วิเคราะห์บอล / วิเคราะห์บอลวันนี้

      โชเซ่ มูรินโญ่ เทรนเนอร์ของ สเปอร์ส จะหมดสิทธิ์ใช้งาน แกเร็ธ เบล ที่ยังโดนโรคเดี้ยงเล่นงาน ส่วนในรายของ เดเล่ อัลลี่ (1 นัด) ที่มีปัญหาเรื่องทัศนคติ อาจจะมีลุ้นลงเล่นในเกมนี้ เชื่อว่า มูรินโญ่ คงเลือกโรเตชั่นแบบยกแผงเพื่อให้ตัวหลักได้พัก และให้บรรดาตัวสำรองออกของโชว์กันบ้าง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
สเปอร์ส (4-2-3-1) : โจ ฮาร์ท - แซร์ช ออริเย่ร์, โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, ฮอวย ฟอยธ์, เดนนิส เซอร์กิ้น - เจดสัน, มุสซ่า ซิสโซโก้ - เอริก ลาเมล่า, เดเล่ อัลลี่, สเตฟาน เซสเซยง - สตีเว่น เบิร์กไวจ์น

      รอสส์ เอมเบิลตัน นายใหญ่ของ เลย์ตัน โอเรียนท์ ไม่มีปัญหาใดในการจัดทัพ เพราะสภาพความพร้อมของทีมสมบูรณ์ดี 100% คาดว่า เอมเบิลตัน จะจัดทัพในระบบ 4-2-3-1 โดยจะให้ หลุยส์ เดนนิส (1 นัด), จอร์แดน แม็คไกวร์-ดรูว์ (1 นัด) เเละ รูเอล โซติริอู (2 นัด / 1 ประตู) ช่วยกันสร้างสรรค์เกมรุก

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เลย์ตัน โอเรียนท์ (4-2-3-1) : ลอว์เรนซ์ วิกอรซ์ - จอร์แดน โธมัส, เจมี่ เทอร์ลี่ย์, จอช คูลสัน, โจ วิดดอว์สัน - โจเอล แม็คอนัฟฟ์, จอช ไรท์ - หลุยส์ เดนนิส, จอร์แดน แม็คไกวร์-ดรูว์, รูเอล โซติริอู - ลี อังกอล

      โธมัส แฟร้งค์ กุนซือของ เบรนท์ฟอร์ด น่าจะเลือกส่งชุดใหญ่ลงสนาม เพราะต้องการลุ้นที่จะเข้ารอบต่อไปเช่นกัน นั่นหมายความว่า แฟร้งค์ จะจัดทัพในระบบ 4-3-3 และจะวาง บรีย็อง เอ็มโบโม่ (2 นัด / 1 ประตู), มาร์คุส ฟอร์ส (2 นัด / 1 ประตู) รวมไปถึง ซาอิด เบนราห์ม่า เป็น "สามตัวบน"

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เบรนท์ฟอร์ด (4-3-3) : ดาบิด รายา - เฮนริค ดัลส์การ์ด, พอนตุส แยนส์สัน, อีธาน พินน็อค, ริโก้ เฮนรี่ - โมค็อตโย่, มาเธียส เยนเซ่น, โจชัว ดาซิลวา - บรีย็อง เอ็มโบโม่, มาร์คุส ฟอร์ส, ซาอิด เบนราห์ม่า

      สลาเวน บิลิช เฮดโค้ชของ เวสต์ บรอมฯ จะไม่มีชื่อของ เค็นเนธ โซโฮเร่ แนวรุกชาวเดนมาร์ก ที่ต้องพักรักษาตัวอยู่ ส่วนในรายของ คีแรน กิ๊บส์ (2 นัด) แบ็คซ้ายตัวแกร่ง จะติดโทษห้ามเเข่ง คาดว่า บิลิช จะใช้ชุดผสมลงสู้ศึกนัดนี้ โดยจะมี ชาร์ลี ออสติน หัวหอกประสบการณ์สูง ยืนค้ำเป็นหน้าเป้า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เวสต์ บรอมฯ (5-4-1) : แซม จอห์นสโตน - เฟอร์กูสัน, เซมี่ อาจายี่, ไคล์ บาร์ตลี่ย์, คอเนอร์ ทาวน์เซ่นด์ - เจค ลิเวอร์มอร์, โรเมน ซอว์เยอร์ส, แมตต์ ฟิลลิปส์, มัธเตอุส เปไรร่า, ฮัล ร็อบสัน-คานู - ชาร์ลี ออสติน

      วลาดีมีร์ อิวิช เทรนเนอร์ของ วัตฟอร์ด จะไร้เงาของ ดาริล ยานมาร์ต เเบ็คขวาชาวดัตช์ ที่มีอาการเข่าเดี้ยง ส่วนในรายของ นาธาเนียล ชาโลบาห์ (2 นัด) ติดเชื้อโควิด-19 อยู่ แต่กำลังสำคัญในถ้วยใบนี้อย่าง มาร์ค นาบาร์โร่ (1 นัด), โดมิงกอส กุยน่า (2 นัด) เเละ สติเป้ เปริก้า (1 นัด) ฟิตเต็มสูบ พร้อมลุยชัวร์ๆ

      ไมเคิ่ล ฟลินน์ ผู้จัดการทีมของ นิวพอร์ท ไม่มีรายงานเรื่องลูกทีมบาดเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามาสักคน จึงสบายใจในการจัดทัพได้เลย คาดว่า ฟลินน์ จะใช้ระบบ 3-5-2 โดยจะมี มิคกี้ เดเมตริอู (2 นัด) ลงคุมเกมรับ, โจชัว ชีฮาน (2 นัด) เดินเกมตรงกลางสนาม เเละ ปาเดร็ก อาร์มอนด์ คอยผลิตสกอร์

