วิเคราะห์บอล / วิเคราะห์บอลวันนี้

      ดาเนี่ยล ฟาร์เก้ นายใหญ่ของ นอริช ยังมีรายชื่อลูกทีมเดี้ยงแก๊งเดิมคือ แซม บายแรม (17 นัด), แกรนต์ แฮนลี่ย์ (15 นัด), คริสตอฟ ซิมเมอร์มันน์ (15 นัด) เเละ มอริตซ์ ไลต์เนอร์ (9 นัด) เชื่อว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง จะนำทีมมาโดย ตีมู ปุ๊กกี้ (34 นัด / 11 ประตู) หัวหอกตัวเก่งทีมชาติฟินแลนด์

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
นอริช (4-2-3-1) : ทิม ครูล - แม็กซิมิเลี่ยน อารอนส์, ทิมม์ โคลเซ่, เบ็น ก็อดเฟรย์, จามาล ลูอิส - เคนนี่ แม็กลีน, อเล็กซานเดอร์ เต็ตเตย์ - โอเนล เฮอร์นานเดซ, ท็อดด์ แคนต์เวลล์, เอมิเลียโน่ บูเอนเดีย - ตีมู ปุ๊กกี้

      แฟร้งค์ แลมพาร์ด เทรนเนอร์ของ เชลซี จะไม่มีชื่อของ บิลลี่ กิลมัวร์ (6 นัด) ที่ปิดเทอมยาวไปเรียบร้อย ส่วนในรายของ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ (22 นัด / 3 ประตู) กับ ฟิคาโย โทโมริ (15 นัด / 1 ประตู) ต้องรอเช็คความฟิต คาดว่า แลมพาร์ด เตรียมจะโรเตชั่นนักเตะในหลายตำแหน่งจากเกมที่ผ่านมา

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เชลซี (4-3-3) : เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า - รีซ เจมส์, อันเดรียส คริสเตนเซ่น, อันโตนิโอ รูดิเกอร์, เซซ่าร์ อัซปิลิกูเอต้า - เมสัน เม้าต์, มาเตโอ โควาซิช, รอสส์ บาร์คลี่ย์ - วิลเลี่ยน, โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์, คริสเตียน พูลิซิช

      มาร์ค วอร์เบอร์ตัน เทรนเนอร์ของ คิวพีอาร์ ต้องรอเช็คความฟิตของ จอร์แดน ฮูกิลล์ (39 นัด / 13 ประตู) ว่าพร้อมมีส่วนร่วมหรือไม่ เชื่อว่า วอร์เบอร์ตัน จะจัดทัพในระบบ 4-2-3-1 โดยจะวาง อารามิเด้ โอเตห์ (7 นัด) เป็นหน้าต่ำ คอยสนับสนุนหน้าเป้าอย่าง ไบรจ์ โอซายี่-ซามูเอล (35 นัด / 5 ประตู)

      นาธาน โจนส์ นายใหญ่ของ ลูตัน ไม่มีรายงานเรื่องตัวหลักบาดเจ็บหรือติดโทษห้ามเเข่งเข้ามา จึงสามารถจัดทีมได้ตามใจเลย คาดว่าเกมนี้ โจนส์ จะเลือกก็อปปี้ 11 ขุนพล มาจากชุดที่บุกชนะ ฮัดเดอร์สฟิลด์ 2-0 เนื่องจากทุกคนทำหน้าที่ได้ดีแล้ว โดยเฉพาะในรายของ เอลเลียตต์ ลี (8 นัด / 1 ประตู)

      โทนี่ โมว์เบรย์ ผู้จัดการทีมของ แบล็คเบิร์น ต้องรอทดสอบฟิตของ โจ แรนกิ้น-คอสเตลโล่ (8 นัด) แบ็คซ้ายดาวรุ่ง ว่าพร้อมช่วยทีมในเกมนี้หรือไม่ คาดว่า โมว์เบรย์ จะมีการปรับทัพในบางจุด โดยรายชื่ออย่าง โจ ร็อธเวลล์ (33 นัด / 1 ประตู) กับ แซม กัลลาเกอร์ (39 นัด / 4 ประตู) คงได้ออกสตาร์ท

      แกรี่ โรเว็ตต์ เฮดโค้ชของ มิลล์วอลล์ เตรียมขน 11 ขุนพล ชุดที่บุกชนะ ฮัลล์ 1-0 มาใช้บริการต่ออีกนัด เพราะไม่มีรายงานความเสียหายใดๆ เเละลูกทีมก็เล่นกันได้เยี่ยมเเล้ว นั่นหมายความว่า ไรอัน เลโอนาร์ด (15 นัด / 1 ประตู) ผู้ซัดประตูชัยในเกมดังกล่าว จะลงเดินเกมตรงกลางแน่นอน

      แดนนี่ คาวลี่ย์ กุนซือของ ฮัดเดอร์สฟิลด์ จะขาดหายไปเพียงเเค่ ทอมมี่ เอลฟิค (14 นัด) ปราการหลังตัวเก๋า ที่ยังไม่หายเจ็บ แต่ขุมกำลังคนอื่นๆ พร้อมรับใช้ต้นสังกัดกันทั้งหมด เชื่อว่า คาวลี่ย์ จะวางหมากมาในระบบ 4-2-3-1 โดยจะมี ฟรายเซอร์ แคมป์เบลล์ (31 นัด / 3 ประตู) ยืนหน้าเป้า

