วิเคราะห์บอล / วิเคราะห์บอลวันนี้

      มาร์ค รูดาน นายใหญ่ของ เวสเทิร์น ยูไนเต็ด จะไร้เงาของ เจมส์ เดเลียนอฟ, เบรนแดน ฮามิลล์ (5 นัด) เเละ อิวาน วูยิก้า ที่ยังไม่หายเดี้ยง แต่คงไม่ต้องกังวลใดๆ เพราะ รูดาน เตรียมใช้ 11 ขุนพลชุดที่ชนะ เมลเบิร์น วิคตอรี่ 2-1 อยู่เเล้ว นำทีมมาโดย เบซาร์ต เบริช่า (20 นัด / 15 ประตู) เจ้าเก่าเจ้าเดิม

      คาร์ล โรบินสัน เฮดโค้ชของ นิวคาสเซิ่ล เจ็ตส์ ไม่มีปัญหาใดในการวางหมากวันนี้ เพราะสภาพความพร้อมของนักเตะทุกคนสมบูรณ์ดี 100% เชื่อว่า โรบินสัน จะเลือกใช้ระบบ 5-3-2 โดยจะมี ไนเจล บูการ์ด (14 นัด), อังกุส เธอร์เกต (23 นัด / 2 ประตู) เเละ รอย โอโดโนเเวน (9 นัด / 3 ประตู) ลงตัวจริง

      บาร์ตอสซ์ เกอร์เซลัค กุนซือของ เอไอเค โซลน่า ต้องรอเช็คความฟิตของ เอเบเนเเซร์ โอโฟริ (8 นัด) ว่าพร้อมลงช่วยทีมได้หรือไม่ เชื่อว่า เกอร์เซลัค จะส่ง คาโรล เม็ตส์ (10 นัด) ลงคุมเกมรับ, เซบาสเตียน ลาร์สสัน (11 นัด / 2 ประตู) เดินเกมตรงกลาง เเละให้ เอน็อค กอยตอม (11 นัด / 3 ประตู) ล่าตาข่าย

      นานเน่ เบิร์กสตรานด์ เทรนเนอร์ของ คัลมาร์ จะขาดหายไปเพียงเเค่ เอมิน นูรี (9 นัด) ปราการหลังตัวเก๋า ที่มีอาการเจ็บสะโพก แต่กำลังรบที่เหลือพร้อมลุยกันอยู่นานเเล้ว คาดว่า เบิร์กสตรานด์ จะเลือกวาง อเล็กซานเดอร์ อัห์ล-โฮล์มสตรอม (4 นัด) กับ เอ็ดวิน โครน่า (9 นัด / 1 ประตู) เป็นตัวหลักในเกมรุก

      สเตฟาน บิลล์บอร์น เฮดโค้ชของ ฮัมมาร์บี้ เหลืออยู่เพียงเเค่ บาเยเร่ ลู แนวรุกชาวโกตดิวัวร์ ที่ต้องพักยาวจากการผ่าเข่า แต่ขุมกำลังคนอื่นๆ พร้อมรับใช้ต้นสังกัดกันทั้งหมด เชื่อว่า บิลล์บอร์น จะก็อปปี้ 11 ตัวจริงมาจากเกมที่เปิดบ้านชนะ โอเรโบร 3-0 เนื่องจากทุกคนทำหน้าที่กันได้ดีเเล้ว

      โอลอฟ เมลล์เบิร์ก ผู้จัดการทีมของ เฮลซิงบอร์ก เตรียมขน 11 ตัวจริงชุดที่ดีที่สุดลงบู๊ได้เลย เพราะไม่มีรายงานความเสียหายใดๆ เข้ามา คาดว่า เมลล์เบิร์ก จะจัดทัพในระบบ 4-4-2 โดยจะมี ราสมุส ยอนส์สัน (11 นัด) กับ อันโธนี่ ฟาน เดน เฮิร์ค (9 นัด / 2 ประตู) ยืนผลิตสกอร์คู่กันในแดนบน

      ยอน ดาห์ล โตมาสสัน เทรนเนอร์ของ มัลโม่ จะไร้เงาของ ราสมุส เบงต์สสัน แนวรับประสบการณ์สูงที่มีอาการเจ็บเข่า เชื่อว่า โตมาสสัน จะโรเตชั่นนักเตะกลับไปใช้ชุดที่ลุยใน "บอลลีก" หลังจากพักบางคนไว้ใน "บอลถ้วย" นัดที่ผ่านมา แต่สำหรับ โอล่า ตอยโวเน่น (6 นัด / 2 ประตู) จะลงปั้นเกมรุกต่อ

      โพย่า อัสบากี้ นายใหญ่ของ โกเตบอร์ก ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน โรบิน โซเดอร์ (2 นัด) แนวรุกวัย 29 ปี ที่เป็นเเข้งเดี้ยงค้างสต็อกอยู่ คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ขุนพล คงเป็นชุดใหญ่ในปัจจุบัน นำทีมมาโดย อเล็กซานเดอร์ ยัลโลว์ (8 นัด), อัลอาซาน ยูซุฟ (11 นัด) เเละ ซาร์กอน อับราฮัม (11 นัด / 1 ประตู)