      ปีเตอร์ บอสซ์ นายใหญ่ของ เลเวอร์คูเซ่น จะไม่มีชื่อของ เลออน ไบญี่ เเละ เปาลินโญ่ ที่ต้องพักรักษาตัวต่อ แต่ขุมกำลังคนอื่นๆ พร้อมรับใช้ต้นสังกัดกันทั้งหมด เชื่อว่า โฉมหน้าของ 11 ขุนพล จะประกอบไปด้วย ลาร์ส เบนเดอร์, สเวน เบนเดอร์, นาเดียม อามิรี่, พาทริค ชิค เเละ มุสซ่า ดิอาบี้

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เลเวอร์คูเซ่น (4-3-3) : ลูคัส ฮราเด็กกี้ - ลาร์ส เบนเดอร์, สเวน เบนเดอร์, เอ็ดม็องด์ แตปโซบา, ดาลี่ย์ ซิงค์กราเว่น - ฟลอเรียน วิร์ตซ์, ชาร์ลส์ อรานกุซ, เคเร็ม เดมีร์บาย - นาเดียม อามิรี่, พาทริค ชิค, มุสซ่า ดิอาบี้

      โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ ผู้จัดการทีมของ โวล์ฟสบวร์ก ยังไร้เงาของ มาริน ปอนกราซิช เเละ เกเเว็ง เอ็มบาบู เพราะยังเข้าออกโรงหมออยู่ ส่วนในรายของ วิลเลี่ยม แนวรับชาวบราซิล ต้องเช็คฟิตหน้างาน อีกคนที่อดบู๊อย่างเเน่นอน คือ โฌชัว ชีลาโวชี เนื่องจากติดโทษห้ามเเข่งในเกมวันนี้พอดี

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โวล์ฟสบวร์ก (4-2-3-1) : โกเยน กาสตีลส์ - เฟลิกซ์ เคล๊าส์, มาซ็องเช่ ลาครอยซ์, จอห์น บรู้คส์, เปาโล โอตาวิโอ้ - ซาเเวร์ ชลาเกอร์, มักซิมิเลี่ยน อาร์โนลด์ - เรนาโต้ สเตฟเฟ่น, อัดมีร์ เมห์เมดี้, โยซิป เบรคาโล่ - วู้ต เว็กฮอร์สต์

      อาคิม เบเยอร์ลอร์เซอร์ ผู้จัดการทีมของ ไมนซ์ จะไร้เงาของ เอดิมิลซ็อง แฟร์น็องเดส ห้องเครื่องแดนนาฬิกา ที่ยังสลัดคราบเดี้ยงไม่ได้ ส่วนในรายของ จี ดอง วอน ต้องรอทดสอบความฟิตกันอีกครั้ง แต่ที่ลงสนามได้เเน่นอน คือ มุสซ่า นิยาคาเต้, แดนนี่ ลัตซ่า, โรบิน ไควสัน เเละ ฌอง มาเตต้า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไมนซ์ (4-2-3-1) : โรบิน เซนต์เนอร์ - โบเต้ บากู, เยเรเมียห์ เซนต์ ยุสเต้, มุสซ่า นิยาคาเต้, ดาเนี่ยล โบรซินสกี้ - เลอันโดร บาร์เรโร่, แดนนี่ ลัตซ่า - โจนาธาน บูร์คาร์ดต์, ฌอง โบตุส, โรบิน ไควสัน - ฌอง มาเตต้า

      จูเลี่ยน นาเกิ้ลส์มันน์ กุนซือของ ไลป์ซิก มีรายงานลูกทีมบาดเจ็บอยู่ 3 คน คือ ฟาบริซ ฮาร์ตมันน์, อิบราอิม่า โกนาเต้ เเละ คอนราด ไลเมอร์ คาดว่า นาเกิ้ลส์มันน์ จะเลือกใช้ระบบ 3-4-2-1 เหมือนอย่างเดิม โดยจะมี ดาเนี่ยล โอลโม่, ฮวาง ฮี ชาน รวมไปถึง ยุสซุฟ โพลเซ่น ทำหน้าที่เดินเกมรุกร่วมกัน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไลป์ซิก (3-4-2-1) : ปีเตอร์ กูลัคซี่ - ลูคัส โคลสเตอร์มันน์, ดาโย่ต์ อูปาเมกาโน่, มาร์เซล ฮัลส์เตนแบร์ก - นอร์ดี้ มูคิเอเล่, มาร์เซล ซาบิตเซอร์, เควิน คัมเพิ่ล, อังเกลิโญ่ - ดาเนี่ยล โอลโม่, ฮวาง ฮี ชาน - ยุสซุฟ โพลเซ่น

      คริสตอฟ ชัลติเยร์ กุนซือของ ลีลล์ ต้องรอเช็คความฟิตของ เซก้า (2 นัด) เเละ เรนาโต้ ซานเชซ (1 นัด) สองกองกลางชาวโปรตุกีส ว่ามีใครพร้อมมีส่วนร่วมได้บ้าง คาดว่า ชัลติเยร์ จะเลือกวางหมากมาในระบบ 4-4-2 โดยจะให้ บูรัค ยิลมาซ (3 นัด) กับ โจนาธาน ดาวิด (3 นัด) ยืนผลิตสกอร์คู่กัน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ลีลล์ (4-4-2) : ไมค์ เมนญ็อง - เซกี้ เซลิค, โจเซ่ ฟอนเต้, สเวน บ็อตมัน, โดมากอย บราดาริช; โฌนาต็อง อิโคเน่, แบ็งฌาแม็ง อ็องเดร, บูบาการี่ ซูมาเร่, โฌนาธาน แบมบ้า - บูรัค ยิลมาซ, โจนาธาน ดาวิด

      อังเดร วิลลาส-โบอาส เทรนเนอร์ของ มาร์กเซย จะหมดสิทธิ์ใช้บริการของ ฌอร์ด็อง อมาวี่ (2 นัด) เเบ็คซ้ายตัวแกร่ง เนื่องจากติดโทษเเบน แต่ก็จะได้ตัว ดาริโอ เบเนเด็ต (2 นัด) เดินสวนทางมาช่วยทีมเเทน และคงได้ลงประสานงานกับ ดิมิทรี ปาเยต (2 นัด) เเละ ฟลอริย็อง ตูแว็ง (3 นัด / 2 ประตู) ทันที