      แกรี่ มังค์ เทรนเนอร์ของ เชฟฯ เว้นส์ฯ จะไร้เงาของ สตีเว่น เฟล็ตเชอร์ (27 นัด / 13 ประตู) กับ แซม วินนอลล์ (13 นัด / 1 ประตู) สองแนวรุกที่กอดคอกันเดี้ยง คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง จะประกอบไปด้วย มัสซิโม่ ลูออนโก้ (24 นัด / 3 ประตู) เเละ จอช วินดาสส์ (6 นัด / 3 ประตู)

      วาดิม เอฟเซเยฟ เทรนเนอร์ของ อูฟา จะไร้เงาของ จิมมี่ ตาบิดเซ่ (23 นัด / 1 ประตู) เพราะจะติดโทษห้ามเเข่ง ส่วนในรายของ โอลิวิเย่ร์ ธิลล์ ต้องรอทดสอบฟิตกันก่อน คาดว่า เอฟเซเยฟ จะจัดทัพในระบบ 3-5-1-1 โดยจะมี วยาเชสลาฟ โครตอฟ (20 นัด / 3 ประตู) เป็นหน้าต่ำ เเละ ลอฟโร บิซยัค (23 นัด / 2 ประตู) เป็นหน้าเป้า

      มาร์โค นิโคลิช กุนซือของ โลโคโมทีฟ มอสโก จะหมดสิทธิ์ใช้งาน มาเซี๊ยจ รีบุส (17 นัด) เนื่องจากติดโทษเเบน ส่วนในรายของ เจฟเฟร์สัน ฟาร์ฟาน, ลูก้า ดอร์เดวิช (4 นัด), ดิมิทรี่ บารินอฟ (21 นัด / 1 ประตู), กิลแยร์เม่ (23 นัด), อเล็คซานเดอร์ โคโลเมย์ตเซฟ (10 นัด / 1 ประตู) เเละ มิคาห์อิล ไลซอฟ (1 นัด) ต้องเช็คฟิต

      เลโอนิด สลุตสกี้ เฮดโค้ชของ รูบิน คาซาน จะหมดสิทธิ์ใช้บริการของ ซิวิเย่ เบกิช ปราการหลังชาวโครเอเชีย เพราะโดนอาการเจ็บเล่นงาน ส่วนในรายของ วยาเชสลาฟ ป็อดเบเรซกิน (20 นัด) ต้องรอเช็คความฟิตกันก่อน แต่สำหรับ ดาร์โก้ เยฟติช (7 นัด) พร้อมลงปั้นเกมรุกเหมือนนัดที่ผ่านๆ มา

      วิคตอร์ กอนชาเรนโก้ นายใหญ่ของ ซีเอสเคเอ มอสโก จะไม่มีชื่อของ อิลซัต อัคห์เมตอฟ (21 นัด / 2 ประตู) กับ อิลยา ชคูริน (2 นัด) ที่กอดคอกันเดี้ยง ส่วนในรายของ อิกอร์ ดิเวเยฟ (24 นัด) เเละ คิริลล์ นาบับคิน (11 นัด) จะติดโทษห้ามเเข่งในเกมวันนี้ นั่นทำให้ กอนชาเรนโก้ ต้องปรับทัพทันที

      อังเดรย์ ตาลาเลเยฟ กุนซือของ ครีลย่า โซเวตอฟ มีลิสต์ตัวเจ็บอยู่ 3 ราย ได้แก่ มัคซิม คานุนนิคอฟ (15 นัด / 1 ประตู), ตาราส บูร์ลัค (8 นัด / 2 ประตู) เเละ เมห์ดี้ เซฟฟาเน่ (6 นัด) ส่วนในรายของ วลาดีมีร์ โปลูยาคห์ตอฟ (12 นัด), อาร์เต็ม ติโมเฟเยฟ (20 นัด) เเละ นิคิต้า เชอร์นอฟ (22 นัด / 1 ประตู) จะติดโทษห้ามเเข่ง

      คิริลล์ โนวิคอฟ เฮดโค้ชของ ดินาโม มอสโก จะไร้เงาของ ชาร์ลส์ คาโบเร่ (17 นัด) กับ เซอร์เกย์ ปาร์ชิวิลยุค (17 นัด) ที่ยังต้องเข้าออกโรงหมออยู่ ส่วนในรายของ คอนสเเตนติน เร๊าช์ (18 นัด / 1 ประตู) ต้องทดสอบฟิตก่อน ว่าไหวหรือไม่ เเต่ที่อดบู๊แน่นอนคือ โรมัน นอยสตัดเตอร์ (17 นัด) กองหลังตัวเก๋า เนื่องจากโดนแบน

      ซึเนยาสุ มิยาโมโต้ นายใหญ่ของ กัมบะ โอซาก้า มีรายงานตัวเจ็บเข้ามา 3 คน คือ ริคุ มาซึดะ, จุน อิชิโมริ เเละ อี ยุน โอ ส่วนในรายของ เกน โชจิ ปราการหลังตัวสำคัญ ต้องรอเช็คความฟิตกันก่อน เชื่อว่า ทาคาชิ อูซามิ (3 นัด) กับ อาเดมิลสัน (3 นัด / 1 ประตู) จะได้รับโอกาสยืนเป็นกองหน้าคู่กัน

