยาส คงต้องมานั่งคิดปรับหมากกันเยอะพอสมควร เนื่องจากลูกทีมเล่นกันได้ไม่ดีเอาซะเลยในช่วงนี้ โดยบรรดาตัวสำรองอย่าง โจวานนี่ ออกุสโต้ (11 นัด) เเละ มาร์ซินโญ่ (3 นัด) อาจจะมีลุ้นออกสตาร์ทตัวจริงบ้าง แต่สำหรับ คายเก้ (12 นัด / 6 ประตู) คงต้องลงเล่นต่อ

      ฟาบิโอ คาริเญ่ เฮ้ดโค้ชของ โครินเธี่ยนส์ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน รามิโร่ (7 นัด) กับ กุสตาโว่ (4 นัด) ที่ยังสลัดอาการเดี้ยงไม่ได้ แต่คงไม่น่าจะมีผลอะไรในการจัดทัพ เพราะ คาริเญ่ คงเลือกใช้ผู้เล่นชุดปัจจุบันแน่นอน เนื่องจากกำลังเข้าขากันดี โดยจะมี ว้ากเนอร์ เลิฟ (10 นัด / 2 ประตู) ยืนค้ำเป็นกองหน้าตัวเป้า

      จอร์จี้ ทีเชียบริชวิลี่ นายใหญ่ของ ซาบูร์ตาโล่ มีลิสต์ลูกทีมเดี้ยงอยู่ 3 ราย ได้แก่ ว๊ากเนอร์ กอนชาลเวส (10 นัด / 1 ประตู), อัลวิน เตร่า (11 นัด) เเละ อินเตอร์ส กุย (10 นัด) ส่วนในรายของ ลาช่า ชินดาโกริดเซ่ ไม่ได้อยู่กับทีมอีกเเล้ว ทำให้ภาระการพังประตูตกไปอยู่กับ ออจ์นเย่น โรโววิช (19 นัด / 6 ประตู)

      วาร์ดาน มินาสยาน เทรนเนอร์ของ อารารัต-อาร์เมเนีย ไม่มีปัญหาใดในการจัดทัพ เพราะบรรดาตัวหลักฟิตสมบูรณ์กันดี 100% เชื่อว่า มินาสยาน จะเลือกก็อปปี้ 11 ขุนพลมาจากเกมที่บุกชนะ ลินคอล์น เร้ด อิมป์ส 2-1 มาใช้บริการกันต่อ โดยจะมี ลุยส์ โอชาน่า ศูนย์หน้าชาวไนจีเรีย เป็นตัวทีเด็ดในแนวรุก

      สตาเล่ โซลบัคเค่น เฮ้ดโค้ชของ โคเปนเฮเก้น จะหมดสิทธิ์ใช้งาน อันเดรียส เบลลันด์ (2 นัด), สเตฟาน อันเดอร์เซ่น, นิโคไล บอยเลเซ่น เเละ โรเบิร์ต มูดราซิย่า ที่ยังเดี้ยงอยู่ ส่วนในรายของ ราสมุส ฟอล์ค (3 นัด) กับ ปิเอรอส โซเตริอู (2 นัด) ต้องเช็คฟิตก่อน แต่สำหรับ ดาเม่ เอ็นโดเย่ (4 นัด / 4 ประตู) พร้อมลุยเเน่

      วลาดาน มิโลเยวิช กุนซือของ เซอร์เวน่า ซเวซด้า จะไม่มีชื่อของ บรานโก้ โยวิซิช (1 นัด / 1 ประตู) กับ โตมาเน่ ที่กอดคอกันบาดเจ็บ แต่กำลังรบที่เหลือพร้อมลุยชัวร์ คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง จะประกอบไปด้วย เนมานย่า มิลูโนวิช (1 นัด), กาญาส (1 นัด) รวมไปถึง เอล เบน นาบูอาเน่ (2 นัด / 2 ประตู)