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
มาร์กเซย (4-3-3): สตีฟ มองด็องด้า - บูน่า ซาร์, อัลบาโร่ กอนซาเลซ, ดูเย่ คาเลต้า คาร์, ยูโตะ นากาโตโมะ - วาล็องแต็ง รงชิเย่ร์, บูบาคาร์ กามาร่า, มอร์กก็อง ซ็องซง - ดาริโอ เบเนเด็ตโต้ , ดิมิทรี ปาเยต, ฟลอริย็อง ตูแว็ง

      โธมัส ทูเคิ่ล เทรนเนอร์ของ เปแอสเช จะไม่มีชื่อของ ฆวน เบร์นาต (2 นัด) ที่มีอาการเจ็บเข่า ส่วนในรายของ อับดู ดิอัลโล่ (1 นัด), เนย์มาร์ (1 นัด), เลอันโดร ปาเรเดส (1 นัด) และ เลย์แว็ง คูร์กซาว่า (2 นัด) จะกอดคอกันติดโทษห้ามเเข่งทั้งหมด แต่ข่าวดีที่มีเข้ามาบ้างคือ เมาโร อิคาร์ดี้ (1 นัด) พร้อมลุย

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เปแอสเช (4-3-3) : เคย์เลอร์ นาวาส - อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่, มาร์ควินญอส, เพรสแนล คิมเพมเบ้, มิตเชลล์ บัคเกอร์ - อันเดร์ เอร์เรร่า, อิดริสซ่า กวยเย่, จูเลี่ยน แดร็กซ์เลอร์ - ปาโบล ซาราเบีย, เมาโร อิคาร์ดี้, อังเคล ดิ มาเรีย

      ปาทริค วิเอร่า เฮดโค้ชของ นีซ จะไร้เงาของ ร็อบสัน บัมบู (1 นัด) กับ ฮิเชม บูดาอุย ที่ควงเเขนกันเดี้ยง แต่กำลังรบที่เหลือพร้อมลุยกันอยู่นานเเล้ว คาดว่าเกมนี้ โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง จะนำทีมมาโดย โรนี่ โลเปส (1 นัด), แคสเปอร์ โดลเบิร์ก (3 นัด / 2 ประตู) เเละ อามีน ชูอุยรี่ (3 นัด / 2 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
นีซ (4-3-3) : วัลเตอร์ เบนิเตซ : ยูเซฟ อัตตาล, อ็องดี แปลมาร์, ดานเต้, ฮาสซาน กามาร่า - คีเฟรน ตูราม, มอร์แกน ชไนเดอร์แล็ง, ปิแอร์ ลีส์-เมลู - โรนี่ โลเปส, แคสเปอร์ โดลเบิร์ก, อามีน ชูอุยรี่

      โทรุ โอนิกิ เทรนเนอร์ของ คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ก็เตรียมขน 11 ตัวจริงชุดใหญ่ลงสู่สนามเช่นกัน เนื่องจากลูกทีมทุกคนฟิตเต็มสูบกันทั้งหมด เชื่อว่า โอนิกิ จะเลือกวางหมากมาในระบบ 4-3-3 โดยจะมี มานาบุ ไซโตะ (9 นัด) กับ เลอันโดร ดามิเญา (17 นัด / 8 ประตู) เป็นตัวทีเด็ดในแดนบน

      ทาเคชิ โอซึกิ ผู้จัดการทีมของ อุราวะ เร้ด ไดมอนด์ส ไม่มีรายงานความเสียหายใดๆ เรื่องสภาพทีมเข้ามา ทำให้สามารถจัดทีมชุดที่ดีที่สุดลงบู๊ได้เลย คาดว่า โอซึกิ จะก็อปปี้ 11 ขุนพลจากเกมที่บุกชนะ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร 4-3 มาลุยกันต่อ เนื่องจากทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีเยี่ยมอยู่เเล้ว

      สะสม พบประเสริฐ เทรนเนอร์ของ ชลบุรี จะไร้เงาของ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ (2 นัด) กับ ณัฐพงษ์ เปพาทย์ (1 นัด) ที่โดนโรคเดี้ยงเล่นงาน ส่วนในรายของ "กัปตันก้อง" เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ (4 นัด) ต้องรอเช็คความฟิตหน้างานอีกครั้ง เเต่สำหรับ ไคออน (5 นัด / 5 ประตู) พร้อมลงล่าตาข่ายเหมือนอย่างเดิม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ชลบุรี (4-4-2) : สินทวีชัย หทัยรัตนกุล - นพนนท์ คชพลายุกต์, การ์ลอส เด มูร์ก้า, จูเนียร์ โลเปส, ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์ - ภานุพงศ์ พลซา, คาซูโตะ คุชิดะ, กฤษดา กาเเมน, ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว - ไคออน, ดราแกน บอสโควิช

      ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล นายใหญ่ของ ประจวบฯ ไม่มีปัญหาเรื่องนักเตะบาดเจ็บหรือติดโทษเเบน จึงสามารถเลือกทีมชุดที่ดีที่สุดลงสนามได้ตามใจ เชื่อว่า "โค้ชวัง" จะจัดทัพในระบบ 4-2-3-1 โดยจะให้ ยู จุน ซู (5 นัด) ลงคุมเเนวรับ เเละวาง วิลเลียม เฮนริเก้ (5 นัด / 2 ประตู) เป็นตัวความหวังในเเนวรุก

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ประจวบฯ (4-2-3-1) : ขวัญชัย สุขล้อม - ซีเกต หมาดปูเต๊ะ, ยานโต บาสนา, ยู จุน ซู, อดุลย์ หมื่นสมาน - วันเฉลิม ยิ่งยง, รัชพล นาวันโน - วิลเลียม เอ็นริเก้, ภานุวัฒน์ จินตะ, เอียน แรมซีย์ - วิลเลน โมต้า