      อามีร์ อัซราฟชาน ผู้จัดการทีมของ ออสเตอร์ซุนด์ส ก็ไม่มีปัญหาเรื่องลูกทีมบาดเจ็บหรือติดโทษแบนเช่นกัน จึงสามารถจัดทีมได้ตามใจ คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง จะประกอบไปด้วย เอริค เฮากาน (11 นัด), ฟร้องค์ อาร์อิน (4 นัด), เนบิยู เพอร์รี่ (10 นัด) รวมไปถึง ฌอร์ด็อง คาดิรี่ (11 นัด / 2 ประตู)

      โยอาคิม เพอร์สสัน กุนซือของ วาร์เบิร์ก เตรียมส่ง 11 ขุนพลชุดที่ดีที่สุดลงสู้ศึก เนื่องจากทุกคนฟิตเต็มสูบกันทั้งหมด เชื่อว่า เพอร์สสัน จะวางหมากในระบบ 3-4-2-1 โดยจะมี อัลเบิร์ต เอยูปี้ (9 นัด), อัสตริต เซลย์มานี่ (6 นัด / 4 ประตู) เเละ ตาชรีก เเมตธิวส์ (7 นัด / 1 ประตู) ประสานงานกันในแดนบน

      ปีเตอร์ คลามอฟสกี้ นายใหญ่ของ ชิมิสุ เอส-พัลส์ เหลืออยู่เพียงเเค่ ฮิเดกิ อิชิเงะ (1 นัด) มิดฟิลด์วัย 25 ปี ที่เป็นเเข้งเดี้ยงค้างสต็อก เชื่อว่า คลามอฟสกี้ จะวางหมากมาในระบบ 4-2-3-1 โดยจะมี เอลซินโญ่ (4 นัด), วัลโด้ (6 นัด / 1 ประตู), เรนาโต้ (3 นัด) และ คาร์ลินญอส (6 นัด / 2 ประตู) ลงตัวจริง

      ทาเคชิ โอซึกิ เฮดโค้ชของ อุราวะ เร้ด ไดมอนด์ส ไม่มีรายงานเรื่องนักเตะเจ็บหรือติดโทษเเบนสักราย นั่นหมายความว่า โอซึกิ สามารถจัดทัพชุดที่ดีที่สุดลงบู๊ได้ และน่าจะเป็นชุดเดียวกับที่บุกชนะ โยโกฮาม่า เอฟซี 2-0 ในเกมวันก่อน เนื่องจากลูกทีมเล่นกันได้ตามเเท็คติกที่วางไว้ดีอยู่เเล้ว

      อันเก้ ปอสเตโคกลู กุนซือของ โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส มีลิสต์ลูกทีมเจ็บในมืออยู่ 3 คน คือ ปาร์ค อิล กยู (1 นัด), ยูกิ ซาเนโตะ (1 นัด) เเละ มาร์คอส จูเนียร์ (6 นัด / 4 ประตู) ส่วนในรายของ เทรุฮิโตะ นาคางาว่า (6 นัด) กับ เอริค (5 นัด) ต้องรอทดสอบความฟิตกันก่อน ว่าใครพร้อมลงสนามได้ทันบ้าง

      ทาคาชิ คิยามะ นายใหญ่ของ เวลกัลตะ เซนได จะไร้เงาของ ไอเเซ็ค กูเอนก้า เเละ ซิเมา มาเต้ (1 นัด /1 ประตู) ที่ต้องขึ้นเขียงผ่าเข่าทั้งคู่ เชื่อว่า คิยามะ จะเลือกจัดทัพในระบบ 4-1-4-1 โดยจะวาง เคอิยะ ชิอิฮาชิ (6 นัด / 1 ประตู) เป็นตัวตัดเกม เเละให้ ชูเฮ อาคาซากิ (5 นัด) ยืนค้ำเป็นกองหน้าตัวเป้า

      สตีฟ คอริก้า เทรนเนอร์ของ ซิดนี่ย์ เอฟซี ยังไม่มีชื่อของ เบน วอร์ลันด์ ที่ยังสลัดคราบเดี้ยงไม่ได้ ส่วนในรายของ ไรห์อัน แกร้นท์ (19 นัด / 1 ประตู) แบ็คขวาตัวเก่ง ต้องรอเช็คความฟิตก่อน แต่ในแนวรุกยังอยู่กันครบ ไม่ว่าจะเป็น คอสต้า บาร์บารูเซส (22 นัด / 8 ประตู) เเละ อดัม เล ฟอนเดร้ (22 นัด / 18 ประตู)

      เอริค มอมบาแอร์ตส์ กุนซือของ เมลเบิร์น ซิตี้ ไม่มีรายงานความเสียหายใดๆ เรื่องสภาพทีมเข้ามา ทำให้สามารถจัดทีมชุดใหญ่ลงสนามลุยได้เลย คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง จะนำทีมมาโดย แฮร์ริสัน เดลบริดจ์ (19 นัด / 1 ประตู), อาเดรียน ลูน่า (20 นัด / 4 ประตู) เเละ เจมี่ เเม็คลาเรน (20 นัด / 18 ประตู)

      เออร์ลิ่ง โม กุนซือของ โมลด์ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน คริสตอฟเฟอร์ ฮารัลด์เซอิด และ มาธิส โบลลี่ ที่ต้องเข้าออกโรงหมออยู่ เชื่อว่า โม จะก็อปปี้ 11 ขุนจากเกมที่เปิดบ้านชนะ วาเลเรนก้า 4-1 มาลงสนามแบบต่อเนื่อง เพราะลูกทีมทุกคนทำหน้าที่กันได้ดีเเล้ว โดยเฉพาะ โอฮิ โอมอยยูอันโฟ (9 นัด / 4 ประตู)