      อเล็กซานเดอร์ คัตห์สเควิช นายใหญ่ของ ดินาโม เคียฟ มีรายงานตัวเจ็บเข้ามา 4 คน คือ ซิดเคลย์, มิคเคล ดูเอลุนด์, ไมโคล่า ชาปาเรนโก้ เเละ เฮโอไฮ ซิตาอิชวิลี่ คาดว่า คัตห์สเควิช จะวางหมากมาในระบบ 4-2-3-1 โดยจะมี โวโดไดไมร์ เชเปเลฟ (2 นัด) ยืนหน้าต่ำเเละ อาร์เต็ม เบเซดิน (2 นัด / 1 ประตู) ยืนหน้าเป้า

      ฟิลิปเป้ เกลม็องต์ ผู้จัดการทีมของ คลับ บรูซ จะไร้เงาของ เครแป็ง ดิอัตต้า แนวรุกดาวรุ่ง ที่โดนอาการเดี้ยงเล่นงาน แต่ไม่น่าจะใช่ปัญหาอะไร เพราะ เกลม็องต์ คงเลือกใช้ 11 ขุนพลชุดปัจจุบันที่ฟอร์มดีเเล้วลุยต่อ นำทีมมาโดย ดาวิด โอเคเรเก้ (2 นัด / 3 ประตู) หัวหอกชาวไนจีเรีย ที่กำลังฟอร์มร้อนแรงเลย

      ทิม วอลเตอร์ เทรนเนอร์ของ สตุ๊ตการ์ต มีรายงานตัวเจ็บเข้ามา 3 ราย ได้แก่ เอมิเลียโน่ อินซัว, ซาซ่า คาลัย์ดซิช และ มาซิน คามินสกี้ (1 นัด) ส่วนในรายของ มักซิเม่ อาวุดยา (1 นัด) จะติดโทษห้ามเเข่ง เพราะโดนใบแดงมา อีกคนที่อดบู๊เเน่นอนคือ นิโคลัส กอนซาเลซ เนื่องจากติดช่วยชาติใน แพนอเมริกัน เกมส์

      แฟร้งค์ ชมิดท์ นายใหญ่ของ ไฮเด้นไฮม์ จะไม่มีชื่อของ โอลิเวอร์ ฮุสซิ่ง (1 นัด) กับ มักซี่ ธีล ที่โดนโรคเดี้ยงเข้าครอบงำ แต่ข่าวดีที่มีเข้ามาก่อนเกมคือ เควิน มุลเลอร์ ผู้รักษาประตูมือหนึ่ง ฟิตกลับมาช่วยทีมได้เเล้ว เเละจะลงเฝ้าเสาทันที ส่วนในแนวรุกจะได้เห็น พาทริค ชมิดท์ (1 นัด) ยืนเป็นศูนย์หน้าตัวเป้า

      อันเดร ชูแบร์ต ผู้จัดการทีมของ โฮลสไตน์ เคียล จะไร้เงาของ ยานน์ บิสเซ็ค เเละ ยานนิค เดห์ม ที่ควงเเขนกันเข้าออกโรงหมออยู่ เชื่อว่า ชูแบร์ต น่าจะปรับหมากมาใช้ระบบ 4-3-1-2 โดยจะวาง ลี แจ ซุง (1 นัด) เป็นเพลย์เมกเกอร์ ยืนหลังคู่กองหน้าอย่าง เอ็มมานูเอล อิโยฮา (1 นัด / 1 ประตู) และ ยานนี่ แซร์ร่า (1 นัด)

      ดิมิตริออส กรัมโมซิส เฮ้ดโค้ชของ ดาร์มสตัดท์ เหลืออยู่เพียงเเค่ เฟลิกซ์ พลัตเต แนวรุกวัย 23 ปี คนเดียวเท่านั้น ที่ขึ้นบัญชีเป็นเเข้งเดี้ยงค้างสต็อก แต่ขุมกำลังที่เหลือพร้อมรับใช้ต้นสังกัดกันทั้งหมด คาดว่าเกมนี้ มาร์วิน เมห์เลม (1 นัด) เเละ เซอร์ดาร์ ดูร์ซุน (1 นัด) จะเป็นกลจักรสำคัญในเกมรุกเหมือนเก่า