      มาร์โก โรเซ่ ผู้จัดการทีมของ กลัดบัค มีลิสต์ตัวเดี้ยงในมืออยู่ 4 ราย ได้แก่ บรีล เอ็มโบโล่, วาเลนติโน่ ลาซาโร่, อันเดรียส โพลเซ่น เเละ เดนิส ซากาเรีย ส่วนในรายของ ลาสซโล บีนส์ ห้องเครื่องชาวสโลวาเกีย ต้องทดสอบฟิตอีกครั้ง ว่าพร้อมมีส่วนร่วมหรือไม่ แต่สำหรับ มาร์คุส ตูราม ฟิตเต็มสูบ พร้อมลุยชัวร์

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
กลัดบัค (4-2-3-1) : ยาน ซอมเมอร์ - สเตฟาน ไลเนอร์, มัทธิอัส กินเตอร์, นิโก้ เอลเวดี้, รามี่ เบนเซไบนี่ - คริสตอฟ คราเมอร์, ฟลอเรียน นอยเฮ้าส์ - ฮานเนส โวล์ฟ, ลาร์ส สตินเดิ้ล, โจนาส ฮอฟมันน์ - มาร์คุส ตูราม

      ลูเซียน ฟาฟร์ กุนซือของ ดอร์ทมุนด์ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน มาร์เซล ชเมลเซอร์ เเละ ด็อง ซากาดู ที่โดนอาการเจ็บเล่นงาน ส่วนในรายของ ราฟาเอล เกร์เรโร่, มาเตอู โมเรย์ เเละ นิโก้ ชูลซ์ ต้องรอเช็คความฟิตก่อน เชื่อว่า "ตัวท็อป" อย่าง ธอร์ก็อง อาซาร์, เจดอน ซานโช่ เเละ เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ จะพาเหรดกันลงเล่น

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ดอร์ทมุนด์ (3-4-2-1) : โรมัน บูร์กี้ - เอมเร่ ชาน, มัตส์ ฮุมเมลส์, มานูเอล อาคานยี่ - โธมัส มูนิเยร์, จู๊ด เบลลิงแฮม, อั๊กเซล วิตเซล, ธอร์ก็อง อาซาร์ - เจดอน ซานโช่, โจวานนี่ เรย์น่า - เออร์ลิ่ง ฮาลันด์

      ปีเตอร์ คลามอฟสกี้ เฮดโค้ชของ ชิมิสุ เอส-พัลส์ ยังไร้เงาของ ฮิเดกิ อิชิเงะ (2 นัด) เเละ นาโอยะ ฟุคุโมริ ที่ต้องพักรักษาตัวอยู่เหมือนเก่า ส่วนในรายของ ยูโงะ ทาซึตะ (16 นัด / 2 ประตู) จะติดโทษแบน แต่สำหรับ คาร์ลินญอส (16 นัด / 5 ประตู) น่าจะกลับมาเป็นตัวจริง หลังลงสำรองในเกมก่อน

      บิน อุคิชิมะ กุนซือของ โชนัน เบลล์มาเร่ ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน โก ซาวาดะ, ซึคาสะ อุเมซากิ เเละ ยูกิ โอฮาชิ ที่ขึ้นบัญชีเป็นเเข้งเดี้ยงค้างสต็อก นั่นหมายความว่า อุคิชิมะ เตรียมขน 11 ขุนพลชุดที่บุกชนะ กัมบะ โอซาก้า 1-0 มาลงสนามกันต่อ เพราะลูกทีมทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองได้ยอดเยี่ยมอยู่เเล้ว

      ฮิโรชิ โจคุฟุ นายใหญ่ของ ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า ไม่มีปัญหาใดในการจัดทัพ เนื่องจากสภาพความพร้อมของทีมสมบูรณ์ดี 100% เชื่อว่าเกมนี้ โจคุฟุ คงจะส่ง "สามเเซมบ้า" อย่าง ราห์ยเนอร์ (15 นัด), ดักลาส วิเอร่า (14 นัด / 5 ประตู) เเละ เลอันโดร เปไรร่า (14 นัด / 7 ประตู) ลงประจำการกันครบครัน

      เนลซินโญ่ บ๊าปติสต้า เทรนเนอร์ของ คาชิว่า เรย์โซล ยังไร้เงาของ ยูจิ ทาคาฮาชิ (10 นัด) ที่ยังเดี้ยงไม่หาย ส่วนในรายของ ทาคุยะ โอมินามิ (5 นัด), ยูตะ โซเมยะ (4 นัด), ทาซึยะ ยามาชิตะ (3 นัด), โคสุเกะ นากามูระ (10 นัด) รวมไปถึง มาเตอุส ซาวิโอ (6 นัด) ต้องรอทดสอบความฟิตกันก่อน ว่าใครไหวบ้าง

      สมชาย ไม้วิลัย นายใหญ่ของ ราชบุรีฯ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน ฆาเบียร์ ปาติโญ่ (4 นัด / 2 ประตู) หัวหอกทีมชาติฟิลิปปินส์ ที่ต้องเข้าออกโรงหมออยู่ แต่ขุมกำลังคนอื่นๆ พร้อมรับใช้ต้นสังกัดกันทั้งหมด คาดว่า "โค้ชเจี๊ยบ" จะวาง สตีเฟน ล็องจิล (4 นัด) กับ ยานนิค โบลี (4 นัด / 3 ประตู) เป็นทีเด็ดในเกมรุก

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ราชบุรีฯ (4-2-3-1) : อุกฤษณ์ วงศ์มีมา - ฟิลิป โรลเลอร์, ปวีร์ ตัณฑะเตมีย์, โย ซัง แฮ, เกียรติศักดิ์ เจียมอุดม - กฤษณนน ศรีสุวรรณ, ปฐมชัย เสือสกุล - จักรพันธ์ พรใส, จิตปัญญา ทิสุด, สตีเฟน ล็องจิล - ยานนิค โบลี

      รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค กุนซือของ โปลิศ เทโร จะไม่มีชื่อของ ไอแซค ฮอนนี่ (5 นัด) ปราการหลังตัวแกร่ง ที่โดนโรคเดี้ยงเล่นงาน ส่วนในรายของ โมฮามาดู ซูมาเรห์ ที่ยังลงทะเทียนกับไทยลีกไม่ได้ อีกคนที่อดบู๊เเน่นอนคือ เกร็ก ฮูลา (4 นัด / 1 ประตู) ตัวจี๊ดความเร็วสูง ที่อยู่ระหว่างกักตัวให้ครบ 14 วัน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โปลิศ เทโร (4-3-3) : ประสิทธิ์ ผดุงโชค - สัญชัย นนทศิลา, ชุมพล บัวงาม, ควอน แด ฮี, เอกชัย สำเร - ณรงค์ จันทร์เสวก, กนกพล ปุษปาคม, ณัฐพล เปี่ยมพลาย - ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์, กีรติ เขียวสมบัติ, อดิศักดิ์ ศรีกำปัง

      บรูโน่ ลับบาเดีย กุนซือของ แฮร์ธ่าฯ จะไม่มีชื่อของ ซานติอาโก้ อาสคาคิบาร์ กับ ยาไวโร ดิลโรซุน ที่ยังสลัดอาการเจ็บไม่ได้ เชื่อว่า ลับบาเดีย จะจัดทัพในระบบ 4-2-3-1 โดยจะมี จอร์แดน โตรูนาริก้าห์ ลงช่วยทีมในเกมรับ, วลาดีมีร์ ดาริด้า เดินเกมตรงกลาง เเละให้ คริสซ์ตอฟ ปิออนเต็ค ยืนค้ำในแดนบน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แฮร์ธ่าฯ (4-2-3-1) : อเล็กซานเดอร์ ชโวลอฟ - เดโยไวซิโอ ซีฟูอิค, เดดริค โบยาต้า, จอร์แดน โตรูนาริก้าห์, มาร์วิน พลัตเตนฮาร์ดต์ - ลูก้าส์ ตูซาร์, วลาดีมีร์ ดาริด้า - โดดี้ ลูเคบาคิโอ, มาเธอุส คุนญ่า, มาร์วิน มิทเทลสตัดท์ - คริสซ์ตอฟ ปิออนเต็ค

      ฟลอเรียน โคห์เฟลด์ เฮดโค้ชของ เบรเมน จะไร้เงาของ เควิน โมห์วัลด์, มิลอต ราชิก้า เเละ โอเมอร์ โตปรัค ที่ควงเเขนกันเดี้ยง คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง จะประกอบไปด้วย นิโคลัส มอยซานเดอร์, มักซิมิเลี่ยน เอ็กเก้สไตน์, ดาวี คลาสเซ่น, โจชัว ซาร์เจนต์, ดาวี่ เซลเก้ รวมไปถึง ตาฮิธ ชง

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เบรเมน (4-3-3) : ยีรี พาฟเลนก้า - ธีโอดอร์ เกเบร เซลัสซี่, มิลอส เวลย์โควิช, นิโคลัส มอยซานเดอร์, ลุดวิก ออกุสตินส์สัน - มักซิมิเลี่ยน เอ็กเก้สไตน์, พาทริค เออร์ราส, ดาวี คลาสเซ่น - โจชัว ซาร์เจนต์, ดาวี่ เซลเก้, ตาฮิธ ชง

      คริสเตียน สไตรช์ เทรนเนอร์ของ ไฟร์บวร์ก จะหมดสิทธิ์ใช้งาน มาร์ค เฟล็คเคน กับ จานิค ฮาเบเรอร์ เนื่องจากโรคเดี้ยงเข้าครอบงำ ส่วนในรายของ เคเวน ชล็อตเตอร์เบ็ค เเละ กุส ติล ต้องรอเช็คความฟิตหน้างาน เชื่อว่า นีลส์ พีเตอร์เซ่น เเละ ลูคัส โฮเลอร์ จะได้รับโอกาสยืนเป็นกองหน้าคู่กันในการผลิตสกอร์

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ไฟร์บวร์ก (4-4-2) : ฟลอเรียน มุลเลอร์ - โฌนาต็อง ชมิด, ฟิลิปป์ ไลน์ฮาร์ต, โดมินิค ไฮนซ์, คริสเตียน กุนเตอร์ - โรลันด์ ซัลลาย, บ๊าปติสเต้ ซ็องตามาริอา, นิโคลัส ฮอฟเลอร์, วินเชนโซ่ กริโฟ - นีลส์ พีเตอร์เซ่น, ลูคัส โฮเลอร์

      เปเญกริโน่ มาตาราซโซ่ ผู้จัดการทีมของ สตุ๊ตการ์ต จะไม่มีชื่อของ นิโคลัส กอนซาเลซ เเละ เอริค ธอมมี่ เพราะยังต้องเข้าออกโรงพยาบาลอยู่ ส่วนในรายของ ฟอร์สเตอร์ กับ มาฟโรปานอส ต้องทดสอบฟิตกันอีกครั้ง คาดว่า ดาเนี่ยล ดิดาวี่ กับ กอนซาโล่ คาสโตร จะเป็นกลจักรสำคัญในการสร้างสรรค์เกม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
สตุ๊ตการ์ต (3-4-2-1) : เกรกอร์ โคเบล - ปาสคาล สเตนเซล, วัลเดมาร์ อันตอน, มาร์ค เคมป์ - ซิลาส วาม็องชิตูก้า, วาตารุ เอ็นโดะ, โอเรล ม็องกาล่า, บอร์นา โซซ่า - ดาเนี่ยล ดิดาวี่, กอนซาโล่ คาสโตร - ซาซ่า คาลัย์ดซิช