      มาร์ตี้ กิฟูเอนเตส เฮดโค้ชของ ซานเดฟอร์ด จะไร้เงาของ สเตฟาน มลาเดโนวิช (2 นัด) กับ เซ เอดูอาร์โด้ (4 นัด / 1 ประตู) ที่ยังเจ็บเข่า คาดว่า กิฟูเอนเตส จะจัดทัพในระบบ 4-2-3-1 โดยจะวาง วิลเลี่ยม คูร์โตวิช (11 นัด) เป็นหน้าต่ำ เเละปล่อยให้ ซิเวิร์ต กุสซิอาส (11 นัด / 2 ประตู) ยืนเป็นหน้าเป้า

      อันเดรียส อาล์ม นายใหญ่ของ ฮัคเค่น จะไม่มีชื่อของ เควิน ยาค็อบ (1 นัด) ที่ต้องพักรักษาตัวอยู่ ส่วนในรายของ อเล็กซานเดอร์ โซเดอร์ลุนด์ (5 นัด / 3 ประตู) ต้องทดสอบฟิตหน้างาน แต่ที่ลงสนามไม่ได้แน่ๆ คือ อเล็กซานเดอร์ ฟาลต์เซตาส (7 นัด) กองกลางประสบการณ์สูง เนื่องจากติดโทษห้ามเเข่ง

      คิม เบิร์กสตรานด์ เทรนเนอร์ของ เยอร์การ์เด้น มีรายงานตัวเจ็บเข้ามา 3 ราย ได้แก่ นิคลาส บาร์คร็อธ (3 นัด), อเล็กซานเดอร์ อับราฮัมส์สัน เเละ อัสตริต อาย์ดาเรวิช (4 นัด) ส่วนในรายของ เอ็ดเวิร์ด ชิลุฟยา (4 นัด) แนวรุกชาวเเซมเบีย ต้องรอเช็คความฟิตกันก่อน ว่าพร้อมมีส่วนร่วมได้หรือไม่

      ฮานส์ เอ็คลุนด์ กุนซือของ ฟัลเคนเบิร์ก ยังมีลิสต์ลูกทีมเดี้ยงแก๊งเดิม ได้แก่ กวาเม่ คิซิโต้ (1 นัด), ทิม เออร์ลันด์สสัน และ มาห์มุ๊ต โอเซ่น ส่วนในรายของ โทเบียส คาร์ลส์สัน (8 นัด / 1 ประตู) ต้องรอเช็คความฟิตกันก่อน แต่ที่อดลงสนามอย่างเเน่นอนคือ คาร์ล โยฮันส์สัน (11 นัด / 1 ประตู) เพราะจะติดโทษแบน

      อาเซล คาลล์ เฮดโค้ชของ โอเรโบร เตรียมขนชุดที่ดีที่สุดลงบู๊ได้เลย เพราะสภาพความพร้อมของตัวหลักสมบูรณ์ดี 100% เชื่อว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง จะประกอบไปด้วย อันเดรียส สคอฟการ์ด (9 นัด), เดนนิส คอลลันเดอร์ (6 นัด), นอร์ดิน เกอร์ซิช (1 นัด) เเละ เอริค บียอร์นดาห์ล (10 นัด / 2 ประตู)

      อูฟุค ตาลาย กุนซือของ เวลลิงตัน ฟีนิกซ์ ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน ทิม เพย์น (16 นัด) กับ โอลิเวอร์ เซล เหมือนอย่างเดิม เนื่องจากยังติดโทษแบนอยู่ เชื่อว่า ตาลาย จะเลือกวางหมากมาในระบบ 4-4-2 เหมือนเก่า โดยจะมี แกรี่ ฮูเปอร์ (19 นัด / 7 ประตู) เเละ โจชัว โซติริโอ (21 นัด / 4 ประตู) ลงล่าตาข่ายคู่กัน

      ฌอง มาริกนี่ย์ เทรนเนอร์ของ เวสเทิร์น ซิดนี่ย์ วันเดอเรอร์ส จะไร้เงาของ เวดราน ยานเยโตวิช กับ ดาเนี่ยล โลปาร์ (20 นัด) สองนายด่านจอมเก๋าที่กอดคอกันเดี้ยง คาดว่า มาริกนี่ย์ จะเรียกตัว ตริสตาน เปรนเดอร์กาสต์ (1 นัด) ผู้รักษาประตูวัย 25 ปี มาลงเฝ้าเสาแบบต่อเนื่อง เพราะนัดก่อนฟอร์มโอเคอยู่

      เชราร์โด้ เซโออาเน่ เฮดโค้ชของ ยัง บอยส์ มีตัวเดี้ยงมากมาย ไล่มาตั้งเเต่ ชิลโลเม่ โออาโร (17 นัด / 2 ประตู), ลินุส โอเบเซอร์, ดาวิด ฟอน บัลล์มูส (33 นัด), เฟรเดริค โซเรนเซ่น (15 นัด), เอสเตบาน เปติกนาต์ (3 นัด), ซานโดร โลเเปร์, อูลิสเซส การ์เซีย (24 นัด / 1 ประตู) เเละ เฟลิกซ์ มัมบิมบี้ (16 นัด / 1 ประตู)