      ปีเตอร์ คลามอฟสกี้ กุนซือของ ชิมิสุ เอส-พัลส์ จะไร้เงาของ เรานาโต้ ออกุสโต้ กับ ฮิเดกิ อิชิเงะ (1 นัด) ที่ควงเเขนกันเข้าโรงพยาบาล แต่กำลังรบที่เหลือพร้อมลุยกันอยู่นานเเล้ว คาดว่า คลามอฟสกี้ จะวางหมากมาในระบบ 4-3-3 โดยจะมี ธีรศิลป์ แดงดา (3 นัด / 1 ประตู) ลงล่าตาข่ายให้กับทีม

      มิไฮโล เปโตรวิช เฮดโค้ชของ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร จะขาดหายไปเพียงเเค่ ชุนตะ อาวากะ ผู้รักษาประตูวัย 25 ปี ที่ยังสลัดอาการเดี้ยงไม่ได้ ส่วนในรายของ มูซาชิ ซูซูกิ (3 นัด / 4 ประตู) กองหน้าที่กำลังฮ็อต ต้องรอเช็คความฟิตกันอีกครั้ง แต่สำหรับ ชนาธิป สรงกระสินธ์ (3 นัด) ลงเล่นชัวร์

      บิน อุคิชิมะ เทรนเนอร์ของ โชนัน เบลล์มาเร่ ยังมีนักเตะเดี้ยงแก๊งเดิมอย่าง โก ซาวาดะ, ซึคาสะ อุเมซากิ, ยูกิ โอฮาชิ เเละ ฮิโรโตะ นาคางาว่า (1 นัด) เชื่อว่าเกมนี้ โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง จะประกอบไปด้วย เคซุเกะ ซากะ (3 นัด), ไดกิ คาเนโกะ (1 นัด) รวมไปถึง ตาริค เอลยูนุสซี่ (3 นัด)

      เคนตะ ฮาเซงาวะ ผู้จัดการทีมของ เอฟซี โตเกียว มีลิสต์ลูกทีมเจ็บในมืออยู่ 3 ราย ได้แก่ ทาคุยะ อุชิดะ, เคนซุเกะ นางาอิ เเละ คิวาระ มิยาซากิ ส่วนในรายของ เคนโตะ ฮาชิโมโตะ (2 นัด) เตรียมย้ายไปเล่นกับ รอสตอฟ ในรัสเซีย แต่สำหรับ ดิเอโก้ โอลิเวียร่า (3 นัด / 1 ประตู) พร้อมลงผลิตสกอร์

      อันเก้ ปอสเตโคกลู นายใหญ่ของ โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน ปาร์ค อิล กยู (1 นัด) เพราะยังไม่หายเจ็บ ส่วนในรายของ ยูกิ ซาเนโตะ (1 นัด) กับ เคน มาซึบาระ (1 นัด) ต้องทดสอบความฟิต คาดว่าเกมนี้ ธีราทร บุญมาทัน (3 นัด) แบ็คซ้ายตัวเก่งชาวไทย จะกลับมาเป็นตัวจริง

      เนลซินโญ่ บ๊าปติสต้า ผู้จัดการทีมของ คาชิว่า เรย์โซล ไม่มีรายงานเรื่องนักเตะเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามา จึงสามารถจัดทีมชุดที่ดีที่สุดลงบู๊ได้เลย เชื่อว่า เนลซินโญ่ จะวางหมากมาในระบบ 4-4-2 โดยจะมี มิชาเอล โอลุนก้า (3 นัด / 2 ประตู) กับ ฮิโรโตะ โงยะ (1 นัด / 1 ประตู) ยืนหน้าคู่กัน

      โทรุ โอนิกิ กุนซือของ คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ จะไร้เงาของ เคนโงะ นาคามูระ กับ ยู โคบายาชิ (1 นัด) "สองสตาร์" ของทีม เพราะเจ็บเข่าอยู่ทั้งคู่ คาดว่านัดนี้ โอนิกิ จะเลือกก็อปปี้ 11 ขุนพล มาจากเกมที่บุกชนะ เอฟซี โตเกียว 4-0 เนื่องจากลูกทีมทุกคนทำหน้าที่กันได้อย่างยอดเยี่ยมอยู่เเล้ว

      ธอร์สเตน ฟิงค์ นายใหญ่ของ วิสเซล โกเบ ต้องรอเช็คความฟิตของ โธมัส แฟร์มาเล่น แนวรับชาวเบลเยี่ยม ว่าพร้อมช่วยต้นสังกัดหรือไม่ เชื่อว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง จะประกอบไปด้วย "ตัวต่างชาติ" อย่าง ดังค์เลอร์ (3 นัด), ดักลาส (3 นัด / 1 ประตู), เซร์กี้ ซัมเปร์ (3 นัด) เเละ อันเดรส อิเนียสต้า (3 นัด)

      โทโมฮิโระ คาตาโนะซากะ เทรนเนอร์ของ โออิตะ ตรินิตะ จะขาดหายไปเพียงเเค่ คาโอรุ ทาคายาม่า กองกลางตัวประสบการณ์สูงคนเดียวเท่านั้นที่ยังไม่หายเจ็บ แต่กำลังรบที่เหลือพร้อมลุยกันอยู่นานเเล้ว คาดว่า ยูกิ โคบายาชิ (3 นัด) กับ ยูชิ ฮาเซงาวะ (3 นัด) จะลงคุมเกมตรงกลางคู่กันอย่างเดิม