      ดาวิด ว้ากเนอร์ นายใหญ่ของ ชาลเก้ จะขาดหายไปเพียงเเค่ ซาลิฟ ซาเน่ แนวรับชาวเซเนกัล ที่ยังสลัดคราบเดี้ยงไม่ได้ แต่ขุมกำลังคนอื่นๆ พร้อมรับใช้ต้นสังกัดกันทั้งหมด คาดว่าเกมนี้ ว้ากเนอร์ จะเลือกสู้ศึกในระบบ 4-3-1-2 และจะวาง มาร์ค อูธ กับ เวดัด อิบิเซวิช ยืนเป็นกองหน้าคู่กันในแดนบน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ชาลเก้ (4-3-1-2) : ราล์ฟ ฟาห์มันน์ - เซบาสเตียน รูดี้, โอซาน คาบัค, มาติย่า นาสตาซิช, บาสเตียน อ๊อกซิปก้า - ซูอัต แซร์ดาร์, บ็องฌาเเม็ง สตอมบูลี่, นาบิล เบนตาเล็บ - อามิน ฮาริต - มาร์ค อูธ, เวดัด อิบิเซวิช

      ฮันซี่ ฟลิค กุนซือของ บาเยิร์น จะไร้เงาของ คิงส์ลี่ย์ โกม็อง กับ ต็องกี้ นิอ็องซู ที่ไม่พร้อมสำหรับเกมวันนี้ ส่วนในรายของ เฌโรม บัวเต็ง ปราการหลังตัวเก๋า ต้องรอเช็คความฟิตกันก่อน เชื่อว่า ฟลิค จะวางหมากมาในระบบ 4-2-3-1 โดยจะมี โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หัวหอกตัวเก่ง ลงประจำการอย่างเก่า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
บาเยิร์น (4-2-3-1) : มานูเอล นอยเออร์ - บ็องฌาเเม็ง ปาวาร์, นิคลาส ซูเล่, ดาวิด อลาบา, อัลฟองโซ่ เดวี่ส์ - โจฌัว กิมมิค, เลออน โกเร็ตส์ก้า - แซร์จ จีนาบรี้, โธมัส มุลเลอร์, เลรอย ซาเน่ - โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

      สตีเฟ่น โอดอนเนลล์ กุนซือของ เซนต์ พาทริคส์ ไม่มีรายงานความเสียหายใดๆ เข้ามา ทำให้สามารถจัดทีมชุดใหญ่ลงบู๊ได้เเน่ เชื่อว่า โฉมหน้าของ 11 ขุนพล จะประกอบไปด้วย ลี เดสมอนด์ (11 นัด), คริส ฟอร์เรสเตอร์ (10 นัด / 1 ประตู), จอร์แดน กิ๊บสัน (7 นัด) รวมไปถึง จอร์จี้ เคลลี่ (6 นัด / 2 ประตู)

      ดีแคลน ดีไวน์ เทรนเนอร์ของ เดอร์รี่ ซิตี้ จะไร้เงาของ อัลลี่ กิลคริสต์ (6 นัด) แนวรับชาวสก็อตต์ เพราะมีอาการเจ็บข้อเท้า แต่กำลังรบที่เหลือพร้อมลุยกันอยู่นานเเล้ว คาดว่า ดีไวน์ จะส่ง คีเเรน คอลล์ (8 นัด), คอนอร์ เเม็คคอร์มัค (10 นัด / 1 ประตู) เเละ วัลเตอร์ ฟิกูไอร่า (10 นัด / 2 ประตู) ลงตัวจริง

      คีธ ลอง เฮดโค้ชของ โบฮีเมี่ยนส์ จะไม่มีชื่อของ คริสเตียน มาเกรูสัน แนวรุกชาวโรมาเนีย ที่โดนโรคเดี้ยงเล่นงาน ส่วนในรายของ โรเบิร์ต คอร์นวอลล์ (9 นัด) ต้องรอทดสอบความฟิตกันอีกครั้ง แต่สำหรับ คริสโตเฟอร์ ตวาร์เด็ค (11 นัด / 1 ประตู) เเละ ดาเนี่ยล แกร้นท์ (10 นัด / 2 ประตู) พร้อมลงสนาม

      เลียม บัคลี่ย์ ผู้จัดการทีมของ สลิโก้ โรเวอร์ส มีลิสต์ตัวเจ็บอยู่ 4 คน คือ ซิกิตาส โอลเบอร์คิส (2 นัด), ดาร์เรน คอลลินส์ (1 นัด), แดนนี่ เคน (4 นัด) เเละ จอห์น ดันเลียวี่ (1 นัด) ส่วนในรายของ ไนออล โมราฮาน (11 นัด / 1 ประตู) จะติดโทษแบน เพราะโดนใบแดงมาจากเกมที่บุกเสมอ เซนต์ พาทริคส์ 0-0

      อูเว่ โรสเลอร์ นายใหญ่ของ ดุสเซลดอร์ฟ จะไม่มีชื่อของ เควิน ดานโซ่ ปราการหลังชาวออสเตรีย ที่เป็นเเข้งเดี้ยงค้างสต็อกอยู่ คาดว่า โรสเลอร์ จะเลือกสู้ศึกในระบบ 4-2-3-1 โดยจะส่ง อังเดร ฮอฟฟ์มันน์, อดัม บ็อดเซ็ค, เอ็ดการ์ พริบ เเละ รูเวน เฮนนิ่งส์ ออกสตาร์ทเป็น 11 ตัวจริงในเกมวันนี้

      ดาเนี่ยล ธิอูเน่ กุนซือของ ฮัมบูร์ก จะหมดสิทธิ์ใช้งาน ริค ฟาน ดรอนเกเลน กองหลังชาวฮอลเเลนด์ ที่เจ็บเข่ายังไม่หาย แต่ขุมกำลังคนอื่นๆ พร้อมลุยกันอยู่นานเเล้ว เชื่อว่านัดนี้ ธิอูเน่ จะจัดทัพในระบบ 3-5-2 โดยจะมี โตนี่ ไลส์เนอร์ ลงช่วยทีมในเกมรับ เเละวาง ไซม่อน เตร็อดด์ เป็นทีเด็ดในแนวรุก