      เปาโล ตราเมซซานี่ นายใหญ่ของ ซิยง มีรายงานลูกทีมบาดเจ็บเข้ามา 4 ราย ได้แก่ ราฟาเอล รอสซี่, มัตเตียส อันเดอร์สสัน (3 นัด), ดิมิตรี่ กาวาเร่ (3 นัด) เเละ พาทริค (18 นัด / 2 ประตู) แต่ยังจะพอมีข่าวดีอยู่บ้างในแดนบน เมื่อ โรเบิร์ตส์ อุลดริคิส (22 นัด / 3 ประตู) ศูนย์หน้าตัวเก่งชาวลัตเวีย ฟิตเต็มสูบพร้อมลุยแน่นอน

      หลี่ เสี่ยวเป็ง กุนซือของ ชานตง ลู่เหนิง จะขาดหายไปเพียงเเค่ หวัง ต้าเล่ย ผู้รักษาประตูตัวเก๋าคนเดียวเท่านั้น ส่วนคนอื่นๆ พร้อมรับใช้ต้นสังกัดกันทุกคน เชื่อว่า เสี่ยวเป็ง จะวางหมากมาในระบบ 4-5-1 โดยจะมี มารูยาน เฟลไลนี่ (1 นัด / 3 ประตู) ที่ระเบิด "แฮตทริค" ได้ในเกมก่อน เป็นตัวทีเด็ด

      คอสมิน โอลารอยอู เทรนเนอร์ของ เจียงซู ซูหนิง จะไร้เงาของ หยาง เส้าเตี๋ยน ที่ยังเจ็บไม่หาย แต่กำลังรบที่เหลือพร้อมลุยกันอยู่นานเเล้ว คาดว่า โอลารอยอู จะเลือกก็อปปี้ 11 ขุนพล มาจากเกมที่ชนะ เหอหนาน เจี้ยนเย่ 4-3 เนื่องจากลูกทีมทำหน้าที่กันได้ดีเยี่ยม โดยเฉพาะ อีวาน ซานตินี่ (1 นัด / 1 ประตู)

      หยาง ฉี ผู้จัดการทีมของ เหอหนาน เจี้ยนเย่ จะไม่มีชื่อของ เเฟร์นานโด คารันก้า หัวหอกแดนเเซมบ้า ที่ต้องพักรักษาตัว แต่กำลังรบที่เหลือฟิตเต็มสูบกันทั้งหมด เชื่อว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง จะประกอบไปด้วย หาน ฉวน (1 นัด), อีโว (1 นัด), โชว์ ติม (1 นัด) เเละ เฮนริเก้ ดูราโด้ (1 นัด / 2 ประตู)

      ราฟาเอล เบนิเตซ เฮดโค้ชของ ต้าเหลียน โปร ต้องรอเช็คความฟิตของ เอมมานูเอล บัวเต็ง แนวรุกชาวกาน่า ว่าพร้อมมีส่วนร่วมได้หรือไม่ คาดว่า "เอล ราฟา" จะจัด "อาวุธหนัก" ลงกันครบครัน ไม่ว่าจะเป็น มาเร็ค ฮัมซิค (1 นัด), แซม ลาร์สสัน (1 นัด) รวมไปถึง ซาโลมอน รอนดอน (1 นัด / 1 ประตู)

      โทนี่ โปโปวิช นายใหญ่ของ เพิร์ธ กลอรี่ จะไร้เงาของ คริส อิโคโนมิดิส (12 นัด / 3 ประตู) กับ ดีเอโก้ กาสโตร (18 นัด / 4 ประตู) ที่ยังคงเดี้ยงอยู่ คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง จะประกอบไปด้วย ฆวนเด้ (15 นัด), นีล คิลเคนนี่ (22 นัด / 2 ประตู) เเละ บรูโน่ ฟอร์นาโรลี่ (22 นัด / 12 ประตู)

      โธมัส วาร์ต เฮดโค้ชของ อเดไลด์ ยูไนเต็ด ยังมีรายชื่อนักเตะบาดเจ็บแก๊งเดิมอย่าง อัลฮาสซาน ตูเร่ (10 นัด / 2 ประตู), นิโคล่า มิเลอุสนิช (22 นัด / 5 ประตู), นาธาน คอนสแตนโดปูลอส (9 นัด / 1 ประตู), เจมส์ ทรอยซี่ (13 นัด / 1 ประตู) และ คูซินี่ เยงกี้ (3 นัด) จึงน่าจะไม่มีการปรับทัพมากนัก

      ปีเตอร์ เวอร์เมส เทรนเนอร์ของ สปอร์ติ้ง แคนซัส ซิตี้ เตรียมขน 11 ขุนพลชุดที่ดีที่สุดลงบู๊เช่นกัน เพราะลูกทีมทุกคนฟิตเต็มสูบกันทั้งหมด เชื่อว่า เวอร์เมส จะเลือกก็อปปี้ตัวจริงมาจากเกมที่เสมอ แวนคูเวอร์ ไวท์แค็ปส์ 0-0 แล้วชนะจุดโทษ เนื่องจากนักเตะทำหน้าที่ของตัวเองได้เยี่ยมเเล้ว