      ริคาร์โด้ ซัวเรส เฮดโค้ชของ โมไรเรนเซ่ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน ราฟิค ฮัลลิเช่ (6 นัด) กับ สตีเว่น วิตอเรีย (17 นัด / 4 ประตู) ที่กอดคอกันติดโทษห้ามเเข่ง ส่วนในรายของ อเล็กซ์ ซัวเรส (28 นัด) มิดฟิลด์คนสำคัญ ต้องรอทดสอบความฟิต แต่สำหรับ ฟาบิโอ อาเบรอู (30 นัด / 12 ประตู) ลงเล่นชัวร์

      เปตีต์ ผู้จัดการทีมของ เบเลเนนเซส มีลิสต์นักเตะเดี้ยงอยู่ 4 คน คือ โทมัส ริเบโร่ (13 นัด), ฟรานซิสโก้ บาเรล่า (9 นัด), เอดูอาร์โด้ เคา (3 นัด) และ ชิม่า อากัส (15 นัด) ส่วนในรายของ อังเดร โมไรร่า (15 นัด) ผู้รักษาประตูวัย 24 ปี มีปัญหาส่วนตัว ต้องลุ้นว่าจะมีส่วนร่วมในเกมวันนี้ได้หรือไม่

      เซอร์เกย์ เปอร์วูชิน เทรนเนอร์ของ ตัมบอฟ จะไม่มีชื่อของ อเล็คเซย์ กริตซาเอนโก้ (18 นัด / 1 ประตู) ปราการหลังวัย 25 ปี เพราะติดโทษห้ามเเข่ง ส่วนในรายของ มิคาห์อิล คอสต์ยูคอฟ (25 นัด / 6 ประตู) เเละ วลาดีมีร์ โอบูคอห์ฟ (17 นัด / 7 ประตู) ต้องทดสอบความฟิตก่อนเกมเริ่มอีกครั้ง

      เซอร์กี้ ป็อดปาลี่ กุนซือของ อาร์เซน่อล ตูล่า จะไร้เงาของ เจีย จริจาวาล่า (22 นัด / 1 ประตู) ที่ยังเดี้ยง ส่วนในรายของ โรเบิร์ต เบาเออร์ (14 นัด / 1 ประตู) ต้องรอเช็คฟิตกันก่อน แต่สำหรับ คิริลล์ คอมบารอฟ (19 นัด), โกรัน เคาซิช (19 นัด / 2 ประตู) เเละ ดานิยิล เลโซวอย (2 นัด) จะติดโทษเเบน

      เซอร์เก เซมัค ผู้จัดการทีมของ เซนิตฯ จะขาดหายไปเพียงเเค่ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช (25 นัด / 4 ประตู) แนวรับตัวเก๋าชาวเซอร์เบีย ที่มีปัญหาส่วนตัวรบกวน แต่ขุมกำลังที่เหลือพร้อมรับใช้ต้นสังกัดกันทั้งหมด คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง จะนำทีมมาโดย มัลคอม (10 นัด / 4 ประตู) เเละ อาร์เตม ซูบ้า (26 นัด / 16 ประตู)

      อิกอร์ ชาลิมอฟ เฮดโค้ชของ อัคห์มัต กรอซนี่ย์ มีรายงานลูกทีมเจ็บเข้ามา 3 ราย ได้แก่ ริซวาน อุตซิเยฟ (14 นัด), วิลเคร์ อังเกล (19 นัด / 1 ประตู) เเละ เบอร์นาร์ด เบริช่า (19 นัด / 3 ประตู) ส่วนในรายของ มาโกเหม็ด มูซาลอฟ (9 นัด), อันเดรส ปอนเซ่ (19 นัด / 3 ประตู) เเละ โอดิเซ่ โรชิ (24 นัด / 7 ประตู) ต้องทดสอบความฟิต

      โดเมนิโก้ เตเดสโก้ เทรนเนอร์ของ สปาร์ตัค มอสโก จะหมดสิทธิ์ใช้งาน อายาซ กูลิเยฟ (11 นัด) เนื่องจากมีปัญหาส่วนตัว ส่วนในรายของ อเล็กซานเดอร์ เซลิคอห์ฟ ต้องรอเช็คความฟิตก่อน แต่สำหรับ เซลิมคาห์น บาคาเยฟ (25 นัด / 5 ประตู) จะลงเล่นไม่ได้ เพราะโดนแบนในเกมวันนี้

      วลาดิมีร์ เฟโดตอฟ กุนซือของ โซชิ ยังไร้เงาของ เอริค วาร์ดานยาน และ อเล็คเซย์ โปเมอร์โก้ (10 นัด) ที่ยังสลัดอาการเดี้ยงไม่ได้ ส่วนในรายของ อาดิล รามี่ ยังมีปัญหาส่วนตัวอยู่ อีกคนที่อดบู๊อย่างเเน่นอนคือ อันตอน ซาโบล็อตนี่ (21 นัด / 5 ประตู) เนื่องจากติดโทษห้ามเเข่ง

      อาร์ตูร์ ชอร์เก้ นายใหญ่ของ สปอร์ติ้ง บราก้า ยังไม่มีชื่อของ นูโน่ เซกูเอร่า (25 นัด) กับ วิตอร์ ตอร์เมน่า (4 นัด) ที่ต้องเข้าออกโรงพยาบาลต่อ คาดว่า ชอร์เก้ จะก็อปปี้ 11 ขุนพล มาจากเกมที่เปิดบ้านชนะ อาเวส 4-0 เพราะลูกทีมทำหน้าที่กันดีเเล้ว โดยเฉพาะ เปาลินโญ่ (25 นัด / 14 ประตู)