      โรเบิร์ต เคล๊าส์ ผู้จัดการทีมของ เนิร์นแบร์ก ยังหมดสิทธิ์ใช้บริการของ พอล เบซอง เเละ พาทริช คลันด์ เนื่องจากต้องเข้าออกโรงหมออยู่ ส่วนในรายของ ส่วนในรายของ เฟอร์กิล มิซิดยาน แนวรุกชาวฮอลเเลนด์ ต้องรอทดสอบฟิตหน้างานก่อน คาดว่า เฟลิกซ์ โลห์เคมเพอร์ หัวหอกวัย 25 ปี จะลงผลิตสกอร์

      เมอร์ซัด เซลิมเบโกวิช เทรนเนอร์ของ จาห์น เรเก้นส์บวร์ก มีรายงานลูกทีมเดี้ยงเข้ามา 3 คน คือ จานน์ จอร์จ, ฟลอเรียน ไฮส์เตอร์ เเละ จาน-นิคลาส เบสเต้ เชื่อว่า เซลิมเบโกวิช จะเลือกวางหมากมาในระบบ 4-4-2 โดยจะให้ มักซ์ เบซุชคอฟ กับ เบเนดิคต์ กิมเบอร์ ยืนคุมจังหวะเกมร่วมกันในแดนกลาง

      โคลิน คาตัน ผู้จัดการทีมของ บาลา ทาวน์ ไม่มีรายงานนักเตะเดี้ยงหรือติดโทษห้ามเเข่งเลยสักคน ทำให้สามารถจัดทีมชุดใหญ่ได้อย่างสบายใจเลย คาดว่าเกมนี้ โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง จะประกอบไปด้วย นาธาน พีท (1 นัด / 1 ประตู), ลาสซาน่า เมนเดส (1 นัด) เเละ ราอูล คอร์เรอา (1 นัด)

      ฟิลิปป์ ม็องตานิเย่ร์ เทรนเนอร์ของ สตองดาร์ ลีแอช มีลิสต์ลูกทีมเจ็บอยู่ 4 ราย ได้แก่ มาซิเม่ เลสเตียนน์ (5 นัด / 1 ประตู), ซามูเอล บาสติยง (2 นัด / 2 ประตู), โฌอาคิม การ์เซลา-กอนซาเลซ เเละ วิลเลียม บาลิควิช่า แต่ข่าวดีที่มีเข้ามาคือ อ็อบบี้ อูลาเร่ (3 นัด / 1 ประตู) พร้อมยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า

      โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ กุนซือของ โวล์ฟสบวร์ก จะหมดสิทธิ์ใช้งาน มาริน ปอนกราซิช, เกเเว็ง เอ็มบาบู, วิลเลี่ยม เเละ เปาโล โอตาวิโอ้ ที่ยังสลัดอาการเดี้ยงไม่ได้ ส่วนในรายของ อิ๊กนากิโอ้ กามาโช่ กองกลางชาวสเปน ประกาศแขวนสตั๊ดไปเรียบร้อยเเล้ว เชื่อว่า กลาสเนอร์ จะโรเตชั่นนักเตะเเน่ๆ

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โวล์ฟสบวร์ก (4-2-3-1) : โกเยน กาสตีลส์ - เฟลิกซ์ เคล๊าส์, มาซ็องเช่ ลาครอยซ์, โฌชัว ชีลาโวชี, เฌอโรม รุสซิยง - จานนิค แกร์ฮาร์ดต์, มักซิมิเลี่ยน อาร์โนลด์ - เรนาโต้ สเตฟเฟ่น, อัดมีร์ เมห์เมดี้, เชา วิคตอร์ - วู้ต เว็กฮอร์สต์

      สเคนเดอร์ เกก้า ผู้จัดการทีมของ คูเคซี่ เตรียมขน 11 ขุนพลชุดใหญ่ลงสนาม เพราะสภาพความพร้อมของทีมสมบูรณ์ดี 100% คาดว่า เกก้า จะจัดทัพในระบบ 4-2-3-1 โดยจะมี เคนาน โฮริช ลงช่วยทีมในเกมรับ, เบซาร์ มูซอลลี่ เดินเกมตรงกลาง และจะวาง ปาทริค เอเซ่ ยืนผลิตสกอร์ในแดนบน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
คูเคซี่ (4-2-3-1) : ดาชามีร์ ชิก้า - เอดิส มาลิกี้, เคนาน โฮริช, เออร์อุน โอบานอร์, บเลริม โคโบเบลลี่ - เวเซล ลิมาจ, เบซาร์ มูซอลลี่ - เอนิส กาวาซาย์, เอดูอาร์ด โรก้า, เอมิเลียโน่ มุสต้า - ปาทริค เอเซ่

      ดิเอโก้ มาร์ติเนซ นายใหญ่ของ กรานาด้า จะไร้เงาของ ดิมิทรี เฟากิเยร์ (1 นัด) เเบ็คขวาตัวเก่ง ที่โดนโรคเดี้ยงเล่นงาน ส่วนในรายของ ฆอร์เก้ โมลิน่า ติดไวรัสโควิด-19 อยู่ เชื่อว่า มาร์ติเนซ จะวางหมากมาในระบบ 4-2-3-1 โดยจะมี ยานเกล เอร์เรร่า (1 นัด / 1 ประตู) เป็น "จอมทัพ" ในการปั้นเกมรุก

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
กรานาด้า (4-2-3-1) : รุย ซิลวา - กุยนี่, เกร์มัน ซานเชซ, โดมินกอส ดูอาร์เต้, การ์ลอส เนบา - หลุยส์ มิญ่า, มอนโตโร่ - อันโตนิโอ ปูเอร์ตาส, ยานเกล เอร์เรร่า, ดาร์วิน มาคิส - โรเบร์โต้ โซลดาโด้