      จิม เคอร์ติน กุนซือของ ฟิลาเดลเฟีย ยูเนี่ยน ไม่มีรายงานความเสียหายเรื่องตัวหลักเข้ามาสักราย นั่นหมายความว่า สภาพทีมสมบูรณ์ดี 100% คาดว่า เคอร์ติน จะจัดทัพสู้ศึกในระบบ 4-3-1-2 ดังเดิม โดยจะมี เบรนเดน อารอนสัน (6 นัด / 1 ประตู) รับหน้าที่เป็น "จอมทัพ" คอยสร้างสรรค์เกม

      สเตฟาโน่ ปิโอลี่ นายใหญ่ของ มิลาน มีลิสต์ตัวเจ็บอยู่ 5 คน คือ อเลสซิโอ้ โรมาโญลี่ (35 นัด / 1 ประตู), อันเดรีย คอนติ (23 นัด), มาเตโอ มูซัคคิโอ้ (18 นัด), เลโอ ดูอาร์เต้ (5 นัด) เเละ ซามู กาสตีเยโฆ (19 นัด / 1 ประตู) แต่ยังดีที่ ธีโอ แอร์กน็องเดซ (31 นัด / 6 ประตู) กับ อิสมาอิล เบนนาเซอร์ (29 นัด / 1 ประตู) กลับมาจากโทษแบนเเล้ว

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
มิลาน (4-2-3-1) : จานลุยจิ ดอนนารุมม่า - ดาวิเด้ คาลาเบรีย, ไซม่อน เคียร์, มัตเตโอ กับเบีย, ธีโอ แอร์กน็องเดซ - ฟร้องค์ เคสซี่, อิสมาอิล เบนนาเซอร์ - อเล็กซิส แซเลแมเกอร์ส, ฮาคาน ชัลฮาโนกลู, อันเต เรบิช - ซลาตัน อิบราฮิมโมวิช

      เคลาดิโอ รานิเอรี่ ผู้จัดการทีมของ ซามพ์โดเรีย จะไร้เงาของ เฟลิเซ่ ดิอามิโก้ (2 นัด) กับ อัลบิน เอ็คดัล (32 นัด) ที่ควงเเขนกันบาดเจ็บ ส่วนในรายของ มอร์เตน ธอร์สบี้ (23 นัด / 1 ประตู) กองกลางชาวนอร์เวย์ จะติดโทษห้ามเเข่ง เนื่องจากโดนไล่ออกมาจากเกมที่บุกแพ้ ยูเวนตุส 0-2 นั่นทำให้ รานิเอรี่ ต้องคิดแก้ปัญหาในทันที

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ซามพ์โดเรีย (4-4-2) : เอมิล อูเดโร่ - โลเรนโซ่ โตเนลลี่, มายะ โยชิดะ, โอมาร์ คอลลี่, ตอมมาสโซ่ ออเจลโล่ - ฟาบิโอ เดเปาลี่, คารอล ลิเน็ตตี้, กาสตอน รามิเรซ, ยาคุบ ยังค์โต้ - ฟาบิโอ กวายาเรลล่า, มานูเอล กับเบียดินี่

      ลุยจิ ดิ เบียโจ้ กุนซือของ สปัล มีรายงานนักเตะบาดเจ็บเข้ามาหลายคน รวมถึงตัวสำคัญๆ อย่าง เอทริต เบริช่า (26 นัด), อัลแบร์โต้ แชร์รี่ (8 นัด / 1 ประตู) เเละ จาโคโป ซาล่า (16 นัด) คาดว่า ดิ เบียโจ้ จะจัดทัพมาในระบบ 3-5-2 โดยจะมี อันเดรีย เพตานญ่า (35 นัด / 12 ประตู) คอยล่าตาข่าย

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
สปัล (3-5-2) : เดมบา เธียม - ธิอาโก้ ซิโอเน็ค, บาร์ตอสซ์ ซาลามอน, ฟรานเชสโก้ วิคารี่ - เอสเปโต้ สเตรเฟซซ่า, อเลสซานโดร มูร์จา, ซิโมเน่ มิสซิโรลี่, ไบรอัน ดาโบ, โมอาเหม็ด ฟาเรส - มาร์โก ดาเลสซานโดร, อันเดรีย เพตานญ่า

      อีวาน ยูริช เฮดโค้ชของ เวโรน่า จะไม่มีชื่อของ จามเปาโล ปาซซินี่ (13 นัด / 4 ประตู), โคล้ด อัดจาปอง (5 นัด) เเละ พาเวล ดาวิโดวิคซ์ (15 นัด / 1 ประตู) ที่ควงเเขนกันเดี้ยง ส่วนในรายของ มาราช คุมบูลล่า (25 นัด / 1 ประตู) จะไม่มีส่วนร่วมในเกมนี้ เพราะมีข่าวที่จะย้ายทีมในซีซั่นหน้า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เวโรน่า (3-4-2-1) : มาร์โก ซิลเวสตรี้ - อามีร์ ราห์มานี่, โคราย กุนเตอร์, อลัน เอมเพเรอูร์ - ดาวิเด้ ฟาราโอนี่, โซฟิยาน อัมราบัต, มิเกล เวโลโซ, ดาร์โก ลาโซวิช - ฟาบิโอ บอรินี่, มัตเตโอ เปสซิน่า - เอ็ดดี้ ซัลเชโด