      เปป้า ผู้จัดการทีมของ ปากอสฯ เหลืออยู่เพียงเเค่ ซิเมา เเบร์เตลลี่ (2 นัด) นายด่านชาวบราซิลคนเดียวเท่านั้น ที่ต้องพักรักษาตัวอยู่ ส่วนในรายของ ชอร์เก้ ซิลวา (15 นัด) แบ็คขวาตัวเก่ง จะติดโทษห้ามเเข่ง แต่ข่าวดีคือ ดั๊กลาส ตานเก้ (26 นัด / 10 ประตู) อดีตหัวหอกของ โปลิศ เทโร ฟิตเต็มสูบ

      ชอย ยง ซู กุนซือของ เอฟซี โซล จะขาดหายไปเพียงเเค่ คิม วอน ชุน แนวรับวัย 28 ปี ที่เข้ารับการผ่าตัดหัวเข่า แต่กำลังรบที่เหลือพร้อมลุยกันอยู่นานเเล้ว คาดว่า ยง ซู จะวาง "สองต่างชาติ" อย่าง ออสมาร์ (5 นัด / 1 ประตู) เเละ อิคราม อาลีบาเยฟ (8 นัด) ช่วยกันช่วงชิงจังหวะในแดนกลาง

      โช ดุค แช เฮดโค้ชของ ปูซาน ไอปาร์ค ไม่มีลิสต์ลูกทีมเดี้ยงหรือติดโทษแบนสักคน สภาพความพร้อมของทีมสมบูรณ์ดี 100% คาดว่า ดุค แช จะเรียกใช้บริการของ 11 ตัวจริง จากเกมที่บุกชนะ กังวอน 4-2 แน่ๆ โดยจะมี โรมูโล่ (10 นัด / 4 ประตู) ลงคุมเกมตรงกลางสนามเหมือนอย่างเดิม

      โจวานนี่ สตร็อปปา ผู้จัดการทีมของ โครโตเน่ เตรียมขน 11 ขุนพลชุดที่เปิดบ้านชนะ เบเนเวนโต้ 3-0 ลงสนามต่อเนื่อง เพราะไม่มีรายงานความเสียหายใดๆ เข้ามา แถมลูกทีมยังโชว์ผลงานกันได้แหล่มมากด้วย โดยเฉพาะ ซิมง เอ็นวานโคว (31 นัด / 16 ประตู) หัวหอกชาวไนจีเรีย ที่กด "แฮตทริค"

      โรเเบร์โต้ เวนตูราโต้ เทรนเนอร์ของ ชิตตาเดลล่า สบายใจได้ก่อนเกมเลย เมื่อสภาพความฟิตของตัวหลักทุกคนเต็มสูบกันทั้งหมด จึงสามารถจัดชุดใหญ่ลงบู๊ได้เเน่ คาดว่าเกมนี้ เวนตูราโต้ จะจัดทัพในระบบ 4-3-1-2 โดยจะมี คริสเตียน ดูร์โซ่ (23 นัด / 3 ประตู) ลงเป็น "จอมทัพ" คอยสร้างสรรค์เกม

      วิตอร์ โอลิเวียร่า เทรนเนอร์ของ กิล วิเซนเต้ จะไร้เงาของ เเฟร์นานโด ฟอนเซก้า (19 นัด) กับ อาร์ตูร์ เฮนริเก้ (18 นัด) ที่กอดคอกันบาดเจ็บ ส่วนในรายของ เฮนริเก้ โกเมส (21 นัด / 1 ประตู) ต้องรอทดสอบฟิต แต่ที่อดบู๊แน่นอนคือ ยกอร์ โนกูเอร่า (18 นัด) เเละ ซานโดร ลิม่า (30 นัด / 10 ประตู) เนื่องจากโดนโทษห้ามเเข่ง

      อิโว วิเอร่า เฮดโค้ชของ วิตอเรีย กีมาเรส เหลืออยู่เพียงเเค่ วาเลรี่ บอนดาเรนโก้ (7 นัด) ปราการหลังชาวยูเครนคนเดียวเท่านั้น ที่เป็นเเข้งเดี้ยงค้างสต็อก คาดว่า วิเอร่า จะวางหมากมาในระบบ 4-3-3 โดยจะมี ดาวิดซอน (25 นัด / 5 ประตู), บรูโน่ ดูอาร์เต้ (21 นัด / 7 ประตู) เเละ มาร์คัส เอ็ดเวิร์ดส์ (22 นัด / 6 ประตู) ลงป่วน

      เชา เฮนริเกส ผู้จัดการทีมของ ซานตา คลาร่า จะไม่มีชื่อของ กิลเเยร์เม่ เช็ตไตน์ (15 นัด / 3 ประตู) หัวหอกชาวบราซิล เนื่องจากมีปัญหาส่วนตัว แต่กำลังรบที่เหลือพร้อมลุยอยู่นานเเล้ว คาดว่า ชิโก้ รามอส (26 นัด) จะได้ลงเป็นหน้าต่ำ อยู่หลัง ธิอาโก้ ซานตาน่า (30 นัด / 5 ประตู) ที่เป็นหน้าเป้า