      เอดูอาร์ด มาร์ตินี่ กุนซือของ ตูต้า ดูร์เรส สบายใจได้ก่อนเกมเลย เนื่องจากไม่มีรายงานความเสียหายเรื่องสภาพทีมเข้ามา คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ขุนพล จะนำทีมมาโดย สติวี่ ฟราสเฮรี่, รุสเต็ม ฮ็อกซ์ฮา, เรนาโต้ อาราปี, อัลบาโน่ อาเล็คซี่, เลดิโอ เบ็คยา, โลเรนโก้ วิล่า, ฟลอร็องต์ อาฟดีลี่ เเละ รูบิน เฮบาย์

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ตูต้า ดูร์เรส (4-2-3-1) : สติวี่ ฟราสเฮรี่ - บลาโกย่า โตโดรอฟสกี้, รุสเต็ม ฮ็อกซ์ฮา, เรนาโต้ อาราปี, อเล็กซานดรอส คูรอส - อัลบาโน่ อาเล็คซี่, เลดิโอ เบ็คยา - โลเรนโก้ วิล่า, ฟลอร็องต์ อาฟดีลี่, เอมิลยาน วิล่า - รูบิน เฮบาย์

      ราฟาเอล เอสโกบาร์ เฮดโค้ชของ ยูโรป้า เอฟซี ไม่มีปัญหาใดในการจัดทัพ เนื่องจากลูกทีมฟิตเต็มสูบกันทั้งหมด เเละคงเลือกใช้ 11 ตัวจริงมาจากเกมที่ตกรอบมาจากศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก อีกครั้ง ซึ่งจะได้เห็น โอลโม่ กอนซาเลซ, เลียม วอล์คเกอร์ รวมไปถึง อาเดรียน กาญาร์โด้ ออกสตาร์ทตั้งเเต่นาทีแรก

      คิม เบิร์กสตรานด์ เทรนเนอร์ของ เยอร์การ์เด้น เหลืออยู่เพียงเเค่ อเล็กซานเดอร์ อับราฮัมส์สัน แนวรับดาวรุ่ง ที่ยังเจ็บไม่หาย แต่ขุมกำลังคนอื่นๆ พร้อมรับใช้ต้นสังกัดกันทั้งหมด คาดว่า เบิร์กสตรานด์ จะจัดทัพในระบบ 4-2-3-1 โดยจะมี คัลเล่ ฮอล์มเบิร์ก (19 นัด / 4 ประตู) หัวหอกตัวเก่งลงประจำการ

      สเตฟาโน่ ปิโอลี่ ผู้จัดการทีมของ มิลาน จะไร้เงาของ อันเดรีย คอนติ, ฮาฟาเอล เลเอา และ มาเตโอ มูซักชิโอ ที่กอดคอกันบาดเจ็บ แต่กำลังรบที่เหลือพร้อมลุยกันอยู่นานเเล้ว เชื่อว่า ปิโอลี่ จะจัดทัพสู้ศึกในระบบ 4-2-3-1 เเละจะวาง ซลาตัน อิบราฮิมโมวิช หัวหอกตัวประสบการณ์สูง ยืนค้ำเป็นหน้าเป้า

      สตีเฟ่น แบร็ดลี่ย์ กุนซือของ แชมร็อค โรเวอร์ส จะหมดสิทธิ์ใช้งาน เลียม สเกลส์ (9 นัด) ปราการหลังวัย 22 ปี เพราะจะติดโทษเเบน เนื่องจากโดนไล่ออกมาจากเกมเปิดบ้านชนะ อิลเวส ในรอบก่อน ส่วนในเเนวรุกยังมี อารอน กรีน (11 นัด / 4 ประตู) กับ เกรแฮม เบิร์ค (8 นัด / 5 ประตู) ลงล่าตาข่าย

      แว็งซ็องต์ โอญง เทรนเนอร์ของ เม็ตซ์ จะไร้เงาของ มานูเอล กาบิต กับ เกแว็ง เอ็นโดรัม ที่ควงเเขนกันเข้าออกโรงหมออยู่ ส่วนในรายของ โตมัส โดแลน แนวรับวัย 28 ปี ต้องรอเช็คความฟิตอีกครั้ง คาดว่า ฟาริด บูลาย่า (1 นัด), อิบราอิม่า นิยาน (2 นัด) เเละ โอปา เอ็นเก็ตต์ (2 นัด) จะรับบทบาทเป็น "สามตัวบน"

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เม็ตซ์ (4-3-3) : อเล็กซ็องเดร อูกิช่า - ฟาเบียง ซ็องตองเซ่, ดิลัน บรอนน์, จอห์น บอย, มัตติเยอ อูโดล - ฮาบิ๊บ ไมก้า, วิกตอเรียง อ็องก์บ็อง, แวงซ็องต์ ปาโชต์ - ฟาริด บูลาย่า, อิบราอิม่า นิยาน, โอปา เอ็นเก็ตต์

      โธมัส ทูเคิ่ล นายใหญ่ของ เปแอสเช จะหมดสิทธิ์ใช้งาน เมาโร อิคาร์ดี้, คิเลียน เอ็มบัปเป้, เคย์เลอร์ นาวาส และ มาร์ควินญอส ที่ติดเชื้อโควิด-19 ส่วนในรายของ เนย์มาร์ (1 นัด), เลอันโดร ปาเรเดส (1 นัด) และ เลย์แว็ง คูร์กซาว่า (2 นัด) จะกอดคอกันติดโทษห้ามเเข่ง ทำให้ ทูเคิ่ล ต้องปรับทัพเป็นการด่วน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เปแอสเช (4-3-3) : เซร์คิโอ ริโก้ - อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่, ธิโล เคห์เรอร์, เพรสแนล คิมเพมเบ้, อับดู ดิอัลโล่ - อันเดร์ เอร์เรร่า, อิดริสซ่า กวยเย่, มาร์โก แวร์รัตติ - ปาโบล ซาราเบีย, อังเคล ดิ มาเรีย, จูเลี่ยน แดร็กซ์เลอร์