      ฟาบิโอ ลิเวรานี่ เฮดโค้ชของ เลชเช่ จะไม่มีชื่อของ ลูก้า รอสเซ็ตตินี่ (26 นัด) กับ อเลสซานโดร เดอิโอล่า (10 นัด / 1 ประตู) ที่กอดคอกันเดี้ยง ส่วนในรายของ อันเดรีย ริสโปลี่ (28 นัด) แนวรับคนสำคัญ จะติดโทษแบน แต่ในเเนวรุกยังมี จานลูก้า ลาปาดูล่า (23 นัด / 9 ประตู) เป็นตัวทีเด็ดอย่างเดิม

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เลชเช่ (4-3-2-1) : กาเบรียล - จุยลิโอ้ โดนาติ, ฟาบิโอ ลูซิโอนี่, เบียโจ้ เมชชาริเอลโล่, มาร์โก กัลเดโรนี่ - ซาน มาเยอร์, ยาโคโป เปทริซซิโอเน่, อันโตนิน บารัค - ฟิลิปโป้ ฟัลโก้, มาร์โก มันโคซู - จานลูก้า ลาปาดูล่า

      ลูก้า ก็อตติ กุนซือของ อูดิเนเซ่ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน บรัม นุยติ๊งค์ (26 นัด), เซบาสเตียน โพรเดิ้ล, โรลันโด้ มันดราโกร่า (26 นัด) เเละ มาโต้ ยายาโล่ (26 นัด) ที่ต้องเข้าออกโรงพยาบาลอยู่ ส่วนในรายของ เยนส์ ลาร์เซ่น (32 นัด / 1 ประตู) ปราการหลังชาวเดนมาร์ก จะติดโทษห้ามเเข่งในเกมวันนี้

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
อูดิเนเซ่ (3-5-2) : ฮวน มุสโซ่ - เบเคา, เซบาสเตียน เดมาโย่, ซาเมียร์ - ฮิดเด้ เตอร์ อาเวสต์, โรดริโก้ เด ปอล, วาเลซ, เซโก้ โฟฟาน่า, เคน เซม่า - เควิน ลาซานญ่า, อิลิย่า เนสโตรอฟสกี้

      วอร์เรน มูน เฮดโค้ชของ บริสเบน รอร์ จะขาดหายไปเพียงเเค่ เจค แม็กกิง (8 นัด) มิดฟิลด์วัย 26 ปี ที่ยังเจ็บไม่หาย แต่ขุมกำลังคนอื่นๆ ฟิตเต็มสูบกันทั้งหมด เชื่อว่า ทอม อัลเดร็ด (22 นัด / 1 ประตู), แบร็ดเด้น อินแมน (22 นัด / 4 ประตู) เเละ สกอตต์ แม็กโดนัลด์ (10 นัด / 4 ประตู) จะออกสตาร์ท

      แกร้นท์ เบร็บเนอร์ กุนซือของ เมลเบิร์น วิคตอรี่ ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน ร็อบบี้ ครูส (11 นัด / 2 ประตู) หัวหอกจอมเก๋า ที่ยังสลัดอาการเดี้ยงไม่ได้ แต่กำลังรบที่เหลือพร้อมลุยกันอยู่นานเเล้ว คาดว่า เบร็บเนอร์ จะยังมั่นใจในตัวของ แอนดรูว์ นับบูต (19 นัด / 5 ประตู) ให้ลงผลิตสกอร์เหมือนอย่างเดิม

      โยฮันเนส ฮาร์ดาร์สัน ผู้จัดการทีมของ สตาร์ต เหลืออยู่เพียงเเค่ ดาเมี่ยน เลิฟ ที่เป็นเเข้งเดี้ยงค้างสต็อก แต่กำลังรบที่เหลือพร้อมลุยเพื่อต้นสังกัดกันทั้งหมด เชื่อว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง จะประกอบไปด้วย เยสเปอร์ ดาลันด์ (10 นัด / 1 ประตู) และ มาเธียส บรินกาเคอร์ (10 นัด / 3 ประตู)

      ลาร์ส โบฮิเน่น นายใหญ่ของ อาเลซุนด์ มีลิสต์นักเตะเจ็บอยู่ 3 ราย ได้แก่ เฟรดิค คาร์ลเซ่น (3 นัด), จอร์ดอน มัตช์ เเละ ตอร์บียอร์น อั๊กเดสไตน์ ส่วนในรายของ ดาวิด โอลาฟส์สัน (10 นัด) ปีกซ้ายตัวเก่ง จะติดโทษห้ามเเข่ง เนื่องจากโดนไล่ออกมาจากเกมที่บุกเเพ้ อ็อดด์ฯ 2-3 ในเกมลีกนัดก่อน

      อาเดรียน ฮีธ ผู้จัดการทีมของ มินเนโซต้า ยูไนเต็ด เหลืออยู่เพียงเเค่ อิเก้ โอปาร่า ปราการหลังวัย 31 ปี คนเดียวเท่านั้น ที่เป็นเเข้งเดี้ยงค้างสต็อก แต่กำลังรบที่เหลือพร้อมลุยกันอยู่นานเเล้ว คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง จะนำทีมมาโดย เควิน โมลิโน่ (4 นัด / 3 ประตู) มิดฟิลด์ชาวตรินิแดดฯ

      คาเล็บ พอร์เตอร์ นายใหญ่ของ โคลัมบัส ครูว์ จะไร้เงาของ วิโต้ วอร์มกูร์ (2 นัด) แนวรับชาวฮอลเเลนด์ ที่ยังเจ็บไม่หาย ส่วนในรายของ เอลอย รูม (4 นัด) กับ ยูเนสส์ ม็อคห์ตาร์ (5 นัด / 2 ประตู) ต้องรอทดสอบฟิต แต่สำหรับ จียาซี่ ซาร์เดส (5 นัด / 4 ประตู) ฟิตเต็มสูบ พร้อมลงผลิตสกอร์แน่นอน