      เอมานูเอล แฟร์โร่ เทรนเนอร์ของ สปอร์ติ้ง ลิสบอน จะไร้เงาของ ลุยซ์ เฟลลีเป้ (16 นัด / 6 ประตู) แนวรุกเเดนกาแฟ ที่ยังสลัดอาการเดี้ยงไม่ได้ ส่วนในรายของ ลูชาโน่ วิเอ็ตโต้ (22 นัด / 4 ประตู) กับ ฟรานซิสโก้ เกรัลเดส (6 นัด) ต้องรอดเช็คความฟิตก่อนเกมอีกครั้ง ว่าใครพร้อมลุยได้บ้าง

      แซร์โจ้ คอนไซเซา เทรนเนอร์ของ ปอร์โต้ จะไร้เงาของ อีบาน มาร์กาโน่ (23 นัด / 5 ประตู) กับ เซ ลุยส์ (18 นัด / 7 ประตู) ที่ควงเเขนกันเข้าออกโรงหมออยู่ คาดว่า คอนไซเซา คงเลือกก็อปปี้ 11 ตัวจริง มาจากเกมที่เปิดบ้านชนะ เบเลเนนเซส 5-0 เนื่องจากลูกทีมทำหน้าที่กันดีเเล้ว

      นัตโช่ กอนซาเลซ เฮดโค้ชของ ตอนเดล่า ไม่มีรายงานเรื่องนักเตะบาดเจ็บหรือติดโทษแบนเข้ามา ทำให้สามารถจัดชุดที่ดีที่สุดลงบู๊ได้เเน่ เชื่อว่า กอนซาเลซ จะวางหมากมาในระบบ 4-4-2 โดยจะมี โรนาน (8 นัด / 4 ประตู) กับ เชา เปโดร (14 นัด / 2 ประตู) ลงเล่นเป็นกองหน้าคู่กัน

      บูเลนต์ คอร์คมาซ เฮดโค้ชของ คอนยาสปอร์ จะไม่มีชื่อของ กิลแยร์เม่ (9 นัด) แนวรับแดนกาแฟ ที่ยังต้องพักรักษาตัวอยู่ ส่วนในรายของ เยนส์ ยอนส์สัน (30 นัด / 1 ประตู) กับ อามีร์ ฮัดซิอาห์เมโตวิช (20 นัด / 1 ประตู) "สองกำลังหลัก" ของทีม จะกอดคอกันติดโทษห้ามเเข่งในเกมวันนี้

      มาริอุส ชูมูดิก้า กุนซือของ กาเซียนเต็ป จะขาดหายไปเพียงเเค่ ซูเลย์มาน ดิอาร์ร่า (24 นัด / 2 ประตู) มิดฟิลด์ชาวมาลี ที่ยังสลัดอาการเดี้ยงไม่ได้คนเดียวเท่านั้น คาดว่า ชูมูดิก้า น่าจะมั่นใจใน 11 ขุนพลชุดที่บุกชนะ เดนิซลิสปอร์ 1-0 ให้ลงสนามกันต่อ เพราะทุกคนโชว์ฟอร์มเเจ่มเเล้ว

      คิริลล์ โนวิคอฟ เทรนเนอร์ของ ดินาโม มอสโก มีลิสต์ลูกทีมเดี้ยงอยู่ 4 คน คือ เซบาสเตียน ซีมานสกี้ (21 นัด / 1 ประตู), ชาร์ลส์ คาโบเร่ (17 นัด), กลินต็อง เอ็นเฌ่ (15 นัด / 1 ประตู) เเละ เซอร์เกย์ ปาร์ชิวิลยุค (17 นัด) เชื่อว่า นิโคลาย คอมลิเชนโก้ (6 นัด / 2 ประตู) จะได้ยืนค้ำเป็นกองหน้าตัวเป้า

      ดมีโตร ปาร์เฟนอฟ ผู้จัดการทีมของ อูราล สบายใจได้ก่อนเกมเลย เพราะสภาพความพร้อมของทีมสมบูรณ์ดี 100% คาดว่านัดนี้ ปาร์เฟนอฟ จะจัดทัพในระบบ 4-1-4-1 โดยจะมี โรมัน เอเมลยานอฟ (11 นัด), เปตรุส บูมาล (13 นัด) เเละ เอริค บิคฟัลวี่ (22 นัด / 7 ประตู) ออกสตาร์ทตัวจริง

      มูรัด มูซาเยฟ ผู้จัดการทีมของ คราสโนดาร์ จะไม่มีชื่อของ อูรอส สปายิช (15 นัด / 1 ประตู), วิคตอร์ คลาเอสสัน เเละ อาริ (18 นัด / 6 ประตู) ที่ยังเจ็บ ส่วนในรายของ ดมิทรี่ สต็อตสกี้ (12 นัด) กับ รุสลาน คัมโบลอฟ (16 นัด) ต้องทดสอบฟิต แต่ที่อดบู๊คือ เซอร์เกย์ เปตรอฟ (24 นัด / 2 ประตู) เเละ มาร์คุส เบิร์ก (19 นัด / 6 ประตู) เนื่องจากโดนแบน

      เลโอนิด สลุตสกี้ กุนซือของ รูบิน คาซาน จะไร้เงาของ วยาเชสลาฟ ป็อดเบเรซกิน (20 นัด) กองกลางวัย 28 ปี เนื่องจากยังเดี้ยงไม่หาย ส่วนในรายของ ฟิลิป อูเรโมวิช (21 นัด) แนวรับชาวโครเอเชีย ต้องรอเช็คความฟิตกันก่อนอีกครั้ง ว่าไหวหรือไม่ แต่ในแนวรุกจะมี ดาร์โก้ เยฟติช (6 นัด) จอมทัพแดนนาฬิกา ลงสร้างสรรค์เกมบุกอย่างเเน่นอน

      โรแบร์โต้ ดาเเวร์ซ่า กุนซือของ ปาร์ม่า ยังไร้เงาของ โรแบร์โต้ อิงเกลเซ่ (11 นัด / 2 ประตู) หัวหอกวัย 28 ปี ที่ยังสลัดคราบเดี้ยงไม่ได้ แต่กำลังรบที่เหลือพร้อมลุยกันอยู่นานเเล้ว คาดว่าเกมนี้ ดาเเวร์ซ่า จะเลือกจัดทัพในระบบ 4-3-3 โดยจะมี แชร์วินโญ่ (24 นัด / 6 ประตู) เป็นตัวทีเด็ดในแดนบน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ปาร์ม่า (4-3-3) : ลุยจิ เซเป้ - มัตเตโอ ดาร์เมี่ยน, ซิโมเน่ ยาโคโปนี่, บรูโน่ อัลเวส, ริคคาร์โด้ กายัลโล่ - ยูราย์ คุชก้า, มัตเตโอ สคอซซาเรลล่า, จัสมิน คูร์ติช - เดยัน คูลูเซฟสกี้, อันเดรียส คอร์เนลิอุส, แชร์วินโญ่

      เปาโล ฟอนเซก้า เฮดโค้ชของ โรม่า ไม่มีรายงานความเสียหายใดๆ เรื่องสภาพทีมเข้ามา เพราะลูกทีมทุกคนฟิตสมบูรณ์ดี 100% เชื่อว่า โฉมหน้าของ 11 ตัวจริง จะประกอบไปด้วย ลอเรนโซ่ เปเยกรินี่ (21 นัด / 1 ประตู), เฮนริคห์ มคีห์ตาร์ยาน (17 นัด / 7 ประตู) เเละ เอดิน เชโก้ (29 นัด / 14 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โรม่า (4-2-3-1) : อันโตนิโอ มิรานเต้ - ดาวิเด้ ซัปปาคอสต้า, คริส สมอลลิ่ง, จานลูก้า มานชินี่, อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ - ไบรอัน คริสตานเต้, จอร์แดน แวเรอตูต์ - การ์เลส เปเรซ, ลอเรนโซ่ เปเยกรินี่, เฮนริคห์ มคีห์ตาร์ยาน - เอดิน เชโก้

      บิน อุคิชิมะ ผู้จัดการทีมของ โชนัน เบลล์มาเร่ มีลิสต์ลูกทีมเดี้ยงอยู่ในมือ 4 ราย ได้แก่ โก ซาวาดะ, ซึคาสะ อุเมซากิ, ยูกิ โอฮาชิ เเละ ฮิโรโตะ นาคางาว่า (1 นัด) คาดว่า อุคิชิมะ จะวางหมากมาในระบบ 3-5-2 ดังเก่า โดยจะให้ ตาริค เอลยูนุสซี่ (2 นัด) หัวหอกชาวนอร์เวย์ ยืนค้ำในแดนบน

      อันเก้ ปอสเตโคกลู กุนซือของ โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส จะหมดสิทธิ์ใช้งาน ปาร์ค อิล กยู (1 นัด) นายด่านหมายเลขหนึ่ง เพราะโดนอาการเจ็บเล่นงาน นั่นทำให้ ยูจิ คาจิคาวะ (1 นัด) จะได้ลงเฝ้าเสาต่อ ส่วนในรายของ ยูกิ ซาเนโตะ (1 นัด) กับ เคน มาซึบาระ (1 นัด) ต้องรอเช็คความฟิตก่อน

      วอลเตอร์ เซงก้า กุนซือของ กายารี่ จะไม่มีชื่อของ เลโอนาร์โด้ ปาโวเลตติ (1 นัด), กัสตอน เปเรโร่ (4 นัด / 1 ประตู) เเละ ลูก้า เซ็ปปิเตลลี่ (12 นัด / 2 ประตู) ที่ควงเเขนกันเดี้ยง ส่วนในรายของ อันเดรีย คาร์โบนี่ (4 นัด) จะติดโทษแบน เนื่องจากโดนใบแดงมาจากเกมที่เปิดบ้านแพ้ อตาลันต้า 0-1

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
กายารี่ (3-5-2) : อเลสซิโอ ครานโญ่ - ฟาบิโอ ปิซาคาเน่, รักนาร์ คลาวาน, ชาราลัมปอส ไลโคจานนิส - เฟเดริโก้ มัตติเอลโล่, นาอิตาน นานเดซ, รัดย่า เนียงโกลัน, มาร์โก ร็อก, ลูก้า เปลเลกรินี่ - เจา เปโดร, โจวานี่ ซิเมโอเน่

      จูเซ็ปเป้ ยาคินี่ เทรนเนอร์ของ ฟิออเรนติน่า จะไร้เงาของ คริสเตียน คูอาเม่ แนวรุกชาวโกตดิวัวร์ เพราะต้องพักรักษาตัวอยู่ ส่วนในรายของ เกร์มัน เปซเซลล่า (27 นัด / 3 ประตู) จะติดโทษห้ามเเข่ง คาดว่า ดูซาน วลาโฮวิช (24 นัด / 6 ประตู) กับ ฟร้องค์ ริเบรี่ (15 นัด / 3 ประตู) จะยืนหน้าคู่กัน