      ยาป สตัม เทรนเนอร์ของ เอฟซี ซินซินเนติ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน ไมเคล ฟาน เดอร์ แวร์ฟฟ์ (3 นัด) และ สเปนเซอร์ ริเชย์ (2 นัด) ที่กอดคอกันเดี้ยง ส่วนในรายของ เยอร์เก้น โลคาเดีย (2 นัด / 1 ประตู) แนวรุกแดนกังหันลม ต้องรอเช็คความฟิตกันอีกครั้ง แต่สำหรับ ยูยะ คุโบ (5 นัด / 2 ประตู) ลงสนามชัวร์

      โจบานนี่ ซาบาเรเซ่ ผู้จัดการทีมของ พอร์ทเเลนด์ ทิมเบอร์ส จะขาดหายไปเพียงแค่ ไดรอน อัสปริญ่า (1 นัด) หัวหอกชาวโคลอมเบีย ที่ต้องพักรักษาตัวอยู่ เชื่อว่า ซาบาเรเซ่ จะวาง ดีเอโก้ วาเลรี่ (5 นัด / 3 ประตู) ลงยืนเป็นหน้าต่ำ และให้โอกาสกับ เจเรมี่ อีโบบิสเซ่ (5 นัด / 3 ประตู) ยืนเป็นหน้าเป้า

      คริส ไวล์เดอร์ เทรนเนอร์ของ เชฟฯ ยูฯ จะขาดหายไปเพียงเเค่ ลุค ฟรีแมน (11 นัด) มิดฟิลด์วัย 28 ปี ซึ่งเป็นเเข้งเดี้ยงค้างสต็อก เชื่อว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง จะนำทีมมาโดย "สองแม็ค" อย่าง โอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่ (35 นัด / 6 ประตู) เเละ เดวิด แม็คโกลดริค (28 นัด / 2 ประตู) ในแนวรุก

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เชฟฯ ยูฯ (3-5-2) : ดีน เฮนเดอร์สัน - คริส บาแชม, จอห์น อีแกน, แจ็ค โอคอนเนลล์ - จอร์จ บัลด็อค, จอห์น เฟล็ค, โอลิเวอร์ นอร์วู้ด, ซานเดอร์ แบร์เก้, เอ็นด้า สตีเว่นส์ - โอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่, เดวิด แม็คโกลดริค

      ราล์ฟ ฮาเซ่นฮุตเติ่ล เฮดโค้ชของ เซาท์แฮมป์ตัน จะไร้เงาของ โซฟียาน บูฟาล (20 นัด) กับ มุสซ่า เฌเนโป (18 นัด / 2 ประตู) สองกองกลางของทีมที่กอดคอกันบาดเจ็บ คาดว่า ฮาเซ่นฮุตเติ่ล จะเลือกวาง แดนนี่ อิงส์ (37 นัด / 21 ประตู) เเละ เชน ลอง (25 นัด / 2 ประตู) ยืนเป็นคู่กองหน้า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เซาธ์แฮมป์ตัน (4-4-2) : อเล็กซ์ แม็กคาร์ธี่ - ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส, แยน เบดนาเร็ค, แจ็ค สตีเฟ่นส์, ไรอัน เบอร์ทรานด์ - สจ๊วต อาร์มสตรอง, เจมส์ วอร์ด-เพราส์, อูรีออล รูเมว, นาธาน เร้ดม่อนด์ - แดนนี่ อิงส์, เชน ลอง

      ดีน สมิธ นายใหญ่ของ แอสตัน วิลล่า มีรายงานลูกทีมเจ็บอยู่ 4 คน คือ ทอม ฮีตัน (20 นัด), บียอร์น เอนเจลส์ (17 นัด / 1 ประตู), อาห์เหม็ด เอล โมฮามาดี้ (18 นัด / 1 ประตู) และ เวสลี่ย์ (21 นัด / 5 ประตู) คาดว่า แจ็ค กรีลิช (35 นัด / 7 ประตู) จะลงป่วนเกมรับของคู่แข่งเหมือนอย่างเดิมแน่นอน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
แอสตัน วิลล่า (4-3-3) : เปเป้ เรน่า - เฟรเดริก กิลเบิร์ต, เอซรี่ คอนซ่า, ไทโรน มิงส์, แม็ตต์ ทาร์เก็ตต์ - จอห์น แม็กกินน์, ดั๊กลาส ลุยซ์, คอเนอร์ ฮูริฮาน - เทรเซเก้ต์, เอ็มบวาน่า ซามัตต้า, แจ็ค กรีลิช

      เดวิด มอยส์ กุนซือของ เวสต์แฮม เหลืออยู่เพียงเเค่ โรเบิร์ต สน็อดกราสส์ (24 นัด / 5 ประตู) ที่ยังสลัดอาการเดี้ยงไม่ได้ เชื่อว่าเกมนี้ มอยส์ จะเลือกจัดทัพในระบบ 4-2-3-1 โดยจะวาง มาร์ค โนเบิ้ล (32 นัด / 4 ประตู) คอยปั้นเกมอยู่หลัง มิชาอิล อันโตนิโอ (23 นัด / 10 ประตู) ที่เป็นหน้าเป้า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เวสต์แฮม (4-2-3-1) : ลูคัส ฟาเบียนสกี้ - เบน จอห์นสัน, อิสซ่า ดิย็อป, อันเจโล่ อ็อกบอนน่า, อารอน เครสส์เวลล์ - ดีแคลน ไรซ์, โทมัส ซูเซ็ค - จาร์ร็อด โบเว่น, มาร์ค โนเบิ้ล, ปาโบล ฟอร์นัลส์ - มิชาอิล อันโตนิโอ

      อันเก้ ปอสเตโคกลู เทรนเนอร์ของ โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ยังไม่มีชื่อของ ยูกิ ซาเนโตะ (1 นัด) เเละ ปาร์ค อิล กยู (1 นัด) ที่ต้องพักรักษาตัวต่อ คาดว่าเกมนี้ ปอสเตโคกลู จะก็อปปี้ 11 ขุนพล มาจากเกมที่เปิดบ้านชนะ โยโกฮาม่า เอฟซี 4-0 เนื่องจากลูกทีมทำหน้าที่กันได้อย่างดีเยี่ยมเเล้ว

      มิไฮโล เปโตรวิช นายใหญ่ของ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร จะหมดสิทธิ์ใช้งาน ชุนตะ อาวากะ กับ มูซาชิ ซูซูกิ (3 นัด / 4 ประตู) ที่โดนโรคเดี้ยงเข้าครอบงำ เชื่อว่า เปโตรวิช จะจัดทัพในระบบ 3-4-3 ตามที่ทีมถนัด โดยจะมี "เมสซี่เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ (6 นัด / 1 ประตู) ลงปั้นเกมทางกราบซ้าย

      โทโมฮิโระ คาตาโนะซากะ เฮดโค้ชของ โออิตะ ตรินิตะ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน คาโอรุ ทาคายาม่า เเละ ยามาโตะ มาชิดะ (2 นัด) ที่กอดคอกันเดี้ยง แต่กำลังรบที่เหลือพร้อมลุยกันอยู่นานเเล้ว เชื่อว่า คาตาโนะซากะ ยังมั่นใจในตัวของ เคอิ ชิเนน (6 นัด) ให้ยืนเป็นกองหน้าต่อเนื่อง

      ปีเตอร์ คลามอฟสกี้ ผู้จัดการทีมของ ชิมิสุ เอส-พัลส์ ยังไร้เงาของ ฮิเดกิ อิชิเงะ (1 นัด) กองกลางวัย 25 ปี ที่ยังบาดเจ็บอยู่เหมือนเก่า คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง จะประกอบไปด้วย เอลซินโญ่ (3 นัด), วัลโด้ (5 นัด), เรนาโต้ (2 นัด) รวมไปถึง ธีรศิลป์ แดงดา (6 นัด / 1 ประตู)

      บิน อุคิชิมะ ผู้จัดการทีมของ โชนัน เบลล์มาเร่ มีลิสต์ลูกทีมบาดเจ็บอยู่ 3 ราย ได้แก่ โก ซาวาดะ, ซึคาสะ อุเมซากิ เเละ ยูกิ โอฮาชิ คาดว่า อุคิชิมะ จะเลือกก็อปปี้ 11 ตัวจริง มาจากเกมที่เปิดบ้านชนะ คาชิม่า แอนต์เลอร์ส 1-0 มาใช้บริการต่อ เพราะทุกคนเข้าใจเเท็คติคที่วางไว้อย่างดีอยู่เเล้ว

      โทรุ โอนิกิ เทรนเนอร์ของ คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ยังไม่มีชื่อของ เคนโงะ นาคามูระ จอมทัพตัวเก๋า ที่ยังสลัดคราบเดี้ยงไม่ได้ ส่วนในรายของ เชเซียล (4 นัด) ปราการหลังชาวบราซิล ต้องรอเช็คความฟิตกันก่อน เเต่ข่าวดีที่มีเข้ามาคือ ยู โคบายาชิ (3 นัด / 4 ประตู) ฟิตเต็มสูบ พร้อมลงผลิตสกอร์

      ซึเนยาสุ มิยาโมโต้ เฮดโค้ชของ กัมบะ โอซาก้า จะไร้เงาของ ฮารุโตะ ชิราอิ, ริคุ มาซึดะ, จุน อิชิโมริ เเละ อี ยุน โอ ที่ควงเเขนกันเดี้ยง เชื่อว่า โฉมหน้าของ 11 ขุนพล จะประกอบไปด้วย คิม ยัง กวอน (6 นัด), ยาสุฮิโตะ เอนโดะ (5 นัด), โยสุเกะ อิเดงูจิ (6 นัด) เเละ ทาคาชิ อูซามิ (6 นัด / 1 ประตู)

      ธอร์สเตน ฟิงค์ กุนซือของ วิสเซล โกเบ ยิ้มสบายใจได้ก่อนเกมเลย เมื่อไม่มีรายงานนักเตะเจ็บหรือติดโทษห้ามเเข่งเข้ามาสักคน คาดว่าเกมนี้ ฟิงค์ จะเลือกจัดทัพในระบบ 3-5-2 ดังเก่า โดยจะมี เซร์กี้ ซัมเปร์ (5 นัด) เเละ อันเดรส อิเนียสต้า (5 นัด) เป็นคอยคุมจังหวะเกมในแดนกลางอย่างเดิม