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
ฟิออเรนติน่า (3-5-2) : บาร์โตไมย์ ดรากอฟสกี้ - นิโคล่า มิเลนโควิช, เฟเดริโก้ เช็คเครินี่, มาร์ติน กาเซเรส - เฟเดริโก้ เคียซ่า, บ็อบบี้ ดันเเคน, เอริค ปุลการ์, แกตาโน่ คาสโตรวิลลี่, ดัลแบร์ต - ดูซาน วลาโฮวิช, ฟร้องค์ ริเบรี่

      ดีเอโก้ โลเปซ กุนซือของ เบรสชา ยังหมดสิทธิ์ใช้งาน จอห์น ชานเซเลอร์ (23 นัด / 3 ประตู), อันเดรีย กิสตาน่า (21 นัด / 1 ประตู) เเละ ดิมิทรี บิโซลี่ (25 นัด / 1 ประตู) ที่ยังเจ็บไม่หาย ส่วนในรายของ มาริโอ บาโลเตลลี่ (19 นัด / 5 ประตู) คงไม่ได้โอกาสลงเล่น เนื่องจากยังมีปัญหาส่วนตัว

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เบรสชา (4-3-1-2) : เยสซี่ โยโรเน่น - สเตฟาโน่ ซาเบลลี่, อเล มาเตยู, อันเดรีย ปาเป็ตติ, บรูโน่ มาร์เตลล่า - บีร์เกียร์ บียาร์นาสัน, ซานโดร โตนาลี่, ดานิเอเล่ เดสเซน่า - นิโคลัส ชปาเล็ค - อัลเฟรโด้ ดอนนารุมม่า, เออร์เนสโต้ ตอร์เรสกรอซซ่า

      โมเรโน่ ลอนโก้ นายใหญ่ของ โตริโน่ เหลืออยู่เพียงเเค่ ดานิเอเล่ บาเซลลี่ (16 นัด) ห้องเครื่องวัย 28 ปี ที่เป็นเเข้งเดี้ยงค้างสต็อก ส่วนในรายของ อาร์มันโด้ อิซโซ่ จะติดโทษแบนในเกมนี้ แต่ในแนวรุกจะมี ซิโมเน่ แวร์ดี้ (25 นัด / 1 ประตู) กับ อันเดรีย เบล็อตติ (28 นัด / 13 ประตู) เหมือนเก่า

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
โตริโน่ (3-4-3) : ซัลวาตอเร่ ซิริกู - คอฟฟี่ ฌิฌี้, นิโกลัส เอ็นกูลู, เบรเมอร์ - โลเรนโซ่ เด ซิลเวสตรี้, ซูอาลิโอ เมอิเต้, โทมัส รินคอน, คริสเตียน อันซัลดี้ - ซิโมเน่ แวร์ดี้, อันเดรีย เบล็อตติ, อเล็กซ์ เบเรนกูเอร์

      เจนนาโร่ กัตตูโซ่ เทรนเนอร์ของ นาโปลี ยังมีรายชื่อลูกทีมบาดเจ็บอย่าง ดาบิด ออสปิน่า (13 นัด) กับ เกอแว็ง มัลคุต (3 นัด) ส่วนในรายของ คาลิดู คูลิบาลี่ (19 นัด) เเละ ดิเอโก้ เดมเม่ (9 นัด / 1 ประตู) "สองกำลังสำคัญ" จะกอดคอกันติดโทษห้ามเเข่งในเกมวันนี้ นั่นบังคับให้ กัตตูโซ่ ต้องคิดแก้ปัญหาในทันที

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
นาโปลี (4-3-3) : อเล็กซ์ เมเร็ต - โจวานนี่ ดิ โลเรนโซ่, นิโกล่า มัคซิโมวิค, คอสตาส มาโนลาส, มาริโอ รุย - ฟาเบียน รุยซ์, สตานิสลาฟ โลบ็อตก้า, ปิโอเตอร์ ซีลินสกี้ - โฆเซ่ กาเญฆ่อน, อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค, โลเรนโซ่ อินซิเญ่

      ดาวิเด้ นิโกล่า นายใหญ่ของ เจนัว จะขาดหายไปเพียงเเค่ อีวาน ราโดวาโนวิช (19 นัด) กองกลางชาวเซิร์บ ที่ต้องเข้าออกโรงหมอต่อ แต่ขุมกำลังรายอื่นๆ พร้อมรับใช้ต้นสังกัดกันทั้งหมด คาดว่า โฉมหน้าของ 11 ขุนพล จะนำทีมมาโดย ยาโก้ ฟัลเก้ (4 นัด / 2 ประตู) เเละ อันโตนิโอ ซานาเบรีย (19 นัด / 3 ประตู)

ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
เจนัว (3-5-2) : มัตเตีย เปริน - คริสเตียน โรเมโร่, อดาม่า ซูมาโอโร่, อันเดรีย มาซิเอลโล่ - ดาวิเด้ บิราสคี่, วาลอน เบห์รามี่, ฟรานเชสโก้ คาสซาต้า, สเตฟาโน่ สตูราโร่, อันโตนิโอ บาร์เรก้า - ยาโก้ ฟัลเก้, อันโตนิโอ ซานาเบรีย